Test Report: NAD 3020D

0

Test Report: NAD 3020D

(สร้างประวัติศาสตร์…อีกครั้ง)

ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

 img

            40 กว่าปีมาแล้วที่ NAD วางตลาดอินทรีเกรทแอมป์ราคาชาวบ้านที่ให้เสียงระดับแบรนด์เนมดังสมัยนั้น “หนาว” นั่นคือ NAD 3020 ราคา 5-6 พันบาท แต่หาญต่อกรกับ ขาเก๋าในตลาดระดับ 2 หมื่น NAD 3020 ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วตลาด และสร้างชื่อ NAD ใช้โด่งดังทั้งโลกชั้วข้ามคืน

นับจากวันนั้น NAD 3020 มีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ ที่ดีขึ้นๆ แต่วันนี้ NAD ได้พลิกโฉมใหม่ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ NAD3020 ด้วยการเพิ่ม “D” ต่อท้ายอันหมายถึง ภาคขยายเสียงในระบบ Class D (ไม่ใช่ DIGITAL AMP แต่ก็ใกล้เคียง) รวมทั้งภาคจ่ายไฟแบบ switch-mode เทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างนี้ ทำให้ NAD สามารถย่อตัวเครื่องอินทรีเกรทแอมป์นี้เหลือแค่ประมาณครึ่งเดียวของหน้ากระดาษของนิตยสาร WHAT HI-FI? ที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้!

เนื่องจากทั้ง 2 เทคโนโลยี ให้ประสิทธิภาพสูงมาก ระดับเกือบ 80% (ภาค Class D) อีกทั้งร้อนน้อยมาก จึงไม่ต้องมีครีบระบายความร้อนใหญ่โต การใช้ภาคจ่ายไฟ switch mode ทำให้ไม่ต้องใช้หม้อแปลงไฟใหญ่ๆ (ใช้ตัวนิดเดียว)

ในอดีต คงจำกันได้ว่า NAD 3020 (ภาคจ่ายไฟ, LINEAR ปกติ, ภาคขยาย Class AB ปกติ) ให้ภาคเล่นจานเสียงมาด้วย (PHONO) แต่ในโลกปัจจุบันที่อะไรๆ ก็มาจากแหล่งรายการดิจิตอล NAD 3020D จึงให้คุณสามารถส่งเพลงในรูปดิจิตอล ผ่านคลื่นวิทยุในรูป Bluetooth สูตรใหม่สุด aptX ที่ให้สุ้มเสียงสดใส น่าฟังกว่าสูตรเดิมปกติแบบคนละเรื่องเลย

นอกจากนั้น NAD 3020D ยังมีภาคถอดสัญญาณดิจิตอลเป็นอะนาลอก หรือ DAC ในตัวเพื่อรับแหล่งรายการแบบดิจิตอล ผ่านระบบแสง OPTICAL (2 ชุด ชุดหนึ่งโดยตรง, อีกชุดเลือกเป็น OPTICAL 2 หรือรับเสียงอะนาลอก ผ่านหัวแจ๊คมินิ 3.5 มม. เช่นพวกเครื่องพกพา (ออกทางช่องหูฟังมาเข้า NAD 33020D) และยังมีช่องรับสัญญาณดิจิตอล อีก 1 ชุด (ได้ถึง 24 บิท/ 192 kHz) และช่องรับดิจิตอลแบบ USB TYPC-B เช่นจาก PC ภายนอก (ได้ถึง 24 บิท/ 96 kHz)

ช่องเสียบหูฟัง (มินิแจ๊ค 3.5 มม.) ด้านหน้า

ช่องรับสัญญาณปิด-เปิด (DC + 12 V.) จากภายนอก (TRIGGER IN)

