What HI-FI? Thailand

Test Report: LA AUDIO A-50

Test Report: LA AUDIO A-50

INTEGRATED TUBE AMPLIFIER

หัสคุณ

 

            LA AUDIO หลายคนที่เห็นชื่อนี้อาจจะเข้าใจว่า LA AUDIO น่าจะเป็นแอมปลิไฟเออร์สัญชาติอเมริกัน เพราะคำย่อว่า LA อาจจะหมายถึง Los Angeles บ้างก็ว่าชื่อคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับแอมปลิไฟเออร์ที่ใช้ในรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งก็เป็นได้ แต่จริงๆ แล้ว LA AUDIO มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก ผู้ก่อตั้ง LA AUDIO ขึ้นมาก็คือ Mr.Lennart Andersen ที่มาของชื่อ LA AUDIO จึงมาจากอักษรตัวแรกของชื่อ และนามสกุล นำมารวมกันเป็นชื่อของบริษัท ตัวของ Lennart Andersen เองก็มีประสบการณ์ และผ่านงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงมาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปี ก่อนที่จะมาเริ่มตั้งบริษัท LA AUDIO ของเขาเองขึ้นมา

ในช่วงที่เขายังทำงานทางด้าน R&D (Research And Development) อยู่นั้น ตัวของ Lennart Andersen จะให้ความสำคัญและสนใจกับเพาเวอร์แอมป์หลอดเป็นพิเศษ โดยเขาจะมุ่งเน้นที่งานออกแบบวงจรเพื่อถ่ายทอดคุณภาพเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าจะให้ความสนใจในการเน้นถึงวงจรที่มีความแปลก และพิสดารรวมถึงข้อมูลทางเทคนิคที่ฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่ผลที่ได้อาจจะไม่ดีจริงอย่างที่เข้าใจกัน ปรัชญาของ LA AUDIO จึงมุ่งเน้นแต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นงานฝีมือ ที่มีคุณภาพสูงสำหรับนักเล่นเครื่องเสียงหลอดอย่างแท้จริง มิได้มุ่งเน้นงานการผลิตที่มีจำนวนมากแบบ Mass Product สำหรับผู้ใช้โดยทั่วไป

ผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของ LA AUDIO ในขณะนั้นจึงถูกประกอบขึ้นด้วยมือแบบ Handmade เพาเวอร์แอมป์ที่ผลิตขึ้นจะเป็นเพาเวอร์แอมป์แบบโมโนบล็อก เพาเวอร์แอมป์ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงคือรุ่น P-1, P-33 จนถึงรุ่นใหญ่ที่ดูหรูหราอย่าง P-66

            ชื่อเสียงของ LA AUDIO ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของคุณภาพก็คือการออกแบบวงจรแบบ Hand Wire ทาง LA AUDIO ได้ยึดหลักในการพัฒนาตามที่กล่าวมาเป็นเวลานานหลายปี ต่อมาภายหลังได้คิดค้นและออกแบบหม้อแปลงเอาท์พุททรานสฟอร์เมอร์ชั้นเยี่ยมขึ้นมาเอง

ในวงการแอมปลิไฟเออร์หลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตที่มีความชำนาญมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงนักเล่นที่ชอบประกอบแอมป์ขึ้นมาเล่นเองแบบ DIY จะทราบว่าแอมป์หลอดนั้นมีส่วนประกอบที่ไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับแอมป์แบบทรานซิสเตอร์ แต่ชิ้นส่วนที่ไม่มากนักนั้นกลับมีส่วนสำคัญต่อคุณภาพเสียงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับหม้อแปลงเอาท์พุททรานสฟอร์เมอร์ ซึ่งนอกจากส่งผลต่อคุณภาพเสียงแล้ว ยังมีผลต่อพละกำลังจริงๆ อีกด้วย ซึ่งเรื่องของคุณภาพของหม้อแปลงเอาท์พุททรานสฟอร์เมอร์นั้น ต้องยกให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญเป็นพิเศษ เขาทำกันเพราะองค์ประกอบอันได้แก่แกนเหล็กและลวดที่ใช้พันนั้นต้องผ่านการเลือกสรรและทดลองใช้มาเป็นระยะเวลานาน ถึงจะได้คุณภาพที่มีผลดีจริงๆ สำหรับชื่อชั้นของผู้ผลิตแบบมืออาชีพที่เป็นที่ยอมรับกันในวงการได้แก่ Tango, Tamura, Bartolucci หรืออย่าง Audio Note เป็นต้น

แน่นอนครับว่า ของที่ผลิตจากมืออาชีพนั้นมีคุณภาพที่ดีจนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีราคาค่าตัวที่สูง และแพงมาก ดังนั้นแล้วกับผู้ที่มีความชำนาญ และผ่านการลองและเล่นมาเยอะก็จะเลือกที่จะลดต้นทุนด้วยการทำหม้อแปลงเอาท์พุทขึ้นมาเพื่อใช้เอง สำหรับ Lennart Andersen ก็เลือกวิธีนี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะสามารถจะเลือกอุปกรณ์แบบพิเศษมาใช้ได้ตามต้องการ และไม่ว่ารูปแบบของแอมป์หลอดจะถูกพัฒนาให้มีความสวยงามมากขึ้นเพียงไร แต่สิ่งสำคัญที่อยู่ภายในนั้นคือสิ่งที่ยืนยันถึงความเป็นแอมป์หลอดอย่างแท้จริง

หลังจากที่ทราบว่าทางบริษัท ยูโรวิชั่น จำกัด นำเอาแอมป์ของ LA AUDIO เข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับแฟนๆ ขาหลอดที่กำลังมองหาแอมป์หลอดคุณภาพดี เมื่อได้ลองหาข้อมูลของ LA AUDIO ดู จึงทราบว่า ปัจจุบัน LA AUDIO มีออฟฟิศและฐานการผลิตอยู่ที่ไต้หวัน ภายใต้ชื่อบริษัทว่า LA AUDIO ELECTRONIC CO.,LTD. มีการก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 1988 ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนา รวมทั้งดำเนินการผลิตแอมป์หลอดเป็นหลัก

LA AUDIO ในปัจจุบันยังคงเป็นของ Lennart Andersen หรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ยังคงมีความคลุมเครืออยู่ไม่น้อย เท่าที่พยายามหาข้อมูลก็มีกระแสข่าวของการเปลี่ยนมือว่า LA AUDIO ในปัจจุบันไม่ใช่ของ Lennart Andersen จากเดนมาร์กอีกต่อไป บ้างก็ว่ามีนักธุรกิจจากไต้หวันซื้อกิจการและชื่อของบริษัทไป บางข่าวก็ว่า Lennart Andersen ได้ออกแบบแอมป์หลอดตัวใหม่ภายใต้ชื่อ Audio Design แต่ก็ไม่มีข้อมูลที่ยืนยันชัดเจน ต่อมาก็มีข่าวว่า Lennart Andersen ขยับไปต่อยอดกับแอมป์หลอดในระดับไฮเอนด์มีชื่อว่า Triodes แทน ซึ่งก็ไม่สามารถหาข้อมูลมายืนยันได้เช่นกัน แต่ที่แน่ๆ ข้อมูลเท่าที่หามาได้ล่าสุดก็คือ LA AUDIO ในปัจจุบันมีผู้จัดการชื่อว่า Ms.Sherry Lee และมี CEO ชื่อว่า Fei Hung Wu โดยบริษัทมีที่ทำการอยู่ที่ HSI Tsarng Road ในไทเปประเทศไต้หวัน ทาง LA AUDIO ยังคงมีทีมงานที่แข็งแกร่งที่คอยปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แอมป์หลอดของ LA AUDIO ถ่ายทอดความไพเราะ (Melody) ที่ถือเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ทางดนตรีอย่างสมบูรณ์ต่อไป

LA AUDIO A-50

ผลิตภัณฑ์ของ LA AUDIO นั้นประกอบด้วยอินทีเกรทแอมป์ 13 รุ่น ปรีแอมป์ 4 รุ่น เพาเวอร์แอมป์แบบโมโนบล็อกอีก 5 รุ่น สำหรับเครื่องเล่น CD นั้นมีด้วยกัน 2 รุ่น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภท Multi-Media รวมทั้งลำโพงอีก 6 รุ่นด้วยกัน ถือได้ว่า LA AUDIO มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และครอบคลุมต่อความต้องการเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นขึ้นไปจนถึงระดับสูงในระดับไฮเอนด์ สำหรับ A-50 ถือว่าเป็นอินทีเกรทแอมป์หลอดที่วางตัวอยู่ในระดับกลางๆ A-50 ถูกจัดส่งมาด้วยกล่องแบบ 2 ชั้นที่มีความแน่นหนาและแข็งแรง ซึ่งปัจจุบันดูจะเป็นที่นิยมกัน ข้อดีคือ กล่องชั้นนอกนั้นจะเป็นตัวรับแรงกระแทก รวมทั้งริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นในการขนส่ง ส่วนกล่องชั้นในจะยังคงสภาพสวยและใหม่เมื่อจัดส่งถึงมือผู้รับ ภายในยังมีโฟมสังเคราะห์ที่มีความหนา ช่วยเสริมความมั่นใจในการจัดส่งได้ดี

A-50 ถือเป็นอินทีเกรทแอมป์หลอดที่ถูกออกแบบมาให้มีสัดส่วนความกว้างที่แคบลงมา แต่จะขยายตัวออกไปทางด้านลึกกว่าปกติ สัดส่วนอยู่ที่ 36 x 40.5 x 20 ซม. (ก x ล x ส) มีน้ำหนักตัว 16 กก. ตัวถังขึ้นรูปจากสแตนเลสปัดเงาจนเป็นมันวาว ส่วนแผงหน้านั้นเป็นไม้ที่มีความหนาประมาณ 3 ซม. ทำมุมสโลปทั้งทางด้านซ้าย และขวา ทำสีแบบกึ่งเงา เพื่อโชว์ลายไม้ที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ บนแผงหน้าจะมีลูกบิดที่เข้าใจว่ากลึงขึ้นรูปจากทองเหลืองปัดเงาจำนวน 2 ชุด วางระยะห่างอย่างสมดุล โดยปุ่มทางด้านซ้ายจะเป็นโวลลุ่มปรับระดับความดัง ส่วนทางด้านขวานั้นจะเป็นปุ่มเลือกแหล่งโปรแกรม ซึ่ง A-50 จะมีมาให้ 5 ชุดด้วยกัน เป็นไลน์อินพุทที่ประกอบด้วย Aux, BD, CD, Tuner และ DVD ตรงกึ่งกลางของแผงหน้าจะเป็นปุ่มกดเพื่อเปิด/ปิดเครื่องพร้อมกับโลโก้ของ LA AUDIO

            ด้านบน A-50 จะแยกหลอดออกเป็นชุดสำหรับแชนแนลซ้าย และขวาออกจากกันอย่างเป็นอิสระ โดยมีหม้อแปลงทรานสฟอร์เมอร์ทรงกลมขนาดใหญ่วางไว้ตรงกลาง ภาคหน้าจะเป็นหลอดเบอร์ 12AX7 (ECC83) และหลอดเบอร์ 12AU7 (ECC82) อย่างละ 1 หลอดต่อแชนแนล สำหรับภาคขยายจะเป็นหลอด EL34 ข้างละ 1 คู่ LA AUDIO ได้ออกแบบเสาอะลูมิเนียมขนาดเล็กแยกกันล้อมกรอบหลอดแต่ละหลอดไว้ทั้งหมด นัยก็เพื่อเสริมความสวยงาม และยังช่วยป้องกันไม่ให้มือไปสัมผัสโดนเข้ากับตัวหลอด ในขณะที่ใช้งาน ถัดจากหลอดภาคเอาท์พุทจะมีปุ่มขนาดเล็กข้างละ 2 ปุ่ม เพื่อใช้ในการปรับตั้งค่าไบอัสของหลอด (Bias Adjustment) เอาท์พุท EL34 พร้อมกับจุด Test Point ในการตรวจเช็คค่าของการปรับตั้ง ซึ่งเป็นกระแสไฟแบบ DC (กระแสสลับ) โดยให้ค่าไบอัสอยู่ที่ 0.4 V (แรงดันคร่อม) ทาง LA AUDIO แนะนำให้ทำการปรับตั้งค่าไบอัส เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนหลอดเอาท์พุทใหม่เพราะการปรับตั้งค่าไบอัสให้ถูกต้องจะทำให้หลอดทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มากเกินไป ซึ่งจะทำให้หลอดเสื่อมสภาพ และมีอายุที่สั้นลง ทาง LA AUDIO ยังกำชับให้เปลี่ยนหลอดเบอร์เดียวกันเท่านั้น ถัดลงไปทางด้านหลังก็จะเป็นหม้อแปลงเอาท์พุททรงกลมอีก 2 ลูกวางคู่กันซ้ายและขวา

ด้านหลังจะมีขั้ว RCA แบบเคลือบทองทั้งหมด ชุดต่อสายลำโพงจะมีมาให้เพื่อเลือกต่อใช้งานกับลำโพงแบบ 8 โอห์ม และ 4 โอห์ม ตามลำดับ ขั้วลำโพงเป็นแบบชุบทองหุ้มด้วยพลาสติกใสทั้งชุด สำหรับขั้วปลั๊ก IEC เป็นแบบ 3 ขา มีกราวด์สามารถถอดเปลี่ยนสายไฟ AC ได้

