Julian Vereker (1945-2000) เป็นผู้ก่อตั้ง Naim Audio Ltd. ขึ้นมาในปี 1973 ณ เมือง Salisbury รัฐ Wiltshire ซึ่งโดยพื้นฐานนั้น Julian เป็นนักแข่งรถ,
ผู้ประกอบการ และวิศวกรที่เรียนรู้ด้วยตนเอง…ด้วยความหลงใหลในดนตรีอย่างลึกซึ้ง Julian ใช้เวลาว่างในการฟังเพลง และบันทึกเสียงการแสดงสดส่งให้เพื่อนๆ ได้ฟัง
Julian นั้นพบว่า การเล่นเพลงซึ่งได้บันทึกไว้ กลับมาฟังที่บ้านในซิสเต็มของเขา ให้เสียงที่ด้อยกว่าประสบการณ์ที่เขาได้รับฟังเสียงจริงอย่างที่ตัวเขาปรารถนาไว้เป็นอันมาก สืบเนื่องจากความไม่พอใจดังกล่าว…Julian จึงตัดสินใจออกแบบแอมปลิฟายเออร์ และลำโพงของตัวเอง โดยไม่สนใจภูมิปัญญาการออกแบบอันเป็นที่ยอมรับในยุคสมัยนั้น หากแต่มุ่งเน้นไปที่แง่มุมต่างๆ ของประสิทธิภาพที่ทำให้ดนตรีมีชีวิตชีวาซึ่งการออกแบบ ‘ปฐมบท’ เหล่านี้ได้วางรากฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ไฮ-ไฟที่โดดเด่นในเวลาต่อมา และนำพาให้ Naim Audio ได้รับรางวัลอันเป็นที่ยอมรับกันมากมาย
ความเป็น Naim “Nait”
…ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1983 หรือ 10 ปีหลังจากก่อตั้ง โดยที่ “Naim Nait” นั้นได้ถูกวางตัวอยู่ระหว่างแอมปลิฟายเออร์ระดับเริ่มต้น (Entry Level
Amplifiers) กับเครื่องแยกชิ้นปรี-เพาเวอร์ระดับไฮ-เอนด์ ด้วยนิยามความเรียบง่าย ผสานการใช้งานแสนง่ายดาย ช่วยให้ผู้ฟังสามารถเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียง เข้ากับระบบลำโพง แล้วเพลิดเพลินไปกับสไตล์เสียง Naim สุดคลาสสิก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ “Chrome Bumper Finish” และแชสซีเครื่องแบบ “Shoebox” ซึ่งยืนหยัดความเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไฮ-ไฟอันเป็นที่รู้จักมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งนี้ “Naim Nait” (ภายหลังเรียกขานกันในชื่อ Nait 1) นับเป็นอินทิเกรตแอมป์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะส่งมอบลักษณะเสียงที่ค่อนข้างแตกต่างจากอินทิเกรตแอมป์อื่นๆ ในยุคเดียวกัน จนกระทั่งเกิดกระแสเรียกขานว่า “ซูเปอร์อินทิเกรต” (Super Integrateds) นับเนื่องจาก “Naim Nait 1” (แรกออกจำหน่ายในปี 1983-1988) ทาง Naim Audio ก็ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nait ใหม่ล่าสุดออกจำหน่าย อันได้แก่ Supernait 3 และ Nait XS 3 ในอีกกว่า 36 ปีต่อมา ด้วยมุ่งหวังที่จะยกระดับชื่อเสียงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nait ในระดับตำนานให้ฟูเฟื่องขึ้นมาอีกครั้งในฐานะของ Legendary Range ซึ่งทั้ง Supernait 3 และ Nait XS 3 ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Nait รุ่นก่อนๆ ด้วยการปรับปรุงในแทบจะทุกส่วนอย่างครอบคลุม ซึ่งทั้งหมดนั้นเพื่อการนำเสนอคุณภาพเสียงที่รับฟังเป็นสำคัญ ซึ่งทั้ง Supernait 3 และ Nait XS มีการออกแบบภาคขยายสัญญาณหัวเข็ม MM แบบ คลาสสิก ด้วยความรักในไวนิล! ตามแบบฉบับของ Naim (Classic Naim Phono Stage) ที่สร้างขึ้นจากส่วนประกอบคุณภาพสูงเกรดออดิโอไฟล์ ส่งผลให้เป็นอินทิเกรต แอมปลิฟายเออร์ที่ให้เสียงดีที่สุดเท่าที่ Naim เคยผลิตมา
