TEST Report: Graham Slee: Gram Amp 2 ‘Communicator’ MM Phono Preamp
มงคล อ่วมเรืองศรี
‘Graham Slee’ ชื่อที่บ่งบอกถึงผลิตภัณฑ์ high fidelity audio equipment ระดับคุณภาพจากประเทศอังกฤษ ซึ่งนอกจากจะเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตอุปกรณ์ประเภท Headphone amplifiers, Phono stage amplifiers รวมทั้ง Mono-block amplifier ในแนวถนัด ภายใต้รูปลักษณ์อันกะทัดรัด (ขนาดวางบนฝ่ามือได้) จนเป็นที่ยอมรับ ลือเลื่องไปทั่วโลกแล้ว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมในส่วนของ interconnects และ speaker cable อีกด้วย
Graham Slee ศึกษาร่ำเรียนจบมาทางด้านวิศวกร (engineer) ทุ่มเทเวลาให้กับ A/V นานถึง 10 ปี และใช้เวลาอีก 5 ปีในแวดวง printed circuit designer ต่อมาใช้เวลาอีก 4 ปีโลดแล่นทำหน้าที่เป็น senior engineer ในด้าน broadcast-audio design แต่ในที่สุดเขาก็ได้ก้าวเท้าออกมาเป็น freelanced ให้กับวงการออดิโอ จนกระทั่งในอีก 4 ปีต่อมาช่วงเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1998 เขาก็ได้ก่อตั้ง “Graham Slee Projects Limited” ขึ้นมา
…ช่วงต้นปี ค.ศ.1999 – Graham Slee ก็ได้ออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกสุด จากฝีมือการออกแบบของตัวเขาเอง มิได้ลอกเลียบแบบอย่างจากใครมา นั่นคือ high-fidelity phono preamp ที่มีระดับราคาเบาๆ ทว่าสมรรถนะและคุณภาพเสียงนั้นกลับไม่ธรรมดา ขนาดที่ว่า Gramophone magazine ฉบับเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2000 ได้หยิบจับไปวิจารณ์และถึงกับให้การยอมรับว่าเป็น ‘a giant-killer sound’ และนี่แหละคือที่มาของชื่อ “Gram Amp” ซึ่งใช้กำกับสำหรับผลิตภัณฑ์ทางด้าน phono preamp โดยเฉพาะ (แยกเป็น Gram Amp 1 และ Gram Amp 2) ต่อมาชื่อของ ‘Graham Slee’ ได้เริ่มขยับเข้าสู่แวดวงไฮเอนด์ด้วยสุดยอดผลิตภัณฑ์ -wideband phono stage- ภายใต้ชื่อรุ่นว่า “Era Gold” ที่ Geoff Husband มือรีวิวเวอร์ของสำนัก TNT Audio ได้หยิบจับไปวิพากษ์ร่วมกับ “Elevator EXP” step-up amp แล้วระบุชื่นชมไว้เป็นอันมากว่า “The Era Gold + Elevator EXP is the best phono combination for MC’s I’ve ever heard – period…”
และในปีถัดมาเรื่องก็ได้มาถึงหูของ Michael Fremer แห่งสำนัก Stereophile จึงได้หยิบจับเอา “Era Gold V” มารีวิวไว้ในฉบับเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2004 นับแต่นั้น “Era Gold V” ก็โด่งดังและประสบผลสำเร็จอย่างล้นหลาม ต่อมา “Solo” headphone amp ก็ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อในลำดับถัดมาของ ‘Graham Slee’ ออกจำหน่ายในปี ค.ศ. 2004…ล่วงสู่ปีคศ. 2005 จาก ‘Graham Slee Projects Limited‘ ก็ได้กลายเป็น “Graham Slee Incorporated” โดยการเข้า -ร่วมทุน- ของ John Cadman จากแวดวง broadcast industry
