มงคล อ่วมเรืองศรี
“COPLAND” เป็นแบรนด์เครื่องเสียงระดับสูงที่มีความชำนัญการพิเศษเกี่ยวกับเครื่องหลอดโดยเฉพาะของประเทศเดนมาร์ก ก่อตั้งขึ้นมาช่วงกลางยุคปี’80 โดย Danish designer นามว่า Olé Möller โดยพุ่งเป้าไปที่แนวทางของ serious audiophile ผลิตภัณฑ์แรกสุดของบริษัทได้แก่ CTA401 และ CTA501 ที่ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับดีมากๆจากทั้งเซียนนักฟังและนักวิจารณ์ ด้วยแนวคิดแปลกใหม่ที่ Olé Möller นำมาใช้ในการออกแบบ ผสานร่วมกับการคัดสรรเกรดอุปกรณ์อย่างดีที่สุด ส่งผลให้แอมป์หลอดของเขาให้เสียงที่น่าหลงใหล ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้รายละเอียดต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อมาในปีค.ศ.1992, “Copland” ก็ได้ออกจำหน่าย CTA301 และ CTA504 ปรีแอมป์หลอดฯและเพาเวอร์ แอมป์หลอดฯ “คู่ขวัญ” กันและกัน ที่สามารถปรับเสือกการทำงานได้ทั้งแบบ tetrode และ triode ซึ่งก็ยิ่งได้รับเสียงแซ่ซ้อง-ตอบรับที่ดีมากๆ แม้แต่กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบในแนวทางของเครื่องโซลิด-สเตท
ปัจจุบันถ้าเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.copland.dk จะพบว่า “Copland” มีผลิตภัณฑ์อยู่ทั้งสิ้น 5 ตัวด้วยกัน อันประกอบไปด้วย DAC 215 (Universal high-resolution DAC, pre-amplifier, headphone amplifier); CTA 305 (Stereo CONTROL VALVE AMPLIFIER); CTA 405 (Stereo Integrated Valve Amplifier); CTA405-A (Stereo Integrated Valve Amplifier) และ CTA506 (Stereo Valve Power Amplifier) ซึ่งทั้งหมดเป็นเครื่องหลอดฯล้วนๆ โดยมิได้มีการอ้างไปถึงเครื่องที่เป็นโซลิด-สเตท หรือ Hybrid เลย
คุณลักษณ์
CTA 506 เป็น Stereo Power Valve Amplifier รุ่นสุดดังของ COPLAND ที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานควบคู่กับ CTA 305 ปรีแอมป์หลอดรุ่นสุดดังของ COPLAND อีกเช่นกันนั่นแหละครับ แน่นอนว่า CTA 506 ย่อมได้รับการยกกระดับสมรรถนะให้เหนือชั้นยิ่งกว่าเพาเวอร์แอมป์หลอดโดยทั่วไป ด้วยการใช้อุปกรณ์เกรดสูง -ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้- รวมถึงการคัดสรรส่วนควบต่างๆ ที่จะนำมาใช้งานอย่างพิถีพิถันควบคู่กัน โดยใช้หลอดเบอร์ KT120 เป็นขุมกำลังขับ จำนวน 2 หลอดต่อแชนแนล ซึ่งความจริงแล้วไซร้ “KT120” ก็คือพัฒนาการต่อยอดของหลอดเบอร์ KT88 และ KT90 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มีหลอดเบอร์ 6550 เป็นต้นตระกูลนั่นเองละครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น KT120 จะสามารถให้ “พลัง-แรงขับ” ได้มากกว่า KT88 ราวๆ 30 เปอร์เซนต์ และยังส่งมอบผลลัพธ์ทางด้านของไดนามิกเสียงที่ดีกว่าอีกด้วย “KT120” จึงทำท่าว่าจะกลายเป็นหลอดยอดนิยมแทนที่เจ้า KT88