            สำหรับวงจรภายในนั้นทาง LA AUDIO เลือกใช้แผ่นวงจรแบบลายปริ้นท์โดยแบ่งออกเป็น 2 ชุด แยกแชนแนลซ้ายและขวาออกเป็นอิสระแบบดูอัลโมโน มีการใช้ Choke ทำหน้าที่เป็นคอยล์ต่ออนุกรม (Series) กับวงจรเพื่อให้สัญญาณความถี่ต่ำ หรือไฟฟ้ากระแสตรงผ่านได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการกันไม่ให้ความถี่สูงผ่าน สำหรับวงจรนั้นเข้าใจว่า A-50 น่าจะใช้วงจรแบบ Ultra Linear ที่มีการป้อนกลับที่ต่ำแบบ Low Feedback ในภาค Line Stage เลือกใช้หลอดเบอร์ 12AX7 (ECC83) ซึ่งเป็นหลอดแบบ Twin หรือ Dual Triode แบบ high Mu ตามมาด้วยหลอดเบอร์ 12AU7 (ECC82) ซึ่งเป็นหลอดแบบ Dual Triode เช่นกัน แต่เป็นหลอดแบบ Medium Gain หลอดทั้ง 2 ได้ผ่านการคัดสรรมาแล้ว มีการลบสกรีนเดิมออก และสกรีนโลโก้ของ LA AUDIO ลงไปแทน สำหรับภาคเอาท์พุทนั้นจัดวงจรแบบ Push Pull โดยใช้หลอดแบบ Power Pentode EL34 จำนวน 1 คู่ต่อข้าง ตัวหลอด EL34 ก็ถูกลบสกรีนเดิมออกด้วยเช่นกัน พร้อมกับสกรีนโลโก้ของ LA AUDIO เข้าไปแทน แต่เมื่อสังเกตที่รูปร่างหน้าตารวมทั้งฐาน Base แล้ว เข้าใจว่าน่าจะเป็นหลอด EL34 ของ Shuguang EL34-B ซึ่งถ้า…ใช่ แม้ว่าจะเป็นหลอดที่ผลิตขึ้นในประเทศจีนก็ตาม แต่หลอดของ Shuguang เบอร์ EL34-B ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหลอดที่ผลิตขึ้นมาอย่างดี และได้รับการกล่าวขวัญถึงโดยนักวิจารณ์รวมทั้งนักเลงเครื่องหลอดในต่างประเทศ จนถูกจัดอยู่ในหลอดระดับ First Class ที่สามารถให้เสียงรบกวนที่ต่ำมาก (Very Low Mechanical Noise) อีกทั้งยังสามารถให้คุณภาพเสียงในระดับ ‘คุ้มค่า คุ้มราคา’ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาค่าตัว และหลอดคู่แข่งในตลาดทั้งหลาย A-50 จะมีกำลังขับอยู่ที่ 40 วัตต์ต่อแชนแนล

            อุปกรณ์ภายในได้ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีทีเดียว เป็นรีซีสเตอร์แบบเมทัลฟิล์ม (Metal Film) ค่าความผิดพลาด 1% คาปาซิเตอร์แบบโพลีโพรไพลีนที่คัดสรรมาถูกหุ้มด้วยเปลือกผิวสีแดงและสกรีนโลโก้ของ LA AUDIO เอง โวลลุ่มเป็นแบบมอเตอร์ไดร์ป สามารถควบคุมระดับความดังได้ด้วยรีโมทคอนโทรล A-50 มาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลที่เป็นอะลูมิเนียมสีดำ มีน้ำหนักกำลังดี จับได้ถนัดมือ ตัวรีโมทดังกล่าวจะสามารถควบคุมระดับความดังได้เพียงหน้าที่เดียว ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งาน และเพิ่มความสะดวกในการควบคุมได้ดี สเปคของ A-50 มีดังนี้ :


wood panel

●Power output:40 W x 2
●Frequency response:15 Hz~35 kHz
●harmonic distortion:1%(1kHz)
●Input sensitivity:300 mV
●input impedance:50 KΩ
●output impedance:4 Ω、8 Ω
●Signal to noise ratio:85 dB
●Input signal:4 sets
●power consumption:190 W
●Tube Complement:EL34X4, ECC82(12AU7)X2, ECC83(12AX7)X2
●Dimensions:36 (W) x 40.5(D) x 20(H) cm
●weight:16 kgs