สายไฟ AC ถอดได้ แต่หัวเป็น 3 ขา แบบเล็ก

ขั้วลำโพงแบบ bindinz post

รีโมทไร้สาย

มาตรฐาน RoHS ห่วงใยสิ่งแวดล้อม

Vollverst-rker-NAD-3020D-Innenleben-f960x960-ffffff-C-1c603007-97290964

สเปค

            กำลังขับต่อเนื่อง                                    30 W.RMS/ CH ที่ 8 โอห์ม

กำลังขับสวิง (IHF DYNAMIC)            65 W./CH ที่ 8 โอห์ม

105 W/CH ที่ 4 โอห์ม

105 W/CH ที่ 2 โอห์ม

105w/CH ที่ 2 โอห์ม

(แสดงว่า ไม่เลือกลำโพง)

อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงกวน (S/N)       มากกว่า 90 dB (A-wtd.)

การแยกสเตอริโอ                                         มากกว่า 75 dB (1 kHz)

มากกว่า 65 dB (10 kHz)

 

สัญญาณซ้าย, ขวา ผิดพลาดกัน                    +0.3 dB

ความถี่ตอบสนอง (20 Hz – 96 kMz)          -0.3 dB

ความเพี้ยน THD                                            ต่ำกว่า 0.005%

รับสัญญาณเข้าได้สูงสุด                                 5V.

ความเพี้ยน IMD (SMPTE)                          0.02%

IMD (CCIF)                                                 0.003%

กินไฟ                                                            ต่ำกว่า 0.5 W. (STAND BY)

ขนาดเครื่อง (กว้าง x สูง x ลึก)                    58 x 186 x 219 มม.

หนักสุทธิ 1.38 กิโลกรัม

ราคาขาย                                                      18,500 บาท

 

ผลการทดสอบ

จากเครื่องเล่น CD T+A 1260 R ต่ออกสายเสียง MADRIGAL (Z-GEL 2 (RCA) เข้า AUX 1 ของ NAD 3020D) ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (ตามทิศ) แยก 2 ชุดอิสระ เป็นไบ-ไวร์ เข้าลำโพง MONITOR AUDIO BR-5 (3 ทางวางพื้น ความไว 89 dB SPL/W/m) เอาหน้ากากออก หัวสายลำโพงเป็น WBT บานาน่าทั้ง 2 ด้าน ระวังมิให้สายลำโพงทั้ง 2 ชุด แตะต้องกัน เอียงลำโพง TOE IN ให้ได้ทั้งเสียง, มิติดีที่สุด

ที่ T+A มีการทำระบบระบายกระแส EDDY CURRENT ด้วย (ดีขึ้น 30%) สายไฟ AC ของ NAD 3020D ใช้ที่ให้มา (อยากเปลี่ยนแต่หัวเสียบใหญ่กว่าช่องรับที่ NAD) สายไฟ AC NAD ผ่านตัวแปลงกลมเป็นขาแบนของ DWONPRO (จะลดคุณภาพลงประมาณ 8% แต่ก็ดีกว่าหัวแปลงทั่วไปในตลาดมาก) แล้วเสียบผ่านกล่องกรองไฟ POWER STATION PHD ได้ฟังเช็คเฟสไฟให้ NAD ด้วย (มีผลพอควร) สายไฟ AC ของ T+A เอาจากของ Mark Levinson No.383 เต้าเสียบที่กำแพงเป็นฮับเบลสีส้ม (ที่เข้า PHD กรองไฟ) มีหัวเสียบกรองไฟ PHD2 อีก 2 ตัวที่แผงไฟก่อนเข้าห้องเสียง สายไฟ AC T+A ฟังทดสอบขั้วไฟเช่นกัน

ลำโพงซ้าย, ขวา ห่างกัน 2.2 เมตร ห่างจากจุดนั่งฟัง 3.6 เมตร ห้องฟังประมาณ ห้องฟังประมาณ 3.38 x 9 x 2.5 เมตร กำแพงมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX รุ่นสีขาว (เยอรมัน) พื้นปูพรม ของค่อนข้างเยอะไม่ก้อง มีผลึกอะมิทิสขนาด 3 ฝ่ามือ อยู่ด้านขวางของ T+A มีกล่อง HEALING CRYSTAL PACK ของ JUDY HALL วางในห้อง 4 กล่อง (กลางห้อง 1, รอบตัวเราด้านหลัง-ข้าง 3 กล่อง) ทุกกล่องหมุนจูนทิศทาง-เสียง

ขณะทดสอบไม่มีการใช้รีโมทใดๆ ไม่มีจอภาพ LCD/PLASMA, ไม่มี PC, โน้ตบุ๊ค, Tablet (iPad) ใดๆ, ไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือกล้องดิจิตอลใดๆ ไม่มีนาฬิกาไฟฟ้าใดๆ, ไม่มีรีโมทอื่นๆ, ไม่มี LAN/WIFI (นอกจากรั่วมาจากรายนอก 6 sopt) พัดลมแอร์ (LOW, 25 องศา C) ลงหลังลำโพง ระวังมิให้สายต่างๆ แตะต้องกันหรือตัวเองหรือพื้นห้อง (ยกลอยหมด) เนื่องจากหัวสายลำโพง, หัว RCA, ฯลฯ จะไม่เล็กนัก แต่ตัวเครื่อง NAD 3020 D เล็กมาก จึงค่อนข้างลำบากทีเดียวในการพยายามหลบการแตะกัน

nad-D3020-connectique

 

การใช้ DAC ใน NAD3020D

ต่อสาย COAXIAL ดิจิตอล (DREAM CATCHER ของ WIREWIZARD) (ย้อนทิศ) จาก T+A เข้า COAXIAL ของ NAD เพื่อใช้ DAC ใน NAD

เสียงที่ออกมาก็ไม่เลว ไม่แห้งไม่จัด แต่น้ำหนักเสียง ความอิ่มของช่วงเสียงต่ำ พลังโดยรวม การหลุดลอยออกมา สู้การฟังด้วย DAC ของ T+A เองไม่ได้ (ต่างกันถึง 40%) ก็อย่างว่า T+A ราคา 270,000 บาท DAC ก็ระดับเทพ ยังไง, ก็ได้เปรียบ DAC ใน NAD อยู่แล้ว ราคามันทิ้งกันลิบลับ ดังนั้น ในกาดรฟังทดสอบ NAD จึงขอฟังจากช่อง AUX1 เท่านั้น

ฟังจากหูฟัง

            ใช้หูฟัง SONY XBA-20 ซึ่งถือว่า มอนิเตอร์ได้ในระดับหนึ่งทีเดียว ขณะฟังก็เหมือนตอนฟัง CD ตัดปัญหากวนทุกรูปแบบออก (เอาสร้อยคอออก, โทรศัพท์, กล้องดิจิตอล, นาฬิกา, บัตรแม่เหล็กต่างๆ ออกหมด)

เสียงที่ได้เป็นกลางดีมาก ไม่มีการแต้มสีสัน เสียงสะอาดเกลี้ยงเกลา ทุ้มแน่น, ลึก ปลายแหลมสดใสได้ระดับ 20 kHz (ไม่สูงกว่านั้น) เสียงโดยรวมไม่แห้ง แต่ก็ไม่ขนาดกังวานพลิ้ว แปลกมากที่เสียงกังวานยังรู้สึกติดๆ อยู่ที่ชิ้นดนตรี ไม่ลับหายไปหลังเวที และบางครั้งเหมือนวูบวาบ (Pumping), เสียงทั้งหมดออกตื่นตัว แต่มีกลิ่นอายของการประนีประนอมไม่เร่งเร้าเกินไป ให้ความอ่อนแก่ของเสียงได้ดีไม่ส่ออาการอั้น, ตื้อ เสียงร้องแทบจะอยู่ตรงปากเราพอดี ชวนให้ปากขยับโดยไม่รู้ตัว ทุกเสียงชัดเจนดีมากแต่อาจไม่ขนาดตีแผ่ทุกขุมขน ทุกอากัปกิริยาเล็กๆ น้อย แบบหมอเปลือกล้อนจ้อน ให้มิติเสียงได้ดี แยกเป็นชิ้นๆ ตัวๆ ได้ดีมาก เวทีเสียงกว้างมาก ด้านลึกพอได้ มีความเป็นดนตรีสูง สรุปว่า เสียงหูฟังถือว่าดีมากๆ (85-90%)

