ไฮเซ่นส์ (Hisense) บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ประกาศว่า บริษัทฯ ได้ลงนามเป็นสปอนเซอร์ระดับโลกของการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโร 2024™ (UEFA EURO 2024™)
การสนับสนุนครั้งนี้ช่วยขยายความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องของไฮเซ่นส์กับยูฟ่า ยูโร เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ภายหลังจากประสบความสำเร็จในความร่วมมือใน 2 ครั้งล่าสุด รวมถึงฟุตบอลโลก 2022™ (FIFA World Cup 2022™)
นอกจากนี้ ข้อตกลงยังรวมถึงสิทธิ์การเป็นสปอนเซอร์สำหรับการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรเปียน (UEFA European) รอบคัดเลือกฤดูกาล 2023-24 และ 2025-26, รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก (UEFA Nations League) ปี 2025, ยูฟ่า ยู 21 ยูโร 2025 (UEFA U21 EURO 2025), ฟินาลิสซิมา 2024 (Finalissima 2024) และยูฟ่า ฟุตซอล 2026 (UEFA Futsal 2026)
คุณกี-โลรองต์ เอปสตีน (Guy-Laurent Epstein) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของยูฟ่า ชื่นชมการขยายความร่วมมือของไฮเซ่นส์ โดยกล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ไฮเซ่นส์กำลังขยายความร่วมมือในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของยูฟ่า ยูโร 2024™ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในยูโรครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เทคโนโลยีของพวกเขายังคงช่วยยกระดับความสนุกของแฟนบอลและทำให้ฟุตบอลเข้าถึงได้ทั่วโลกมากขึ้น”
การตลาดด้านกีฬายังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเติบโตระดับโลกของไฮเซ่นส์และสร้างการรับรู้แบรนด์ไปทั่วโลก โดยในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แบรนด์ไฮเซ่นส์เป็นที่รู้จักในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
คุณฟิชเชอร์ หยู (Fisher Yu) ประธานบริษัท ไฮเซ่นส์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด (Hisense Group Holdings Co., Ltd.) ได้ประกาศการเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันยูฟ่า ยูโร 2024™ ที่กำลังจะมาถึง โดยกล่าวในการปราศรัยเปิดตัวที่งาน IFA 2023 ว่า การสนับสนุนด้านกีฬาเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมสำหรับไฮเซ่นส์ในการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคทั่วโลกและสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ของเรา เพื่อส่งเสริมการสร้างแบรนด์ในระดับโลกต่อไป ไฮเซ่นส์จะมอบประสบการณ์การรับชมการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโร 2024™ ที่เหนือชั้นให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีคุณภาพภาพที่ล้ำสมัย
ตั้งแต่เลเซอร์ทีวี (Laser TV) ประหยัดพลังงานไปจนถึงโครงการริเริ่มด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อมระดับโลก ไฮเซ่นส์ทุ่มเทให้กับการลงทุนด้านนวัตกรรมและจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไฮเซ่นส์พยายามที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้บริโภคทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหนหรือพูดภาษาอะไร แนวทางนี้ช่วยให้บริษัทฯ เข้าใจได้ดีขึ้นและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้มากขึ้น ยกระดับคุณภาพและประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน
