What HI-FI? Thailand

Test Report: “KRELL VANGUARD” (INTEGRATED AMPLIFIER)

Test Report: “KRELL VANGUARD” (INTEGRATED AMPLIFIER)

หัสคุณ

KRELL (เครลส์) ชื่อนี้ ถ้าคุณบอกกับตัวเองว่า เป็นนักเล่นเครื่องเสียงตัวจริงแล้วล่ะก็ จะบอกว่าไม่รู้จักชื่อนี้เป็นไม่ได้เลย และยิ่งถ้าคุณเป็นนักเล่นที่ค้นหาความเป็นที่สุดของเครื่องเสียงด้วยแล้วละก็ นักเล่นที่วางตัวอยู่ในระดับไฮเอนด์ มีน้อยคนนักที่จะไม่คุ้นเคยกับชื่อๆ นี้ แน่นอนว่ายังมีนักเล่นอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เคยได้ยินชื่อเสียงของ KRELL แต่ไม่เคยได้ฟังหรือได้ยินเสียงของ KRELL เลย มีหลายท่านที่ได้ยินเพียงแค่คำร่ำลือจากนักเล่นที่มีประสบการณ์ในระดับหูทอง หรือระดับเซียน ที่มักจะชื่นชมในศักยภาพของ KRELL ในการขับลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ต่ำมากๆ (ในระดับต่ำกว่า 1 โอห์ม) ได้อย่างไม่มีปัญหา และสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นลำโพงแบบไดนามิกขนาดใหญ่ ความไวต่ำ หรือจะเป็นลำโพงริบบอนแบบอิเลคโตรสแตติก อย่าง Apogee ที่ในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นลำโพงในระดับสุดยอดของโลก โดยเฉพาะกับรุ่นแรกที่มีอิมพีแดนซ์ลงไปต่ำถึงระดับ 0.1 โอห์มในบางขณะด้วยแล้วต้องถือว่าเป็นลำโพงที่ขับยากสุดๆ ด้วยเช่นกัน มีคำเล่าลือกันในขณะนั้นว่าสำหรับแอมป์ที่สามารถจะตอบโจทย์ดังกล่าวได้นั้นคำตอบดูเหมือนจะมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวและถือเป็นคำตอบสุดท้ายนั้นก็คือ KRELL นั่นเอง!

ผลิตภัณฑ์ของ KRELL ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท KRELL INDUSTRIES, INC. ที่มีคีย์แมนคนสำคัญ 2 คนด้วยกัน นั้นคือ DANIEL หรือ DAN D’AGOSTINO และ RONDI D’AGOSTINO สำหรับ DAN D’AGOSTINO เขาเริ่มก้าวเข้าสู่วงการเครื่องเสียงตั้งแต่อายุเพียง 11 ขวบ เขาได้รับแรงบัลดาลใจ จากพ่อของเขาเอง ซึ่งก็คือ FRANK ที่เป็น MACHINIST และเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในเวลานั้นพ่อของ DAN ได้สร้างลำโพง KLIPSCH แบบ CORNER-HORN ขึ้นมาจากโครงงานในนิตยสาร WIRELESS WORLD นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ DAN เกิดความสนใจ และหลงใหลในเรื่องของเครื่องเสียงและดนตรี ต่อมาเมื่ออายุได้ 14 ปี เขาก็ได้ไปรับจ้างทำงานในร้านเครื่องเสียง ที่มีชื่อว่า AUDIO CENTER ที่ NIAGARA FALLS รัฐนิวยอร์ก DAN เริ่มศึกษาหาความรู้จากเครื่องเสียงชุดแรกๆ ที่เขาซื้อจากเงินที่เก็บออมได้แก่ปรีแอมป์ MARANTZ รุ่น 7C เพาเวอร์แอป์ MARANTZ 8B ลำโพง AR-1 และทวีตเตอร์แบบอีเลคโตรสแตติก ของ JANSZEN ต่อมา DAN ได้เข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย จนได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัย BERKELEY , UNIVERSITY OF CALIFORNIA ต้องถือว่าDAN D’AGOSTINO เป็นหนุ่มไฟแรงที่มีความคิดสร้างสรรค์ และความฝันที่มาพร้อมกับความหลงใหลในเรื่องของเสียง เทคโนโลยี และดนตรีอย่างพร้อมสรรพ

RONDI D’AGOSTINO เริ่มสนใจเครื่องเสียงตั้งแต่อายุได้ 13 ขวบ เมื่อเธอเกิดความประทับใจจากเสียงของซิสเต็ม FISHER และหลงรักลำโพงขนาดเล็กของ KLH ต่อมาในปี 1976 เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับ MARK LEVINSON ในยุคแห่งความรุ่งโรจน์ ต่อมา RONDI ได้มีโอกาสทำงานกับ MITCHELL COTTER นักออกแบบภาคปรีโฟโนฝีมือดีในยุคนั้น และในตอนนั้นเองที่ RONDI มีโอกาสได้พบกับ DAN ในงาน CES (CONSUMER ELECTRONICS SHOW) RONDI ได้เปรยกับ DAN เรื่องที่เธอพลั้งมือจนแอมป์หลอด FISHER ของเธอเกิดไหม้พังจนเสีย DAN จึงได้ทำแอมป์หลอดแบบโซลิดสเตท แบบคลาส A ที่มีกำลังขับ 25 วัตต์ มามอบให้ RONDI เป็นของขวัญ ถึงแม้ว่าหน้าตาของมันจะไม่สวยเอาซ่ะเลย แต่เสียงของมันนั้นเยี่ยมมาก (ใครจะรู้ว่านั่นคือที่มาของแอมป์ KRELL รุ่น KSA-100 ในเวลาต่อมา) จากนั้น DAN ก็สร้างแอมป์โซลิดสเตท คลาส A รุ่น 50 วัตต์ แล้วนำไปให้เพื่อนของ RONDI ที่มีชื่อว่า PETER ACZEL (ซึ่งต่อมาได้เป็นบรรณาธิการของนิตยสาร THE AUDIO CRITIC) ฟัง ซึ่งเขาก็หลงรักแอมป์ตัวนั้นในทันที พร้อมกับสนับสนุนให้ DAN และ RONDI ลงมือทำมันอย่างจริงจัง DAN จึงได้ตัดสินใจเริ่มธุรกิจโดยมี RONDI ที่เป็นทั้งหุ้นส่วนชีวิต รวมทั้งหุ้นส่วนทางธุรกิจด้วยเช่นกัน DAN เลือกที่จะใช้ชื่อ KRELL มากกว่าที่จะเสี่ยงใช้ชื่อของทั้งสอง สำหรับชื่อของ KRELL นั้นมาจากภาพยนตร์เก่าแก่แนว SCI-FI ชื่อว่า FORBIDDEN PLANET ซึ่งเป็นภาพยนตร์โปรดเรื่องหนึ่งชอง RONDI ในภาพยนตร์ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต ต้องมีการแข่งขัน รวมทั้งต้องต่อสู้กัน สิ่งมีชีวิตนี้เรียกตัวเองว่า KRELL ทั้ง DAN และ RONDI ได้ก่อตั้ง KRELL ขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1980

ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ.1980 DAN และ RONDI ก็ย้ายไปอยู่ที่โรงงานของ KRELL และในวันที่ 3 เดือนมกราคม ทั้งคู่ออกเดินทางสู่งาน CES ใน LAS VEGAS ด้วยรถยนต์ SAAB พร้อมกับเพาเวอร์แอมป์ตัวแรกของ KRELL จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งนั่นก็คือ KRELL KSA-100 ด้วยสนนราคา US$ 2,500/เครื่อง ท้าชนกับแอมป์ระดับพระกาฬอย่าง ML-2 ของ MARK LEVINSON ที่เป็นทั้งเพาเวอร์แอมป์แบบโมโนบล็อก คลาส A 25 วัตต์ ที่วางราคาไว้อยู่ที่ประมาณ US$ 4,000/คู่ ซึ่ง KRELL มีจุดเด่นที่เป็นเพาเวอร์แอมป์แบบ HIGH-POWER, HIGHT CURRENT ที่ทำงานแบบ TRUE CLASS A BIASED, STEREO POWER AMPIFIER ตัวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาผงาดในวงการเครื่องเสียงในระดับไฮเอนด์ และแน่นอนว่า KRELL KSA-100 ได้รับการตอบรับจากเหล่านักเล่นกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ได้รับออเดอร์จำนวนมาก จนผลิตให้แทบไม่ทัน นี่คือการแจ้งเกิดของ KRELL อันร้อนแรงจากบริษัทที่ไม่มีใครรู้จัก มาจากไหนก็ไม่ทราบ อีกทั้งไม่เคยมีชื่อเสียงในวงการอุตสาหกรรมทางด้านเครื่องเสียงมาก่อนเลยแต่กลับกลายมาเป็นบริษัทที่สามารถขยับขึ้นไปเป็นคู่แข่งในระดับกระทบไหล่กับแบรนด์ใหญ่อย่าง MARK LEVINSON จนอดรู้สึก หนาวๆ ร้อนๆ ได้เหมือนกัน

จากนั้นในปี ค.ศ. 1982 หรืออีก 2 ปีถัดมา KRELL ก็ได้ออกเพาเวอร์แอมป์ รุ่น KSA-50 ซึ่งมีขนาดเล็กลงกว่า KSA-100 และมีราคาที่ถูกลง แต่ในขณะนั้น KRELL ได้ถูกจับตามองจากคู่แข่ง และด้วยอิทธิพลและนโยบายกีดกันทางการค้าผ่านทางตัวแทนจำหน่าย ส่งผลให้ KRELL ถูกกีดกันและเด้งออกจากร้านค้าร้านขายต่างๆ จน KRELL ต้องดิ้นรนและเริ่มมองหาตัวแทนจำหน่ายที่เป็นต่างชาติแทน แทบไม่น่าเชื่อว่า KRELL กลับไปสร้างชื่อที่ประเทศอังกฤษแทนที่จะเป็นประเทศที่เกิดอย่างสหรัฐอเมริกา เพราะหลังจากที่ JOHN ATKINSON นักเขียนนักวิจารณ์เครื่องเสียงแห่งนิตยสาร HI-FI NEWS & RECCORD REVIEW ได้ทดสอบและฟัง KSA-50 จนเกิดความประทับใจในคุณภาพเสียงของ KSA-50 และได้ซื้อแอมป์ตัวที่เขาได้ทดสอบเก็บไว้ใช้เองเป็นการส่วนตัว ชื่อเสียงของ KSA-50 ก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึง จนต่อมา JOHN ATKINSON ได้ย้ายถิ่นฐานข้ามฝากมาทางสหรัฐอเมริกา และเป็นนักเขียนให้กับนิตยสาร STEREOPHILE เขาได้นำเจ้า KRELL KSA-50 ข้ามน้ำข้ามทะเลมาด้วย ตัวของ JOHN ATKINSON มิได้ปล่อยให้ความมีอคติที่มีต่อ KRELL ในสหรัฐอเมริกาเข้าครอบงำแต่อย่างใด เขายังคงชื่นชม KRELL KSA-50 อย่างออกนอกหน้าและตรงไปตรงมาซะด้วยซ้ำ ส่งผลให้ KRELL KSA-50 กลายเป็นดาวจรัสแสงที่โดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง และทำยอดขายได้อย่างน่าทึ่งในเวลาต่อมา

แอมป์ทั้งสองของ KRELL ถือได้ว่าเป็นผลงานที่แสดงถึงความสำเร็จในระดับ MILESTONE ของKRELL             ได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันผลงานทั้งสองยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง และยังเป็นที่ต้องการของนักเล่น ในระดับสะสมกันอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้แต่โครงงานแบบ DIY ก็มีการนำวงจรทั้งสองมาทำเล่นกันอยู่เป็นจำนวนมากทั่วโลกด้วยเช่นกัน

ต่อมา KRELL ยังมีผลงานในระดับ “พระกาฬ” ที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็น เพาเวอร์แอมป์ ในตระกูล KRELL AUDIO STANDARD (KAS) ในปี ค.ศ. 1992 ตามมาด้วยแอมป์ระดับสุดยอด ที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้นอย่างตระกูล MASTER REFERENCE AUDIO (MRA) ในปี ค.ศ. 1999 ผลงานของ KRELL ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ที่ชื่อเสียงของ KRELL กลายมาเป็นที่ยอมรับและรู้จักในนามของเครื่องเสียงระดับ ไฮเอนด์ ชั้นเยี่ยมของอเมริกามาจนถึงปัจจุบัน

WIND OF CHANGE-กระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนิรันดร์

          ถึงแม้ว่า DAN D’AGOSTINO ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นถึง “พ่อมดแห่ง KRELL” ได้พยายามทุ่มเทสรรพกำลัง และความคิดที่มีความหลงใหล และความฝันเป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อน KRELL ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า พร้อมกับ RONDI อดีตภรรยาอย่างภาคภูมิใจ DAN เคยกล่าวในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่า หน้าที่ของเขาจะสำเร็จลุล่วงโดยสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ เขาได้ทำให้ KRELL เป็นบริษัทเครื่องเสียง ระดับไฮเอนด์ ที่มีเจ้าของคนเดียวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังพยายามที่จะทำงานอยู่จนกระทั่งมันสำเร็จ แน่นอนไม่มีใครปฏิเสธว่า KRELL ยังไม่ประสบความสำเร็จ อันที่จริงแล้ว KRELL ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่จะเพียงพอกับความตั้งใจของ DAN เองหรือไม่นั้นคงมีเพียงแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่จะตอบได้ และแล้วความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามกฎเกณฑ์ที่มนุษย์เป็นผู้กำหนดรวมถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและยากต่อการหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้ว่า DAN และ RONDI จะทราบและพยายามหลีกเลี่ยงอุปสรรคดังกล่าว โดยพยายามบังคับ รัฐนาวา ของ KRELL ให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังและมั่นคงเพียงไรก็ตาม ก็คงคาดไม่ถึงๆ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าอันใกล้นี้ได้

กระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงอันเป็นนิรันดร์ ไม่ได้นำพามาซึ่งเส้นทางที่ราบเรียบ และโรยเอาไว้ด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2009 ในขณะที่การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางด้าน AV กำลังร้อนแรงและมีการแข่งขันที่เข้มข้นอยู่นั้น KRELL เองก็ยากจะหลีกเลี่ยงหนทางที่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีของตนให้เท่าทันกับการเคลื่อนตัวไปของตลาด ในขณะนั้นเองที่ KRELL ต้องการทุน รวมทั้งการบริหารและการจัดการในรูปแบบใหม่ เพื่อสร้าง KRELL ให้เติบใหญ่ยิ่งขึ้น ทาง KRELL จึงได้นักลงทุนรายใหม่ที่มีชื่อว่า KP PARTNERS เข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุนเพื่ออนาคตที่สดใสของ KRELL แต่แล้วกาลกลับไม่ได้เป็นดั่งใจหวัง โชคชะตากลับเล่นตลก ทุกอย่างกลายเป็นความผิดพลาด ทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีกลับตกต่ำอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน ก่อนงาน CEDIA TRADE SHOW จะเริ่มในต้นเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 ก็เกิดการโต้แย้งที่เผ็ดร้อน สาเหตุและที่มาที่ไปของปัญหานั้นมิได้รับการเปิดเผย แต่ที่แน่ๆ DAN D’AGOSTINO รวมทั้ง RONDI ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานบริษัทของ KRELL และครอบครัวต้องก้าวเท้าออกมาจาก KRELL อย่างไม่มีวันหวนกลับ

DAN D’AGOSTINO เริ่มต้นสร้างดาวดวงใหม่กับผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ ชื่อว่า DAN D’AGOSTINO MASTER AUDIO SYSTEMS ในขณะที่กลุ่มทุนใหม่เริ่มเข้าควบคุมการบริหาร พร้อมกับปรับฐานของบริษัท KRELL INDUSTRIES อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ EVOLUTION SERIES ให้ทันกับงาน CONSUMER ELECTRONICS SHOW ในปี ค.ศ. 2010 พวกเขาไม่ได้นั่งรออนาคตหรือผลทางกฎหมายโดยไม่ทำอะไร แต่กำลังมุ่งมั่นที่จะสานต่อพร้อมกับนำ KRELL ให้ก้าวต่อไปสู่อนาคตที่สดใสและมั่นคง และผลงานชิ้นล่าสุดของ KRELL ก็คือ อินทีเกรทแอมป์ใหม่แบบถอดด้าม KRELL VANGUARD นั่นเอง

KRELL VANGUARD

          ในอดีต DAN D’AGOSTINO ไม่เคยคิดที่จะผลิตอินทีเกรทแอมป์ออกวางจำหน่ายเลย จนได้รับคำแนะนำจากผู้จัดจำหน่ายชาวฝรั่งเศสว่า KRELL น่าจะทำอินทีเกรทแอมป์ออกมาบ้าง เพาะในขณะนั้นอินทีเกรทแอมป์กำลังเป็นที่นิยมและขายดีมาก DAN จึงมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะทำอินทีเกรทแอมป์ที่ราคาประหยัด แต่ยังคงคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เขาจึงนำเสนอ KRELL KAV 300i ออกมาซึ่งมีราคาอยู่ที่ USD 2,350-. ผลปรากฏว่ายอดจำหน่ายของ KAV 300i กลับดีวันดีคืน จากนั้นเป็นต้นมา KRELL จึงมีผลิตภัณฑ์อินทีเกรทออกมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน KRELL INDUSTRIES, INC. ทาง KRELL เองก็นำอินที   เกรทแอมป์ รุ่น S-550i ออกสู่ตลาดในช่วงปี ค.ศ. 2013 แต่อาจจะเป็นด้วยการตัดสินใจของทีมบริหาร ที่ย้ายการผลิตจากเดิมที่จะผลิตในสหรัฐอเมริกาไปเป็นที่ประเทศจีนแทนก็เป็นได้ จึงส่งผลให้การตอบรับต่อ S-550i ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนัก ทางทีมงานของ KRELL จึงต้องกลับมาทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นบทเรียนที่ต้องจดจำ ในครั้งนี้ทีมงานของ KRELL จึงต้องออกอินทีเกรทแอมป์ที่สามารถจะเรียกเอาความเชื่อมั่นให้กลับมาอีกครั้ง เริ่มต้นจากการย้ายการผลิตกลับมาทำที่ประเทศสหรัฐอเมริกาดังเดิม ตามมาด้วยอินทีเกรทใหม่ตัวนี้จะต้องมีคุณภาพและกำลังขับที่มากกว่าปกติ ต้องมีความก้าวหน้าที่พร้อมจะรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการของไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้นแต่ทางทีมงานยังต้องการให้อินทีเกรทแอมป์ตัวใหม่นี้ เป็นอินทีเกรทแอมป์ในระดับ “BEST-EVER INTEGREATED AMP” และคำตอบนั้นก็คือ KRELL VANGUARD อินทีเกรทแอมป์ตัวใหม่ล่าสุดของ KRELL นั่นเอง

KRELL VANGUARD ได้รับการปรับโฉมใหม่ ลักษณะของตัวถังและการประกอบนั้นเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน NEW KRELL FOUNDATION ปรีแอมป์และปรีโปรเซสเซอร์ตัวใหม่ รวมทั้งหน้าตายังต้องสอดรับและเข้ากันกับเพาเวอร์แอมป์แบบโมโนบล็อก ของ KRELL รุ่น DUO 300 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ KRELL VANGUARD จึงมาในรูปโฉมที่ดำเข้ม ดูเรียบขรึม แต่จริงจัง แผงหน้าขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมสีดำ ตรงกลางของแผงหน้าจะเป็นอะลูมิเนียมสีขาว โค้งนูนขึ้นมา โดยตรงกึ่งกลางจะทำเป็นช่องเว้าลงเป็นรูปสามเหลี่ยม พร้อมตัวอักษรคำว่า KRELL ขนาดใหญ่อยู่ทางด้านล่าง นี่คือสัญลักษณ์ใหม่ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ KRELL เมื่ออยู่ในโหมด STANDBY จะมีไฟสีแดงส่องขึ้นด้านบนจากด้านหลังของคำว่า KRELL และเมื่อเครื่องอยู่ในโหมดทำงาน แสงไฟจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีฟ้า

ทางด้านซ้ายของแผงหน้า จะเป็นปุ่มควบคุมทั้งหมดซึ่งทำจากอะลูมิเนียมสีขาว เริ่มจากปุ่ม เปิด/ปิด ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เซอร์โว เพื่อสับเปลี่ยนจากโหมด STANDBY เข้าสู่ระบบการทำงานแบบ SOFT START ถัดมาจะเป็นปุ่มควบคุมขึ้น-ลง, ซ้าย-ขวา และปุ่ม ENTER ตรงกลาง รวมเป็น 5 ปุ่มสำหรับปุ่มควบคุม ขึ้น-ลง จะเป็นตัวปรับระดับความดังของ โวลลุ่ม (OUTPUT LEVEL) ที่แบ่งออกเป็นระดับจาก 0 ขึ้นไปถึง 150 นอกจากการปรับระดับเพิ่มและลดความดังแล้ว ยังทำงานร่วมกับปุ่มควบคุม ซ้ายและขวา ในการตั้งค่าต่างๆ รวมทั้งการตั้งชื่อของแหล่งอินพุทในระบบเมนู (MENU SYSTEM) ของ KRELL VANGUARD ผ่ายระบบ WEB SERVER ด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบ ACTIVE NETWORK หรือ ผ่านช่องต่อ ETHERNET CONNECTION ที่อยู่ทางด้านหลังเครื่องไปยัง DISPLAYED PARAMETER อย่างเช่น iPad เป็นต้น จากนั้นจะเป็นปุ่มอีก 3 ปุ่ม เรียงในแนวตั้ง ประกอบด้วยปุ่ม SOURCE เพื่อเลือกแหล่งโปรแกรม ซึ่งใน KRELL VANGUARD จะมีมาให้ 4 ชุดประกอบด้วย B1 ซึ่งเป็นช่องต่อแบบ BALANCED XLR ตามมาด้วย S1, S2 และ S3 ที่จะเป็นช่องต่อแบบซิงเกิ้ลเอนด์ (RCA) ถัดลงมาเป็นปุ่ม MENU เพื่อใช้ในการเข้าสู่เมนูฟังค์ชั่นของ KRELL VANGUARD สำหรับปุ่มสุดท้ายคือปุ่ม MUTE เพื่อตัดเสียงที่ไปออกลำโพง

ทางด้านขวามือจะเป็นจอดิสก์เพลย์แบบ DOT-MATRIX GRAPHICS แม้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต แต่ตัวหนังสือก็มีขนาดที่ใหญ่และพอเหมาะ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน จอดิสก์เพลย์จะสว่างในขณะที่กดสั่งงาน KRELL VANGUARD และจะดับลงเองเมื่อไม่ได้ใช้งาน เหนือจอดิสก์เพลย์ทางด้านขวาจะเป็นช่องต่อ USB INPUT ซึ่งยังไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะมีบอร์ด OPTIONAL DIGITAL MODULE ที่ทาง KRELL กำลังพัฒนา และจะนำออกมาในเร็วๆ นี้ บอร์ด OPTIONAL DIGITAL MODULE ดังกล่าวจะเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน BLUETOOTH WIRELESS CONNECTION รวมทั้ง ENTHERNET เพื่อการ STREAMING ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็ปแล็ท ที่สามรถลองรับ MP3, AAC,WMA,WAV,FLAC/ALAC,A2DP,AVRCP,HFP และ HSP ที่ SAMPLING RATE 192 kHz มีช่อง HDMI INPUT มาให้ 2 ชุด รองรับระบบ LPCM ในระดับ 24 BIT/192 kHz มีช่องต่อแบบ HDMI OUTPUT มาให้ 1 ชุด มีช่องต่อแบบ OPTICAL INPUT(ที่สามารถรองรับ SAMPLING RATE ที่ 96 kHz) และ COAXIAL INPUT มาให้อีกอย่างล่ะ 1 ชุด สำหรับราคา รวมทั้งกำหนดการวางจำหน่ายนั้นทาง KRELL ยังไม่ได้ให้รายละเอียดออกมาแต่อย่างใด สำหรับนักเล่นที่สนใจต้องคอยติดตาม ข่าวสารจากทางตัวแทนจำหน่ายในบ้านเรา ซึ่งก็คือ AUDIO EXCELLENCE ครับ

ด้านหลังของ KRELL VANGUARD นอกจากจะมีขั้วต่อ RCA เคลือบทอง และ BALANCED XLR ตามที่กล่าวไปแล้วยังมีขั้วต่อ ETHERNET เพื่อให้เชื่อมต่อกับระบบ HOME NETWORK ในการสั่งงานแล้วยังมีไว้เพื่อ UPDATE ระบบ FIRMWARE ในอนาคต มีช่องต่อ IR IN ที่ขั้วต่อเป็นแบบ RC-5 INPUT เพื่อความสะดวกในการใช้ REMOTE IR DETECTOR หรือ HARDWARED REMOTE CONTROLLERS มีช่องต่อ12 VDC IN/OUT (12 V TRIGGER) เพื่อความสะดวกในการเปิด/ปิด ทั้งซิสเต็ม สำหรับขั้วต่อลำโพงจะมีมาให้เพียงชุดเดียว ขั้วต่อเป็นของ WBT รุ่น WBT-0703 NEXTGEN POLE TERMINAL รุ่นใหม่ที่มีตัวถังหรือบอดี้สีดำ แต่ตรงขั้วสัมผัสนั้นจะเป็นแบบเคลือบทอง( GOLD PLATED )สามารถรองรับขั้วต่อแบบก้ามปู (SPADE) และแบบบานาน่า (BANANA) ขนาด 4 มม.ได้ ใน KRELL VANGUARD ยังมีพัดลมระบายความร้อน (COOLING FAN) มาให้อีก 2 ชุดซึ่งทำงานแบบ THERMOSTATICALLY CONTROLLED เมื่อความร้อนสูงขึ้นในระดับที่กำหนดไว้ระบบพัดลมจะทำงานโดยอัตโนมัติ และจะหยุดเองเมื่ออุณหภูมิลดระดับลงมาจนอยู่ในระดับปกติ

สัดส่วนของ KRELL VANGUARD จะอยู่ที่ 434 x 105 x 445 มม. (กxสxล) ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีขนาดที่เหมาะสม (COMPACT) ไม่ใหญ่หรือดูเทอะทะจนเกินงาม แต่เวลาจะยกก็ต้องตั้งท่าให้ดีนะครับ เพราะ KRELL VANGUARD มีน้ำหนักตัวที่หนักพอควรทีเดียวคือที่ 17.7 กิโลกรัม ภายใน KRELL VANGUARD จะจัดวางหม้อแปลงแบบเทอร์รอยด์ขนาดใหญ่ถึง 750 VA ไว้ทางด้านหน้า ทำงานร่วมกับคาปาซิเตอร์ฟิลเตอร์ จำนวน 8 ตัว มีค่าความจุรวมถึง 80,000 UF สำหรับภาคปรีแอมป์นั้น จัดวงจรให้ทำงานแบบ CLASS A PREAMPLIFIER ซึ่งทาง KRELL ได้นำแนวทางการออกแบบของวงจร BALANCED, FULLY -DISCRETE CLASS A CIRCUIT ที่ใช้ในปรีแอมป์ระดับ TOP-OF-THE- LINE ของ KRELL รุ่น ILLUSION มาใช้ใน KRELL VANGUARD สำหรับทางเดินสัญญาณภายในเป็นแบบ DISCRETE SIGNAL PATH ตั้งแต่ภาคอินพุทจนถึงภาคเอาท์พุท ออกแบบวงจรแบบ WIDE BANDWIDTH มีการใช้การป้อนกลับทางลบเพียงเล็กน้อย (LOW NEGATIVE FEEDBACK) เพื่อให้สัญญาณมีความเที่ยวตรงตลอดย่านความถี่

อุปกรณ์ภายในของ KRELL VANGUARD จะเป็นแบบ KRELL’S NEW SURFACE MOUNT TECHNOLOGY (SMT) เพื่อให้การใช้พื้นที่ภายในมีขนาดที่เล็ก ไม่เปลืองพื้นที่ ด้วยวงจรแบบ SMT จะช่วยให้อุปกรณ์ทั้งหมด ถูกวางไว้ใกล้กันที่สุด เพื่อให้ทางเดินของสัญญาณสั้นที่สุด (SHORTEN SIGNAL PATHS) ดังนั้นอุปกรณ์ทั้งหมดจะทำงานด้วยอุณหภูมิที่เท่ากัน การทำงานและการส่งสัญญาณจึงมีความเที่ยงตรงสูงและมีเสถียรภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ใน KRELL VANGUARD ยังได้เลือกใช้วงจรอันเลื่องชื่อของ KRELL เองคือวงจร CURRENT MODE TECHNOLOGY เพื่อการตอบสนองความถี่ที่กว้างเป็นพิเศษ สามรถจะรองรับกับระบบ HIGHT-RESOLUTION PCM และ DSD AUDIO ที่มีรายละเอียดสูงได้เป็นอย่างดี

KRELL VANGUARD มีกำลังขับที่ 200 วัตต์ ต่อแชนแนล ที่โหมด 8 โอห์ม และจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวคือที่ 400 วัตต์ต่อแชนแนลที่โหลด 4 โอห์ม สำหรับการทำงานในภาคเอาท์พุทนั้นจะทำงานแบบ CLASS A/B เช่นเดียวกับอินทีเกรทแอมป์ของ KRELLที่ผ่านมา KRELL VANGUARD มาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลที่ทำจากโลหะ (ALL-METAL)มีน้ำหนักที่ให้ความรู้สึกถึงความมั่นคงที่ดีและมีขนาดที่เหมาะมือ มีปุ่มที่ใช้ในการควบคุมสั่งงาน จำนวน 35 ปุ่มด้วยกัน มีฟังก์ชั่นที่สามารถใช้ควบคุมเครื่องเล่นซีดี/DVD TRANSPORT CONTROL ของ KRELLเองได้ สเปคของKRELL VANGUARD มีดังนี้ :

Vanguard Specifications

Inputs
1 pr. balanced via XLR connectors
3 pr. single-ended via RCA connectors

 

Outputs
1 pr. speaker outputs via WBT gold-plated binding posts

 

Control inputs
1 remote IR detector input via 3-conductor 3.5 mm connector
1 12 VDC trigger input via 2-conductor 3.5 mm connector

 

Control output
1 programmable 12 VDC trigger output (300 mA maximum current) via 2-conductor 3.5 mm connector

 

Input impedance
Balanced: 95 kΩ
Single-ended: 47.5 kΩ

 

Frequency response
20 Hz to 20 kHz +0, –0.01 dB
<2 Hz to 150 kHz +0, –3 dB

 

Signal-to-noise ratio
>90 dB, wideband, unweighted, at maximum gain, referred to full power output
>97 dB, “A”-weighted

 

Gain
48 dB

 

Input sensitivity
Single-ended or balanced: 160 mV RMS

 

Total harmonic distortion
<0.015% at 1 kHz, at 200 W, 8 Ω load
<0.13% at 20 kHz, at 200 W, 8 Ω load

 

Output power
200 W RMS per channel at 8 Ω
400 W RMS per channel at 4 Ω

Output voltage
113 V peak to peak
40 V RMS

 

Output current
16 A peak

 

Slew rate
50 V/μs

 

Output impedance
<0.066 Ω at 20 Hz
<0.075 Ω, 20 Hz to 20 kHz

 

Damping factor
>121 at 20 Hz, referred to 8 Ω
>106, 20 Hz to 20 kHz, referred to 8 Ω

 

Power consumption
Standby: 12 W
Idle: 70 W
Maximum: 1300 W

 

Heat output
Standby: 41 BTU/hr
Idle: 239 BTU/hr
Maximum: 4436 BTU/hr

 

Dimensions
17.1 in W x 4.15 in H x 17.5 in D
434 mm W x 105 mm H x 445 mm D

 

Weight
Unit only: 39 lb [17.7 kg] As shipped: 47 lb [21.3 kg]

 

Digital Module Specs
Coaxial and HDMI inputs support PCM up to 24-bit/192kHz. optical input up to 24-bit/96kHz

 

USB and Network streaming support MP3, AAC, WMA, WAV(PCM), FLAC, ALAC up to 192kHz

 

Bluetooth streaming supports A2DP, AVRCP, HFP, HSP

 

ผลการทดลองฟัง

          KRELL VANGUARD ที่ได้รับมานั้น ได้ผ่านการใช้งานมาจนเข้าใจว่าน่าจะพ้นระยะเบิร์นอินไปแล้ว เท่าที่ได้ลองใช้งานอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์คุณภาพเสียงของ KRELL VANGUARD ก็วางตัวอย่างคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง จึงได้นำ KRELL VANGUARD เข้าห้องฟังโดยมีคณะเหล่าลูกขุนได้แวะเวียนเข้ามาช่วยฟังและแสดงความคิดเห็นกันต่างกรรมต่างวาระ แต่ได้รวบรวมเอาความคิดเห็นดังกล่าวเข้าไว้ในคราวเดียวกัน อุปกรณ์ที่ใช้ในการฟังประกอบด้วย:

เครื่องเล่นซีดี : MARANTZ CD 11 MK II (CLOCK II)

ลำโพง: XAV SMALL ONE “CLASSIC”

XAV SMALL ONE “SE”

XAV ROBIN MT

 

สายนำสัญญาณ : VAMPIRE AI-II (RCA, BALANCED XLR)

สายลำโพง : VAMPIRE ST-II

สายไฟเอซี : XAV XAC#5, MUSIC MUSE “JORMUNGANDR” AC CABLE

ฟิวส์ : MUSC MUSE V2

ห้องฟังขนาด 4 x 8 เมตร ได้รับการปรับแต่งอะคูสติกมาอย่างดี

ตลอดการใช้งาน KRELL VANGUARD นั้น ถึงแม้ว่าทาง KRELL จะไบแอสกระแสในภาคเอาท์พุทให้ทำงานในแบบ CLASS A/B ก็ตาม แต่ KRELL VANGUARD ก็มีอุณหภูมิของเครื่องที่ค่อนข้างร้อนมากกว่าอินทีเกรทแอมป์ระดับไฮเอนด์ โดยทั่วไปอยู่พอสมควร ขอแนะนำให้จัดวาง KRELL VANGUARD ไว้ในชั้นวางที่กว้างและมีช่องว่างที่สูงเพียงพอ (อย่างน้อยประมาณ 5 ซม. สำหรับด้านบนตามคำแนะนำของ KRELL) หรือที่ๆ มีการถ่ายเทของอากาศที่ดี ถึงแม้ KRELL VANGUARD จะมีพัดลมระบายความร้อนถึงสองชุดด้วยกัน และควรจัดวางให้ KRELL VANGUARD มีระยะห่างจากผนังด้านหลังอย่างน้อยไม่ควรน้อยกว่า 5 ซม. สำหรับระบบพัดลมระบายความร้อนนั้นทำงานได้เงียบดีเป็นพิเศษ จนแทบไม่รู้สึกว่าพัดลมกำลังทำงานอยู่ ดังนั้นตัดปัญหาความกังวลของเสียงรบกวนออกไปได้เลย

