Test Report: JBL Arena 170

0

Test Report: JBL Arena 170

(ย่อมเยาในราคา มหึมาในคุณภาพ)

ไมตรี ทรัพย์อเนกสันติ

arena-170_5

            Arena คือตระกูลล่าสุดจากค่าย JBL ที่บ่งบอกถึงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ยุครัดเข็มขัดแล้ว

ตระกูล Arena มีมาครบสำหรับลำโพงชุดโฮมเธียเตอร์ และ Arena 170 ก็เป็นลำโพง 2 ทางวางพื้นรุ่นเล็กสุดของลำโพงวางพื้นในตระกูลนี้

แย่หน่อยที่ Arena 170 ที่นำมาทดสอบ เป็นคู่ตัวอย่าง ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ แม้แต่คู่มือและสเปค(คือ เพิ่งมีคู่ตัวอย่างส่งให้แก่ สื่อทดสอบและตัวแทนแต่ละประเทศ เรียกว่า ใหม่ล่าสุดจริงๆ)

ผมจึงขอ บรรยาย เท่าที่ตาเห็นจากคู่ของจริง ได้แก่

arena-170_4

  • ดอกเสียงแหลมเป็นโดม ขนาดประมาณ 1 นิ้ว สีดำ มีเลนส์เสียงบังโดมด้านหน้า พร้อมปากแตร HDI ช่วยกระจายและควบคุมเสียงและมิติสเตอริโอ ที่ใช้เทคโนโลยีมาจากตระกูลอ้างอิงแพงๆ
  • ดอกเสียงกลางทุ้ม กรวยดำ ขนาด 7 นิ้ว 1 ดอก
  • ระบบ 2 ทาง ตู้เปิด มีรูกลมระบายอากาศ อยู่ด้านหลังตู้
  • ตัวตู้ไม้ MDF แข็งแรง หนักพอควร (แต่ไม่มาก เมื่อคิดว่าเป็นลำโพงวางหิ้งทรงสูง เมตรกว่าๆ)
  • ฝาบนของตัวตู้ เอียงลงไปด้านหลัง เพื่อสลายคลื่นค้างภายในตู้
  • แผงวงจรแบ่งเสียงมี R(1), C(2), L (2 แกนอากาศ1, แกนแม่เหล็ก 1) เกาะอยู่หลังแผงรับสายลำโพงจากภายนอก
  • ขั้วรับสายลำโพงแบบ ซิงเกิ้ลไวร์
  • ใช้คอมพิวเตอร์ คำนวณ วงจรแบ่งความถี่เสียง รวมทั้งตำแหน่งของดอกลำโพงแต่ละตัว
  • ขาใต้ตู้เป็นขายาวสูงประมาณ นิ้วกว่า
  • ความไว น่าจะอยู่ในช่วง 88dB SPL/ W/ M

L1000250

ผลการทดสอบ

จากเครื่องเล่น OPPO BDP-105 (ปรับปรุงภาคจ่ายไฟ โดย PERFECT POWER) ต่อออกสายเสียง CZ GEL-2 (MADRIGAL) บาลานซ์เข้าอินทริเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383 (100W.RMS/CH ที่ 8 โอห์ม, 200W.RMS/CH ที่ 4 โอห์ม) ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (ตามทิศ) หัวหางปลา (MS HD โรเดี่ยม) ด้านแอมป์ หัว WBT บานาน่า ด้านลำโพง (ซิงเกิ้ลไวร์) ลำโพง Arena 170 เอาหน้ากากออก เอียงปรับให้ได้เสียงครบ มีทรวดทรง 3D ดีที่สุด ซ้าย, ขวา ห่างกัน 2 เมตร ห้องฟังประมาณ 3.85 × 9 × 2.5 เมตร นั่งฟังห่างจากลำโพง 3.6 เมตร มีแผ่นฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (สีขาวทำในเยอรมัน) ทั้ง 4 ด้านของห้อง พื้นปูพรม ยกสายลำโพงสูงหนีพื้นห้องด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีดสูงเกือบ 1 คืบ และมีอีกสองตั้งวางทับบนสายลำโพง

สายไฟ AC เข้า No.383 เป็นของ CHORD เอาของ No.383 เองไปให้ OPPO BDP 105 แทน สายไฟ ACของจอ LCD TOSHIBA FULL HD 23 นิ้ว ของ OPPO ของ No.383 ทั้ง 3 เส้นต่อผ่านตัวกรองไฟ PHD Power Station สายไฟ AC ที่เข้ากล่องนี้เป็น FURUKAWA CB-10(3 เส้น ทิศทางถูกต้อง) หัว WBT ทั้งตัวผู้ตัวเมีย เข้าเต้าเสียบที่กำแพง (เป็นของ MONITOR ACOUSTICS รุ่นสูงสุดสีเทา พร้อมฝาปิด