KT120 จำนวน 2 หลอดต่อแชนแนลนั้นจะทำงานในลักษณะของ Fixed Ultra-Linear configuration ที่เป็นการรวมเอา “ข้อดี” ในแง่ของค่าความผิดเพี้ยนต่ำ (low distortion) ในแบบ triode เข้ากับ “ข้อดี” ในแง่ของพลัง (power) ในแบบ tetrode ด้วยสมรรถนะกำลังขับสูงถึงข้างละ 90 วัตต์ ทั้งที่ค่าความต้านทาน 4 และ 8 โอห์ม ภายใต้ภาคจ่ายไฟ (power supply) อันเปรียบเสมือน “หัวใจสำคัญ” สำหรับสมรรถนะการทำงานอันเปี่ยมประสิทธิภาพ จากการใช้หม้อแปลงไฟแบบขอกลมขนาดใหญ่อันหนักอึ้ง ซึ่งเป็นแบบ high quality silicon ion core toroidal transformer พร้อมด้วยคาปาซิเตอร์ที่มีค่าเก็บประจุสูงถึงกว่า 3,000 ไมโครฟารัดสำหรับภาคเอ๊าต์พุทโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ CTA 506 ยังใช้หลอด 6550 จำนวน 2 หลอด ซึ่งหลอดหนึ่งจะทำหน้าที่เป็น active valve regulation แยกสำหรับ driver stages ในขณะที่อีกหลอดหนึ่งจะทำหน้าที่เป็น active valve regulation แยกสำหรับ amplifying stages ทำให้ภาคเอ๊าต์พุทของ CTA 506 นั้นเป็นอิสระจากภาค input & driver stages ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอันเยี่ยมยอดโดยตรง ทั้งนี้สำหรับภาค input & driver stages ของ CTA 506 นั้นได้ใช้หลอด ECC81 จำนวน 2 หลอดทำงานควบคู่กับ 12BH7 จำนวน 4 หลอด โดยที่ CTA 506 จะมีช่วงค่าตอบสนองความถี่เสียงที่กว้างขวางมากเป็นพิเศษ ครอบคลุมตั้งแต่ 5Hz ~ 100 kHz (-3dB) ค่าความต้านทานขาเข้า 100 กิโลโอห์ม ความไวสัญญาณขาเข้า 1.5 โวลต์ สัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนดีกว่า 100 ดีบี และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 600 วัตต์ (อนึ่ง output transformers นั้นเป็นของ NORATEL SU 120A-30187 สามารถรองรับอัตรากำลังขับได้สูงถึง 100 วัตต์ ซึ่งทั้ง PSU transformer และ output transformers ล้วนสั่งทำเป็นพิเศษ ตามสเปคฯที่กำหนดโดย Copland)
CTA 506 มีขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับ “CTA 405” ซึ่งเป็นอินติเกรตแอมป์หลอดรุ่นสุดดัง ด้วยมิติภายนอก (กว้างxสูงxลึก) : 430x190x390 ม.ม. และน้ำหนักตัวที่มากถึง 28 กก.เลยทีเดียว ตัวเครื่องขึ้นรูปจากวัสดุโลหะไร้สนิม (Stainless Steel) เนื้อหนาให้ความแข็งแกร่งสูง โดยจะมีการกัดเป็นร่องโปร่งจำนวน 9 ร่องบนแผงหน้าเครื่องเพื่อช่วยในการระบาย-ถ่ายเทอากาศในขณะใช้งาน เสริมกับตะแกรงครอบด้านบนตัวเครื่องที่มีลักษณะโปร่งโล่งเป็นบางส่วน บนแผงหน้าเครื่องนี้ยังได้ติดตั้งปุ่มหมุน (rotary) ไว้เพียงปุ่มเดียวแค่นั้น ซึ่งเป็นแบบลูกบิด 2 จังหวะ ทำหน้าที่ Power ON/OFF อยู่ตรงกึ่งกลางแผงหน้าเครื่อง พร้อมด้วยดวงไฟ LED เล็กๆ สีส้มแดง ที่จะติดสว่างหากปุ่มหมุนแบบลูกบิดนั้นได้รับการปรับตั้งมาอยู่ในตำแหน่ง Power ON เพื่อเปิดสภาวะการใช้งานเครื่อง
ส่วนแผงหลังเครื่องนั้น นอกจากจะมีช่องเสียบรับสัญญาณขาเข้าจากปรีแอมป์ที่ผ่านการชุบเคลือบทองอย่างดีแล้ว ยังมีสวิทช์พิเศษที่มีตัวอักษรกำกับไว้ว่า LIGHT ติดตั้งอยู่ตรงตำแหน่งมุมบนด้านขวา ซึ่งจะทำหน้าที่ เปิด/ปิด แสงไฟประดับภายในตัวเครื่อง หรือ interior lights เพื่อเสริมบรรยากาศให้ดูสวยงามชวนมองในขณะใช้งานอีกด้วย ทั้งนี้ในส่วนของ PREAMP INPUT นั้น CTA 506 จะมีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบ RCA หรือ Unbalanced input และแบบ XLR หรือ Balanced input อย่างละ 1 ชุด (โดยไม่มีสวิทช์เลือกการใช้งาน หรือ Input Selector ว่าจะใช้เป็น Unbalanced input หรือว่า Balanced input แต่อย่างใด) ส่วนขั้วเสียบต่อสายลำโพงนั้นเป็นแบบชุบเคลือบทองอย่างดีของ WBT ที่ได้แยกการแทป (tab) สำหรับ 4 โอห์ม และ 8 โอห์มโดยเฉพาะ …อ้อ มีช่องเสียบสายไฟฟ้าเข้าเครื่องแบบ IEC – 3 ขา ติดตั้งอยู่ด้วยนะครับ (ซึ่งในการรีวิวของผมได้ใช้สายไฟฟ้าเข้าเครื่องของ MS HD POWER)
ผลการรับฟัง
…หลังผ่านพ้นช่วงเวลาของการรับฟังไปประมาณ 90 นาที “CTA 506” ให้สุ้มเสียงที่มีความปลอดโปร่งมากทีเดียว ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงความเนียนนุ่มไปพร้อมกัน เสียงทุกเสียงมีความลอยตัวไม่มีความอัดอั้น ช่วงย่านเสียงสูงสะอาด สดใส และทอดตัวไปยาวไกลสุดๆ รับรู้ได้ถึงมวลบรรยากาศที่อบอวลอยู่รอบๆชิ้นดนตรีได้ดีขึ้นมาก ให้ความระรื่นโสตประสาทเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ให้ความผ่อนคลาย สบายใจ การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการมั่วหรือสับสน ประดังประเด ซ้อนทับกัน – ความกระชับ ฉับไว แม่นยำในช่วงจังหวะจะโคน และความสดใสในน้ำเสียงที่ “CTA 506” ส่งมอบออกมาถือเป็น “จุดเร้า” ที่กระตุ้นห้วงอารมณ์การรับฟังให้รู้สึกเพลิดเพลินใจได้นานเท่านาน
เรา-ท่านจะรับรู้ได้ถึงข้อมูลเสียงต่างๆที่มากขึ้น-ชัดขึ้น สะอาดสะอ้านมากขึ้น สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดเสียงต่างๆ-แตกต่างจากที่เคยรับฟังจนคุ้นชินได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเสียงสอดแทรกเล็กๆน้อยอย่างเสียงปรบมือ-เสียงขยับเลื่อนเก้าอี้- เสียงพูดคุยกัน-เสียงแก้วน้ำกระทบกัน-เสียงเครื่องเก็บเงิน-เสียงกระทืบเท้าเบาๆ ล้วนปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ความอลังการของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมากว้างใหญ่จนจรดผนังห้องด้านข้าง ส่วนความลึกนั้นราวทะลุเลยผนังหลังห้องออกไปเลยจริงๆ ในขณะที่มิติความสูงนั้นบ่งบอกออกมาได้เยี่ยมยอดมาก
“CTA 506” จะทำให้คุณสามารถจับจังหวะจะโคนของการเดินเบสได้อย่างชัดแจ้ง กระฉับกระเฉง ควบคุมวรรค-ตอนได้อย่างรวดเร็ว-แม่นยำ ทั้งยังจำแนกแยกแยะลักษณะความต่างกันของเสียงเบสได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงความทรงพลัง-หนักหน่วงในแรงกระแทกกระทั้น มีเรี่ยวแรงปะทะ ที่สำคัญช่วงย่านเสียงกลางตอนบนต่อเนื่องไปจนปลายสุดโต่งของเสียงสูงที่รับฟังได้นั้น ให้ความหวานใส นวลเนียน เปิดโปร่ง ลอยตัว หางเสียงกังวานทอดยาวไกลมีความไหลระรื่นเป็นละอองอณูเสียงอย่างน่าฟัง
“CTA 506” ให้เสียงที่สะท้อนย้อนกลับจากผนังห้องบันทึกเสียงกลายเป็นเสียงแอมเบี้ยนซ์ของบรรยากาศที่บ่งบอกสภาพอะคูสติคได้อย่างสมจริงสมจังน่าทึ่งมาก ให้แยกแยะรายละเอียดที่แทรกซ้อนออกมาได้แจ่มชัด สัมผัสได้ถึงตำแหน่งแห่งที่ของเสียงนั้นๆ พร้อมทั้งปริมณฑลของเสียงแต่ละเสียงที่มีมวลอากาศแผ่กระจายรายรอบ – เสียงเครื่องเคาะจังหวะสารพัดอย่างเป็นเสียงที่ “ผุดโผล่” ขึ้นมาอย่างฉับไว กระทั่งเสียงแส้ที่กวาดไปบนผิวฉาบนั้น ทำเอาขนลุกเกรียวเลยทีเดียว ทั้งยังตอบสนองช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่ลงไปได้ลึก และอิ่มใหญ่ เข้มข้นควบคู่กัน การบ่งบอกสภาพอิมเมจก็ดีมากๆ พร้อมด้วยวงเวทีเสียงที่สมจริง สเกลเสียงก็ไม่เกินจริง -เล็กเป็นเล็ก -ใหญ่เป็นใหญ่
ในขณะที่ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง-แหลมนั้น ให้ความสดใส เปิดโปร่ง โล่งกระจ่าง สะอาดสะอ้านมากทีเดียว หางเสียงมีความกังวานและทอดตัวยาวไกลไม่หดสั้น ทั้งยังอบอุ่นมีมวลอากาศ ให้ความเป็นตัวเป็นตนของสรรพเสียง ยิ่งเมื่อรับฟังจากเพลงร้อง (vocal) โอ้…ช่างเป็นเป็นเสียงร้องที่มีวิญญาณมีตัวมีตนของคนเราจริงๆ เสมือนเปล่งออกมาจากปากอย่างมีลมหายใจ (breathing) เข้าได้ถึงห้วงอารมณ์ของการขับร้อง พร้อมด้วยการออกเสียงอักขระชัดเจนมาก บ่งบอกรายละเอียดความแตกต่างกันของแต่ละบุคลิกเสียงนักร้องได้ดี มีการแยกแยะอาณาบริเวณเสียงของกลุ่มนักร้อง กระทั่งเสียงนักร้องล้วนมีมวลมีน้ำหนักมีตัวตนของแต่ละคนๆไป ปราศจากความคลุมเครือ
“CTA 506” จะบ่งบอกสภาพเสียงที่มีมวลอากาศห้อมล้อม อบอวล ทำให้รับรู้ได้ถึงสภาพบรรยากาศของโถงแสดงดนตรีที่ถูกบันทึกเสียงมา ได้ราวกับเรา-ท่านกำลังนั่งฟัง-ดื่มด่ำในอรรถรส ท่ามกลางห้วงอารมณ์ดนตรี ณ โถงแสดงดนตรีนั้นๆได้อย่างสมจริงมาก สามารถรับรู้อิมเมจเสียงที่แยกแยะอยู่ตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น ตรงนู้น ราวเป็น 3 มิติที่แยกเข้าไปเป็นชั้นๆ (Layered) ในสภาพเวทีเสียงอันแผ่กว้าง ถอยลึก และสูงอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งความรู้สึกโอบล้อมทางเสียงอย่างเสมือนจริง ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี (หรือสรรพเสียงใดก็ตาม)
