TEST REPORT: KRELL S-300i Stereo Integrated Amplifier
…เสียงเปลี่ยนแนวเบสหนักหน่วง มาเอาดีช่วงเสียงกลาง -ระดับเทพ !!
มงคล อ่วมเรืองศรี
เอ่ยชื่อถึง KRELL …ไม่มีนักเล่นเครื่องเสียงคนใดที่ไม่รู้จัก อยากได้มาไว้ใช้กันทั้งนั้น – อาจมีบ้างที่ต้องคิดหนักติดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเรื่องของราคา แต่ก็ธรรมดา-ของดี- ไม่มีคำว่า “ถูก” เพราะค่าโสหุ้ยในการผลิตสูง จะให้มีดีก็ต้องใช้วัสดุ-อุปกรณ์เกรดดี ทว่า-ของดี-ที่ไม่แพงนี่ซิ…น่าสน สำหรับใครก็ตามที่มิได้มีเงินถุงเงินถัง แต่นึกพิสมัยในความเป็น KRELL ‘S-300i’ นี่แหละที่ขอแนะนำ
KRELL นั้นเคยได้ชื่อ “the king of high-end solid state amplification” ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ หลังจากก่อกำเนิดขึ้นเมื่อกว่า 30 ปีที่ล่วงมา ด้วยการเปิดตัว ‘KSA-100’ – the first high power, high-current, true Class A biased stereo power amplifier available to audiophiles ในฐานะผลิตภัณฑ์อันดับแรกสุดของบริษัทในช่วงปีคศ.1981 โดยฝีมือของ Dan D’agostino (ก่อตั้งร่วมกับอดีตภรรยา ‘Rondi’ ซึ่งทำหน้าที่ท่านประธานฯ ทว่าปัจจุบัน Dan D’agostino ก้าวออกจาก KRELL มาก่อตั้ง Dan D’Agostino Inc. เนื่องด้วยปัญหาด้านการบริหารภายใน)
“KSA-100” นั้นมีกำลังขับ 100 วัตต์ต่อข้าง และมีจุดเด่นในการใช้วงจรภาคขยายเอาท์พุทแบบ Class A แท้ๆ – แต่ราคาไม่มหาโหด สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ KRELL นั้นอยู่ตรงที่ว่า Dan D’Agostino นี่เป็นทั้งวิศวกรออกแบบ, เป็นเจ้าของ และเป็นผู้บริหารบริษัทไปพร้อมๆ กัน ซึ่งด้วยความเป็นวิศวกร ‘Dan D’Agostino’ จึงนำความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเขาเองอยู่ตลอด เทคโนโลยีที่น่าสนใจของ KRELL เป็นเทคนิคการออกแบบวงจรในลักษณะวงจรขยายเชิงกระแสแบบสมดุล (balance current-mode amplifier) ซึ่งเป็นเทคนิคการออกแบบที่ไม่เหมือนกับวงจรขยายที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ซึ่ง KRELL ก็ยังคงใช้อยู่ตราบจนปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์ของ KRELL มีออกมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และแต่ละเครื่องแต่ละชิ้นก็มิใช่ธรรมดา มักจะมีอะไรให้ต้องพูดถึงกันอยู่เสมอ ในช่วงที่ความเป็นไฮ-เอ็นด์กำลังเบ่งบานประมาณปีคศ.1998, KRELL ก็มีผลิตภัณฑ์ประเภทอินทีเกรทแอมป์รุ่น ‘KAV-300i’ ออกมาจำหน่ายในระดับ entry-level