เสียงจากการเล่น CD (เอาสายหูฟังออก) สภาพอื่นเหมือนเดิม

แผ่นระนาดเอก (ไทลำภู) เพลง 3 เสียงตีระนาดแยกแยะเป็นตัวๆ ได้ดียังไม่ขนาดเป็นเม็ดๆ ชัดเปะ แต่ก็ถือว่าโอเคดีผิดคาด เสียงฉิ่งพลิ้วสดมีรายละเอียดดี แจกแจงจังหวะจะโคนอากัปกิริยาการตีได้ดีอย่างนึกไม่ถึง เสียงกลองแขกมีน้ำหนักดี เสียงโดยรวมออกกลางๆ น่าฟังดีมากทีเดียว เสียงไม่แห้งมีชีวิตชีวาดีมาก ไม่มั่ว เพลง 4 ขึ้นต้นสงัดใช้ได้ เสียงระนาดเป็นเม็ดๆ ดี เสียงฉิ่งพลิ้วระริกสั่น เสียงฉับมีรายละเอียดไม่แจ๋นแบนกร้าว เสียงตีระนาดมีรายละเอียดดีแม้ช่วงตีแล้วลากไปบนรางระนาด เพลง 5 ขึ้นต้นสงัดพอๆ กับเพลง 4 (ปกติควรสงัดกว่า) เสียงตีระนาดยังไม่โฟกัสอย่างทุกที (เหมือนกับว่า ถ้าตีคีย์ต่ำลงมาหน่อยจะเป็นตัวตน เป็นเม็ดโฟกัสใช้ได้ ถ้าตีคีย์สูงแถวๆ 1 kHz จะวอกแวกไปหมด ไม่โฟกัส แต่ก็ให้รายละเอียด โทนเสียงที่ใช้ได้ เพลง 6 เสียงตีระนาดอยู่ลึกไปหลังเวที แยกเป็นโน้ตๆ ได้ดี แต่ไม่โฟกัสเท่าไร ความกังวานพอได้ไม่ถึงกับชุ่มฉ่ำ พูดง่ายๆ ฟัง “เสียง” ได้อารมณ์ดีมากทีเดียว อย่าไปเครียดกับมิติเสียงมากนักก็จะโอเคเลย เพลง 7 เสียงตื่นตัวดังขึ้นอีกนิด แต่โทนเสียงยังใกล้เคียงกับเพลงก่อนๆ นี้ (ปกติจะต่างกันชัดสักนิด) เพลง 8 เสียงกลองตะโพนอิ่มกังวานได้ไม่เลว อาจไม่หนักมหึมาแต่ก็ถือว่า พอเพียง เสียงตีตบหน้ากลองไล่จากขวาไปซ้ายทำได้ชัดเจนดี อาการที่เสียงหลุดลอยออกจากตู้ลำโพงทำได้พอควรแต่ยังไม่ขนาดแผ่ลอย อะร้าอร่าม (สเปคการแยกสเตอริโอแค่ปานกลาง) อย่างไรก็ตามโดยรวมๆ ให้น้ำหนักเสียงได้ดี เกินค่าสเปคที่ระบุแค่ 30 W./CH เพลง 9 ขึ้นต้นสงัดไม่เลว ตามด้วยเสียงตีรัวระนาดไล่จากซ้ายไปขวา ให้รายละเอียดดี ติดตามตำแหน่งได้ตลอด NAD 3020D ตอบสนองได้ฉับไว ตามจริงไม่มีอาการ ป้อแป้ เฉื่อย หรือ ฉับไวเกินไป เพลง 10 เสียงตีระนาดเอก, ระนาดทุ้ม ฟังคล้ายๆ กันไปหน่อย คือเป็นระนาดทุ้มไปหมดเหมือนกับว่ามีการ “เติม” เนื้อเสียงแถวๆ 60-80 Hz ลงไปเล็กน้อยเพื่อช่วยเพิ่มความอวบอ้วนของเสียงกลางต่ำไม่มากก็น้อย (คล้ายๆ เป็นบุคลิกประจำตัวของ NAD มาตลอด)

