- เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ก้าวล้ำ และดีเยี่ยม
- ผสมผสานเทคโนโลยี AI มาเสริมประบบประมวลผลด้านเสียงแบบเรียลไทม์ DSEE EXTREME
- เพลิดเพลินกับการฟังเพลงคุณภาพดีที่สุดพร้อมทำกิจกรรมต่างๆโดยโหมดปรับเสียงอัตโนมัติด้วยฟังก์ชั่นอัจฉริยะ Adaptive Sound Control ที่จะปรับเปลี่ยนเฉพาะบุคคล สถานที่ และ Speak-to-Chat ที่จะหยุดเพลงอัตโนมัติ เพียงคุณเริ่มบทสนทนาโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- ออกแบบให้สวมสบาย ใช้งานได้สะดวกสบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ1ครั้ง และชาร์จแบบเร่งด่วน เพียง 10 นาที ใช้ได้นานถึง 5 ช.ม.
(กรุงเทพฯ : 7 สิงหาคม 2563) – บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าสร้างมาตรฐาน และประสบการณ์ใหม่ของการฟังเพลง พร้อมตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำนวัตกรรมความบันเทิงคุณภาพสูง ด้วยการเปิดตัว WH-1000XM4 หูฟังไฮเรสออดิโอไร้สายแบบครอบหูเจนเนอเรชั่นที่ 4 ในตระกูล 1000X Series ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดความสำเร็จ มาจากหูฟังรุ่น WH-1000XM3 โดยมีการยกระดับความสามารถในการตัดเสียงรบกวนให้ดียิ่งขึ้น
ในครั้งนี้โซนี่มีการเพิ่มเติมในส่วนของฟังก์ชั่นใหม่ๆเข้ามาช่วยในการปรับแต่งและควบคุมเพลงให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation และระบบปิด-เปิดรับเสียง รอบข้างอย่าง Ambient Sound อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี AI สุดล้ำเสริมฟังก์ชั่นการทำงานอันชาญฉลาดดล้รอมกว่าเดิมารฟังเพลงให้เหณภาพการฟังเพลงให้เหหนือไปอีกขัน เพื่อมอบประสบการณ์ฟังเพลงด้วยรายละเอียดเสียงที่เหนือกว่า เพียบพร้อมด้วยคุณภาพตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การฟังเพลงคุณภาพสูงอย่างทั่วถึง
ความเงียบที่เหนือกว่า และน้ำเสียงที่ยอดเยี่ยม
ด้วยคุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยมและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดที่อยู่ในหูฟังรุ่นใหม่ WH-1000XM4 จะช่วยในการลดเสียงความถี่สูงและกลางลง ประกอบกับไมโครโฟน 2 ตัวที่อยู่บนหูฟังแต่ละข้างจะทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนผสานกับจุดเด่นของเทคโนโลยี Dual Noise Sensor ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกรองเสียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าเดิม
และส่งผ่านไปยังระบบตัดเสียงรบกวนแบบ HD Noise Cancelling Processor QN1 โดยทำงานร่วมกับชิปแบบใหม่ ที่จะเริ่มวิเคราะห์ตั้งแต่การเชื่อมต่อด้วย BLUETOOTH® Audio SoC (System on Chip) ที่จะตรวจจับและแยกปรับอัตราส่วนสัญญาณเสียงเพลง และสัญญาณรบกวน ตลอดจนสภาพอคูสติกในระหว่างทางเดินเสียงจากตัวขับไดรเวอร์จนถึงหูของเรา ซึ่งทำงานละเอียดมากกว่า 700 ครั้งต่อวินาทีด้วยอัลกอริธึ่มแบบใหม่ที่มีอยู่ใน HD Noise Cancelling Processor QN1
โดยทำการจัดลำดับการประมวลผลใหม่แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ตัดเสียงรบกวนตามสภาพอะคูสติกภายในพื้นที่หรือสถานที่ต่างๆตามจริงเพื่อการทำงานของระบบตัดเสียงรบกวนได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงโปรด และหลีกหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ WH-1000XM4 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเสียง DSEE ExtremeTM ที่ได้รับการต่อยอด และพัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้านี้ เป็นการชดเชยรายละเอียดเสียงที่อาจสูญหายไปเมื่อไฟล์เพลงดิจิตอลถูกบีบอัด โดยใช้ EDGE-AI ที่พัฒนาร่วมกับทางโซนี่มิวสิค เข้ามาเป็นเครื่องมือในการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
ในขณะเดียวกันยังเปิดประสบการณ์ฟังเพลงที่สมจริงกว่าด้วยระบบเสียง 360 Reality Audio ให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง เสมือนมีศิลปินคนโปรดมายืนร้องเพลงอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว โดยสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone และ Android ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect ทั้งนี้เพื่ออรรถรสในการฟังเพลง ที่สมบูรณ์แบบสำหรับแต่ละบุคคล
มอบประสบการณ์การฟังเพลงอันชาญฉลาดไม่เหมือนใคร
ด้วยฟังก์ชั่นอัจฉริยะ Adaptive Sound Control โดยเพิ่มในส่วน Location Recognition นอกเหนือจากกิจกรรมที่ทำ หูฟัง WH-1000XM4 จะสามารถเรียนรู้ได้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่ จากนั้นระบบจะจดจำตำแหน่งและปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะกับสถานการณ์นั้น ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป
ความพิเศษของ Adaptive Sound Control จะเรียนรู้ และแนะนำการตั้งค่าเสียงเพลงโดยอัตโนมัติ โดยตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน พิกัด สภาพเสียงที่แวดล้อม และกิจวัตรประจำวัน หรือผู้ใช้สามารถเลือกปรับเองผ่านแอพพลิชั่น Sony Headphones Connect ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก และง่ายดาย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงตลอดวัน และสามารถสนทนาโต้ตอบได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกอีกด้วย