Nait 50 (2023)
สำหรับความเป็น Nait 50 นั้น ทาง Naim ได้จัดแยกออกมาเป็นโปรดักซ์จำเพาะสำหรับ 50 th Anniversary (1973- 2023) เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของ Naim ด้วยการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ทั้งยังผลิตจำนวนจำกัดเพียงแค่ 1,973 เครื่องเท่านั้น (เพื่อให้ตรงกับปีที่ Naim Audio Ltd. ได้ก่อตั้งขึ้น) โดยมีกำลังขับ 25 วัตต์ (RMS) ต่อแชนแนล (ทว่าสามารถพีดสูงสุดได้ถึง 225W นั่นเลยเชียวล่ะ) เปรียบเทียบกับ Nait 1 ที่สามารถจ่ายกำลังขับ 13W RMS
ต่อแชนแนลที่ 8 โอห์ม และ 19.5W RMS ต่อแชนแนลที่ 4 โอห์ม มีอินพุตรองรับแหล่งสัญญาณอะนาลอก 3 ช่อง รวมถึงช่องเสียบต่อโฟโนอินพุตสำหรับหัวเข็ม MM แบบ Discrete Transistor MM Phono Stage ทั้งนี้ “Nait 50″ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานพลัง, ประสิทธิภาพ และความอเนกประสงค์เข้าไว้ด้วยกัน “Nait 50” สามารถสร้างไดนามิกที่แม่นยำที่สุดด้วยความมั่นใจ รวมถึงกำลังขับอันทรงพลังที่จะได้รับจากแอมปลิฟายเออร์ของ Naim ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถขับขานได้กับลำโพงทุกประเภท เพื่อความรื่นรมย์ในการรับฟังระบบเสียงไฮ-ไฟระดับสุดยอด
“Nait 50” เปรียบได้กับงานฝีมือในเวิร์กช็อปของ Naim โดยได้ประโยชน์จากคุณภาพการออกแบบที่เหนือชั้น และนำเสนอสุนทรียภาพอันพิถีพิถัน แผงด้านหน้าเครื่องผสมผสานระหว่างประเพณี และความทันสมัย โดยคำนึงถึงหลักการออกแบบของ Nait 1 ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของ Naim ได้รับการออกแบบให้มีความร่วมสมัย และเหนือกาลเวลา (Timeless) การสร้างสรรค์ของ Naim ไม่สนใจการตกแต่งที่ไม่จำเป็นซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ และคุณภาพเสียง…นี่คือ สุดยอดประสบการณ์การรับฟังสำหรับคุณ
คุณลักษณ์ Nait 50
Naim ได้เปิดตัว Nait 50 สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงาน High End Munich 2023 ที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวเล็ดลอดว่า Naim กำลังซุ่มพัฒนา Classic Series โดยวางแผนจะนำรุ่นคลาสสิกบางรุ่นจากยุคผู้ก่อตั้ง ‘Julian Vereker’ กลับมาบนสายพานการผลิตอีกครั้ง พร้อมการตกแต่งที่รับกับยุคสมัย เพิ่มการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล และวิธีที่ตรงไปตรงมามากขึ้นในการยกระดับ-เพิ่มแหล่งจ่ายไฟ (Power Supplies)…ซึ่ง Nait 50 คือ ผลสำเร็จจากการพัฒนา Classic Series ยุคใหม่ โดยยืนหยัดกับรูปลักษณ์ของ Naim Nait รุ่นดั้งเดิม (Nait 1) Naim “Nait 50” ได้รับการอัปเดตอย่างมีนัยสำคัญ เฉกเช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ของ Classic Series-อย่างแรกเลย คือ กำลังขับ 25 วัตต์ต่อแชนเนลที่ 8 โอห์ม (40 วัตต์/ข้างที่ 4 โอห์ม) ซึ่งทำให้มีสมรรถนะรองรับกับระบบลำโพงได้หลากหลายมากกว่าดั้งเดิม อย่างที่ 2 ก็คือ การผนวกเพิ่มแอมปลิฟายเออร์อันยอดเยี่ยมสำหรับหูฟัง และอย่างที่ 3 คือ การมีอินพุตที่ระบุไว้สำหรับ “Stream” (ซึ่งดูเหมือนว่ามีไว้สำหรับรองรับกับสตรีมเมอร์ใหม่ของ Naim) แต่ที่โดดเด่นอยู่ที่การยังคงภาคโฟโนภายในไว้ สำหรับการขยายสัญญาณหัวเข็ม MM
…หากดูคร่าวๆ “Nait 50” จะมีลักษณะเหมือนกับ Nait 1 รุ่นดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่อสำรวจอย่างใกล้ชิดจะพบว่า ด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง ได้รับการปรับเป็นวัสดุอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์คุณภาพสูง รวมถึงปุ่มควบคุมสมดุลเสียง (Balance Control) ก็ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นช่องเสียบหูฟัง (Headphone Socket), ช่องเสียบอินพุต Tuner ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น Stream, ช่องเสียบอินพุต Tape ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น Aux รวมถึงดวงไฟ LED สีแดงแบบเดิม ก็ได้ปรับเปลี่ยนเป็นสีขาว ทั้งนี้เพื่อช่วยการหน่วงหนืดแรงสั่นสะเทือน (Vibration Damping) ตัวปุ่มปรับระดับความดังเสียง (Volume Knob) ของ “Nait 50 ” ยังถูกกลึงขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมตัน (Solid Aluminium) อีกด้วย ภายใน “Nait 50” ทาง Naim ได้ทุ่มเทความรู้และประสบการณ์อันกว้างขวางของผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในปัจจุบันของ Naim การเลือกอินพุตใช้การควบคุมแบบ Fly-By-Wire เพื่อลดความยาวเส้นทางสัญญาณลงอย่างมาก และภาคขยายสัญญาณ
สำหรับหูฟังที่ติดตั้งภายในตัว “Nait 50” ได้ถูกยกมาจากรุ่น NSC 222 ทั้งนี้ภาคขยายสัญญาณหัวเข็ม Phono MM นั้นเป็น All-New Exclusive Discrete Transistor ที่ออกแบบใหม่โดยให้เกียรติแก่ลายเซ็นเสียง (Sound Signature) ของ Nait 1 ในส่วนของภาคปรีแอมป์นั้นเป็นแบบ Class A Discrete Transitory
Stages ทำงานร่วมกับภาคเพาเวอร์แอมป์ คลาส AB แบบคลาสสิกเอกลักษณ์เฉพาะของ Naim ที่ผ่านการคัดสรรส่วนประกอบออดิโอไฟล์แบบ กำหนดเอง (Custom) มาอย่างดี การติดตั้งตัวควบคุมระดับความดังเสียง (Volume Control) ด้วยโพเทนชิโอมิเตอร์คุณภาพสูงของ ALPS จึงพูดอย่างเต็มปากเต็มคำได้ว่า
The Nait 50 is a true audiophile integrated amplifier. เบื้องหลังการออกแบบที่ทันสมัยของ Naim “Nait 50” เปรียบได้กับอินทิเกรตแอมป์ ‘กล่องใหญ่’ ซึ่งอัดแน่นรวมอยู่ในกล่องเล็ก สำหรับความเป็น Nait 50 ที่พร้อมส่งมอบคุณภาพเสียงชั้นสุดยอดให้แก่ผู้รับฟัง ส่วนแผงด้านหลังเครื่อง Naim Nait 50 ได้ติดตั้งช่องเสียบต่ออินพุต ซึ่งถูกถอดแบบมาจาก Naim Nait รุ่นดั้งเดิม (Nait 1) ดังนั้น Nait 50 จึงมีอินพุต RCA เพียงชุดเดียวเท่านั้นที่ติดตั้งมาให้ (ซึ่งมีไว้สำหรับภาคโฟโนแบบ MM) พร้อมขั้วเสียบต่อกราวนด์ (Ground) ในขณะที่อีก 2 อินพุตที่เหลือสำหรับ Stream และ Aux นั้นติดตั้งมาเป็นแบบขั้วต่อ DIN Jack-5 Pin
