Test Report: ROKSAN RPP: Reference Phono Preamplifier
มงคล อ่วมเรืองศรี
Roksan Audio ltd. เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1985 โดยมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่น Xerxes เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกสุดที่ออกจำหน่ายด้วยฝีมือการออกแบบของ Touraj Moghaddam ภายใต้แบรนด์ ROKSAN โดดเด่นด้วยการแยกภาคจ่ายไฟออกไปไว้ต่างหากนอกตัวเครื่อง พร้อมด้วยการใช้ระบบรองรับ-ซึมซับ-สลายแรงสั่นสะเทือนรบกวนจากภายนอกที่ไม่เหมือนใคร จนได้พิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าสปริง นั้นมีความไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการนำมาใช้งานเป็น Sub-Chassis ทำหน้าที่ ‘Suspension’ ใน Turntable ที่ต้องการคุณภาพสูง เพราะไปส่งผลลดทอนความถูกต้องแม่นยำในสัญญาณเสียงดนตรี
ในปีถัดมา (1986) ROKSAN ก็ออกจำหน่ายระบบลำโพงระดับ Reference รุ่น Darius ซึ่งได้รับการออกแบบ-แยกลอยทวีตเตอร์อย่างเด็ดขาด ปราศจากผลกระทบรบกวนจากแรงสั่นสะเทือนของวูฟเฟอร์ ด้วยหลักการ Unique Isolated Sprung Tweeter and Resonance Fixed Woofer Magnet, ROKSAN จึงเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาหลักการนี้จนประสบความสำเร็จ นำพาไปสู่การออกแบบระบบทำงานของรุ่น Ojan 3 / 3X อันโด่งดังในปี ค.ศ.1993
ต่อมาในปี ค.ศ.1990 ROKSAN ก็ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับ Reference Amplifier เป็นครั้งแรก ประกอบด้วยปรี-แอมปลิไฟเออร์รุ่น Rok S1 ที่แยกภาคจ่ายไฟออกมาไว้นอกตัวเครื่อง และโมโน-เพาเวอร์แอมป์รุ่น Rok M1 ที่แม้ปัจจุบันทาง ROKSAN จะมิได้ขึ้นสายพานการผลิตทั้ง 2 รุ่นนี้อีก แต่ก็ยังคงเป็นที่ถวิลหาของคนในวงการ และแล้วทาง ROKSAN ก็ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นซีดีเป็นครั้งแรก ด้วยรุ่น ROK DP1 ในปี ค.ศ.1991
จากนั้นในอีก 1 ปีถัดมา ROKSAN ก็ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นซีดีแบบแยกชิ้นรุ่น Attessa อันประกอบด้วย CD Transport, D to A Converter และ Power Supply ต่อมาทาง ROKSAN ก็ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่น Xerxes X มาทดแทนรุ่น Xerxes ในปี ค.ศ.1995 ถัดมาอีก 3 ปี (1998) ROKSAN ก็ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Caspian-Series เป็นครั้งแรก ด้วยเป้าหมายผู้ใช้ในระดับ Hi-End พอถึงปี 2000 ROKSAN จึงมีผลิตภัณฑ์ Kandy-Series ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกตามติดมา ด้วยเป้าหมายผู้ใช้ในระดับ Entry Level ที่ต้องการผลิตภัณฑ์อันคุ้มค่าเงินที่สุด
3 ปีให้หลัง ROKSAN ได้ทำการปรับปรุงพัฒนา Kandy-Series จนก้าวมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้ชื่อซีรี่ส์ Kandy MkIII ด้วยคุณภาพที่ไม่เป็นสองรองใคร จนได้รับการยกย่องอย่างมากในนิตยสารต่างประเทศ และแล้วในอีก 1 ปีถัดมา (2004) ROKSAN ก็ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Caspian-Series เจนเนอเรชั่นใหม่ภายใต้ชื่อซีรี่ส์ Caspian M series–1 เพื่อให้พร้อมรองรับได้กับระบบเสียงจากสื่อดิจิตอลยุคใหม่ ที่ล้วนมีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างมากตามยุคสมัย
จะเห็นได้ว่า ROKSAN นั้นประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ แตกแขนงออกไปไม่จำกัดอยู่แต่จำเพาะทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น หากยังครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางด้านระบบลำโพง (ซึ่งหลายต่อหลายผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จนเป็นที่ลือลั่น ถามหากันในวงการ) และแอกเซสซอรีต่างๆ อย่าง สายสัญญาณอะนาลอก, สายสัญญาณดิจิตอล และสายลำโพงด้วยเช่นกัน กระทั่งในปี ค.ศ.2004 ก็ได้มีผลิตภัณฑ์แขนงใหม่ล่าสุด นั่นคือ CD Audio (แผ่นซีดีเพลง) แบบ Double CD Album (2 แผ่น/ชุด) ชื่ออัลบั้ม Altitude ออกมาจำหน่ายอีกด้วย
ในปีถัดมา ROKSAN ก็ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Kandy LIII (Integrated Amplifier, Power Amplifier & CD Player) และในปี ค.ศ.2007 ROKSAN ก็ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ Platinum อันประกอบด้วย Preamplifier และ Power Amplifier รวมทั้งผลิตภัณฑ์ในซีรี่ส์ใหม่เอี่ยมอ่อง Kandy K2 (Integrated Amplifier, Power Amplifier & CD Player) จนในอีก 7 ปีต่อมา Kandy K2 ก็ได้ถูกแทนที่ด้วย Kandy K3.