แผ่น RHYTHM BASKET, A Tasket, A Tisket, A Child’s ของ Brent Lewis เพลง 2 เสียงตีกลองหลอด (ท่อ) มีทรวดทรงพองามไม่ถึงกับแบน เสียงกังวานวิ่งไปหลังเวทีได้พองาม ไม่ถึงกับล้นหลาม ให้สูงต่ำได้ดี ตอบสนองฉับไวพองาม (ไม่รวดเร็วสุดๆ) ช่วงดนตรีโหมหลายๆ ชิ้น ก็ไม่มั่ว แยกแยะได้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แม้แต่ละเสียงยังไม่โฟกัสเปะๆ ชัดเจนเพลง 4 เสียงพายวักน้ำชัดเจนดี เสียงคลื่นยังขาดๆ หายๆ (ที่กระฉอกบนผิวน้ำ) แต่คลื่นก็เยอะดี หัวโน้ตถือว่าใช้ได้ทีเดียว เสียงกรุ้งกริ้งปลายแหลมยังออกห้วนไปหน่อย แต่ปลายแหลมก็ไม่ฟุ้งฝอยเบลอ แต่ยังมีเส้นสาย, ขอบเขต, โฟกัส พูดง่ายๆ เสียงโดยรวมอาจยังไม่ขนาดเที่ยงตรงสุดๆ แต่มันก็มีเอกรักษ์ และน่าฟัง, ฟังได้ดีเพลิดเพลินแน่นอน เพลง 5 เสียงรถจักรไอน้ำเปิดหวูดวิ่งมาต่ำไกล เสียงหวูดทำได้ค่อนข้างดี เสียงรัวระฆังติดตามได้ตลอด ตามด้วยเสียงตีกลองท่อซ้ายที, ขวาที ให้เสียงก้องของภายในตัวกลองได้ไม่เลว การสอดใส่อารมณ์ดี เพลง 6 เสียงไก่ขันอยู่ลึกไปหวังเวทีโฟกัสพอใช้ การตอกย้ำเสียงร้องของสัตว์ต่างๆ ทำได้ดี แถมจีบปากจีบคอร้องดีด้วย นาทีที่ 4 ของเพลงนี้ เสียงสัตว์มากันเป็นฝูง รอบตัวเราพอได้ เพลง 7 เสียงม้าวิ่งหอบมาแต่ไกล นับเสียงหอบได้ครบ 6 ครั้ง ตามด้วยเสียงตีกลองต่อวนรอบลำโพงซ้าย, ขวา สูงขึ้นๆ เหนือลำโพงได้ค่อนข้างดีทีเดียว แม้ไม่ขนาดถึงเพดานห้อง เพลง 10 เสียงตอนเข้าในฟาร์ม สารพัดเสียง ซึ่ง NAD ก็แยกแยะเสียงต่างๆ ได้ดีทีเดียว ไม่มีมั่ว ทุกเสียงเป็นพระเอกหมด เพลงนี้ฟังๆ ไปเสียงจะลอยสูงขึ้นๆ ถึงเพดานห้อง ซึ่ง NAD 3020 D ก็ทำได้ดี รวมทั้งการแจกแจงเสียงแหลมหลายรูปแบบได้อย่างเต็มไปด้วยรายาละเอียดอย่างน่าสนใจติดตามมากทีเดียว

