อัลบั้มคอลเล็กชั่นพิเศษ “The Other Side of the Door” 

0

ผลงานเพลงไพเราะที่เกิดขึ้นจาก ‘คอนเสิร์ตรีชาร์จพลังชีวิต’ โดย บ้านและสวนคอนเสิร์ตซีรีส์ x บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งได้คัดสรรเพลงรักเพราะๆ ที่เป็นฝีมือการประพันธ์ของ บอย โกสิยพงษ์ นำมาเรียบเรียงใหม่ และขับร้องด้วยเสียงอันทุ้มนุ่มลึกของ ธีร์ ไชยเดช ในงานคอนเสิร์ตสุดพิเศษที่จัดขึ้นเพียง 2 รอบ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ณ โรงละคร เคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน  

ซึ่งหลังจากคอนเสิร์ตเสร็จสิ้นลง… ได้มีการนำ 12 บทเพลง บอย โกสิยพงษ์ x ธีร์ ไชยเดช ที่ได้รับฟังในคอนเสิร์ตมาจัดทำเป็นอัลบั้มพิเศษ ด้วยการบันทึกซาวนด์ดนตรีในแบบ เล่นสด-ร้องสด และใช้เครื่องดนตรีจริงที่เป็นอะคูสติก รวมถึงพิถีพิถันใส่ใจคุณภาพในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต เทคนิคการบันทึกเสียง กระทั่งมาสเตอร์ริ่ง 

ทั้งนี้การบันทึกเสียงดังกล่าว มุ่งเป้าเพื่อเอาใจคอนักสะสมบทเพลงไพเราะทรงคุณค่า ด้วยคุณภาพการบันทึกเสียง และขั้นตอนการจัดทำที่ดีที่สุด ภายใต้การดูแล-จัดการ และควบคุมการผลิตโดย Brilliance Music & Studios ซึ่งจะได้ผลิตจำหน่ายใน 2 รูปแบบ คือ แผ่นเสียงที่เป็นไวนิลสองแผ่นคู่สีเขียวใส กับ แผ่นซีดีคุณภาพสูง ที่ส่งไปทำการผลิตระดับพรีเมียม ณ ประเทศญี่ปุ่น ในระดับ Ultimate High Quality CD (UHQCD) และระดับ High Quality CD (HQCD) เพื่อให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด รายละเอียดเสียงสูงกว่าซีดีทั่วไป และได้ซาวนด์ใกล้เคียงกับไฟล์มาสเตอร์มากที่สุด 

บทเพลงทั้ง 12 ที่ได้นำมาจัดทำล้วนเป็นผลงานการประพันธ์ของคุณบอย โกสิยพงษ์ ที่ได้บรรจงแต่งไว้ในสังกัด Flying Tomato Music ผันผ่านอัลบั้มชุดต่างๆ และวาระของศิลปินนักร้องมากมายหลายท่าน แต่ครั้งนี้ “บอย โกสิยพงษ์” เลือกที่จะนำบทเพลงไพเราะซึ่งคัดสรรด้วยตัวเองมามอบให้ “ธีร์ ไชยเดช” เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มลึก ซึ่งคุณบอย โกสิยพงษ์ ได้บอกว่า “นักร้องที่ผมคิดถึงคนเดียวคือ ธีร์ ไชยเดช เสียงร้องและเสียงกีตาร์ของเขา ฟังทีไรก็ให้ความอบอุ่นลึกละมุน ทำให้เราได้รู้สึกอยู่กับตัวเรา ผมจึงคิดว่า ถ้าลองเอาบทเพลงที่คุ้นเคยของผมมาทำในเวอร์ชั่นของธีร์ ไชยเดช ที่แตกต่างจากเดิม ก็เหมือนผมกำลังเปิดไปสู่อีกด้านของประตู” …นี่จึงเป็นที่มาของอัลบั้มคอลเล็กชั่นพิเศษ The Other Side of the Door 

บทเพลงทั้ง 12 เพลงในอัลบั้มคอลเล็กชั่นพิเศษ The Other Side of the Door มีดังนี้ครับ – หยุด – HOME – รัก – ลมหายใจ – ห่างไกลเหลือเกิน – เจ้าหญิง – ช่วงที่ดีที่สุด – LIVE&LEARN – ฉันดีใจที่มีเธอ –คำไม่กี่คำ – PASS THE LOVE FORWARD และ หวานขม โดยในเพลง เจ้าหญิง กับ ช่วงที่ดีที่สุด – ธีร์ ไชยเดช ได้เชิญ Arin Parnphum (อริญญ์ ปานพุ่ม) หรือ เล็ก ทีโบน มาร่วมร้องด้วย รวมถึงในเพลง PASS THE LOVE FORWARD – ธีร์ ไชยเดช ก็ได้เชิญ Nan Sathida (แนน สาธิดา พรหมพิริยะ) มาร่วม DUO ด้วยเช่นกัน 

จากการรับฟังแผ่น Ultimate High Quality CD (UHQCD) ที่ระบุตัวเลขมีการผลิตจำนวน 1,000 แผ่น บอกได้เลยว่า เนื่องจากคุณภาพการบันทึกนั้น – ดีมากๆ อาจพูดได้ว่า เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของการบันทึกเสียงในบ้านเรา …จึงส่งผลการรับฟัง รับรู้ได้ว่า ชิ้นดนตรีที่เล่นสดๆ พร้อมๆ ไปกับการบันทึกเสียงร้องนั้น (เปียโน, อคูสติก กีต้าร์, เบส, กลองชุด, STRING & PAD) ให้ความอิสระในตำแหน่งแห่งที่ ทั้งยังมีบรรยากาศ และมวลเสียงที่เข้มข้ม ให้ความมีตัวมีตน เฉพาะอย่างยิ่งเสียงเปียโน และกีต้าร์ที่ให้การรับรู้ได้ถึงปริมณฑลเสียง รวมถึง decay time (การค่อยๆ จางหายไปของเสียง) ที่เป็นธรรมชาติ  

…เสียงร้องของทั้ง ธีร์ ไชยเดช, เล็ก ทีโบน และ แนน สาธิดา พรหมพิริยะ ให้ความคมชัด สดใส การออกอักขระเสียงมีความสมจริง (มิได้ถูกเน้นความแจ่มชัด จนเกินไป) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลลัพธ์ของการเตรียมการบันทึก และขั้นตอนการบันทึกอย่างดี รวมถึงการบันทึกเสียงที่กระทำกันบนฟอร์แมต 24-bit/96 kHz เป็นต้นฉบับเสียง ทำให้ได้รายละเอียดต่างๆ ของการบันทึกเสียงที่นับว่า ครบสมบูรณ์มาก 

ซึ่งถ้าดูในรายละเอียดตามที่ระบุไว้ ห้องบันทึกเสียงที่ใช้นั้นเป็นที่ The Flying Tomato Recording กับ  M.M.Studio ในกทม. และทำการมิกซ์ที่ 151Home Studio (สตูดิโอบ้านๆ ที่รับจ็อบใหญ่ๆ มานับไม่ถ้วน) โดย ธีร์ ไชยเดช และ Samit Ditsungnoen (ซึ่งก็เป็นมือทำงาน Freelance Sound Engineer ให้กับศิลปินรุ่นใหม่ดังๆ หลายต่อหลายคน) จากนั้นจัดส่งมาสเตอร์ไปให้ทาง MasterDisk และทำการมาสเตอร์โดย Scott Hull ส่วนการผลิตแผ่นนั้นจัดทำที่ประเทศญี่ปุ่น (Made in Japan)  

…หากถามว่า ใน 12 บทเพลงที่บรรจุอยู่ในแผ่นนั้น เพลงใดที่ถูกใจผมที่สุด ก็ขอฟันธงแบบไม่เกรงใจใครว่า ผมชอบทั้ง 12 เพลงครับ แม้ว่าในใจลึกๆ ผมจะประทับใจกับเนื้อหา หรือ คำร้องของบทเพลง “รัก” – “ลมหายใจ” – “ช่วงที่ดีที่สุด” – “ฉันดีใจที่มีเธอ” – “HOME” – “LIVE & LEARN” “PASS THE LOVE FORWARD” ทั้งนี้เพราะด้วยบรรยากาศของการเรียบเรียงดนตรีอะคูสติกที่ฟังสบาย ให้อารมณ์ไหลลื่น บวกกับเสียงร้องอิ่มนุ่มทุ้มลึกของ ธีร์ ไชยเดช การรับฟังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จึงให้ความปิติมีความสุขในใจ ฟังได้จนหมดแผ่น แล้วอาจจะย้อนมาฟังซ้ำ …ซึ่งถ้าผลงานเพลงบ้านเรามีการจัดการ และการบันทึกเสียงให้ออกมาดีเยี่ยงนี้ วงการเพลงและดนตรีของเราที่กำลังย่างก้าวในทางที่ดี ก็จะทำให้เราได้มีผลงานเพลงและดนตรีในระดับที่เทียบเคียงกับความเป็นสากลอย่างชนิดไม่ต้องอายใครในปฐพี 

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….