Test Report : KEF REFERENCE 3 Meta ลำโพงตั้งวางพื้นระดับอ้างอิง รุ่นรองเรือธงของ KEF

0

นับตั้งแต่ปี 1961 “KEF” ได้สร้างสรรค์ลำโพงที่ได้รับรางวัลอันน่าทึ่งนี้ ในสหราชอาณาจักร ณ เมือง Maidstone รัฐ Kent ในฐานะลำโพงไฮ-ไฟซีรี่ส์หลัก และทุกวันนี้ “The REFERENCE Series” ยังคงได้รับการออกแบบ ประดิษฐ์ และสรรค์สร้างด้วยมือ (handcrafted) ใน Maidstone กระทั่งปัจจุบัน ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบระดับไฮ-เอนด์ขนานแท้ พร้อมกับคุณลักษณ์ทางเสียงที่แม่นยำและสมจริง กลุ่มผลิตภัณฑ์ The REFERENCE (รวมถึง Blade) จึงเป็นหนึ่งในโซลูชั่นลำโพงที่หรูหราที่สุดของ KEF   

ซึ่งในปี 1973 “The REFERENCE Series” ของ KEF ก็ยังคงสร้างมาตรฐานสำหรับความเป็นลำโพง และการสร้างสรรค์เสียง (sound reproduction) ได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อให้ได้เสียงที่แม่นยำสูงสุด ซึ่งลำโพงทุกคู่ในเรนจ์ “The REFERENCE Series” สามารถจับคู่ลงตัวกันได้ (matched) ภายในช่วง 0.5dB เทียบเคียงกับมาตรฐานอ้างอิงในห้องปฏิบัติการ 

นับตั้งแต่ความเป็น “The Reference Speaker” คู่แรกของ KEF ได้บังเกิดขึ้นเป็นบรรทัดฐาน วิศวกรของ KEF ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่ๆ นั้นเป็นพัฒนาการลำดับต่อๆ ไปมาโดยตลอด The Reference ถือเป็นผลงานชิ้นแรก ที่ไม่เคยมีมาก่อน ในการออกผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ ในแต่ละครั้ง ก็ได้เพิ่มความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อะคูสติกมากขึ้นเรื่อยๆทำให้มั่นใจได้ว่า “The REFERENCE Series” เป็นองค์ความรู้ด้าน science of acoustics ที่แปลกใหม่ในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์แขนงนี้ของโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ฟัง  

“The REFERENCE” ให้ความแม่นยำทางเรขาคณิต (geometrical) มากยิ่งขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังได้รับการเพิ่มเติมในส่วนของ ‘Meta’ – เทคโนโลยีการดูดซึม/สลายแรงสั่นสะเทือน ที่มีชื่อเรียกขานเต็มๆ ว่า Metamaterial (MAT™) ผนวกเข้าไว้ ทั้งนี้ ‘Meta’ เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ KEF ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการสั่นสะเทือน และลดการสูญเสียความกระจ่างชัดของรายละเอียดเสียง “The REFERENCE range” ออกแบบ และ ผลิตในสหราชอาณาจักร ภายใต้รูปแบบที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีตัวเลือกพิเศษอยู่ 5 รุ่นด้วยกัน เริ่มจาก: REFERENCE 1 Meta (รุ่นเล็กสุด แบบวางขาตั้ง), REFERENCE 2 Meta (ลำโพงเซนเตอร์), REFERENCE 3 Meta (ตั้งวางพื้น), REFERENCE 4 Meta (ลำโพงเซนเตอร์) และ REFERENCE 5 Meta (ตั้งวางพื้น รุ่นใหญ่สุด)  

โดยที่ REFERENCE 3 Meta นั้นให้การยืดขยายช่วงความถี่ต่ำที่ลงได้ลึกล้ำมากกว่า REFERENCE 1 Meta ในขณะที่มีขนาดกะทัดรัดกว่า REFERENCE 5 Meta ทำให้ REFERENCE 3 Meta เข้าได้กับห้องส่วนใหญ่ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นลำโพงตั้งพื้น (สามทาง สองรุ่น) ลำโพงวางขาตั้ง (สามทาง หนึ่งรุ่น) และลำโพงเซนเตอร์ (สามทาง สองรุ่น) ที่สามารถใช้งานร่วมกันเป็นลำโพง LCR และได้รับการจับคู่แต่ละคู่ (matched pair) ภายในช่วง 0.5dB ของมาตรฐานอ้างอิงในห้องปฏิบัติการ และยังมีตัวตู้ให้เลือกได้ 3 สีด้วยกัน 