จวบจนทุกวันนี้กว่า 12 ปี ของการดำเนินกิจการ ‘Graham Slee’ ก็ได้มีผลิตภัณฑ์ mono-block amplifier ภายใต้ชื่อรุ่นว่า “Proprius” ซึ่งถือเป็น truly musical amplifier ที่ Graham Slee ได้ทุ่มเทไว้อย่างสุดฝีมือ และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ‘Graham Slee’ ก็ได้ออกจำหน่าย-น้องใหม่-ล่าสุด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางด้าน DAC ที่ Graham Slee เพิ่งจะเริ่มขยับขยายแนวทาง จึงถือเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองกันต่อไป
คุณลักษณ์
สำหรับ Gram Amp 2 ‘Communicator’ นี้ ถือเป็นรุ่นรองลงมาจาก Gram Amp 2 SE (Special Edition) ซึ่งโดยแท้จริงแล้ว ก็คือ “พัฒนาการ” ในอีกระดับต่อจาก Gram Amp 2 ‘Communicator’ ที่ถือได้ว่าเป็น the budget prize จนสามารถคว้ารางวัล Stereophile Recommended Component รวมทั้ง The Absolute Sound Editor’s Best Buy มาครอง พร้อมด้วยคำชื่นชมเป็นอันมากจาก TNT Audio และ Six Moons
Gram Amp 2 ‘Communicator’ มีตัวเครื่องสีดำสนิท ขึ้นรูปจาก anodized aluminium enclosure
ที่มีขนาด 4.5 x 1.75 x 3.5 นิ้ว (กว้าง x สูง x ลึก) พร้อมทำหน้าที่เป็น phono stage preamp รองรับเฉพาะกับการขยายสัญญาณจากหัวเข็มแบบ MM เท่านั้น (หรือหากว่าจะใช้ขยายสัญญาณจากหัวเข็ม MC ก็ต้องเป็นประเภท High Output สถานเดียว) โดยมีช่วง Input sensitivity range ได้ตั้งแต่ 2 mV จนถึง 10 mV (3.5 mV เหมาะเจาะที่สุด) ภายใต้ค่า Input impedance ที่ 47 k ohms และค่า Input impedance capacitive เท่ากับ 100 pF ในขณะที่ค่าความแรงสัญญาณที่จ่ายออกมาจะอยู่ระหว่าง 170 mV จนถึง 860 mV (ประมาณ 300 mV จากอินพุท 3.5 mV) ส่วนค่าเบี่ยงเบน RIAA จะอยู่ที่ 0.5 dB (20 Hz – 20 kHz)
‘Graham Slee’ ระบุว่า Gram Amp 2 ‘Communicator’ ได้บรรจุ Fast-Active preamp & equalization technology ไว้ภายในตัว จึงสามารถครอบคลุม bandwidth ได้กว้างไกลถึง 2.25 MHz ภายใต้ค่าเกนการขยายสัญญาณ 19 dB และสามารถให้ค่า Slew Rate ได้สูงถึง 7.5 V/µS โดยมีช่องเสียบต่อสำหรับรับสัญญาณขาเข้า และจ่ายสัญญาณขาออกอย่างละ 1 ชุด (ล้วนเป็นแบบ RCA) พร้อมขั้วต่อกราวด์ (GND) รวมถึงช่องเสียบต่อจากภาคจ่ายไฟแบบ switched mode ที่แยกออกไปไว้ต่างหาก (ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะใช้ภาคจ่ายไฟรุ่นพิเศษ “PSU1” unipolar power supply เพื่อ-อัพเกรด-สมรรถนะของให้สูงขึ้นได้)
ผลการรับฟัง
เป็นเรื่องจริงครับ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Gram Amp 2 ‘Communicator’ ให้ลักษณะเสียงที่ใกล้เคียงกับ ภาคโฟโนที่มีระดับสูงสุดเอื้อม (HI-END) ราคาสุดโต่ง ยี่ห้อหนึ่งของอเมริกาที่ผมเคยมีโอกาสได้รับฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการบ่งบอกสภาพซาวด์สเตจราวเป็น 3 มิติ และการส่งมอบความลึกล้ำของช่วงความถี่ต่ำๆ เมื่อใดที่คุณได้ฟัง Gram Amp 2 ‘Communicator’ อย่างจริงจัง …แม้เพียงสักพัก ไม่ต้องถึงขนาดใช้เวลาฟังได้เป็นวันๆ จากแผ่นโน้นมาแผ่นนี้หลายสิบแผ่นติดต่อกัน (โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย) ก็จะรับรู้ถึงความจริงแท้นี้ได้ด้วยตนเอง
