สืบเนื่องจากการได้เข้าไปเห็นภาพแอมปลิฟายเออร์ตัวหนึ่งโดนใจอย่างจังใน Mono & Stereo ทำให้ต้องทำการสืบค้นหาข้อมูลจนพบว่า เป็นแอมป์หลอดฯ รุ่นหนึ่งของแบรนด์ที่ใช้ชื่อว่า Thomas Mayer
Thomas Mayer เป็นใคร? มีความเชี่ยวชาญด้านหลอดสุญญากาศจากไหน? โด่งดังเป็นที่กล่าวขานด้วยแนวทางการออกแบบเช่นไร? แบรนด์นี้มีที่มาจากไหน?…เราค่อยๆ มาทำความรู้จักกันครับ
Thomas Mayer บอกว่า ตัวเขานั้น เป็นคนที่หลงใหลในดนตรีและเทคโนโลยีการจำลองซ้ำเสียงดนตรี (Music Reproduction Technology) มาตลอด หลังจากเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ตัวเขาก็ใช้เวลาราว 20 ปีในอุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์และไฟแสงสว่าง (Microelectronics and Lighting Industry) แต่ความหลงใหลที่แท้จริงของตัวเขานั้น คือ การสร้างและปรับแต่งอุปกรณ์เสียงที่เป็นของตัวเอง
ความสนใจของ Thomas Mayer ในเรื่องของการขยายเสียงหลอดสุญญากาศเริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 และตัวเขาได้เริ่มพัฒนาและสร้างเครื่องขยายเสียงหลอดฯ รวมทั้งปรีแอมป์ของตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว กิจกรรมจากที่เป็นงานอดิเรกนานหลายปี ได้กลายมาเป็นอาชีพของตัวเขาด้วยการก่อตั้ง VinylSavor ในปี 2008
Thomas Mayer ยังได้บอกว่า แม้ว่าพื้นฐานการศึกษาของตัวเขานั้นจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ด้านดิจิทัล (Digital Electronics) แต่แหล่งเพลงโปรดของตัวเขานั้นคือ แอนาล็อก ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากชื่อบริษัทของตัวเขานั้น ที่มีคำว่า “Vinyl” ย่อมาจากแผ่นเสียงไวนิล และคำว่า “Savor” มาจากคำกริยา “To Savor” ซึ่งเป็นคำพ้องความหมายกับคำว่า “To Enjoy”
Thomas Mayer ยังได้เล่าถึงตอนที่ตัวเขาต้องตัดสินใจว่า จะสร้างแบรนด์เครื่องขยายเสียงของตัวเองอย่างไร เพื่อนคนหนึ่งที่แสนดีคนหนึ่งของเขา ได้แนะนำว่า ควรใช้ชื่อของตัวเองแทนชื่อ VinylSavor ซึ่งตอนนั้นตัวเขาเองไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เนื่องจากชื่อของตัวเขาก็เป็นชื่อที่คนเยอรมันใช้กันทั่วไป เช่น John Smith อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะตัวเขานั้นไม่เพียงแค่สร้างและทดสอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาในการยืนหยัดเคียงข้างผลิตภัณฑ์ด้วยชื่อของตัวเขาเองอีกด้วย นี่จึงเป็นที่มาของแบรนด์ Thomas Mayer แห่งเยอรมนี

Thomas Mayer ยังได้บอกอีกว่า ในปี 2013, ตัวเขาได้ติดต่อกับ ELROG Elektronenröhren GmbH & Co KG Co.,Ltd. ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลอดสุญญากาศที่เพิ่งเริ่มพัฒนาและผลิตหลอดสุญญากาศสำหรับเครื่องเสียงโดยเฉพาะ ‘Audio Tubes’ ขึ้นมา เนื่องจากหลอดฯที่ผลิตในเยอรมนีเหล่านี้มีคุณภาพเสียงที่เหนือกว่าหลอด NOS ซึ่งนั่นทำให้ ตัวเขาเริ่มใช้หลอด 211 และ 845 ของ ELROG และยังได้จัดจำหน่ายหลอดฯ ของ ELROG ไปทั่วโลก
…ต่อมาเมื่อ ELROG เผชิญกับภาวะล้มละลายในปี 2016 การตัดสินใจของ Thomas Mayer ที่จะกอบกู้ความรู้และเครื่องจักรการผลิต จึงถือเป็นการตัดสินใจที่เป็นไปโดยธรรมชาติ สิ่งนี้นำไปสู่การก่อตั้งบริษัทที่สองของ Thomas Mayer นั่นคือ Deutsche Elektronenröhren Manufaktur GmbH ซึ่งยังคงผลิตหลอดสุญญากาศสำหรับเครื่องเสียงภายใต้ชื่อแบรนด์ ELROG