คุณลักษณ์ 

REFERENCE 3 Meta เป็นระบบ 3 ทางสมบูรณ์แบบ ศักดิ์ศรีเป็นรองรุ่น REFERENCE 5 Meta ที่เป็นระดับเรือธงล่าสุดของ KEF ความโดดเด่นของ REFERENCE 3 Meta อยู่ที่ไดร์เวอร์ “Uni-Q® 12th generation” พร้อมเทคโนโลยี MAT™ ที่เป็นจุดเด่นของ REFERENCE Series ทั้งนี้ REFERENCE 3 Meta ได้รับการออกแบบให้สามารถสร้างเวทีเสียงที่เร้าใจสำหรับผู้ฟัง ด้วยหัวใจสำคัญของพัฒนาการด้านสลาย-ซึมซับแรงสั่นสะเทือนภายใน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก KEF ภายใต้ชื่อ Metamaterial Absorption Technology (MAT™) ควบคู่กับชุดไดรเวอร์ Uni-Q® พัฒนาการล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 12 ด้วยหลักการนำตัวทวีตเตอร์ขับขานย่านความถี่เสียงสูง มาติดตั้งแบบร่วมแกนอยู่ตรงใจกลางของตัวขับเสียงกลาง/แหลม ทำให้เสียงกลางและเสียงสูงถูกยิงออกมาจากตำแหน่งเดียวกัน ซึ่งไม่ว่าคุณจะนั่งฟังตรงไหน คุณจะยังคงได้ยินทุกรายละเอียดเสียง ผลักดันประสิทธิภาพไปสู่ขีดสุดใหม่ของ KEF 

ไดรเวอร์ Uni-Q® พัฒนาการล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 12 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีตำแหน่งรับฟังที่ดีที่สุด หรือ sweet spot ของช่วงย่านเสียงสูง (treble) ได้อย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ชุดแม่เหล็กขับเคลื่อนก็ถูกออกแบบให้มีความผิดเพี้ยนต่ำพิเศษ ช่วยลดความผิดเพี้ยนของฮาร์โมนิครวมในช่วงเสียงกลางได้เพิ่มเติมขึ้นมาอย่างให้ผลใช้งานจริง และยังส่งผลปรับปรุงประสิทธิภาพในทุกย่านความถี่อีกด้วย ทั้งนี้ MAT นับเป็น “เครื่องมือปฏิวัติ” (revolutionary tool) ในด้านอะคูลติกของ KEF โดยมีความสามารถในการดูดซับเสียงที่ไม่ต้องการได้ถึง 99% ซึ่งช่วยลดความผิดเพี้ยนเพื่อประสิทธิภาพที่ชัดเจนและสมจริงยิ่งขึ้น ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า REFERENCE 3 Meta จะสามารถสร้าง “เสียงที่โปร่งใสและสมจริงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา”  

REFERENCE 3 Meta มี DNA แบบเดียวกับ REFERENCE 5 Meta ที่อยู่ในระดับรุ่นเรือธง ภายใต้ขนาดตัวตู้ที่เล็กกว่า “REFERENCE 3 Meta” ได้รับการติดตั้งตัวขับเสียงเบสรุ่นใหม่ ตัวกรวยโลหะผสมอัลลอยด์ (alloy cone bass driver) ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 2 ตัวทำงานร่วมกัน โดยติดตั้งอยู่ในตำแหน่งขนาบด้านบนและด้านล่างของ MF/HF Uni-Q driver array ล่าสุดของ KEF ขนาด 5 นิ้ว ซึ่ง “Uni-Q driver array” นี้นับเป็นหัวใจสำคัญของ “The REFERENCE” นับเป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นของ KEF ในความเป็น Uni-Q point source ซึ่งติดตั้งทวีตเตอร์โดมอะลูมิเนียมแบบ มีช่องระบายอากาศ (vented aluminium dome tweeter) ที่ล้ำสมัยขนาด 25 มม. (1 นิ้ว) ณ ตำแหน่งศูนย์กลาง “ใจกลางเสียง” (acoustic center) ของไดรเวอร์เสียงกลางขนาด 125 มม. (5 นิ้ว) ที่มีความซับซ้อนสูง ไดรเวอร์ทั้งสองตัวนี้ทำหน้าที่ร่วมกันเป็นแหล่งกำเนิดเสียงจุดเดียว (single source) ที่ทำให้พื้นที่การรับฟังแผ่กว้างเต็มพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยสนามเสียงที่เป็นธรรมชาติ (natural sound field) อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าผู้ฟังจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดก็ตามในห้อง สามารถจับทุกความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ของเสียงมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระซิบ คำพูด หรือร้องเพลง ได้ราวกับว่า นักร้องคนนั้นอยู่ที่นั่นกับคุณในห้องนั้นขณะกำลังรับฟัง ด้วยประสิทธิภาพที่ชวนตะลึงและนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่บุกเบิกสำหรับความเป็นลำโพงอ้างอิง 

