Garoonchart Bukkavesa
ผมเป็นสมาชิก Netflix แล้ว มีคลังหนังมหาศาลจนดูไม่ทันแล้ว การที่จะต้องสมัคร Disney+ hotstar อีก เลยสองจิตสองใจ แม้ว่าค่ารายเดือนจะไม่แพงอะไร แถมหนังจะเป็นค่าย Disney ล้วน ซึ่งบ่งบอกตามชื่อค่าย เลยยิ่งไม่เร่งเร้าอะไร
ผมเชื่อว่า Netflix มีหลายค่าย ยกเว้น Disney ที่สร้างใหม่ น่าจะมีความหลากหลายดีกว่า แต่ท้ายที่สุด ก่อนจะเขียน ต้องสมัครดูจริง เพื่อให้ได้ “ลองจริง” ไม่ใช่มโนมั่วๆ เต้าไปเรื่อยแบบที่เขาชอบทำกัน
วิธีการตลอดจนรายละเอียดผมขอข้ามไปนะครับ
เมื่อคุณสมัครเรียบร้อย ในหน้าหลัก…แบ่งเป็นประเภท เช่น หนังใหม่ล่าสุด, จักรวาลมาร์เวล, ไฮไลต์ปี 2021, หนังเด็ก, เรียลลิตี้, สารคดี ฯลฯ ขึ้นกับว่าใครถนัดค้นแบบไหน หรือจะป้อนชื่อหนังก็ว่ากันไป โดยรวมคล้าย ๆ กันหมดละครับ
ซิสเต็มที่ลอง ส่วนการเทียบในที่นี้คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเทียบกับการชม Netflix
ดูจากมือถือ (Hauwei P10plus)
ภาพ เลือกคุณภาพได้ สีสันอิ่ม สดใส โมชั่นดี แสงเงาสมจริง ขึ้นกับคุณภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นที่คุณใช้ รวมถึงการปรับแต่งภาพด้วย
เสียง เสียงเบามากเมื่อฟังจากลำโพงในตัว ต้องเสียบหูฟังจึงจะดังดี คุณภาพขึ้นกับหูฟังที่ใช้ แต่ได้บรรยากาศโอบล้อมดีเกินคาด รู้สึกอยู่ในเหตุการณ์ แพนทิศทางถูกต้อง มีซ้ายมีขวาที่ดี
เชื่อว่าคนทั่วไปต้องพึงพอใจครับ ยิ่งถ้ามือถือใครรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็น Dolby Atmos น่าจะได้รับอรรถรสของระบบเสียงรอบทิศได้ดียิ่งขึ้น
ดูจากจอ LED TV (LG43UM7300)
ภาพ เมื่อปรับแต่งแล้ว อ้างอิงเรื่อง (Shang-Chi / Ant-Man and The wasp) สีสันอิ่ม สดใส รายละเอียดเต็มตากว่าดูผ่านมือถือ ยิ่งถ้าคุณใช้จอใหญ่ 65-77 นิ้วจะยิ่งเต็มตา โมชั่นราบรื่นดี แสงเงาสมจริง แต่ถ้าบางรายการทำมาไม่ดีพอ การแพนจะสะดุดบ้าง มีรอยขยักของเส้นโค้งบ้าง ทำให้เสียอารมณ์พอสมควร กับ Netflix ผมไม่เจอปัญหานี้แม้ว่าต้นฉบับจะเป็นเพียง Full HD ก็ตาม
เสียง เนื่องจากผมต่อสาย HDMI เข้าจอ และจากจอต่อสาย Optical มาเข้ากล่องแอมป์ สัญญาณจึงค่อนข้างเบา (คล้ายกับฟังผ่านสมาร์ทโฟน) ปกติเร่ง 4 ตอนนี้ต้องเร่ง 8.5 ขึ้นไป ดุลเสียงจะออกสุภาพ แหลมกลมกล่อมไม่เปิดโปร่ง จะเรียกว่าเก็บตัวไปนิดก็ว่าได้ ถ้าเติมความกรุ๊งกริ๊งอีกนิดจะดี เสียงกลางสะอาด เบสอิ่มแน่นดี การแยกแยะยังดูคลุมเคลือ ไม่เด็ดขาดเท่าที่ควร
ทั้งหมด ระบบภาพ ถือว่ามาถูกทาง เนื่องจากคนทั่วไปอาจจะฟังไม่ออกมากนัก แต่ภาพดูง่ายกว่าว่าชัดหรือไม่ชัด เขาเลยมีโหมดคุณภาพของภาพให้เลือก (เมื่อเลือกดีสุดย่อมจะเปลืองพลังงานของแบตเตอรี่นั่นเอง) ส่วนใครต่อเข้าจอทีวี จะได้ความสดใส ความชัดเจนแบบ HD ไปจนถึง 4K ขึ้นกับแต่ละรายการ รวมถึงจอภาพของแต่ละบ้านเองด้วย ข้อเสียมีควรระวังคือมีโลโก้ Disney ขึ้นมาที่มุมขวาบน นาน ๆ อาจจะทำให้จอเบิร์นได้
นอกจากนั้น เมื่อหยุดภาพนาน ๆ ภาพค้างไว้ขณะนั้น อาจเกิดจอเบิร์นได้ ขณะที่ Netflix จะมีการปรับมาฉายภาพวิ่งหนังอื่น ๆ แทน หากหยุดนาน ๆ ตรงนี้ผมไม่ค่อยชอบนัก
ระบบเสียง ถ้าใครต่อเต็มสูบ ผ่านเอ / วี รีซีฟเวอร์โดยตรง ย่อมจะได้อรรถรสของขั้นต่ำ 5.1 แชนแนลที่ดีกว่าห้องนั่งเล่นของผมที่เป็นเพียง 2.1 แชนแนล รวมถึงถ้ารองรับ Dolby Atmos ย่อมจะได้คุณสมบัติของเสียงที่เต็มสูบยิ่งขึ้น
โดยที่จุดสำคัญคือ “เนื้อหา” นั่นละครับที่จะเป็นข้อสรุปของแต่ละคนว่าต้องสมัคร Disney+ หรือไม่? ซึ่งถ้าชื่นชอบพวก Star wars / Marvel สารคดีต่าง ๆ รวมถึงหนัง Disney เองตั้งแต่ยุคเก่ามาจนปัจจุบัน ถือว่ามีให้ชมจุใจ ทั้งภาพยนตร์หรือซีรีส์ย่อย
คราวหน้าจะมาแนะนำสิ่งที่น่าสนใจใน Disney+ hotstar กันอีกทีครับ