By “bluebird u11”
ASC หรือ Acoustic Sciences Corporation เป็นอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกอันเลื่องชื่อจากอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายทศวรรษ
หากนับอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกในตลาด ทั้งของในประเทศและของต่างประเทศ ซึ่งมีให้เลือกหามาใช้มากมาย ตั้งแต่ราคาไม่กี่พันบาทไปราคาหลักหมื่นหลักแสนบาทต่อชื้นก็มีให้เห็น อุปกรณ์ปรับจูนอะคูสติกของห้องฟังเพลงเหล่านี้ หากเข้าใจถึงวิธีการใช้งาน วิธีการเล่น ส่วนใหญ่ผลออกมาในเชิงบวกที่ดี หากใช้ผิดที่ผิดทางหรือไม่เข้าใจวิธีการเล่น อาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดีก็มีให้เห็นไม่น้อย

บางห้องของนักเล่นฯ ตัดปัญหาในการลองผิดลองถูก โดยการเลือกที่จะทำห้องฟังเพลงมาตรฐาน จ้างบริษัทฯ มืออาชีพมาออกแบบและตกแต่งห้องให้สวยงาม พร้อมใส่อะคูสติกเข้าไปพร้อมทำการจูนเสียงก้องเสียงสะท้อน ฯลฯ ด้วยเครื่องมือวัดระยะระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผล พร้อมทั้งจูนเสียงด้วยหูจากนักฟังที่เซตอัพระดับมืออาชีพควบคู่กันไป สิ่งที่ได้ก็มีทั้งดีและเสียแตกต่างกันออกไป โดยการปรับอะคูสติกแบบบิวอินนั้น เมื่อเปลี่ยนลำโพงหรืออุปกรณ์ในชุด มักจะต้องปรับจูนอะคูสติกใหม่เข้าไปให้เหมาะสมกัน จึงมิใช่เรื่องง่ายในการปรับแต่งอคูสติคเพียงครั้งเดียวและยืนใช้งานไปตลอด
ว่าด้วยอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกของ ASC นั้น มีผลิตภัณฑ์มากมายหลายประเภท ส่วนใหญ่จะนำมาปรับแต่งอะคูสติกในรูปแบบเคลื่อนย้ายได้ หากนำไปทำบิวอินก็ยังสามารถทำได้เช่นกัน แต่ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในการใช้งาน อุปกรณ์ยอดฮิตในห้องนักเล่นฯ ของ ASC นั้น ประเภทท่อกลม TubeTrap ยังคงเป็นอุปกรณ์ชิ้นหลักที่นิยมใช้ และ Sound Panel เป็นอุปกรณ์ชิ้นรองที่ห้องนักเล่นในยุค 20-30 ปี รู้จักมักคุ้นและมีใช้ประจำห้อง ทั้ง 2 อุปกรณ์ดังกล่าว มีการกล่าวขานมายาวนาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปรับอะคูสติกชั้นดีที่ใช้แล้วยกออกจากห้องไม่ได้เลย (ลองหาข้อมูลในเว็บ ASC) ซึ่งในห้องผมเอง ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นห้องฟังเฉพาะ เป็นห้องฟังเพลงจากห้องที่อยู่อาศัย อุปกรณ์สองประเภทข้างต้นจึงอยู่ร่วมใช้งานมายาวนานและไม่คิดจะยกออกไปไหน

สำหรับวันนี้ ASC ยังมีอุปกรณ์ปรับแต่งอีกหลายประเภท สามารถนำไปใช้ปรับแต่งจูนห้องแบบผสมผสานข้ามยี่ห้อก็ยังได้ ผมได้ขอยืมอุปกรณ์ปรับอะคูสติกของ ASC แบบ Matrix มา 2 ชิ้น ซึ่งได้ร่วมใช้งานมาหลายจุดหลายตำแหน่ง และฟังผลโดยการเชตอัพพื้นฐานและใช้หูในการฟังพร้อมปรับจูน โดยมิได้นำไมโครโฟนจากเครื่องวัดเสียงใด ๆ มาอ่านค่า เพราะนี่คือการใช้งานจริงในห้องปกติที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องฟังเพลง
ต้องขอขอบคุณผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด ที่อนุเคราะห์ให้ยืมอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติก ASC ทั้ง 3 ประเภท (PACD, Matrix, Bastoni) เป็นเวลานาน เพื่อให้ได้ลองเล่นลองใช้งานจริง และนำบทความมาเล่าสู่กันฟัง

รูปลักษณ์และการใช้งาน
ASC Matrix Panel เป็นอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกที่มีขนาดกลาง มีขนาดใกล้เคียงกับ PCAD ซึ่งอุปกรณ์ปรับแต่งที่มีขนาดประมาณนี้ ต้องยอมรับว่าทำยาก ออกแบบยาก เพราะจุดสะท้อนเสียงมีพื้นที่และปริมาณมาก หากออกแบบและทดสอบมาไม่ดีพอ จะเสียมากกว่าได้ ตัว Matrix Panel ออกแบบให้แขวนผนัง ติดฝ้าเพดาน หรือ หากผนังห้องไม่อำนวยหรือการลองใช้งานเบื้องต้น สามารถตั้งพื้นเพื่อหาจุดตำแหน่งที่ต้องการ
Matrix Panel ตัวเฟรมออกแบบด้วยไม้โอ๊ค เป็นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขอบด้านบนและด้านล่าง ตัวเฟรมไม้โอ๊คเคลือบสีธรรมชาติไว้ทั้งกรอบ แผ่นไม้ชิ้นด้านบนและด้านล่างเท่ากันทั้งหมด ด้านหน้าของแผ่นชิ้นหน้าสุดเป็นผ้าที่ผู้ใช้สามารถเลือกสีได้ตามมาตรฐานทั้งหมด 7 สี และสั่งสีได้ตามต้องการ (ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอีกที)
ด้านหน้า Matrix ชั้นนอกสุดหุ้มด้วยผ้า ตัวผ้ายกสูงขึ้นจากกรอบ ด้านในหลังผ้าชิ้นนอกนี้วางวัสดุสะท้อนเสียงเป็นกลุ่มตามแถวตามแนว วัสดุชุดสะท้อนเสียงเป็นก้อนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าบนวัสดุแผ่นเรียบที่เจาะรูรองรับไว้ หลักการจูนก็ตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ ซึ่งดูเรียบง่าย แต่การออกแบบอุปกรณ์ประเภทนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผลลัพธ์จะออกมาได้ดังความต้องการของผู้ใช้งาน ด้านหลังผ้าทั้งหมดออกแบบวัสดุสำหรับซับเสียงและมีวัสดุชิ้นสะท้อนเสียง พร้อมออกแบบด้านหลังวัสดุชิ้นนี้ให้เป็นห้องสำหรับเก็บเสียงเพื่อปรับแต่งระยะเวลาของเสียงรวมถึงทางเดินของเสียง เพื่อหวังผลไทม์มิ่งของแต่ละความถี่ให้ปล่อยออกมาตามการออกแบบไว้ อีกทั้งมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดเสียงสะท้อนด้านหลังจุดนั่งฟังหรือแม้กระทั่งเพดาน เมื่อดูจากสเปกแล้ว Matrix Panel ออกแบบให้มีทั้งการซับเสียงและสะท้อนเสียงเฉกเช่นอุปกรณ์หลายประเภทของ ASC

ASC Matrix Panel มีขนาดให้เลือกใช้ทั้งหมด 2 ขนาด เลือกใช้ตามพื้นที่และการก้องสะท้อนของอุปกรณ์ภายในห้อง ในกล่องให้อุปกรณ์สำหรับติดตั้งเข้ากับผนังพร้อมคู่มือมาครบถ้วน การใช้งานจริง โดยการลองวางหาตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ด้านข้างลำโพง, ด้านหลังจุดนั่งฟัง สำหรับห้องฟังห้องนี้ มีระยะที่สั้น มีการสะท้อนเสียงด้านหลังมาก ตำแหน่งที่วางที่ดีที่สุดจึงเป็นตำแหน่งหลังจุดนั่งฟัง เมื่อได้ตำแหน่งแล้ว ให้ลองยกสูงจากพื้นทีละ10 ซม. จะถึงความสูงในระดับเวทีที่เหมาะสม และมีจุดสังเกตุในการวางว่าต้องนำด้านไหนขึ้นข้างบนด้านไหนลงพื้น (แตกต่างกันบ้าง) สำหรับคู่มือที่ ASC ให้มานั้น เป็นการปรับจูนเบื้องต้น การปรับจูนจริงในแต่ละห้องฟังมีความแตกต่างกันออกไป

อุปกรณ์สำหรับติดตั้งเข้ากับผนัง มีวัสดุอะลูมิเนียมลักษณะแบบตัว Z ยึดติดไว้ด้านหลังของ Matrix ทั้งหมด 2 ตัว ติดตั้งมาแล้วช่วงด้านบนของแผงหลัง ผู้ใช้งานหรือผู้ขายต้องนำโครงอะลูมิเนียมสำหรับยึดติดผนังด้วยสกรูทั้ง 2 ตัว ในตำแหน่งที่เซตอัพเบื้องต้นไว้แล้วจากการวาง เมื่อติดตั้งบาร์อะลูมิเนียมตัว Z กับผนังเรียบร้อยแล้ว จึงทำการยกพาแนล Matrix แขวนไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ สามารถปรับจูนได้และเลื่อนตำแหน่งได้
ASC Matrix Panel มีขนาดให้เลือก 24×24 นิ้ว และ 24×48 นิ้ว ตามลำดับ สำหรับขนาดที่ขอยืมมาลองใช้งานในครั้งนี้ มีขนาดกว้าง 24 นิ้ว สูง 48 นิ้ว สีน้ำตาลครีม ทั้งหมด 2 ชิ้น นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด โทร.062-551-2410, 0-2-102-1168

ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง
ASC Matrix Panel ทั้ง 2 ชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์ใหม่มาก อยู่ในกล่องแพ็กมาอย่างดี ตัวสีของกรอบไม้เป็นสีธรรมชาติ ส่วนสีของผ้าเป็นสีครีม ผมได้นำมาร่วมใช้งานกับชุดเครื่องเสียงประจำทีมีการปรับอะคูสติกมาบ้างแล้ว ชุดเครื่องเสียงที่ร่วมใช้งานพร้อมเบิร์นอินในครั้งนี้มีอยู่ 2 ชุด 2 ห้องหลักๆ ดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี Arcam : FMJ CD23 dCS Ring DAC Plus HDCD, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, อินทิเกรตแอมป์ Krell Audio : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc Respond : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL), จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน

สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Golden Reference (RCA) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1ม., สายลำโพง Cardas Cross รุ่นเก่าสีเขียว Bi-wire ขั้วต่อจากโรงงาน ยาว 3 ม., สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug)
ชุดที่ 2 ประกอบด้วย MacBook Pro/Auralic : Aeries Mini, MacBook Pro เล่นด้วยโปรแกรม Amarra Symphony+ไฟล์เพลงทั้ง DSF, DSD และ อื่นๆ, DAC Chip ESS Sabre ES9038Q2M DSD 512 ปรับฟิลเตอร์ระดับ 2, เครื่องเล่นแผ่นเสียง Roksan : Radius 5 พร้อมหัวเข็มและอาร์มของ Roksan NIMA, โฟโน Project : The Phono Box, เครื่องเล่นซีดี Ayre Acoustic : CX-7 Evolution, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, ปรีแอมป์ Audio Research : LS 3B, เพาเวอร์แอมป์ Classe Audio : CA 201, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก ตอกโลโก้โลหะทองเหลือง, ลำโพง PSB : Synchrony One B, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวาง Dyna Foot ทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น
สายสัญญาณดิจิทัล USB Cardas Audio Clear Hi-speed Topline 1 เมตร, สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Clear (XLR) ยาว 1.5 ม., สายลำโพง Cardas Clear Beyond Single-Wire ขั้วต่อก้ามปูใหญ่จากโรงงาน ยาว 2 ม. พร้อมจั๊มเพอร์ Cardas Clear, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord เข้าขั้ว Wattgate ทองรุ่นเก่าทั้งด้านขั้วตัวผู้และขั้วตัวเมียยาว 2.1 ม., สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Shunyata Research Anaconda Helix Alpha VX 15 Amp รุ่นท็อปในอดีตท่อหดสีแดงยาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate Audio : 381Classic รุ่นเก่า อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวนด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทิเกรตแอมป์

เครื่องเล่นแผ่นเสียงจัดวางบนชั้นวาง Target Audio B1+แผ่นไม้แท้ รองใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยไดนาฟุตสามลูก โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น, MacBook Pro วางบนก้อนอิฐ อิทธิเจ 4 ก้อน, เครื่องเล่นซีดี จัดวางบนชั้นวาง Target Audio : B1+แผ่นไม้แท้ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 4 ตัวรองรับสไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, อินทิเกรตแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of Silence Regular 1+แผ่นไม้ Solid Tech แท้รุ่นมีระดับน้ำ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 5 ตัว รองรับ สไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานฟอร์เมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้ 1 ก้อน และบริเวณโวลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้ 1 ก้อน
พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณและสายลำโพงด้วย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละ 2 ตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วย Solid Tech Bridge of Silence ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรทแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR-8 ทั้งหมด 8 จุด 8 ตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมด 4 แผง และปรับแต่งอะคูสติกเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมด 4 คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพง 2 คู่ ด้านข้างลำโพง 2 คู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ Hifi Club 1 คู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีก 1 คู่ วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ.จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้ง 3 ตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย, ขวาและกึ่งกลางอย่างละ 1 ตัว เอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนท์วางไว้กึ่งกลางแผงหลังอีกที ส่วนแผงด้านข้างทั้ง 2 แผง จูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง Hifi House) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-888 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้ และ ติดตั้ง ASC PCAD Panel ประกบไว้ข้างแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพงข้างซ้ายและข้างขวา โดยวางกับพื้นและยกลอยให้ความสูงด้านบนสูงจากพื้น 120 ซม. ASC Matrix Panel 2 เป้าหมาย วางหลังเก้าอี้จุดนั่งฟังทั้งสองแผ่น ลองสลับด้านบนและด้านล่างเน้นตำแหน่งที่ฟังได้ดีที่สุด

ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 ม. ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 ม. โทอินลำโพงไม่เกิน 20◦ โดยประมาณ (เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน
ผลการใช้งาน
ก่อนนำ ASC Matrix Panel เข้ามาใช้งานในห้องฟังประจำนั้น ในห้องฟังมีการปรับแต่งอะคูสติกไว้บ้างพอประมาณ ยังคงใช้งานอุปกรณ์ปรับแต่งควบคู่กันไป ทั้ง ASC Tubetrap, PCAD Panel ฯลฯ ส่วน Matrix Panel ได้ลองปรังแต่งในทุกด้านของห้องฟังและได้ตำแหน่งที่ผนังด้านหลังจุดนั่งฟัง ลำโพงสำหรับห้องฟังห้องนี้
ด้วยหลักการทำงานแบบสะท้อนเสียงและซับเสียงไว้ด้วยกัน การใช้งานในผลังด้านหลังจุดนั่งฟังที่มีระยะไม่มาก จึงเห็นผลได้เด่นชัดมาก ส่วนผนังรองด้านข้างลำโพงทั้งข้างซ้ายและข้างขวา เป็นตำแหน่งที่ใช้ปรับได้เป็นลำดับสองรองลงมา น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้ติดตั้งที่ฝ้าเพดานได้ ประเด็นนี้จึงขอไม่นำกล่าว การใช้งานในครั้งนี้พาแนล Matrix ทั้ง 2 ชิ้น จึงเลือกใช้ตำแหน่งการวางที่เหมาะสมที่สุดของห้องฟังห้องนี้
ด้วยคุณลักษณะของการทำงาน Matrix Panel ส่งผลดีมากในเรื่องตำแหน่งใกล้จุดนั่งฟัง ซึ่งห้องฟังห้องนี้มีระยะความยาวไม่มากนัก การนั่งใกล้ผนังหลังจุดนั่งฟังมากๆ นั้น จะทำให้เสียงสะท้อนกลับจากผนังมายังจุดนั่งฟังรวดเร็ว เสียงที่สะท้อนกลับมาก็ขึ้นอยู่กับผนังด้านหลังนั้นๆ ว่าเป็นวัสดุประเภทใด หลายห้องฟังได้ถูกดัดแปลงมาจากบ้านพักอาศัย จึงหลีกเลี่ยงได้ยากที่จะพบเจอทั้งผนังแข็งแบบปูนฉาบ, ผนังแบบกระจกบางส่วน ฯลฯ หรือมีส่วนสะท้อนที่มากกว่าซับเสียง หากสะท้อนมาเกินไป เสียงวิ่งเร็ว พุ่งใส่ จะเกิดความกร้าวแข็งและล้าหู หากวัสดุด้านหลังจุดนั่งฟังเป็นวัสดุซับเสียง ซับดูดเสียงมากเกินไป อาจเกิดภาวะไร้เสียงสะท้อนหรือเสียงตาย ทำให้สัมผัสความอึดอัดตามมา ซึ่งห้องฟังห้องนี้ จุดผนังด้านหลังจุดนั่งฟัง จะเป็นการสะท้อนเสียงมากกว่าการซับเสียง เริ่มจากสัมผัสของการฟังเพลงประจำดังนี้
น้ำเสียงเริ่มแรก สัมผัสได้เด่นชัด ลดความกร้าวแข็งของน้ำเสียงที่มีหางเสียงซิบๆ และแยงหูลงอย่างเห็นได้ชัด ให้ความเด่นชัดของตัวเสียงในแต่ละโน้ตดนตรีอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ตำแหน่งของชิ้นดนตรีแม่นยำเกลี้ยงเกลาและฟังได้ดังขึ้น หากปรับจูนแผงพาแนลในระดับความสูงที่ลงตัวของห้องฟังนั้นๆ เสียงจะราบรื่นและต่อเนื่องฟังได้ไม่ล้าหูและไม่อึดอัด ในการปรับจูน ควรวางพาแนล Matrix ให้ตั้งที่พื้นก่อน จึงค่อยๆ ยกระดับความสูง ทดลองฟังเสียง หาตำแหน่งที่ดี ที่วัดจากสมดุลเสียงทั้ง ทุ้ม กลาง แหลม เสมอสมานกัน จากแผ่นอ้างอิงที่ใช้เซ็ตอัพทั้งหลาย เมื่อได้ตำแหน่งที่สมดุลเสียงดีที่สุดแล้วนั้น จึงค่อยปรับจูนละเอียดอีกขั้น
พิจารณาด้านน้ำเสียงอีกครั้ง เสียงร้องเคลียร์และมีปริมาณของขนาดตัวเสียงที่เข้มข้น อิ่มขึ้น ให้ความอบอุ่นเล็กน้อย จังหวะจะโคนดีมากขึ้น ความต่อเนื่องของเสียงดี แจกแจงเสียงเล็กเสียงน้อยที่ไม่ค่อยได้ยินให้สัมผัสออกมาได้ชัดเจน คอนทรานสต์เด่นชัดมาก เสียงโดยรวมสัมผัสการแยกแยะได้ดีมากยิ่งขึ้น การใช้งานในช่วงชั่วโมงแรกนั้น หางเสียงที่มีเสียงแตกซิบๆ หายไปจากระบบ ซึ่งผมมั่นใจว่า เป็นผลการทำงานของ Matrix Panel 2 แผ่นนี้แน่นอน !!
