ATC หรือ Acoustic Transducer Company เป็นบริษัทผู้ผลิตลำโพงที่มีความเชี่ยวชาญสูงของอังกฤษ ทำการผลิตไดรเวอร์ของตัวเอง รวมถึงออกแบบลำโพง และสร้างระบบเสียงที่สมบูรณ์ ทั้งยังรังสรรค์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุม ATC ใช้องค์ความรู้ในแนวทางวิศวกรรม (Engineering Approach) กระทั่งวิทยาศาสตร์วัสดุ (Materials Science) และเทคโนโลยีการผลิต (Production Technology) อย่างเป็นมืออาชีพแท้จริง เพื่อการแก้ไขปัญหาพื้นฐานด้านการออกแบบ และผลิตชุดขับเคลื่อนลำโพงที่ให้ประสิทธิภาพได้เหนือกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม
Company Profile
ATC ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1974 โดย Billy Woodman เพื่อผลิตไดรเวอร์ยูนิตแบบกำหนดเอง (Custom Drive Units) สำหรับอุตสาหกรรมเสียงระดับมืออาชีพ “ATC” สร้างชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็วด้วยไดรเวอร์ ‘PA75-314’ ขนาด 12 นิ้ว ซึ่งเป็นการออกแบบที่สามารถรองรับกำลังขับได้มากขึ้น และสร้างความผิดเพี้ยนได้น้อยกว่า ในขณะที่ให้ระดับแรงดันเสียงที่สูงกว่ายูนิตอื่นๆ ในท้องตลาด (ทั้งนี้ Billy Woodman เสียชีวิตอย่างสงบ โดยมีครอบครัวอยู่เคียงข้าง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ขณะอายุได้ 76 ปี <ค.ศ.1946-2022> ปัจจุบัน Bob Polley ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ และ Will Woodman-บุตรชายดำรงตำแหน่ง Managing Director ภายใต้ Loudspeaker Technology Ltd.)
ในปี ค.ศ.1976 ได้มีการผลิตไดรเวอร์มิดเรนจ์ แบบซอฟต์ โดม ‘SM 75-150s’ ที่ก้าวล้ำหน้าเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผลงานทางเทคนิคที่โดดเด่น โดยการออกแบบที่ขยายขนาดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ช่วยให้กระจายเสียงได้สม่ำเสมอมากขึ้น รวมถึงแบนด์วิดท์ที่กว้างยิ่งขึ้น และความผิดเพี้ยนต่ำกว่ามาก ซึ่งถือว่า ไดรเวอร์นี้ปฏิวัติวงการลำโพงสตูดิโอมอนิเตอร์ และได้รับการยอมรับว่า เป็นตัวขับเสียงมิดเรนจ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานทั้งในบ้านและในระดับมืออาชีพ ทั้งนี้เวอร์ชันล่าสุดของ SM 75-150s ที่ใช้วัสดุแปลกใหม่ และความคลาดเคลื่อนทางเสียงที่แม่นยำยิ่งขึ้น ถือเป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยี…โดยที่ไดรเวอร์ยูนิตนี้มักถูกเลียนแบบ แต่ไม่เคยมีตัวใดเทียบเท่าได้
ทศวรรษต่อมามีการเปิดตัวระบบลำโพงแบบครบชุด (Complete Speaker Systems) และรุ่นต่อๆ มาของชุดขับเคลื่อน PA กำลังขับสูง ที่ใช้ในรูปแบบ OEM โดยผู้ผลิตและศิลปินชั้นนำหลายราย เช่น Pink Floyd และ Supertramp ถือเป็นลูกค้ารายแรกๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว “ATC” ได้ทำการวิจัยและพัฒนาระบบองค์ประกอบแบบแอคทีฟขึ้นเป็นครั้งแรก (First Active System Elements) โดยแนะนำ ‘EC23’ Active Crossover ที่มีการแก้ไขเฟสในตัว และทำสัญญากับ Danish Radio สำหรับแอ็คทีฟมอนิเตอร์แบบพกพา (Active Portable Monitor) ทำให้มีโอกาสผสานลำโพง SCM50 และ SCM100 ใหม่กับชุด Tri-amp และ ครอสโอเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้าง ‘SCM50A’ และ ‘SCM100A’ ซึ่งเป็นระบบแอคทีฟที่เชื่อถือได้ และให้ความแม่นยำสูงรุ่นแรกๆ ซึ่งด้วยการปรับจูนอย่างละเอียดอย่างสม่ำเสมอ ระบบเหล่านี้จึงยังคงได้รับความนิยมทั้งในระดับมืออาชีพและในไฮ-ไฟแอปพลิเคชันในปัจจุบัน
