แนะนำวิธีเล่น Winamp แบบ Bit-perfect ที่ลองแล้วจะทึ่ง!

0

Dawn Nathong

สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ Winamp ฟรีโปรแกรมสำหรับเล่นไฟล์เพลงสุดคลาสสิคจากยุค 90s ตอนนี้ทีมพัฒนาได้ปล่อย เวอร์ชั่น 5.9 RC1 ออกมาให้ดาวน์โหลดกันแล้ว

โดยหลัก ๆ Winamp 5.9 RC 1 นั้นถูกปรับปรุงให้รองรับกับระบบปฎิบัติการ Windows 11 ในส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ ยังคงเหมือนกับเวอร์ชั่น 5.8 ที่เคยมีการปล่อยให้ดาวน์โหลดกันเมื่อ 4 ปีก่อนแทบทุกประการ ผู้ใช้งานยังคงสามารถดาวน์โหลดสกินหรือปลั๊กอิน 3rd Party ต่าง ๆ จากเวปไซต์ได้เช่นเดิม

แน่นอนว่าแม้ฟีเจอร์บางประการของ Winamp จะไม่ได้ถูกอัพเดตให้ทันสมัยเหมือนแอปฟังเพลงยุคนี้ แต่สิ่งที่การันตีได้อย่างหนึ่งว่าในเรื่องของประสพการณ์การใช้งานที่พาคุณย้อนกลับไปในอดีตอันชวนคิดถึงนั้นมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม และปลั๊กอินเสริมต่าง ๆ ที่มีให้ดาวน์โหลดอยู่มากมาย ก็มีปลั๊กอินสำหรับเพลย์แบ็คไฟล์ออดิโอแบบ Bit-perfect ได้ไม่ต่างจากโปรแกรมเล่นเพลงอย่าง Foobar2000 เลย (อ่านวิธีการใช้งานปลั๊กอินได้ในบทความนี้)

ดาวน์โหลด Winamp 5.8

ดาวน์โหลด Winamp 5.9 RC1

หมายเหตุ สำหรับท่านที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 แนะนำให้ลง Winamp 5.8 แทน

โปรแกรมเล่นเพลงก็มีผลต่อเสียง

อยากบอกว่า ความน่าสนใจของ Winamp นอกจากความคลาสสิคแล้วเรื่องของ ‘เสียง’ ก็ไม่ธรรมดา หลังจากลงปลั๊กอินเพื่อเล่นไฟล์แบบ Bit-perfect แล้วผู้เขียนพบว่าน้ำเสียงไม่ได้มีความตรงไปตรงมาเหมือนกับ foobar2000 ซะทีเดียว แต่มันมีความนุ่มนวลและอิ่มหนา ผสมอยู่ด้วย อันนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์ เพราะนี่คือฟรีโปรแกรมที่ไม่ต้องเสียงเงินแม้แต่บาทเดียว หากจะให้วิเคราะห์ ผู้เขียนคิดว่ามาจากเวอร์ชั่นปลั๊กอิน WASAPI output ที่เลือกใช้ และอีกส่วนสำคัญคือตัว audio codec ของ Nullsoft สำหรับ Decoder ไฟล์ฟอร์แม็ตต่าง ๆ เช่น WAV หรือ FLAC ที่ติดตั้งมากับ Winamp นั่นเอง ซึ่งเป็น Codec ที่ไม่มีใช้ในโปรแกรมเล่นเพลงยุคนี้ สรุปรวม ๆ แล้ว ให้อารมณ์เหมือนได้กลับไปฟังเสียงจากซีดีเพลเยอร์ยุค 80s-90s อย่างไรอย่างนั้น

ท่านลองเล่นลองฟังแล้วรู้สึกอย่างไร ต่างหรือไม่ต่าง? เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ


จุดกำเนิดตำนาน Winamp

Winamp เปิดตัวในปี 1997 ผู้ให้กำเนิด ก็คือนาย จัสติน แฟรงเคิล นักเรียนของมหาวิทยาลัย Utha สหรัฐอเมริกา เพื่อใช้งานกับระบบ Windows แบบให้ใช้ฟรี ชื่อของ Winamp เกิดจากคำสองคำก็คือ ‘Win’ ที่มาจาก Windows แล้วก็ A-M-P ย่อมาจาก Advance Multimedia Products ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการอ่านไฟล์ MP3 ในตอนนั้น

