สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2564 นายยรรยง กล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อธุรกิจของเอปสันยังคงเป็นสถานการณ์ทางการเมืองและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากมีแนวโน้มที่ดี คนไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างทั่วถึง จีดีพีของประเทศก็น่าจะกลับมาบวก และได้เห็นการลงทุนของภาครัฐกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง รวม ถึงภาคการท่องเที่ยวก็จะเริ่มฟื้นตัวได้ดี สถาบันศึกษากลับมาเปิดทำการ ซึ่งเอปสันก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์เพื่อรุกตลาด B2B โดยภายหลังได้ปรับเปลี่ยนทั้งโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กร พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย และเพิ่มคุณค่าในส่วนต่างๆ ซึ่งช่วยยกระดับความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า โดยตั้งเป้าว่าบริษัทฯ จะกลับมาเติบโตได้ในระดับที่มากกว่า 10% ในปีนี้”“
ในด้านการจัดโครงสร้างและกระบวนการทำงานภายในองค์กร บริษัทฯ ได้มีการขยายทีมขาย B2B ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงทีมพิเศษที่เน้นเจาะตลาดและดูแลลูกค้าองค์กรญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทั้งยังขยายทีมบริการลูกค้า B2B เพิ่มขึ้น ในด้านการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย เอปสันมีการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตลาด B2B และได้ฝึกอบรมตัวแทนเดิมให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาด B2B ได้ และในด้านการเพิ่มคุณค่า (Value Proposition) ซึ่งเอปสันยังเน้นการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรทุกขนาดในทุกวงการธุรกิจได้เลือกโซลูชั่นที่เหมาะที่สุดกับตัวเอง พร้อมกับจัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าใหม่และตลาดใหม่ ที่สำคัญ บริษัทฯ จะเดินหน้าดิสรัปท์โมเดลธุรกิจในกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรในปัจจุบันได้แม่นยำยิ่งขึ้น”
นายยรรยง กล่าวต่อว่า “เมื่อสิบปีก่อนเอปสันได้ดิสรัปท์เทคโนโลยีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ของตัวเองมาสู่ระบบแท็งค์ และได้ขยายการใช้ระบบดังกล่าวไปในทุกกลุ่มสินค้าพรินเตอร์ ตั้งแต่พรินเตอร์ขนาดเล็ก พรินเตอร์เพื่อธุรกิจ จนถึงพรินเตอร์ระดับมืออาชีพสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถลดต้นทุนการพิมพ์ ประหยัดค่าไฟ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ดิสรัปชั่นทางเทคโนโลยีครั้งนั้นได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการการพิมพ์ทั่วโลกและสร้างเอสเคิร์ฟใหม่ให้กับบริษัทฯ ปัจจุบันเอปสันมีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์มากที่สุดในท้องตลาด และสามารถพิมพ์งานทั้งสีและขาวดำด้วยคุณภาพและความเร็วที่เทียบเท่าเลเซอร์พรินเตอร์ และปีนี้ เอปสันจะดิสรัปท์ธุรกิจพรินเตอร์อีกครั้ง โดยมุ่งเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการขายเครื่องไปสู่การให้บริการแบบเต็มตัว”
“ปีที่แล้ว เอปสันได้ทดลองเปิด ‘Epson EasyCare 360’ บริการเช่าเครื่องพรินเตอร์แบบรายแพคเก็จสำหรับลูกค้า Epson WorkForce ที่ต้องพิมพ์งานปริมาณมากอยู่เป็นประจำ เพื่อแข่งขันกับบริการของแบรนด์เครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งลูกค้าสามารถควบคุมต้นทุนการพิมพ์ของตัวเองได้ ไม่ต้องสต๊อกหมึก เพราะบริษัทฯ จะส่งหมึกให้โดยคำนวณค่าใช้จ่ายจากจำนวนพิมพ์รายแผ่น ทั้งยังมีบริการ On-site service ส่งช่างซ่อมไปถึงออฟฟิศ นอกจากนี้ ยังมีบริการ ‘Epson EasyCare Mono’ เพื่อกลุ่มลูกค้า Epson EcoTank M-series ให้สามารถเช่าเครื่องพร้อมหมึกแบบเหมาจ่ายรายเดือน และรับทันทีทั้งบริการติดตั้งพรินเตอร์ให้ถึงออฟฟิศ บริการจัดอบรมการใช้งาน และบริการแก้ปัญหาเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์
ซึ่งทั้งสองบริการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เอปสันจึงเดินหน้าแผนดิสรัปท์โมเดลธุรกิจกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ทั้งหมด จากที่เคยเน้นการขายเครื่องมาเป็นการบริการงานพิมพ์”“บริษัทฯ ได้ทำการสำรวจความเห็นขององค์กรธุรกิจ พบว่าสิ่งที่บริษัทส่วนใหญ่กังวลคือค่าพิมพ์สีต่อแผ่น ตามด้วยคุณภาพงานพิมพ์ และบริการซ่อมบำรุง เอปสันจึงได้ออกบริการเช่าเครื่องแบบใหม่ในชื่อ ‘Epson EasyCare 360 เหมา เหมา’ โดยลูกค้าสามารถพิมพ์สีหรือขาวดำก็ได้ มากสุดถึง 120,000 แผ่น หรือนาน 24 เดือน ทั้งยังได้บริการซ่อมบำรุงถึงที่และเบอร์โทรสายตรงตอบกลับภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นเพียง 790 บาท แถมยังจะได้รับเครื่องที่ใช้อยู่ไปฟรีๆ หลังหมดสัญญา”
.“นอกจากดิสรัปชั่นโมเดลธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจของเอปสันสามารถตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าอยู่เสมอ บริษัทฯ ยังได้สร้าง Epson Virtual Solutions Center เพื่อให้ลูกค้า B2B ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่รวมถึงกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และปากีสถาน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเอปสัน ประเทศไทย ได้สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริงระหว่างการทำความรู้จักกับเทคโนโลยีและ B2B โซลูชั่นของเอปสัน ซึ่งจะแบ่งออกตามประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรม อาทิ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน การพิมพ์ดิจิทัล ร้านค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา สาธารณสุข และองค์กรธุรกิจ และในเฟสถัดไปจะมีการเพิ่มเติมโซนพิเศษสำหรับลูกค้าโฮมยูสทั่วไปให้ สามารถมาชมสินค้าและพูดคุยกับพนักงานขายทางออนไลน์ได้ทันที โดยได้รับบริการทุกอย่างเหมือนอยู่หน้าร้าน โดยในเฟสแรก Epson Virtual Solutions Center นี้ จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายนนี้”