อันดับต่อมาก็คือการเชื่อมต่อสายนำสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีมายัง KRELL VANGUARD จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ทางคือ การเชื่อมต่อด้วยสายนำสัญญาณแบบ RCA และแบบ BALANCED XLR ซึ่งเมื่อได้ลองฟังเปรียบเทียบดูผลปรากฏว่าการเชื่อมต่อด้วยสายนำสัญญาณแบบ BALANCED XLR นั้นจะให้พื้นเสียงที่เงียบสงัดกว่า การแยกแยะองค์ประกอบของชิ้นดนตรีต่างๆ ทำได้เหนือกว่า อีกทั้งรายละเอียดและการเน้นย้ำของไดนามิก ก็ทำได้เหนือกว่าการต่อด้วยสายสัญญาณแบบ RCA ในขณะที่การต่อสายนำสัญญาณแบบ RCA จะวางวงที่ถอยหลังกว่า น้ำเสียงโดยรวมจะนุ่มนวลและอ่อนน้ำหนัก สปีดดนตรีก็ฟังดูช้าลง ความกระจ่างและความชัดเจน รวมถึงการถ่ายทอดบรรยากาศก็เป็นรองกว่าอยู่พอสมควร จึงขอแนะนำให้เชื่อมต่อด้วยสายนำสัญญาณแบบ BALANCED XLR เพื่อให้ KRELL VANGUARD เปล่งประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ และตลอดการฟังทดสอบทั้งหมด พวกเราจึงเลือกการเชื่อมต่อด้วยสายนำสัญญาณ แบบ BALANCED XLR ครับ

แน่นอนครับว่า ชื่อเสียงของ KRELL นั้นเป็นที่คาดหวังของเหล่าคณะลูกขุนที่มีโอกาสได้ฟังกัน อย่างที่เรียนให้ทราบในตอนแรกเลยว่า KRELL แทบจะเป็นแอมปลิไฟเออร์ ในฝันของนักเล่นหลายๆ ท่านจนอาจจะพูดว่า KRELL คือหนึ่งในความเป็นที่สุด ที่นักเล่นหลายท่านพยายามไขว่คว้ามาครอบครองกัน ถึงแม้ว่า KRELL VANGUARD จะเป็นเพียงอินทีเกรทแอมป์ก็ตาม แต่ว่าผลงานและชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนานนั้น แถบจะเป็นเครื่องหมายทางการค้า ที่ยากจะบิดพลิ้วและถูกจับตามองเป็นพิเศษมากกว่าปกติเมื่อเปรียบเทียบกับแอมป์ระดับไฮเอนด์โดยทั่วไป

KRELL VANGUARD เปิดตัวด้วยน้ำเสียงที่กระจ่าง เต็มไปด้วยพละกำลังในการแยกแยะรายละเอียดต่างๆ ออกมาได้อย่างโดดเด่น น้ำเสียงมีความสะอาดและชัดเจนดีเป็นพิเศษ ลูกขุนหนุ่มไฟแรงประจำคณะถึงกับเอ่ยปากชมว่า “ไม่ธรรมดาจริงๆ สมแล้วที่เป็น KRELL” (ADELE 21-XL RECORDING:HN826 CD) ในขณะที่ลูกขุนอีกท่านประทับใจกับการนำเสนอซาวด์สเตจที่กว้างใหญ่แผ่ขยายออกไปจนเต็มห้อง KRELL VANGUARD แสดงสมรรถภาพทางด้านนี้ได้ดีกว่าปรีและเพาเวอร์แอมป์แบบแยกชิ้นอีกหลายยี่ห้อเท่าที่เคยฟังมาอย่างแน่นอน (CLAIR MARLO-LET IT GO/SHEFFIELD LAB CD-29:USA) ลูกขุนท่านหนึ่งชอบที่ KRELL VANGUARD นำเสนอรายละเอียดได้อย่างครบถ้วนโดยไม่ต้องเพ่งพินิจหรือตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ ดู KRELL VANGUARD จะสามารถนำเสนอออกมาได้อย่างง่ายๆ (TEST CD 4.1 : DEPTH OF IMAGE-TIMBRE- DYNAMIC:OPUS 3)

แต่ก็ใช่ว่าคณะลูกขุนทุกท่านจะเห็นดีเห็นงามไปกับ KRELL VANGUARD ซะทั้งหมด ลูกขุนคอเบสของเรา ออกจะรู้สึกผิดหวังกับ KRELL VANGUARD ในแง่ของพละกำลังกับความดุดัน โดยเฉพาะในย่านความถี่ต่ำๆ ที่ KRELL ใหม่จะนำเสนอความกลมกลืนนุ่มนวลมากกว่าจะให้แรงปะทะที่จะแจ้งเหมือนกับที่เคยประทับใจกับเพาเวอร์แอมป์ของ KRELLในอดีต (EXOTIC DANCES FROM THE OPERA: R&R ) อีกท่านชมชอบรายละเอียดและความนุ่มนวลที่ KRELL VANGUARD นำเสนอแต่เขารู้สึกว่ามันขาดอะไรไปสักอย่าง อาจจะเป็นความพิเศษบางอย่างที่ยังไม่ถูกเติมเต็มในความรู้สึก (FOREVER ELLA : ELLA FITZGERALD:UK) ลูกขุนมือเก๋าประจำคณะพูดเหมือนเป็นการสรุปว่า KRELL VANGUARD ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางเสียงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ซึ่งคงจะตอบรับกับแนวทางของนักเล่นนักฟังระดับไฮเอ็นด์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่แยกย้ายกันตามเวลาอันสมควรแล้ว ก็ได้รวบรวมเอาความคิดเห็นต่างๆ มาประกอบในการฟังรอบเก็บตกอีกครั้ง มีลูกขุนบางท่านถามอย่างสงสัยว่า ถ้าเปรียบเทียบกับอินทีเกรทแอมป์ของ KRELL ก่อนหน้านี้ KRELL ใหม่นี้สุ่มเสียงเป็นอย่างไร แตกต่างจากเดิมไปมากน้อยแค่ไหน ก็ได้เรียนไปตามตรงว่า ไม่ได้สัมผัส ฟังอินทีเกรทแอมป์ของ KRELL ในระยะหลังแม้แต่น้อย เท่าที่เคยได้ฟังก็มีแต่อินทีเกรทแอมป์ตัวแรกของ KRELL รุ่น KAV-300i ของพรรคพวกท่านหนึ่ง เข้าใจว่าน่าจะเป็นเวอร์ชั่นแรกๆ แต่วันเวลาก็ผ่านมานานหลายปีแล้ว “เอานะ…แล้วมันต่างกันไหม” ลูกขุนท่านเดิมยังคงคาดคั้นและต้องการคำตอบ ถึงแม้ในความทรงจำดูจะเลือนรางยามที่นำถึง แต่ความประทับใจ ที่เป็นความรู้สึกนั้นดูจะยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำลึกๆ ถ้าจะถามว่าแล้ว KRELL VANGUARD กับ KAV-300i เสียงเหมือนกันไหม ก็สามารถตอบได้ง่ายมากว่าไม่เหมือนกันครับ แต่ถ้าจะถามว่าแล้ว KRELL ในอดีตกับ KRELL ใหม่นั้นมีอะไรที่คล้ายคลึงกันบ้างไหมระหว่างอินทีเกรทแอมป์ทั้งสอง ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วน้ำเสียงของอินทีเกรทแอมป์ทั้งสองจะแตกต่างไม่เหมือนกันก็ตาม แต่ถ้าจะเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วล่ะก็ ในความแตกต่าง ก็มีบางอย่างที่คล้ายๆ กันแฝงอยู่ ในขณะที่บางอย่างที่ฟังดูคล้ายกันแต่ก็กลับมีความแตกต่าง ที่ไม่เหมือนกันอยู่ด้วยเช่นกัน