นับถึงปัจจุบัน Roksan Audio ltd. ได้ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ซึ่งกระทั่งในทุกวันนี้ ROKSAN ก็ยังคงมีผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ระดับชั้นแค่นั้นอยู่นั่นเอง (มิได้มีซีรี่ส์ใหม่ที่ออกมาหวือหวาตามแฟชั่น หรือเป็นซีรี่ส์เฉพาะกิจที่มาเร็ว แล้วก็จากไป ไม่ติดอยู่ในความทรงจำ ให้ต้องรำลึกนึกถึงกัน) โดยมี Caspian M series-2 เป็นผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ และ Kandy K3 Series เป็นผลิตภัณฑ์ระดับสุดคุ้ม (Entry-Level ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็น HI-END เต็มตัว)
ROKSAN ได้ออกจำหน่าย Caspian Series เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1998 โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็น Stereo Pre/Power Amplifier, Stereo Integrated Amplifier และ CD Player ถัดมาอีก 1 ปีก็ปรับปรุงมาเป็น mk II จนในอีก 6 ปีต่อมา ทาง ROKSAN จึงได้พัฒนาและยกระดับ Caspian – Series ขึ้นมาเป็น M Series-1 ซึ่งแม้รูปลักษณ์ภายนอกรวมถึงมิติขนาดจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจาก Caspian Series ดั้งเดิม (ยกเว้น ส่วนของแผงหน้าที่ดีไซน์ขึ้นใหม่) ทว่าภายในตัวเครื่องนั้นกลับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ปรับปรุง-พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมมากมาย และในปี ค.ศ.2010 Caspian M series-1 ก็ได้รับการยกระดับขึ้นมาเป็น M series-2 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
คุณลักษณ์
ภายใต้ขนาดมิติตัวเครื่อง 432 x 330 x 70 มม. (กว้าง x ลึก x สูง) น้ำหนัก 12 กก.ของ RPP ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Caspian M series–1 ของ ROKSAN ในฐานะ Reference Phono Amplifier “ตัวใหม่ล่าสุด” ที่ได้รับการ-ยกระดับ-ขึ้นมาจาก Reference Phono Stage ที่ออกจำหน่ายมาก่อนหน้านี้ ให้มีสมรรถนะและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยวงจรภายในที่เป็นแบบ Fully Symmetrical Dual Mono Design บรรจุอยู่ในโครงสร้าง Caspian DX2 Chassis ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ที่คัดสรรแล้วว่า ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้มาใช้ในวงจรต่างๆ
นอกจากนี้ยังใช้ DS1.5 Reference Ultra Low Noise DC Power Module ที่วิศวกรของ ROKSAN ได้ทำการออกแบบขึ้นมาเป็นการเฉพาะ อันประกอบไปด้วยหม้อแปลงแบบ Double Shielded Ultra Low Noise Toroidal Transformer ขนาดใหญ่ถึง 350VA ควบคู่กับ Power Filter คุณภาพสูง ทำหน้าที่จ่ายพลังงานไฟฟ้า DC ที่ราบเรียบสุดๆ เข้าสู่วงจรทำงาน โดยใช้แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่สูงถึง 26 โวลต์ (+26, 0, -26 Vdc) เลยทีเดียว
