What HI-FI? Thailand

Test Report: JBL Studio 530

Test Report

ไมตรี ทรัพย์อเนกสันติ E-Mail : maitreeav@gmail.com

JBL Studio 530

ตอกย้ำอีกครั้งว่า ค่ายนี้ฝีมือพระกาฬ

 

JBL Studio 530

 

ผมเพิ่งทดสอบลำโพง JBL Studio 580 (S-580 3 ทางวางพื้นในตระกูลเดียวกันของ JBL ไป) จริงๆ อยากทดสอบรุ่น S-530 นี้มากกว่าเพราะ

  1. มันเป็นลำโพงปากแตรเดียวในราคาชาวบ้าน ที่วางปากแตรแนวตั้งแทนที่จะเป็นแนวนอน เหมือนระบบปากแตร (ฮอร์น) ทั่วไป
  2. มันน่าจะเอี่ยวเทคโนโลยีมาจากตระกูล ARRAY ของ JBL ที่แพงกว่าประมาณ 15 เท่า!

 

คุณสมบัติของ S-530

เป็นลำโพงวางหิ้งตู้เปิด มีรูกลมระบายอากาศอยู่ด้านหลัง ตัวตู้จะบีบแคบลงด้านหลัง (มองจากด้านบนจะคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมู) เพื่อลดคลื่นก้องค้างภายในตู้ และช่วยรีดทุ้มออกรูกลมระบายด้านหลัง ทำให้ทุ้มเข้ม, เร็วขึ้นชัดขึ้น (ซึ่งในการทดสอบก็ได้ผลอย่างนั้นจริง)

ดอกลำโพงเสียงแหลมแบบโดมขนาด 1 นิ้ว (compression) ยิงเสียงผ่านปากแตร Bi-Radial (ลิขสิทธิ์ของ JBL) ที่บานออกทั้งแนวนอนและแนวดิ่ง (เน้นกว้างในแนวตั้งมากกว่า) เพื่อรวบรวมพลังเสียงพุ่งมาด้านหน้า ลดการกระจายเสียงทั้งแนวตั้งกับแนวนอนไม่ใช่กว้างมากจนอาจไปสะท้อนฝาห้องกลับมาป่วนได้ นอกจากนั้นการกระจายเสียงได้กว้างขึ้น (ในแนวดิ่ง) จะช่วยให้เสียงจากดอกแหลมกระจายมาสอดรับกับเสียงจากดอกกลางทุ้ม 5 ¼ นิ้วที่อยู่ต่ำลงไปกว่าคืบได้ดียิ่งขึ้นด้วย ช่วยเพิ่มความเป็นจุดกำเนิดเสียงเดียวกันได้ดีขึ้น (POINT SOURCE) แม้ดอกทั้งสองจะห่างกัน (ตรงข้ามกับระบบปากแตรที่วางกว้างแนวนอนทั่วไป ยิ่งจะบีบลำเสียงจากดอกแหลมให้มีมุมแนวตั้งจำกัดมากจนยากจะไปกลืนกับเสียงจากคอกอื่นๆ ได้)

ดอกลำโพงเสียงกลาง-ทุ้มกรวย 5 ¼ นิ้วเป็นพลาสติกสังเคราะห์ Poly Plas กรอบเป็นวงแหวน 2 – 3 ชั้น ช่วยเพิ่มความแกร่ง ระบบแม่เหล็กแบบ SFG (Symmetrical Field Geometry) ช่วยเพิ่มความแม่นยำของการขับคลื่นวอยซ์คอยล์ และลดความเพี้ยนลงแม้ถูกอัดหนักๆ โครงลำโพงเป็นโลหะหล่อ (Cast Frame)

การต่อสายลำโพงเป็นขั้วไบ-ไวร์ ชุบทองขนาดใหญ่อย่างดี สามารถดึงหน้ากากดำที่ปิดดอกกลางทุ้มออก แล้วเอาฝาปากแตรที่ให้มาด้วย มาปิดส่วนล่างของปากแตรแทนได้

 

 

สเปค

รับกำลังขับได้สูงสุด                            125 W

ความถี่ตอบสนอง                                 45 Hz – 40 kHz

ความต้านทาน                                       6 โอห์ม

ความไว (2.83 V ระยะ 1 เมตร)          86 dB

จุดตัดแบ่งความถี่เสียง                           1.5 kHz

ขนาดตู้ (สูง x กว้าง x ลึก)                     469 x 214 x 212 มม.

