Test Report: MS HD POWER Master Series Pro’s kit 8pk-611 w
(ความมหัศจรรย์…มีจริง)
ไมตรี ทรัพย์อเนกสันติ
เป็นที่ทราบกันอยู่ในหมู่นักเล่นเครื่องเสียงว่า สายไฟ AC เข้าเครื่อง มีผลต่อเสียงอย่างเหลือเชื่อ จึงมีการผลิต สายไฟ AC สำเร็จพร้อมหัวเสียบ ออกมาจำหน่ายอย่างค่อนข้างล้นหลาม มีราคาตั้งแต่ 3,000~300,000 บาท (ครับ สามแสนบาท !) บางท่านถึงกับ เอ่ยอ้างว่า มันมีผลกว่าสายลำโพงเสียอีก
สายไฟ AC สำเร็จรูปพวกนี้ ไว้เปลี่ยนกับสายไฟ AC ที่มากับเครื่อง (ที่ถอดสายไฟ AC เดิมออกได้) เกือบทั้งหมดของสายไฟ AC สำเร็จรูป (99.99%) ที่มีขายในท้องตลาด จะเป็นแบบหัว IEC (3 ขา) ด้านเสียบกับตัวเครื่อง และ 3 ขาด้านเสียบกำแพง ตามเครื่องเสียงทั่วไปจะเป็นระบบ IEC ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เครื่องเสียงประเภท ไฮ-ไฟ สำเร็จรูปตั้งโต๊ะ เช่น พวกมินิคอมโป, วิทยุกระเป๋าแบก, Docking ไว้เสียบเครื่องเล่นพกพา/ หรือโทรศัพท์มือถือ, PC, โน้ตบุ๊ค, เครื่องเล่น CD บลู-เรย์ DVD, เครื่องเล่นจานเสียง, ทีวี, ตู้ซับวูฟเฟอร์ ACTIVE ของชุด โฮมเธียเตอร์ ฯลฯ 90% ของเครื่องพวกนี้ที่ถอดสายไฟ ACได้ แต่หัวเสียบด้านตัวเครื่องจะเป็นเหมือนเลขแปด (2 รู) (8) ที่นอนเอียง ทางไฟฟ้าเรียกแบบ C7 ทำให้ไม่สามารถนำสายไฟ AC สำเร็จรูปที่หัวด้านเครื่องเป็น IEC 3 ขา มาเสียบได้ เป็นที่น่าแปลกใจและเสียดายว่า ทำไมไม่มีใครทำขาย
สาเหตุใหญ่ อาจเป็นเพราะพวกเขาคิดว่า มันเป็นเรื่องตลกรึเปล่าที่สายไฟ AC สำเร็จ (แบบ C7) มีราคาพอๆ หรืออาจแพงกว่า ตัวเครื่องเองเสียอีกบ้างก็คิดว่า เครื่องคุณภาพระดับ MASS เหล่านี้ ที่มักเน้นเรื่องราคาถูก จะเอาอะไรกันนักกันหนา ถึงเปลี่ยนสายไปก็คงไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ คนทั่วไปคงฟังไม่ออก
คิดอย่างนี้มันก็ถูก แต่ผมเชื่อว่า กับอุปกรณ์บางอย่างน่าจะคุ้มค่าที่จะเปลี่ยน ซึ่งเราจะได้เห็นต่อไป
ผมก็เฝ้ารอ จนวันนี้ บริษัท MS HD POWER ได้วางตลาดสายไฟ AC หัว C7/IEC รุ่น Master Series ซึ่งบริษัท KARP AUDIO เป็นผู้นำเข้า ผมจึงไม่รอช้า จัดการขอยืมมาทดสอบ เพื่อพิสูจน์ 2 ประการ คือ
- คุณภาพของตัวสายเอง
- สายไฟ AC ดีขนาดไฮเอนด์นี้ จะช่วยเครื่องได้ขนาดไหน
การทดสอบ
ผมไปขอลองที่โชว์รูม DENON/JBL ของบริษัท มหาจักรฯ ชั้น 3 สยามพารากอน โดยลองกับมินิคอมโป DENON CD-RECIEVER รุ่น RCD-M39 ซึ่งได้รางวัล 5 ดาวจากนิตยสารต่างประเทศ เป็นกล่องเดียวมีครบทุกอย่างทั้งเล่นแผ่น CD, CD MP3, ช่องเสียบ USB (Type – A), ภาครับวิทยุ AM/FM, ภาคขยายเสียงในตัว (น่าจะไม่เกิน 35 W.RMS/ ข้าง ที่ 8 โอห์ม) มาพร้อมลำโพงมินิ 2 ทาง พร้อมรีโมทไร้สาย ทางคุณกวี ผู้จัดการโชว์รูมก็บอกว่า รุ่นนี้เสียงดีขายดีด้วย เหมาะกับหูทองที่ไม่สนใจการเชื่อมต่อ NETWORK ใดๆ คือ เน้นเสียงบริสุทธิ์
ผมจึงจัดการยก RCD M39 พร้อมตู้ลำโพง ย้ายไปฟังที่ห้องเสียงชุดใหญ่ไฮเอนด์ด้านหลัง โดยไม่ได้เอาสายลำโพง (เส้นเล็กจิ๋ว) ที่แถมมากับลำโพงชุดนี้ออกยังคงเสียบอยู่ แต่คลี่สายที่พันๆ กันอยู่ให้อิสระไม่พันตัวเอง และเอาตู้ลำโพงมินินี้วางบนมุมด้านในของตู้ลำโพง JBL คู่มหึมา (ดูรูป) ตัวเครื่อง RCD M39 วางบนเครื่องเล่น CD DENON ตัวใหญ่ เปิดอยู่
ครั้งแรกฟัง (จากแผ่น CD) ด้วยสายไฟ AC เดิมที่มากับเครื่อง โดยไม่ลืมสลับหัวเสียบรูปเลข 8 หลังเครื่อง ว่าสลับอย่างไรให้เสียงดีกว่า ซึ่งลองสลับไปมา มีผลอย่างมาก (30%) สลับถูกเสียงหลุดลอยกว่า มีทรวดทรงกว่า น้ำหนักเสียงดีกว่า ชัดเจนกว่า ดังกว่า (เรียกเช็คเฟสไฟ) เฟสลำโพงน่าจะถูก (โอเค) สำหรับ CD แผ่นนั้น (คือ เสียงโฟกัส หลุดลอยออกมา มีตื้นลึกดี เรียกเช็ค Absolute phase ของแผ่น CD อัลบั้มนั้นๆ) เวลาทดสอบต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้อย่างมาก ผมเร่งดังพอควร (น่าจะสัก 35-36)
จากนั้นปิดเครื่อง ดึงสายไฟ AC ออก แทนด้วยสายไฟ MS HD POWER และไม่ลืมที่จะเปิดเครื่อง กดลิ้นชักใส่แผ่นออก กดปิดลิ้นชัก กด PLAY ฟัง แล้วปิดเครื่อง สลับขาหัวเสียบเลข 8 ของ MS HD POWER หลังเครื่องแล้วกดเปิดเครื่อง เก็บลิ้นชักใส่แผ่น กด PLAY ฟังเทียบว่าจะเลือกกรณีไหน เป็นการเช็คเฟสไฟ แบบตอนใช้สายมากับเครื่อง
สายไฟ AC MS HD ใหม่แกะกล่อง ผมจึงเปิดเล่นแผ่นไป 6 ชั่วโมงก่อนแต่แรก แล้วฟังเทียบกับสายไฟ AC ที่แถมมากับเครื่อง
สายไฟ MS HD ให้เสียงได้ดังกว่า 10-15% เสียงกระเด็นหลุดลอยออกมากว่า 15% เสียงมีรูปทรง รูปลักษณ์ โฟกัสกว่า 20% ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีดีกว่า 15% รายละเอียดดีกว่า 12% การกระแทกกระทั้นดีขึ้น 10% เสียงเกลี้ยงสะอาดขึ้น 10% เสียงสดมีชีวิตชีวาขึ้น 15% เวทีเสียงกว้างขึ้น 12% สูง ต่ำดีขึ้น 15% ด้านลึกดีขึ้น 15% บรรยากาศดีขึ้น 20% โดยสรุปรวมๆ ดีขึ้น 15-20% นี่ขนาดยังไม่ได้เปลี่ยนสายลำโพง ถ้าเปลี่ยนด้วยผมเชื่อว่า น่าจะดีขึ้นได้ 30-40%
เอาว่าดีขึ้น 15-20% ก็มากพอที่คุณจะไม่อยากกลับไปฟังสายไฟเก่าแล้ว ผมได้ลองฟังกับ CD อีก 2 แผ่น (แผ่นก๊อปปี้ของจีน) จับประเด็นได้ว่า สายไฟ AC MS HD มีแต่ทำให้ “ทุกอย่าง” ดีขึ้น ไม่ว่า น้ำหนักเสียง, สุ้มเสียง, รายละเอียด, มิติเสียง (ตัวตน 3D), เวทีเสียง โดยไม่มีการแต้มสีสันใดๆ (ชอบที่ตรงนี้) ไม่มีอะไรบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน เสียหาย (สบายใจได้) เรียกว่า ใครได้ฟังจะกำลังนึกว่าเปิดชุดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า (โดยไม่เปิดดังมากๆ) เวทีเสียงดีทั้งด้านลึกไปหลังเวที และหลุดลอยออกมาหาเรา หรือหลายเพลง ขนาด แผ่กว้างโอบมาด้านหลังเราได้ด้วย เสียงออกทางสด เต็มไปด้วยรายละเอียด หัวโน้ตชัด ผ่อนคลาย สอดใส่อารมณ์ได้ดีมากไม่ว่าเสียงดนตรี, เสียงร้อง, ได้ดีทั้งเพลงร้อง, เพลงแจ๊ส, เพลงป๊อป, คลาสสิก ยอมรับว่า DENON RCD-M39 ชุดนี้เหลือกินจริงๆ ชุดแยกชิ้นเหงื่อตกก็แล้วกัน น่าเล่นมากๆ ครับ (ชุดนี้ โปรโมชั่นที่ 19,900 บาท) สายไฟ AC MS HD (หัว C7) นี้ 5,600 บาท (ใช้ของดี, วัสดุเยี่ยมทั้งหมด ไม่ว่าชุบทอง, ชุบเงิน, พาราเดี่ยม ฯลฯ) เกรดระดับสายไฟ AC หัว IEC หมืนกว่าบาทขึ้นไปเลย
ข้อเสียของสายไฟ AC MS HD นี้คือ ตัวหัวเสียบ C7 กระเปาะด้านหลังใหญ่โตพอๆ กับหัวเสียบ IEC กันเลย (คงเพื่อรับกับสายไฟที่มีขนาดใหญ่เท่านิ้วก้อย!) ทำให้เวลาเสียบกับเครื่องเสียงจะมีปัญหา ถ้าไม่ใช่การเสียบตรงๆ เข้าไป เช่นการเสียบแนบกับตัวเครื่อง (อย่างทีวี LCD SAMSUNG ที่โชว์รูมมหาจักรฯ นี้ เสียบไม่ได้เลย)
พร้อมๆ กับทดสอบสาย AC นี้ ผมมีของดี มหัศจรรย์อีกชิ้นมาทดสอบด้วย คือ สายพันข้อมือลดไฟฟ้าสถิต WRIST STRAP ของ Pro’s kit ชื่อรุ่น 8PK-611W
ปกติ เวลาซ่อมเครื่องที่มี IC เยอะๆ หรือโรงงานผลิตชิป IC นอกจากโต๊ะทำงาน, พื้นที่นั่งทำงาน เขาจะมีระบบป้องกันหรือสลายประจุไฟฟ้าสถิตที่เกิดที่ตัวเรา ให้ลงดินแล้ว บางทีจะมีระบบสายแตะกับตัวเราระบายลงดินอีกทีด้วย ไฟฟ้าสถิตพวกนี้แม้จะน้อยนิดมาก แต่ก็มากพอที่จะทำลายชิป IC ที่อ่อนไหวอย่างยิ่งยวด
เป็นที่ทราบกันมานับพันๆ ปีแล้วว่า ร่างกายมนุษย์มีประจุไฟฟ้าสถิต เกิดความต่างศักย์ ระหว่างฝ่าเท้าและศีรษะได้ถึง 320 โวล์ททีเดียว และมีผลต่อสุขภาพเราอย่างมาก จึงมีคำแนะนำให้พยายามหาโอกาสถอดรองเท้าเดินบนหญ้า บนพื้นดิน และเอามือกอดต้นไม้ด้วย จะช่วยให้สุขภาพดี จิตปลอดโปร่ง ซึ่งผมเคยลองกับเครื่องเสียงพกพา MP3 และหูฟังโดย นั่งบนพื้นหญ้า/ ดิน ฟัง สุ้มเสียงดีขึ้น 25% มิติ, ทรวดทรง, โฟกัสดีขึ้น 30%
ผมเองก็อยากทำระบบ ระบายประจุไฟฟ้าตัวเราลงดิน (ใช้สายดินแยกต่างหาก ไม่เกี่ยวกับสายดินของชุดไฟบ้าน) ไว้ทำเสร็จแล้วจะรายงานผลให้ทราบครับ
พอมาเจอสายรัดข้อมือดังกล่าวที่ให้มา 2 ชุด ชุดหนึ่งแบบลากสายลงดินจริงๆ กับอีกชุดแบบลอยตัว ไม่ต้องลากลงดิน (ชุดที่ทดสอบ)
ชุดไม่ต้องลงดินจะประกอบด้วยสายรัด (เหมือนชุดลงดิน) แต่จะมีกระป๋องเหลี่ยมกลมแบนมาติดด้านบนอีกที (แป๊กกระดุม) ซึ่งน่าจะเป็นตัวดูดหรือสลายประจุไฟฟ้าสถิต Pro’s kit ชุดนี้ (8PK-611W) ราคา 368 บาท ผมซื้อที่บริษัท นัฐพงษ์ (NPE) ที่บ้านหม้อ ริมคลองหลอด
ผลการทดสอบ
ผมลองสวมชุดรัดดังกล่าวที่ข้อมือขวา รอสักพัก (10 วินาที) แล้วกด รีโมท ไร้สายของชุด DENON RCD M-39 ข้างต้นที่ทดสอบสายไฟ AC ของ MS HD (ที่เสียบอยู่) ปรากฏว่า ฟ้าเทียบกับ ตอนกดเล่น ด้วยรีโมท เช่นกัน แต่ไม่มีสายรัดระบายไฟฟ้าสถิต ปรากฏว่า สายรัด ช่วยให้มิติเสียงหลุดลอย โฟกัส เป็นมิติ 3 มิติดีขึ้น 15% เสียงทั้งหมด หลุดลอย กระเด็น เป็นอิสระ ตื่นตัวขึ้น 15% เวทีเสียง แผ่โอบขึ้น 10% เรียกว่า คุณกวี ที่นั่งฟังด้วยกันตกใจเลยกับผลแตกต่างที่ได้ บางครั้ง บางเพลง มันดีขึ้นแบบว่า กลับไปฟังเดิมๆ ไม่ได้เลย
(หมายเหตุ) ได้ลองกดใช้รีโมท แบบห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกกับเอาถุงออก ก็ต่างกัน 8% เอาถุงออก เสียงเปิดโปร่ง, สด, ไดนามิกดีขึ้น เวลาทดสอบจึงเอาถุงใส่ออก
นอกจากลองที่โชว์รูมมหาจักรฯ แล้ว ก่อนหน้า 1 วันผมได้ลองกับชุด เครื่องเสียงที่บ้านเช่นกัน กับสายรัดสลายประจุไฟฟ้าสถิต โดยชุดประกอบด้วย เครื่องเล่นบลู-เรย์ OPPO BDP 105, อินทีเกรทแอมป์ MOON 25oi (SIM AUDIO), ลำโพง KEF LS 50, ขาตั้ง TARGET 24 HJ, สายเสียง MADRIGAL CZ-GEL 2, สายลำโพง FURUKAWA S-2, จอ LCD TOSHIBA FULL HD ผมคงไม่บอกข้อปลีกย่อยอื่นๆ คุณหาอ่านได้ในรายงานทดสอบ KEF LS 50 ของผม