RPP ได้รับการออกแบบอย่างไร้ซึ่งการประนีประนอมใดๆ (No-Compromise Design) ให้สามารถรองรับได้กับการขยายสัญญาณจากทั้งหัวเข็ม MM และ MC โดยจะมี DIP Switch ทำหน้าที่ในการ Setup ค่าปรับตั้งต่างๆ ให้เหมาะสมกับประเภทของหัวเข็มที่ใช้งาน ซึ่งทาง ROKSAN ก็ได้ติดตั้ง DIP Switch นี้เอาไว้ด้านใต้ตัวเครื่อง จึงนับว่าสะดวกหากต้องการทำการปรับเปลี่ยนค่าเซ็ตอัพต่างๆ ใหม่ ไม่จำเป็นต้องถอดฝาครอบตัวเครื่องออก แต่ก็ยังคงจำเป็นต้องอาศัยดูคำแนะนำจาก คู่มือใช้งาน (Manual) ในการปรับตั้งค่าต่างๆ สำหรับอนาคตข้างหน้า จึงขอบอกว่า สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บรักษา Manual ไว้ อย่าทิ้งขว้างไป (ซึ่งทาง ROKSAN ได้ให้มาเป็นคู่มือแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่บันทึกข้อมูลลงไว้ใน USB)
วิศวกรของ ROKSAN ได้ทำการออกแบบ RPP ไว้ให้มีเกนการขยายสัญญาณที่สามารถปรับเลือกได้ 3 ค่าด้วยกัน : 40 dB สำหรับ Moving Magnet Cartridges, 54 dB สำหรับ Moving Coil Cartridges โดยทั่วไป และ 60 dB สำหรับ Low Output Moving Coil Cartridges โดยจะมีค่าสัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน (S/N Ratio) เท่ากับ 88 dB, 84 dB และ 80 dB ตามลำดับ จ่ายความแรงสัญญาณขาออกเท่ากับ 5.0mV และสามารถครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้ตั้งแต่ 20 Hz – 30 kHz, +/- 0.2 dB ค่าความผิดเพี้ยนต่ำกว่า 0.01%
ทั้งนี้บนแผงหน้าเครื่องของ RPP ไม่มีปุ่มกด หรือสวิตช์ใดๆ ติดตั้งไว้ จะมีเพียงแค่ดวงไฟ LED สีฟ้าที่แสดงสถานะเปิดการใช้งาน (ON) เท่านั้น โดยได้ซ่อนสวิตช์เปิด/ปิดการใช้งาน (ON/OFF) เอาไว้ที่บริเวณใต้แผงหน้าเครื่อง โดยที่แผงหลังเครื่องก็จะติดตั้งช่องเสียบ Inputs และ Outputs มาให้อย่างละชุด รวมทั้งช่องเสียบสายไฟฟ้าเข้าเครื่องมาตรฐาน IEC ที่ถอดเปลี่ยนได้
ผลการรับฟัง
ขอบอกกล่าวตั้งแต่บรรทัดนี้เลยนะครับว่า ได้รับ RPP จากทาง ไฮไฟ ทาวเวอร์ มาแบบเพิ่งแกะกล่องใหม่เอี่ยมอ่องกันเลยทีเดียว กระนั้นเมื่อแรกฟัง RPP ก็สร้างความประทับใจตั้งแต่เปิดซิงเลยละครับ แสดงว่า ก่อนส่งออกจากโรงงานทาง ROKSAN ได้ทำการเบิร์นอิน RPP มาสักระยะหนึ่งแล้ว RPP จึงมีความพร้อมใช้งานแบบเต็มร้อยตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง กระนั้นผมก็ได้ทำการเบิร์นอินเจ้า RPP ต่อเนื่องหลายวัน เพื่อความมั่นใจว่า RPP จะส่งมอบสมรรถนะระดับขีดสุดในตัวออกมา
RPP ได้รับการปรับตั้งให้พร้อมใช้งานสำหรับการขยายสัญญาณหัวเข็ม MM ก่อนถูกส่งออกมาจากโรงงาน แม้ว่า RPP จะถูกออกแบบมาให้รองรับได้กับทั้ง MC High Output และ MC Low Output รวมทั้ง MM แต่รับรองได้ว่า ท่านจะพบกับ ‘ความต่าง’ ในความรู้สึกจากการรับฟังที่ไม่เคยได้ถึง-เยี่ยงนี้-มาก่อนจากแผ่นเสียงทุกแผ่นที่นำมารับฟังกับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใช้ RPP ขยายสัญญาณหัวเข็มแบบ MM ครับ โดยการใช้ SUT (Step-Up Transformer) เกรดดีๆ (อย่างเช่นของ Altec/Peerless, UTC, เป็นต้น) มาทำการขยายสัญญาณจากหัวเข็ม MC ก่อนที่จะเสียบต่อเข้าสู่ RPP