หลังจากที่ได้สร้างตลาดสำหรับมอนิเตอร์คุณภาพระดับอ้างอิงที่ผลิตขึ้นอย่างแม่นยำแล้ว ลำโพง ATC ขนาดเล็กหลายรุ่นจึงได้รับการพัฒนาขึ้น โดยมีตั้งแต่ SCM7 จนถึง 10 และ 20 โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นแอคทีฟและพาสซีฟ ซึ่งมอบประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือระดับสูงสุดของ ATC ให้กับลูกค้าใหม่จำนวนมาก
ในปี ค.ศ.1996 ATC ได้เปิดตัวอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักเล่นเครื่องเสียงแบบสแตนด์อโลนรุ่นแรก ทั้งปรีแอมป์ ‘SCA2’, เพาเวอร์แอมป์ ‘SPA2-150’ และรุ่นต่อมาคือ ‘SIA2-150’ ถูกสร้างขึ้นตามปรัชญาของ ATC ที่ไร้ซึ่งการประนีประนอม ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ยังคงจัดอยู่ในกลุ่มลำโพงที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา ในรุ่นล่าสุด ลำโพงเหล่านี้ยังคงมอบความแม่นยำและประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้
ในปีเดียวกันนั้น Billy Woodman และทีมวิจัยของ ATC ได้พัฒนาโทโพโลยีไดรเวอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดผลกระทบของ Magnetic Hysteresis ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของความผิดเพี้ยนที่สำคัญในหน่วยตัวขับเสียงลำโพง ไดรเวอร์ Super Linear (SL) ของ ATC ใช้สื่อใหม่จากอุตสาหกรรมการสื่อสารเพื่อลดความผิดเพี้ยนของฮาร์โมนิกที่สามลง 10-15dB ระหว่าง 100Hz และ 3kHz ถือได้ว่า เป็นการพัฒนาที่สำคัญที่สุดในการออกแบบตัวแปลงสัญญาณในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา “SL Technology” ถือเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ATC ที่มีต่อคุณภาพเสียง ความแม่นยำของไดรเวอร์ SL ในการสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ด้วยความมุ่งมั่นของ ATC ในด้านการทำมาสเตอร์เสียงหลายช่องสัญญาณ (Multi-Channel Mastering) และการมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้เล่นชั้นนำ (Leading Players) ในอุตสาหกรรมเสียงระดับมืออาชีพ เช่น Sony Music และ Telarc ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ ATC ได้รับการติดตั้งในสตูดิโอหลายช่องสัญญาณ และหอประชุม (Auditoria) ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
ATC ยึดมั่นในอุดมการณ์ของ Billy Woodman ผู้ก่อตั้งบริษัทในการสร้างลำโพงและอิเล็กทรอนิกส์ด้านเสียงที่ใช้หลักการวิศวกรรมสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมาโดยตลอด ด้วยความมุ่งมั่นในการออกแบบและสร้างลำโพง รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ ATC ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายของเทคโนโลยีการบันทึกดิจิทัลล่าสุด โดยให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดที่สามารถซื้อได้
ทั้งนี้ ATC นั้นจัดแบ่งประเภทผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ Professional (Very high performance, professional, active studio monitoring loudspeakers and electronics for use in recording, sound design, broadcast, film, post production and education.) กับ HiFi & Home Cinema (High performance, hand built loudspeakers and electronics for the most discerning audiophile, music lover and home cinema enthusiast.)
Technology