น้ำหนักตู้                                                   2.7 กก.

ผลการทดสอบ

จากเครื่องเล่น CD T+A รุ่น 1260R (ตั้ง FILTER ที่ 3, กรองความถี่สูงยิ่งทิ้ง (ปุ่มหลังเครื่อง) ต่อออกสายสัญญาณเสียง MADRIGAL CZ-Gel 2 (หัว RCA) เข้าช่อง INPUT 5 ของอินทีเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383 (100 W RMS/CH ที่ 8 โอห์ม, 200 W RMS/CH ที่ 4 โอห์ม) เป็นบาลานท์แอมป์แท้ สายไฟ AC รุ่นสีม่วงของ CHORD (7 พันกว่าบาท) เสียบเข้าเต้าตัวเมีย ฮับเบลสีส้ม ที่กำแพงมีหัวปลั๊กกรองไฟ PHD 1 เสียบเคียงคู่อยู่

สายลำโพง FURUKAWA S-2 (ตามทิศ) แยก 2 ชุด ไม่แตะกัน เพื่อเดินแบบไบ-ไวร์ หัว WBT หางปลา (เงิน) ที่แอมป์ หัว WBT บานาน่าเข้าชุดทุ้ม, หัว WBT แบบปีนเข้าชุดแหลมของ S-150 ที่วางบนขาตั้ง TARGET 24 HJ เอาหน้ากากลำโพงออกเอียงลำโพงปรับทีละนิดๆ จนได้ทั้งสุ้มเสียง และทรวดทรงเสียง (3D) ดีที่สุด (จะเน้นเสียงครบก่อน) สายลำโพงยกลอยและทับด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีดข้างละ 6 ตั้ง (เอากระดาษสีแดงที่ห่อแต่ละรีมออกที่จะถูกกับสายลำโพง เพื่อหนีตะกั่วในสีมากวน)

ลำโพงซ้าย, ขวา วางห่างกันประมาณ 2.2 เมตร ห่างจากตำแหน่งนั่งฟังประมาณ 3.6 เมตร ห้องฟังประมาณ 3.85 x 9 x 2.2 เมตร ฝาผนังบุด้วยฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (สีขาวจากเยอรมัน) ภายในห้องมีของพอควรไม่ก้องแน่ พื้นพรมมีพุ่มก้อนผลึกอะมิทิสขนาด 4 กำมือวางอยู่ระหว่างแอมป์กับเครื่องเล่น CD สายไฟ AC ของ T+A 1260R เป็นสาย AC ของ No.383 (ไม่ถึงกับวิจิตรพิสดารอะไร) มีตัวกรองไฟแบบหัวปลั๊กตัวผู้เสียงของ PHD 2 เสียบเข้าปลั๊กไฟ 1 ออก 2 ของ WONPRO (เหลือ 2 ขา) แล้วเสียบเข้าเต้าเสียบเคียงคู่กับสายไฟ AC จาก T+A ที่เสียบอยู่ (ตัวกรองนี้ดีมากช่วยได้ไม่น้อยจริงๆ ราคาแค่ 2,900 บาท)

ไม่มีโทรศัพท์มือถือ, PC, โน้ตบุ๊ค, iPad, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล, นาฬิกาควอตซ์ (ข้อมือ) รีโมทใดๆ จอ LCD/PLASMA ในห้องเสียง (มีผลฟังออก)

