What HI-FI? Thailand

Test Report : Sony CAS-1

Test Report : Sony CAS-1

Compact Hi-Fi System

มงคล อ่วมเรืองศรี

Sony นับว่าเป็นแบรนด์สินค้าด้านเทคโนโลยี และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากแดนซามูไร ประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 20-30 ปี เรียกว่าอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่ากันเลยทีเดียวเชียว ดังนั้นความแข็งแกร่งในเรื่องของแบรนด์ ทั้งในเรื่องภาพลักษณ์ และศูนย์บริการ ย่อมเป็นที่ยอมรับได้โดยทั่วกันว่า “ดี” ยิ่งคนไทยเป็นประเทศที่มีค่านิยมชอบใช้ของที่ผลิต หรือติดแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นด้วยแล้ว แน่นอนว่ายอดขายในไทยต้องกินหัวหาดอยู่ในระดับ Top 5 แบบเชื่อขนมกินได้…ส่วนตัวผมเองเริ่มรู้จัก Sony ตั้งแต่วัยเด็กน้อยราว 4-5 ขวบ สินค้าที่บ้านผมมี คือ ทีวีสี Trinitron รุ่นแรกที่ปู่ซื้อมาไว้ดู เป็นตู้ไม้คอนโซลที่ดูคลาสสิก มีราคา ตราบจนมาถึงทุกวันนี้ ที่มีคนแวะเวียนมาขอซื้อไปเพื่อแต่งบ้านอยู่บ่อยครั้ง แต่ผมก็ยืนยันว่า “ไม่ขาย”

พอโตขึ้นมาในช่วงวัยรุ่น ผลิตภัณฑ์ของ Sony ที่ฮิตติดตลาด แบบว่าใครมีไว้นี่ โค-ตะ-ระ เท่เลย ย่อมหนีไม่พ้น Sony Walkman” อันไล่เรียงมาตั้งแต่ เครื่องเล่นเทปพกพา ที่มี Tuner AM/ FM ในตัว, เครื่องเล่น CD ที่มีวิทยุในตัว และแบบที่เล่น CD อย่างเดียว และ MD หรือ Mini Disc ที่เริ่มปรับเข้าสู่ยุคดิจิตอลมากขี้นด้วยการโยนไฟล์ลงใส่แผ่น MD พกพาซึ่งมีขนาดเล็กกว่า CD เอามากๆ แถมจุไฟล์เพลงนามสกุล MP3 ได้เป็นหลักร้อยเพลงต่อ 1 แผ่น…ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผมมีโอกาสได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองทั้งหมด “เล่นจริง จ่ายจริง ไม่มีแสตนด์อิน ไม่มีตัวแสดงแทน ไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุน”  นี่ยังไม่นับโทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ และเครื่องเล่นเกมส์ Console ตระกูล Playstation ที่ผมสะสมจนครบทุกรุ่นตั้งแต่ Ps1 ยาวมาจนถึง Ps4 (กำลังจะซื้อเร็วๆ นี้) ความเห็นส่วนตัวแล้วผมคิดว่า ตัวเองค่อนข้างจะคลุกคลี กับแบรนด์นี้มาพอสมควรเลยทีเดียว จวบจนมาถึงรีวิวชิ้นแรก ก็เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือ Sony อย่าง CAS-1 Compact Audio System อีกต่างหาก…อาจจะมองว่าดวงสมพงษ์กันกับแบรนด์นี้ก็คงจะไม่ผิดเท่าใดนัก

 

ข้อมูลทั่วไป CAS-1

ระบบลำโพง แบบตู้เปิด (Bass Reflex), 2 ทาง 2 ตัวขับเสียง
ขนาดตัวขับเสียง ทวีตเตอร์ : ซอฟต์โดม14 มม.วูฟเฟอร์ : กรวย 62 มม.
กำลังขับสูงสุด 40 วัตต์ (20 W+20 W)
รูปแบบวงจรภาคขยายสัญญาณ S-Master HX™
ช่วงการตอบสนองความถี่เสียง 10-40,000 เฮิรตซ์
กำลังขับสูงสุดสำหรับหูฟัง 180 mW+180 mW
มิติขนาดภายนอก 55 x 178 x 210 มม. (ตัวเครื่องหลัก)95x178x172 มม. (ตู้ลำโพง)
น้ำหนัก (โดยประมาณ) 

 

การเชื่อมต่อ

1.3 กก. (ตัวเครื่องหลัก)1.5 กก. (ตู้ลำโพง)

USB Port และ Bluetooth

 

การทดสอบลองใช้งานจริง

เมื่อผมเองได้รับกล่องตัวเครื่อง Sony CAS-1 มาอยู่ในการครอบครอง (เป็นการชั่วคราว) ก็ได้ทำการตรวจสอบตัวกล่องโดยรอบก่อนที่จะแกะออก เห็นได้ชัดว่ายังมีสติ๊กเกอร์ของบริษัทขนส่งระหว่างประเทศชื่อดัง “DHL” ติดอยู่เลย อาจจะไม่ได้ใหม่แกะกล่อง แต่บอกว่าใหม่แบบกล่องแกะมาแล้วก็คงไม่ผิดนัก…สำหรับอุปกรณ์ภายในก็มี ลำโพงหนึ่งคู่ กับ ตัว Amplifier 1 ตัว เป็นอุปกรณ์หลักที่แพ็กมาอย่างดีทั้งคู่มีสีน้ำตาลออกดำ หรืออาจจะมองว่าเป็นสีน้ำตาลไหม้ก็ได้ ส่วนอุปกรณ์ที่เหลืออื่นๆ ภายในกล่องก็จะเป็นพวก สายลำโพง, สาย USB, Spikes 5 ตัว, รีโมท และแผ่น Plate สองชิ้นที่เอาไว้รองลำโพง เดาเอาว่าน่าจะเป็นวัสดุที่เป็น Metal เพราะมีน้ำหนักพอควรเลยทีเดียว

สำหรับการทดสอบลองใช้งานของผมจะเน้นเอาความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ และจัดวางเจ้า CAS-1  เป็นหลัก เนื่องจากเจ้าชุด Compact Hi-Fi System ตัวนี้ ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์น่าจะเน้นการใช้งานในพื้นที่แบบจำกัด เช่น ห้องทำงาน หรือคอนโด เป็นหลักตามที่เราๆ ท่านๆ ได้เห็นภาพโฆษณาโปรโมทกันโดยทั่วไป…ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะจัดวางมันลงโต๊ะทำงานในห้องนั่งเล่นที่ใช้เป็นประจำ ตัวห้องมีขนาดโดยรวมประมาณ 5×7 เมตร แต่โซนโต๊ะทำงานที่วางเจ้า CAS-1 ในการทดสอบนั้นกว้างประมาณ 2x3 เท่านั้น การจัดวางก็ไม่มีอะไรมากแค่ถอดลำโพงตัวเดิมออก (ลำโพงคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป) แล้วจัดวาง CAS-1  แทนที่โดยให้เจ้า Amplifier ที่เป็นพระเอกของงานนี้อยู่ตรง Center บนเคสของคอมพิวเตอร์ แล้วต่อสายลำโพงปกติวางลำโพงด้านซ้าย-ขวา อย่างละหนึ่งตัวตามปกติ ซึ่งลำโพงทั้งสองตัวจะวางอยู่บน Metal Plate ที่แถมมาให้…ทางด้านพอร์ทที่ใช้เชื่อมต่อเจ้า CAS-1 ก็ย่อมเป็น USB แน่นอนอยู่แล้วเป็นแน่แท้…