จนได้รับการจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดานักเล่นที่มิได้มีเงินถุงเงินถังทว่าปรารถนาผลิตภัณฑ์ KRELL มาครอบครองจากทั่วทุกมุมโลก และต่อมาก็ได้กลายเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ KRELL เองก็ได้ทุ่มเทพัฒนาตลอดมา ดูได้จากการออกจำหน่ายหลายต่อหลายรุ่นในซีรี่ส์ “KAV-” นี้ติดตามมา จนในที่สุดเมื่อปีคศ.2005, KRELL ก็ได้ออกจำหน่ายอินทีเกรทแอมป์รุ่น “FBI” ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดเจ๋งด้วยระดับราคาใกล้ๆ 2 หมื่นเหรียญ
สำหรับ ‘S-300i’ นับเป็นซีรี่ส์ล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอินทีเกรทแอมป์ของ KRELL ซึ่งมี ‘S-550i’ เป็นรุ่นพี่ใหญ่ที่เพิ่งออกจำหน่ายเมื่อช่วงต้นปีนี้เอง ซึ่งตามติดต่อเนื่องจากความสำเร็จของ S-300i ที่แรกออกจำหน่ายในปีคศ.2009 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามสามารถคว้ารางวัลมามากมาย
คุณลักษณ์
S-300i เป็นสเตอริโอ อินทีเกรทแอมป์แบบ Class A, direct coupled design ที่ให้อัตรากำลังขับ 150 วัตต์ต่อข้างที่ 8 โอห์ม (300 วัตต์ต่อข้างที่ 4 โอห์ม) จากการใช้ high current output transistors จำนวน 4 คู่ในแต่ละแชนแนล ร่วมกับภาคจ่ายไฟแบบ double mono secondary supplies อันทรงพลังด้วยหม้อแปลงแบบ toroidal 750 VA และคาปาซิเตอร์ค่าเก็บประจุรวมสูงถึง 38,000 ไมโครฟารัด ภายใต้ขนาดมิติตัวเครื่อง (กว้าง x สูง x ลึก) 17.25 x 4.0 x 17.50 นิ้ว น้ำหนักตัว 23.1 กก. โดดเด่นด้วย KRELL Current Mode ควบคู่กับ Discrete Balanced Class A Input Stages พร้อมรองรับสัญญาณขาเข้าได้ทั้งแบบ balanced (XLR) จำนวน 1 ชุดและ single-ended (RCA) จำนวน 3 ชุด
KRELL ใช้ surface mount technology ในการออกแบบแผงวงจรของ ‘S-300i’ เพื่อที่จะได้มาซึ่งเส้นทางเดินสัญญาณที่ตรงที่สุด-สั้นที่สุดบนแผงวงจรหลัก มีการควบคุม DC offset สำหรับการรองรับสัญญาณขาเข้า เฉพาะอย่างยิ่งทางช่องเสียบต่อรับสัญญาณขาเข้าแบบ balanced ซึ่งจะมี Burr Brown OP177 op-amps ทำหน้าที่ควบคุม นอกจากนี้ในส่วนของการปรับตั้งระดับความความดังเสียง KRELL ก็ได้ออกแบบไว้เป็นแบบอะนาลอกขนานแท้ ด้วยใช้ FET-switched แบบ surface mount precision resistor ขนาดเล็กจิ๋ว ที่ส่งผ่านสัญญาณตรงจาก microprocessor สำหรับการประมวลผล หลังจากที่รับสัญญาณกำหนดค่าระดับความดังเสียงตรงจากปุ่ม volume บนแผงหน้าเครื่อง ทำหน้าที่เป็น ladder controlled (ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งการเข้ารหัสก่อนส่งต่อไปยังระบบประมวลผล)