เปิด “เพลง” เบิร์นอิน S-530 ครั้งแรก 2 ชั่วโมง วันต่อมา 14 ชั่วโมงติดต่อกัน แล้วหยุดพักปิดเครื่องครึ่งชั่วโมง ฟังทดสอบอีก 3 ชั่วโมง เบิร์นอิน 4 + 10 ชั่วโมง ฟังอีก 2 ชั่วโมง

 

 

 

 

แผ่น WOOD ของ Brian Bramberg เพลง 1 ขึ้นต้นเสียงเกาดับเบิ้ลเบสเป็นเส้นสายใช้ได้ อิ่ม มีน้ำหนัก เสียงเกา (กระทบ) ผิวสายไม่เลวเลย น้ำหนักเบสอิ่มลงลึกดีมาก เกินคาดจากดอกทุ้มแค่ 5 นิ้ว อาจไม่กระแทกสุดๆ แต่เกินพอ เสียบฉาบเป็นเส้นสายดี ไม่ฟุ้งสับสน (ปลายแหลม) แยกแยะเสียงกลองชุดได้ดีไม่จมไปกับเสียงฉาบ เสียงเปียโนเป็นธรรมชาติตามสไตล์เปียโนแบบอัพไรท์ (น่าจะไม่ใช่แกรนด์เปียโน) เสียงโดยรวมฟังผ่อนคลายอบอุ่นนิดๆ เพลง 2 บันทึกมาดีกว่าเพลง 1 (โปร่ง, สดกว่าอีกนิด) เสียงดับเบิ้ลเบสเป็นตัว, ลอยออกมาดีขึ้น ลงต่ำลึก เบสจะอิ่มๆ ไม่ถึงกับกระชับเต็มที่แต่ก็ไม่ขนาดยานครางจนน่ารำคาญ ส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่าเสียงออกมาจากหน้าตู้ลำโพง ตัวลำโพงยังไม่ล่องหนเต็มที่ (ยังไม่ HOLOGRAPHIC)

แผ่น The Greatest Alto Vol 1 (Top Music) เสียงร้องเพลงจีนใสๆ ของนักร้องสาวชาวจีน เพลง 1 เสียงร้องผ่อนคลายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียด จีบปากจีบคอ ห่อปาก ลิ้นแตะเพดาน เสียงลมรอดไรฟัน เสียงริมฝีปาก เสียงทอดถอน เสียงสั่นเครือ เพลง 2 (อารีรัง) ขึ้นต้นเสียงร้องหมู่ชาย-หญิงที่แยกแยะได้ดีพอควร ตามด้วยเสียงตีกลองที่หน้ากลองตึงเปะ คมชัด (เสียงตีกระทบไม่ก้อนใหญ่เท่าทุกที) แต่ตามด้วยเสียงกลองที่ “ใหญ่” แต่ไม่ฟุ้งเลอะ ให้ขอบเขตที่ชัดหนักควบแน่นดีมาก กระชับ ลงลึกสะท้านห้อง ไม่น่าเชื่อว่ามาจากดอกลำโพงแค่ 5 นิ้ว (ระดับลำโพงวางพื้น 10 นิ้ว) เพลง 3 ขึ้นต้นเสียงเกากีตาร์โปร่งเป็นเส้นสายไม่เลว (แต่ไม่ขนาดจำแนกตื้น-ลึกระหว่างเสียงเส้นกับเสียงก้องในตัวกีตาร์) เสียงกระทบสายใช้ได้ดี ความเป็นตัวตนของแต่ละเสียงพอประมาณ (ยังไม่เป็นเม็ด, กลุ่มก้อนเดียวกันทุกฮาร์โมนิก หรือ POINT SOURCE ยังไม่เท่าไร พอๆ กับลำโพง 2 ทางวางหิ้งส่วนใหญ่) ซึ่งตรงนี้สังเกตได้อีกครั้งตอนขึ้นต้น เสียง้องในเพลงที่ 4 ที่ยังไม่โฟกัสเป็นกลุ่มก้อน (3D) เท่าที่ควร แต่ก็บอกช่วงที่นักร้องใส่กิริยามากขึ้นได้ (นาที่ประมาณ 1 : 38) เสียงเขย่าลูกกระพรวนพอแยกแยะว่าเป็นลูกๆ แต่ไม่ขนาดมีรูปลักษณ์เป็นก้อนกลมๆ แท้จริง เพลง 5 ขึ้นต้นเสียงปลายแหลมสุดๆ ยังไม่ขนาดพลิ้วด้วยอณูอากาศ (AIRY) แต่ก็ถือว่าพอเพียง รูปลักษณ์ของแหลมกับปลายแหลมยังเป็น 3D ที่ดี