“CTA 506” สามารถสำแดงสมรรถนะในการจำแนกแยกแยะ “ความลึก” ของตำแหน่งเสียงได้อย่างโดดเด่น เป็นแถว เป็นชั้น ไล่ระดับ ทะลุเลยผนังด้านหลังลำโพงออกไป พร้อมด้วย “ความสูง“ ของตำแหน่งแห่งที่ในแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นอย่างสมจริงไม่มีเกินเลย ทางด้าน “ความกว้าง” นั้นโอฬารยิ่งนัก เพราะแผ่ขยายออก จนมีสภาพเวทีเสียงที่กว้างใหญ่ (ผนังจรดผนัง) สรรพเสียงที่รับฟังมีความ “หลุดลอย” แยกเป็นชั้นๆอย่างน่าทึ่ง พร้อมด้วยการบ่งบอกสภาพมวลอากาศในอณูเสียงรับรู้ได้ชัดเจน
“CTA 506” ให้ความสมจริงในทุกสรรพเสียงที่รับฟังอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งทรงพลัง อิ่มแน่น และพละพลิ้ว ฉ่ำชุ่ม เนียนนุ่ม ละมุนละไม ให้ความไหลลื่น กลมกลืนต่อเนื่อง พร้อมด้วยความฉับพลันทันใดของเสียงใดๆได้อย่างจะแจ้ง สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อยๆที่สอดแทรกเป็นอณูเสียงอย่างไม่ต้องเงี่ยหูฟัง สัญญาณเสียงฉับพลัน จะผุดโผล่อย่างฉับไว และให้อาณาบริเวณเสียงที่มีตัวตน ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ไม่เบียดบังซ้อนทับกัน แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นซ้อน-แทรกพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นได้ ไม่ถูกเบียดบัง หรือกลบเกลื่อนจนเลือนหาย (กลมกลืน) ไป ทั้งยังให้ความกังวานหวานพลิ้วในทุกอณูเสียง เสียงทุกเสียงที่รับฟังสัมผัสได้ถึงความมีตัวตนของเสียง เป็นเสียงที่มีวิญญาณ-มีชีวิต-มีลมหายใจ
อนึ่งการมี Preamp Input ให้เลือกใช้งานได้ทั้งแบบ Balanced กับ Unbalanced อย่างละ 1 ชุดนั้น (ไม่มี selector ให้เลือกว่า จะใช้งานชุดใด จึงต้องใช้วิธีถอดสายสัญญาณชุดที่มิได้ใช้งานออกนะครับ) ทำให้ต้องลองฟังเปรียบเทียบกันดูเสียหน่อยว่า แบบ Unbalanced จะให้ “ความต่าง” จากแบบ Balanced หรือไม่ – ซึ่งเมื่อรับฟังเปรียบเทียบลักษณะเสียงที่ได้จากช่องเสียบต่อแบบ Balanced กับ Unbalanced แล้วพบว่า ช่องเสียบแบบ Balanced จะให้เบสที่มี “เนื้อเสียง” กระชับกว่าที่รับฟังได้จากช่องเสียบแบบ Unbalanced อยู่บ้างเล็กๆ ทว่าช่วงย่านเสียงกลางและแหลมจะให้ความโปร่งกระจ่าง-จะแจ้งยิ่งกว่า หากแต่ในแง่การบ่งบอกสภาพอิมเมจ-ซาวด์สเตจนั้นไม่ต่างกัน จึงพอสรุปสั้นๆ ได้ว่า สไตล์เสียงที่ได้รับจากช่องเสียบต่อ RCA ออกจะอิ่มข้น อวบหนากว่านิดหน่อย แต่หากชอบฟังในแบบจับรายละเอียด ช่องเสียบต่อ XLR จะระยิบระยับกว่านะคร้าบ….
สรุปส่งท้าย
ขอให้ใช้เวลารันอินอย่างน้อยๆ 60 นาทีขึ้นไปนะครับ จึงจะรับฟังได้เพลินใจจาก “CTA 506” มิฉะนั้น “หัวเสียง” อาจจะรู้สึก “ทู่” ไปสักนิด ฟังไม่ค่อยจะเข้าหู-สักเท่าไหร่ …แต่หลังจาก 90 นาทีผ่านพ้นไป อะไรๆจะวิเศษสุดจริงๆ ชนิดครบเครื่องเลยทีเดียว – ไม่อืดอาด ไม่เนิบนาบ ให้ความละเมียดละไม …ไหลลื่นจนจมกลืนไปกับเสียงที่รับฟัง (Involving) อย่างเพลิดเพลินใจจริงๆ สุ้มเสียงอิ่มแน่น ให้ความกระชับ จับจังหวะท่วงทำนองได้แม่นยำ ให้ความรุกเร้าในจังหวะจะโคน ทั้งยังให้ความเปิดเผยในรายละเอียดเสียงได้อย่างจะแจ้งมาก
“CTA 506” นั้นให้ “บุคลิกเสียง” ที่มีความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ชื่นมื่นหัวใจ ได้ฟังแล้วติดหู ติดใจ อยากจะฟังเรื่อยไป… ในขณะเดียวกันก็มีความฉับไว สดใส ไหลระรื่น และโปร่งกระจ่าง พร้อมกับความรู้สึกรุกเร้าใจ …ขอยืนยันว่า “CTA 506” นั้นมิใช่แอมป์หลอดฯประเภท Vintage sound ที่ได้รับอิทธิพลจากบุคลิกเสียงของแอมป์หลอดฯยุคเก่า แบบแว่วหวาน เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับจาก COPLAND นี้จะเป็นบุคลิกเสียงแอมป์หลอดฯที่อบอุ่น มีเนื้อมีหนัง สดสว่าง ใสกระจ่าง สามารถตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลันได้อย่างฉับไว ไร้อาการเฉื่อย-เนือย ให้ความมีชีวิตชีวา พร้อมด้วยมวลอากาศห้อมล้อม และความมีตัวตนของทุกสรรพเสียง
“CTA 506” สามารถทำให้เรา-ท่านได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียงเพลงและดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะ ความฉับพลันทันใด รวมทั้งน้ำหนักเสียงได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา ซึ่งจากการรับฟังแผ่นเสียงชุด จรัล มโนเพ็ชร โฟล์คซองคำเมือง (อัลบั้ม 2 แผ่น/ชุดของนิธิทัศน์ฯ) ทำให้ผมได้รับฟังใน “ความต่าง” จากชุดเครื่องเสียงที่เคยรับฟังอยู่ประจำ
… “CTA 506” ได้ทำให้ผมเข้าถึงซึ่งความเป็นเสียง 3 มิติที่รับรู้ได้กระจ่างชัด ทั้งกว้าง-สูง-ลึก ‘ชนิดไม่ต้องหลับตาฟัง ในขณะที่สุ้มเสียงร้องของทั้งคุณจรัล มโนเพช็ร และคุณสุนทรี เวชานนท์นั้นอวบอิ่ม ละเมียดละไม มีน้ำนวล ตำแหน่งเสียงร้องแยกออกจากแนวตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงเวทีเสียงชัดแจ้งมาก พร้อมด้วยความอบอุ่น มีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ การออกอักขระเสียงชัดเจนทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมา เสียงกีต้าร์ให้ความเป็นตัวเป็นตน รวมทั้งเสียงซึ้งก็กังวานน่าฟัง ทั้งยังให้รับฟังได้ถึงความกังวานแว่วเป็นระลอกจากเสียงสะท้อนของสภาพอะคูสติคในห้องบันทึกเสียง …อึ้งครับ ขอบอกจากใจ
อุปกรณ์ร่วมใช้งาน :- เครื่องเล่นแผ่นซีดี Marantz : CD/DA-12; เครื่องเล่นแผ่นเสียง Clear Audio : Emotion; หัวเข็ม MC DENON : DL-103M; สเตพ-อัพ ทรานส์ฟอร์เมอร์ (SUT) ของ ALTEC/PEERLESS 15095A (หม้อแดง); ลำโพง JBL 4430; สายสัญญาณ Classic ของ Tchernov และ สายลำโพง Ultra Black ของ Tellurium Q
อุปกรณ์อ้างอิง :- XAV : EMX -9; Entreq : Ground Box รุ่น MinimUs Silver + Earth Cable รุ่น Silver; MagicBoxAudio : Lunar 1; Manet รุ่น IRG-1200