ซึ่งปุ่ม volume ของ ‘S-300i’ นี้จะสามารถปรับตั้งระดับความดังเสียงอย่างละเอียดได้มากถึง 151 ระดับอย่างแม่นยำ อีกทั้งในส่วนของวงจรขยายสัญญาณ ในภาคต่างๆ ล้วนใช้ทรานซิสเตอร์แบบที่เป็นตัวๆ อย่างที่เรียกกันว่า discrete transistor โดยไร้ซึ่งการใช้ไอซี ทำให้ ‘S-300i’ มีช่วงย่านความถี่ตอบกว้างไกลมากเป็นพิเศษ พร้อมด้วยคุณลักษณ์พิเศษไร้ซึ่งการอัดอั้นกระแสสัญญาณ (Current Mode) เฉกเช่นแอมปลิไฟเออร์รุ่นต่างๆ ในทุกระดับของ KRELL คุณภาพเสียงของ KRELL จึงโดดเด่นในไดนามิก-ความฉับพลันทันใด รวมถึงความต่อเนื่องไหลลื่นกลมกลืนกัน จนนับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
นอกเหนือจากการรองรับอินพุททางช่องเสียบ balanced (XLR) และ single-ended (RCA) ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ‘S-300i’ ยังมีช่องเสียบ iPod connectivity พร้อมฐานแท่นเสียบต่ออย่างดีมาให้เสร็จสรรพ และนี่นับเป็นอินทีเกรทแอมป์ เครื่องแรกสุดของ KRELL ที่มีช่องเสียบนี้มาให้ อีกทั้งหากผู้ใช้ต้องการนำ ‘S-300i’ ไปใช้งานร่วมกับระบบโฮมเธียเตอร์ ก็สามารถเข้าไปสั่งการจากหน้าเมนู (MENU) เพื่อ “เปิด” ใช้งาน ‘Theater Throughput™ mode’ ซึ่ง volume control ของ S-300i จะไม่ทำหน้าที่ ปล่อยให้ S-300i เป็นเสมือนเพาเวอร์แอมป์ในระบบโฮมเธียเตอร์อย่างสมบูรณ์
บนแผงหน้าเครื่องซึ่งขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมหนาปึ๊ก ติดตั้งปุ่มกด POWER (พร้อม stand-by LED) ไว้ทางด้านซ้ายสุด ถัดมาเป็น infrared sensor รับสัญญาณควบคุมระยะไกล และใกล้ๆ กันก็จะเป็นกลุ่มของปุ่มกด input selector ที่ประกอบไปด้วย S-1, S-2, S-3, B-1 และ iPod ถัดไปก็จะเป็นปุ่ม MUTE (-20 dB) และ MENU ซึ่งจะใช้ควบคู่กับปุ่ม Volume Control ในการทำหน้าที่ enter (‘ตกลง’ หรือ ‘ยืนยัน’) ในการป้อนข้อมูลต่างๆ (ด้วยการกดปุ่ม Volume ลงเบาๆ ) ส่วนทางด้านขวามือสุดจะเป็นจอดิสเพลย์ขนาดใหญ่สีฟ้าสด ที่สามารถปรับตั้งระดับค่าความสว่างได้ 3 ระดับ (Low-Mid-High)
ในขณะที่แผงหลังเครื่องจะติดตั้งขั้วเสียบสายลำโพงแบบ binding posts ของ WBT สำหรับแชนแนลขวาไว้ทางด้านซ้ายมือสุด ใกล้ๆ กันเป็นช่องเสียบจ่ายสัญญาณขาออก PreAmp Output ถัดมาจะเป็นกลุ่มช่องเสียบรับสัญญาณขาเข้า (S-1, S-2, S-3, B-1 รวมถึง iPod Input) ถัดไปก็จะเป็นกลุ่มช่องเสียบ 12 VDC สำหรับ trigger switch in/out และช่องเสียบ RC-5 สำหรับรีโมท คอนโทรลแบบมีสาย ติดๆ กันจะเป็นช่องเสียบ RS-232 สำหรับการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ ถัดมาอีกจะเป็นขั้วเสียบสายลำโพงของ WBT สำหรับแชนแนลซ้าย ส่วนด้านขวามือสุดนั้นติดตั้งช่องเสียบสายไฟฟ้าเข้าเครื่องแบบ IEC-2 ขาขนาดมาตรฐาน 15 แอมป์ พร้อมสวิตช์กด Main Power อยู่ด้านบน เพื่อให้ S-300i เข้าสู่สถานะพร้อมใช้งาน (สอดสัมพันธ์กับปุ่มกด POWER ด้านหน้าเครื่อง)
อนึ่งนั้นในคู่มือของ S-300i ระบุไว้ชัดเจนว่า แนะนำให้ใช้การเสียบต่อสัญญาณขาเข้าแบบ balanced (XLR) หรือ ‘B-1’ เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะการทำงานในระดับสูงสุด เพราะจะมิใช่เพียงแค่ว่า สัญญาณที่ส่งผ่านเข้ามาจะสูญเสียรายละเอียดน้อยที่สุดเท่านั้น หากยังจะได้ผลลัพธ์ทางเสียงอย่างเต็มที่ด้วย เพราะจะได้ค่าเกนการขยาย (gain) สูงขึ้นมาอีกถึง 6 ดีบี สัญญาณรบกวนจึงต่ำสุดๆ เนื่องเพราะถูกหักล้างไปในขั้นตอนขยายสัญญาณ อย่างไรก็ตามทาง KRELL ได้ระบุขั้วทั้ง 3 ของการเสียบต่อแบบ balanced เอาไว้ดังนี้ PIN 1 : Shield (ground); PIN 2 : Non-inverting (hot = +); PIN 3 : inverting (cold = -) ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องของการเสียบต่อใช้งานจะได้ถูกเฟสกัน (in-phase) ตั้งแต่ต้นทาง
คุณภาพการรับฟัง
บอกกันตรงๆ ว่า ฟังแล้วได้ความปลอดโปร่ง โล่งสบาย รวมทั้งความนวลเนียน และละมุนละไม รายละเอียดเสียงในช่วงย่านกลาง-สูงนั้นต้องยอมรับว่า ‘ดีเยี่ยม’ สรรพเสียงในช่วงย่านความถี่กลาง-สูงมีความละเมียด เพริศพริ้ง หางเสียงที่พละพลิ้ว และกังวานทอดยาวไกล ให้ความมีชีวิตชีวาอย่างสมจริง ราวกับเห็นตัวตนอย่างมีลมหายใจ เฉพาะอย่างยิ่งกับชิ้นดนตรีที่เป็นอะคูสติก และเสียงนักร้อง อิมเมจ-ซาวด์สเตจให้การรับรู้ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องใช้จินตนาการลึกล้ำ เสียงชิ้นดนตรีที่ประโคม ประชันกันขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกัน ยังสามารถจำแนกแยกแยะได้ชัดเจน (ไม่มั่วหรือสับสนปนเปกัน) ไร้ซึ่งการซ้อนทับ บดบังตำแหน่งแห่งที่ของแต่ละเสียงที่ประดังประเดขึ้นมาพร้อมๆ กัน
เราสามารถแยกแยะเสียงดนตรีแต่ละชิ้นนั้นได้อย่างแจ่มชัด และนิ่งสนิท ไม่มั่วฟุ้งหรือเบลอ ทั้งเสียงร้องและชิ้นดนตรีทุกชิ้นจะไม่มีอาการเด่นล้ำ นำหน้า แนวตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงออกมา โดยจะไปแผ่กว้างอยู่หลังตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพง พร้อมทั้งความลึกที่ราวกับผนังด้านหลังระบบลำโพงนั้น -เขยิบ- ถอยห่างออกไปไกลขึ้น สิ่งสำคัญที่ทำเอาผมถึงกับ ‘ทึ่ง’ ก็คือ -ความสูง- ที่สูงเลยจากแนวหลังตู้ลำโพงขึ้นไปอย่างสมจริง เสียงฟ้าร้องก็ครืนครั่นอยู่ใกล้ๆ ระดับเพดาน เลยทีเดียว