ตามแบบฉบับของ Naim Nait รุ่นดั้งเดิม (Nait 1) ซึ่งทาง Naim ไม่ได้จัดมอบสายต่อนี้มาให้ด้วย ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องซื้อสายสัญญาณแบบ DIN Jack-5 Pin ที่ปลายด้านหนึ่ง และปลายอีกด้านหนึ่งเป็น RCA Jack เพิ่มเติม (แต่สำหรับ Nait 2 อินพุตที่ติดตั้งมาให้นั้นเป็นแบบ RCA ทั้ง 3 ช่อง) นอกจากนี้ยังติดตั้งช่องเสียบสายลำโพงซ้าย-ขวาจำนวน 1 ชุด ที่เป็นแบบ Banana Socket ขนาด 4 มม. ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า ข้อกำหนดสำหรับกำลังขับตามที่ Naim ระบุไว้สำหรับ Naim “Nait” นั้น จะสูงกว่าธรรมดา นั่นเพราะว่า ภาคขยายเสียงของ Naim เป็นประเภทจ่ายกระแสสูง (High-Current) ดังนั้น Naim “Nait 50” จึงสามารถใช้ขับลำโพงได้มากกว่าที่คาดไว้จากรูปลักษณ์ แม้ว่าจะเป็นตัวเลขแค่เพียง 15-25 วัตต์ต่อแชนแนลก็ตาม “Nait 50” จึงสามารถใช้ขับกับลำโพงหลายหลากได้คุณภาพเสียงอันน่าทึ่ง!! ดังนั้นการที่ Nait 50 มีช่องเสียบหูฟัง แล้วถูกมองว่าเป็นแค่แอมป์หูฟังนั้น-ผิดประเด็น-อย่างแน่นอน แม้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว “Nait 50” จะสามารถทำหน้าที่แอมป์หูฟังชั้นยอดได้อย่างเต็มตัว แม้ว่า Naim Nait 50 ได้ถูกถอดแบบมาจาก Naim Nait รุ่นดั้งเดิม ทว่ามิติขนาดตัวเครื่อง มิได้เท่ากันเป๊ะนะครับ Nait 50 อยู่ที่ 20.7×8.7×32.1 ซม. น้ำหนัก 4.5 กก. (ในขณะที่มิติขนาดตัวเครื่องของ Nait 1 นั้นอยู่ที่ 20.5×7.6×27.6 ซม. น้ำหนัก 3.7 กก.)
Naim : Nait 50 + Zensonice: Zen for Naim Project
สืบเนื่องจากแผงด้านหลังเครื่อง Naim : Nait 50 นั้นได้ติดตั้งช่องเสียบต่ออินพุตแบบ RCA มาเพียงชุดเดียวเท่านั้น ซึ่งมีไว้สำหรับภาคโฟโนแบบ หัวเข็ม MM พร้อมขั้วเสียบต่อกราวนด์ (Ground) ในขณะที่อีก 2 อินพุตที่เหลือสำหรับ Stream และ Aux นั้นติดตั้งมาเป็นแบบขั้วต่อ DIN Jack-5 Pin (ตามแบบฉบับดั้งเดิมของ Naim) ดังนั้นผู้ใช้จึงต้องจัดหา หรือ จัดซื้อสายสัญญาณแบบ DIN Jack-5 Pin ที่ปลายด้านหนึ่ง และปลายอีกด้านหนึ่งเป็น RCA Jack มาใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องโดยบังเอิญที่ทาง “Zensonice” ก็ได้มีการผลิตสายสัญญาณแบบ DIN to RCA Jack ออกจำหน่ายสำหรับ FC ของ Naim เป็นการเฉพาะ (ภายใต้หมวดผลิตภัณฑ์ Zen for Naim Project)
ทั้งนี้ Naim : Nait 50 ได้เคยผ่านการฟังทดสอบของ What Hi-Fi? Thailand กันไปแล้วครั้งหนึ่ง (ซึ่งเป็นการฟังทดสอบจากแหล่งสัญญาณเครื่องเล่นแผ่นเสียงผ่านภาคโฟโนแบบหัวเข็ม MM) สำหรับการฟังทดสอบครั้งนี้ จึงขอเน้นไปที่การใช้ช่องเสียบต่ออินพุตแบบ DIN Jack-5 pin สำหรับรองรับอีก 2 อินพุต (Stream และ Aux) ของ Nait 50 โดยที่สายสัญญาณแบบ DIN to RCA Jack ของ “Zensonice” นี้ ถูกออกแบบมาเพื่อความเป็น Naim Nait อย่างเจาะจง (เนื่องเพราะ DIN Jack นั้นมีมาตรฐานความเป็น 5 pin) ซึ่งการฟังทดสอบของ What Hi-Fi? Thailand ครั้งนี้ จะเป็นการรับฟังจากแหล่งสัญญาณเครื่องเล่นซีดี เสียบต่อเข้าที่ช่องเสียบอินพุต Aux ของ Nait 50