ในที่สุด หลังจากหลายปีของการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน ATC มีความภูมิใจที่จะแนะนำตัวขับเสียงความถี่สูง ‘SH25-76’ และ ‘SH25-76S’ (ไดรเวอร์ HF ระดับสูงสุด) ที่จับคู่ควรอย่างเหมาะเจาะกับตัวขับเสียงเบส/กลาง และตัวขับเสียงกลาง (Bass/Mid And Mid-Range Drive Units) อันเยี่ยมยอด ซึ่งเป็นผลงานจากประสบการณ์กว่า 40 ปี ของ ATC ในการสรรค์สร้างตัวขับเสียงตัวอะคูสติกที่ได้ชื่อว่า ดีที่สุดในโลก
Dual Suspension Tweeter
ด้วยทวีตเตอร์แบบวัสดุรองรับ/กันการกระเทือนคู่ ที่นับแนวทางการออกแบบทวีตเตอร์ของ ATC ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ไม่เหมือนใครในแวดวง การรวมเอาส่วนประกอบรองรับ/กันการกระเทือนชั้นล่าง (Secondary Suspension Component) เข้ามาเสริมกับตัวหลัก ทำให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้มีการจำกัดการเคลื่อนที่ในทิศทางแนวแกน (Axial Direction) เท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือ การออกแบบที่ระงับ-ยับยั้งลักษณะการเคลื่อนตัวที่โยกเยก (Rocking Modes) และรับประกันระดับค่าความบิดเบือนที่ต่ำลง (Lower Distortion Levels) ก่อให้เกิดความเสถียร (Stability) เพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับโครงสร้างทวีตเตอร์แบบเดิมๆ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารแม่เหล็กเหลว (Ferro-Fluid) (ซึ่งโดยปกติแล้วจำเป็นสำหรับการระบายความร้อน, การแดมป์วอยคอยล์ ฯลฯ) เป็นผลให้ช่องว่างแม่เหล็ก (Magnetic Gap) สามารถแคบ-เล็กลงได้ยิ่งขึ้น ทำให้ทวีตเตอร์ของ ATC ไม่เพียงแต่ทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพยาวนานขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้การรองรับกำลังขับที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการออกแบบแบบเดิมๆ อีกด้วย
ถึงแม้ว่าโครงสร้างทวีตเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์นี้จะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แต่มวลเคลื่อนที่ (Moving Mass) ที่เพิ่มขึ้น และความซับซ้อนโดยรวมที่เกิดขึ้นจะต้องถูกชดเชยและเอาชนะด้วยการจัดวางส่วนประกอบทั้งหมดให้เหมาะสม ดังนั้น การผลิตและประกอบจึงต้องได้รับความเอาใจใส่ และใช้ความแม่นยำเป็นพิเศษด้วยความเชี่ยวชาญของ ATC
‘SH25-76’ รุ่นมาตรฐานและรุ่นสุดพิเศษ ‘SH25-76S’ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนยิ่งขึ้นนั้น สามารถรับมือกับความท้าทายทางวิศวกรรมได้ในรูปแบบที่แตกต่างกันแต่ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ทวีตเตอร์รุ่นมาตรฐานมีส่วนประกอบของมวลเคลื่อนที่แบบใหม่และเบากว่า ในขณะที่ไดรเวอร์รุ่น “S” มีชุดมอเตอร์ที่ทรงพลังเป็นพิเศษ ซึ่งเมื่อรวมกับตัวกระบอกวอยซ์คอยล์ (Voice Coil Former) ที่มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบาอย่างเหมาะสมแล้ว จะทำให้ความผิดเพี้ยนของฮาร์มอนิกในระดับต่ำหายไป และตอบสนองความถี่ที่ขยายออกไปได้อย่างมีการควบคุมที่ดี ซึ่งเกินขีดจำกัดการได้ยินของมนุษย์
Fully Optimised Neodymium Motor Assemblies
ชุดแม่เหล็กของ SH25-76S แต่ละชุดใช้แผ่นด้านบนที่ผ่านการอบสภาพแม่เหล็ก (Magnetically Annealed) รวมถึงการใช้วงแหวนแม่เหล็กนีโอไดเมี่ยม “N48M” ขนาดใหญ่ ซึ่งการจัดวางได้รับการปรับให้เหมาะสมทีละชิ้น โดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเจาะจงเพื่อให้แน่ใจว่า มีประสิทธิภาพสูงสุด ชุดแม่เหล็กของ SH25-76S สามารถสร้างความหนาแน่นของฟลักซ์ (Flux Density) ที่สูงอย่างเหลือเชื่อ มากกว่า 2.0T ในช่องว่างแม่เหล็ก (Magnetic Gap) จึงให้ความเข้มของเส้นแรงแม่เหล็กอย่างเต็มที่ และปราศจากผลกระทบของการปรับฟลักซ์ในโลหะโดยรอบ ส่งผลลดความผิดเพี้ยนฮาร์โมนิกคี่ควบ (Odd Harmonic) ได้ต่ำกว่า -70db ตลอดทั้งช่วงแบนด์วิดท์การทำงาน ทั้งนี้ความหนาแน่นของฟลักซ์ระดับสูงในช่องว่างแม่เหล็ก รวมกับการกำหนดค่าช่องว่างแม่เหล็กที่ยาวร่วมกับวอยซ์ คอยล์สั้น (Short Coil Long Gap Configuration) ส่งผลให้ได้มาซึ่งการตอบสนองความถี่เชิงเส้น (Linear Frequency Response) และขยายเกินกว่า 20kHz