Thomas Mayer นั้นอยู่ในมิวนิก เป็นผู้ชื่นชอบหลอด DIY โดยเฉพาะแอมป์หลอดฯ SE (Single-Ended) จากความที่ตัวเขาไม่พอใจกับอุปกรณ์ที่มีจำหน่ายในตลาดเครื่องเสียง เขาจึงได้สร้างแอมป์ของตัวเองขึ้นมา โดยใช้เทคนิคที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน…
Thomas Mayer นั้นชื่นชอบแนวทางของ Choke Input Filters มากกว่า Capacitor Input Filters ที่มักคุ้นกันทั่วไป โดยปกติแล้วเลือกใช้หลักการ LC Filter Stages หลายสเตจสำหรับแหล่งจ่ายไฟ, Filament Supplies, DC Filtering รวมไปถึงการเชื่อมต่อหม้อแปลง (Interstage Transformer Coupling) ระหว่างไดรเวอร์และหลอดเอาต์พุต อันเป็นที่ยอมรับของบริษัท Lundahl แห่งสวีเดน นอกจากนี้ยังใช้หม้อแปลงเอาต์พุต Lundahl หรือ Tango (เวอร์ชัน Tango ราคาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย) อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ทางเสียงที่ได้รับ พิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า Thomas Mayer นั้นคิดถูก ทว่าการออกแบบของเขานั้น หนักเอาการ เนื่องจากน้ำหนักของหม้อแปลงที่ใช้ กระนั้น แอมป์ของ Thomas ถูกออกแบบ-สร้างทุกอย่างขึ้นมาโดยใช้แหล่งจ่ายไฟสามเฟส เนื่องจากในความเห็นของ Thomas แล้ว นี่คือ แหล่งจ่ายไฟที่ดีที่สุดที่มีอยู่ แต่ก็แน่นอนว่า เต้ารับไฟฟ้าที่เหมาะสมนี้ ไม่ได้เป็นมาตรฐานในครัวเรือนทั่วไป

ทว่าต่อมา Thomas ได้รับแรงบันดาลใจจากการอภิปรายกัน (Discussion) ในฟอรัมเสียงของเยอรมัน (German Audio Forum) จึงตัดสินใจออกแบบแอมป์หลอดฯ สเตริโอ SE ในรูปแบบชุดคิท ราคาประมาณ 1,000 ยูโร โดยใช้หลอดเอาต์พุต 6CB5A ที่ใช้แหล่งจ่ายไฟเฟสเดียวอย่างเช่นทั่วไป เป้าหมายของตัวเขาไม่เพียงแต่ท้าทายแอมป์หลอดจีนทั่วไปที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างแอมป์หลอดฯ ที่ให้เสียงดีขึ้น เชื่อถือได้มากขึ้น และปลอดภัยทางไฟฟ้ามากขึ้นด้วย

พูดแล้วทำเลย (Said and Done.) ในเวลาไม่กี่เดือน Thomas ก็พัฒนาแอมป์ชุดคิทตามที่ต้องการได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้น Thomas ก็ได้รับการตอบรับเชิงบวกต่อแอมป์ ‘ระดับเริ่มต้น’ ตัวแรกสุดนี้ (First ‘Entry Level’ Amp) ดังนั้นเขาจึงออกแบบแอมป์รุ่นใหม่เต็มระบบในแบบชุดคิท รวมถึงปรีแอมป์ พร้อม RC Phono โดยใช้แหล่งจ่ายไฟแบบเฟสเดียวทั่วไป ซึ่งนั่นได้เพิ่มความตื่นเต้นให้กับการประกอบแอมป์หลอดด้วยตัวเอง ผู้ที่ไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองในการสร้างแอมป์เวอร์ชันเต็มไม่ต้องกังวล เนื่องเพราะ Thomas พร้อมให้ความช่วยเหลือระดับมืออาชีพในการประกอบแอมป์ที่ต้องการได้อย่างสมบูรณ์