มีกล่องตัวอย่างผลึก (12 ก้อนเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อย) ของ JUDY HALLS วางในห้อง 5 กล่อง (กลางห้อง 1, ด้านหลังที่นั่งฟัง 4) ช่วยดูดคลื่นขยะในห้อง (ฟังทดสอบทิศทางการวาง) มีผลึกอะมิทิสขนาด 4 กำปั้นวางอยู่ด้านขวา OPPO บน OPPO เองมีแผ่นอาเกตขนาดฝ่ามือครึ่งและมีก้อน อ๊อบซีเดียวกลมขนาด 2 นิ้ว, แท่งอ๊อบซีเดียวสูงครึ่งคืบ รอบๆ แผ่นอาเกตมีแท่งควอตซ์สูงครึ่งคืบ 3 แท่ง ก้อนอะมิทิส 1 ฝ่ามือด้านขวาหลัง โครงปิรามิดจากควอตซ์สรวมทั้งหมดครอบแผ่นอาเกตอีกที ที่พื้นใกล้ที่นั่งฟังห่างไป 1 เมตร มีก้อนอะมิทิสขนาด 1 ฝ่ามืออีก 2 ก้อน มีแท่งทัวมารีนสีดำขนาดสูงครึ่งคืบ × 1.5 นิ้ว วางบนเต้าเสียบ MONITOR ACOUSTICS ที่กำแพง 1 แท่ง ที่ไฟขาออกจากกล่องกรองไฟ PHD อีก 1 ก้อน (หันจูนทิศทางด้วย มีผลมาก)

ระวังมิให้สายต่างๆ แตะต้องกัน พันทับกัน สายภาพ HDMI ของ MONSTER รุ่น HD 2000(ย้อนทิศ) จาก OPPO ไปจอ LCD

หลังจอ LCD เอาแท่งควอตซ์ 1 คืบ ปะไว้ 2 แท่ง, แท่งอะมิทิส 1คืบ 1 แท่ง มีหมอนวางไว้หลังจอไม่ให้สะท้อนเสียงจากลำโพง

ฟังทดสอบขาปลั๊กไฟ AC ทุกเครื่อง

สายเสียง CZ-GEL 2 จาก OPPO ไปแอมป์No.383 สอดผ่านแท่งเซรามิกกรองน้ำ (ยาว 12 นิ้ว) แยกซ้าย 2, ขวา 2 (ไม่ให้แท่งแตะกัน) แท่งเป็นของ Berg Field (อังกฤษ) (มิติโฟกัสหลุดลอยดีขึ้น)

ภายในห้องไม่มีจอ LCD/ PLASMA อื่นๆ อีก ไม่มีรีโมทใดๆ นอกจากของ OPPO, ไม่มี iPAD, มือถือ, WiFi/ LAN (นอกจากรั่วมาจากภายนอก 6 สปอร์ต) ไม่มีนาฬิกาไฟฟ้าใดๆ ขณะทดสอบไม่มีบัตรแม่เหล็กในกระเป๋าเสื้อ, ไม่ใส่นาฬิกา, ไม่มีรีโมทแอร์(ตัวแสบเลย)

หลังจากดูหนังฟังเพลงอยู่ 31 ชั่วโมง ผมก็เริ่มทดสอบ

L1000258

ผลการดูหนัง

เลือกปล่อยเสียงอนาลอก เป็น LT/ RT (ผ่านขบวนการ 5.1 เป็น 2 CH ด้วย Dolby Surround Matrix ภายใน OPPO 105 เอง) ดูแค่ 2 CH คู่เดียว