S-300i ให้ลักษณะน้ำเสียงที่สะอาด สดใส ให้ความสอดประสาน-ไหลลื่นที่ดี ช่วงย่านเสียงสูง สว่าง กระจ่าง หางเสียงทอดยาวไกล ช่วงย่านเสียงกลางให้ความหวานฉ่ำ มีเนื้อมีหนังไม่แห้งกร้าน-กระด้าง ส่วนในด้านการตอบสนองความถี่เสียงต่ำนั้น น้ำหนักของเบสอิ่มใหญ่ ไม่รุ่มร่าม-ยานคราง แม้จะไม่ถึงขนาดกระแทกกระทั้น อัดดันอวัยวะภายในให้สะท้านสะเทือน แต่ก็มี “มัดกล้าม” ที่ให้แรงปะทะอันเด็ดขาดและแม่นยำในจังหวะจะโคน ในความรู้สึกของผม บอกตรงๆ ว่า ‘S-300i’ ให้ลักษณะเสียง -กระเดียด- ไปทางแนวเสียงของแอมป์ยุโรปชั้นยอดที่ “เอาดี” อย่างมากๆ ในช่วงเสียงกลาง-ต่ำได้อย่างมีตัวมีตน มีเนื้อเสียงที่เข้มข้น เข้าขั้นระดับเทพ ในขณะที่ลดพลังความดุดันลงไป ดั่งเช่นที่เคยเป็นมา แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาอย่างอิ่มเอมใจ ก็คือความอบอุ่น มีน้ำมีนวลในน้ำเสียง อีกทั้งในความมีตัวมีตนมีเนื้อเสียงที่เข้มข้นนั้น ก็จะเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่สดใส โปร่งกระจ่าง รวมถึงความกังวานทอดยาวไกลในช่วงปลายหางเสียงสูงๆ ความฉับไวในไดนามิคเสียงยังคงทำได้เป็นอย่างดี
สัญญาณเสียงฉับพลัน จะผุดโผล่อย่างฉับพลันทันใด และให้อาณาบริเวณเสียงที่มีตัวตน ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ไม่เบียดบังซ้อนทับกัน ทั้งยังให้ความกังวานหวานพลิ้วในทุกอณูเสียง เสียงทุกเสียงที่รับฟัง สัมผัสได้ถึงความมีตัวตนของเสียง เป็นเสียงที่มีวิญญาณ มีลมหายใจ แม้แต่เสียงประสานของนักร้องหมู่ ก็แทบจะแยกแยะออกมาได้เป็นเสียงเฉพาะตัวของแต่ละคน-แต่ละคน-เป็นคนๆ ไปกันเลยทีเดียว
ส่วนในด้านของการรับรู้สภาพอิมเมจ-ซาวด์สเตจเสียงนั้น สามารถจำแนก-แยกแยะระดับความลึก-ตื้นของแถว-แนวเสียงที่รับฟังได้อย่างชัดแจ้ง มีความมั่นคง ไม่แกว่งตัววูบวาบ แม้ในขณะที่วงออร์เคสตร้ากำลังแผดสนั่น เสียงนักร้องให้ความรู้สึกมีตัวมีตน มีเนื้อมีหนัง มีมวลมีน้ำหนัก แม้แต่เสียงนักร้องที่สอดประสานเป็นกลุ่มใหญ่ก็ยังให้ความกระจายตัวที่ดี มีช่องว่างระหว่างกลุ่มคน มิได้กระจุกตัวเป็นกลุ่มก้อนหนาทึบ สามารถจำแนก-แยกแยะรายะเอียดแทรกซ้อนเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีน่าประทับใจมาก ทุกสรรพเสียงที่รับฟังล้วนมีทรวดมีทรง ไม่แบนบาง และปรากฏขึ้นอย่างลอยตัวเป็นอิสระ เสมือนลอยตัวออกมา จากตรงโน่นตรงนี้ มีอาณาบริเวณของแต่ละเสียง ไม่เบียดบัง ซ้อนทับกัน ฟังแล้วให้ความระรื่นโสตประสาทเป็นอย่างมาก พร้อมด้วยความกลมกล่อม มีน้ำมีนวลชวนฟัง ให้ความผ่อนคลาย สบายใจ