คุณภาพการรับฟัง
…แน่นอนละครับ “Nait 50” ได้สร้างสัมผัส-รับรู้ถึง “การนำเสนอ” ที่ยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกว่า ได้ยินรายละเอียดมากขึ้นกว่าที่เคย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์จะดูเป็นแอมป์ตัวกระจ้อย ทว่าส่งมอบความเป็นดนตรีขั้นสุดยอดเหมาะมากๆ กับคอมิวสิก เลิฟเวอร์ โดยมีโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ ฟังสบายหูดีมากครับ ให้ความเพลิดเพลินใจได้ทั้งวัน “Nait 50” ให้เสียงที่ละเอียดอ่อน ละเมียดละไม ไร้ซึ่งความโฉ่งฉ่าง จัดจ้าน พร้อมด้วยเวทีเสียงที่ไล่ระดับความชัดลึก-ชัดตื้น ควบคู่อาณาบริเวณเสียงที่แผ่กว้าง และให้สเกลเสียงที่ไม่ใหญ่โตเกินจริง บ่งบอกความสูงของอิมเมจเสียงระดับตู้ลำโพงที่รับฟัง ในความเรียบง่ายของ Nait 50 มีความอเนกประสงค์แฝงอยู่ในตัว ใครๆ ในครอบครัวก็ใช้งานได้สบายๆ ด้วยความเพลิดเพลินใจ “Nait 50″ สามารถจับคู่กับลำโพงที่มีความไวปานกลางได้ลงตัว…”Nait 50” นับเป็นแอมป์ที่น่าทึ่งมาก เมื่อเทียบกับขนาดเล็กแค่กล่องรองเท้า!!
…โดยต้องขอบอกว่า “Nait 50” ซึ่งให้กำลังขับระบุไว้ 25 วัตต์ต่อแชนแนลนั้น จับคู่ขับขานกับลำโพงใหญ่ (ตั้งวางพื้น) ลำโพงเล็ก (วางขาตั้ง) หลากหลายรุ่นได้อย่างน่าพึงพอใจครับ ขอเพียงว่า ลำโพงที่ใช้จับคู่ร่วมกันมีความไวปานกลาง (ตั้งแต่ 88-89dB) การปรับเร่งโวลุ่มแค่เพียง 10-11 นาฬิกา ก็รับฟังได้ระดับความดังที่ดูจะเกินตัว บุคลิกเสียงของ “Nait 50” มีความปลอดโปร่ง สดใส และกระชับในท่วงท่า เพียบพร้อมด้วยความฉับไว ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงความเนียนนุ่ม ไร้ซึ่งความเกรี้ยวกราด จัดจ้า สากกร้านด้วยเช่นกัน เสียงทุกเสียงให้ความลอยตัว ไม่มีความอัดอั้น เค้นเครียด ช่วงย่านเสียงสูงสะอาด สดใส และทอดตัวไปยาวไกล รับรู้ได้ถึงมวลบรรยากาศที่อบอวลอยู่รอบๆ ชิ้นดนตรีได้ดีมาก รับฟังแล้วให้ความระรื่นโสตประสาท พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ทั้งยังให้ลักษณะน้ำเสียงที่ละมุนละไมเนียนนุ่ม มีน้ำนวลน่าฟัง ในขณะเดียวกันก็ให้รายละเอียดต่างๆ เปล่งปลั่ง แจ่มชัด รวมถึงน้ำหนักในทุกย่านเสียง…เป็นเสียงที่ให้ความสบายใจ น่าเคลิบเคลิ้ม
ฟังได้ต่อเนื่องยาวนานไม่ล้าหู ไม่รู้เบื่อหน่าย ทั้งยังช่วยให้คุณได้รับรู้อะไรต่อมิอะไรในสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยได้ฟัง แต่ “มิใช่เกินจริง” ! ในขณะที่ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง-แหลมนั้น ให้ความสดใส เปิดโปร่ง โล่งกระจ่าง สะอาดสะอ้านมากทีเดียว หางเสียงมีความกังวานและทอดตัวยาวไกลไม่หดสั้น ทั้งยังอบอุ่นมีมวลอากาศ