REFERENCE 3 Meta ได้รับการติดตั้งตัวขับเสียงเบสรุ่นใหม่ ตัวกรวยเป็นโลหะผสมอัลลอยด์ (alloy cone bass driver) ที่เบา, แข็ง และแกร่งเป็นพิเศษ ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 2 ตัวทำงานร่วมกัน ส่งมอบเสียงเบสที่สะอาด อิ่มอุดม และให้แม่นยำในความแจ่มชัด (articulate) ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่รับฟังอย่างเปี่ยมในรายละเอียด ไดรเวอร์ LF รุ่นใหม่นี้แตกต่างออกไปจากไดรเวอร์เดิม ด้วยชุดแม่เหล็กระบายอากาศขนาดใหญ่ รวมทั้งวอยซ์คอยล์ลวดอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ จัดการพลังงานขับเคลื่อนอย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะฟังดังฟังค่อย ก็ยังคงส่งมอบรายละเอียดของเสียงเบสเต็มรูปแบบอย่างล้ำลึก จากการผสมผสานระหว่างวัสดุขั้นสูงและวิศวกรรมอันชาญฉลาด ทั้งยังผสมผสานอย่างลงตัวกับการตอบสนองช่วงเสียงกลางและเสียงแหลมอันไร้ที่ติของ MF/HF Uni-Q driver array ขนาด 5 นิ้ว  

ไดรเวอร์ทุกตัวของ REFERENCE 3 Meta ได้รับการติดตั้งไว้บนแผงหน้าตัวตู้ (front baffle) ที่ผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างดี เพื่อลดความผิดปกติของการตอบสนองที่เกิดจากการเลี้ยวเบนของเสียง (diffraction) แผงหน้าตัวตู้นี้ผลิตจากคอมโพสิตอะลูมิเนียม/เรซินเคลือบ (exceptionally strong laminated aluminium/resin composite) ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เสริมการคาดโครงคร่าวภายในเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างสูงสุดให้กับตัวตู้ที่มีความเฉื่อย (inert cabinet) รูปร่างการคาดโครงคร่าวและรูปทรงการค้ำยันภายในตัวตู้ได้รับการปรับให้เหมาะสมด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อลดการแผ่กระจายคลื่นสั่นสะเทือนทุติยภูมิ (secondary radiation) จากผนังตัวตู้ให้น้อยที่สุด และลดการบิดเบือนจากคลื่นสั่นค้าง (standing waves) ด้วยการใช้ constrained layer ในการหน่วงหนืด (damping) เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือนที่ตกค้าง เนื่องเพราะได้รับการออกแบบมาทำการกำจัดเรสโซแนนซ์ของผนังตัวตู้ รวมถึง stray reflections หรือ อาการแต่งแต้มสีสันของตัวตู้ (box coloration) ที่อาจส่งผลต่อความบริสุทธิ์ของเสียง 

เทคโนโลยีของท่อเปิด (port) ซึ่ง KEF เรียกขานว่า Flexible Port Technology บุกเบิกสำหรับ LS50 เป็นครั้งแรกจนได้รับรางวัลมากมายนั้น ช่วยลดเรสโซแนนซ์ย่านเสียงกลางของท่อเปิด ด้วยรูปทรงโปรไฟล์ (profile) และลักษณะปากผายออก (profile) ของแต่ละพอร์ตที่ผ่านการคำนวณอย่างดีในเชิงของ computational fluid dynamics เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากอากาศที่ปั่นป่วนภายในท่อ ซึ่งอาจทำให้เสียงเกิดอาการเปลี่ยนแปลงของสีสันผิดเพี้ยนไป แต่สำหรับ REFERENCE 3 Meta มีพอร์ตที่นับเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งผู้ใช้ปรับเปลี่ยน (ถอด-ใส่) ได้เอง 2 พอร์ตด้วยกัน ‘พอร์ตสั้น’ กับ ‘พอร์ตยาว’ เพื่อปรับแต่งเอาต์พุตเสียงเบสอย่างละเอียดให้เหมาะกับรสนิยมส่วนตัวของผู้ฟัง รวมถึงลักษณะเฉพาะของห้องฟัง REFERENCE 3 Meta จึงให้ความยืดหยุ่นสูงสุดได้กับทุกห้อง โดยพอร์ตสั้นจะให้การตอบสนองความถี่สำหรับ REFERENCE 3 Meta ครอบคลุมตั้งแต่ 38Hz ถึง 45kHz (-6dB) และพอร์ตยาวจะให้การตอบสนอง 35Hz ถึง 45kHz (-6dB)  

