Test Report: TEAC AI-3000
Stereo Integrated Amplifier
“แรงพลัง-ความฉับไว-รายละเอียด”
TEAC (อ่านว่า ที-แอค) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปีคศ.1956 ชื่อเต็มๆว่า Tokyo Electro-Acoustic Company โดยสองพี่น้องตระกูล Tani (Katsuma Tani และ Tomoma Tani) ปัจจุบันใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า TEAC Corporation Inc. โดยมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจัดแยกออกเป็น 4 ประเภทหลัก “TASCAM” สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับ Professional โดยเฉพาะ; “ESOTERIC” สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ; “TEAC” สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับ Home Use ทั่วไป (Consumer Electronics) และผลิตภัณฑ์กลุ่ม Data Storage ต่างๆโดยเฉพาะ
ในอดีตนั้นชื่อเสียงของ ‘TASCAM’ และ ‘TEAC’ เด่นดังทางด้านอุปกรณ์บันทึกเสียง อย่าง reel to reels tape และ cassette decks จนเป็นที่ยอมรับกันอย่างมากเลยทีเดียว …จวบมาถึง ณ วันนี้ TEAC ได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ Distinction Series ที่บ่งบอกถึงความเป็นซีรี่ส์แห่ง “ความโดดเด่น” อันแตกต่างซึ่งจะมาสร้างชื่อให้เป็นที่ฮือฮากันในกลุ่ม Home Use ระดับสูงที่นิยมความคุ้มค่าภายใต้ราคาอันสมเหตุสมผลชนิดที่ว่ามองข้ามกันมิได้นั่นเลยเชียวละ
Distinction Series ของ TEAC ถือเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับสูงสุดของ TEAC อันประกอบด้วย 7 รุ่นใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก อันได้แก่ :- TUNER – 1 รุ่น, CD/SACD Player – 3 รุ่น และ Integrated Amplifier – 3 รุ่น โดยที่ “AI-3000” นี่แหละที่เป็นรุ่น “แม่ทัพ” ระดับใหญ่สุดของซีรี่ส์ที่สามารถให้สมรรถนะได้ถึงขีดขั้น Ultra High Audio Performance (ทว่าราคานั้นไม่สูงสุดเอื้อม…)
คุณลักษณ์ทั่วไป
AI-3000 มีขนาดมิติภายนอก 435 x 230 x 520 ม.ม. (กว้างxสูงxลึก) ใหญ่โตเอาเรื่อง ดูทมึนทีเดียว ทั้งยังหนักอึ้งมากถึง 31.3 กก. ตัวเครื่องประณีตเรียบร้อยดูแข็งแรงบึกบึน สมฐานะความเป็นแอมปลิไฟล์เออร์ระดับ Top Class แผงหน้าเครื่องหนาเป็นเซนฯ แผงด้านข้างตัวเครื่องทั้งสองฝั่งเป็นครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่เรียงเต็มพื้นที่อย่างกับเพาเวอร์แอมป์คลาส เอ กระนั้น ยิ่งหากได้เปิดฝาครอบตัวเครื่องด้านบนออกแล้วมองลงไปภายใน จะพบกับความอลังการของอุปกรณ์ต่างๆที่ได้รับการจัดวาง ณ ตำแหน่งต่างๆอย่างรอบคอบรัดกุม ผ่านการคิดคำนึงถึงเรื่องผลกระทบต่างๆทั้งทางด้านฟิสิกส์และอิเล็กทรอนิกส์แตกต่างจากอินทีเกรทแอมป์ธรรมดาทั่วไป