ให้ความเป็นตัวเป็นตนของสรรพเสียง ยิ่งเมื่อรับฟังจากเพลงร้อง (Vocal) เสมือนเปล่งออกมาจากปากอย่างมีลมหายใจ (Breathing) เข้าได้ถึงห้วงอารมณ์ของการขับร้อง พร้อมด้วยการออกเสียงอักขระชัดเจนมาก บ่งบอกรายละเอียดความแตกต่างกันของแต่ละบุคลิกเสียงนักร้องได้ดี มีการแยกแยะอาณาบริเวณเสียงของกลุ่มนักร้อง
กระทั่งเสียงนักร้องล้วนมีมวลมีน้ำหนักมีตัวตนของแต่ละคนๆไป ปราศจากความคลุมเครือ การบ่งบอกสภาพอิมเมจก็ดีมากๆ พร้อมด้วยวงเวทีเสียงที่สมจริง สเกลเสียงก็ไม่เกินจริง-เล็กเป็นเล็ก-ใหญ่เป็นใหญ่ เสียงเบสที่มีน้ำหนักให้แรงปะทะ กระชับ ฉับไว แม่นยำในช่วงจังหวะจะโคน กระทั่งให้การจำแนกแยกแยะลักษณะความต่างกันของเสียงเบสได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงช่วงย่านเสียงกลางตอนบนต่อเนื่องไปจนปลายสุดโต่งของเสียงสูงที่รับฟังได้นั้น ให้ความหวานใส นวลเนียน เปิดโปร่ง ลอยตัว หางเสียงกังวานทอดยาวไกลมีความไหลระรื่นเป็นละอองอณูเสียงอย่างน่าฟัง ในขณะที่การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการมั่วหรือสับสน ซ้อนทับกัน ความสดใสในน้ำเสียงที่ “Nait 50” ส่งมอบออกมาถือเป็น “จุดเร้า” ที่กระตุ้นห้วงอารมณ์การรับฟังให้รู้สึกเพลิดเพลินใจได้นานเท่านาน เรา-ท่านจะรับรู้ได้ถึงข้อมูลเสียงต่างๆ ที่เด่นชัด สะอาดสะอ้าน สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดเสียงต่างๆ แตกต่างจากที่เคยรับฟังจนคุ้นชินได้ดีทีเดียว
“Nait 50” ยังให้การรับรู้ได้ถึงเสียงที่สะท้อนย้อนกลับจากผนังห้องบันทึกเสียงกลายเป็นแอม เบียนต์ของบรรยากาศที่ให้สภาพอะคูสติคได้อย่างสมจริงสมจัง
ทั้งยังน่าประทับใจในการแยกแยะรายละเอียดที่แทรกซ้อนออกมาได้แจ่มชัด สัมผัสได้ถึงตำแหน่งแห่งที่ของเสียงนั้นๆ พร้อมทั้งปริมณฑลของเสียงแต่ละเสียงที่มีมวลอากาศแผ่กระจายรายรอบ-เสียงเครื่องเคาะจังหวะสารพัดอย่างเป็นเสียงที่ “ผุดโผล่” ขึ้นมาอย่างฉับไว กระทั่งเสียงแส้ที่กวาดไปบนผิวฉาบนั้น ทำเอาขนลุกเกรียวเลยทีเดียว “Nait 50” สามารถทำให้เรา-ท่านได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียงเพลงและดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะ ความฉับพลันทันใด รวมทั้งน้ำหนักเสียงอันน่าประทับใจ ทั้งยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา
สรุปส่งท้าย
ขอบอกว่า “Nait 50” ไม่ใช่แค่ของสะสม (Collector’s Item) เท่านั้น มันเป็นข้อพิสูจน์ให้เข้าถึงถึงซึ่งศิลปะแห่งเสียง ความสามารถในการผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบคลาสสิกเข้ากับฟังก์ชัน ร่วมสมัย อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และคุณสมบัติในตัวเองที่เป็นนวัตกรรมได้อย่างลงตัว ทำให้ “Nait 50” เป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ฟังเพลง ที่แสวงหาความลงตัวแห่งอดีตกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่เอื้อต่อการรับฟังในระดับไฮ-เอนด์ “Nait 50” ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และนับเป็นก้าวสำคัญอันยั่งยืน