แต่ก็ใช่ว่าจะถึงขั้นห้ามมิให้ท่านเสียบต่อจากหัวเข็มแบบ MC มาเข้า RPP โดยตรงหรอกนะท่าน เพียงแค่ว่าสมรรถนะและคุณภาพเสียงที่ได้รับนั้น ช่างเหนือชั้นกว่าภาค Phono Stage (MM) ที่ผมได้เคยฟังมามากทีเดียว จนยึดถือลักษณะการใช้งานแบบนี้ตลอดการรับฟัง และขอนำสิ่งต่างๆ ที่ได้รับมาบอกกล่าวไว้ ณ ที่นี่ครับ
RPP จะให้สภาพซาวด์สเตจที่กว้างขวาง มีสภาวะการโอบล้อมทางเสียงที่ดีมาก ให้การผุดโผล่ของเสียงในลักษณะที่ลอยล่องออกมาอย่างมีอาณาบริเวณของเสียงนั้นๆ อย่างแจ่มชัด มิใช่เกิดขึ้นเป็นจุด…เป็นจุด…เฉพาะตรงโน่นตรงนี้แล้วก็จางหายไปในฉับพลัน เสียงทุกเสียงที่รับฟังให้ความอิ่มอุดมมีตัวตนของเสียงในทุกช่วงย่านความถี่อย่างเสมอภาคกัน
รับรองเลยว่า คุณจะต้องทึ่งในสิ่งที่ได้รับฟัง ช่วงปลายเสียงสูงๆ ที่ทอดยาวไกลไปสุดกู่ (ไร้การกักกั้น) นั้นช่างพละพลิ้วและมีพลังกังวาน จนกระทั่งค่อยๆ แผ่วจางไปอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงย่านความถี่ต่ำนั้นนับได้ว่าโดดเด่นทั้งในด้านพลังความหนักแน่น และเรี่ยวแรงปะทะกระแทกกระทั้นควบคู่กัน รวมถึงความฉับพลันทันใดของจังหวะจะโคน ทั้งยังทิ้งทอดตัวลงไปได้ลึกมากๆ ด้วย จะฟังเบส-ฟังกลองก็ล้วนมันส์ในอารมณ์
รายละเอียดในน้ำเสียงต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงย่านความถี่เสียงกลาง จะสร้างความประทับใจให้แก่คุณ ไม่ว่าจะเป็นเสียงนก เสียงปรบมือ เสียงนักร้อง เสียงพลิกแผ่นกระดาษโน้ต เสียงขยับเก้าอี้ เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ มิได้เป็นเพียงแค่เสียงนั้นๆ หากยังมีความอิ่มเอิบอย่างสมจริงจากอณูเสียงของมวลอากาศรายรอบ เฉกเช่นเดียวกับความนวลเนียนของเสียงนั่นก็ดีมากๆ ในความไหลลื่นกลมกลืนกัน มิได้เน้นความโดดเด่นที่ช่วงย่านความถี่ใดโดยเฉพาะ รับฟังแล้วเพลิดเพลินใจให้ความมีชีวิตชีวาในทุกสรรพเสียง ฟังได้ยาวนานติดต่อกันอย่างอิ่มเอมใจไม่รู้เบื่อ เสมือนถูกจูงเข้าไปอยู่ในอารมณ์ดนตรีที่กำลังรับฟังผ่านไปแผ่นแล้วแผ่นเล่ากระนั้น
สภาพบรรยากาศรายรอบ (Atmosphere) ของสถานที่แสดงดนตรี (Hall หรือ Arena) จะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างอบอวลเป็นระลอกคลื่นอากาศ ยิ่งฟังจะยิ่งติดใจในสภาพบรรยากาศของความเป็นอะนาลอกที่ RPP บ่งบอกความเป็นธรรมชาติของทุกสรรพเสียงออกมาจากแผ่นเสียงแผ่นโน้นแผ่นนี้ที่หยิบจับนำมาเปิดฟัง รับรู้-สัมผัสได้ถึงความอิ่มฉ่ำความมีตัวตนของเสียงต่างๆ ได้อย่างชื่นมื่นหัวใจ เสียงทุกเสียงมีอาณาบริเวณ ไม่ซ้อนทับบดบังกัน แม้ในช่วงดนตรีโหมประโคมสนั่น ทั้งยังแยกแยะเสียงสะท้อนที่ก้องกังวานย้อนกลับมาแผ่วๆ ของสภาพอะคูสติกได้แจ่มชัดมาก ราวนำพาตัวเราเข้าไปนั่งอยู่ในสถานที่นั้นๆ เทียวล่ะ