เป็นเวลาห้าสิบปีแล้วที่ ATC ได้ผลิตลำโพงมอนิเตอร์สตูดิโอคุณภาพเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการยกย่องจากมืออาชีพในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีของ ATC ได้ประกาศเปิดตัวลำโพงตั้งพื้นแบบ แอคทีฟรุ่นใหม่ “SCM20ASL Limited Edition” ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 150 คู่เท่านั้น โดยลำโพงรุ่นนี้มีการออกแบบเป็นแบบ 2-ทางตั้งวางพื้น ที่เคลือบแล็กเกอร์มันเงาสีน้ำเงินเข้มอันสวยงามของ ATC นอกจากนี้ ตัวตู้ลำโพงยังหุ้มเบาะด้วยผืนหนัง Napa ฟูลเกรนสีน้ำเงินรอยัลจาก Eissmann ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหนังจากเยอรมนี ส่วนชิ้นส่วนโลหะผสมภายนอกเคลือบด้วยอะโนไดซ์สีเงิน ซึ่งตัดกับแล็กเกอร์สีน้ำเงิน และแผ่นหนังของแผงหน้า (Baffle) และตัวตู้ลำโพงได้อย่างลงตัว
ดังนั้น เมื่อบริษัทตั้งเป้าที่จะทำบางอย่างที่เล็กกว่าและราคาไม่แพง ทุกคนจึงคาดหวังบางอย่างที่พิเศษ และยังคงไร้ซึ่งการประนีประนอมได้จาก ATC โดยที่ผลิตภัณฑ์ลำโพงบ้านของ ATC ยังคงมีกลิ่นอายของลำโพงมอนิเตอร์ระดับมืออาชีพอยู่ในตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่ลำโพงขนาดเล็กและราคาถูกของ ATC อย่าง Entry Series จะเต็มไปด้วยรายละเอียดการออกแบบที่ชาญฉลาดเกือบเทียบเท่ากับรุ่นที่มีราคาแพงกว่า ทั้งนี้ Entry Series มีอยู่ด้วยกัน 6 รุ่นเริ่มต้นด้วย SCM7, SCM11 และ SCM19 ขึ้นไปจนถึง SCM40 ซึ่งยังมีเวอร์ชันที่ใช้งานแบบ แอคทีฟได้ด้วย นั่นคือ SCM40A
Overview
New ATC designed and built 25mm soft dome HF unit with precision alloy wave guide.
Precision undercut bass pole.
“CLD” driver technology with 45mm integral soft dome.
In-house, hand-wound precision flat wire coil.
Massive optimised motor assembly.
Flat impedance curve allowing easy load for amplifiers.
Veneered Finish Options-Cherry, Black Ash.
Painted Finish Options-Satin Black, Satin White.
Specification
Drivers : HF ATC 25mm Neodymium Soft Dome, Mid/LF ATC 150mm CLD
Matched Response : ±0.5dB
Frequency Response (-6dB) : 56Hz-22kHz
Dispersion : ±80° Coherent Horizontal, ±10° Coherent Vertical
Sensitivity : 85dB @ 1W @ 1metre
Max SPL : 108dB
Recommended Power Amplifier : 75 to 300 Watts
Nominal Impedance : 8 Ohm
Crossover Frequency : 2.2kHz
Connectors : Binding Posts/4mm Plugs, Bi-Wire
Cabinet Dimensions (H×W×D) : 381 × 232 × 236mm / 15.00 × 9.21 × 8.46″ (Grill Adds 28mm Depth)
Weight : 10.9kg
คุณลักษณ์
SCM11 เป็นลำโพงแบบ วางขาตั้ง ระบบตัวตู้ปิดผนึก (Sealed Box) ขนาดกะทัดรัด 2-ทาง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีหนึ่งใน Entry Series ของ ATC ในขณะที่รุ่น SCM7 ซึ่งเป็นรุ่นน้องนุชสุดท้อง รองลงไปจาก SCM11 ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด และราคาย่อมเยาที่สุดใน Entry Series ของ ATC ได้รับการวิจารณ์จาก Martin Colloms ซึ่งเขียนบทความให้กับนิตยสาร Hi-Fi Critic, June 2020 สรุปได้ว่า “นี่คือลำโพงที่ยอดเยี่ยมในหลายๆ ด้าน ประการแรกคือ คุณภาพการประกอบและการตกแต่งที่ยอดเยี่ยม ประการต่อมาคือ ความแม่นยำของระดับมอนิเตอร์ การจับคู่คู่ที่ยอดเยี่ยม และเสียงเบสที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับขนาด และจากนั้นคือ ความผิดเพี้ยนที่ต่ำ ลำโพงนี้ให้เสียงที่ไพเราะและน่าฟังมาก และเป็นการรีวิวที่น่ายินดีมาก แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องขนาด ลำโพงรุ่นนี้ก็ยังให้คุณภาพเสียงมอนิเตอร์ที่เปิดเผยทางดนตรีได้อย่างแท้จริง”
สำหรับ SCM11 ระบุว่า มีค่าความไวเสียงอยู่ที่ 85dB/W ที่ระยะ 1 เมตร ซึ่งนับว่า เป็นค่าความไวที่ค่อนข้างต่ำ จึงมีคำแนะนำให้ใช้แอมปลิฟายเออร์ที่มีกำลังขับระหว่าง 75 ถึง 300 วัตต์ต่อข้างในการขับขาน อย่างไรก็ตามทาง ATC ก็ได้ระบุว่า SCM11 มีอิมพีแดนซ์ค่อนข้างราบเรียบ (Relatively Flat) ทำให้ขับได้ง่าย โดยมีค่าประมาณ 8 โอห์ม แม้ว่าลำโพงจะไม่ต้องการกระแสสูง (High Current) แต่ก็ต้องใช้เครื่องขยายเสียงที่มีกำลังขับที่ดี “SCM11” ให้การครอบคลุมช่วงการตอบสนองความถี่อยู่ที่ 56Hz ถึง 22kHz (-6dB)
แม้ว่า รูปลักษณ์ภายนอกของ SCM11 จะดูคล้ายกับลำโพงวางขาตั้งแบบ 2-ทาง (Stand-Mounted Two-Way Design) โดยทั่วไป แต่ชุดขับเสียงของ ATC นั้นออกแบบเอง ซึ่งนี่จึงสร้างความแตกต่าง ทวีตเตอร์เป็นแบบ โดมอ่อน (Soft Dome) ขนาด 25 มม. ที่มีแม่เหล็กนีโอไดเมียม และตัวป้องกันคลื่นโลหะผสม (Alloy Waveguard) ที่เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ ซึ่งมีความแม่นยำสูง ที่น่าสนใจคือ ATC นั้นหลีกเลี่ยงการใช้สารแม่เหล็กเหลวในการหน่วงหนืด (Ferrofluid Damping) อย่างที่พบในทวีตเตอร์โดมอ่อนโดยทั่วไป แม้ว่า สารแม่เหล็กเหลวจะมีข้อดีหลายประการ แต่ ATC เชื่อว่าในที่สุดแล้ว มันจะจับตัวกันหนาขึ้นและขัดขวางการเคลื่อนที่ของตัวโดม ดังนั้น ATC จึงออกแบบทวีตเตอร์ทรงประสิทธิภาพที่ทำงานโดยไม่ต้องใช้สารแม่เหล็กเหลว
ไดรเวอร์เบส/มิดเรนจ์ของ SCM11 มีขนาด 150 มม. รับภาระการทำงานตั้งแต่ความถี่ 2.2kHz ลงมา ไดรเวอร์นี้ใช้เทคโนโลยี CLD (Constrained Layer Damped Cone) ของ ATC พร้อมวอยซ์คอยล์ที่พันด้วยมือโดยใช้สายแบน (ไม่ใช่แบบกลม) ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนทรงพลัง เพื่อให้มีความเป็นเส้นตรงของเส้นแรงแม่เหล็ก (Magnetic Linearity) และความผิดเพี้ยนต่ำ ทว่า SCM11 ไม่ได้ใช้ Super Linear Magnet Technology อย่างที่พบใน SCM 19 ซึ่งเป็นลำโพง 2-ทาง รุ่นใหญ่ขึ้น แต่มีวูฟเฟอร์ขนาดเดียวกันในปริมาตรตู้ลำโพงที่ใหญ่กว่า ทั้งนี้มีการอ้างว่า Super Linear Magnet Technology สามารถลดความผิดเพี้ยนฮาร์โมนิกอันดับสามลงได้ 10-15dB ระหว่าง 100Hz ถึง 3kHz ในขณะที่ ATC ก็มีการอ้างว่า กรวย CLD ของ SCM 11 สามารถลดความผิดเพี้ยนระหว่าง 300Hz ถึง 3kHz ได้ แต่มิได้ระบุปริมาณไว้ โดยที่เทคโนโลยี CLD ส่งผลให้ตัวกรวยมีความแข็งแกร่งสูง ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเหมือนลูกสูบ (Piston) ได้ดีกว่า ในช่วงความถี่ที่กว้างกว่า และให้การตอบสนองความถี่สูงที่ทอดขยาย (Extended) เวลาที่รับฟังบนแนวแกน (On-Axis)
อย่างไรก็ตาม การตอบสนองความถี่สูงจะลดลง และมีจุดเรโซแนนซ์หลายจุดเมื่อฟังนอกแนวแกน (Off-Axis) การเพิ่มการหน่วงหนืดเชิงกล (Mechanical Damping) ทำให้การตอบสนองของกรวยบนและนอกแนวแกนมีความสม่ำเสมอมากขึ้น แต่กรวยที่มีน้ำหนักมากจะส่งผลเสียต่อการตอบสนองฉับพลัน (Transient Response) และลดระดับเอาต์พุตลง “CLD” ถือเป็นเทคโนโลยีการหน่วงหนืดที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งช่วยลดการบิดเบือนฮาร์โมนิกได้อย่างมาก โดยขยายการตอบสนองความถี่บนแนวแกนของตัวกรวย ในขณะที่ปรับปรุงการกระจายเสียงนอกแนวแกน โดยไม่สูญเสียต่อการตอบสนองสัญญาณฉับพลัน ความสัมพันธ์ที่ควบคุมได้อย่างลงตัวระหว่างไดรเวอร์ทั้งสอง ทำให้มั่นใจได้ว่า การตอบสนองของเฟสจะยังคงเป็นเส้นตรง (Linear) ทั้งในมุมแนวนอนและแนวตั้งที่ระบุ ATC ว่า ผลลัพธ์สุดท้ายคือ เสียงที่คมชัดและมีรายละเอียด ซึ่งยังคงราบรื่นและให้ความสมดุลที่ดี โดยไม่คำนึงถึงว่าผู้ฟังจะนั่งอยู่ที่ไหน
ทวีตเตอร์ “SH25-76” ที่ใช้อยู่ใน SCM11 ถือเป็นการอัพเกรดลำโพงครั้งสำคัญ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของ ATC อย่างเต็มที่ ทุกส่วนล้วนประกอบขึ้นภายในบริษัท ประกอบด้วย 8 ส่วนด้วยกัน รวมถึงสารเคลือบพิเศษบนตัวกรวยลำโพง (Doped Polyester Diaphragm) รวมถึงระบบกันสะเทือน (Suspension System) และชุดมอเตอร์นีโอไดเมียม (Neodymium Motor Assembly) ที่ทำให้ทวีตเตอร์มีขนาดเล็กและมีมวลน้อยลง เพื่อการจัดวางตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับไดรเวอร์เสียงเบส/กลาง เพื่อการผสานความถี่อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งแม้ว่า ATC จะผลิตไดรเวอร์ให้กับบริษัทอื่นด้วยเช่นกัน ทว่าทวีตเตอร์ใหม่นี้ ห้ามส่งออกโดยเด็ดขาด และมีใช้เฉพาะในลำโพงของ ATC เท่านั้น
ไดรเวอร์ของ ATC ทั้งหมดใช้สารประกอบเคลือบสูตรพิเศษของตัวเอง (Own Specially Formulated Doping Compound) เนื่องจากความที่มีมวลน้อย จึงทำให้ไดรเวอร์ยังคงความเร็ว และแม่นยำ รวมถึงมีคุณสมบัติการหน่วงหนืดสูง ซึ่งช่วยขจัดพลังงานส่วนเกิน และควบคุมเสียงกำทอนที่ไม่ต้องการ (Unwanted Resonances) ตัวกรวยไดรเวอร์มิดเบสทำจากอะคริลิก และแช่ในสูตรเฉพาะ ทำให้รู้สึกเหนียวเล็กน้อยเมื่อสัมผัส แน่นอนว่า เมื่อทำงานร่วมกับทวีตเตอร์ใหม่แล้ว ครอสโอเวอร์จะต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ ส่วนประกอบที่ใช้ล้วนปรับปรุงใหม่ ได้แก่ ตัวต้านทานแบบ Wire Wound Resistors กำลังไฟสูง (High Power Rated), ตัวเก็บประจุแบบ Metalised Polypropylene Film Capacitors ระดับ Audio Grade และขดลวดเหนี่ยวนำแกนอากาศ (Air Cored Inductors)
ทั้งนี้ลำโพงในตระกูล SCM (Studio Control Monitor) ได้รับการออกแบบใหม่ (Redesign) และปรับปรุงใหม่ในครั้งล่าสุด โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ตู้ลำโพงทรงโค้งแบบใหม่ (New Curved Cabinets) ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่า และดูสวยงามกว่าแบบกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดาทั่วไป ตัวตู้ลำโพง SCM11 มีขนาด 381 × 232 × 236 มม. ผนังตัวตู้ทำจากแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง (MDF) หลายชั้น และทุกระนาบมีความหนาเท่ากัน ทั้งยังเสริมความแข็งแรงด้วยโครงคร่าว (Bracing) ยึดแนวนอนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและให้การหน่วงหนืด (Damped) ผนังทุกด้านผลิตขึ้นอย่างมั่นคงและตกแต่งผิวอย่างสวยงาม ทั้งยังมีน้ำหนักที่มากอย่างน่าประหลาดใจเมื่อเทียบกับขนาด ประมาณ 10.8 กก. ต่อข้าง