เรามาเริ่มกันที่จุดเด่นของ KRELL VANGUARD ก่อนเป็นอันดับแรก สิ่งแรกที่ต้องกล่าวถึงคือ เสียงกลางครับ KRELL VANGUARD ถ่ายทอดเสียงกลางที่กระจ่าง มีความพอดีทั้งในแง่ของมวลเสียง และรายละเอียด มีทรวดทรง มีตัวตน ทำให้รู้สึกถึงการคงอยู่ของอิมเมจ ที่นิ่งและมั่นคง เปรียบได้กับรูปปั้นที่ถูกแกะสลักขึ้นรูปอย่างพอเหมาะ ไม่หนาไม่บาง แต่วางตัวและมีเหลี่ยมมุมที่สวยงาม (CLATR MARLO-LET IT GO/SHEFFIELD LAB CD-29 :USA) นับเป็นเสียงกลางที่มีชีวิตชีวาและคงไว้ด้วยความหวานที่น่าฟัง ตรงนี้ต้องถือเป็นจุดเด่นที่แข็งแกร่งของ KRELL VANGUARD อย่างแท้จริง แน่นอนว่าถ้านำไปเปรียบเทียบกับ KAV-300i ในอดีตจะแตกต่างกันอยู่พอสมควร เพราะว่า KAV-300i จะให้เสียงกลางที่อิ่มกว่า มีมวลเสียงที่เข้มและข้นกว่า โดยเฉพาะกับความกระจ่างชัดเจนและความลงตัวด้วยแล้ว KRELL VANGUARD นั้นทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งสองก็มีบางอย่างที่คล้ายกันในแง่ของการควบคุมเสียงกลางเอาไว้ได้อย่างมั่นคงและนิ่งมาก กับเสียงในย่านกลางสูง KAV-300i ดูจะให้ความสำคัญกับการควบคุมสมดุลของเสียงโดยรวมเอาไว้ เป็นการควบคุมเพื่อไม่ให้เสียงหนึ่งเสียงใดโดดเด่นออกมา เสียงของ KAV-300i จึงออกไปในโทนอิ่มและนุ่มนวลให้อรรถรสทางดนตรีที่เพลิดเพลิน ตรงกันข้ามกับ KRELL VANGUARD ที่ให้น้ำเสียงไปในทางเปิดเผย กระชับ ฉับไว มีการย้ำเน้น ที่จะแจ้งกว่า โดยยังสามารถรักษาสมดุลของเสียงโดยรวมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าลูกขุนจึงรู้สึกถึงน้ำเสียงทีมีความเป็นกันเอง เปิดเผย ตรงไปตรงมา และเข้าถึงโสตสัมผัสได้อย่างรวดเร็วมีความเป็นมิตรและจริงใจ (TEST CD 4.1 : DEPTH OF IMAGE – TIMBRE- DYNAMIC :OPUS 3)

สำหรับเสียงแหลมนั้น KAV-300i ยังคงรักษาสมดุลเอาไว้ได้อย่างมั่นคงเป็นเสียงแหลมที่มีรายละเอียดพอประมาณ มีความนุ่มเนียนที่อมหวานแต่จะติดอาการแห้งอยู่บ้าง ปลายเสียงแหลมจะเก็บตัวเร็ว แต่กับ KRELL VANGUARD นั้นสามารถถ่ายทอดเสียงแหลมที่มีความกังวานที่ดี ปลายเสียงแหลมสามารถทอดตัวออกไปได้ดีในระดับหนึ่งก่อนจะค่อยๆเก็บตัวลง (LARS ERSTRAND AND THE FOUR BROTHERS : OPUS3) แน่นอนว่าเป็น KRELL VANGUARD ที่ทำคะแนนได้เหนือกว่า

กับย่านความถี่ต่ำ KRELL VANGUARD จะนำเสนออัปเปอร์เบสที่กระชับ สปีดของดนตรี ดูเหมือนจะถูกดึงให้ช้าลงเล็กน้อย ไม่เริงร่าหรือถูกขึงจนตึงเปรี๊ยะ นับเป็นเสียงเบสที่ฟังผ่อนคลายเหมือนกับ KRELL VANGUARD พยายามจะแจกแจงรายละเอียดของดนตรีในย่านนี้ ออกมาให้ฟังอย่างค่อยเป็นค่อยไป เบสของ KRELL VANGUARD จึงเป็นเบสในแนวนุ่มนวล เรียบร้อย ฟังกลมกลืน ระรื่นหู มากกว่าจะให้ความสำคัญกับน้ำหนักและแรงปะทะที่ขึงขังดุดัน ซึ่งเป็นธรรมดาที่ลูกขุนคอเบสของเราอาจจะรู้สึกผิดหวังกับ KRELL VANGUARD อยู่บ้าง แต่จริงๆ แล้วเพาเวอร์แอมป์ของ KRELL เท่าที่ได้เคยฟังผ่านมาก็จะให้เบสที่มีน้ำหนักและความแน่นในแนวสุขุมนุ่มลึกมากกว่าจะเป็นแนวขึงขัง หรือดุดันอย่างที่ลือกันในอดีต

ข้อข้องใจในเรื่องของเบสนี้ จึงได้ลองเปลี่ยนจากลำโพง แบบวางขาตั้งมาเป็นลำโพงแบบตั้งพื้นแทน เพื่อพิสูจน์ในเรื่องของพละกำลังและความลึกของเบส จาก XAV SMALL ONE “CLASSIC” จึงเปลี่ยนมาเป็นลำโพง XAV รุ่น ROBIN MT ซึ่งเป็นลำโพงแบบ 3 ทาง วางพื้นที่มีวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว ระบบเบสโหลดดิ้ง เป็นแบบ TRANSMISSION LINE ผสมผสานกับหลักการของ ACOUSTIC PRESSURE GRADIENT สามารถให้เบสที่ต่ำลึกถึง 35 Hz ที่ –3 dB ผลปรากฏว่า KRELL VANGUARD สามารถให้เบสที่ลงได้ลึก แต่ก็ยังเป็นเบสที่สุภาพ การแจกแจงรายละเอียดลึกๆ ของเบสทำได้ไม่ดีนัก ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาของ KRELL VANGUARD แต่อย่างใด แต่เป็นปัญหากับสายไฟ AC ที่ยังดีไม่เพียงพอเท่านั้น เพราะพอลองสับเปลี่ยนไปใช้สายไฟ AC ของ MUSIC MUSE รุ่น JORMUNGANDR เท่านั้น พละกำลังและความหนักแน่นของเบส รวมทั้งรายละเอียดลึกๆ ก็ถูกนำเสนอออกมาให้ได้ฟังกันอย่างถนัดและชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงแนวเสียงในแบบสุขุมนุ่มลึก ตามแบบฉบับของ KRELL โดยแท้