มาถึงเรื่องของ crossover networks ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบลำโพง วิศวกรของ KEF ได้สร้างโมเดลจำลองของครอสโอเวอร์ เนทเวอร์คในอุดมคติด้วยคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะทำการคัดเลือกส่วนประกอบคุณภาพสูงทุกชิ้นมาใช้งานร่วมกัน เพื่อเลือกส่วนประกอบที่มีการบิดเบือนน้อยที่สุด และให้การตอบสนองความถี่ที่ราบรื่นที่สุด – ครอสโอเวอร์เนทเวอร์ของ REFERENCE 3 Meta จะถูกติดตั้งบนบอร์ดแยกกัน และแยกออกจากผนังตัวตู้ เพื่อลดการถูกกระทำจากแรงสั่นสะเทือน รวมถึงครอสทอล์ค (crosstalk) 

พิเศษสุดด้วยความเป็น Meta ใน REFERENCE 3 Meta …ไดรเวอร์ Uni-Q® พัฒนาการล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 12 พร้อมด้วยตัวขับเสียงสูงโดมอะลูมิเนียมขนาด 25 มม. (1 “) ได้ติดตั้งเทคโนโลยีด้านการสลาย-ซึมซับแรงสั่นสะเทือนภายใน ภายใต้ชื่อ Metamaterial Absorption Technology (MAT™) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก KEF ให้อัตราการดูดซับมากถึง 99% บริเวณด้านหลังของไดรเวอร์ Uni-Q® ในระหว่างช่วงความถี่ 620 Hz – 40 kHz ทำให้ได้ผลลัพธ์ช่วยขจัดความผิดเพี้ยนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เสียงที่รับฟังมีความบริสุทธิ์ที่สุดอย่างที่ต้องการ 

Tech Specs 

Design 
Three-way bass reflex 

 
Drive units 
Uni-Q driver array: 
HF: 25 mm (1 in.) aluminium dome with MAT 
MF: 125 mm (5 in.) aluminium cone 
Bass units: 
LF: 2 x 165 mm (6.5 in.) aluminium cone 

 
Frequency range free field (-6dB) 
Short port: 38Hz – 45kHz 
Long port: 35Hz – 45kHz 

 
Frequency range typical in room bass response (-6dB) 
28Hz 

 
Frequency response (±3dB) 
43Hz – 35kHz 

 
Crossover frequency 
450 Hz, 2.1 kHz 

 
Amplifier requirements 
50 – 300W 

 
Sensitivity (2.83V/1m) 
86dB 

 
Harmonic distortion 2nd & 3rd harmonics (90dB, 1m) 
<0.5% 40Hz – 100kHz 
<0.2% 200Hz – 2kHz 
<0.1% 2kHz – 20kHz 

 
Maximum output (peak sound pressure level at 1m with pink noise) 
113.5dB 

 
Impedance 
4 Ω (min. 3.2 Ω) 

 
Weight 
51.3 kg (113.1 lbs.) 

 
Dimensions (H x W x D)(with grille and terminal) 
1155 x 205 x 462 mm(45.5 x 8.1 x 18.2 in.) 

ผลการรับฟัง 

เราๆ ท่านๆ เชื่อมั่นความเป็น KEF ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในการส่งมอบรายละเอียดสูง ควบคู่กับเทคนิคขั้นสูง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์วิจัยอันสมบูรณ์แบบ REFERENCE 3 Meta ให้การรับฟังที่บริสุทธิ์เสมือนกับเสียงดนตรีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ปล่อยพลังเสียงจากจุดกำเนิดเสียงเพียงจุดเดียว ส่งมอบเสียงอบอุ่นมีชีวิตชีวา มีมวลอากาศ และเป็นธรรมชาติอย่างเหลือเชื่อ ทั้งยังบ่งบอกความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ของเสียงจำเพาะที่ลำโพงระดับท็อปนั้นพึงมี.. 

ด้วยวูฟเฟอร์แบบ aluminium cone ของ REFERENCE 3 Meta รับรู้ได้ถึงเสียงเบสที่ทิ้งทอดตัวลงต่ำได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว พร้อมด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะสมจริงสมจัง เบสต่ำๆ นั้นก็ตอบสนองลงไปลึกล้ำมากๆ ทั้งนี้ REFERENCE 3 Meta ได้รับการติดตั้ง “ท่อเปิด” มาสองท่อทางด้านหลังตัวตู้ แยกสำหรับวูฟเฟอร์ตัวบน และวูฟเฟอร์ตัวล่าง ซึ่งจากการรับฟังของ What Hi-Fi? Thailand ได้ลองใช้ท่อเปิด ทั้งท่อสั้น (short port) และ ท่อยาว (long port) เพื่อให้รับทราบถึงบุคลิกทางเสียงระหว่าง ซึ่งได้พบว่า “ท่อสั้น” จะให้ลักษณะเบสที่มีความกระชับ เรี่ยวแรงปะทะเด็ดขาด มวลของเบสไม่หนามากนัก และไม่กลบกลืนช่วงย่านเสียงกลางต่ำจนสูญเสียรายละเอียด ในขณะที่ “ท่อยาว” จะให้เนื้อเสียงต่ำที่เข้มข้นขึ้น มวลเบสหนา-แผ่ใหญ่ และเปี่ยมพลัง ทั้งยังลงไปได้ลึกล้ำ ดื่มด่ำ อิ่มแน่น ทว่าอาจมีบ้างบางช่วงย่านที่ส่งผลกระทบกลบกลืนรายละเอียดของช่วงย่านเสียงกลางต่ำ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้รู้สึกถึงความเฉื่อยเนือยของเสียงเบสแต่อย่างใด ทั้งนี้เราได้ลองใช้งานในแบบของท่อสั้นทั้งคู่ และ ท่อยาวทั้งคู่แล้วพบว่า การใช้ท่อยาวสำหรับวูฟเฟอร์ตัวบน และท่อสั้นสำหรับวูฟเฟอร์ตัวล่าง จะให้ผลลัพธ์การฟังที่ลงตัวสำหรับห้องฟังของ What Hi-Fi? Thailand 

แต่กระนั้น การจะสรุปสุดท้ายอย่างนั้นอย่างนี้ -ดีที่สุด- คงฟันธงลงไปไม่ได้ มิเช่นนั้นทาง KEF ก็คงจะไม่ส่งมอบท่อสั้น และ ท่อยาวมาให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้งานตามที่ความเหมาะสมของการรับฟัง – – ใช่ครับ จำเป็นต้องรับฟัง มิใช่มองดูแค่ตัวเลขสเปคค่าการตอบสนองความถี่เสียงตามที่ระบุมา …ทว่ายืนยันได้ว่า REFERENCE 3 Meta ให้เรี่ยวแรงที่หนักแน่น และทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ เป็นพลังงานกระทบปะทะ-กระแทกกระทั้นในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เรียกร้องความน่าตื่นเต้นจนเกินจริง การตอบสนองความถี่เสียงที่ยึดขยาย-ทอดตัวจากบนลงล่างให้ความราบเรียบระรื่น ไม่รู้สึกถึงการเพิ่ม หรือ ลด (เน้น หรือ กด) ช่วงความถี่ใดช่วงหนึ่ง การนำเสนอสุ้มเสียงที่ส่องสว่างสดใส โดยไม่สปอตไลท์ในช่วงใดช่วงหนึ่งขึ้นมาโดดเด่นโดยเฉพาะ 

แน่นอนว่า ด้วยความเป็นลำโพงตั้งพื้น ขนาด 45.5 x 8.1 x 18.2 นิ้ว ของ REFERENCE 3 Meta สามารถเปิดฟังได้ดังขึ้น จึงเหมาะสมกับห้องฟัง หรือ ห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่กว้างขวาง โดยยังคงให้เสียงที่มั่นคง หนักแน่น และควบคุมตัวได้อย่างแม่นยำ โดยไม่รู้สึกถึงการบิดเบือนใดๆ อย่างไรก็ตาม ความที่ REFERENCE 3 Meta ได้รับการติดตั้งตัวขับเสียงทั้งหมดไว้ในลักษณะของ D’Apollito configuration ที่ให้ความสมมาตร (symmetry) ของการกระจายเสียงในแนวดิ่ง รวมถึง ไดรเวอร์ Uni-Q® ที่ให้การกระจายเสียงที่แผ่กว้างในแนวระนาบ REFERENCE 3 Meta จึงสามารถให้ผลลัพธ์ของการรับรู้รับฟังในอิมเมจ-ซาวด์สเตจที่เด่นชัดทั้งกว้าง-สูง-ลึกโดยไม่ต้องจินตนาการใดๆ 

D’Apollito configuration 

ไม่ต้องถึงขนาดหลับตาฟัง ก็จะรับรู้ได้ถึง “กำแพงเสียง” ที่ให้ความรู้สึกเต็มไปด้วยรายละเอียดและความเอิบอิ่ม รวมถึงพลังเสียงอันหนักแน่น ควบคู่ความโปร่งกระจ่างสดใส และความฉับไวในการส่งมอบทรานส์เชี้ยนท์ (transient response) รวมถึงการนำเสนอรายละเอียดต่างๆ (resolution) อย่างแจ่มชัด การถ่ายทอดจินตภาพเสียงที่ชัดเจนทั้งกว้าง-สูง-ลึกไม่ต้องมโน และด้วยความที่ REFERENCE 3 Meta ครอบคลุมการตอบสนองความถี่เสียงได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ได้รู้สึกถึงความต่างระหว่างการใช่ท่อสั้น หรือ ท่อยาว ซึ่งนั่นก็แล้วแต่รสนิยมผู้ฟังแต่ละคนๆ ไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่า จะเป็นลำโพงตั้งวางพื้นขนาดค่อนข้างใหญ่ ทว่า REFERENCE 3 Meta ก็ขับขานได้ง่าย ไม่กินกำลังขับ ดังนั้นใครก็ตามที่รักชอบในแอมป์หลอดฯ ซิงเกิ้ล-เอ็นด์ หรือ แอมป์โซลิด-สเตทคลาส เอ ที่มีกำลังขับไม่ได้มากมายอะไรนัก ก็สามารถทำให้ REFERENCE 3 Meta ส่งมอบความประทับใจในทุกด้านให้แก่คุณขณะรับฟัง แม้ที่ระดับความดังไม่มากนัก คุณก็ยังรับรู้ได้ในความครบถ้วน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่วาระ 60th Anniversary ของ KEF เป็นต้นมา KEF ได้มีพัฒนาการน่าตื่นใจนำเสนอมาโดยตลอด จนเรา-ท่านคงต้องจับตามองความก้าวหน้ากันต่อไป… 

สรุปส่งท้าย 

Uni-Q driver array technology ของ KEF สามารถสร้างตำแหน่งนั่งฟังทางอะคูสติกที่ดีที่สุด หรือ “sweet spot” ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ ณ ที่ใดก็ตามในห้องฟัง ไม่จำเป็นต้องนั่งนิ่งอยู่ตำแหน่งเดียงตรงกลางระหว่างลำโพงซ้าย-ขวา ด้วยหลักการยิงเสียงจากไดรเวอร์แบบ single point ที่ให้ความสมานเสมอทางค่าเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างความถี่เสียงสูงและเสียงกลางอย่างที่ลำโพงธรรมดาให้ไม่ได้ ซึ่งแม้ว่า REFERENCE 3 Meta อาจไม่ใช่ลำโพงราคาย่อมเยาที่ใครๆ จะซื้อหามาครอบครองได้ แต่หากคุณใส่ใจในความครบถ้วนสมบูรณ์ของคุณภาพเสียง เคียงคู่ความหรูหรา ดูงามสง่า ให้ความภาคภูมิใจในความเป็นผลิตภัณฑ์ Made in England แท้ๆ ก็ถือได้ว่า REFERENCE 3 Meta นับเป็นลำโพงระดับพรีเมี่ยมที่ให้เสียงดีเยี่ยม และดูอลังการในทุกห้องในทุกๆ ตำแหน่งตั้งวางของบ้านคุณ 

ขอขอบคุณ Vgadz Corporation Co.,Ltd ที่เอื้อเฟือ KEF: REFERENCE 3 Meta ในการรับฟังครั้งนี้ 

“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””