ผลการทดลองฟัง

A-50 มาอยู่กับเราเป็นเวลานานทีเดียว หลังจากที่เบิร์นอินจนเลย 100 ชั่วโมงแล้ว พวกเราก็นำ A-50 เข้าห้องฟังเพื่อสรุปผล ซิสเต็มที่ใช้ร่วมในการฟังประกอบด้วย

เครื่องเล่นซีดี : Marantz CD17 (Clock II), Sony XA-7ES

แอมป์ที่ใช้ในการฟังเปรียบเทียบ : Increcable iAmp TIA-240 (Upgrade Version โดย Innersound)

ลำโพง : XAV Small One Classic

สายนำสัญญาณ : Vampire AI-II

สายลำโพง : Vampire ST-II

สายไฟเอซี : XAV XAC # 5

ฟิวส์ : Music Muse V2

ห้องฟังขนาด 4 x 8 เมตร ได้รับการปรับแต่งอะคูสติกมาอย่างดี

 

A-50 ก็เหมือนกับอินทีเกรทแอมป์หลอดโดยทั่วไปที่ถึงแม้จะพ้นช่วงเบิร์นอินไปแล้ว แต่เมื่อเปิดใช้งานทุกครั้งก็ต้องวอร์มเครื่องหรืออุ่นเครื่องให้เข้าที่และมีความพร้อมประมาณ 30 นาที A-50 ก็พร้อมที่จะเปิดเผยตัวตนให้ได้สัมผัสฟังกัน

ในอดีตแอมป์หลอดชั้นเยี่ยมมักจะเป็นที่กล่าวขวัญถึงในแง่ของน้ำเสียงที่นุ่มนวล มีเสน่ห์โดยเฉพาะกับเสียงกลาง เสียงแหลมที่กระจ่าง มีความลื่นไหล และมีความหวานที่น่าฟัง เรียกได้ว่าใครถ้าได้ฟังแล้ว จะเกิดความหลงใหลในเสน่ห์อย่างถอนตัวได้ยาก นี่เป็นคำร่ำลือที่บอกเล่ากันต่อๆ มาในหมู่นักเล่นนักฟังที่พิสมัยในเครื่องหลอดอย่างจริงจัง แต่ก็ใช่ว่าแอมป์หลอดทุกเครื่องจะให้คุณภาพเสียงได้ตามที่กล่าวมาได้ทั้งหมด โดยมากแอมป์หลอดส่วนใหญ่มักจะให้น้ำเสียงที่นุ่มหรือ Soft เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันแนวโน้มอาจจะไม่เป็นอย่างงั้นเสมอไป นับตั้งแต่แอมป์หลอดของ Increcable ไล่มาจนถึงปรีแอมป์ของ Cayin ที่รีวิวไปในคราวก่อน รวมทั้ง A-50 จาก LA AUDIO ในครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึง ‘แนวทางเสียง’ ที่แตกต่างออกไปจากคำนิยามเดิมๆ ได้อย่างน่าสนใจ

A-50 ถ่ายทอดน้ำเสียงที่มีความสดใส แจกแจงรายละเอียดได้น่าฟังมีความกลมกลืนที่ดี มีจังหวะที่กระชับ กระฉับกระเฉงที่แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล ชักนำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบทเพลงได้อย่างรวดเร็ว ลูกขุน 2 – 3 ท่าน ที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและมีโอกาสได้ฟัง A-50 ล้วนมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน เมื่อถูกถามว่าน้ำเสียงของ A-50 เป็นอย่างไร โอ…ผมว่าหน้าตาก็เข้าท่าดูดีทีเดียว พอได้ฟังเสียงแล้ว ดูจะฟังง่าย และฟังได้เพลินดีเกินความคาดหมาย ลูกขุนหนุ่มไฟแรงของเรากล่าว อีกท่านกล่าวเสริมว่า A-50 ให้เสียงกลางที่สดใส มีการแจกแจงรายละเอียดที่โดดเด่น ไม่รู้สึกว่าอึดอัด หรือถูกยัดเยียดจนเกินงาม เป็นเสียงกลางที่ชัดเจนแต่ฟังสบาย ลูกขุนช่างสังเกตจับประเด็นในเรื่องของเสียงแหลมที่ A-50 สามารถถ่ายทอดความกังวาน ปลายเสียงแหลมทอดตัวออกไปได้ดีอย่างน่าฟัง ถือว่าเป็นความพิเศษของอินทีเกรทแอมป์หลอดที่วางตัวอยู่ในระดับนี้ ลูกขุนคอเบสชม A-50 ว่า ให้เบสที่กระชับ มีการย้ำเน้นหนักเบาที่ดี เบสต่ำๆ เก็บตัวเร็วไปหน่อย แต่สำหรับอินทีเกรทแอมป์หลอดที่มีกำลัง 40 วัตต์ต่อข้าง ก็ถือว่าทำได้ดีเกินตัวแล้ว