นอกเหนือจากจุดเด่นในเรื่องคอนทราสต์แล้ว ในด้านการสะท้อนและซับเสียง แผ่ออกให้รูปวงโอ่โถง ขยายออกในแนวกว้างและลึกเด่นชัดขึ้น เสมือนได้นั่งฟังที่ชุดและห้องที่ใหญ่กว่า รูปวงสวยงามโอ่อ่าเด่นชัดเมื่อเทียบเคียงจากเดิมที่ไม่ได้ใช้ Matrix Panel รูปวงและชิ้นดนตรีภายในวงตรึงไว้แน่นสนิทแม่นยำ ส่งผลในด้านความสูงของเครื่องเป่าจำพวกแซกโซโฟน ให้ตำแหน่งในรูปวงที่สัมผัสได้ดีเยี่ยม เสียงแซกโซโฟนสุภาพ นวลเนียน ละเอียด สะอาด และยังมีความกังวานของตัวเสียง หางเสียงทอดตัวไปไกลและจางหายไปอย่างแผ่วเบา เสียงไม่เสียดแทงหู มาพร้อมกับบรรยากาศรอบตัวเสียงดีเยี่ยม [Arne Domnerus : Antiphone Blues/Proprius PRCD 7744]
พิจารณาด้านกว้างที่เคยเซตอัพในแบบเดิมที่ยังไม่มี Matrix เข้ามา ก็ขยายตัวออกไปจนสุดผนังทั้งสองข้างเป็นสัดส่วนสมดุลกับด้านลึกในระดับที่ดี เมื่อเทียบเคียงจากเดิม เราสามารถปรับให้กว้างหรือแคบได้อีกด้วย โดยจุดที่สมดุลสุด จะเน้นทั้งสามด้านให้เป็นสามมิติที่สัมพันธ์กัน ส่งผลให้ด้านลึกถอยหลังจากหน้าลำโพงลงไปประมาณหนึ่งแถว จากนั้นจัดระเบียบแถวที่สองและสามและแถวต่อๆ ไปด้วยระยะที่สมดุล เรียกว่าเล่นง่าย ปรับง่ายกว่าเดิมมาก และให้ผลที่ดีจากเดิมในทุกแง่มุมมาก อัลบั้ม [Postcards The Turtle Creek Chorale/RR-61CD] บ่งบอกประเด็นนี้ได้ดี สัมผัสความเป็นสามมิติของเสียงได้ดีเยี่ยม ประเด็นนี้ หากท่านยังไม่เคยลอง ผมเชื่อว่าท่านจะมีการตั้งคำถามในใจ แต่หากห้องฟังไหนได้เคยใช้งานชุดปรับปรุงอะคูติกยี่ห้อใดก็ตาม ท่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า ปรับตำแหน่งหลังจุดนั่งฟัง ส่งผลถึงเสียงที่ได้รับฟังตามที่กล่าวข้างต้นแน่นอน
กับอัลบั้มที่ฟังประจำ เพลงขับร้องประสานเสียงประเภทเพลงสวด [Now The Green Blade Riseth/Proprius PRCD 9093] มวลเสียงมีปริมาณที่ดีพร้อมทั้งคุณภาพของตัวเสียงที่สะอาด เคลียร์ ให้ความละเอียดและความกระจ่างใสของตัวเสียงดีขึ้นมาก ไม่มีการแต่งเติมสีสันและบุคลิกให้เบี่ยงเบนไปจากเดิม ให้น้ำหนักของจังหวะเริ่มแรกในการออกเสียง แบ่งแยกคอนทราสต์ได้หลายระดับยิ่งขึ้น ประเด็นนี้จับต้องได้แบบไม่ต้องเอียงหูฟัง พร้อมให้บรรยากาศอันสดใสเข้าร่วมในการนำเสนอ อีกทั้งจำแนกแยกแยะรายละเอียดทั้งหมดออกจากกันอย่างดีเยี่ยม ไล่ลำดับเสียงแผ่วเบาไปจรดเสียงดังอย่างละเอียดอ่อน โดยไม่เบี่ยงเบนเสียงต่างๆ ให้เสียงดนตรีที่ฟังผิดประเภทไป
พิจารณาความกังวานของเสียงเปียโนและเครื่องเคาะโลหะ ให้ความกังวาน ละเอียด เด่นชัด ไม่กร้าว พร้อมรายละเอียดในตัวเสียงแบ่งแยกออกมาครบครัน ตัวเสียงเคลียร์ชัดใส บรรยากาศรายล้อมตัวเสียงดีเยี่ยม นำเสนอออกมาให้ฟังได้เพลิดเพลิน ไร้สากเสี้ยนและไม่มีความแหลมคมสาดใส่ เสมือนเป็นเสียงการเคาะเปียโนอันกังวาลใหญ่ตรงเบื้องหน้า สะอาดเกลี้ยงเกลามาก [Art For The Ear/Burmester CD III] จังหวะแรกของเครื่องดนตรี ให้แรงปะทะของเสียงชัดเจน หางเสียงทอดตัวไปไกล ย้ำเน้นจังหวะแรกกระทบได้ดี ทำให้ตัวเสียงและบรรยากาศรายล้อมเด่นชัดแบบที่ไม่เสียดแทงหู หรือหางเสียงแตกให้สัมผัสเลยเมื่อเทียบจากเดิมที่ยังไม่เคยใช้แผ่น Matrix Panel
ถ้าพูดกันในเรื่องมิติและและเสียงเครื่องเคาะโลหะ [Dafos/Reference Recordings RR-12CD USA] แทร็กที่ 7 ที่ใช้งานประจำ ปกติยังมีเสียงพุ่งสาดใส่บ้าง หางเสียงยังไม่ละเอียด มีเสียงแตกในช่วงหางเสียงที่จะจางหายไป ครั้งนี้จำแนกแต่ละชิ้นดนตรีออกมาเด่นชัด ย้ำเน้นหัวโน้ตเด่นชัด สะอาด เสียงรอบตัวโน้ตฟังช่องไฟได้โดดเด่น ไม่ห้วนสั้น นำเสนอทั้งมิติ ตำแหน่ง ช่องไฟ ความสงัด ครบถ้วน เช่นเดียวกับเครื่องสายเครื่องสีต่างๆ [Art For The Ear/Burmester CD III] ถ่ายทอดออกมาด้วยความกังวานสดใส หางเสียงทอดตัวไปไกลและยาวนานตามจังหวะพร้อมเติมความอวบอิ่มขึ้น เสียงการบดขยี้ไวโอลินยังคงดุดัน หางเสียงเป็นอิสระต่อกัน ถ่ายทอดด้วยความต่อเนื่อง และมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แจกแจงออกมาให้สัมผัสได้ดี เครื่องดนตรีประเภทไวโอลิน วิโอล่า และเครื่องสายอื่นๆ ถ่ายทอดออกมาละเอียดละเมียดละมัย
บรรดาเครื่องสีและเครื่องสายในวงออเคสตรา ตัวเสียงมีความชัด อิ่มเอิบ ต่อเนื่อง หางเสียงทอดตัวยาวนานและทิ้งระยะไว้ตามจังหวะเวลาจึงค่อยๆ จางหายไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการขึ้นขอบคมแข็งของหางเสียง ให้ความกังวานแต่ไม่มีเสียงก้องสะท้อนแบบแอคโค่ [The Symphonic Sound Stage D/CD3502] รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงเด่นชัดจากเดิมไปอีกขั้น เสียงกีตาร์ในจังหวะตวัดนิ้วลงไปสะท้อนกลับมารวดเร็วพร้อมให้น้ำหนักในการตวัดมือส่งเสียงออกมาต่อเนื่อง จังหวะช้าและเร็วสามารถแบ่งแยกออกจากกันได้ดีเยี่ยม จำแนกไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่น [Livinton Tyler : Ink/Chesky Record JD162] ปลดปล่อยเสียงแผ่วเบาโดยไล่น้ำหนักเสียงให้ราบรื่นต่อเนื่อง เด่นมากกับความต่อเนื่องของเสียงและการจางหายไปอย่างราบรื่น

พิจารณาเพลงขับร้องจาก [Clair Marlo : Let It Go Sheffield Lab CD29] เสียงขับร้องไพเราะ ออดอ้อนมีลีลา มีขนาดของเสียงตามสัดส่วนสมดุล บรรยากาศรอบตัวเสียงสัมผัสได้ดีเยี่ยม มีชีวิตชีวาในการขับร้อง ขับร้องออกมาด้วยลีลาและเน้นความต่อเนื่องของเสียง ให้รายละเอียดของการขับร้องเด่นชัดเกลี้ยงเกลา เป็นเสียงที่ให้ความเพลิดเพลินในการฟัง ไล่เรียงลำดับเสียงตั้งแต่หัวเสียง ตัวเสียงและหางเสียง ตามท่วงทำนองให้ต่อเนื่องกัน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ละแถวเด่นชัด อัลบั้ม [Snow Rose Ax-SN04.01] ถ่ายทอดอารมณ์ในการนำเสนอออกมาดีมาก หางเสียงที่มีอาการซิบๆ ลดน้อยและกลมกลืนต่อเนื่อง สัมผัสได้ตามการบันทึกมาของแผ่น ตัวเสียงชัดเจนสะอาดเกลี้ยงเกลาพร้อมความเข้มข้นอยู่เสมอ ให้ความเป็นดนตรีแบบเพลิดเพลินและสะอาดมาก
เสียงขับร้องอัลบั้มยอดนิยม [Famous Blue Raincoat/Jennifer Warnes Private Music] เสียงขับร้องสะอาด แก้วเสียงใสอุดมไปด้วยความหวานอยู่ตลอด ให้บรรยากาศดีเยี่ยม บรรยากาศนำเสนอมาพร้อมกับรายละเอียดของชิ้นดนตรี ฟังได้ไพเราะเพลิดเพลิน ไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่นมากขึ้น การผ่อนหนักผ่อนเบาของเสียงขับร้องรวมไปถึงเสียงลมหายใจ สัมผัสได้ดีจากเดิมโดยให้ความสมดุลกลมกลืนกัน เช่นเดียวกับอัลบั้มขับร้องของ [Amanda Mcbroom : Dreming/Gecko Record] ให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงได้โดดเด่นมากขึ้น หางเสียงทอดตัวได้ยาวจึงค่อยๆ จางหาย ให้น้ำหนัก ผ่อนหนักผ่อนเบาได้ดี เนื้อเสียงย่านกลางทุ้มไปจรดทุ้มลึกมีความสมดุลกัน
เสียงขับร้องของนักร้องชายแทร็ก 6 อัลบั้ม [Art For The Ear/Burmester CD III] เสียงขับร้องให้มวลเสียงได้ดีขึ้น น้ำหนักเสียงเด่นชัด การร้องประสานเสียงแยกแยะอิสระดีมาก ระดับเสียงของนักร้องทั้งหมดแม่นยำ หางเสียงจากการขับร้องจางหายไปอย่างราบรื่น การสไลด์สายกีตาร์และการรูดสายกีตาร์แยกแยะคอนทราสต์ได้โดดเด่นยิ่งขึ้น เปิดเผยลีลาโดยย้ำเน้นความหนักเบา ความอ่อนแก่ของการเล่นกีตาร์ได้เพลิดเพลิน รายละเอียดของแต่ละเสียงในแถวถัดไปไล่ลำดับและความชัดได้ดี เช่นเดียวเสียงขับร้อง [Livinton Tyler : Ink/Chesky Record JD162] ตัวเสียงขับร้องกังวานและชัดเจน สเกลเสียงเครื่องดนตรีสมดุลกลมกลืนกัน ตัวเสียงเด่นชัดหลุดลอยแยกออกจากพื้นเสียง ให้บรรยากาศห้อมล้อมอยู่ต่อเนื่อง การกำหนดลมหายใจเข้าออกสัมผัสได้ดีขึ้นมาก เสียงแผ่วเบาและเสียงสวิงดังขึ้นนำเสนอมาต่อเนื่อง ชี้ชัดเรื่องไดนามิกส์คอนทราสต์ได้ยอดเยี่ยมมาก
เสียงดับเบิลเบสของอัลบั้ม [The Raven/Rebecca Pidgeon Chesky Records JD115] ให้มวลเสียงสมดุลมากขึ้น เนื้อเสียงเป็นกลุ่มก้อน ย้ำเน้นหัวเสียง ทำหน้าที่เก็บเนื้อเสียงไว้แล้วปล่อยออกมาตามเวลาที่ Matrix จูนไว้ เนื้อเสียงไม่บวมใหญ่ ควบรวมให้เป็นกลุ่มก้อนหนักแน่น การเล่นดับเบิ้ลเบสสอดคล้องกับเสียงขับร้องกลมกลึงกันและควบแน่นกระแทกกระทั้นระหว่างตัวเสียงกับเสียงย่านอื่น เบสสะอาด เสียงเดินเบสในแต่ละเส้นให้จังหวะสอดคล้องกับเปียโนและเครื่องเคาะ ตัวเสียงเคลียร์มาก หางเสียงแต่ละตัวหลุดลอยไม่ปะปนกัน ช่องว่างช่องไฟยิ่งโดดเด่น ไม่มีการซ้อนทับบดบังกัน ในจังหวะที่ตัวโน๊ตเงียบก็เงียบสนิทจนสามารถแสดงความสะอาดของพื้นเสียงได้อย่างเด่นชัด
อัลบั้มอ้างอิง [Rain Forest Dream/Saydisc CD-SDL384] เสียงแรกกระทบทุกจังหวะของการหวดไม้กลองลงไปกระชับกลมกลึงควบแน่นเด็ดขาด ไม่บาง การหวดไม้กลองในจังหวะแรกเฉียบขาดรุนแรงต่อเนื่อง ให้แรงปะทะแรกดีเยี่ยม เสียงกลองใบใหญ่จาก [Ultimate Reference CD/Wilson Audio WA8008] เสียงหนังกลองตึงกำลังดี มีเสียงสะท้อนจากเสียงแรกกระทบออกมาให้สัมผัสได้ดีและไม่ก้องสะท้อนหรือห้วนสั้น เสียงทุ้มกลมกลึงให้ความสมดุลของย่านเสียงทุ้มนี้กับย่านเสียงอื่นๆ ได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น ตำแหน่งนั่งฟัง่เรียกว่า ฟังอะไรก็ดีก็ไพเราะไปหมด ให้ความเป็นดนตรี ด้วยการสะท้อนและการซับเสียงที่ถูกออกแบบและวิจัยมา ทำให้การปรับแต่งตำแหน่งต่างๆ มีผลโดยรวมต่อเสียงที่กำลังฟังได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นก็ต้องพึ่งพา การฟังให้เป็นระดับหนึ่งเพื่อที่จะสามารถหาตำแหน่งที่ลงตัว ทั้งความสูงและตำแหน่งการติดตั้งแผ่น Matrix ของห้องฟังนั้นๆ
เสียงทุ้มจากเหล่าเครื่องดนตรีไม้ ทั้งเสียงแรกกระทบและเสียงสะท้อน สัมผัสได้อย่างง่ายดาย ยังคงนำเสนอเสียงให้เสมือนเสียงเคาะไม้เช่นเดิม เพิ่มเติมด้วยรายละเอียดของตัวเสียง เนื้อเสียง และหางเสียงที่ถูกเรียบเรียงให้เป็นระเบียบระบบและสุภาพ เนื้อเสียงเกลี้ยงเกลา พื้นเสียงสะอาด มีความสงัดเพิ่มมากขึ้น จึงสัมผัสรายละเอียดทั้งเล็กและใหญ่ได้ดีเยี่ยม เมื่อพิจารณาด้านคุณภาพที่อุปกรณ์ Matrix สามารถปรับจูนเสียงได้มากเท่านี้ เสียงต่างถูกขับดันออกมา จนครบถ้วน มากด้วยรายละเอียดเนื้อหา ทั้งหัวโน้ต ตำแหน่ง น้ำหนัก มันสามารถสร้างเสียงดนตรีให้เข้าถึงเบื้องลึกของการฟังได้เพลิดเพลินและต่อเนื่อง แม้ราคาค่างวดชุดที่ใช้งานจะมีราคาไม่สูงเกินไป
Matrix มีผลโดยตรงกับเรื่องซับสะท้อนเสียง เน้นความต่อเนื่องและการจางหายของเสียงให้ราบรื่น อีกทั้งลดการสะท้อนของหางเสียงที่ไม่เป็นระเบียบ เมื่อเป็นเช่นนี้ การพิจารณาจังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้อัลบั้มเดิม [Take’Dake’ with Neptune/Aisian Roots Denon USA] ยังคงแจกแจงการเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้มีจังหวะต่อเนื่อง ไม่มีปะปนกันของเสียง จำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาด้วยความรวดเร็ว ให้เสียงสะท้อนจากการเคาะ การเป่า กับแทร็กที่ 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik Wie Von Einem Anderen Stern/Manger] ตัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงไม่ปะปนกัน แยกแยะมิติตำแหน่งของแต่ละเสียงให้เด่นชัดออกมาเป็นอิสระต่อกันพร้อมจางหายไปอย่างราบรื่น ฟังได้ยาวนานด้วยความเพลิดเพลินพร้อมจังหวะจะโคนต่อเนื่อง ยิ่งฟังนานๆยิ่งเกิดความสนุกสนานไปพร้อมกับจังหวะของการถ่ายทอด
แนวเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง แทร็ก 7 อัลบั้ม [Art For The/Ear Burmester CD III] ขับขานออกมาด้วยจังหวะที่ดี ตำแหน่งชัดเจน ขนาดของเสียงแต่ละตำแหน่งให้ความสมดุลกันมากยิ่งขึ้น เต็มวงเต็มพื้นที่ ช่วงโหมโรงขึ้นไปไม่มีเสียงฟุ้งปะปนกัน ทุกช่วงของการกำหนดลมหายใจนำเสนอออกมาให้ได้ยินด้วยความละเอียดสุภาพและชัดใส แนวเพลงดนตรีมากชิ้นสลับซับซ้อนตอบสนองจำแนกได้ต่อเนื่องยอดเยี่ยม เกรนเสียงละเอียดทำให้ฟังได้ยาวนานและสร้างความเป็นดนตรีได้ดี จำแนกแยกแยะแต่ละแถวได้เด็ดขาด วางชิ้นดนตรีนับร้อยให้มีตำแหน่งและตรึงไว้แน่นสนิทมาก เมื่อเทียบจากเดิมที่ไม่ได้นำ Matrix มาปรับจูนผนังจุดหลังนั่งฟัง