ยืนยันอีกครั้งครับ สมรรถนะและคุณภาพเสียงของ Naim : Nait 50 มิได้เป็นเพียงแค่ระดับเริ่มต้น (Entry Level) ในความเป็นสเตริโอ อินติเกรตแอมป์ตัวน้อยของขนาดและรูปลักษณ์ “Nait 50” นั้นเต็มเปี่ยมในความเป็นเครื่องระดับออดิโอไฟล์ ถึงแม้จะดูบอบบาง (หนาไม่ถึง 10 ซม.) เล็กกระจ้อย (แค่กล่องรองเท้า)…การได้อุ้มเจ้าตัวเปี๊ยกนี้กลับบ้านถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ ไปอีกนานครับ เพราะ “NAIT 50” นับเป็นอินติเกรตแอมป์อันทรงคุณค่าที่ซ่อนรูป สมรรถนะระดับสูงสามารถขับขานระบบลำโพงขนาดใหญ่ได้อย่างเกินตัว (Dynaudio : Contour 1.8) แม้กระทั่งการใช้งานร่วมกับระบบลำโพงขนาดเล็ก (Rogers : LS3/5a) ก็พูดได้ว่า ไร้ความกังวลใจ…โดยอย่าไปยึดติดอยู่กับกำลังขับ 25 วัตต์ต่อแชนแนลที่ระบุไว้ครับ
Key Points
• Aesthetically styled on the original NAIT 1, released in 1983.
• Full linear integrated amplifier with 25W class AB power stage.
• High-end manufacturing in the United Kingdom.
• 3 input selection buttons. Locking switches control 3 relays for input selection. This input
selection has been significantly improved compared to Nait 1.
• Headphone output jack (6.35mm). This output uses a new preamp/headphone amplifier with a
gain of 16dB.
• Stand-by power 0.5W. Using two internal power supplies; one is a high quality audiophile
linear type, based on a large toroidal transformer. The other is a highly efficient SMPSU for
0.5W power consumption in standby during standby mode.
• Soft start power-up sequence, to minimise power- up inrush current.
• Automatic shutdown after 17 minutes. Auto-off can be disabled.
• New MM phono stage with discrete transistors, for improved sound performance.
• Aluminium construction using rectangular extrusion for a chrome bumper style.
• 5mm domed white LED power switch.
Product Type : Integrated Amplifier
Damping Factor Into 8 : 36
Input Signal For Clipping : Line : 88mv, Phono : 710mV
Peak current into 1 (1kHz 1mS) : Peak +/- 15 (Peak Power at 225W)
Audio Inputs : 1 × RCA Pair (47kΩ), in MM Phono Level 5mV, 2 × 5-Pin DIN (Stereo, 47kΩ),
Line Leve
Audio Inputs
MM Phono Input : 47kΩ and 100pF
Audio Outputs
Crosstalk : Line : 85dB, (at 1kHz, 25Watts 8Ω)
Phono : 80dB
THD + N : 0.015%
Headphone Output : 1.5Watts 16Ω
Physical
Weight : 9.9lbs (4.5kg)
Dimensions (H×W×D) : 33/8×81/8×125/8″ (8.7×20.7×32.1cm)
ขอขอบคุณ : CH Home Media Co.,Ltd. โทร.085 559 9225 ที่อนุเคราะห์
Naim : Niat 50 ในการรับฟังครั้งนี้