โดยรวมต้องถือว่า A-50 สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับเหล่าลูกขุนที่แวะเวียนมาช่วยฟังได้ดี เท่าที่สังเกต A-50 จะให้ความเพลิดเพลินในการฟังในเวลาที่สั้น ไม่ใช่แอมป์หลอดประเภทที่มีชั้นเชิงหรือลีลาที่คอยนำเสนอท่วงท่าที่ต้องใช้เวลาในการเข้าถึง ไม่ใช่แอมป์หลอดที่ต้องหว่านเสน่ห์และความหลงใหลแบบชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มในแบบฉบับของแอมป์หลอดชั้นเลิศตามที่ร่ำลือกัน เพียงแต่ A-50 สามารถนำเสนอคุณภาพเสียงเหล่านั้นออกมาได้อย่างไม่อ้อมค้อม ตรงไปตรงมา ในแบบฉบับที่สบายๆ เข้าถึงได้ง่าย และสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่ตรงใจผู้ฟังได้นั่นเอง !

หลังจากที่รวบรวมความคิดเห็นของเหล่าลูกขุนต่างกรรมต่างวาระแล้ว ก็ได้เวลาเก็บตก A-50 กันอีกครั้ง เสียงร้องของ Adele ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ มีรายละเอียดที่ดี มีความกระจ่างและชัดเจน มวลเสียงอาจจะน้อยไปสักเล็กน้อย แต่มีโฟกัสและตัวตนที่แจ่มชัด (Adele 19 : XL Recording Columbia : USA) กับเสียงร้องของ Clair Marlo A-50 ก็นำเสนอออกมาด้วยความสดใสอ่อนหวานและพลิ้วพร้อมกับรายละเอียด แต่ในทางกลับกันก็ตอกย้ำถึงมวลเสียงที่ค่อนข้างบางไปสักหน่อยอย่างชัดเจน (Clair Marlo : Let It Go : Sheffield Lab)

เสียงแหลมของ A-50 นั้นเปิดโปร่งมีความกระจ่างสดใสที่เน้นเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็สามารถควบคุมเอาไว้ได้ดี ไม่มีอาการกร้าว จัด หรือแผดจ้าจนเกินงาม เสียงเปียโนของ Vladimir Horowitz จึงมีความสดใส มีความกระจ่างและมีความกังวานที่โดดเด่นอย่างน่าฟัง (Horowitz In Moscow : DG) ไม่เพียงเท่านั้น A-50 ยังนำเสนอการย้ำเน้นเสียงในย่านนี้ได้อย่างโดดเด่น มีทั้งน้ำหนักและความฉับพลันที่รวดเร็วฉับไว เสียงแหลมมีความกังวานที่สามารถทอดตัวออกไปได้ดี ลองฟังความแตกต่างระหว่างเสียงของกระดิ่ง (Bell) และฉิ่ง (Cymbal) ในเพลง House Of The Rising Sun ที่ A-50 สามารถนำเสนอคุณลักษณะของเสียงที่มีความกังวาน และหางเสียงที่แตกต่างกันชัดเจนสำหรับปลายเสียงแหลมนั้นจะค่อยๆ ลดระดับความชัดเจนลงและเก็บตัว (Test CD 4.1 : Depth Of Image -Timbre -Dynamics : Opus3)

สำหรับเบสนั้น A-50 นำเสนอเสียงในย่านอัพเปอร์เบสที่แน่นกระชับ มีจังหวะจะโคนและการย้ำเน้นที่จะแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลง Tired ของ Adele ที่ฟังแล้วรู้สึกคึกคักกระฉับกระเฉงจนอยากจะขยับขาไปตามจังหวะของดนตรีที่เร่งเร้า (Adele 19 : XL Recording/Columbia : USA) หรือจะเป็นจังหวะการเดินเบสฝีมือของ Nathan East ในเพลง Max-O-Man ที่มีทั้งความแน่นกระชับและแรงปะทะที่รวดเร็ว (The Best Of Fourplay : Warner Bros : USA) สปีดของดนตรีถึงแม้จะจัดอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างเร็ว แต่ก็ไม่ได้ถูกขึงจนตึงเปรียะ เพราะในจังหวะที่ค่อนข้างรวดเร็วนั้น A-50 ยังแฝงไว้ด้วยความนุ่มนวล โดยไม่ได้ไปลดทอนในเรื่องของรายละเอียด เบสต่ำจะลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วและเก็บตัว (Exotic Dances From The Opera : R&R)