Arena 170 ให้แนวเสียงไปทางลำโพง Monitor Audio BR-5 (3 ทาง วางพื้น) ที่ผมใช้อ้างอิงมาก คือเสียงออกอุ่นนิดๆ ไม่เกี้ยวกราด เจี้ยวจ้าว โฉ่งฉ่าง ให้รายละเอียดหยุมหยิมได้ดี ไม่รู้สึกอึมครึมหรือคลุมเครือใดๆ เสียง Arena 170 จะฉับไวกว่าหน่อย ดุดันกว่านิดๆ (ทั้ง 2 กรณีฉับไว, ดุดัน, จริงจัง กว่าประมาณ 8%) ทำให้ดูได้มันส์มาก เสียงพูดที่เปิดกระจ่าง ทะลุโปร่ง ได้ยินแม้เสียงถอนหายใจ (Breathing ดีมาก) ชัดเจนดีมาก ไว้ฟังเสียงในฟิล์ม (Sound Track ได้ดีมาก) ไม่น่าเชื่อว่าลำโพง 2 ทาง แถมดอกกลางทุ้มก็ใหญ่ถึง 7 นิ้ว จะให้เสียงกลางได้ชัดกระจ่างอย่างนี้ได้ (ลำโพง 3 ทาง หลายยี่ห้อก็ยังไม่ดีกว่า) ที่โดดเด่นมากของ Arena 170 คือพลังของเสียงต่ำที่อิ่มแน่น หนัก มหึมา อลังการงานสร้าง ลีมได้เลยเรื่องซับวูฟเฟอร์ นอกจากคุณต้องการระดับห้องสะท้าน สั่นไหว ขากางเกงสั่นพลิ้ว กระแทกจุกอก นั่นก็อีกเรื่อง ยังไงก็ต้องพึ่งซับแอคทีฟ แต่เชื่อผมเถิดครับ มันให้ระดับความมันส์หยดได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อซับ (ยิ่งถ้าคุณจัดเซอราวด์เต็มขั้น ใช้ Arena 170 2 คู่ หน้า, หลัง (เผลอๆ อีก 1 คู่ เป็นดับเบิ้ลเซ็นเตอร์))โยนซับทิ้งได้เลยครับ! รับรองว่าทุ้มทะลุไป 3-7 บ้านข้างเคียง

Arena 170 ให้เสียงแหลมที่สดใส ไม่จงใจเน้น ไม่มีปัญหาทิ่มแทงหู ทุ้มดังกล่าวแต่ ที่ทุ้มลึกๆ อาจไม่กระชับมากนัก ยังออกเบลอๆ แต่ไม่ถึงขนาดกระพือจนมั่วไปหมด

Arena 170 ไม่กินวัตต์มากนัก ผมเร่งที่อินทีเกรทแอมป์ Mark Levinson ที่ 47.2 ที่ OPPO ที่รีโมทที่ 92-98 ประเมินว่าความไวน่าจะอยู่แถวๆ 88~89 dB SPL/w/M สามารถเปิดได้ดังคับห้อง (3.85×9×2.5 เมตร ของผมได้)

Arena 170 ให้มิติเสียงได้ชัด ตรงตามภาพเปะๆ อาจไม่โฟกัสคมชัดกริ๊บ แต่ก็ถือว่าไม่น่าเป็นปัญหา ทรวดทรงเสียงยังแค่พอใช้

มันให้เวทีเสียงกว้าง มีบรรยากาศที่ห่อหุ้ม น้องๆ เซอราวด์ได้เลย เสียงหลุดตู้ลำโพงได้ดีเยี่ยม ลำโพงล่องหนหายไป แสดงสูงต่ำ ข้ามศีรษะได้ดี รับรองว่า ถ้าคุณสลับสายลำโพง บวก, ลบ ถูกต้อง (กับหนังเรื่องนั้นๆ) คุณดูหนังได้มันส์ เพลินแน่ๆ แค่ลำโพงคู่นี้คู่เดียวนี่แหละ (ลืมแอมป์เซอราวด์ไปได้เลย)

(ภาพยนตร์ที่ทดสอบ แผ่น Blu-rayแท้ๆ ได้แก่เรื่อง Lucy, EXODUS, THE SECRET LIFE OF WALTER MITTY, THE LEGEND OF 1900 (DVD PAL), THE CORE (DVD) ฯลฯ)

(หมายเหตุ การที่ใช้ OPPO-105 ซึ่งปล่อยเสียงทางสายบาลานซ์ได้ ซึ่งใช้รีโมทเลือก ขั้วลำโพง +, -ได้ ทำให้สะดวกไม่ต้องวิ่งไปกลับสายลำโพง)

สรุป ถ้าคุณดูหนัง 70-80% ฟังเพลง 20-30% Arena 170 น่าจะลงตัวได้ดีที่สุด

L1000257

ผลการฟังเพลง (CD)

ปิดจอ LCD TOSHIBA, ดึงสายไฟออก, กดรีโมท OPPO ไป PURE AUDIO, แผ่น CD ที่ฟังจนคุ้นเคย เช่น

  • ระนาดเอก (ไทลำภู)
  • RHYTHM BASKET, A Tasket, A Tisket, A Child’s ของ Brent Lewis
  • THE GREATEST ALTO FENALE VOL.1 (Top Music)
  • WOOD ของ Brian Bromberg
  • แผ่นอื่นๆ อีก รวมๆ ร่วม 10 อัลบั้ม