ตอบโจทย์การใช้ได้สะดวกสบายในทุกวัน
สำหรับ WH-1000XM4 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด Speak-to-Chat ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง เมื่อเริ่มการสนทนาในขณะที่กำลังฟังเพลง หูฟังจะหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติทันที พร้อมเปิดไมค์รับเสียงจากภายนอกเข้ามาให้คุณได้ยินเสียง จึงสามารถพูดคุยกับคู่สนทนาได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง หรือกดปุ่มควบคุมแต่อย่างใด และหูฟังจะกลับมาทำงานอีกครั้งภายใน 30 วินาที [1] หลังจากจบบทสนทนา
เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาจาก Quick Attention ของรุ่นเดิมที่ ผู้ใช้งานสามารถรับฟังเสียงจากภายนอกได้ในระหว่างการใช้งานหูฟัง เพียงวางมือแตะที่ตัวหูฟัง เสียงเพลงภายในจะถูกลดระดับความดังลง และเปิดรับเสียงรอบข้างในทันที ซึ่งทำให้ได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกผ่านเข้าไปในหูที่ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับคนรอบข้า งและเพิ่มความปลอดภัยในขณะเดินทาง
ยิ่งไปกว่านั้น WH-1000XM4 ยังให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ฟังเพลงได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Wearing Detection จำนวน 2 จุดที่ฝังอยู่บนตัวหูฟังจะตรวจจับการสวมใส่ เมื่อคุณถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่นอัตโนมัติ และเมื่อคุณใส่หูฟังกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพลงจะเล่นต่อเนื่องเองโดยอัตโนมัติเช่นกัน โดยวิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดแบตเตอรี่เป็นอย่างดีอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ WH-1000XM4 มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Precise Voice Pickup ซึ่งเป็นการควบคุมไมโครโฟนทั้งห้าตัวในหูฟังให้เข้ากับการประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง เพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ชัดเจน คมชัด และแม่นยำให้กับสายสนทนาได้เป็นอย่างดี โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี และการใช้งานในฟังก์ชั่น Speak-to-Chat
การออกแบบได้อย่างลงตัวเหนือระดับ
WH-1000XM4 ยังเป็นหูฟังที่ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่สบายหูและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ ด้วยตัวเอียร์แพดขนาดใหญ่ที่ผลิตด้วยวัสดุที่มีความหนานุ่มแน่น กระชับสบายหู จะช่วยลดแรงกด รวมถึงช่วยกระจายน้ำหนัก เพื่อเพิ่มผิวสัมผัสกับตัวเอียร์แพดของหูฟัง ทำให้สวมใส่ได้พอดี อีกทั้งส่วนคาดศีรษะมีความโค้งกระชับ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth® ได้ถึง 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน และเมื่อมีสายเข้าหูฟังของคุณจะรู้ได้ทันทีว่าอุปกรณ์ใดที่กำลังมีสายเรียกเข้าและจะทำการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นั้นๆได้ในทันที ทั้งนี้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานและสามารถสลับการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ที่ต้องการได้ง่ายเพียงปุ่มสัมผัส
รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth® เวอร์ชั่น 5.0, LDAC และ Near Field Communication (NFC) เพื่อให้เชื่อมต่อกับหูฟังได้โดยตรง ขณะเดียวกันยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วยไดร์เวอร์ขนาด 40 ม.ม. ที่ให้เสียงที่มีความคมชัดสูง
ทำให้มั่นใจได้ว่าหูฟังจะสามารถครอบคลุมทุกย่านเสียง รวมถึงรองรับจังหวะบีทของดนตรีได้หนักหน่วงและถ่ายทอดเสียงได้ทุกย่านความถี่เต็มช่วงได้สูงถึง 40 kHz พร้อมขุมพลังแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบ Quick Charge ที่สามารถฟังเพลงแบบต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเพียง 10 นาที ทั้งนี้
ยังรองรับ Fast Pair ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google ที่จะช่วยให้คุณค้นหาตำแหน่งล่าสุดของตัวหูฟังโดยกำหนดเป็นเสียงเรียกเข้าได้อีกด้วย WH-1000XM4 ยังรองรับการใช้งานผ่าน Google Assistance, Amazon Alexa และ Siri เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาและเลือกฟังเพลงโปรดได้อย่างรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น
WH-1000XM4มีให้เลือกใช้งาน 2 สี คือสีดำ และสีเงิน พร้อมวางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ศกนี้ เป็นต้นไป
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 02-715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th และทดลองประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ได้โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร
[1] สามารถตั้งค่าผ่านทางแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect