เฟ้นหาอินทิเกรตแอมป์เสียงดีที่สุด ราคาถูกที่สุด…

0

การุณชาติ พุกกะเวส

ปกติ การจัดชุดเครื่องเสียงมักจะเลือกลำโพงก่อน แต่บางคนอาจมีลำโพงอยู่แล้ว หรืออยากจะเน้นจุดนี้ไว้ก่อน ก็ไม่ว่ากันครับ และครั้งนี้พบกับการเฟ้นหาอินทิเกรตแอมป์เสียงดีที่สุด..แต่ราคาเบา ๆ ถูกที่สุด เพื่อให้จับต้องได้ยังมีหรือไม่? ผมมีแนวทางมาฝากกัน เล่นแบบนี้สนุกกว่าครับ

การใช้คำว่าถูกที่สุด ผมเชื่อว่าจะบ่งบอกได้ชัดเจนกว่าครับ ว่าถูกจริง ๆ ไม่ฝันค้าง  เพราะทั่วไปถ้าบอกว่าราคาถูก ราคาไม่แพงนั้น พอได้ยินตัวเลขแล้วสะดุ้ง หันหลังกลับไม่ทันกันเยอะมาก  เนื่องจากต้นทุนแต่ละคนไม่เท่ากันคนมีสตางค์ล้นฟ้าแอมป์แสนนึงเขาก็ว่าถูก เพราะเขาเล่นเครื่องหลักล้าน!! แต่มนุษย์เงินเดือน /ชาวบ้านทั่วไปแอมป์แสนนึงนี่คือแพงมาก ถูกของเขาคือหมื่นต้น ๆ มากกว่า…จะเห็นว่าคำนิยามนั้นผิดกันชัดเจนละครับ   

เท่าที่ผมเห็น แอมป์ ไม่ว่าจะเป็นอินทิเกรตหรือปรี / เพาเวอร์แอมป์ หลายคนอาจจะบอกทำไมเลือกยากเย็น หาที่ถูกใจยากมาก ยิ่งถ้าใช้ปรี / เพาเวอร์แอมป์ต่างค่ายกัน โอกาสไปกันไม่ได้มีสูงกว่า 50% สิ่งที่คุณจะประสบสังเกตง่าย ๆ จากเสียงทุ้มจะบาง ขาดพลัง ทั้งที่จากเดิมฟังก็มีเสียงทุ้มที่ดี…

เพราะครั้งนึงเคยถามอาจารย์ของผม (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) ว่าเพาเวอร์แอมป์ไฮเอนด์ยี่ห้อ S เล่นได้ไหม ท่านตอบว่า เล่นได้แต่ต้องใช้ปรีแอมป์ยี่ห้อนั้นด้วย ถ้าใช้ปรียี่ห้ออื่นอยู่ โอกาสเสียงไม่ดีมีสูง

นอกจากนี้ผมได้พบพานกับตัวเอง คือ ผมมีเพาเวอร์แอมป์อยู่แล้วตัวนึง มองหาปรีแอมป์ดี ๆ ผมชอบยี่ห้อ A ลองยืมมาจับคู่ พบว่าเสียงกลาง / แหลมดีทีเดียว แต่ทุ้มหาย! เนื่องจากค่าความต้านทานระหว่างขาออกของปรีแอมป์ (สูงมาก) กับขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์ (ต่ำมาก) มีช่วงห่างกันเกินไป สัญญาณขับได้ไม่เต็มที่ อาการทุ้มบางจึงเกิดขึ้นนั่นเอง

การเล่นอินทิเกรตแอมป์จึงง่ายกว่า ไม่มีโอกาสผิดพลาดแบบนี้ แต่อินทิเกรตแอมป์เองมียี่ห้อ / รุ่นเยอะมากมาย เลือกกันไม่ถูก มีทั้งจากอังกฤษ ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ เลยถือโอกาสนี้เฟ้นหาแอมป์น่าสนใจ อ้างอิงจากลิสต์ Stereophile Recommended ที่คนไทยนิยมใช้ มาแนะนำกันครับ

ช่วงโควิทนี้ ต้องบอกว่าเศรษกิจไม่ดีเอามาก ๆ ระลอก 3 นี้หนักหนาเอาการ หลายคนต้อง WFH ทำงานโดยไม่ฟังเพลงอาจจะยิ่งเครียด ถ้ามีชุดฟังเพลงสักชุดน่าจะสร้างความผ่อนคลายได้ดีขึ้น ผมยกเอาการเลือกอินทิเกรตแอมป์มานำเสนอก่อน และเข้าใจว่าเม็ดเงินหมุนเวียนส่วนตัวอาจจะลดลงไป 30-50% ถ้าแนะนำตัวแพงอาจจะไม่สะดวกในการซื้อหา

จึงเน้นตัว “ถูกที่สุด” ของค่าเงินเหรียญกันก่อน ส่วนบ้านเราจะถูก/แพงอะไรก็ว่ากันอีกทีครับ เพราะเสียงเทียบเคียงกับเครื่องที่แพงกว่าได้เลย คุ้มค่าแน่นอน

อินทิเกรตแอมป์ที่ได้ Class A มีราคาตั้งแต่ $2,499 ไปจนถึงแพงสุดคือ $38,000–$52,000 แล้วแต่ออปชั่น ซึ่งถือว่าช่องว่างนั้นต่างกัน “มหาศาล” แน่นอนครับเครื่องระดับแพงสุดกู่นั้นย่อมมีข้อดีอื่น ๆ เช่น ฟีเจอร์, การดีไซน์, สถานที่ผลิต, ความพิเศษของอุปกรณ์ ฯลฯ ขณะที่เครื่องระดับราคาต่ำลงมา คุณลักษณะพิเศษอื่น ๆ ย่อหย่อนตามลงไป

แต่สิ่งหนึ่งที่คล้ายกันคือ “คุณภาพเสียง” นั่นเอง ถ้าคุณต้องการหน้าตา ชื่อชั้น ย่อมต้องจ่ายกันแพง ๆ แต่ถ้าคุณไม่สนใจความหรูหรา / ฟีเจอร์สุดไฮเทค ฯลฯ เน้นที่ “คุณภาพเสียง” เท่านั้น ผมว่าเลือกเครื่องที่ถูกที่สุดรับประกันว่าถูกใจแน่นอน และตัวที่ถูกที่สุดคือ Marantz Model 30: $2499 $$$

Marantz Model 30 นี้เพิ่งออกไม่นาน ผมรีวิวไปใน What Hi-Fi? แล้ว เป็นสื่อแรกของไทย ลองติดตามกันดูครับ (ทั้งคลิปวิดิโอ / บทความ) นอกจากนี้ล่าสุดได้จัดเข้าชุดโพสต์เป็นวิดิโอ แนะนำในหัวข้อ System Matching by What Hi-Fi? Thailand เอาไว้ด้วยครับ เนื่องจากฟังแล้วน่าสนใจ ทั้งหมดถ่ายทำก่อนที่ผลรางวัลจะออกมานะครับ สนใจลองคลิ๊กตามลิงค์นี้ครับ  

รายละเอียดของเครื่อง ใช้ภาค output stage ใช้ Hypex NC500 ซึ่งเป็นโมดูล class-D ซึ่งแตกต่างจาก Marantz ทั่วไปชัดเจน แม้จะเป็น class-D แต่ให้กำลังเพียง 100W ที่ 8 ohms และ 200W ที่ 4 ohms  ซึ่งไม่ได้เน้นพละกำลังมหาศาล แบบ 300 วัตต์ เฉกเช่น Class-D ทั่วไป  ตรงนี้ถือว่าทีมวิศวกรเข้าใจดีไซน์เป็นอย่างดี เน้นกำลังให้พอเพียง คงไว้ซึ่งเสียงดนตรี แน่นอนครับว่าทำให้เสียงนั้นกระจ่าง เปิดโปร่ง มีเสียงรบกวนต่ำ มีความร้อนต่ำ ไม่นับรวมกับภาคโฟโนที่ดีในตัว ทำให้น่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้ยังได้เครื่องหมาย $$$ ที่แสดงถึงความคุ้มค่าของเครื่องนั่นเอง คือถ้าเครื่องไหนเสียงดีแต่ราคาแพงกว่าที่ฝรั่งคิดจะไม่มีเครื่องหมายนี้ครับ