S-300i บ่งบอกความเป็นแอมปลิไฟเออร์ “ยุคใหม่” ที่ให้การครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้กว้างขวางมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ความรู้สึก-รับรู้ในขณะรับฟัง มีความปลอดโปร่งของจิตใจอย่างได้อารมณ์ร่วมในดนตรีที่รับฟัง ชักจูงให้อยากรับฟังไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ แม้จะมิใช่แอมป์ประเภทมัดกล้ามล่ำบึก กระแทกกระทั้นหนักหน่วง บีบอัดอวัยวะภายใน… แต่รับรองว่า สมรรถนะในด้านการจำแนกแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ – บ่งบอกอาณาบริเวณของเสียงได้อย่างมีปริมณฑลแล้วละก้อ ‘S-300i’ สามารถทำให้คุณต้องทึ่งเลยทีเดียว
สไตล์เพลงที่เหมาะเจาะกับ S-300i น่าจะรองรับได้กับทั้งแนวแจ๊ส, แนวป็อบ, เพลงร้อง และคลาสสิก โดยจะถ่ายทอดสภาพบรรยากาศเสียงที่มีมวลอากาศอันอบอวล ให้ความฉ่ำชุ่ม มีชีวิตชีวา ‘S-300i’ จะถ่ายทอด-ส่งมอบสรรพเสียงชิ้นดนตรีที่เสมือนล่องลอยออกมา จากตรงโน้นตรงนี้ตรงนั้น ซึ่งนี่เองที่ทำให้เรา-ท่านรับฟังได้อย่างซาบซึ้ง เพลิดเพลินใจ เสมือนติดอยู่ในบ่วงเสน่หาตลอดเวลาที่รับฟัง อยากจะฟังไปเรื่อยๆ ไม่รู้สึกเบื่อหรือล้าหู จากแผ่นซีดีชุด The Clarity Collection ในเพลง “La La Means I Love You” รับรู้ได้ถึงมวลอากาศชัดเจนมาก เสียงของนักร้องสาว อยู่หน้าแนวเสียงชิ้นดนตรีออกมาชัดเจน ซึ่งในช่วงเวลา 2.11 นาทีจะได้ยินเสียงเครื่องเคาะจังหวะที่บ่งบอกว่า เป็นเสียงไม้กระทบกันชัดเจน มิได้เป็นเหมือนเสียงจิ้งจกทักอย่างที่เคยได้ฟังจากเครื่องระดับราคาใกล้เคียงกัน แม้กระทั่งเสียงกระดิ่งเบาๆ ก็ยังรับฟังได้ไม่ถูกกลบไปจากเสียงดนตรีรายรอบ
หยิบจับแผ่นซีดี Telarc ชุด Pink Panther ของ Henry Mancini มารับฟัง-รับรู้ได้ถึงความโอ่โถ่งของสถานที่บรรเลง-บันทึกเสียง ในด้านความกังวานแผ่กว้างของเสียงสูงอย่างเสียงกระดิ่งและเหล็กสามเหลี่ยม ซาวด์สเตจอันแผ่กว้างของวงดนตรี มีการแยกอิมเมจเสียงฝั่งซ้าย-ขวาของกลุ่มนักร้องหญิง-ชายชัดเจน มิได้เกาะกลุ่มเป็นก้อน คุณจะได้ยินแม้กระทั่งเสียงสูดลมหายใจ ในเพลงที่ 4 อันกระหึ่มกึกก้อง แผ่เต็มห้อง พร้อมๆ กับรายละเอียดเสียงของสารพัดเครื่องเคาะจังหวะ แม้กระทั่งเสียง cymbal ของกลองชุดที่พละพลิ้วอยู่ตรงตำแหน่งแห่งที่ส่วนท้ายของวง ก็ยังคงชัดเจนแจ่มใส ในความนิ่งสนิท ไม่ว่าคุณจะเร่งระดับความดังเสียงขึ้นมาอีก เพราะความมันในอารมณ์ก็จะยังคงไม่มีเสียงใดที่เด่นล้ำหน้าจนเกินจริงออกมา ทุกชิ้นดนตรีจะยังคงรักษาตำแหน่งแห่งที่อย่างที่ควรจะเป็นไว้อย่างดี
ซึ่งจากเพลงแรกในแผ่น DOTOU BANRI ONDEKOZA (Direct Cutting Edition Disc) ที่บันทึกเสียง KODO แสดงสดมาดีมากๆ ให้การรับรู้ได้ถึงกลองใหญ่ 3-4 ใบที่ถูกระดมตีประชันกันอย่างรุนแรง ให้ทั้งความหนักแน่น พร้อมด้วยแรงกระพือสั่นของหนังหน้ากลอง “สัมผัส” ได้เป็นระลอกคลื่นกระทบกระแทกตัวเราชัดเจน เช่นเดียวกับในเพลง Matsuri จากชุด KITARO Live in America เจ้า S-300i ก็บ่งบอกระลอกคลื่นเสียงเป็นมวลอากาศของหนังหน้ากลองโคโดะที่กำลังสั่นกระพือ พร้อมกับเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าที่เล่นควบคู่กันนั้น “จำแนก” ออกมาได้แจ่มชัดมากอย่างน่าทึ่ง
เมื่อรับฟังจากแผ่นซีดีของ Bob James ชุด Star Box ในเพลง “Feel Like Makin’ Love” นั้นเสียงเบสทั้งอิ่ม-ใหญ่และแผ่กว้าง เสียงดนตรีชัดเจน โปร่งกระจ่างมากทีเดียว ยิ่งรับฟังในเพลง “Marco Polo” ความฉับไวของ S-300i จะทำให้ฟังเพลงนี้ได้สนุกคึกคักเร้าใจมาก เพราะมีเครื่องดนตรีสารพัดสารพันประดังประเดกัน เช่นเดียวกับในแผ่นซีดีชุด RENDEZUOUS ของ Sadao Watanabe ที่เสียงแซกโซโฟนนั้นสมจริงมากทีเดียว รวมทั้งเสียงร้องของ Roberta Flack ที่มีตัวตน มีลมหายใจ รวมทั้งมวลบรรยากาศรายรอบอันอบอวล
จากแผ่นซีดีชุด POSTCARDS ของสังกัด Reference Recordings เสียงร้องประสานของ The Turtle Creek Chorale บ่งบอกออกมาแจ่มชัดว่า แถวแนวของเสียงร้องประสานชายล้วนหมู่ใหญ่ 200 ชีวิตนั้นอยู่ลึก ถัดจากแนวตำแหน่งชิ้นดนตรีเข้าไปเป็นหมู่ที่มีอาณาบริเวณเสียงอย่างน่าทึ่งมากๆ ครับ กับแผ่นซีดีชุด Planet Drum ของ MICHEY HART ที่สามารถส่งมอบการแยกแยะตำแหน่งชิ้นดนตรีที่บรรเลงประโคมพร้อมกันได้ไม่สับสน พร้อมด้วยสภาพเสียงที่เปี่ยมด้วยมวลบรรยากาศของโถงบันทึกเสียงขนาดใหญ่
การแยกแยะตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่อยู่ชิดติดกัน จะไม่ปรากฏอาการสับสนหรือซ้อนทับกัน กลับสามารถรับฟังได้ถึงการเหลื่อมห่างจากกันอย่างมีปริมณฑล ทั้งยังจำแนกความสูง-ต่ำของเสียงที่ตัดกันได้ชัดเจนมาก เสียงเครื่องเคาะจังหวะ-เพอร์คัสชั่นสารพัดประเภทในแผ่น The Kroumata Percussion Ensemble ของ BIS (CD-232) รับฟังอย่างได้อรรถรส สดสว่าง กระจ่างชัด มีน้ำหนัก (มวลเสียง) ขณะถูกเคาะและให้ความกังวานติดตามมาเป็นหางเสียงทอดยาวไกลไม่หดห้วน
เมื่อฟังจากแผ่นซีดีชุด One of a Kind ของ DAVE GRUSIN สังกัด GRP Records เสียงโซปราโนแซกโซโฟนที่เป่าโดย GROVER WASHINGTON,Jr มีลักษณะเป็นลมพ่นออกมาอย่างสมจริง เสียงระฆังหลอดมีความกังวานหวานใสและทอดยาวไกล เปิดโปร่งไม่หดห้วนหรือรู้สึกว่า ถูกอัดอั้นกั้นไว้แม้แต่น้อย และแล้วก็ต้องตกอยู่ในอาการ “ตะลึง” เมื่อนำเอาแผ่นซีดีชุด ROSSY Islannd of Ghosts มาเปิดฟัง ทั้งๆ ที่เป็นแผ่นธรรมดาสามัญ ผลิตแผ่นในเยอรมัน ทว่า ‘S-300i’ ก็สามารถบ่งบอกรายละเอียดหลายต่อหลายประการซึ่งบันทึกอยู่ในแผ่นนี้ ที่เคยได้ยินไม่ค่อยจะชัดเจนนักจากการรับฟังผ่านปรีแอมป์+เพาเวอร์แอมป์บางเครื่องด้วยซ้ำ แต่นี้ทั้งๆ ที่เป็นอินทีเกรทแอมป์ กลับสามารถส่งมอบ “ความแตกต่าง” อย่างชนิดไม่ต้องตั้งใจฟัง
เสียงร้องประสานหมู่ชายในเพลง KILA ให้ความเป็นตัวตนอย่างอิสระ ไม่ติด-เบียดกันรวมเป็นปึก เสียงที่เปล่งออกมาจากแต่ละคนนั้นมีอาณาบริเวณเสียง มีมวลอากาศโอบรอบ มีลมหายใจ พอถึงช่วงกลางเพลงจะมีเสียงนักร้องหญิงแทรกตัวขึ้นมาเบาๆ ก็ยังสามารถรับฟังได้ไม่เบลอหรือถูกกลบกลืนไปกับเสียงโดยรวม ช่วงเสียงตัวลีเมอร์ที่อยู่ในป่า ร้องโต้ตอบกลับมาไกลๆ กับตัวลีเมอร์ที่อยู่ในกรง บอกตรงๆ ฟังแล้วขนลุกครับ ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงลักษณะนี้จากอินทีเกรทแอมป์…!!!
สรุปส่งท้าย
‘S-300i’ สามารถทำให้คุณสัมผัส-รับรู้ได้ถึงความอิ่มฉ่ำของสรรพเสียง เป็นเสียงที่นวลเนียน ไร้ซึ่งความสากกร้านคมแข็ง ทุกสรรพเสียงที่รับฟังล้วนกระปรี่กระเปร่า ฉับไว ไม่แช่มช้า สัมผัสได้ถึงอณูของมวลอากาศอันอบอวลของสภาพบรรยากาศรายรอบในสถานที่การแสดงหรือใช้บันทึกเสียง สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดเสียงต่างๆ ได้อย่างไม่ซ้อนทับกัน แม้เสียงนั้นๆ จะแผ่วเบา หรือ ได้ยินแว่วๆ ก็ตาม ‘S-300i’ ให้ความสมจริงอย่างมากกับความรู้สึกรับรู้ในเวทีเสียง ซึ่งพูดได้เต็มปากว่า “เสมือน 3 มิติ” เพราะครบถ้วนทั้งกว้าง-สูง-ลึก ความกว้างที่แผ่ตัวออกไปจนจรดผนังห้อง ส่วนความลึกนั้น-ทั่วไปจะไม่ถึงขนาดผนังหลังห้องล่องหนหายไป แต่ก็สัมผัสได้เสมือนว่าทะลุเลยผนังหลังห้องออกไป ในขณะที่ระดับความสูงนั้น รับรู้ได้ชัดเจนว่า สามารถไล่ระดับสูง-ต่ำของชิ้นดนตรีต่างๆ รวมถึงทิศทางที่มาของเสียงรายรอบ-สอดแทรกต่างๆ ได้อย่างสมจริง นอกจากนี้ฝีมือการประกอบของชิ้นงานจัดว่า เยี่ยมยอดมาก ประณีตไม่แพ้แหล่งผลิตในอเมริกา จัดว่าคุ้มค่าน่าใช้ครับ
ขอขอบคุณ Audio Excellence Ltd. โทร. 0-2631-5375-6 ที่เอื้อเฟื้อ Krell S-300i มาให้ทดสอบในครั้งนี้