ทางด้าน Source เพลงที่ใช้งานก็มีหลากหลายแตกต่างกันออกไปตามที่มีในเครื่อง หากนับเฉพาะ Hi-res ก็จะมีนามสกุล AIFF กับ FLAC ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ แนวเพลงที่ใช้ฟังทดสอบก็ปะปนกันไปทั้ง Classic, R&B, Hip-Hop, Jazz, Blues, Rock, Pop, Reggae และFunk อาทิ RHCP, LED Zeppelin, Toe, Nirvana, Miles Davis, Jason Mraz และ John Mayer เน้นไปที่ศิลปินที่ผมฟังเป็นประจำเป็นหลัก…จากการใช้เวลานั่งฟังอย่างตั้งใจ กับการทำกิจกรรมขณะฟังไปด้วย โดยรวมๆ แล้ว “จุดเด่น” ของลำโพงชุดนี้อยู่ที่การจำแนกแยกแยะ และให้รายละเอียดของเสียงได้ดี เวทีเสียงก็ถือว่ามีกระหึ่ม มีความชัด-ลึกในแต่ละเพลงๆ มากขึ้น แต่ไม่ถึงขนาดว่าจะระบุพิกัดได้ว่า กลองอยู่ตรงนั้น คนร้องอยู่ตรงนี้ เครื่องเป่าอยู่ด้านในลึกสุด เพียงแต่มีเจ้า CAS-1 สามารถทำให้มัน ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเพลงร้อง หรือเพลงคลาสสิค บอสซาโนว่า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ฟังเพลินๆ ถือว่าเจ้านี่น่าจะตอบโจทย์ได้ดีในระดับหนึ่งเลยในส่วนของย่านเสียงกลาง และสูง ยิ่งเป็นแนวเพลงพวก Electronics Dance Music (EDM) ประเภท Trance ที่มีเอฟเฟ็คท์เสียงออกแนวหลอนๆ หรือโหยหวนนิดๆ เมโลดี้สวยๆ อย่างเช่น Armin Van Buuren หรือ Tiesto ยุคแรกๆ นี่ละแจ่มเลยครับ (แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล เห็นว่าแนวเพลงนี้กำลังมาแรงในหมู่วัยรุ่นเลยหยิบยกมาแนะนำ) แต่เมื่อมีจุดเด่นก็ย่อมต้องมีจุดด้อยแน่นอน เนื่องจากคงไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปหมด เสียงเบส คือสิ่งที่เจ้านี่ไม่สามารถสร้าง Impact ได้ถึงใจตามแบบฉบับที่ชาวร็อก หรือสาวก Hip-Hop ต้องการ…อาจเนื่องมาจากขนาดวูฟเฟอร์ที่ไม่ใหญ่นัก ดังนั้นเสียงต่ำที่รู้สึกได้จึงออกมาแค่ระดับ พอมี อย่างไรก็ตาม ผมกลับมีมุมมองอีกด้านนึงว่า อาจเป็นเพราะ Sony ต้องการให้ลำโพงตัวนี้ ฟังกับแนวเพลงสบายๆ ฟังผ่อนคลายในขณะเลิกงาน จึงหันไปเน้นที่เสียงย่านอื่นมากกว่าเสียงต่ำก็เป็นได้…นอกจากนี้การใช้งานร่วมกับหูฟังขณะเชื่อมต่อกับ PC ก็มีผลออกมาคล้ายคลึงกัน คือ โดดเด่นในเรื่องของรายละเอียดเสียงต่างๆ แต่จุดด้อยก็เป็นย่านเสียงต่ำเหมือนเดิม (ในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับหูฟังของคุณเองด้วยว่าโดดเด่นในสไตล์ไหน เพราะ Headphone Amplifier ที่อยู่ใน CAS-1 ผมมองว่า เป็นสิ่งที่ไม่ได้ไปช่วยในเรื่องของข้อด้อยเดิมของหูฟังคุณ แต่มันจะไปช่วยดึงข้อดีของหูฟังคุณให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมต่างหาก)

ถัดมาที่การทดลองใช้งานในระบบ Streaming ผ่าน Bluetooth กันบ้างว่าจะออกมาเป็นเช่นไร? โดยสิ่งที่คุณต้องเตรียมเอาไว้เลยหากต้องการฟังเพลง Hi-Res ผ่านสมาร์ทโฟนก็คือ เพลง ที่คุณอาจเลือกใช้จากผู้ให้บริการด้านนี้เจ้าใดเจ้าหนึ่งก็ได้ อาทิ เช่น Tidal, Deezer หรือ Apple Music แต่เนื่องจากผมเป็นคน เบี้ยน้อย หอยน้อย จึงเลือกใช้วิธีดาวน์โหลด Application ฟรี!!! ที่สามารถเล่นไฟล์ FLAC  ที่นับว่าเป็นไฮ-เรสดั้งเดิมระดับ 24 Bit มาใช้งาน…สาเหตุที่ต้องอธิบายในจุดนี้ก็เพราะว่า เดี๋ยวหลายๆ คนจะหาว่าผมทำการ ยกเมฆ เรื่องการทดสอบขึ้นมา เนื่องจาก iPhone 5 นั้นปกติอ่านไฟล์ FLAC โดยตรงไม่ได้ นอกจากนี้อีก Application หนึ่งที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Sony ต้องดาวน์โหลดมาติดเครื่องไว้ ก็คือ “Songpal” เพื่อใช้งาน และสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเจ้า Application นี้ได้โดยตรง…ผลสรุปหลังจากลองใช้งานระบบ Streaming Music ของ CAS-1 ในเรี่องของจุดเด่น-จุดด้อย คุณภาพเสียงนั้น ไม่มีความแตกต่างใดๆ กับการเชื่อมต่อผ่าน PC  เลย รายละเอียด ยังคงครบชัด คมนิ้ง วิ้งๆๆ เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ อิสระที่ผู้ใช้จะเดินไปนั่นนี่โน่นได้ตามใจแบบอิสระ โดยจากการที่ผมลองเดินห่างออกมาจากโซนทำงานเกือบ 3 เมตร ก็ยังคงควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนได้ดี ไม่มีอาการดีเลย์แต่อย่างใด นับเป็นระบบที่มีการทำในเรื่องของความเสถียรออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว ดูแล้วเหมาะกับการใช้งานในคอนโดมิเนียมเสียจริงๆ

สรุปรวม

ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม มองว่าเจ้า CAS-1 เป็น Compact Hi-Fi System ที่คุ้มค่า คุ้มราคา แม้ว่าจะมีเสียงติติงบางส่วนที่ผ่านตามาบ้างว่า ราคาเปิดตัวของเจ้านี่นั้นค่อนข้างจะ “แรงไป” แต่ถ้าหากผู้ใช้ต้องการคุณภาพในการฟังเพลงจริงๆ ขณะที่ใช้งาน PC หรือ Laptop ก็ตามแต่ การที่ทาง Sony ใส่ Amplifier แยกตัวมาให้สำหรับหูฟัง 1 และลำโพง 1 ย่อมทำให้เกิดการใช้งานที่หลากหลายแต่ไม่ “จับฉ่าย” เป็นฟังก์ชันที่ใส่มาเพื่อหวังให้ผู้ซื้อ ได้ใช้งานจริงๆ ไม่ได้สักแต่ใส่มาให้ดูคุ้ม เน้นเยอะ อย่างเดียว ยิ่งมีตัว DAC ที่ถอดรหัสไฟล์ความละเอียดสูงระดับ 24 bit เป็นหัวใจสำคัญ ที่บรรจุรวมอยู่ด้วยในชุดนี้ด้วยแล้ว หากคุณจะมองหาเครื่องที่ราคาต่ำกว่า 2 หมื่นบาทในตลาดเครื่องเสียงปัจจุบันนี้ ผมว่า “มันแทบจะไม่มี” แถมตัวลำโพงที่แถมมาให้ก็มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น ค่อนข้างจัดวางเข้าในห้องทำงาน หรือห้องรับแขกได้ง่าย ยิ่งไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ค่อนข้างที่จะคำนึงถึงความสวยงามของอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สินค้าหลายๆ ชิ้น หากมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ราคาก็ย่อมแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว เนื่องจากในช่วงหลังๆ หลายๆ แบรนด์เครื่องเสียงมักจะว่าจ้างหานักออกแบบผลิตภัณฑ์ชื่อดังในวงการเฟอร์นิเจอร์ หรือออกแบบภายในมาร่วมงานด้วย เพื่อพัฒนารูปลักษณ์สินค้า ทั้งแบบเปิดเผย และไม่เปิดเผย ส่วนเรื่องเสียงก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เป็นไปตามมาตรฐานของ Sony ที่ค่อนข้างมีชื่ออยู่พอสมควร แต่หลายๆ คนมักจะดูแคลนว่าเป็นแบรนด์ตลาด ทั่วไป ซื้อได้ตามห้าง มันไม่เท่ ไม่ชิค ไม่คูล แต่ถ้าคุณมองในมุมกลับว่าข้อดีของแบรนด์ตลาด คือ หาซื้อง่าย ไม่ต้องพยายามดั้นด้นจนเกินตัว และศูนย์บริการรับซ่อม หรือแก้ไขปัญหาก็มีเยอะติดต่อสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องส่งเครื่องไปเคลมไกลสุดขั้วโลก แถมอนาคตต่อไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่…ผมแนะนำว่าซื้อเจ้า CAS-1 ไปใช้งานย่อมได้ความสบายใจ มาทดแทนความคูล ได้ ย่างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแน่นอน อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์แค่เปิดเพลงฟังผ่านๆ แก้เหงา ขณะทำงาน หรือกิจกรรมอื่นๆ แนะนำตามตรงว่า ให้ผ่านเจ้านี่ไปได้เลยครับ ไม่ใช่ว่าสินค้าไม่ดี แต่เป็นเพราะว่า คุณใช้งานได้ไม่คุ้มค่ามากกว่า เปรียบเสมือนคนซื้อบ้านเดี่ยว หลังใหญ่ราคา 10 ล้าน ตกแต่งเต็มสตรียมทั้งหลัง แต่ใช้งานจริงแค่ห้องรับแขก กับห้องนอนนั่นละครับ “มันไม่คุ้มค่า และน่าเสียดายแทน”

 

อุปกรณ์ร่วมที่ใช้ในการทดสอบ

 

รูปลักษณ์ความสวยงาม : 4 ดาว

สมรรถนะ                        : 4 ดาว

คุณภาพเสียง               : 3 ดาวครึ่ง

ภาพรวม                     :  4 ดาว

 

ผลิตภัณฑ์ Sony รุ่น CAS-1 Compact Audio System ราคา 32,900 บาท

 

ขอขอบคุณ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด โทรศัพท์ 0-271-6100 เป็นอย่างสูง ที่ส่งมอบเครื่องSony CAS-1มาให้ทำการทดสอบในครั้งนี้

Exit mobile version