แผ่น The Greatest Alto Fermale Vol.1 (Top Music) เสียงร้องเพลงจีนหวานๆ ของสุภาพสตรี เพลง 1 เสียงร้องที่มีรายละเอียดดี ตั้งใจร้องดี ฟังเพลิน อาจไม่ขนาดติดตามได้ทุกอากัปกิริยา เพลง 2 (อารีรัง) เสียงประสานชายหญิงแยกแยะใช้ได้ ตามด้วยเสียงตีกลองใหญ่ที่สมตัว ฟังรู้ว่ากลองมีขนาดใหญ่แน่ แต่เสียงไม่ขนาดมหึมา อิ่มอวบ หนักสะท้านห้อง มันไม่ขนาดนั้น แต่ก็ให้หน้ากลองที่ตึงใช้ได้เสียงต่ำลงลึกกระชับ NAD ทำได้ขนาดนี้ถือว่า เกินตัวอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว เพลง 3 เสียงร้องคล้ายเพลง 1 กับ 2 (ปกติจะชัด, โฟกัสขึ้น) เสียงกีตาร์โปร่งเป็นเส้นสายดี แต่ไม่ขนาดหวานโรแมนติก ดูจริงจังกว่าทุกที เพลง 4 เสียงกีตาร์โปร่งขึ้นต้นเป็นเส้นสายดี เสียงเดินดับเบิ้ลเบสกระชับลงลึก ทิ้งตัวลงพื้นห้องได้ไม่เลวเลย (กับขนาดของแอมป์แค่คืบxคืบกว่า!) เสียงร้องสอดใส่อารมณ์ได้ดี เสียงหีบเพลงชักหวาน ให้จังหวะจะโคนได้ดี เสียงเขย่าลูกกระพรวนเป็นเม็ดๆ พองาม เพลง 5 ขึ้นต้นเสียงกรุ้งกริ้งปลายแหลมทำได้ดีเสียงอากาศแตกตัวดี (AIRY) ออกสดพองาม ไม่ขนาดระยิบระยับเป็นประกาย (นั้นไม่ใช้สไตล์ NAD) เสียงเครื่องสายจีนทั้งดีด และสีหวานใช้ได้เลย เสียงร้องสอดใส่อารมณ์ได้ดี โดยรวมเสียงกังวานพอได้ ไม่ขนาดพลิ้วตลบอบอวล

img-3

สรุป

NAD 3020D เป็นอินทรีเกรทแอมป์ Class D ที่เล็กที่สุด และเสียงดีที่สุด เท่าที่ผมเคยฟังมา มันให้สเกลเสียงที่ใหญ่เกินตัวมาก ถ้าไม่ใช่เสียงทุ้มหนักมากๆ เราแทบจะลืมไปเลยว่า กำลังฟังเสียงจากแอมป์ขนาดแค่คืบ X คืบกว่า สูง 3 นิ้ว โอเคมันอาจไม่ให้ความอะร้าอร่ามของเวทีเสียงอย่างแอมป์ขนาดใหญ่ที่แพงกว่า 20 เท่า หรือพลังมหึมาสะท้านห้อง สะเทือนอก หรือเที่ยงตรงแบบไร้ตัวตน ที่แน่ๆ มันเป็นแอมป์ที่ฟังง่ายฟังยังไงก็ไพเราะ ชวนติดตาม

ถ้าเมื่ออดีต 40 ปี ที่แล้ว NAD สร้างปรากฏการณ์ ให้วงการสะเทือนกว่าขวัญถึงด้วย NAD 3020 (ที่เป็นตำนานไปแล้ว)

          วันนี้ประวัติศาสตร์จะ ซ้ำรอยอีกครั้งด้วย NAD 3020D!

            ขอขอบคุณ บริษัทโคไน้ซ์ อีเล็คโทรนิค จำกัด โทร.0-2276-9644 ที่เอื้อเฟื้อ NAD 3020D มาให้ทดสอบในครั้งนี้