AI-3000 ไม่มีทั้งภาค Tone Control และปุ่ม SOURCE DIRECT มาให้ เพื่อคงไว้ซึ่งความเที่ยงตรงของคุณภาพเสียงอันถ่องแท้ตามต้นฉบับสัญญาณที่เลือกรับฟัง ใครที่ต้องการปรับแต่งเสียงทุ้ม-แหลมตามรสนิยมอย่างที่ตัวเองชื่นชอบก็จะมิอาจกระทำได้ แต่หากเป็นคอนักฟังประเภทบริสุทธิ์นิยมละก้อ-ถูกใจแน่นอน เพราะสามารถคงไว้ซึ่งความเป็นแฟลต (flat) ของน้ำเสียงตรงตามต้นฉบับสัญญาณที่ส่งเข้ามา หากแต่ถ้าในยามที่คุณต้องการรับฟังในแบบส่วนตัว -private listening- ละก้อAI-3000 ก็มีช่องเสียบหูฟังติดตั้งมาให้ด้วย
ความโดดเด่น
High Performance Power Output with protection system
AI-3000 พร้อมส่งมอบกำลังขับระดับมหาศาลสูงถึง 600 วัตต์ที่ค่าความต้านทาน 4 โอห์ม (200 วัตต์ต่อข้างที่ค่าความต้านทาน 8 โอห์ม) ซึ่งนับว่า “เกินพอ” สำหรับจ่ายพลังขับดันระบบลำโพงโดยทั่วไป และ “พอเพียง” สำหรับระบบลำโพงที่ขับยาก ประเภทที่มีค่าโหลดซับซ้อนอะไรประมาณนั้นได้สบายๆ ทั้งยังให้ความปลอดภัยต่อระบบลำโพงในขณะใช้งานด้วยวงจรป้องกัน –Output Protection System- ซึ่งจะตัดการทำงาน งดการส่งจ่ายสัญญาณสู่ภาคแอมปลิไฟล์เออร์ทันที พร้อมๆกับลดระดับโวลลุ่มลงโดยอัตโนมัติ หากเครื่องตรวจจับพบลักษณะของการโอเวอร์โหลด
Discrete Dual Monaural Analog Amplifier Circuits
AI-3000 ผ่านการออกแบบวงจรต่างๆในแบบที่ใช้อุปกรณ์เป็นตัวๆโดยตรง ไม่มีการใช้ประเภท ICs ใดๆในภาคขยายสัญญาณ อย่างที่เรียกว่า discrete circuit design จึงสามารถส่งมอบสมรรถนะได้ในระดับสูง อีกทั้งในแต่ละวงจรยังแยกการทำงานเป็นแบบ dual mono เพื่อ “กำจัด” การรบกวนแทรกซ้อนระหว่างกันในขณะทำงานของภาคขยายสัญญาณซีกซ้ายและซีกขวาให้หมดไป นับเป็นการเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและสมรรถนะการทำงานไปพร้อมกัน นอกจากนี้ระบบการทำงานวงจรภาคขยายสัญญาณของ ยังเป็นแบบ ‘อะนาลอก’ ล้วนๆภายใต้ระบบการทำงาน Class A/B design –มิใช่ประเภทดิจิตอลแฝงเร้น
Symmetric Circuits design with Terminal layout
นับตั้งแต่ช่องเสียบต่อรับสัญญาณขาเข้าจนจรดออกสู่ขั้วเสียบสายลำโพง ทั้งวงจรซีกซ้ายและซีกขวาของ AI-3000 ล้วนผ่านการออกแบบวงจรต่างๆ อย่างพิถีพิถันในลักษณะที่เป็น ‘วงจรแบบสมมาตร’ หรือ Symmetric Circuits design เพื่อให้วงจรภาคการทำงานต่างๆทั้งซีกซ้ายและซีกขวามีความละม้ายคล้ายกันอย่างที่สุด ทั้งในแง่ฟิสกส์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระยะการเดินทางของสัญญาณที่เทียมเท่ากันอีกด้วย