RPP สามารถทำให้เราได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียง ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะ ความฉับพลันทันใด รวมทั้งน้ำหนักเสียงอย่างที่คาดไม่ถึง ทั้งยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา สามารถจับตำแหน่งการแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ สารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถือเป็นรายละเอียดก็สดใส กระจ่างมาก รวมไปถึงทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ ได้อย่างแจ่มชัด
หลายต่อหลายแผ่นที่หยิบมาฟังให้ลักษณะมวลอากาศที่ห้อมล้อม อบอวล มีความกังวานก้อง และเสียงสะท้อน-บ่งบอกสภาพบรรยากาศของโถงการแสดงหรือสถานที่ใช้บันทึกเสียงได้ชัดเจนมาก สารพัดสารพันเสียงสอดแทรกต่างๆ ล้วนถูกบ่งบอกออกมาให้ได้ยินได้ฟังกันถนัดถนี่ รายละเอียดต่างๆ ก็ผุดโผล่ออกมาจากตรงนั้น-ตรงนี้-ตรงโน้นราวกับรายรอบตัวเรา มันจะแจ้งมากๆ และสดใสสะอาดสะอ้าน-สมจริง
RPP มิได้ถูกออกแบบมาให้เน้นที่ความชัดแจ้ง อย่างทะลุปรุโปร่ง จนเสียงแห้งผาก เพราะขาดมวลอากาศรายรอบ ในขณะที่ก็ให้จังหวะท่วงที (Pace & Time) ของเสียงที่รับฟัง ได้กระชับ กระฉับกระเฉง ฟังแล้วอิ่มเอิบใจ สบายอารมณ์ เป็นเสียงที่ให้ทั้งความผ่อนปรนและคึกคักอยู่ในที บทจะโหมกระหน่ำก็แผดสนั่นไม่อัดอั้น ในขณะที่เสียงเล็กๆ น้อยๆ แทรกซ้อนปลีกย่อยทั้งหลายก็ยังให้ออกมาได้อย่างมีตัวตน และลอยตัวเป็นอิสระ ไม่ห้วนทู่แข็งเกร็ง หรือจมตัวไปกับประดาเสียงที่ประโคมขึ้นมา แม้ในยามที่ชิ้นดนตรีประโคมคำรน แผดสนั่นประชันกัน พร้อมทั้งไดนามิกที่ลื่นไหลและฉับพลันทันใดอย่างไม่มีที่ติ …ฟังแล้วติดใจ ลืมไม่ลงเลยละครับ
แน่นอนครับ สำหรับ Phono Amp ระดับนี้ การรับฟังด้วยแผ่นไดเร็กต์-คัทจึงจะสมศักดิ์ศรี ผมจึงประเดิมด้วยแผ่น Pick up Test Record ของ Ortofon ในหน้า 2 ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงของวง The Tivoli Symphony Orchestra เอาแค่ว่าช่วงเริ่มต้นของแทร็กแรก RPP ก็สามารถเบิกโรงความสามารถในการสำแดงสภาพบรรยากาศอันอบอวลของสถานที่แสดง The Concert Hall of Copenhagen ได้อย่างประทับใจ เหมือนตัวเรากำลังเดินผ่านประตูเข้าไปสู่สถานที่นั้น ครั้นพอดนตรีเริ่มบรรเลง ไดนามิก-ความฉับพลันในเสียงดนตรีก็เริ่มพรั่งพรูออกมา พร้อมด้วยน้ำหนักเสียงของแต่ละชิ้นดนตรีที่ฟังดูสมจริง แม้แต่เสียงเพอร์คัสชันอันแผ่วเบา ที่ปรากฏอยู่ในวงเวทีเสียงชั้นหลังสุดอิมเมจที่ปรากฏช่างแจ่มชัดอยู่ต่อหน้า ไล่ระดับเป็นแถวชั้นตื้น-ลึก พร้อมด้วยอาณาบริเวณเสียงอันแผ่กว้าง …ตามต่อด้วย