กับสมรรถนะทางด้านอิมเมจนั้น A-50 สามารถตรึงตำแหน่งได้นิ่ง มีความมั่นคงและความชัดเจนที่ดี ตัวอิมเมจถูกขยายให้ใหญ่กว่าปกติ เรียกร้องความสนใจได้ดีจึงทำให้รู้สึกเสมือนว่าการจัดรูปวงเหมือนกับจะเดินหน้าเข้าหาผู้ฟัง การขึ้นรูปของอิมเมจ หรือความเป็น 3 มิติ อันก่อให้เกิดความรู้สึกถึงการคงอยู่จริงของอิมเมจ ยังทำได้ไม่เด่นชัดนัก สำหรับการจัดวางซาวด์สเตจ A-50 จะวางวงในลักษณะเดินหน้า (Forward) เล็กน้อย อันเนื่องมาจากขนาดของอิมเมจที่ถูกขยายให้ใหญ่กว่าปกติ ซาวด์สเตจด้านกว้างขยายตัวเลยลำโพงทั้งซ้ายและขวาออกไปได้ดี ในขณะที่สัดส่วนความลึกดูจะเป็นรองกว่าสัดส่วนทางด้านกว้างอยู่บ้าง ทำให้ได้รูปวงที่มีลักษณะของสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความใสภายในเวทีทำได้ดี สามารถแสดงระยะและช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีต่างๆ ออกมาให้สัมผัสฟังกัน

สุดท้ายได้ลองเปลี่ยนฟิวส์ธรรมดาที่ติดมากับเครื่องที่ขั้ว IEC มาเป็นฟิวส์ออดิโอเกรดอย่าง Music Muse V2 ดู ผลที่ได้รับนับว่าน่าพอใจไม่น้อย สิ่งแรกที่สัมผัสได้ก็คือ ซาวด์สเตจจะถูกดึงให้ถอยหลังลงไปในแนวระนาบของลำโพง อิมเมจที่ถูกขยายให้ใหญ่กว่าปกติกลับถูกลดขนาดลงพร้อมกับการขยับจัดให้เข้ารูปเข้ารอยดีขึ้น และมีสัดส่วนอยู่ในระดับปกติ สัดส่วนความลึกที่เดิมเป็นข้อด้อยนั้น ในคราวนี้กลับสามารถแสดงระดับความชัดลึกได้ดีขึ้น พร้อมกับแบ่งระดับชั้นของชิ้นดนตรีที่ถอยลึกลงไปออกมาให้สัมผัสฟังได้อย่างชัดเจนมากขึ้น น้ำเสียงโดยรวมก็มีความกลมกลืนต่อเนื่องที่ดีขึ้น เสียงเปียโนที่บรรเลงโดย Vladimir Horowitz จากเดิมที่มีความสดใส และความกระจ่างเป็นหลัก กลับมีมวลที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย พร้อมกับความนุ่มนวลที่ร้อยรัดเพิ่มความต่อเนื่องที่ขับเน้นให้ความกังวานของหัวโน้ตมีความกระจ่างชัดอย่างลงตัว น้ำเสียงเหมือนกับถูกเจือ เอาไว้ด้วยความหวานที่มีความกลมกล่อม ช่วยเพิ่มพูนอรรถรสทางดนตรีต่อโสตสัมผัสได้อย่างน่าประทับใจ (Horowitz In Moscow : DG)