Over-sized Semi Toroidal-core Power Transfomer
เพื่อให้บรรลุสู่กำลังขับระดับ 600 วัตต์ต่อข้างได้อย่างแท้จริง ภาคจ่ายไฟอันทรงพลัง บึกบึนจึงเป็นเรื่องจำเป็น ภายใน AI-3000 ได้บรรจุไว้ซึ่งหม้อแปลงแบบ Semi Toroidal-core ขนาดมหึมา จัดวางไว้เกือบเต็มพื้นที่ส่วนหน้าเครื่อง เว้นระยะห่างจากภาคขยายสัญญาณเพื่อป้องกันการเหนี่ยวนำพลังแม่เหล็กไฟฟ้าแผ่เข้าไปรบกวนการทำงาน
Extra large aluminum heat-sink
ด้านข้างตัวเครื่องทั้ง 2 ฝั่งถูกนำมาใช้ติดตั้งแผงครีบระบายความร้อนขนาดใหญ่ขึ้นรูปจากวัสดุอะลูมิเนียมล้วนๆ เพื่อให้การระบายถ่ายเทความร้อนในขณะใช้งานของ AI-3000 เป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปราศจาก thermal effect ต่ออุปกรณ์ภายใน เฉพาะอย่างยิ่ง output devices ทั้ง 8 ตัว
Full aluminum body & steel chassis
ฐานแท่นเครื่องรวมทั้งแผงด้านหลังตัวเครื่องของ AI-3000 เป็นโลหะเหล็กกล้าที่ให้ค่าความแกร่งสูง ในขณะที่แผงด้านหน้า, แผงด้านข้าง รวมทั้งแผงด้านบนตัวเครื่องนั้นเป็นวัสดุอะลูมิเนียมล้วนๆ-หนาปึ๊ก ทำให้มั่นใจได้ว่า โครงสร้างตัวเครื่องของ AI-3000 นั้น -มั่นคง-แข็งแรง-แน่นปึ๊ก ซึ่งเมื่อผนวกรวมกับน้ำหนักตัวอันหนักอึ้งจนสามารถต้านทานแรงสั่นสะเทือน มิให้ส่งผลต่อการเกิดอาการ microphony ของอุปกรณ์ขยายสัญญาณ อีกทั้งการใช้วัสดุอะลูมิเนียม ยังไม่ก่อให้เกิดสภาพ eddy current ไหลย้อนกลับเข้าไปในวงจรขยายสัญญาณอีกด้วย
Total 7 inputs with Phono & 2-Balanced inputs / PRE-OUT terminal
แผงด้านหลังตัวเครื่องของ AI-3000 ติดตั้งช่องเสียบต่อรับสัญญาณขาเข้ารวมทั้งสิ้น 7 ชุด – CD, TUNER, AUX รวมทั้ง PHONO และ Bypass สำหรับการใช้งานร่วมกับระบบโฮมเธียเตอร์ นอกจากนี้ยังมี Balanced inputs (XLR) มาให้อีกถึง 2 ชุด พร้อมช่องจ่ายสัญญาณขาออก ‘Pre-out’ เผื่อสำหรับการใช้งานร่วมกับเพาเวอร์แอมป์ภายนอก ในส่วนของขั้วเสียบต่อสายลำโพงนั้นติดตั้งมาให้ 2 ชุดแบบ 5-way binding posts พร้อมปุ่มกดใช้งาน speaker A – speaker B บนแผงหน้าเครื่อง เผื่อไว้พรอมสำหรับการใช้งานในแบบไบ-ไวริ่ง
Remote control with aluminum fascia
แน่นอนว่า AI-3000 ย่อมต้องมีรีโมท คอนโทรลมอบมาให้ด้วย แบบควบคุมได้ครบทุกฟังก์ชั่น เผื่อรวมถึงฟังก์ชั่นใช้งานหลักๆ ของ CD Player และ TUNER ในกลุ่ม Distinction Series อีกทั้งแผงด้านหน้าของรีโมท คอนโทรลนี้ยังเป็นวัสดุอะลูมิเนียมให้ความทนทานสูงอีกด้วย