สุดท้ายกับบทเพลงไทยอัลบั้มหลากหลายศิลปิน ซึ่งแต่เดิมฟังได้ดีพอประมาณ เมื่อปรับจูนด้วย Matrix Panel แล้ว ใส่อัลบั้มไหนเข้าไปก็ฟังได้ครบอัลบั้มอย่างไพเราะมาก หากเป็นเพลงร้องก็ออดอ้อนพิรี้พิไร หวานใสไพเราะ สะอาด หากเป็นแนวเพลงที่เครื่องดนตรีมากชิ้นหน่อย แยกแยะออกมาอิสระ บรรเลงด้วยความหวานกังวานใสไพเราะเพลิดเพลิน ให้รายละเอียดได้ดี เน้นเรื่องบรรยากาศและความต่อเนื่องของการถ่ายทอดทางด้านอารมณ์ของดนตรี เสียงที่ได้รับ สร้างความประทับใจและยากยิ่งที่จะเลิกใช้ชุดปรับอะคูสติก ASC Matrix Panel เพราะเคยยกออกไปจากห้องฟังแล้ว ต้องปรับจูนกันยกใหญ่ ที่สำคัญ ยังไม่สามารถสัมผัสเสียงที่กล่าวมาจากผลการลองฟังข้างต้นได้เลย
บทสรุป
ชุดเครื่องเสียง ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเครื่องเล่นหลัก บ้างก็ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เสริม ทั้งสายไฟฟ้า สายเชื่อมต่อ และ อุปกรณ์วางทับ ฯลฯ ทุกอย่างในชุด ล้วนเป็นองค์ประกอบรวม หากทุกอย่างปรับปรุง แมตชิ่งกันลงตัวแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการปรับแต่งอะคูสติกของชุดฟังเพลง ซึ่งปัจจุบัน การฟังเพลงในห้องทั่วไป ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเป็นห้องฟังเพลงโดยเฉพาะ ใช้ที่อยู่อาศัยจริงในการฟังเพลง อุปกรณ์ปรับอะคูสติกจึงจำเป็นมาก หากต้องการยกระดับการฟังเพลงหรือรีดประสิทธิภาพของชุดฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น อุปกรณ์จูนห้องเหล่านี้ จึงมีบทบาทในการยกระดับและเติมเต็มชุดฟังเพลง ซึ่งมีราคาตั้งแต่ไม่กี่หมื่นบาทไปยันชุดฟังเพลงระดับอัลตราไฮเอนด์หลักล้านบาทกันเลยทีเดียว
อีกทั้งห้องฟังที่ดัดแปลงจากบ้านพักอาศัยในปัจจุบันนั้น มีขนาดไม่ใหญ่และมีการก้องการสะท้อนของเสียงอยู่มาก มีผนังที่ใช้วัสดุแตกต่างกัน มีปัจจัยในแง่การซับเสียงและสะท้อนเสียงแตกต่างกัน ครั้นจะออกแบบห้องใหม่ ขนาดและสัดส่วนของตัวบ้านก็ไม่ลงตัวตามสเปกตามแบบที่จะได้ห้องฟังดีๆ สักห้อง การใช้อุปกรณ์ปรับจูนเสียงสะท้อนและซับเสียงจากห้องฟังนั้น จึงเป็นการลงทุนที่สะดวกและใช้งบประมาณสมเหตุสมผล แต่หากใช้ผิดแบบ เลือกผิดประเภท วางไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ควร อาจกลายเป็นเสียมากกว่าได้ก็เป็นได้เช่นกัน

สำหรับ ASC Matrix Panel ช่วยปรับปรุงสภาพอะคูสติกของห้องฟัง ทำหน้าที่ทั้งซับและสะท้อนเสียง มันคืออุปกรณ์ชั้นดีอีกหนึ่งประเภท ยิ่งจุดนั่งฟังกับผนังหลังมีระยะห่างไม่มาก และมีการสะท้อนเสียงเสียดแทงหู Maxtrix ปรับจูนได้ยอดเยี่ยมมาก สัมผัสเสียงที่ได้ยินและความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทันที ทั้งรายละเอียดเสียงแผ่วเบา สัมผัสได้ต่อเนื่อง คอนทราสต์ดีเยี่ยมมากๆ และยังคงปลดปล่อยเนื้อเสียงกลางออกมาได้เข้มข้นขึ้น อันที่จริง ยังมีอุปกรณ์ปรับแต่อะคูสติกของ ASC อีกหนึ่งรายการที่ร่วมใช้อยู่ด้วย แต่เพื่อเป็นการทดสอบความเปลี่ยนแปลงจากการใช้ ASC Matrix เป็นตัวหลักแล้ว อุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นคือ ASC Bastoni จะกล่าวในบทความต่อไป
หากชุดเครื่องเสียงหลักของท่าน จัดชุดได้ค่อนข้างลงตัวและไม่ขยับปรับเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ อีกทั้งห้องในบ้านได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องฟังเพลง ระยะนั่งฟังห่างผนังหลังไม่มากนัก ห้องมีชิ้นส่วนผนังแข็งที่สะท้อนเสียงหลายด้าน การจัดหาอุปกรณ์ปรับปรุงอะคูสติกมาร่วมใช้งานในชุด จากชุดที่เคยสัมผัสได้ดีอยู่แล้ว ท่านจะยิ่งสัมผัสความต่อเนื่องของเสียง เนื้อเสียง หางเสียงอันราบรื่น รูปวง คอนทรานสต์ ที่โดดเด่นอย่างไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าตัดสินใจเลือกใช้งานจริง ASC Matrix Panel เป็นอุปกรณ์ปรับอะคูสติกห้องฟังในระดับหัวแถว ที่ราคาสมเหตุสมผล แต่เมื่อนำมาใช้ในห้องแล้ว ยากยิ่งนักที่จะยกออกไป “bluebirdu11” Recommend !!!
• รูปลักษณ์ : ★★★★★
• ความสะดวก : ★★★★★
• คุณภาพเสียง : ★★★★★
• ความคุ้มค่า : ★★★★★
คะแนนโดยรวม : ★★★★★
ขอขอบคุณ : บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด โทร.0-2611-4809 ที่อนุเคราะห์ ASC Matrix Panel สำหรับในการทดสอบงานในครั้งนี้
________________