สำหรับสมรรถนะทางด้านอิมเมจนั้น KRELL VANGUARD สามารถจะตรึงตำแหน่งได้นิ่ง แบบจับวาง มีความมั่นคงเหนือกว่า ปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ ในระดับราคาใกล้เคียง หรือสูงกว่าอย่างน่าประทับใจ ขนาดของอิมเมจจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจาก KRELL VANGUARD จะจัดวางรูปวงของซาวด์สเตจให้เดินหน้าเข้าหาผู้ฝัง (FORWARD) ซึ่งแตกต่างไปจาก KAV-300i เดิมที่จะจัดวางซาวด์สเตจให้ถอยหลังลงไปกว่าแนวระนาบของลำโพง (LAID BACK) กับขนาดของซาวด์สเตจนั้น KRELL VANGUARD สามารถแสดงความกว้างของซาวด์สเตจออกไปได้กว้างและใหญ่อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งความสามารถในการแสดงระยะห่างระหว่างชิ้นดนตรีก็นำเสนอออกมาได้อย่างโดดเด่น แม้ลำโพงที่ใช้จะเป็นลำโพงขนาดวางหิ้งและวางบนขาตั้งก็ตาม แต่ KRELL VANGUARD ก็แสดงซาวด์สเตจที่กว้างใหญ่ อย่างโอ่อ่า จุดเด่นนี้สามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่าคณะลูกขุนแทบจะทุกคนที่ได้ฟัง KRELL VANGUARDกัน ถ้าจะจับผิดกันจริงๆ ก็มีเพียงตรงสัดส่วนของซาวด์สเตจทางด้านลึกนั้นยังทำได้ไม่ดีเท่ากับทางด้านกว้างเท่านั้น

นี่คงจะเป็นทั้งหมดเท่าที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำที่ค่อนข้างลางเลือนเท่าที่พอจะนึกขึ้นได้ ซึ่งน่าจะพอเป็นคำตอบให้กับลูกขุนท่านนั้นได้บ้าง ไม่มากก็น้อย

            โดยภาพรวมถือว่า KRELL ได้พยายามและปรับปรุงอินทีเกรทแอมป์ของตนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อินทีเกรทแอมป์ของตนมีสมรรถนะที่โดดเด่นในหลายๆ ด้าน KRELL VANGUARD จึงเป็นอินทีเกรทแอมป์ที่ทาง KRELLหมายมั่น และคาดหวังว่ามันจะเป็นอินทีเกรทแอมป์ในระดับ “BEST-EVER” เท่าที่ KRELL เคยทำมา แน่นอนว่า KRELL VANGUARD สามารถตอบโจทย์ที่ว่านี้ได้ดี แต่คำตอบเหล่านั้นหาได้มาจากแรงเชียรหรือเสียงวิจารณ์จากแฟนๆ ของ KRELL เท่านั้น แต่คำตอบนั้นต้องมาจากตัวตนของ KRELL VANGUARD เองเป็นสำคัญ ดูๆ ไป KRELL VANGUARD ก็เป็นอินทีเกรทแอมป์ที่ตอบสนองต่อสุนทรีย์ทางเสียงได้เป็นอย่างดี ฟังเพลงได้ไพเราะกับทุกแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นในแนวออดิโอที่เน้นคุณภาพ ทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ รวมทั้งแผ่นเพลงแนวทั่วไปทั้งไทยและสากลอย่างทั่วถึง ยิ่งถ้าได้ลำโพงที่ให้เสียงในแนวนุ่มนวล อ่อนหวานอย่าง XAV SMALL ONE “SE” ด้วยแล้ว KRELL VANGUARD จะถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่กระจ่าง น้ำเสียงสะอาดสดใส โดดเด่นด้วยความสามารถในการแยกแยะรายละเอียดต่างๆ ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่อาจจะเป็นเพราะ KRELL VANGUARD เลือกจะนำเสนอสิ่งเหล่านี้อย่างตั้งใจ KRELL VANGUARD จึงอาจจะลดหย่อนความกลมกล่อม นุ่มนวลในแบบฉบับของแอมป์ KRELL รุ่นเก่าที่ยังมีลูกขุนบางท่านชมชอบและเก็บความประทับใจดังกล่าวไว้ภายในใจอยู่บ้าง ก็เป็นได้ครับ

 

สรุป

          แน่นอนว่าการมารถึงของ KRELL VANGUARD เปรียบได้กับการนำเสนอผลงานของ KRELL เพื่อเรียกความเชื่อมั่น และตอกย้ำในความเป็น KRELL หนึ่งในผู้นำของแอมปลิไฟเออร์ในระดับสุดยอดของวงการเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ถึงแม้รูปโฉมของ KRELL VANGUARD จะได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรเมื่อเปรียบเทียบกับ KRELL ในอดีต ที่เห็นกันจนชินตาและคุ้นเคย แต่ความบึกบึน แข็งแกร่งของตัวถังและโครงสร้าง รวมทั้งวงจรภายในยังคงความเป็น KRELL ไว้ทุกกระเบียดนิ้ว อีกทั้งใน KRELL VANGUARD นั้น ทาง KRELL ก็ได้พัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ๆ เพื่อให้เท่าทันต่อความต้องการของนักเล่นนักฟังยุคใหม่ อย่างวงจร DIGITAL MODULE เพื่อให้ KRELL VANGUARD เป็นอินทีเกรทแอมป์แห่งยุคสมัยใหม่ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อเปรียบเทียบถึงสมรรถนะกับราคาแล้ว KRELL VANGUARD ถือเป็นอินทีเกรทแอมป์ ที่น่าสนใจเกินจะมองข้ามไปได้ง่ายๆ ส่วน KRELL VANGUARD จะเป็นอินทีเกรทแอมป์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือไม่นั้น คำตอบนี้คุณต้องหาโอกาสไปสัมผัส KRELL VANGUARD และค้นหาคำตอบดังกล่าวนั้นด้วยตัวของคุณเองครับ

รูปลักษณ์: 4 ดาว

สมรรถนะ: 4 ดาว

คุณภาพเสียง: 4 ดาวครึ่ง

ความคุ้มค่า: 4 ดาว

โดยรวม 4 ดาว

ขอขอบคุณ บริษัท ออดิโอเอ๊กซ์เซลส์เลนซ์ จำกัด โทร 0-2631-5375-6 ที่เอื้อเฟื้อเครื่องมาให้ทดสอบในครั้งนี้

Exit mobile version