ตอกย้ำกันอีกครั้งด้วยเพลง From The Drottning Holm Music ที่บรรเลงโดยวง Onmibus Wind Ensemble ที่บรรยากาศอันแสดงถึงขนาดอันใหญ่โตของโบสถ์ที่ใช้เป็นที่แสดงดนตรี ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เพียงไม่นานพวกเราก็ได้ฟังไปรอบหนึ่งแล้ว แต่กลับไม่ได้รู้สึกหรือได้ยินถึงความพิเศษเหล่านั้นเลย (Test CD 4.1 : Depth Of Image -Timbre -Dynamics : Opus3 ) หรือกับเพลง The O-Zone Percussion Group : Jazz Variants ที่เมื่อได้ฟิวส์ระดับออดิโอเกรดอย่าง Music Muse V2 แล้วทำให้ A-50 สามารถถ่ายทอดเวทีที่กว้างใหญ่ นำเสนอรายละเอียดของเหล่าเครื่องเคาะ Percussion Instruments ทั้งหลายออกมาได้อย่างกระจ่างชัด ด้วยสปีดที่รวดเร็วและน้ำหนักการย้ำเน้นที่ดุดันเกินตัว เกินกว่าที่อินทีเกรทแอมป์หลอดขนาด 40 วัตต์ต่อแชนแนล โดยทั่วๆ ไปจะสามารถทำได้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ได้ฟังจนอดรู้สึกทึ่งและน่าฉงนไม่น้อย ลูกขุนท่านหนึ่งซึ่งเคยได้ฟัง A-50 ไปก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสแวะผ่านเข้ามาอีกครั้งถึงกับอุทานว่า แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าน้ำเสียงที่ได้ยินอยู่ในขณะนี้ จะมาจากอินทีเกรทแอมป์หลอด A-50 ตัวเดิมที่ฟังในวันนั้น ! (Manger : Musik Wie Von Einem/ www.manger.msw)

 

สรุป

LA AUDIO ถือเป็นแบรนด์ใหม่ในบ้านเราที่ทางบริษัท ยูโรวิชั่น จำกัด ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการมาสักระยะหนึ่งแล้ว ถึงแม้ว่าชื่อนั้นอาจจะใหม่สำหรับนักเล่นในบ้านเรา เมื่อทราบว่า LA AUDIO มีฐานการผลิตจากประเทศไต้หวันแทนที่จะเป็นเดนมาร์ก อีกทั้งในปัจจุบัน LA AUDIO ยังคงเป็นของ Lennart Andersen หรือไม่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้ แต่เมื่อได้ฟัง A-50 แล้ว ความคลางแคลงใจที่มีอยู่เดิมก็ได้รับคำตอบที่สามารถจะไขข้อข้องใจให้กระจ่างและมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

อินทีเกรทแอมป์ A-50 สามารถถ่ายทอดน้ำเสียงที่สดใส มีความกระจ่างพร้อมทั้งรายละเอียด มีจังหวะที่กระชับ มีความกระฉับกระเฉง แต่ก็มีความนุ่มนวลที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ฟังได้อย่างน่าชื่นชม อาจจะพูดได้ว่า A-50 ได้รวบรวมเอาคุณลักษณะทางเสียงของแอมป์หลอดในแบบที่นักเล่นหลายๆ คนฝันถึงเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ผลงานที่สามารถรังสรรค์ได้อย่างโดดเด่นตามที่กล่าวมานี้ ต้องเป็นฝีมือของบุคคลที่มีความรอบรู้ ผ่านการสั่งสมประสบการณ์ผ่านงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงและได้คลุกคลีอยู่กับเครื่องเสียงชั้นดีมาเป็นเวลาที่ยาวนานนับสิบปี จึงจะได้ผลงานที่ถึงพร้อมทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและคุณภาพเสียงอย่างที่ตั้งใจไว้และแน่นอนว่าส่วนหนึ่งนั้นคือผลงานที่ผ่านการตกผลึกแล้วของ Lennart Andersen นั่นเอง

A-50 ถือเป็นอินทีเกรทแอมป์ที่ดี มีความเพียบพร้อม ใช้งานง่าย และควรค่าแก่การแนะนำ ถึงแม้ A-50 อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของนักเล่นนักฟังได้ทุกคน แต่ก็มีความโดดเด่นและน่าสนใจอย่างยากจะปฏิเสธ นักเล่นท่านใดมีงบประมาณ และกำลังมองหาอินทีเกรทแอมป์หลอดคุณภาพดี ควรหาโอกาสและเวลาไปลองสัมผัสฟัง A-50 ดูสักที บางทีด้วยระยะเวลาเพียงไม่นาน คุณอาจจะค้นพบมนต์เสน่ห์ของแอมป์หลอดที่ชวนหลงใหลอย่างที่คุณใฝ่ฝันถึง…ก็เป็นได้

 

รูปลักษณ์     : 3 ดาวครึ่ง

สมรรถนะ     : 3 ดาว

คุณภาพเสียง : 4 ดาว

ความคุ้มค่า    : 4 ดาว

โดยรวม         : 4 ดาว

            ขอขอบคุณ บริษัท ยูโรวิชั่น จำกัด โทร. 0-2969-3751-3 ที่เอื้อเฟื้อลำโพงมาทดสอบในครั้งนี้

Exit mobile version