ปรากฏว่า นั่นขนาดชุดที่ผมจูน, set, ระดับเทพสุดๆ ยังฟังออกชัดว่าทุกอย่างดีขึ้น โฟกัสขึ้น ชัดเจนขึ้นถึง 25% เป็นอย่างน้อย เรียกว่า กลับไปฟังเดิมๆ ไม่ได้ก็แล้วกัน แถมภาพดีขึ้นคือ บริเวณที่สว่างก็สว่างยิ่งขึ้น ภาพคมชัดขึ้น (ถ้าแผ่นภาพนั้นดีจริง) สีอิ่มฉ่ำขึ้น
สรุป คือ แนวคิดเรื่อง ระบายประจุไฟฟ้าสถิตของตัวเรา ได้ผลดีขึ้นจริงๆ ทำให้ผมเกิดความโลภว่า ถ้าเราใช้ 2 ห่วง, 3 ห่วง, 4 ห่วงล่ะ (2 ข้อมือ, 2 ข้อเท้า) ไว้ได้ผลประการใด ผมจะรายงานให้ทราบ
อีกอย่าง คือ ผมเชื่อว่า มันทำให้สุขภาพร่างกายเราดีขึ้นด้วยแน่ๆ โดยเฉพาะท่านที่ชอบใช้ มือถือ, iPad, PC, โน้ตบุ๊ค น่าคิดนะครับ
บทส่งท้าย
อีก 1 อาทิตย์ต่อมา ผมวิ่งไปบริษัท นัฐพงษ์ (NPE) ไปซื้อ สายรัดสลายปรุง Pro’s kit เพิ่มอีก 3 ชุด เพื่อมาทดสอบแบบสุดๆ ให้หายบ้าไปเลย
สายรัดที่ข้อมือซ้าย1, ขวา 1
สายรัดที่ข้อเท้าซ้าย1, ขวา 1
ผมกลับไปดูหนังเรื่อง LUCY (แผ่น Blu-ray แท้ ร่องเสียงพากย์ไทย) สิ่งที่ได้ซึ่งดีกว่า ตอนใช้สายรัดข้อมือซ้าย 1 เส้น ได้แก่
- เสียงดังขึ้น เดิมเร่งที่รีโมท OPPO 105 ที่ 92 ก็เหลือ 87
- เผยความซับซ้อนของแต่ละเสียงได้ทะลุปรุโปร่งขึ้น ฟังออกว่า ไม่ใช่เสียงเดียวโน้ตตัวเดียว แต่มีเสียงอื่นแทรกอยู่ เช่น เสียงกังวานของสายโลหะ เสียงดีดกระทบ ฯลฯ
- เสียงพูดสอดใส่อารมณ์แบบ เน้น มากขึ้น ทำให้ดูได้อารมณ์ขึ้นมาก
- เสียงทั้งหมดฉับไวสมจริงยิ่งขึ้น เพิ่มความตื่นตัว อยู่ในเหตุการณ์
- น้ำหนักเสียงดีขึ้น คือ ไดนามิก กว้างขึ้น อะไรที่ค่อยมากๆ ก็ยังได้ยินอยู่ อะไรที่ดังก็ดังแบบอิสระ ไร้การตื้อมากขึ้น
- มิติเสียงมีทรวดทรง 3D และโฟกัสขึ้น
- เวทีเสียงโดยรวมลอยตัวสูงขึ้น เปิดกว้างโอ่อ่าขึ้น
- เสียงกังวานชัดขึ้น รู้สึกถึงความเป็นห้อง (Space) มากขึ้น
- การแยกหน้า-หลัง ชัดยิ่งขึ้น
ทั้งหมดดีขึ้นแบบน่าตกใจ รู้สึกรับรู้ได้โดยไม่จำเป็นต้อง A-B TEST เลย มันฟังเหมือน “คนละชุด” ยิ่งที่เทียบกับการไม่มีสายรัดเลย ยิ่งคนละม้วนเลยเรียกว่าผมฟังแล้วถึงกับ “อึ้ง” การอินทีเกรทแอมป์ MOON250i ราคา 89,000 บาท ตอนนี้เหมือนกลับไปฟัง อินทีเกรทแอมป์ GAMUT Di150 (480,000 บาท) ที่ผมยกนิ้วให้อยู่ในใจผม!