หน้าตาของโปรแกรมเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเรียบ ๆ มีหน้าต่างเป็นช่อง ๆ สำหรับดูชื่อเพลง, ปรับ EQ, ทำเพลลิสต์ต่าง ๆ เวอร์ชั่นหลัง ๆ มีลูกเล่นมากขึ้นก็คือการเปลี่ยนสกินได้หลากหลายรูปแบบ ยุคนั้นหลายคนก็สนุกกับ Winamp ตรงสามารถเปลี่ยนสกินได้ตามความชอบ ด้วยความที่เป็นฟรีโปรแกรม ยุครุ่งเรืองของ Winamp เคยมียอดผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านคนทั่วโลก

นาย แฟรงเคิล เกิดอยากจะนำ Wimamp มาต่อยอด จึงตั้งบริษัท Nullsoft ขึ้นมา แล้วเปลี่ยนรูปแบบจากใช้ฟรี มาเป็นแบบจำหน่ายในราคา 10 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 350 บาท) และกลับกลายเป็นสร้างยอดขายถล่มทลายให้กับบริษัทจนทำให้มีรายได้ต่อเดือนถึง 3 ล้านบาท

ผ่านไปแค่ 2 เดือน บริษัทของนาย แฟรงเคิล ก็ถูกฟ้องร้องจากบริษัท PlayMedia System เจ้าของลิขสิทธิ์ AMP ในตอนนั้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ห้ามนำไปใช้เพื่อแสวงหาผลกำไร กลายเป็นคดีฟ้องร้องยืดเยื้อหลายปี

แต่จุดเปลี่ยนจริง ๆ คือการมาของโปรแกรมฟังเพลงอย่าง iTunes ของ Apple ในปี 2001 ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แม้ Winamp จะออกเวอร์ชั่นใหม่มาสู้ แต่กลับไม่ประสพความสำเร็จ สู้กับ iTunes ไม่ได้ ทำให้เสียฐานลูกค้าออกไปเรื่อย ๆ ท้ายสุด Winamp ก็ยุติการให้บริการลงในปี 2013 หลังเปิดบริการมากว่า 15 ปี บริษัทถูกขายต่อให้กับ Radionomy ของเบลเยี่ยม เจ้าของคนปัจจุบัน กลายมาเป็นโปรแกรมฟรีให้โหลดใช้งานได้เหมือนเดิม ในเวอร์ชั่น 5.8

ปี 2021 ที่ผ่านมา  เฟสบุ๊คเพจของ Winamp ก็มีความเคลื่อนไหวโดยอัพเดตโลโก้ Winamp ใหม่ หลังเงียบหายไปนานตั้งแต่มีข่าวว่าจะเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ช่วงปี 2017 รวมถึงมีการอัพเดตหน้าตาเวปไซต์ winamp.com ใหม่ พร้อมข้อมูลให้ลงทะเบียน เชิญชวนให้เป็นผู้ทดลองใช้งาน ซีอีโอของ Radionomy เคยให้สัมภาษณ์กัยสื่อว่า Winamp เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยที่คงคงอารมณ์และประสบการณ์การใช้งานแบบ Winamp ยุครุ่งเรืองในอดีตเอาไว้ด้วย


การปรับแต่งปลั๊กอินบน Winamp เพื่อเล่นไฟล์แบบ Bit-perfect

ปกติการเล่นไฟล์บน Winamp จะไม่เป็น Bit-perfect จำเป็นต้องใช้ปลั๊กอินเสริมเข้ามาช่วย  ผู้เขียนจะขอแนะนำปลั๊กอินที่จำเป็นและวิธีการติดตั้งบน Winamp สำหรับการเล่นไฟล์แบบคุณภาพสูง ดังนี้

Not So YASAPI v1.1

ดาวน์โหลด ที่นี่

นี่เป็น WASAPI output ปลั๊กอินที่ออกแบบมาเพื่อการเพลย์แบ็คแบบ Bit-perfect บน Winamp และรองรับการทำงานร่วมกับเวอร์ชั่น 5.8 เท่าที่ผู้เขียนทดลองใช้งาน มีคุณภาพเสียงเหนือกว่าปลั๊กอินอื่นที่ทำงานคล้าย ๆ กัน

ขั้นตอนการติดตั้งและเซ็ตอัพ

STEP: 1 ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ Not_So_YASAPI_Output_v1_1.exe เพื่อทำการ Install ลงบน C:\Program Files (x86)\Winamp\