ตามต่อด้วยแผ่น Orchestrations Astromantic โดยสังกัด RCA JAPAN (RDCE-6) ที่ต้องบอกว่าเป็น สุดยอดอลังการแห่งเสียงจากการรับฟังด้วย RPP เพราะให้บรรยากาศเสียงที่ช่างโอฬารมากๆ ความกระหึ่มกึกก้องของบทเพลงที่คุ้นหูจากเครื่องดนตรีกว่าร้อยชิ้น แผ่ไพศาลอยู่ต่อหน้า เครื่องดนตรีชิ้นนั้นชิ้นนี้ เรียงรายอยู่ตรงนั้นตรงนี้ในตำแหน่งเวทีเสียงที่ไล่ระดับความลึก-ตื้นอย่างชัดแจ้ง ต้องขอยืนยันครับว่า RPP สามารถทำให้เรารับรู้ได้ถึงมวลบรรยากาศที่โอบล้อมรอบตัวเราอย่างน่าทึ่ง มันชัดเจนยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผมเคยรับฟัง อีกทั้งในเรื่องของน้ำหนักเสียงที่ให้ความมีตัวมีตนของเสียง เปล่งออกมาจากตำแหน่งตรงนั้นตรงนี้จริงๆ
กับชุด Boling Point แผ่นไดเร็กต์-คัทชั้นเลิศของ Toshiba Pro-Use Series (LF-95009) ที่รวมเอาศิลปินและนักร้องชั้นยอดมารวมไว้ เฉพาะอย่างยิ่งเสียงของ Mari Nakamoto ในเพลง My Funny Valentine และ Misty ที่สุดแสนซาบซึ้ง ลึกลงไปถึงแหล่งเสียงจากลำคอของเธอ เสียงกลองชุดที่ให้ความตึงของหนังหน้ากล้อง เสียงฉาบที่ใสกังวาน กำลังแกว่งสั่นระรัว เสียงแซกโซโฟนที่บ่งบอกถึงแรงลมที่เป่าพ่นออกมา เสียงเบสยืนที่ดึ๋งดั๋งหนักแน่นราวมองเห็นการสั่นของสายเบส
Finesse หนึ่งในแผ่นไดเร็กต์-คัทเพียงไม่กี่อัลบั้มของ Nautilus Recordings (NR-22) ผลงานสุดแสนไพเราะของ John Klemmer ที่ให้คุณภาพเสียงดีมากๆ เสียงเพอร์คัสชันกรุ๊งกริ๊งกังวานจับใจ แม้แต่หางเสียงที่ค่อยๆ จางหายไปก็ช่างเป็นอะไรที่ธรรมชาติมากจริงๆ เสียงแซกโซโฟนที่ให้ความสมจริงด้วยมวลอากาศที่ถูกเป่าพ่นเป็นแรงลมพุ่งออกมา ชัดเจนขนาดที่ว่าได้ยินเสียงน้ำลายน้อยๆ เข้าไปขังอยู่ในลิ้นเสียงของแซกโซโฟน แม้กระทั่งเสียงหวดแซ่ลงไปบนฉาบอย่างฉับพลันก็เปล่งประกายออกมาสดใส ให้พลังไดนามิกแห่งเสียงจากแผ่น Direct-Cutting ได้ครบชัดมาก ยิ่งฟังยิ่งเพลินใจครับสำหรับอัลบั้มนี้เมื่อรับฟังผ่าน RPP
RPP จะทำให้คุณได้เข้าถึงห้วงอารมณ์เพลงที่รับฟังได้อย่างมีอรรถรสที่แตกต่างจากความคุ้นชินที่เคยได้รับ ทั้งในแง่ของมวลบรรยากาศรายรอบอันอบอวล รายะเอียดเสียงต่างๆ ที่ให้ความมีตัวตน รวมไปถึงเรื่องของความถูกต้องของ Timbre ในเสียงแต่ละเสียง การให้ความฉับพลันทันใดอันเปี่ยมในน้ำหนักเสียงอย่างสมจริง แม้แต่ช่วงปลายหางเสียงอันแผ่วเบา ความกังวานทอดยาว และพละพลิ้วราวอณูเสียงของปลายเสียงสูงๆ ที่เปิดโปร่งอย่างมากๆ ล้วนเป็นความน่าประทับใจที่ชักจูงให้เราหยิบจับแผ่นโน่นแผ่นนี้มาเปิดฟังต่อเนื่องกันไปอย่างเพลินใจ
Pavane Pour Une Infante Defunte หนึ่งในผลงานชั้นสุดยอดของคณะ L.A.4 ด้วยแผ่นไดเร็กต์-คัทของสังกัด East Wind Records (EW-10003) ถูก RPP บ่งบอกเส้นสายลวดลายทักษะการเล่นกีตาร์ของ Laurindo Almeida ได้อย่างรวดเร็ว ฉับไวน่าประทับใจ เสียงกลองชุดฝีมือของ Shelly Manne ก็ให้น้ำหนักและระบุตำแหน่งสูง-ต่ำของฉาบได้ชัดแจ้งมาก เสียงเบสยืนที่ร่ายลีลาระดับเทพโดย Ray Brown ก็ให้ความหนักแน่นสาแก่ใจ ราวเห็นเส้นสายกำลังสั่นแกว่งไกว เสียงแซกโซโฟนโดย Bud Shank ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ราวเห็นเป็นตัวเป็นตนกำลังโยกตัวโอนเอนตามท่วงทำนองเพลง