Marantz Model 30 บ้านเราลดแล้วราคาไม่เกินแสนต้น ๆ 10x,xxx ถ้าโชคดีหาเก่งอาจจะได้ต่ำกว่าแสน!! ถ้าคุณมีงบราว ๆ นี้ ปักหมุดเป็นตัวยืนพื้นได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่พร้อมเล่นแอมป์หลักแสน ลองพิจารณากลุ่มย่อมถัดลงมาคือกลุ่มอินทิเกรตแอมป์ที่ได้ Class B ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 999$ ไปจนถึง 7,500$ จะเห็นว่ามีความแตกต่างที่มากมายในระดับราคาเช่นเคย ตัวแพงเราไม่กล่าวถึงในครั้งนี้เน้นถูก ๆ คุ้มค่านะครับ ตัวถูกสุดคือ Outlaw Audio RR2160MkII: $999 $$$ ไม่มีขายในไทย จึงต้องขยับราคาขึ้นมา กลายเป็น Cambridge Audio CXA81: $1299 $$$ หรือขยับขึ้นไปจะเป็น Rogue Audio Sphinx V3: $1595 ถือว่าน่าสนใจครับ

แต่ถ้าคุณขยับไปเกินกว่านี้ เช่น ไปถึง 2,000-2,500$ ได้ คุณไม่ต้องสนใจเครื่องอื่นเลยครับ เล่น Marantz Model 30 ได้เลย เสียงดีระดับ Class A อีกด้วย  

กลับมาดูรายละเอียดกันต่อ Cambridge Audio CXA81: $1299 $$$ เป็นอินทิเกรตแอมป์รุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายที่ครบเครื่อง รองรับการเล่นมากมายเข้ากับยุคสมัยนี้จริง ๆ มีภาคดิจิตอลถอดรหัสในตัว รองรับการเล่นไฟล์เพลงทางช่อง USB นอกจากนี้มีช่อง XLR In มีกำลัง 80 วัตต์ที่ 8 โอห์ม และ 120 วัตต์ที่ 4 โอห์ม ส่วน Rogue Audio Sphinx V3: $1595 เป็นอินทิเกรตแอมป์ไฮบริดจ์ เวอร์ชั่นที่ 3 พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเวอร์ชั่นแรกไปอีก คอนเซปท์แนว Old School ไม่มีภาคถอดรหัสใด ๆ ไม่มีบูลทูธ ไม่มีไวไฟ ฯลฯ มีเพียงภาคไลน์และโฟโนแค่นั้น เน้นคุณภาพเสียงเป็นหลัก ภาคปรีเป็นหลอด 12AU7 ภาคขยายเป็น class-D ให้กำลัง 100 วัตต์ ที่ 8 โอห์ม ด้วยเทคนิคนี้เสียงจะฉ่ำหวานกว่าปกติ

จุดนี้ถ้าคุณใช้ลำโพงกินวัตต์เช่น 87 dB ใช้ในห้องใหญ่ ชอบเสียง “หลอด” ไม่ต้องการลูกเล่นมากมาย รวมทั้งไม่สนเรื่องการเล่นไฟล์เพลงในตัว การเชื่อมต่อไร้สาย ฯลฯ เลือก Rogue Audio Sphinx V3 ไว้ก่อน เพราะได้กำลังมากกว่า 20 วัตต์น่าจะเสริมในจุดนี้ได้ แต่ราคาก็แพงกว่า  ส่วนใครใช้ลำโพงความไวปกติ 88 dB ขึ้นไป ชอบครบเครื่องไม่ต้องต่อหลาย ๆ เครื่องให้วุ่นวาย รองรับทั้งอนาลอก และดิจิตอล โดยเฉพาะไฟล์เพลงได้ครบครัน อีกทั้งมีงบที่ไม่มาก การเลือก Cambridge Audio CXA81 ดูจะสมเหตุสมผลดีกว่า

ขณะที่เช๊คราคาคร่าว ๆ ในบ้านเรา Cambridge Audio CXA81 ประมาณ 38,000 บาท ส่วน Rogue Audio Sphinx V3 ราคาราว 70,000 บาท (อาจจะลดได้-ต้องสอบถามผู้นำเข้าอีกที)   จุดนี้เสียงดีทั้งคู่ เล่นได้ทั้งคู่ แต่มีคอนเซปท์ต่างกันชัดเจน ต้องถามตัวคุณละครับ

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น ต้นทุนแต่ละคนค่าไม่เท่ากัน คนจนเงินหมื่นนี่ยังหากันเหนื่อยแต่คนรวยเป็นแค่เศษเงิน…

เครื่อง Class B อย่าง Cambridge Audio CXA81 กับ Rogue Audio Sphinx V3 ราคาเริ่มต้นต้องจ่าย 38,000 บาท ราคานี้บางคนบอกยังซื้อไม่ไหว เอาแบบหมื่นกว่าบาทมีไหม? แน่นอนครับว่าต้องลดมามองกลุ่มเครื่องที่อยู่ใน Class C แน่นอนว่ายังคงมีคุณภาพเสียงที่ดี โดยมีราคาเริ่มต้น 599$ แต่เครื่องแพงสุดพุ่งไปเตะที่ 4000$!! จะเห็นว่ามีเครื่องแพงมากแต่ยังอยู่ใน Class C ถ้าไม่รักชอบยี่ห้อนั้นจริงก็ปล่อยผ่านดีกว่าครับ หรือใช้งบ 2,500$ ซื้อ Marantz Model 30 ดีกว่าครับ เงินยังเหลือ ได้เสียงที่ดีกว่า

เครื่องที่อยู่ใน Class C นี้คือ NAD C 328: $599 $$$ กับเพิ่มอีกนิดมี PS Audio Sprout100: $699 $$$  บ้านเรา NAD C328 มีกำลัง 50 วัตต์ที่ 8 โอห์ม เป็นแบบ class-D ใช้บอร์ดจาก Hypex มีโฟโนในตัว มีกลุ่ม Digital In (ช่อง Optical / Coaxial อย่างละ 2 ช่อง) ช่องสัญญาณออก Sub Out สำหรับพ่วงซับวูฟเฟอร์  รองรับบูลทูธ, Wi-Fi จุดเด่นของ NAD คือ มีกำลังสำรองสูง สเปคระบุว่ากำลังสวิงชั่วคราวคือ IHF Dynamic Power-8 Ohm 80W / 4 Ohm 150W / 2 Ohm 210W น่าจะขับลำโพงหลากหลายได้สบาย

ส่วน PS Audio Sprout100: $699 $$$ เท่าที่สอบถามผู้นำเข้า สินค้าเป็นแบบต้องสั่ง และอาจใกล้เปลี่ยนรุ่นใหม่แล้ว จึงไม่มีสต๊อก ถ้าสนใจคงต้องสอบถามผู้นำเข้าโดยตรงครับ

ดังนั้น ในกลุ่ม Class C นี้ พอเห็นภาพชัดเจนว่าเล่น NAD จะเหมาะสมมากกว่า ราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท น่าจะพอหาซื้อกันเป็นแอมป์ตัวเก่งไม่ยาก อีกทั้งไม่ต้องสั่งจองซื้อได้ทันทีจึงง่ายกว่า มีหลายสาขาแล้วแต่สะดวก

เรียกว่า…ทั้งหมดนี้เป็นไกด์ไลน์เบื้องต้น ตามหาแอมป์คู่ใจ..เน้น “ถูกที่สุด” ในแต่ละ Class ครับ เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณแต่ละคน นอกจากนี้เศรษฐกิจอันย่ำแย่เนื่องจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะโควิท 19 อาจทำให้หลายสิ่งอย่างเปลี่ยนไป ผู้คนอาจไม่กล้าใช้เงิน ครั้นจะไม่ให้เล่นจะยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนการปฏิบัติ (ซื้อ) จริง อาจต้องดูราคาบ้านเราด้วย มีถูกแพงแล้วแต่ละบริษัทฯ นอกจากนี้ดูค่านิยม ดูการบริการของผู้แทนฯ การซ่อม ฯลฯ ประกอบด้วยล้วนมีส่วนช่วยตัดสินใจ นอกจากนี้สำหรับบางคนอาจเน้นความสวย เน้นแบรนด์ เป็นหลัก ไม่สนใจคุณภาพเสียงมากนัก และมีเงินจ่าย ด้วยเหตุผลประเด็นนี้ล้วนมีผลในการตัดสินใจทั้งนั้นครับ 

นอกจากนี้ เมื่อคุณได้แอมป์ตัวเก่งแล้ว ถ้าเลือกเครื่องตามระดับราคาที่แนะนำไป จิ๊กซอว์ที่สำคัญชิ้นต่อไป คือ การหาลำโพงดี ๆ ความไว / ความต้านทานที่เหมาะสมกับแอมป์ด้วย เพื่อให้ทั้งหมดทำงานร่วมกันได้ดีที่สุด ไม่ใช้เอาลำโพงสเปคอย่างโหดมาใช้กับแอมป์ 3 เครื่องนี้  แบบนี้เสียงไม่ดีแน่นอนครับเพราะแอมป์กำลังขับไม่พอ….

ครั้งหน้าผมจะมานำเสนอลำโพงสำหรับแอมป์ตัวเก่งของคุณในแต่ละ Class ครับ เพื่อให้แมชชิ่งได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง