ช.ชิดชล
“ตู้ลำโพงมีความสำคัญกับดอกลำโพงฉันใด ห้องฟังเพลงก็มีความสำคัญกับชุดเครื่องเสียงฉันนั้น” เป็นเรื่องจริงแท้และเห็นผลด้วยการรับฟังสียงอย่างแน่นอนครับ ท่านผู้อ่านลองนึกสภาพว่า มีดอกลำโพงชั้นเยี่ยม ผลิตจากผู้ผลิตลำโพงชั้นนำของโลก และใช้วัสดุคัดเกรดคุณภาพสูงสุด แล้วเอามาวางไว้กลางห้องโล่งในแบบไร้ตู้ ใช้แอมป์ที่ดีขับ เสียงจะได้แค่เนื้อเสียงคร่าวๆ รายละเอียดระดับพอดี ความเป็นสามมิติขึ้นรูป ความกว้างความลึก รวมถึงไดนามิคต่างๆ ไม่สามารถรับฟังได้อย่างแน่นอน
ขณะที่อีกดอกลำโพงหนึ่ง คุณภาพการผลิตธรรมดา ไม่ถึงกับแย่มากนัก แต่ไปอยู่ในตู้ลำโพงที่มีคุณภาพดีมาก ทั้งความแข็งแรง วัสดุที่ใช้ผลิต รวมถึงเทคนิคการแดมป์และซับเสียงภายในตู้ และใช้เพาเวอร์แอมป์เครื่องเดิมขับ เนื้อเสียงหลักอาจจะสู้ดอกแรกไม่ได้ แต่รายละเอียด มิติเสียง ไดนามิคต่างๆ รับรองความแสดงออกมาให้รับฟังกันได้อย่างถึงแก่นทีเดียวครับ
วงออเครสตร้า บรรเลงในหอประชุมที่ออกแบบอย่างเหมาะสม ทั้งวัสดุและสภาพอะคูสติก ฟังได้อย่างไพเราะ ความดังและการกระจายเสียง มีความเหมาะสม กับวงเดิมไปบรรเลงกลางสนามหลวง คงฟังไม่จืดเลยนะครับ จะดีหน่อยก็แค่ตำแหน่งหน้าสุดของเวทีเท่านั้น พ้นจากนั้นไป เนื้อเสียง น้ำหนักเสียง กระจายหายหมด เพราะไม่มีห้องที่คอยควบคุมคลื่นเสียง ทั้งความก้อง ความสะท้อนและซับเสียงอย่างเหมาะสมนั่นเอง
ความสำคัญของห้องฟัง ขึ้นอยู่กับการให้ความสำคัญของการฟัง
หากท่านให้ความสำคัญกับคุณภาพการฟังเพลงจากเครื่องเสียง ห้องฟังยิ่งมีความจำเป็นครับ เพราะขนาดรวมถึงคุณภาพของห้องฟัง สามารถกำหนดคุณภาพและรายละเอียดของเสียงได้ เรียกว่าชุดเครื่องเสียงดี อยู่ในห้องฟังที่ปรับแต่งอย่างเหมาะสม ไม่ก้องหรือสะท้อนเสียงมากเกินไป ไม่ซับเสียงมากเกินไป เสียงที่เพลงที่ได้ฟังนั้น จะมีคุณภาพขึ้นไปอีกระดับ
สำหรับท่านใดที่ไม่เน้นคุณภาพการฟังเพลงนัก เรียกว่ามีเสียงเพลงเพื่อความผ่อนคลาย ไม่ได้อยากซีเรียสเรื่องห้องฟัง หรือต้องมีห้องฟังเป็นสัดส่วน ก็สามารถใช้พื้นที่ภายในบ้านเป็นตำแหน่งของห้องฟังได้ ข้อสำคัญคือ หากท่านเน้นคุณภาพการจัดวางสักหน่อย การฟังเพลงเพื่อความผ่อนคลายนั้น จะได้อรรถรสเพิ่มไปอีก ก็จะส่งผลต่อความผ่อนคลายที่มากขึ้นไปอีกระดับเช่นกัน
แล้วหากท่านไม่ได้เน้นการจัดวางปรับแต่ง เอาแค่มีที่วางเครื่อง หรือมีมุมที่จัดวางเครื่องเสียงอย่างไม่เหมาะสมแล้ว เสียงเพลงที่ได้ฟัง แทนที่จะผ่อนคลาย กลับกลายเครียดขึ้นไปอีกนะครับ
พื้นที่สำหรับความสุขในการฟังเพลงที่ต่างกัน แต่ควรฟังเพลงไพเราะเหมือนกัน
พื้นที่ในแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน ความสะดวกในการใช้งานพื้นที่ก็แตกต่างกัน ทำให้บางบ้านมีห้องฟังเพลงแยกออกไปเป็นสัดส่วน และบางบ้าน ใช้มุมส่วนตัว หรือมุมมหาชนในการใช้งานจัดชุดฟังเพลง อันนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความเหมาะสม
เพราะห้องฟัง ขนาด สัดส่วน และสภาพของห้องฟังนั้น ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียง การก้องสะท้อนส่งผลต่อรายละเอียดของเสียงและความกังวานสั้นยาวอย่างเหมาะสม สัดส่วนและความแข็งแรงของห้อง ส่งผลต่อมิติเสียงและไดนามิคเสียงอย่างชัดเจน
ลองนึกถึงลำโพงที่อยู่ในห้องฟัง มีการควบคุมปริมาตรอากาศ ส่งผลต่อการใช้งานกำลังขับของเพาเวอร์แอมป์วัตต์ที่ไม่ต้องสูงนัก(แต่การจ่ายกระแสต้องดี) ก็ให้พลังน้ำหนักเสียงอิ่มเต็มห้อง ลำโพงก็ไม่ต้องใช้ดอกที่มีขนาดใหญ่มากนัก(ขนาดดอกลำโพงขึ้นกับขนาดห้อง) เราก็สามารถควบคุม และรีดประสิทธิภาพชุดเครื่องเสียงออกมาได้
หากท่านที่ไม่สามารถมีห้องฟังแยกเป็นสัดส่วนได้ ควรมีมุมฟังเพลง ที่ต้องพิถีพิถันในเรื่อง มุมสะท้อนและกระจายเสียง ความแข็งแรงและการจัดองค์ประกอบให้เหมาะสม เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในห้องนั้น รวมถึงการจัดวางปรับแต่งชุดเครื่องเสียง เพราะการไม่มีห้องฟังแบบนี้ เหมือนใช้ดอกลำโพงในตู้เปิด หรือฟรีแอร์ ไม่ค่อยมีแรงกดอากาศมาควบคุม จะขาดเนื้อเสียง พลังเสียง น้ำหนักเสียงทุ้ม รวมถึงไดนามิคไป อันส่งผลต่อการใช้งานเพาเวอร์แอมป์ที่ต้องมีวัตต์สูงขึ้น เหมือนลำโพงกินวัตต์ขึ้น หรือใช้ดอกลำโพงที่มีขนาดใหญ่ เพื่อชดเชยเสียงที่ขาดไปดังกล่าว
สรุปรวมความได้ว่า ห้องฟังเพลงมีความสำคัญมากหากเน้นคุณภาพการฟัง เพื่อการเสพย์อรรถรสเสียงเพลงขึ้นไปอีกระดับ ครั้งต่อไปบทความจะกล่าวถึงวิธีปรับแต่งห้องฟังเพลงแบบง่ายๆและแบบพิถีพิถัน มานำเสนอครับผม