STEP: 2 ประเภทของการติดตั้ง เลือก Plugin only แล้วกด Install

STEP: 3 เปิด Winamp เลือก Options –> Preferences –> Plug-ins –> Output –> Not So YASAPIv1.1 –> Configure

STEP: 4 หน้าเมนู Not So YASAPI Output Settings (ค่า Default)

  • Device เลือก DAC ที่จะใช้งาน
  • Share Mode “Exclusive”
  • Strategy “Push” (ถ้าไม่มีเสียงเลือก Pull แทน)
  • Enable volume control “ปิด” (เอาเครื่องหมายถูกออก)

STEP: 5 เมนู Buffer Option

  • Device Period เลือก “Default”
  • ตรงแถบบาร์ค่ามาตรฐานคือ “7.0” หากเล่นแล้วเจออาการเพลงสะดุดหรือเล่นไม่ได้ ให้ลองปรับเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วลองเพลย์แบ็คดู (ปรับมากเกินเสียงจะติดหนา)

STEP: 6 กดปุ่ม Save จากนั้นกด OK

หมายเหตุ กรณีที่ใช้งานกับ DAC ที่ไม่มี volume control ในตัวแนะนำให้ “เปิด” Enable volume control เอาไว้และลดระดับเสียงลงต่ำ ๆ ก่อนเพลย์แบ็ค


DSD Plugin for Winamp v1.1

ดาวน์โหลด ที่นี่

ปลั๊กอินสำหรับเพลย์แบ็คไฟล์ DSD (Direct Stream Digital) ในฟอร์แม็ต DSF และ DFF หลังจากดาวน์โหลดมาแล้วจะได้ไฟล์นามสกุล DLL ชื่อ “in_dsd” ให้ทำการ copy ไฟล์ไปวางในโฟลเดอร์ปลั๊กอินของโปรแกรม Winamp ปกติจะอยู่ใน C:\Program Files\Winamp\Plugins เท่านี้ก็จะสามารถเล่นไฟล์ DSD ได้แล้ว แต่เท่าที่ผู้เขียนลองเล่นปลั๊กอินตัวนี้ไม่สามารถปรับแต่งค่าอะไรได้ และไฟล์ที่เล่นจะแสดงค่าความละเอียดเป็น 5644 kbps / 44.1 kHz (สำหรับ DSD64) หรือ 11289 kbps / 44.1 kHz (สำหรับ DSD128) แทน เท่ากับว่าตอนนี้ยังไม่สามารถเล่นไฟล์ DSD ในรูปแบบ DoP หรือ Native ได้


Skin Winamp ที่น่าสนใจสำหรับปี 2022

ดาวน์โหลด ที่นี่

ถ้าพูดถึง Winamp แล้วก็ต้องแนะนำสกินเด็ด ๆ สักหน่อย แนะนำให้เข้าไปดูที่ฟอรั่มของ getwacup.com มีอัพเดตสกินใหม่ ๆ มากมาย เซ็ตนึงที่อยากแนะนำคือ ‘Big Bento Modern v1.2’ ของยูสเซอร์ที่ชื่อ victhor เป็นการเอาสกิน Big Bento เดิมมาทำใหม่ให้ทันสมัย มีความสวยงามน่าใช้มากขึ้น รองรับกับ Resolution ของอุปกรณ์ยุคนี้และยังมีเวอร์ชั่นที่ปรับแต่งมาให้เหมาะกับ Windows 10 อีกด้วย

วิธีการติดตั้ง Skin

เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วจะได้ไฟล์ Big-Bento-Modern-v1.2.zip ให้ทำการแตกไฟล์ภายในโฟลเดอร์จะมีโฟลเดอร์ย่อยของสกินทั้งหมด 4 เวอร์ชั่น copy ทั้งหมดมาใส่ใน C:\Program Files (x86)\Winamp\Skins จากนั้นเปิดโปรแกรม Winamp ขึ้นมาเลือก Options –> Skins จะเห็นชื่อโฟลเดอร์สกินที่ copy เข้ามา แล้วเลือกสกินที่ต้องการได้เลย โปรแกรมจะปิดตัวชั่วครู่แล้วรีสตาร์ทใหม่พร้อมเปลี่ยนสกินหน้าตาใหม่ตามที่เลือกไว้