Test Talk : Canton Vento 30 Stand-Mount Loudspeaker สืบสานตำนานเสียงอันทรงพลัง!!!

0

พิพัฒน์ คคะนาท • [email protected]

เป็นอีกหนึ่งลำโพงคุณภาพจากเยอรมนี ที่เข้ามาให้นักเล่นเครื่องเสียงบ้านเราได้สัมผัสคุณภาพกันมานานพอประมาณแล้ว แม้จะอยู่ในระดับเรียบๆ ไม่หวือหวา ทว่า, ก็มีกลุ่มนักเล่นที่ชื่นชอบบุคลิกและน้ำเสียงของลำโพงค่ายนี้อยู่ไม่น้อย ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือนอกจากจะมีคุณภาพเสียงน่าชื่นชมแล้ว ยังมีระดับราคาที่กลุ่มนักเล่นส่วนใหญ่เอื้อมถึง รวมทั้งมีซีรีส์ที่ครอบคลุมการใช้งานอย่างครบถ้วน ทุกระดับราคา ตลอดจนมีให้เลือกรองรับทุกพื้นที่ใช้งานภายในบ้าน หรือในแต่ละพื้นที่ของห้องที่มีปริมาตรแตกต่างกันไป

ไม่ว่าจะเป็นชุดลำโพงสำหรับระบบสเตริโอ 2-แชนเนล หรือชุดลำโพงระบบเสียงมัลติ-แชนเนล สำหรับโฮม เธียเตอร์ รวมไปถึงชุดลำโพงเพื่อการดูหนังและฟังเพลงในซิสเต็มเดียวกันก็ตาม

ภายใต้นิยามของแบรนด์ที่ว่า German Loudspeaker Tradition นั้น Canton ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในยุทธจักรลำโพงตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของทศวรรษที่ 70s ที่เมื่อนับถึงวันนี้ก็มีอายุร่วมครึ่งศตวรรษเข้าไปแล้ว ซึ่งกับการที่มีก้าวย่างอยู่ในวงการมาจนถึงปัจจุบัน ย่อมตอกย้ำความมั่นคงทั้งในแง่ของแนวคิด ประเพณีปฏิบัติในการออกแบบ รวมทั้งการผลิต และเป็นที่ยอมรับของผู้คนได้เป็นอย่างดี เป็นผู้คน, ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคหรือผู้ทำหน้าวิพากษ์ในฐานะสื่อก็ตาม

แม้จากวันแรกที่ก่อตั้งบริษัท และเริ่มผลิตลำโพงออกสู่ตลาดล็อตแรก จะมีพนักงานและเจ้าหน้าที่ประจำฝ่าย รวมทั้งแผนกต่างๆ เพียง 35 คน แต่วันนี้, กล่าวได้ว่า Canton เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมลำโพงที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของเยอรมนี โดยมีลำโพงสนองตอบความต้องการของตลาดครบทุกระดับ ทั้งในแง่ของรูปแบบการใช้งาน และราคาดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น อีกทั้งปัจจุบันยังเป็นพันธมิตรร่วมกับอีกสองอุตสาหกรรมใหญ่ของยุโรป โดยหนึ่ง, คือบริษัทผลิตรถยนต์ ที่มีส่วนร่วมในการเข้าไปติดตั้งระบบเสียงในรถยนต์รุ่นต่างๆ โดยที่ผู้บริโภคมิพักต้องไปติดตั้งเพิ่มแต่อย่างใด เพราะ Car Audio System ของ Canton นั้น เป็นที่ยอมรับในความยอดเยี่ยมของคุณภาพเสียงกันอยู่แล้ว

ลำโพงติดรถยนต์ของ Canton เคยได้รับรางวัล European Audio Awards ในสาขา Best Audio Innovation มาแล้ว ซึ่งเป็นการยืนยันความโดดเด่นของแบรนด์กับผลิตภัณฑ์ทางด้านนี้ได้เป็นอย่างดี

ส่วนอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่ Canton ได้เข้าไปร่วมมือด้วยก็คือ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำรายหนึ่งในยุโรป ที่ได้เข้าไปมีส่วนในการวางระบบเสียงให้แก่ชุดเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-In ด้วยรูปแบบต่างๆ เพื่อความสะดวกและคล่องตัวของผู้บริโภค โดยที่มิพักต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้หลังจากพอใจกับรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการแล้ว

ใครที่มีประสบการณ์กับชุดเฟอร์นิเจอร์แบบบิวต์-อิน ที่หลังจากติดตั้งเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงค่อยมองหาชุดระบบเสียงมาใช้โดยที่ต้องอาศัยเฟอร์นิเจอร์นั้นๆ ในการตั้งวาง คงซึ้งดีแก่ใจในปัญหาที่ตามมาได้ในเรื่องนี้นะครับ

ลําโพง Canton กำเนิดขึ้นจากความร่วมมือกันของผู้ที่มีความชื่นชอบในเรื่องเครื่องเสียงและหลงใหลในเสียงดนตรีเหมือนๆ กัน 4 คน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันในความต้องการที่จะทำลำโพงที่ดีที่สุด ที่สามารถสนองตอบความต้องการของผู้คนได้ทุกระดับ คือตั้งแต่กลุ่มมือใหม่ หรือ Entry Level ไปจนถึงระดับ Hi-End สำหรับกลุ่มออดิโอไฟล์ รวมทั้งยังต้องครอบคลุมทุกรสนิยมความชอบในการฟังเสียงดนตรีที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัวอีกด้วย

ชายทั้งสี่ที่มีความรู้ความสามารถอันแตกต่างกันไปนั้น กอปรไปด้วย Hubert Milbers ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการ, Otfried Sanding ซึ่งช่ำชองด้านการขายและการตลาด, Wolfgang Seikritt ที่ชำนาญด้าน R&D อย่างเป็นสำคัญ และสุดท้ายคือ Gunther Seitz วิศวกรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีระบบเสียง

ทั้งหมดต่างนำประสบการณ์ที่เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะ มาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วก่อตั้งบริษัท Canton Electronics ขึ้นมา พร้อมๆ กับผลิตลำโพงรุ่นแรกที่เป็นแบบ Bookshelf Speaker โดยอาศัยพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเรียนในยุคสมัยปฏิรูปเยอรมนีที่รวมเหนือและใต้เข้าด้วยกัน แล้วกลายเป็นโรงเรียนร้างในเมือง Weilrod ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แฟรงก์เฟิร์ต มาก่อตั้งเป็นบริษัท กระทั่งถึงช่วงเปลี่ยนผ่านสหัสวรรษไม่นาน ได้มีการขยับขยายโรงงานผลิตไปยังเมือง Dlouhy Ujezd ของสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 400 กิโลเมตร เพื่อรองรับกำลังผลิตให้เท่าทันความนิยมในสินค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นจากคนเล่นเครื่องเสียงทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม, สินค้าทุกชิ้น ลำโพงทุกคู่ ก่อนส่งออกสู่ตลาดและถึงมือผู้บริโภค ก็ต้องถูกนำกลับมาตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้ายที่โรงงานหลักในเยอรมนีอยู่ดี โดยมีรถบรรทุกสินค้าของบริษัทวิ่งไปมาระหว่างโรงงานทั้งสองสัปดาห์ละสองครั้ง

กับชื่อ Canton ที่นำมาใช้เป็นทั้งชื่อแบรนด์ และชื่อบริษัทนั้น มาจากความต้องการสื่อความหมายของ – การเป็นผู้ให้เสียงดนตรี, ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถสัมผัสกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และตัวบริษัทได้อย่างชัดเจน ผ่านคำเรียกขานง่ายๆ และออกเสียงได้สะดวกเพียงสองพยางค์ แต่มีความหมายอันลึกซึ้งยิ่ง

โดยพยางค์แรกของ Canton นั้น มาจากคำภาษาละตินที่ว่า Cantre ซึ่งเปรียบได้กับคำ To Sing ส่วนพยางค์หลังคือ Ton นั้น เป็นคำในภาษาเยอรมันเองมีความหมายว่า Music Tone จึงเมื่อนำมารวมกันแล้วก็กลายเป็นภาพลักษณ์ของผู้ให้เสียงดนตรีทั้งในแง่ขององค์กรและผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน

อีกหนึ่งแนวคิดในการออกแบบลำโพงของ Canton นั้น มิเพียงเพื่อสนองตอบผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ชาย ด้วยคุณภาพเสียงของดนตรีอันยอดเยี่ยมเท่านั้น หากยังต้องมีโครงสร้างและภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ที่แลดูสวยงาม ทันสมัย อันเป็นที่ต้องตาคุณผู้หญิงด้วย

ทั้งนี้ก็เนื่องเพราะคุณลักษณะเสียงที่เป็น DNA อันสำคัญของ Canton นั้น จะต้องสามารถให้คุณภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแม้กระทั่งในห้องที่เป็นบริเวณเปิด อันเป็นหัวใจหรือโถงหลักของบ้านสำหรับทุกคน รวมทั้งต่อผู้มาเยี่ยมเยือน อย่างห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก เพราะฉะนั้น มันจึงต้องทำหน้าที่เสมือนเป็นเจ้าของบ้านที่ดี ที่ใครเข้ามาเห็นต่างก็ชื่นชมในความสวยงามของลำโพงนั้นด้วย

จึงนับได้ว่า Canton เป็นลำโพงที่ผสมผสาน ‘ความชอบ’ ที่อาจจะแตกต่างกันระหว่างคุณภาพเสียงกับภาพลักษณ์หรือหน้าตา ให้หลอมรวมกันออกมาเป็นหนึ่งเดียวที่ต้อง ‘รสนิยม’ ทั้งของผู้หญิงและผู้ชายได้อย่างลงตัว

เป็นความลงตัวที่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีผู้ออกแบบและผลิตลำโพงรายใด ให้ความสำคัญของทั้งสองเรื่องนั้นอย่างเท่าเทียม ในระดับที่บ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อนเลย

ครับ, ก็รู้จักที่มาที่ไปของแบรนด์กันพอเป็นสังเขปแล้ว จากนี้มาพูดคุยกันถึงรุ่นที่ตั้งใจหยิบมาแนะนำกันต่อ

Canton Vento 30

กับโครงสร้างภาพลักษณ์

Vento Series เป็นลำโพงที่จัดอยู่ในอนุกรมกลางๆ ของแบรนด์ และที่จะแนะนำให้รู้จักกันเที่ยวนี้เป็นรุ่นเกือบเล็กสุดของซีรีส์จากที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 รุ่น ซึ่งกอปรไปด้วยลำโพงวางพื้นสามรุ่น ลำโพงวางหิ้งหรือประกอบเข้าขาตั้งสองรุ่น และลำโพงเซ็นเตอร์ แชนเนล, ลำโพงติดผนังหรือฝังฝ้าเพดาน กับลำโพงซับ-วูฟเฟอร์ อีกอย่างละรุ่น

Canton Vento 30 แม้จะเป็นรุ่นรองของเล็กสุด แต่ตอนที่กำลังแกะกล่องยังไม่เห็นหน้าตานั้น ก็บอกให้รู้ได้ในทีว่าคงเอาการเอางานน่าดู เพราะบรรจุรวมอยู่ในแพ็กเกจจิงแบบกล่องเดียวที่หนักเอาเรื่องอยู่ เมื่อยกแต่ละตู้ออกมาแล้วดูในเอกสารกำกับถึงได้รู้ ว่าลำโพงแต่ละตัวหนักเกือบสิบกิโลกรัม 

ลำโพงวางหิ้ง (ประกอบขาตั้ง) ตัวนึงสูงเกินฟุตนิดหน่อย แล้วหนักประมาณนั้นนี่, ด้วยประสบการณ์มันบอกให้รู้ว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ

โครงสร้างตู้แลดูทันสมัยแบบ Black High Gloss ดำเป็นมันเงาวาววามแบบผิวเปียโน ลบเหลี่ยมมุมด้วยเส้นโค้งมนเล็กน้อยในทุกๆ ด้านที่ประกบกัน แผงหน้าโค้งนิดๆ ขณะที่ผนังข้างทั้งสองโค้งน้อยๆ แบบสอบเข้าหากันที่ด้านหลัง ทำให้โครงสร้างแนวตั้งทั้งสี่ด้าน คือชุดแผงหน้ากับแผงหลังและชุดผนังด้านข้างทั้งสอง ต่างมิได้ขนานกันเหมือนลำโพงตู้สี่เหลี่ยมทั่วๆ ไปแต่อย่างใด แผงหน้าตู้นั้นติดตั้งชุดตัวขับเสียงแบบ 2-ทาง เรียงกันในแนวดิ่ง โดยขอบ Surround ของ Mid/Bass Driver ติดตั้งไว้เกือบเต็มแผงหน้าตู้พอดี 

แผงตู้ด้านหลังตอนบนเป็น Port หรือท่ออากาศทรงกลม ขนาดค่อนข้างใหญ่เกือบสองในสามของพื้นที่ ใต้ท่ออากาศเป็นขั้วต่อสายลำโพงชุดเดียวในลักษณะ Single Wired ที่ใช้เทคนิคใหม่ในการออกแบบเป็นพิเศษ ทั้งขั้วภายนอกและเกลียวขันภายใน โดยใช้วัสดุโลหะคุณภาพสูง มีประสิทธิภาพในการทำงานหน้าที่เป็นสื่อตัวนำได้เป็นอย่างดี ทั้งยังแลดูมั่นคงแข็งแรงมาก สามารถรับพื้นที่หน้าตัดของสายได้มากถึง 10 ตารางมิลลิเมตร และให้เสียบกับหัวต่อได้ทั้งแบบ Banana Plug และ Fork Bridge ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่บ่งบอกระดับคุณภาพของลำโพงคู่นี้ให้รู้ได้อยู่ในทีเช่นกัน

ตะแกรงแผ่นปิดแผงหน้าตู้ขึงด้วยผ้ายืดโปร่งสีดำที่คลื่นเสียงสามารถลอดผ่านออกมาได้แบบไร้ผลกระทบ ตรึงกรอบโครงเข้ากับแผงหน้าตู้ด้วยแป้นแม่เหล็ก เป็นตะแกรงแบบไม่ปิดเต็มแผงหน้าตู้ โดยเหลือตอนล่างเอาไว้ให้เห็นตราสัญลักษณ์อย่างเด่นชัด

ภาพรวมของโครงสร้างภาพลักษณ์กอปรกันขึ้นมาด้วยงานฝีมือที่ประณีต และพิถีพิถันยิ่ง แลเรียบเนียนตาแบบหมดจดมาก ทั้งไร้รอยต่อและปราศจากการเชื่อมหรือขันน็อตสกรูให้เห็นอย่างเด่นชัด องค์ประกอบทั้งหมดที่ตรึงกับตู้แนบสนิทกลมกลืนเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี นับเป็นงานฝีมือเชิงช่างชั้นเยี่ยมระดับพรีเมียมมาก

มิติโครงสร้างตู้ (กว้าง × สูง × ลึก) 22 × 36 × 30 เซนติเมตร น้ำหนัก 8.7 กิโลกรัม/ตู้

Canton Vento 30

กับคุณสมบัติทั่วไป

ความโดดเด่นประการแรกของลำโพงคู่นี้คือการใช้เทคโนโลยีคุณภาพสูงที่เรียกว่า Titanium Graphite ซึ่งเป็นพัฒนาการล่าสุดที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการขึ้นรูปกรวย (หรือแผ่นไดอะแฟรม) ของมิด/เบส ไดรเวอร์ แทนกรวยรุ่นก่อนที่มีพื้นฐานจากการใช้ไทเทเนียมบริสุทธิ์

การใช้วัสดุผสมอย่างกราไฟท์ไทเทเนียมมิเพียงดึงดูดสายตาจากความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์เท่านั้น หากยังนำมาซึ่งคุณภาพเสียงอันน่าทึ่งมากอีกด้วย เป็นการยกระดับคุณภาพเสียงขึ้นไปอีกขีดขั้นทั้งในแง่ของการแผ่คลื่น ที่ให้ออกมาอย่างโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ กว้างขวาง ทั้งในการให้เสียงเบสที่ลงไปได้ต่ำลึกเป็นพิเศษ เป็นเบสที่สะอาดปราศจากความพร่าเพี้ยน กระชับเก็บตัวเร็วไม่มีอาการสั่นค้างที่ปลายเสียง

โดยการพัฒนาวัสดุนี้ได้ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างของเบ้า (ตะแกรง) รับชุดตัวขับเสียง ที่มีความแข็งแกร่งสูง ยึดไดรเวอร์เอาไว้ได้อย่างมั่นคง เป็นฐานที่ช่วยให้ตัวขับเสียงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของการผลักคลื่นเสียงออกมาอย่างถูกต้อง เที่ยงตรง เสมอด้วยสัญญาณทางไฟฟ้าที่ป้อนเข้ามา จึงไม่ว่ารูปสัญญาณทางไฟฟ้าจะมีความแปรผันอย่างไร ตัวขับเสียงก็สามารถแปลงเป็นคลื่นเสียงออกมาได้เสมอด้วยเสียงของต้นฉบับขณะที่กำลังบันทึกในสตูดิโออย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ทางด้านทวีตเตอร์ที่เป็นแบบโดมนั้น ขึ้นรูปด้วยเซรามิกเคลือบอะลูมิเนียมออกไซด์ ใช้เทคโนโลยี Wave Bead ในการทำงาน ซึ่งช่วยให้การกระจายคลื่นเสียงเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม่นยำ มีความต่อเนื่องสูงแบบลื่นไหล ให้รายละเอียดของเสียงออกมาได้ครบถ้วน ปลายเสียงมีความสดใส กระจ่างชัด ทอดยาวไปได้ไกลและให้การลาดลงอย่างนุ่มนวล

ในส่วนของครอสส์โอเวอร์ เน็ตเวิร์ก มีโครงสร้างและส่วนประกอบของอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่เหมาะสมกับการทำงานของชุดตัวขับเสียง ช่วยให้ทวีตเตอร์และมิด/เบส ไดรเวอร์ ทำงานร่วมกันและเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันละกันอย่างเต็มความสามารถ ช่วยกันสร้างคลื่นเสียงออกมาแบบไร้รอยต่อ เป็นการรังสรรค์เสียงดนตรีร่วมกันอย่างสุนทรีย์ ด้วยความเป็นเสียงดนตรีที่สมบูรณ์ตั้งแต่ย่านความถี่ต่ำสุดไปจนถึงย่านความถี่สูงสุดอย่างแท้จริง

ขณะที่โครงสร้างตู้ที่มองเห็นภายนอกว่ามีความสวยงาม หรูหรา และแลดูคลาสสิกแบบเหนือกาลเวลานั้น ภายในได้ถูกออกแบบผ่านการคิดคำนวณและวิเคราะห์ในแง่ผลกระทบต่างๆ อย่างละเอียด โดยเฉพาะในเรื่องของการขจัดแรงสั่นสะเทือนไม่พึงประสงค์ จึงนอกจากจะมีปริมาตรที่เหมาะกับการทำงานของชุดตัวขับเสียงแล้ว ภายในยังมีการออกแบบลักษณะของการคาดดามเพื่อให้โครงสร้างรวมมีความมั่นคงมากขึ้น มีความเสถียรสูงขณะที่ชุดตัวขับเสียงทำงาน โดยไม่มีอาการก้องสะท้อนหรือสร้างเสียงแทรกซ้อนขึ้นมาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะทำงานที่ระดับความดังแค่ไหน หรือทำงานกับคลื่นความถี่ที่ต่ำลึกเพียงใดก็ตาม ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชุดตัวขับเสียงให้ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถอีกทางหนึ่งด้วย

Canton Vento 30 ระบุคุณสมบัติทางด้านเทคนิคว่าเป็นลำโพงแบบ 2-ทาง ทำงานในระบบ Bass Reflex ทวีตเตอร์ขนาด 25 มิลลิเมตร มิด/เบส ไดรเวอร์ ขนาด 174 มิลลิเมตร รองรับกำลังขับ 80 วัตต์ รองรับสัญญาณเสียงดนตรีสูงถึง 150 วัตต์ อิมพีแดนซ์แปรผันในช่วง 4-8 โอห์ม ออกแบบให้มีจุดตัดความถี่ที่ 3,000 เฮิรตซ์ ให้การทำงานตอบสนองความถี่ในช่วง 27-40,000 เฮิรตซ์

ครับ, ทั้งหมดนั้นเป็นคุณสมบัติอันพอเป็นสังเขปของลำโพงคู่นี้

Canton Vento 30

กับการลองเล่นและคุณภาพเสียง

สรุปสั้นๆ ก่อนนะครับ – ดุดันมาก!!!

ย้อนกลับไปสามสี่วันแรกที่พา (ลำโพงคู่นี้) เข้าห้อง หลังจากเอาเข้าไปแทนที่ลำโพงคู่เดิมที่กำลังฟังแบบไม่มีอะไรยุ่งยากนัก เนื่องเพราะเป็นลำโพงประกอบเข้าขาตั้งเหมือนกัน ทั้งยังมีขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย

ปลดสายลำโพงจากคู่เก่ามาต่อเข้าคู่ใหม่เสร็จสรรพ ก็เปิดฟังภาพรวมของเสียงก่อนที่จะไปขั้นตอนอื่นต่อ ซึ่งก็คือหาที่ทางวาตั้งให้เหมาะสมกับห้องและตำแหน่งนั่งฟังนั่นแหละครับ ปรากฏว่าสามสี่วันแรกที่ว่ายังทำอะไรต่อจากนั้นไม่ได้ เนื่องเพราะรู้สึกสุ้มเสียงมันยังไม่เป็นใจ คือไม่ใช่ให้ออกมาแบบขาดๆ เกินๆ นะครับ เพราะกระเดียดไปข้างให้รู้สึกยังไม่เข้าที่เข้าทางมากกว่า

อาจจะเป็นเพราะยังไม่คุ้นห้อง ไม่ชินซิสเต็ม เหมือนเป็นคนแปลกหน้าพลัดหลงเข้ามาแบบยังงงๆ อยู่ ก็เป็นได้

ก็เลยเปิดแบบอัดทิ้งกะให้เวลาสักอาทิตย์ คิดว่าน่าจะได้ความ

ที่ไหนได้, พ้นจากเวลาสามสี่วันที่ว่าเท่านั้นเอง เข้าที่เข้าทางเร็วเกินคาดครับ ทั้งยังรู้สึกดีพอในความหมายของสุ้มเสียงที่ได้ยินนั้น มันถูกหูจนไม่รู้สึกอยากไปหาตำแหน่งวางใหม่ด้วยซ้ำไป

และตรงนี้เป็นความรู้สึกประทับใจแรกครับ

คือมันบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นลำโพงคู่หนึ่งที่ไม่จุกจิก ไม่มากเรื่องเลย ก็เลยตั้งวางอยู่ตรงนั้นจนจบความ

Canton Vento 30 ให้ภาพรวมของเสียงที่น่าตื่นเต้นมาก พร้อมที่จะทำงานกับดนตรีทุกรูปแบบอย่างไม่มีอิดออดหรือเกี่ยงงอน ออกจะกระตือรือร้นที่ใคร่ถ่ายทอดสุ้มเสียงของสำเนียงดนตรีนั้นๆ ออกมาให้เราได้สัมผัสในทุกแง่มุมด้วยซ้ำไป คือสามารถพาเข้าถึงแก่นของแต่ละตัวโน้ตที่กำลังโลดแล่นอยู่ระหว่างขั้นบันไดเสียงให้รับรู้ได้แบบไม่มีกั๊กแม้แต่เพียงน้อย

ทั้งยังสื่อออกมาแบบลื่นไหลให้ความต่อเนื่องของเสียงดนตรีอย่างถึงอารมณ์และชวนให้ติดตามมาก

ที่สำคัญคือเป็นน้ำเสียงที่สัตย์ซื่อ ตรงไปตรงมา บันทึกมาอย่างไรก็นำเสนอออกมาให้สัมผัสได้แบบไม่มีปิดบัง จนแทบอยากจะบอกว่าเป็นลำโพงไม่มีบุคลิกที่เป็นอัตลักษณ์แต่อย่างใดด้วยซ้ำ เพราะทำน้าที่ ‘สื่อความ’ จากต้นฉบับที่ป้อนเข้ามาให้รับรู้ได้ด้วยความเที่ยงตรงอย่างชนิดที่ต้องบอกว่าเคร่งครัดยิ่งนัก, ไม่ค่อยจะได้พบเจอนะครับกับลำโพงระดับนี้

บอกตามตรงว่าก่อนหน้านี้มีลำโพงในดวงใจอยู่คู่นึง ที่พอๆ กับลำโพงคู่นี้ทั้งในแง่ขนาดของโครงสร้าง และราคา คือมีความใกล้เคียงกันมาก และอยู่ในความชอบของผมแบบช่วงกว่าห้าหกปีที่ผ่านมานี่, หาใดแทนไม่ได้เลย

แต่พอได้ฟัง Canton Vento 30 (หลังจากเข้าที่เข้าทางแล้ว) มันกุมความชอบของผมในฐานะลำโพง 2-ทาง วางหิ้ง (ประกอบเข้าขาตั้ง) ราคาต่ำกว่าแสน เอาไว้ได้อย่างรวดเร็วและแบบเบ็ดเสร็จจริงๆ คือไม่ต้องใช้เวลาฟังนานเพื่อค่อยๆ สังเกตความแตกต่างตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น แต่อย่างใด ซึ่งหากให้บอกความแตกต่างแบบเทียบกับคู่ที่บอกว่าเคยอยู่ในดวงใจมาก่อน ผมให้คำจำกัดความแบบสั้นๆ (อีกหน) ได้ว่า – มันไปได้สุดกว่าในทุกๆ ทาง, ครับ

โดยเฉพาะเวลาเล่นเพลงฟังดนตรีที่มีเบสลึกๆ หนักๆ กระแทกกระทั้น มันถ่ายทอดออกมาให้สัมผัสรู้ถึงความรุนแรงอย่างที่บอกข้างต้นว่า ‘ดุดันมาก’ นั่นแหละครับ

และไม่ใช่แค่ให้เบสออกมาดีอย่างโดดเด่นแบบน่าสะพรึง (มาก) เท่านั้น หากฟังเพลงหวานมันก็หวานจนใจแทบละลายก็ว่าได้ หรือฟังเสียงร้อง (ไม่ว่าหญิงหรือชาย) ก็ละม้ายคล้ายเธอและเขามายืนร้องปากเปล่า (คือไม่ผ่านไมค์) ให้ฟังอยู่เบื้องหน้า, อย่างไรก็อย่างนั้น คือมีความเป็นธรรมชาติที่สมจริงสูงมาก และที่ชอบเป็นส่วนตัวมากๆ ก็คือเวลาฟังออร์เคสตราวงใหญ่บรรเลงงานซิมโฟนีครับ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลข 5 ของเบโธเฟน หรือจากโลกใหม่ของดโวรชาค ตลอดจนนกไฟของสตราวินสกี รวมทั้ง 1812 โอเวอร์เจอร์ของไชคอฟสกีก็ด้วย – บางช่วง, บางตอน ของบางลีลา (Movement) มันให้ออกมาได้อย่างโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ และกระแทกกระทั้นด้วยความดุดัน (อันสุนทรีย์) ที่ช่างถึงอกถึงใจดีแท้ แบบที่ฟังจบแล้วปักษ์ใต้บ้านผมพูดว่า ‘ฮาย-ย-ย-ย-ย-ย ฉาดได้แรงอกนิ่’ นั่นแหละครับ

ฟังงานซิมโฟนีชิ้นใหญ่ๆ กับออร์เคสตราเต็มวงแบบบรรเลงด้วยนักดนตรีร่วมร้อยชีวิตนี่ ต้องได้ลำโพง ‘ใจถึงพึ่งได้’ อย่างคู่นี้แหละครับ ถึงจะได้อรรถรสแบบฟังแล้วให้รู้สึกได้ปลดปล่อยอารมณ์จริงๆ

Canton Vento 30 ถ่ายทอดงานซิมโฟนีออกมาแบบว่าหากได้ยินโดยไม่เห็นตัวแล้ว หัวเด็ดตีนขาดเป็นต้องยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าต้องเป็นเสียงจากลำโพงวางพื้นแน่ๆ

สรุป

ย้ำอีกครั้งนะครับ, ว่ากำลังพูดถึงลำโพงสองทาง วางหิ้ง ราคาต่ำกว่าแสน!!!

แล้วหากถามว่าตั้งแต่พลัดหลงเข้ามาในแวดวงเครื่องเสียงจากช่วงปลายทศวรรษที่ 70s มานี่ ไม่เคยได้ยิน ‘สองทางวางหิ้ง’ คู่ไหนให้เสียงออกมาเหนือกว่าคู่นี้เลยหรือ ซึ่งก็ตอบได้ทันทีแบบไม่มีลังเลเหมือนกัน – ว่ามี และมีมากกว่าหนึ่งแบบนับนิ้วมือได้ด้วย

แต่ที่ว่ามีและมีแบบไล่นับนิ้วไปได้เรื่อยนั้น มันแสนขึ้นทั้งหมดนะครับ!!!

ไล่ตั้งแต่แสนกลางๆ จนข้ามสองสามแสนไปถึงสองทางวางหิ้งคู่ละร่วมครึ่งล้าน, ก็ยังมี อย่างที่บอกนั่นแหละครับ คือมีที่ให้สุ้มเสียงออกมาได้ ‘สุด’ กว่า Canton Vento 30 คู่นี้ ซึ่งไม่ขอไปเทียบเคียงอะไรด้วยเพราะมีเรื่องราคาค้ำอยู่ แต่ถ้าหากเทียบกับบรรดาแสนขึ้นไปยันเพดานที่แสนกลางล่ะ ก็ต้องพิจารณาล่ะครับ ว่ากับสิ่งที่ได้เพิ่มมาผ่านสุ้มเสียงที่เป็นนามธรรมนั้น มันคุ้มพอกับที่จะจ่ายเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรมหรือเปล่า ซึ่งประเด็นนี้ใครก็คิดหรือตัดสิน (ความพึงพอใจ) แทนใครไม่ได้ดอกนะครับ

ท้ายสุด, อย่าเชื่อผม (จริงๆ แล้ว ตั้งแต่เขียนหนังสือมา ก็ไม่เคยบอกหรือชี้นำให้ใครต้องมาเชื่อเลยนะครับ) แต่จงหยิบแผ่นโปรดของคุณไปฟังกับลำโพงคู่นี้ด้วยตัวคุณเองดู

ซึ่งผมเชื่อว่าใช้เวลาไม่นานหรอกครับ เผลอๆ อาจจะฟังไม่จบแผ่นด้วยซ้ำ คุณก็ได้คำตอบให้ตัวคุณเองแล้ว

เป็นคำตอบที่ตัดสินลำโพงคู่นี้ได้ในทุกๆ ด้านด้วยหูคุณเอง

ขอขอบคุณ : บริษัท อินเวนทีฟ เอวี จำกัด โทร.02-238-4078-9

ที่อนุเคราะห์ ผลิตภัณฑ์ในการรับฟังครั้งนี้