Test Report: Van Damme Blue Series Studio Grade Speaker Cable

0

Test Report: Van Damme Blue Series Studio Grade Speaker Cable

สมรรถนะที่ห่างชั้นจากระดับราคา-มากกว่ามาก อย่างกับได้เปล่า …ก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายแพง (กว่า) กันไปทำไม !!!

มงคล อ่วมเรืองศรี

101938-UKHDMI-5-GB 

สำหรับบ้านเรา “Van Damme” เพิ่งจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายกันในช่วงปีนี้เอง แต่ชื่อเสียงของ Van Damme ในต่างประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งในแดนดินถิ่นกำเนิด -สหราชอาณาจักร- นั้นโด่งดังต่อเนื่องมากกว่า 2 ทศวรรษแล้ว นับเป็นแบรนด์หนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในแวดวงของสายสารพัดประเภท (cables) ครอบคลุมเกือบจะทุกตลาดแทบจะทุกเป้าประสงค์ของการใช้งานก็ว่าได้ ไล่เรียงตั้งแต่ Marine, Street, Musician, Industrial, Medical และ Home

เมื่อแรกที่ได้รับการแนะนำ “Van Damme” ให้ได้รู้จัก ยอมรับครับว่า ไม่ได้คิดเลย จะมี “สาย” แบรนด์นี้อยู่จริงๆ กลับนึกไปถึงชื่อดาราดังชาวเบลเยี่ยม ‘Jean-Claude Van Damme ‘ เสียด้วยซ้ำ… คุณโจ้ แห่ง SoundBox (Thailand) บอกกับผมว่า สายยี่ห้อดีมากๆนะครับ แต่กลับไม่แพงเลย แม้แต่ห้องบันทึกเสียงดังๆอันดับหนึ่งของโลก ‘Abbey Road Studios’ ยังเลือกใช้สายของแบรนด์นี้ล้วนๆ ‘Abbey Road Studio 52’ นั้นนับเป็น production room ดั้งเดิมของ Abbey Road Studio ที่เพิ่งจะได้ทำการปรับเปลี่ยน console ใหม่เข้าไปติดตั้งใช้งานทดแทนของเดิม พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการ “ถอดรื้อ” การเดินสายฯภายในเดิมทั้งหมดออกด้วยเช่นกัน และหันมาใช้สายของ “Van Damme” เข้าไป wiring ใหม่ล้วนๆ

ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่เพียงแค่ Abbey Road Studios เท่านั้น BBC, ITN, CNN, Bloomberg, Fox, Sky เหล่านี้ก็ล้วนเป็น “ส่วนหนึ่ง” ในลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ‘เฉพาะด้าน’ ของ Van Damme อยู่ทั้งนั้น แม้กระทั่ง classic car ชั้นนำอย่าง ‘Aston Martin’ ก็ยังเลือกใช้สายฯของ “Van Damme” เข้าไปติดตั้ง-ใช้งานในรุ่น DBS เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งได้เคยปรากฏโฉมอยู่หลายครั้งในภาพยนตร์เรื่อง James Bond ทั้งนี้ทาง “คุณโจ้” สั่งนำเข้า “Van Damme” มาเฉพาะสายในกลุ่ม Home แต่ก็ครอบคลุมทั้งประเภทสายสัญญาณและสายลำโพง ซึ่งทุกรุ่นที่ได้สั่งเข้ามาจำหน่ายล้วนอยู่ภายใต้ระดับราคาเพียงแค่หลักพัน… เท่านั้น อย่างเก่งรุ่นสูงสุดก็เพียงแค่หลักพันปลายๆ หากแต่ว่าสมรรถนะและคุณภาพเสียงนั้น ยืนยันได้ว่า “เกินกว่าราคา” ชนิดไม่น่าเชื่อ อลังการจริงๆครับ รับรอง – “คุณโจ้” ยืนยันกับผม

“Van Damme” นับเป็นบริษัทผู้ผลิตสายคุณภาพสูงชนิดต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ใช้เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามาพัฒนาเทคนิคการผลิต “UP LC-OFC” (Ultra Pure Linear Crystal Oxygen Free Copper) และถือได้ว่า เป็นเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีพัฒนาการเฉพาะด้านในการ “ผสม” สสาร หรือ วัตถุธาตุบางชนิดผนวกเสริมเข้าไปกับเนื้อตัวนำ –ทองแดงค่าบริสุทธิ์สูงยิ่ง

ยวด- หรือ UP LC-OFC นี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณสมบัติที่พิเศษ เหมาะเจาะกับการใช้งานในประเภทนั้นๆอย่างที่ต้องการ อาทิ CARBON, ZIRCONIUM, BERYLLIUM เป็นต้น

…อันว่า วัตถุธาตุโลหะทุกชนิดนั้น ล้วนมีสิ่งเจือปนผสมรวมอยู่ในเนื้อโลหะกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นออกซิเจน, กำมะถัน, พลวง, สารหนู และอีกสารพัด ซึ่งสิ่งเจือปนเหล่านี้เรียกกันว่า “มลทิน” หรือ impurity จะมีมากบ้าง-น้อยบ้างก็แล้วแต่แหล่งหรือบริเวณที่ขุดพบ จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอน “การถลุงแร่” เพื่อขจัดเอา “มลทิน” หรือ สิ่งเจือปนที่แทรกตัวอยู่ในสินแร่นั้นๆออกไป เพื่อทำให้สินแร่นั้นๆมีความบริสุทธิ์ของเนื้อโลหะให้ได้มากขึ้น เทคโนโลยีของการถลุงแร่ถูกพัฒนาก้าวหน้าเป็นลำดับ ทำให้ได้เนื้อโลหะที่มีความบริสุทธิ์ หรือ purity ที่สูงยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้น จนมาถึงขั้นระดับที่เรียกได้ว่า “ค่าบริสุทธิ์สูงยิ่งยวด” หรือ Ultra Purity ในปัจจุบัน และสำหรับ “Van Damme” แล้วไซร้ ยังพัฒนาไปสู่เนื้อทองแดงค่าบริสุทธิ์สูงยิ่งยวดแบบ “ผลึกเดี่ยว” หรือ Linear Crystal อีกด้วย

315c6b55083b02d14a6d583f616b8f8b.image.1024x682

การได้มาซึ่งเนื้อตัวนำที่เป็นทองแดงค่าความบริสุทธิ์สูงยิ่งยวดควบคู่กับการเป็นเนื้อทองแดงแบบผลึกเดี่ยวนั้น ส่งผลดีต่อการนำ-พาสัญญาณโดยตรง เนื่องเพราะว่าหากมีสิ่งเจือปนแทรกตัวอยู่ในเนื้อตัวนำ เจ้าวัสดุเจือปนนั้นก็จะแทรกตัวขวาง-คั่นอยู่ระหว่างช่วงต่อของผลึกสสารที่เป็นเนื้อตัวนำนั้นๆ ทำให้อิเล็กตรอน-ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณไฟฟ้า (signal) หรือว่า กระแสไฟฟ้า (electric power) เคลื่อนที่ (ไหล) ผ่านในเนื้อตัวนำนั้นๆได้ลำบาก ต้องมีการ “กระโดดข้าม” (jump) ตรงช่วงรอยต่อของเนื้อตัวนำกับสิ่งเจือปนที่คั่น-ขวางอยู่

ซึ่งเมื่อเป็น Ultra Pure Linear Crystal Oxygen Free Copper ก็ย่อมที่จะส่งผลให้การ “กระโดดข้าม” ของอิเล็กตรอนนั้น –น้อยลงมาก- อาจถึงขั้นไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เพราะสามารถเคลื่อนที่ หรือ ไหลผ่านเนื้อตัวนำทองแดงความบริสุทธิ์สูงยิ่งยวดนั้นได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง ไม่สะดุด-หยุดเป็นช่วงๆตรงรอยต่อของมลทินกับเนื้อตัวนำ และหากเป็นเนื้อตัวนำที่เป็นประเภท “ผลึกเดี่ยว” ด้วยแล้วไซร้ อิเล็กตรอนก็จักสามารถเคลื่อนที่ “พุ่ง” ผ่านเนื้อตัวนำได้อย่างกับรถไฟความเร็วสูง… นำ-พามาซึ่งสัญญาณที่ราบเรียบมากๆ รายละเอียดต่างๆก็ไม่ถูกลดทอน-สูญหายไป ค่าเฟสสัญญาณก็ไม่แปรผัน-ผิดเพี้ยนไป …อะไรต่อมิอะไรในสัญญาณต้นฉบับก็จักสมบูรณ์ครบถ้วนด้วยประการฉะนี้

101938-UKHDMI-6-GB

คุณลักษณ์

สายสัญญาณและสายลำโพงในกลุ่ม Home นี้มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น แต่รุ่นที่ผมได้รับจาก “คุณโจ้” มาเข้ารายการทดสอบถือเป็นประเภทสายลำโพงซี่รี่ส์สูงสุดของ “Van Damme” นั่นคือ -Blue Series Studio Grade- ที่มีจุดเด่นในความเป็นสายลำโพงแบบ 2 core twin-axial หรือแบบ แกนร่วม 2 เส้น ซึ่งใช้ UP LC-OFC เป็นตัวนำแต่ละเส้นภายในสาย โดยเจ้า Blue Series Studio Grade ที่ผมได้รับมานั้นเป็นรุ่นรองท็อป ‘4.00 mm’ (สำหรับรุ่นท็อปสุดนั้นจะเป็น 6.00 mm ส่วนรุ่นรองลงไปจาก 4.00 mm ก็จะเป็น 2.50mm, 1.50mm และ 0.75mm ที่นับเป็นรุ่นเล็กสุด)

ซึ่งตัวนำในแต่ละเส้นนั้นใช้วัสดุ ‘UP LC-OFC’ ขนาดหน้าตัด 0.15 มม.จำนวน 227 เส้นตีเกลียวอยู่ภายใน (เป็นตัวนำแบบสายฝอย -strand) และใช้วัสดุ PVC เป็นฉนวนหุ้มห่อตัวนำแต่ละเส้นไว้ จากนั้นจึงใช้วัสดุ PVC composite สีเขียวอมฟ้า (sapphire blue) มาใช้เป็นฉนวนห่อหุ้มสายด้านนอก (jacket) ไว้อีกชั้น ทำให้ Blue Series Studio Grade รุ่น ‘4.00 mm’ นี้มีขนาดหน้าตัด (เส้นผ่านศูนย์กลางตัวสาย) โดยรวมอยู่ที่ 12.40 มม. ในขณะที่ตัวเลขค่าความต้านทานนั่นอยู่ที่ระดับเพียงแค่ 4.60 โอห์ม/กิโลเมตร ….ใช่แล้วครับ ไม่ผิด – โอห์มต่อกิโลเมตร …ต่ำมากๆจริงๆครับ

61FEr9it1cL._SL1000_

คุณภาพการรับฟัง

Van Damme ‘Blue Series Studio Grade’ ถือว่า โดดเด่นมากในการ “นำเสนอ” สรรพเสียง ที่แต่ละเสียงให้ความกลมมนเป็นตัวเป็นตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรีที่กำลังรับฟัง ทั้งยังให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมา -อย่างมีชีวิตชีวาและลมหายใจ… แม้กระทั่งการออกเสียงอักขระที่นักร้องเปล่งออกมานั้นก็แจ่มชัด “น่าทึ่งมาก” ให้ความสมจริงอย่างในธรรมชาติอย่างที่เราได้ยินได้ฟัง ดุจดั่งการเปล่งเสียงของคนเราจริงๆกระนั้น …ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม ให้ความรื่นรมย์ ยิ่งฟังยิ่งติดหู

ที่สำคัญยังให้การรับรู้ถึง “สภาพบรรยากาศเสียง” ที่ถูกส่งมอบออกมา การรับฟังสรรพเสียงจึงมีความเป็นธรรมชาติอย่างสมจริงสมจัง สุ้มเสียงโดยรวมให้ความนวลนุ่ม อิ่มฉ่ำ ไร้ซึ่งความสากกร้าน กระด้าง ระคายหู ทั้งยังสามารถดำรงไว้ซึ่งรายละเอียดเสียงต่างๆในสัญญาณต้นฉบับไว้อย่างดี มีความแจ่มแจ้ง-ชัดเจนของทรานเชี้ยน รวมถึงความฉับพลันทันใดในไดนามิกเสียง เสียงแต่ละเสียงมีน้ำหนัก มีเรี่ยวแรงปะทะ – ไม่ลอยเวิ้งว้าง ให้ทิศทางที่มาหรือตำแหน่งแห่งที่ของเสียงแต่ละเสียงที่แน่นอน ระบุได้ชัดเจน แม้ในเสียงที่เกิดขึ้นแทรกซ้อนพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถจับตำแหน่งของแต่ละเสียงนั้นได้ ไม่ถูกเบียดบัง-กลบกลืน-จมตัวไป

Van Damme ‘Blue Series Studio Grade’ ให้ความเปิดโปร่งเป็นอย่างมาก จนสามารถรับฟังได้ถึงรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อย ที่แม้จะแผ่วเบาแต่ก็ชัดเจน ลอยเด่นออกมา และยังคงไว้ซึ่งความสะอาด สดใส แจ่มชัด โดยที่มิได้รู้สึกอึดอัดรำคาญ หรือ แยงหูแต่อย่างใด ในขณะที่น้ำหนัก-ความกระแทกกระทั้นนั้นรับรู้ได้ชนิดน่าพอใจ ทั้งยังให้ความกระชับ กระฉับกระเฉงในจังหวะจะโคน, แอมเบี้ยนซ์ที่แจ่มชัด มิใช่ประเภท “ฉับไวแต่ไร้น้ำหนัก” ฟังแล้วบ้องแบ๊ว….ไร้ความมันส์ในอารมณ์

ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังจาก Van Damme ‘Blue Series Studio Grade’ ทั้งแผ่ใหญ่ และ รุกเร้า-กระชับฉับไว ให้จังหวะจะโคนที่แม่นยำ พร้อมด้วยความเต็มอิ่มใน “น้ำหนักเสียง” บ่งบอกสภาพความมีทรวดมีทรงของทุกสรรพเสียง ควบคู่กับ “เนื้อเสียง” ที่ให้ความนวลเนียน ละเมียด ละมุน ละไมยิ่งกว่าที่เคย ทั้งยังถ่ายทอดความฉับไวในการส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆน้อยๆ และในสรรพสำเนียงเสียงต่างๆที่รับฟังนั้นก็ล้วน “เด่นลอย” ออกมาอย่างมีตัวตน และมีอาณาบริเวณเสียงที่เป็นอิสระไม่ซ้อนทับปนเปกัน เสียงทุกเสียงมีความสดใส – สว่าง “โปร่งกระจ่าง” ขึ้นกว่าธรรมดา

เช่นเดียวกับการบ่งบอกสภาพบรรยากาศ (atmosphere) ก็เรียกได้ว่าอบอวลมากขึ้น ให้ความเป็น 3 มิติที่รู้สึกรับรู้ได้สมจริงมาก จินตภาพเสียง (image) รับรู้ได้เป็นจุดๆ ผุดโผล่จากตรงนั้นตรงนี้ ให้สภาพความเป็นเวทีเสียงกว้างใหญ่อยู่หลังแนวตั้งวางลำโพงเป็นแถว-ชั้น เหลื่อม-ลึกเข้าไป ไม่ล้ำหน้าออกมา ทั้งยังรับฟังสรรพเสียงได้อย่างมีตัวมีตนมีลมหายใจ ฟังสบายให้ความหลุดลอยตัวของเสียง พร้อมด้วยความสด-สะอาด ‘มากขึ้น’ ฟังสบายหูกว่าที่เคยคุ้น

ยิ่งได้ปล่อยผ่านกาลเวลาให้ซึมซับรับความเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งพบความน่าเสน่หาในน้ำเสียงที่ Van Damme ‘Blue Series Studio Grade’ ส่งมอบออกมา –ยืนยัน- ได้ว่าเป็นลักษณะเสียงที่ให้ “ความหนา” ในตัวตนของเสียงอย่างมีมิติ แบบเดียวกับที่เรา-ท่านจะรับรู้ได้เมื่อรับฟังการแสดงดนตรีจริงๆ มันเป็นลักษณะเสียงที่มี “วิญญาณ” เสริมแทรกอยู่ในทุกตัวตนของสรรพเสียงที่รับฟัง แต่ละเสียงนั้นผุดโผล่อย่างลอยล่องออกมาจากเวทีเสียงตรงนั้นตรงนี้อย่างมีอาณาบริเวณที่แน่ชัด แจ่มแจ้ง และแผ่กว้างอย่างเป็นปริมณฑล มีช่องว่างเป็นมวลอากาศลอยตัวอบอวล แทรกอยู่ระหว่างแต่ละตำแหน่งเสียงดนตรี

DSC03298

สรุป

ยืนยันได้ว่า Van Damme ‘Blue Series Studio Grade’ สามารถที่จะ“ยกระดับ” การรับฟังให้สัมผัสรับรู้ถึงความแตกต่างนานัปการจากเดิมๆ อย่างชนิด ‘น่าทึ่ง’ ซึ่งเมื่อคิดคำนึงถึงเรื่องของระดับสมรรถนะที่ได้รับกลับมาเปรียบกับราคาที่จ่ายออกไปก็ต้องขอใช้คำว่า ‘absolutely incredible !!’ –น่าพึงพอใจยิ่งนักครับ …อยากจะบอกว่า “ทัดเทียม” กับสายลำโพงที่ ‘แพง’ (อย่างไร้สาเหตุ) กว่านี้สัก 4-5 เท่าตัวก็-เกรงใจ-เอาเป็นว่า “เทียบเคียง” กันได้ โดยไม่จำเป็นต้อง-จ่ายแพง-กว่า (อย่างไร้เหตุผล) กระนั้นก็ละกัน …ใครไม่เชื่อก็ต้องขอให้ลบหลู่ หาเอาไปลองฟังเปรียบเทียบกัน แล้วคุณจะ “รู้ซึ้ง” ยิ่งนักครับกับของดีราคาไม่แพง เยี่ยง “Van Damme”…….

 

ขอขอบคุณ SOUNDBOX CO., LDT. จำกัด โทร.089-920-8297 ที่เอื้อเฟื้อสายลำโพงมาให้ได้ทดสอบกันในครั้งนี้