Test Report:NPE AS-TP1

0

Test Report:NPE AS-TP1

(เติมเสียงหลอดให้ชุดคุณ)

ไมตรี ทรัพย์อเนกสันติ

 L1000221

          ผมเกิดความคิดว่าบางครั้งบางคน อยากฟังเสียงหลอด จากชุดเครื่องเสียงทรานซิสเตอร์ (Solid State) ของเขาบ้าง จะทำอย่างไร จะเปลี่ยนอุปกรณ์ซื้อใหม่ เช่น เครื่องเล่น CD หลอด, ปรีแอมป์หลอด, เพาเวอร์แอมป์หลอด, อินทีเกรทแอมป์หลอด ดูไปแล้ว เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าของเดิมมีราคาสูง ถึงสูงมากอยู่แล้ว จะเป็นการเสีย 2 ต่อ คือ ถ้าโชคดีขายของเก่าได้ และซื้อเครื่องใหม่ (หลอด) ก็ขาดทุนน้อยหน่อย แต่ถ้าขายไม่ได้ การลงทุนแต่ละเครื่องก็ต้องเป็นหลักหมื่นถึงหลายๆ หมื่น อาจถึงหลักแสนบาทได้ง่ายๆ

เมื่อเปลี่ยนเครื่องแล้ว เกิดวันไหนอยากกลับไปฟัง เครื่องทราซิสเตอร์จะทำอย่างไร ซื้อๆ ขายๆ กันอยู่อย่างนั้นหรือ คงไม่สนุกแน่

จึงจะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถ เติม เสียงหลอดให้แก่เครื่องเสียงทรานซิสเตอร์ของเรา วันไหนอยากกลับไปฟังเสียงทรานซิสเตอร์ ก็ยกตัวเติมออกวิธีนี้คุณไม่ต้องขายของเก่าให้ขาดทุนช้ำใจด้วย

นั่นคือที่มาของแนวคิด หาปรีแอมป์หลอดมาคั่นระหว่าง เครื่องเล่น CD กับ อินทีเกรททรานซิสเตอร์

ปรีแอมป์หลอด ในท้องตลาด HiFi ส่วนมากจะเป็นระดับไฮเอนด์ไปเลย โดยมีราคาค่อนข้างสูง เครื่องละหลายหมื่นบาทถึงนับแสนๆ บาท

ตรงนี้ทำให้ผมนึกถึงปรีแอมป์หลอดของ NPE (ทำในไทย) ตระกูล Acoustic Sense รุ่น AS-TP1 ซึ่งราคาพอรับได้ คือ 9,800 บาท คิดเสียว่าเหมือนกับซื้อสายสัญญาณดีๆ 1 คู่ หรือ EQ ดีหน่อย 1 ตัว

ถามว่า ทำไมผมไม่คิดที่จะเปลี่ยนใช้ เพาเวอร์แอมป์หลอด จะเป็นการลงทุนที่แพงที่สุด เพื่อได้กลิ่นอายของหลอด เนื่องจากต้องใช้หลอดขนาดใหญ่โต (แพงมาก), หม้อแปลงไฟขาออกมหึมา 2 หม้อ (แพงมากๆ), แต่กลับได้กำลังไม่กี่สิบวัตต์/ ข้าง ถ้าจะให้กำลังขับสูงเป็น 100W./ ข้าง ราคาจะพุ่งลิบเลย เกินปัญญาคนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเรา อีกทั้งตัวเครื่องก็จะร้อนมากๆ และใหญ่โตเกะกะ หนักอึ้ง (มากๆ) แถมถ้าจะให้การตอบสนองความถี่กว้างๆ ระดับ 10 Hz~100 kHz จะต้องลงทุนสูงอย่างยิ่งๆ นอกจากนั้น การต้องมีหม้อแปลงขาออก ทำให้ความสามารถในการหยุดการสั่นค้างของดอกลำโพง (Damping Factor) ต่ำมาก อาจแค่ 10 เท่านั้น ซึ่งปกติค่า DF นี้ ไม่ควรต่ำกว่า 100 ไม่อย่างนั้น ทุ้มยาน, คราง, เบลอ พลอยไปเบลอช่วงความถี่กลางและสูงด้วย

L1000223

            ครั้นจะหาเครื่องเล่น CD หลอด ในท้องตลาดก็มีตัวเลือกน้อยมากๆ ราคาเริ่มที่ 3-4 หมื่นบาทขึ้นไป เป็นอันว่า ไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่เข้าท่านัก สุดท้าย ผมคิดว่า การเติมปรีหลอดคั่น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดูสมเหตุสมผลดีที่สุด

จริงๆ ผมอยากได้เครื่องปรี (ถ้าจะเรียกให้ตรงเป้า) แบบพื้นฐานที่สุด คือไม่ต้องมีอัตราการขยาย (ไม่มี Gain หรือ Gain เท่ากับ 1:1 เข้าเท่าใดออกเท่านั้น) จึงไม่ต้องมีโวลลุ่ม INPUT มีชุดเดียว ก็ไม่ต้องมีตัวเลือก (Selector) ไม่ต้องมีรีโมทใดๆ ดวงไฟโชว์ใดๆ ผมมั่นใจว่า จะทำให้เสียงดีขึ้นมาก และราคาน่าจะเหลือแค่ 1 ใน 3 ก็คงตก 3-4 พันบาทได้ ถ้าคัดเกรดของบ้าเลือดก็อาจจะ 5-6 พันบาทได้ แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็หาไม่ได้ ยังไม่มีใครคิดทำ ทางเลือกเดียวตอนนี้จึงมาลงเอยที่ AS-TP1 ตัวนี้

L1000215

            ก่อนอื่นเรามาดูก่อนว่า AS-TP1 มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ตามคู่มือเครื่องระบุว่า ผู้ผลิตจงใจให้เป็นปรีหลอดคุณภาพสูง มีเสียงที่ถูกต้องเป็นดนตรี น่าฟัง ภาคจ่ายไฟใช้หลอด Double Diode เบอร์ 6×4 วงจรขยายใช้หลอด Medium-mu Twin Triode เบอร์ 12 Au7 หรือ ECC82 (จากตามองภายในเครื่องมี 3 หลอด ไม่ใหญ่นัก หม้อแปลงใหญ่ 1 ตัว หม้อแปลงเล็ก 1 ตัว ตัวเก็บประจุภาคจ่ายไฟค่าสูง) วงจรภาคขยายจัดแบบ Single End CLASS A ภาคขาออกความต้านทานต่ำ เลือกใช้วัสดุอะไหล่ คุณภาพสูง หม้อแปลงแบบชิลด์ ป้องกันสนามแม่เหล็กไฟฟ้า, ตัวเก็บประจุระดับหูทอง ของ ELNA, WIMA และ Q4 ตัวต้านทาน Metal Oxide โวลลุ่มและ Selector ของ ALPS ปุ่มกดกลึงจากอะลูมิเนียม แผงหน้าเป็นอลูมิเนียมอาโนไดซ์หนา 6 มม. ขั้วต่อสัญญาณเสียง RCA, สายไฟ AC 3 ขา (2 EC) ถอดได้, จอแสดงแหล่งรายการและระดับสัญญาณ (LED สีแดง) รีโมทไร้สาย

เลือกสัญญาณขาเข้าได้ 4 INPUT (CD, L1, L2, L3) และ MONITOR (PLAY) เพื่อเพิ่ม EQ ภายนอกได้ ช่องสัญญาณออก 2 ชุด กดปุ่มดับไฟหน้าปัดจอได้

ปรับระดับเสียงได้ 00 ถึง 99, ปุ่ม MUTE ตัดเสียงชั่วคราว, ปุ่มโวลลุ่มแบบกด +, กด –

เครื่องจะเข้าสู่โหมด STAND BY ทันทีที่เสียบปลั๊กสายไฟ LED ติดสีส้ม เมื่อกดไฟขาเข้า LED สีส้มเปลี่ยนเป็นสีเขียว

รีโมทมีฟังก์ชั่นครบ เหมือนหน้าเครื่อง

L1000217

สเปคจากโรงงาน

ให้ระดับสัญญาณออกสูงสุด                                                          22 dBu

อัตราขยายโวลท์ (1 kHz)                                                            12.5 dBu

ความถี่ตอบสนอง                                                                         10 Hz~100 (+0.25 dB)

ความเพี้ยน THD+สัญญาณกวน (20 Hz~20 kHz)                 ต่ำกว่า 0.1%

สัญญาณราบกวน (S/N) (20 Hz~20 kHz)                              มากกว่า 72 dB

การแยก CH (20 Hz~20 KHz)                                                มากกว่า 75 dB

กินไฟ                                                                                         70 VA

ขนาดเครื่อง (กว้าง×สูง×ลึก)                                                   435×82×190 มม.

น้ำหนัก                                                                                      6 กิโลกรัม

L1000216

การทดสอบ

จากเครื่องเล่นบลู-เรย์ OPPO BDP 105 (ดัดแปลงเพิ่มคุณภาพภาคจ่ายไฟ โดย PERFECT POWER โทร. 08-1904-2213 (ราคา 2,500 บาท) ต่อออกสายเสียง MADRIGAL CZ-GEL 2 (หัว RCA) ไปเข้าช่อง INPUT L3 ของ AS-TP1 (ลองไล่แล้ว L3 ให้เสียงพุ่งลอยโฟกัสกว่าเพื่อน CD, L1, L2) ใช้สายเสียงของ MADRIGAL CZ-GEL 2 อีกชุด หัว RCA (ยาวครึ่งเมตร) ต่อจากช่องออกชุด 1 ของ AS-TP 1 ไปเข้าช่อง CD IN ของอินทีเกรทแอมป์ MOON 250i (ทรานซิสเตอร์) ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (ตามทิศ) หัว WBT บานาน่า (ซิงเกิ้ลไวร์) ไปเข้าลำโพง KEF LS-50 (2 ทางวางหิ้ง คุณภาพระดับมอนิเตอร์ ในห้องบันทึก 52,000 บาท) วางบนขาตั้ง TARGET 24 HJ เอียงลำโพง (TOE IN) จูนให้ได้มิติ, เสียงดีที่สุด

บนเครื่องเล่นบลู-เรย์มีแผ่นกลมแร่อาเกต ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 คืบ มีก้อนผลึกออบซีเดียมขนาด 2 นิ้ว 1 ก้อน ออบซีเดียมแท่งสูง 1 คืบ 1 แท่ง (ทั้ง 2 อยู่บนอาเกต) มีแท่งควอตซ์สูง 1 คืบล้อมอาเกตอีก 3 แท่ง ทั้งหมดนี้ ต้องหาตำแหน่งวาง ล้วนมีผลต่อเสียงทั้งสิ้น จูนจนได้เสียงธรรมชาติที่สุด

AS-TP1 จะถูกยกลอยเหนือ MOON สูงห่างขึ้นไป 2 นิ้วกว่า ด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีด 1 รีม (2 ข้าง) เพื่อหนีหม้อแปลงไฟกวนกัน ระวังมิให้สายต่างๆ แตะต้องกัน ไม่ปิดช่องระบายอากาศบน MOON (ปิดแค่ 1 แถว ซ้าย, ขวา)

ลำโพงซ้าย, ขวา ไม่มีหน้ากาก ห่างกัน 2 เมตร ห้องขนาด 3.85 × 9 × 2.5 เมตร นั่งฟังห่างจากลำโพง 3.6 เมตร ที่กำแพงมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (ทำในเยอรมันรุ่นสีขาว)

มีก้อนผลึก อะมิทิส ขนาด 1 ฝ่ามือ บนเครื่องบลู-เรย์มุมขวาหลัง, ขนาด 4 ฝ่ามือ วางห่างออกไปด้านขวา 2 ศอก ขนาด 1 ฝ่ามือ 2 ก้อนที่พื้นห้อง (พรม/ ปูน) ด้านขวาของจุดนั่งฟัง

สายไฟ AC ของ AS-TP1 ผมไม่ได้ใช้ของที่เขาให้มา แต่ใช้ของ CHORD สีน้ำเงิน 5-6 พันบาท ที่ใช้ประจำ (จะได้ตัดองค์ประกอบของสายไฟออกไป เหลือแต่ตัวเครื่องโดดๆ) สายไฟนี้ไปเข้ากล่องกรองไฟ PHD POWER STATION (โทร. 08-1347-0904) (สายไฟไปกำแพงเป็น FURUKAWA CB-10 (3เส้นทิศถูกต้อง หัว WATTGATE ผู้/เมีย) เลือกรูไฟขาออกที่เฟสไฟตรงกับเครื่องได้ (ยี่ห้อเดียวในโลกมีผลมาก)) สายไฟ AC ของอินทีเกรทแอมป์ MOON 25oi ใช้ CHORD เช่นกัน สายไฟ AC ของ OPPO ยกมาจากอินทีเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383 สายไฟทั้งสองนี้มากเข้าตัวกรองไฟ PHD ทั้งหมด มีหัวปลั๊กกรองไฟ PHD เสียบขาออกอีก 1 ตัว เคียงขาเข้าที่กำแพงอีก 2 ตัว เต้าเสียบอื่นในห้องอีก 2 ตัว นอกห้องเสียงอีก 3 ตัว (อย่าลืมเช็คทิศทางขาเสียบ)

L1000220

มีก้อนแร่ทัวมารีน วางบนเต้าเสียบตัวเมีย (MONITOR ACOUSTICS รุ่นสูงสุดสีเทา) ที่สายไฟ CB-10 จากกล่อง PHD เสียบอยู่

ทัวมารีนอีก 1 ก้อนที่ขาออก PHD, 1 ก้อนใกล้สายไฟ AC ของ OPPO, ที่พื้นด้านหน้าที่นั่งฟังอีก 1 ก้อน (ทัวมารีนช่วยให้ DYNAMIC เสียงดีขึ้น LIVE ขึ้น กระชับกระเชงขึ้น หลุดลอยขึ้น)

มีกล่องตัวอย่างควอตซ์ 12 ชนิด ของ JUDY HALLS 5 กล่องในห้อง (กลางห้องที่พื้น 1, หลังรอบจุดนั่งฟังอีก 4)

มีการทำระบบระบาย EDDY CURRENT ลงกระทะเหล็กหล่อ 3 กระทะซ้อนกัน ให้กับกล่องกรองไฟ PHD ด้วย

ยกสายลำโพงสูงหนีพื้นห้อง (พรม/ปูน) ด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีดใหม่สูง 3 ตั้ง (รีม) และทับบนสายลำโพงอีก 2 ตั้งให้สายนิ่ง

ภายในห้องไม่มีจอ LCD, PLASMA, WIFI/LAN (นอกจากที่รั่วมาจากภายนอก 6 spot), ไม่มีโทรศัพท์มือถือ, PC, โน้ตบุ๊ค, iPAD, รีโมทอื่นใด (นอกจากของ OPPO)

ปัดลมแอร์ตกหลังลำโพง (25 องศา C, ลด LOW)

เร่งโวลลุ่มที่ AS-TP1 ที่ 39 ซึ่งจะใกล้เคียงกับการไม่มี AS-TP1 ต่อคั่นอยู่ เร่งโวลลุ่มที่ 89-92 (แล้วแต่แผ่น)

เอาผ้าดำปิดดวงไฟ LED สีแดง (ที่ Selector) และที่หมุนโวลลุ่มของ MOON รวมทั้งไฟ LED สีฟ้า (มิติโฟกัสขึ้นหัวโน้ตมีรายละเอียดดีขึ้น (TEXTURE) มีผลถึง 15%) ไม่ใช่น้อยๆ

กดปุ่มหน้าเครื่อง AS-TP1 ปิดไฟหน้าปัด (มิติเป็นตัวตนขึ้น, หลุดลอยมากขึ้น) เอาแท่งผลึกอะมิทิสสูง 1 คืบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนิ้วกว่า มาวางห่างจากหน้าจอ AS-TP 1 3 มม. หมุนแท่งผลึก (หัวด้านแหลมอยู่บน) จนได้มิติเสียง, สุ้มเสียงดีที่สุด (นี่ขนาดปิดไฟหน้าปัดแล้ว ถ้าเปิดไฟ แท่งผลึกยิ่งเห็นผลมาก) (พอเอาแท่งออกไป มิติแย่ลง 15%) ส่วนดวงไฟ LED สีเขียว เอาผ้าปิดผลกลับแย่ลง

AS-TP 1 ที่ได้มาทดสอบ เป็นของใหม่แกะกล่อง ครั้งแรกที่เริ่มฟัง เรียนตรงๆ ว่า แทบจะเหมือนฟังจาก MOON 25oi ตามปกติ เสียงอาจขุ่นขึ้นนิดหน่อย มิติแย่ลงหน่อย แต่ทุ้มจะล้นหลามขึ้น 5-8% จึงเปิดเพลง เบิร์นอินอยู่ 7 ชั่วโมง แล้วฟังใหม่ เสียงเปิดขึ้นความขุ่นลดลง 8% ยังไม่น่าประทับใจอะไร คือไม่รู้สึกว่าจะมีวิญญาณหลอด “มาสิงสู่” แต่อย่างไร ก็เปิดเพลงเบิร์นอินไปอีก 4 ชั่วโมง แล้วฟังใหม่ ก็แทบไม่ต่างจากเดิม

เรียนตามตรง ชักถอดใจ กะจะถอด AS-TP 1 ออกคืนบริษัทไป โอเค มันก็ถือเป็นปรีที่ดี สุ้มเสียงไม่ระคายหู แม้แต่น้อย คุณภาพ, ฟังก์ชั่น เกินราคาแน่ๆ แต่ในแง่ที่จุดมุ่งหมายมาเติมเสียงหลอด ยังไม่เห็นชัดเจน

ผมมานอนคิด 2 คืน เราลืมอะไรไปหรือเปล่า ในที่สุด ไหนๆ ก็ไหนๆ เปิดฝาเครื่องออก จัดการแยกสายต่างๆ ภายในที่ร้อยรัดอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าสายไฟ, สายเสียง พยายามๆ แยกๆ กันออกไป คลี่คลายให้มากที่สุด เอาฝาครอบบนออกเลย ทำไม่ยาก ผมเชื่อว่า ใครๆ ก็น่าจะทำเองได้ (สายบางเส้นต้องเอาเทปผ้าดำปะยกลอย)

L1000222

            จากนั้นฟังใหม่…

            แล้วก็โปะเชะ ใช่เลยคราวนี้ เสียงหลอดมาเต็มๆ โดยผมไม่จำเป็นต้องถอด AS-TP 1 ออกเพื่อฟังเทียบกับเมื่อไม่มี คือบุคลิกเสียงมันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเอามากๆ ได้แก่

  1. เสียงพลิ้ว ฉ่ำ กังวานขึ้น (ดุจเครื่องหลอดราคาแพงๆ เลย)
  2. รายละเอียดหยุมหยิมดีขึ้น แม้ที่ค่อยมากๆ
  3. เสียงมีทรวดทรง (3D)
  4. เสียงมีจังหวะจะโคน การสอดใส่อารมณ์ สมจริงขึ้นทั้งเสียงดนตรี เสียงร้อง
  5. รายละเอียดหัวโน้ตเปิดเผย มองทะลุเข้าไปได้ดีขึ้น
  6. ทุ้มหนักขึ้น แต่จะออกไปทางประนีประนอม ไม่เน้นหนักแบบกระทุ้งกระแทก แน่นทิ้งตัวลงพื้นห้อง แต่ก็มหึมาได้สบาย
  7. เสียงโดยรวมจะช้าลง 8% ทำให้ฟังผ่อนคลายยิ่งขึ้น แต่หูซาดิสม์ หรือแรพ, แดนซ์ อาจรู้สึกอึดอัดไปบ้าง
  8. เสียงกังวานล้นหลามขึ้น ช่วยให้ฟังอะไรๆ ก็ดูดีไปหมด
  9. เวทีเสียงกว้างแต่ไม่ขนาดแผ่โอบ หรือหลุดลอยออกมา อย่างอะร้าอร่ามมากนัก อาจมีการกระจุกตัวของชิ้นดนตรีต่างๆ ในวง ให้มากองอยู่ตรงกลางมากกว่าปกติ อยู่บ้าง เวทีด้านลึกดีมาก
  10. เสียงราบรื่น เป็นกลาง น่าฟัง ไม่มีการจงใจเน้นอะไร เสียงเกลี้ยง สะอาด ปราศจากอาการ แจ๋น, จ้า, สากหู น้ำเสียงแบบเครื่องไฮเอนด์

หมายเหตุ 1 ก่อนที่ผมจะแยกสายต่างๆ จะมีเสียงซ่า/จี๊ด รบกวนแทรกออกมาเบาๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อกดไปแหล่งรายการ ที่ไม่ได้ต่อเอาไว้จะดังกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกสายดังกล่าว เสียงกวนก็หายไป

หมายเหตุ 2 การใช้เครื่องหลอด ต้องระวัง, รอบคอบมาก ต้องเปิด AS-TP 1 ก่อนเพื่อน (กดไฟเขียวติด) จึงเปิดอินทีเกรทแอมป์ MOON และเครื่องเล่น CD

เวลาปิด ต้อง ปิดอินทีเกรทแอมป์ก่อน สักพักค่อยปิด AS-TP 1 เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงปุ๊ ที่อาจออกลำโพงได้

สรุป เป็นอันว่าแนวคิดของผมประสบความสำเร็จ สามารถแปลงเสียงจากชุดทรานซิสเตอร์ มาเป็นดุจฟังเครื่องหลอดได้อย่างไม่ต้องสงสัย แถมออกมาได้น่าตื่นใจยิ่งด้วย ฟังเพลินจริงๆ ได้อารมณ์เอามากๆ โดยลงทุนแค่ 9,800 บาท (ไม่นับสายเสียงอีก 1 ชุด)

ขอขอบคุณ บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด โทร 0-2225-0094 ที่ให้เครื่องมาทดสอบ