Direct from L.A. แผ่นไดเร็กต์-มาสเตอริ่ง ผลงานของ The Great Jazz Trio ในสังกัด East Wind Records (EW-10005) อีกเช่นกัน ทำเอาตัวเราจมกลืนเข้าไปในบรรยากาศลาตินผสมกลิ่นอายของบลูส์จนอดไม่ได้ที่จะกระดิกเท้าและดีดนิ้วมือตาม จนต้องหยิบเอาชุด I’m Old Fashioned อีกหนึ่งผลงานของวงนี้ (East Wind Records หมายเลขแผ่น EW-8037) ที่มี Sadao Watanabe ร่วมเป่าแซกฯ ด้วยมาฟังต่อเนื่องกัน RPP สามารถเปิดเผยรายละเอียดเสียงต่างๆ ในช่วงย่านเสียงกลางได้อย่างโดดเด่นมีชีวิตชีวา ได้ยินเสียงลมเป่าพ่นออกมาเบาๆ แจ่มชัด พร้อมด้วยสมรรถนะการแยกแยะตำแหน่งชิ้นดนตรี 3-4 ชิ้นได้เป็นอิสระ มีตำแหน่งแห่งที่แน่ชัด พร้อมกับความเปิดโปร่งของมวลบรรยากาศในสถานที่แสดง
The Three ผลงานชั้นสุดยอดของ Joe Sample, Ray Brown และ Shelly Manne ภายใต้แผ่นไดเร็กต์-คัทของสังกัด East Wind Records (EW-10001) เป็นอีกอัลบั้มที่ผมรับฟังอย่างปลื้มปิติในใจ เสียงที่ได้ฟังแผ่กว้างเป็นปริมณฑลอยู่ในเวทีเสียงที่ชัดเจน โปร่งกระจ่าง ให้พลังไดนามิกได้เด็ดขาด ฉับไวมาก ฟังแล้วนึกถึงอัลบั้ม MISTY ของสังกัดสามหนูตาบอด (TBM-30) ที่ถูกนำมาจัดทำใหม่ในวาระครบรอบ 25 ปีของอัลบั้มนี้โดย RTI …โอ้ว แม่เจ้า ไดนามิกแจ่มแจ๋วจริงๆ เลยครับ น้ำหนักเสียงก็ให้ความเป็นตัวเป็นตน อย่างกับกำลังมาบรรเลงเล่นให้เราฟังอยู่ตรงหน้า
RPP สามารถทำให้เราได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียง ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะ ความฉับพลันทันใด รวมทั้งน้ำหนักเสียงอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน ทั้งยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา สามารถจับตำแหน่งการแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ สารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถือเป็นรายละเอียดก็สดใส กระจ่างมาก และให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ อย่างแจ่มชัด
จังหวะท่วงทีของเสียงที่รับฟังจาก RPP กระชับ กระฉับกระเฉง ฟังแล้วอิ่มเอิบใจ สบายอารมณ์ เป็นเสียงที่ให้ทั้งความผ่อนปรนและคึกคักอยู่ในที บทจะโหมกระหน่ำก็แผดสนั่นไม่อัดอั้น ในขณะที่เสียงเล็กๆ น้อยๆ แทรกซ้อนปลีกย่อยทั้งหลายก็ยังให้ออกมาได้อย่างมีตัวตน และลอยตัวเป็นอิสระ ไม่ห้วนทู่แข็งเกร็ง หรือจมตัวไปกับประดาเสียงที่ประโคมขึ้นมา แม้ว่าจะแผดสนั่นแต่องศาความโปร่งใส มีช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรี และมวลบรรยากาศห้อมล้อมก็มิได้ลดลงเลย
พร้อมทั้งมิติเสียงที่รับรู้ได้ครบทั้งกว้าง-สูง-ลึก ขนาดที่ว่าห้องฟังนั้น ขยายใหญ่ขึ้นไปกว่าเดิมมาก สอดสัมพันธ์กับสเกลดนตรีที่รับฟัง กับแผ่นเสียงระบบ Direct-Cut หรือแผ่นประเภท Super-Cut สารพัดแผ่นที่นำมาเปิดฟัง รับรองว่า คุณจะต้องอุทาน …!! อย่างตื่นใจในความรู้สึก เพราะห้องฟังของคุณจะเสมือนว่า ด้านลึกที่ราวกับว่า ผนังหลังห้องล่องหนหายไป (ทะลุเลยผนังหลังห้องจริงๆ ออกไป) พร้อมทั้งไดนามิกที่ลื่นไหลและฉับพลันทันใด RPP ช่างเยี่ยมยอดจริงๆ ฟังแล้วติดใจ ลืมไม่ลงเลยละครับ