ไม่น่าเชื่อว่า ตัวของเรา จะมีผลมากมายขนาดนี้ ยิ่งเกิดคำถามมากขึ้นไปอีกกับการทดสอบเครื่องเสียงว่า ทดสอบโดย “ใคร” (ตัวเขามีความอ่อนไหว หรือดึงดูดไฟฟ้าสถิตมากน้อยขนาดไหน) สภาพอากาศในห้องฟังมีผลต่อไฟฟ้าสถิตมากแค่ไหน คงเหมือนแฟนคลับที่ e-mail มาหาผมและให้ข้อคิดเกี่ยวกับ “ฝุ่น” ต่อเครื่องเสียง เป็นไปได้ว่า “ฝุ่น” สัมพันธ์กับความเหนี่ยวนำ อ่อนไหว ต่อ “ไฟฟ้าสถิต” ของเครื่องเสียงขณะนั้น (ปัดฝุ่นออกแล้วเสียงดีขึ้น)
ร่างกายมนุษย์ เป็นดุจตัวกำเนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าดั่งหม้อแปลงไฟ ที่จะส่งสนามพลังแผ่ออกไปรอบตัว เรียกว่า ออร่า (AURA) ซึ่งสามารถถ่ายรูปให้เห็นได้ มีสีสัน รูปทรงการแผ่ แตกต่างไปแล้ว แต่สุขภาพ, สภาพอวัยวะร่างกาย, จิตใจ ผู้มีจิตพิเศษสามารถมองเห็นออร่านี้ได้ (เพื่อนผมเอง)
เป็นไปได้ว่า สายรัด ดังกล่าว อาจมีผลต่อ ออร่า เช่นกัน แล้วไปมีผลต่อเสียงอีกที
ในด้านภาพ เมื่อใช้ 4 สายรัด ผมว่า ภาพสด, สว่างขึ้น มีพลังการเปล่งปลั่งดีขึ้น คมชัดขึ้น (เล็กน้อย) บริเวณที่สว่างมากก็สว่างยิ่งขึ้น (DYNAMIC CONTRAST ดีขึ้น) บริเวณมืด ก็ดำสนิทขึ้น พูดง่ายๆ ภาพมีเสน่ห์ น่าดู น่าสนใจขึ้น เสียงจาก CD ผมลองแผ่น WOOD ของ Briant Broomberg ปรากฏว่า เร่งน้อยลงพอควร เสียงสด เหมือนไปนั่งฟังของจริงพูดง่ายๆ เหมือนฟังชุดใหญ่ ลำโพง 12 นิ้ววางพื้น เล่นเอาผมพูดไม่ออกเลย ดีที่สุดตั้งแต่ฟังแผ่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
พูดไม่ออกเลย ดีที่สุด ตั้งแต่ฟัง แผ่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนกับแผ่น The Greatest Alto Female Vol. (Top Music) เพลงที่ 2 อารีรัง เสียงตีกลองใหญ่ พอๆ กับลำโพง 15 นิ้วได้เลย เข้มข้น หนักแน่น กระชับ ทิ้งตัวลง ไม่มีพร่า ไม่มีเบลอใดๆ เลย เสียงร้องก็สอดใส่อารมณ์ยิ่งขึ้น
พูดง่ายๆ ใครได้มาฟังจะไม่ลังเลเลยที่จะหอบลำโพง KEF LS 50 ที่ใหญ่เท่าลูกหมาตัวหนึ่ง กลับไปฟังที่บ้าน อย่างไม่เสียดายเงิน 50,000 บาทกับลำโพงคู่นี้เลย!
หมายเหตุ นั่งฟังเพลงด้วยกัน คนที่ไม่ได้ใส่วงแหวนน่าจะไม่ได้รับอานิสงส์ เสียงน่าจะไม่ดีขึ้น ถ้าจะดีขึ้นก็แต่การที่คนที่ใช้กดรีโมทหรือเดินไปหมุนโวลลุ่ม, กดปุ่มที่เครื่องแล้วเสียงดีขึ้น คือ ได้ทางอ้อม ไม่ได้โดยตรง
ขอขอบคุณ บริษัท การ์ป ออดิโอ จำกัด โทร. 0-2716-7852 ที่เอื้อเฟื้อสายมาให้ทดสอบในครั้งนี้