แผ่นระนาดเอก (ไทลำภู) เพลง 3 เสียงตีระนาดให้น้ำเสียงได้ดี มีอ่อนแก่ แม้ว่ายังไม่โฟกัสเป็นเม็ดๆ (ขอบโน้ตไม่ชัด) ยังไม่กระเด็นหลุดลอยออกมาหาเรา แต่ก็แสดงจังหวะจะโคนได้อย่างน่าติดตาม เสียงฉิ่งถ่ายทอดอากัปกิริยาได้ไม่เลว (เคาะขอบแล้วประกบฝาฉิ่ง) เพลง 4 ขึ้นต้นสงัดไม่เลวตามด้วยเสียงที่ตีระนาดเป็นเม็ดๆ พอสมควร (ดีกว่าเพลงที่ 3 หน่อย) แสดงหัวเสียงของระนาดได้ดี และกลมกลืนกับตัวเสียง (BODY) ได้ดี เสียงจะออกอบอุ่นนิดๆ ไม่ใช่สไตล์เปิดโปร่ง คม สด เป็นประกาย เอาว่าฟังสบายหู แต่ก็ตื่นตัวดี ไม่เอื่อยเฉื่อยง่วงอย่างแน่ ความกังวานยังไม่เท่าไรติดจะน้อย, ทึบไปด้วย เพลง 5 เริ่มต้นเสียงระนาด ยังไม่เป็นตัวตน แต่น้ำเสียง เนื้อเสียงกลับครบดีสักพักโฟกัสดีขึ้นพอสมควร (หรือคลื่น WiFi จากภายนอก 5 คลื่นรอบบ้านมากวน?) ตอนนี้เสียงโฟกัสขึ้นอีก คมชัดขึ้น หัวโน้ตชัดขึ้น เสียงเปิดขึ้น เพลง 6 ขึ้นต้นเหมือนเพลง 5 เสียงตีระนาดอยู่ลึกไปหลังเวที (ซึ่งก็ยังไม่ลึกนัก) เสียงกังวานน้อยไปนิด ออกทึบไปหน่อย อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงโดยรวมน่าฟังดีมาก การไล่อ่อนแก่, คีย์สูงต่ำ การแยกแยะโน้ตเป็นตัวๆ พูดง่ายๆ มีพื้นฐานที่ดีมาก (เป็นไปได้ว่า ขั้วปลายสายลำโพงในตู้ที่เป็นตัวยู (U) ที่เสียบที่ดอกลำโพง คว่ำหรือหงาย ยังไม่ถูกตำแหน่ง (ต้องฟังเอา ใครซื้อมา ถ้าจะให้ดีตัดตัวยูออก บัดกรี เข้าไปเลย เชื่อว่าจะดีขึ้นอีกเยอะ เพราะมันมีแววดีมากอยู่แล้ว) เพลง 7 เสียงตื่นตัวขึ้น ฟังสนุกยิ่งขึ้น เข้มแข็งขึ้น แต่ก็ยังติดเสียงอุ่นๆ อยู่ (อย่างที่ผมแนะนำเสมอว่า JBL เป็นลำโพงที่ดี มีแววและศักยภาพสูงเกินราคา ถ้ารู้จักจัดการอะไรๆ ในตู้ให้ดีขึ้น (ตัวยู, สายแตะกัน) จะได้ลำโพงที่เกินคุ้ม) เพลง 8 ขึ้นต้นเสียงกลองตะโพนอิ่มใช่ได้มีรูปลักษณ์ดี เสียงตบหน้ากลองไล่จากขวาไปซ้ายติดตามได้ ตลอดไม่มีช่องโหว่เบลอ จับอากัปกิริยาของการใช้ฝ่ามือตบหน้ากลองได้จะแจ้งดีให้ DYNAMIC ดี (ดัง-ค่อย) ไม่ส่ออาการอั้นตื้อ (JBL ไม่เคยเสียชื่อ ในแง่นี้) ตอบสนองฉับไว เพลง 9 เสียงตีรัวระนาด แสดงอากัปกิริยาได้ดี