สรุปส่งท้าย
RPP เด่นมากจริงๆ ครับในแรงถีบ-ดีดตัวของเสียงความถี่ต่ำอย่างน่าทึ่ง ให้ทั้ง Punchy และ Impact ส่งพลังขับดันออกมาได้หนักแน่นซะใจมาก คุมจังหวะจะโคนได้แม่นยำ ฟังได้มันส์มากๆ ทั้งยังทิ้งทอดตัวลงไปได้ลึกล้ำ ต่อเนื่องไม่มีอ่อนแรง สุ้มเสียงโดยรวมก็เต็มอิ่ม มีเนื้อมีหนังมีชีวิตชีวา ให้ไดนามิก-ความไหลลื่นได้น่าประทับใจมาก ในขณะที่ปลายเสียงสูงๆ ก็ระยิบระยับ ส่งประกายพละพลิ้ว เสียงเปียโน เสียงกีตาร์ บรรดาเครื่องเป่า-เครื่องเคาะจังหวะทั้งหลายล้วนมีฮาร์โมนิกเสียงที่อิ่มฉ่ำ มีความสมจริงมาก
เมื่อฟังเพลงร้อง (Vocal) การออกอักขระเสียงก็กระจ่างชัดอย่างธรรมชาติ เสียงสอดแทรกต่างๆ ผุดโผล่ขึ้นมาอย่างฉับไว และให้ความมีตัวมีตน บ่งบอกได้ถนัดหูว่า ตรงไหนเป็นเสียงอะไร ทางด้านการแยกช่องสัญญาณ (Channel Separation) ก็กระจ่างชัด สด-สะอาด ให้สภาพเวทีเสียงที่เด็ดขาด ทั้งกว้าง-ลึก-สูงอย่างมีมิติครบถ้วน จนสามารถจำแนกได้เป็นชั้นๆ (Layered)
โดยส่วนตัว ผมขอเปรียบ ROKSAN RPP นี้เป็นดั่งเพชรเม็ดงามแห่งวงการ Phono Amplifier ที่มีราคาถือว่า “ไม่แรง” จนสุดโต่งเกินไป เมื่อเทียบกับสมรรถนะทางเสียงที่ได้รับออกมา ภายใต้รูปลักษณ์ตัวเครื่องที่ดูเรียบง่ายในสไตล์เฉพาะตัวของ ROKSAN ทว่าสามารถส่งมอบรายละเอียดต่างๆ ในเสียงเพลงและดนตรีที่รับฟังได้อย่างน่าพิศวง พร้อมด้วยพื้นฉากหลังของเสียงที่เงียบสนิท (Noise Floor ต่ำสุดๆ) รวมทั้งขนาดของเวทีเสียงและสเกลชิ้นดนตรีอันสมจริง โดยยังคงถนอมไว้ซึ่งไดนามิกในระดับเยี่ยมยอด พร้อมด้วยรายละเอียดระยิบระยับ… ประทับใจยิ่งนักชนิดเกินคาด เสียงต่างๆ ล้วนมีอิมแพ็ค (Impact) และความฉับพลัน รวมทั้งน้ำหนักแม้กับเสียงอันแผ่วเบาระดับละอองอณูเสียง มันเป็นความ “น่าทึ่ง” ชนิดที่จักกัดกินใจไปอีกนานเท่านาน หาก “มองข้าม” ปล่อยให้ RPP ผ่านเลยไป – ขอยืนยัน (อีกครั้ง) ว่า มันเยี่ยมยอดมากจริงๆ …!!
อุปกรณ์ร่วมใช้งาน : เครื่องเล่นแผ่นเสียง Clear Audio : Emotion; หัวเข็ม MC DENON : DL-103M; สเตพ-อัพ ทรานสฟอร์เมอร์ (SUT) ของ ALTEC/PEERLESS 4722 (หม้อเขียว); ปรีแอมป์ Luxman : C-5000A; เพาเวอร์แอมป์ USHER : R1.5; ลำโพง TANNOY : System 10 DMT II; สายสัญญาณ Van Damme และสายลำโพง SPC-650 ของ SAEC
อุปกรณ์อ้างอิง : XAV : EMX -9 (วางทับบน ROKSAN RPP และ USHER R1.5; Entreq : Ground Box รุ่น MinimUs Silver + Earth Cable รุ่น Silver; MagicBoxAudio : Lunar 1
ขอขอบคุณ บริษัท ไฮไฟ ทาวเวอร์ จำกัด โทร. 0-2881-7273-7 ที่เอื้อเฟื้อให้ ROKSAN RPP มาทดสอบในครั้งนี้
รูปลักษณ์ – 4 ดาว
สมรรถนะ – 4 ดาวครึ่ง
คุณภาพเสียง – 5 ดาว
โดยรวม – 5 ดาว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..