ผลการรับฟัง
AI-3000 นั้นมีลักษณะน้ำเสียงที่เนียนนุ่ม สะอาดสะอ้าน ให้ความระรื่นโสตประสาทเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ให้ความผ่อนคลาย สรรพเสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมาล้วนคงความเป็นแฟลต (flat) อย่างแท้จริง ไม่มีการเน้นช่วงย่านใดเป็นพิเศษ เบสไม่หนาจนช่วงย่านเสียงกลางฟังอยู่อุ้ยอ้าย ช่วงเสียงสูงๆ ก็มิได้ถูกเค้นให้โดดเด่นจนเกรี้ยวกราด หรือว่าชัดซะจนกลายเป็น-เสนอหน้า-คุณจะฟัง “AI-3000” ได้ไม่รู้หน่ายอย่างต่อเนื่องนานเท่านาน
AI-3000 ให้ความสมจริงอย่างเป็นธรรมชาติในสรรพเสียงที่รับฟัง สัญญาณเสียงฉับพลันจะผุดโผล่อย่างทันทีทันใด ไม่ขุ่นมัว พร้อมๆกับอาณาบริเวณเสียงที่มีตัวตน ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ไม่เบียดบังซ้อนทับกัน ทั้งยังให้ความกังวานหวานพลิ้วในทุกอณูเสียง เสียงทุกเสียงที่รับฟัง สัมผัสได้ถึงความมีตัวตนของเสียง เป็นเสียงที่มีวิญญาณ มีลมหายใจ แม้แต่เสียงประสานของนักร้องหมู่ ก็แทบจะแยกแยะออกมาได้เป็นเสียงเฉพาะตัวของแต่ละคน-แต่ละคน-เป็นคนๆไปกันเลยทีเดียว (POSTCARDS REFERENCE RECORDINDS : RR-61CD)
บุคลิกเสียงของ AI-3000 ระบุตัวตนได้อย่างชัดแจ้งว่า มิใช่เป็นแอมป์อวบอ้วน สุ้มเสียงออกทางแช่มช้าแม้แต่น้อยนิด กลับเป็นแอมป์ทรงพลังที่ให้ความเข้มข้นในเรี่ยวแรงปะทะ รวมทั้งน้ำหนักเสียงที่อิ่มแน่น และพละพลิ้ว พร้อมด้วยความฉับพลันทันใดของเสียงต่างๆได้อย่างจะแจ้ง ขณะเดียวกันก็อุดมด้วยความฉ่ำชุ่ม นุ่มนวล ละมุนละไม ให้ความไหลลื่น กลมกลืนต่อเนื่องเป็นเนื้อเดียวกันตลอดช่วงแบนด์วิธ ไม่มีการเน้นที่ช่วงใดช่วงหนึ่งเป็นพิเศษ ให้การจำแนกแยกแยะรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดแทรกเป็นอณูเสียงอย่างไม่ต้องเงี่ยหูฟัง ประดาเสียงเครื่องเคาะจังหวะ-เพอร์คัสชั่นต่างๆในแผ่น The Kroumata Percussion Ensemble (BIS : CD-232) ก็รับฟังได้อย่างมีอรรถรส สดสว่าง กระจ่างชัด มีน้ำหนักขณะถูกเคาะ และให้ความกังวานติดตามมาอย่างสมจริง
กับเพลงคลาสสิกที่แผดสนั่น ประโคมคำรนอย่างกึกก้อง (POMP&PIPES! REFERENCE RECORDINDS : RR-58CD) กำลังขับกว่าครึ่งกิโลวัตต์ภายในตัว AI-3000 จะทำให้คุณ “อึ้ง” ไปกับพลังความกระหึ่ม กึกก้องของวงออร์เคสต้าขนาดใหญ่ ที่กำลังบรรเลงแบบ ฟูล สเกล ในห้องฟังของคุณ ขนาดที่ว่าปรับเร่งปุ่มโวลลุ่มขึ้นไปจนถึงระดับเกือบเที่ยง เสียงทุกเสียงก็ยังคงยิ่งใหญ่ไม่ปรากฏอาการอั้นเครียดเค้นหรือตื๊อแต่อย่างใด
ความอลังการของวงออร์เคสตร้าถูกถ่ายทอดออกมากว้างใหญ่จนจรดผนังห้องด้านข้างแบบ wall-to-wall ความลึกนั้นทะลุเลยผนังหลังห้องออกไปอย่างกับ panorama ในขณะที่มิติความสูงนั้นบ่งบอกออกมาได้เยี่ยมยอดมาก การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการมั่วหรือสับสนซ้อนทับกัน กลับสามารถรับฟังได้ถึงการเหลื่อมห่างจากกัน อย่างมีปริมณฑล ทั้งยังแยกความสูง-ต่ำของเสียงได้ชัดเจน
เสียงเบสนั้นลึกล้ำจนถึงก้นบึ้ง ยิ่งคุณใช้ระบบลำโพงขนาดใหญ่ที่ตอบสนองเสียงเบสลงไปได้ต่ำมากๆ AI-3000 จักส่งมอบความดื่มด่ำให้คุณได้รับรู้-อย่างน่าทึ่ง รวมถึงพลังแรงกระแทกกระทั้นทั้งหนักทั้งแน่นอย่างเร้าใจ จากในเพลง Matsuri ของ KITARO Live in America (Geffen Records : GEFD – 24323) การรับฟังจะรับรู้ถึงระลอกของคลื่นเสียงจากหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือกับเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าออกมาได้แจ่มชัดมาก เสียงเฮลิคอปเตอร์ในแผ่น PINK FLOYD ชุด The Wall (MFSL : UDCD 2-537) นอกจากจะมีความหนักแน่นแล้ว ยังรับรู้ได้ถึงระลอกคลื่นของแรงลมที่ถูกใบพัดยักษ์โหมกระพืออยู่เหนือหัวเรา และแน่นอน AI-3000 จะทำให้คุณรับฟังเพลงร็อคอย่างได้อรรถรสสะเด็ดสะเด่าซะใจมันส์ในอารมณ์ …!!
AI-3000 สามารถจำแนก-แยกแยะรายะเอียดแทรกซ้อนเล็กๆ น้อยๆได้ดีน่าประทับใจมาก ทุกสรรพเสียงที่รับฟังล้วนมีทรวดมีทรง ไม่แบนบาง และปรากฏขึ้นอย่างลอยตัวเป็นอิสระ เสมือนล่องลอยออกมาจากตรงโน่นตรงนี้ มีอาณาบริเวณของแต่ละเสียง ไม่เบียดบัง ซ้อนทับกัน ให้สภาพความลึกของเวทีเสียงที่รับฟัง จนเลยทะลุผนังหลังลำโพงออกไป พร้อมๆ กับการแผ่กว้างเกินตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงซ้าย-ขวาออกไป และให้สภาพการโอบล้อมของเสียงได้อย่างสมจริง
เรา-ท่านสามารถแยกแยะเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างแจ่มชัด และนิ่งสนิท ไม่มัวเบลอ ทั้งเสียงร้องและชิ้นดนตรีทุกชิ้นจะไม่มีอาการเด่นล้ำ – นำหน้าแนวตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงออกมา แม้ในขณะเสียงสารพัดชิ้นดนตรีกำลังประโคม – โหมประชันกันขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ยังสามารถจำแนกแยกแยะได้ชัดเจน ไม่มั่วหรือสับสน ซ้อนทับ บดบังตำแหน่งแห่งที่ของแต่ละเสียง ทั้งยังบ่งบอกสภาพบรรยากาศรายรอบของสถานที่การแสดงดนตรี/บันทึกเสียงได้อย่างสมจริง
หยิบจับแผ่นซีดีชุด Pink Panther ของ Henry Mancini (Telarc : CD-80183) มารับฟัง-รับรู้ได้ถึงความโอ่โถ่งของสถานที่บรรเลง-บันทึกเสียง ในด้านความกังวานแผ่กว้างของเสียงสูงอย่างเสียงกระดิ่งและเหล็กสามเหลี่ยม ซาวด์สเตจอันแผ่กว้างของวงดนตรี มีการแยกอิมเมจเสียงฝั่งซ้าย-ขวาของกลุ่มนักร้องหญิง-ชายชัดเจน มิได้เกาะกลุ่มเป็นก้อน คุณจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงสูดลมหายใจ ในเพลงที่ 4 อันกระหึ่มกึกก้อง แผ่เต็มห้อง พร้อมๆ กับรายละเอียดเสียงของสารพัดเครื่องเคาะจังหวะ แม้กระทั่งเสียง cymbal ของกลองชุดที่พละพลิ้วอยู่ตรงตำแหน่งแห่งที่ส่วนท้ายของวง ก็ยังคงชัดเจนแจ่มใส ในความนิ่งสนิท ไม่ว่าคุณจะเร่งระดับความดังเสียงขึ้นมาอีก เพราะความมันในอารมณ์ก็จะยังคงไม่มีเสียงใดที่เด่นล้ำหน้าจนเกินจริงออกมา ทุกชิ้นดนตรีจะยังคงรักษาตำแหน่งแห่งที่อย่างที่ควรจะเป็นไว้อย่างดี
จากเพลงแรกในแผ่น DOTOU BANRI ONDEKOZA (JVC Direct Cutting Edition Disc VICG-60201) ที่บันทึกเสียง KODO แสดงสดมาดีมากๆ ก็ให้การรับรู้ได้ถึงกลองใหญ่ 3-4 ใบที่ถูกระดมตีประชันกันอย่างรุนแรง “AI-3000” ให้ทั้งพลังกระแทกกระทั้นและความหนักแน่น พร้อมด้วยแรงกระพือสั่นของหนังหน้ากลอง -สัมผัส- ได้ถึงระลอกคลื่นกระทบผิวตัวเราชัดเจน และจากแผ่น CANTATE DOMINO (REFERENCE RECORDINDS PRCD 7762) เสียงออร์แกนท่อนั้นลึกล้ำจนถึงก้นบึ้ง ฟังแล้วดื่มด่ำ
สารพัดเสียงปืนทั้งปืนยาว-ปืนใหญ่ในแผ่น Ein Straussfest (TELARC CD-80098) ก็ให้ความกัมปนาทมีระลอกคลื่นอากาศอัดดันตัวเราอย่างสมจริง และเมื่อรับฟังจากแผ่น DIGITAL TEST ของสังกัด PIERRE VERANY (PV 788031-32) ซึ่งบันทึกเสียงพลุ-ดอกไม้เพลิงแบบสดๆในบรรยากาศงานเฉลิมฉลองจริงๆ ทันทีที่เปิดฟังประสาทหูจะสัมผัสเข้ากับสภาพอณูมวลบรรยากาศรายรอบ, เสียงเด็กร้องตะโกนเสียงผู้คนที่จับกลุ่มห้อมล้อมส่งเสียงพูดคุยกัน, เสียงดอกไม้เพลิงที่พุ่งสูงขึ้นไปจนแตกปะทุส่งแรงกระแทกต่อผิวสัมผัส อีกทั้งยังรับรู้ถึงมวลอากาศโล่งแจ้งรายล้อมตัวเรา
ในช่วงท้ายผมใช้เทริ์นเทเบิ้ลรุ่นสุดอมตะของ Harman Kardon รุ่น T-60 ติดหัวเข็มแบบ MM รุ่นใหญ่ของ Audio-Technica “AT-440ML” ในการลองฟังสมรรถนะและคุณภาพเสียง “PHONO” ที่เป็นภาคขยายสัญญาณหัวเข็ม MM ภายในตัวเจ้า AI-3000 ครั้งนี้ครับ (โดยไม่ลืมที่จะใช้น้ำยาพิเศษ MERLIN “NANO” ของคุณใหญ่ 085-161-0880 มาทาที่บริเวณส่วนปลายหัวเข็ม เพราะติดใจในความลอยตัวของเสียงที่เป็นอาณาบริเวณชัดเจนขึ้น มีอิสระ มีน้ำหนักความอิ่มเข้มขึ้น ปลดปล่อยมวลเสียงได้สมจริงมาก ความคมกัดหูเล็กๆ ยังคงมีอยู่บ้างตามสไตล์ของ Audio-Technica ทว่าเบาบางลง จนสัมผัสได้ถึงความ-นวลเนียน- โดยรายละเอียดหยุมหยิมไม่เสียไป)