แผ่น RHYTHM BASKET, A Tasket, A Tisket, A Child’s ของ Brent Lewis (เสียงตีกลองท่อ, เพลงของเด็กๆ) เพลง 2 เสียงตีกลองท่อมีทรวดทรงใช้ได้ ไม่แบน เสียงตีไล่จากซ้ายไปขวาติดตามได้ตลอด เสียงกังวานพอได้ บอกไม่ได้ว่ามันแห้ง คือ มีแต่อาจทึบๆ อยู่บ้าง ตอบสนองได้ฉับไว อากัปกิริยาดีมาก เวทีกว้าง ลึกโอเค ช่วงดนตรีโหมหลายๆ ชิ้น ไม่มั่ว ทุกชิ้นยังฟังเจอและจับประเด็นได้เสมอว่าอะไรเป็นอะไร อยู่ตรงไหน เพลง 4 ขึ้นต้นเสียงพายเรือ เสียงพายวักน้ำชัดดี ให้เสียงคลื่นกระฉอกตามการวัดน้ำได้ดี พูดง่ายๆ ว่า ทุกๆ เสียงเรารู้ว่ามันออกครบ สมธรรมชาติ แต่คล้ายๆ กับว่ามีม่านหมอกบางๆ มาบังอยู่ คือยังไม่โปร่งทะลุ (TRANAPRENT) อย่างที่กล่าวนี่จะเป็นลำโพงชั้นหนึ่งได้ ถ้านี้วิธีเอาม่านนี้ออก (ซึ่งผมไม่เชื่อว่า ทำได้ไม่ยากนัก) อย่างไรก็ตาม นั่นหูระดับเซียนฟัง แต่สำหรับชาวบ้าน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เพลง 5 เสียงรถจักรไอน้ำเปิดหวูด รัวระฆังมาแต่ไกล ทำได้ดีมาก ตามด้วยเสียงตีกลองท่อซ้ายที, ขวาทีเสียงน่าฟังมาก (สุ้มเสียงครบดี) เพลง 6 สารพัดสัตว์สอดใส่อารมณ์ได้ดี เสียงเขย่า (ท่อไม้ภายในเป็นเม็ดทราย ฟังดี) เวทีเสียงกว้าง (แปลกฟังถึงตรงนี้ ดูเหมือนตำแหน่ง, ชิ้นดนตรี, เสียงต่างๆ จะนิ่งขึ้น โฟกัสดีขึ้นกว่า ชั่วโมงกว่าก่อนหน้านี้ อาการคล้ายกับตอนทดสอบลำโพง JBL S-130 เลย คือต้องใช้ประมาณเกือบ 20 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย) เพลง 7 เสียงม้าวิ่งหอบมาแต่ไกล เข้ามาหาเรา ไม่น่าเชื่อว่า จะจับเสียงหอบได้ 6 ครั้ง (คิดว่ามันจะทึบจนน่าจะตกหล่นบ้าง ก็อย่างที่เรียนให้ทราบ พื้นฐานคู่นี้มีศักยภาพสูงมาก) หลังจากม้าวิ่งมาถึงก็ตามด้วยเสียงตีกลองท่อซ้ายทีขวาที ซึ่งควรค่อยๆ ลอยสูงขึ้นๆ เกือบถึงเพดานห้อง แต่กลับได้ในระดับลำโพงปกติเท่านั้น ก็ไม่ว่ากัน เพราะมีลำโพงน้อยคู่ที่จะเก่งขนาดนั้น เพลง 9 เสียงตีกลองท่อขวา, ซ้ายสมมาตรดี ชัดใช้ได้ เพลง 10 เช้าในฟาร์มเต็มไปด้วยเสียงต่างๆ ก็แยกแต่ละเสียงได้ดี ทั้งด้วยเสียงอ่อนแก่ และโทนเสียงของแต่ละเสียง ปกติเพลงนี้ฟังไปๆ หลายๆ เสียงจะลอยสูงถึงเพดานห้องได้ แต่นี่ทำได้แค่อยู่ในระดับลำโพง อย่างไรก็ตาม สังเกตให้ดี เสียงเริ่มสดขึ้นนิด ปลายแหลมเริ่มมีประกายขึ้น ขณะที่น้ำเสียงโดยรวมที่ว่าเยี่ยม, ครบ ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก

 

 

 

 

สรุป

เนื่องจากข้อจำกัดในระยะเวลาการทดสอบที่ต้องส่งคืนของบริษัทฯ จึงไม่อาจใช้งานลำโพงได้ถึงระดับ 30 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ทุกอย่างจึงจะเข้าที่ทางที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานถึงประมาณ 16 ชั่วโมง พบว่า เสียงที่แต่แรกสุดแกะกล่องใหม่เอี่ยมฟังแล้วออกทึบไปหน่อย (ปลายแหลมสุดไปได้แค่ 18 kHz) ก็เริ่มดีขึ้นๆ เมื่อเข้าสู่ชั่วโมงที่ 15 อย่างฟังออก และเชื่อว่าจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนี้

แม้กระนั้นก็ตาม ในชั่วโมงที่ 16 พบว่า JBL S-350 เป็นลำโพงที่มีศักยภาพสูงมาก สุ้มเสียงที่ให้อารมณ์ได้อย่างน่าทึ่ง ถ่ายทอดอากัปกิริยาของนักร้อง นักดนตรีได้อย่างเข้าถึง พลังเสียงที่อิ่มแน่นไม่ส่ออาการอั้น ทุ้ม, กลาง, แหลมครบ (ปลายแหลมตอนนี้ไปได้ถึง 22 kHz แล้ว ตามสเปคไปได้ถึง 40 kHz) ทุ่มที่อิ่มแน่น อย่างไม่น่าเชื่อว่ามาจากดอกลำโพงแค่ 5 นิ้ว และเป็นลำโพงวางหิ้งด้วย

เวทีเสียงที่กว้าง, โอบ, หลุดลอย/ลึกได้ดี ทรวดทรงชิ้นดนตรี และนักร้องที่ดีวันดีคืน ยิ่งฟังจะยิ่งชอบ

เป็นลำโพงที่มีความเป็นดนตรีสูงเอาเรื่อง น่าจะใช้ได้ดีทั้งฟังเพลงและดูหนัง (หลังจากเบิร์นอินได้เต็มที่) ราคาอาจสูงบ้าง (คู่ละ 25,900 บาท ในช่วงโปรโมชั่น) ซึ่งพอจะซื้อลำโพงวางพื้นดีๆ ได้ แต่เรื่องสุ้มเสียง, มิติ S-350 ดีหว่าหรือไม่เป็นรองแน่นอน ไม่ใหญ่เกะกะ เคลื่อนย้าย ติดตั้งก็ง่ายกว่าด้วย

 

ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเม้นท์ จำกัด โทร.0-2610-9671-2 ที่เอื้อเฟื้อลำโพงมาให้ทดสอบในครั้งนี้

 

Exit mobile version