ซึ่งด้วยโครงสร้างตัวตู้ที่แน่นหนาแถมหนักมาก ผนังด้านข้างยังไม่เป็นผนังที่ขนานกันอีกด้วยนั้น ซึ่งจุดนี้ส่งผลช่วยในเรื่องลดการก้องกำทอน (Resonance) ภายในตู้ได้ดี อานิสงส์เหล่านี้ช่วยเสริมให้ SCM11 สำแดงประสิทธิภาพออกมาได้แบบที่ทำให้ลำโพงหลายๆ แบรนด์ในระดับราคาเดียวกันต้องคิดหนักอยู่ไม่น้อย แม้แต่ John Atkinson แห่ง Stereophile ก็ยังบอกว่า “SCM 11 ของ ATC เป็นลำโพงขนาดเล็กที่ออกแบบมาได้ดีเยี่ยม และจะอยากชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมที่วัดค่าได้ของมันบ่งบอกว่า ลำโพงรุ่นนี้จะทำงานได้ดีกว่าเมื่อฟังจากระยะใกล้พอสมควร”
SCM11 มีสีพื้นผิวไม้ให้เลือกทั้งสีดำแอช, สีดำซาติน, สีขาวซาติน และสีไม้เชอรี จริงๆ แล้ว SCM11 ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานโดยไม่สวมตะแกรงครอบ แต่ทาง ATC ก็มีตะแกรงครอบแบบตาข่ายโปร่งทรงรังผึ้งมาให้ ส่วนขั้วเสียบสายลำโพงที่ด้านหลังนั้นติดตั้งมาเป็นแบบ 4mm. Binding Posts จำนวนสองชุด พร้อมสำหรับการเสียบต่อแบบ Bi-Wiring
ผลการรับฟัง
บอกได้เลยว่า SCM11 ให้เสียงที่แม่นยำมาก เป็นเสียงที่แจ่มชัด สดสะอาด โปร่งกระจ่างเพียงพอในระดับความเป็นลำโพงเสียงมอนิเตอร์ “SCM11” ให้เสียงที่ราบเรียบ นุ่มนวล เปิดกว้าง คมชัด (Crispy) และผสานกลมกลืนกันได้ดี ทั้งยังเป็นลำโพงที่ให้เสียงเป็นธรรมชาติ ไม่มีสีสัน และไม่ถูกบิดเบือน พร้อมด้วยความสมดุลของเสียงโดยรวม เสียงมีขนาดใหญ่และแผ่กว้าง ส่งมอบความแม่นยำของจังหวะจะโคนที่ดีมาก ซึ่งน่าจะมาจากความคล่องตัวของตัวกรวยลำโพงที่เพิ่มขึ้น ไดนามิกมีความโดดเด่น ชัดเจน และให้ปลายเสียงที่ทอดยาวได้ไกลขึ้น สุ้มเสียงสดสะอาดอย่างน่าทึ่ง และโปร่งกระจ่างอย่างมาก ทว่าไร้ซึ่งความจัดจ้าน กร้านหู
ไดรเวอร์ทั้งคู่รู้สึกราวกับว่า กำลังทุ่มสุดตัวตลอดช่วงภาระการทำงานของแต่ละตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะรับฟังที่ระดับความดังเสียงเท่าใดก็ตาม เสียงที่เกิดขึ้นมีความเปิดกว้างและเป็นอิสระอย่างเหลือเชื่อ การรับฟังในตอนดึกด้วยระดับเสียงที่ไม่ดังนัก ก็ยังเผยให้เห็นทุกแง่มุมของดนตรี ควบคู่รายละเอียดที่ซับซ้อนทั้งหมดได้อย่างชัดเจน
ช่วงย่านเสียงเบสมีความหนักแน่น เน้นไปทางความลึกล้ำของเนื้อเบส ให้การโรยตัวความถี่ต่ำช่วงล่างสุดอย่างนุ่มนวล ความชัดเจนของ Bass Texture ทำได้น่าประทับใจ ควบคู่โทนเสียงที่อิ่มเอิบ และบ่งบอกรายละเอียดที่ดี มีการควบคุมตัวที่ยอดเยี่ยม บ่งบอกจังหวะจะโคนได้แม่นยำ ซึ่งน่าจะเป็นข้อดีที่ได้รับมาจากระบบตัวตู้ที่เป็น Sealed-Box Design โดยตามธรรมเนียมแล้วนั้น “ระบบตู้ปิด” จะไม่ได้เน้นการส่งมอบความถี่ต่ำในปริมาณที่มาก หรือว่าให้ความรู้สึกใหญ่โตอลังการเมื่อเทียบกับลำโพงที่เป็นแบบ ตู้เปิด (มีพอร์ตจูนเสียง) ที่ใช้ตัวดอกลำโพงขนาดเดียวกัน แต่ SCM11 นั้นไซร้เลือกที่จะให้คุณภาพแทนการให้ปริมาณ ซึ่งไม่ว่าจะรับฟังด้วยระดับความดังเสียงไม่มากนัก หรือ ดังสุดๆ เสียงเบสของ SCM11 ก็สะอาดและเป็นธรรมชาติเสมอ
อันที่จริงแล้ว ช่วงความถี่ทั้งหมดที่ SCM11 ส่งมอบออกมานั้นได้รับการคอนโทรลอย่างยอดเยี่ยม ATC ได้แสดงให้เห็นถึงระดับความแม่นยำอันไม่ธรรมดา ความแม่นยำนั้นขยายไปถึงเรื่องของจินตภาพเสียงที่แผ่กว้างเป็นสนามเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนราวสามมิติแบบไม่ต้องไปเพ่งเลย ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นมีขอบเขตที่ชัดเจน เว้นระยะห่างของแต่ละชิ้นที่แยกขาดจากกัน ไม่รู้สึกว่าชิ้นดนตรีเบียดเสียดกัน ให้โฟกัสการวางตำแหน่งส่วนต่างๆ ของวงออร์เคสตราในวงเวทีเสียงที่เปิดกว้างอย่างแจ่มชัด ไม่ต้องหลับตาฟัง!!
ซึ่งด้วยทวีตเตอร์รุ่นใหม่ใน SCM11 เผยให้เห็นทุกรายละเอียดของดนตรีที่น่าเพลิดเพลินใจ และสะท้อนถึงแนวเพลงใดๆ ก็ได้ด้วยสัมผัสที่เป็นกลางให้ความสมจริงมากอย่างยอดเยี่ยม การผสมผสานช่วงย่านเสียงกลางจนถึงเบสของ SCM11 นั้นค่อนข้างราบเรียบ กลมกลืนกัน ไร้ซึ่งตะเข็บรอยต่อของเสียงอย่างแท้จริง ทั้งยังมีไดนามิกที่ดี มีความลื่นไหลสูง สามารถถ่ายทอดจังหวะจะโคนได้อย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ช่วงย่านเสียงกลางของ ATC นั้น ขึ้นชื่อในเรื่องความสอดคล้องกลมกลืนกัน และความมีชีวิตชีวาที่น่าประทับใจ กับทั้งยังสามารถควบคุมโทนเสียงสูงของผู้หญิงและเสียงต่ำของผู้ชายได้อย่างมีเสน่ห์น่าฟัง
จริงอยู่ที่ SCM11 ไม่สามารถสร้างเสียงเบสที่หนักแน่นได้กับบางเพลง แต่มันจะทำให้เสียงที่รับฟังมีความเป็นเนื้อเดียวกัน เสียงแต่ละเพลงนั้นให้ความเป็นดนตรีอย่างน่าฟัง ซึ่งด้วยคุณงามความดีของเสียงเบสที่สะอาด เลยทำให้เสียงมิดเบสและเสียงกลางต่ำมีความสดสะอาดตามไปด้วย และส่งเป็นอานิสงส์ให้เสียงร้องมีความคมชัดลอยเด่นออกมาอย่างใสกระจ่าง ชัดเจนจนสามารถตามอากัปกิริยาของนักร้องขณะร้องได้เป็นอย่างดี ช่วยให้เข้าถึงซึ่งอารมณ์เพลงได้น่าประทับใจ
สรุปส่งท้าย
คุณอาจจะมอง ATC ว่าไม่มีความหรูหรา หรือมองแล้วไม่สะดุดตาเหมือนอย่างบางแบรนด์ แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่า ATC นั้น เป็นผู้สร้างลำโพงระดับงานวิศวกรรมที่ให้ความแม่นยำเสียงเทียบเคียงลำโพงมอนิเตอร์ รูปลักษณ์ของ ATC เป็นลำโพงแบบ ‘คลาสสิกสุดเก๋’ ที่ทำจากไม้จริงซึ่งมีโครงสร้างแข็งแรงให้เสียงที่มีน้ำหนัก และลงได้ลึกด้วยโครงสร้างตัวตู้แบบ ตู้ปิด (Sealed Box) หรือ Infinite Baffle ที่เสริมความแข็งแกร่งทางโครงสร้างอย่างมหาศาล ทำให้สามารถนำเสนอดนตรีได้อย่างถูกต้องแท้จริง ให้รายละเอียดเสียงอันซับซ้อน พร้อมด้วยความไหลลื่นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย “SCM11” เป็นลำโพงที่ออกแบบมาได้ดีเยี่ยม และพูดได้เลยว่า ทาง ATC ไม่ได้ทำตามกระแสแฟชั่นนิยม ทว่าผลิตลำโพงออกมาอย่างยอดเยี่ยมในแนวทางของตนเอง ซึ่งแม้ว่า ลำโพงรุ่นนี้ไม่ใช่ลำโพงรุ่นใหม่ล่าสุด และดีที่สุดในแง่ของสไตล์ แต่ SCM11 มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม และสมควรได้รับการรับฟังอย่างแท้จริงก่อนที่จะตัดสินใจ ไม่ควรมองข้ามไป
ขอขอบคุณ : บริษัท คอมฟอร์ตซาวด์ จำกัด | โทร. 02-321-0384, 02-321-0385, 083-758-7771
อนุเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในการทดสอบครั้งนี้