จากการรับฟังแผ่น LP แนวการบรรเลงเพลงแบบ Jazz Trio จากแผ่น “Moreover” ฝีมือของ The Great Jazz Trio (East Wind Records / 27PJ-1003) ทำเอาตัวเราจมกลืนเข้าไปในบรรยากาศลาตินผสมกลิ่นอายของบลูส์ เพลิดเพลินจนเผลอตัวดีดนิ้วมือตาม “AI-3000” สามารถเปิดเผยรายละเอียดเสียงต่างๆ ในช่วงย่านเสียงกลางได้อย่างโดดเด่นมีชีวิตชีวา ได้ยินเสียงลมเป่าพ่นออกมาเบาๆ แจ่มชัด พร้อมด้วยสมรรถนะการแยกแยะตำแหน่งชิ้นดนตรี 3-4 ชิ้นได้เป็นอิสระ มีตำแหน่งแห่งที่แน่ชัด พร้อมกับความเปิดโปร่งของมวลบรรยากาศในสถานที่แสดง
เสียงเป่าแซกฯ ของ John Klemmer จากแผ่น “Finesse” ที่ตัดมาสเตอร์สดๆ แบบไดเร็กต์-คัท (Nautilus Records NR 22) ให้เสียงมวลอากาศที่ถูกเป่าพ่นเป็นลมพุ่งออกมา ชัดเจนขนาดที่ว่าได้ยินเสียงน้ำลายน้อยๆ เข้าไปขังอยู่ในลิ้นเสียงของแซกโซโฟนอย่างสมจริง แม้กระทั่งเสียงหวดแซ่ลงไปบนฉาบอย่างฉับพลันก็เปล่งประกายออกมาสดใส ให้พลังแห่งเสียงจากแผ่น direct-cutting ได้ครบชัดมาก ทั้งไดนามิกที่ลื่นไหลและฉับพลันทันใด ยิ่งฟังยิ่งเพลินใจ
ห้องฟังของคุณจะเสมือนว่า ขยับขยายออกไปจากเดิม รับรู้ได้ในความลึกที่แม้จะไม่ถึงขนาดผนังหลังห้องล่องหนหายไป แต่ก็สัมผัสได้เสมือนว่าทะลุเลยผนังหลังห้องออกไป หลังจากหยิบจับแผ่นไดเร็กต์-คัทหลายแผ่นที่คุ้นเคยมาเปิดฟัง ทั้ง LAB 20 และ LAB 13 ของ SHEFFIELD LAB รวมทั้ง Also Sparach Zarathustra โดย TADAAKI OTAKA / Tokyo philharmonic orchestra อัลบั้ม Orchestrations Astromatic [Direct-Cut Master Series] ของ RCA Japan (RDCE-6 ตัดแผ่นโดย JVC)
กับอีกหลายต่อหลายแผ่นที่หยิบจับมารับฟังให้ลักษณะมวลอากาศที่ห้อมล้อม อบอวล มีความกังวาน และเสียงสะท้อน-บ่งบอกสภาพบรรยากาศของโถงการแสดงหรือสถานที่ใช้บันทึกเสียงได้ชัดเจนมาก (เพลง Besame Mucho และ The Shodow of Your Smile โดย ART PEPPER อัลบั้ม Live in Tokyo ตัดแผ่นโดย JVC หมายเลขแผ่น VIC-6372 ; JOHN KAIZON NEPTUNE & MU’RYO อัลบั้ม SHOGUN ตัดแผ่นโดย TOSHIBA/EMI หมายเลขแผ่น ETJ-85009 ; ANDREW POWELL & THE PHILHARMONIA ORCHESTRA PLAY THE BEST OF THE ALAN PARSON PROJECT หมายเลขแผ่น MFSL1-175)
แม้กระทั่งการบรรเลงออร์เคสตร้าวงใหญ่ที่ประโคมสนั่นอย่างแผ่น Andrew Powell & The Philharmonia Orchestra Play The Best of The Alan Parson Project (Mobile Fidelity Sound Labs / MFSL 1-175) เจ้า AI-3000 ก็ยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี มีความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา สามารถจับตำแหน่งการแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ
สรุปส่งท้าย
AI-3000 บ่งบอกความเป็นแอมปลิไฟล์เออร์ “ยุคใหม่” ที่ให้การครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้กว้างขวางมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ความรู้สึก-รับรู้ในขณะรับฟัง มีความปลอดโปร่งของจิตใจ ได้อารมณ์ร่วมในดนตรีที่รับฟัง ชักจูงให้อยากรับฟังไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ พร้อมด้วยมัดกล้ามล่ำบึก กระแทกกระทั้น อัดแน่นหัวใจ AI-3000 สามารถทำให้คุณถึงกับทึ่งเอาเลยทีเดียว อิมเมจและซาวด์สเตจที่รับรู้ได้นั้นชัดเจน ประหนึ่งว่า ห้องฟังนั้นมีขนาดใหญ่โตโอ่โถ่งขึ้นอีกเป็นกอง
ขอยืนยันว่า เมื่อรับฟังผ่านทางช่องเสียบรับสัญญาณขาเข้าแบบ BALANCED (XLR) ของ AI-3000 จะยิ่งให้การบ่งบอกสภาพมวลอากาศ (airy) พร้อมด้วยปลายอณูเสียงได้ชัดเจน-โดดเด่นขึ้นมาก สรรพเสียงที่รับฟังมีความ “หลุดลอย” แยกเป็นชั้นๆอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว ทั้งยังจะสามารถสำแดงสมรรถนะในการจำแนกแยกแยะ “ความลึก” ของตำแหน่งเสียงได้อย่างแยกแยะ เป็นแถว เป็นชั้น ไล่ระดับ ทะลุเลยผนังด้านหลังลำโพงออกไป พร้อมด้วย “ความสูง“ ของตำแหน่งแห่งที่ในแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นอย่างสมจริง ส่วนทางด้าน “ความกว้าง” นั้นโอฬารยิ่งนัก เพราะแผ่ขยายออก จนมีสภาพเวทีเสียงที่กว้างใหญ่ผนังจรดผนัง ในขณะที่ภาค PHONO ที่มีมาให้เสร็จสรพนั้นก็สามารถใช้งานได้ดีเกินคาดอย่างมาก
ก่อนเสร็จสิ้นการรับฟัง ได้ลองนำลำโพง XAV “Prime 6S” มารับฟัง …น่าแปลกที่ AI-3000 ส่งผลให้การรับฟัง “แตกต่าง” จากปกติที่ “Prime 6S” นั้น ไม่ค่อยจะมีเบสเท่าไหร่นัก กลับมีพลังกระหึ่มขึ้นมาได้เต็มห้อง ให้ทั้งแรงปะทะพร้อมทั้งน้ำหนักเสียงอย่างน่าทึ่ง พร้อมๆ กับเบสที่ดำดิ่งลงไปได้ลึกล้ำ สภาพเวทีเสียงที่แผ่กว้างให้ความรู้สึกโอบล้อม ให้การปลดปล่อยสรรพเสียงที่เป็นอิสระ มีช่องว่าง-ช่องไฟในตำแหน่งชิ้นดนตรีกระเถิบห่างมากขึ้น ซึ่งล้วนเป็นเรื่องน่าประทับใจ… ขอแนะนำครับ.
ขอขอบคุณ บริษัท อินเวนทีฟ เอวี จำกัด โทร 0-2238-4078-9 ที่เอื้อเฟือให้ TEAC AI-3000 มาทดสอบในครั้งนี้