L1000251

พอสรุปได้ว่า

Arena 170 ให้เสียงออกไปทางสด ตื่นตัว เข้มแข็ง กระชับกระเชง ตอบสนองได้ฉับไว ทุ้มอิ่มลึกมีพลัง ทุ้มลึกๆ แถวๆ 30 Hz ยังออกได้แต่โดยรวมๆ ถือว่า ยิ่งกว่าโอเคเลยด้านทุ้ม (ชัดเจน มีเรื่องราว รายละเอียด) กลางเปิดโปร่ง บางครั้งเหมือนโด่งหน่อยๆ แถว 1 kHz ออกอุ่นนิดๆ เสียงร้องสอดใส่อารมณ์ได้พองาม ปลายแหลมไม่ฟุ้งฝอย แต่อยากให้ฉ่ำหวานกว่าอีกหน่อย กินวัตต์ไม่มาก ความเพี้ยนต่ำ ทรวดทรงเสียงพองาม ต่ำแหน่งชิ้นดนตรีนิ่งใช้ได้, ชัดโอเค เวทีเสียงกว้าง แต่บางครั้งยังไม่โอบมาหลัง เท่าที่ควร (เพลง 6 RHYTHM BASKET)สูงต่ำไม่ดีนัก (เพลง 7 RHYTHM BASKET) แต่กับอัลบั้มเดียวกันนี้ เพลง 10 สูงต่ำดีเยี่ยม เสียงดิ่งลอยอยู่บนเพดานห้องได้ชัดมาก ให้ความกังวานได้ดี ทั้งของแต่ละชิ้นดนตรีและของทั้งวง ทุ้มมหึมามโหฬาร (เพลง 2 เสียงตีกลองใหญ่ แผ่น The Greatest Alto Female VOL.1) และเพลง 1 แผ่น WOOD เสียงเกาดับเบิ้ลเบสเป็นเส้นสายดี อิ่มใหญ่ หนัก กระชับ

พูดง่ายๆ รวมๆ ว่า ฟัง CD ได้ชัด, ครบ, หมดจด ฟังสนุก ได้ทุกรสชาด รสนิยม

อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับ JBL STUDIO 180 (วางพื้น 3 ทางที่ผมยกให้เป็นลำโพงที่ โคตรคุ้มแห่งศตวรรษ)ผมว่า 180 ให้เสียงอ่อนช้อย รื่นหู มีเสน่ห์ เคลิบเคลิ้ม ได้ดีกว่า (10-15%) เป็นไปได้ว่า น่าจะเป็นเพราะ ด้วยราคาขายของ Arena 170 ทำให้ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนบนแผงวงจรที่มีคุณภาพได้ดีกว่านี้ (แต่ผมเชื่อว่า ค่า นั้นๆ มันลงตัวดีแล้ว แต่คุณภาพของอาจด้อยลงบ้าง ไม่รู้นะ มันอาจต้องการการเบิร์นอินที่มากชั่วโมงกว่านี้)(เขาว่า เป็น 100 ชั่วโมง ซึ่งผมขอยอมแพ้ แค่นี้ค่าไฟก็ปาเข้าไป เดือนหนึ่งเพิ่มมาเกือบ 2 พันบาท ที่มาจากการทดสอบ 3 ชิ้น ส่งหทางหนังสือเขา)

อย่างไรก็ตาม ผมว่า ถ้าใครซื้อ Arena 170 มา แค่เปลี่ยนสาย ภายในตู้ เช่นเป็นของ CHORD รุ่น CINEMA CARNIVAL 350 บาท/ เมตร, เปลี่ยนตัวเก็บประจุเป็นของเยอรมัน ตัวละ 140 บาท (ดูเหมือนจะ 400 โวลต์) (นัฐพงษ์ บ้านหม้อ) ลงทุนอีกสัก 3,000-3,500บาท ผมว่าไปโลดแบบยั้งไม่อยู่กันเลย พราะผมเชื่อว่า พื้นฐานของ Arena 170 มันดีมากอยู่แล้ว

หมายเหตุ ผมได้ลองตรวจสายลำโพงภายใน (สายแบบ ดำ-แดง ราคาประหยัด) พบว่า เขาเอาสายจากแผงวงจรแบ่งเสียง โดยสายเข้าดอกแหลมกับสายเข้าดอกกลางทุ้ม ทากาวปะอยู่ด้วยกันเป็นช่องสัก 1 นิ้ว และปะกับใยแก้ว? ผมเอาหัวเสียบตัวยูขั้วบวก (หัวใหญ่) ของตู้ซ้าย หงายแบนล๊อกขึ้น (หนีจากแม่เหล็ก) ให้เหมือนดอกแหลมตู้ขวา (ตัวยูขั้วลบ เสียบคว่ำอยู่ แขนบวก, ลบ เขาทำมาคว่ำลง แขนล๊อกเข้าหาแม่เหล็กลำโพง เหมือนกันทั้งตู้ ซ้าย, ขวา) ระวังมิให้สายดอกแหลม, ดอกกลางทุ้มแตะกัน

ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเม้นท์ จำกัด โทร. 0-2610-9680-1 ที่เอื้อเฟื้อลำโพงมาให้ทดสอบในครั้งนี้