คุณจะ “รับรู้” ได้ถึงความอิ่มฉ่ำของสรรพเสียง เป็นเสียงที่นวลเนียน ไร้ซึ่งความสากกร้านคมแข็ง ทุกสรรพเสียงที่รับฟังล้วนกระชับ กระฉับกระเฉง ไม่แช่มช้า เฉื่อยเนือย ทั้งยังสัมผัสได้ถึงอณูของมวลอากาศอันอบอวลของสภาพบรรยากาศรายรอบในสถานที่การแสดง สามารถจำแนก-แจกแจงรายละเอียดเสียงต่างๆได้อย่างไม่ซ้อนทับกัน แม้เสียงนั้นๆ จะแผ่วเบา หรือ ได้ยินแว่วๆ จากที่ไกลๆ ก็ตาม
Gram Amp 2 ‘Communicator’ ให้ความสมจริงอย่างมากกับความรู้สึกรับรู้ในเวทีเสียง ซึ่งพูดได้เต็มปากว่า “เป็น 3 มิติ” เพราะครบถ้วนทั้งกว้าง-สูง-ลึก ความกว้างที่แผ่ตัวออกไปจนจรดผนังห้อง (บางแผ่นที่ใช้ฟังมีบ้างที่แผ่กว้างจนผนังห้องด้านข้างหายไป) ความสูงที่ไม่ต่ำเตี้ย-จนเสมือนนั่งฟังอยู่บนหอคอยงาช้าง และไม่สูง-จนเสมือนนั่งอยู่ติดเวทีมวย …สั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ “ให้ความจริง” นั่นเอง ส่วนความลึกนั้น-กับแผ่นธรรมดาทั่วไป จะไม่ถึงขนาดผนังหลังห้องล่องหนหายไป แต่ก็จะรับรู้ได้เสมือนว่า ผนังหลังห้องนั้นมีระยะขยับออกไปมากขึ้น ยิ่งกว่าระยะจริง
แต่หากนำแผ่นเสียงประเภท Direct-cut มาเปิดฟัง รับรองว่า คุณจะต้องถึงกับตกตื่นใจ ราวกับว่า เวทีเสียงอันแผ่กว้างนั้น “ทะลุเลยผนังหลังห้อง” ออกไป ห้องฟังของคุณจะประหนึ่งว่า -ขยายใหญ่ขึ้นอย่างโอฬาร- พร้อมทั้งไดนามิกเสียงที่ลื่นไหลและฉับพลันทันใด (Also Sparach Zarathustra โดย TADAAKI OTAKA / Tokyo philharmonic orchestra อัลบั้ม Orchestrations Astromatic ระบบ Direct-Cut Master Series ตัดแผ่นโดย JVC :- RDCE-6)
แผ่นเสียงที่ใช้รับฟังในครั้งนี้น้อยนักครับที่ผมจะหยิบจับเอาแผ่นประเภท Super Cut / Super Disk มาเปิดฟัง ด้วยว่าต้องการทราบถึง “เนื้อแท้” แห่งสมรรถนะและคุณภาพเสียงของ Gram Amp 2 ‘Communicator’ จากแผ่นตลาดธรรมดาๆ แผ่นสามัญประจำบ้านที่มิได้วิลิศมาหราราคาหลักหมื่น ซึ่งก็รับรองได้ว่า Gram Amp 2 ‘Communicator’ จะให้ความรู้สึก “แตกต่าง” จากที่เคยได้รับมาก่อนกับแผ่นเสียงทุกแผ่นที่นำมารับฟัง หลายต่อหลายแผ่นที่หยิบจับมาเปิดฟังให้ลักษณะมวลอากาศที่ห้อมล้อม อบอวล มีความกังวานก้อง และเสียงสะท้อน-บ่งบอกสภาพบรรยากาศของโถงการแสดงได้ชัดเจนมาก บ่งบอกถึงคุณภาพต้นฉบับของการบันทึกเสียง
อย่างเช่น ในเพลง Besame Mucho และ The Shadow of Your Smile โดย ART PEPPER อัลบั้ม Live in Tokyo : VIC-6372; JOHN KAIZON NEPTUNE & MU’RYO อัลบั้ม SHOGUN : ETJ-85009; ANDREW POWELL & THE PHILHARMONIA ORCHESTRA PLAY THE BEST OF THE ALAN PARSON PROJECT : MFSL1-175; Canon and Gigue / Franz Liszt Chamber Orchestra : TELDEC DMM Digital; Getz Au Go Go : MV 2075; Merry Angel on 45; เสียงใบไผ่ / ดนู ฮันตระกูล กระทั่ง LAB 20 และ LAB 13 ของสังกัด SHEFFIELD LAB
Gram Amp 2 ‘Communicator’ ให้จังหวะท่วงที (pace) ของเสียง ไม่รีบร้อน-เร่งเร้า และไม่ถึงกับแช่มช้อยเชื่องช้า ฟังแล้วอิ่มเอิบใจสบายอารมณ์ เป็นเสียงที่ให้ทั้งความผ่อนปรนและคึกคักอยู่ในที บทจะโหมกระหน่ำก็แผดสนั่นไม่อัดอั้น ในขณะที่เสียงเล็กๆ น้อยๆ แทรกซ้อนปลีกย่อยทั้งหลายก็ยังให้ออกมาได้อย่างมีตัวตน และลอยตัวเป็นอิสระ ไม่ห้วนทู่แข็งเกร็ง หรือจมตัวไปกับประดาเสียงที่ประโคมขึ้นมา แม้ว่าจะแผดสนั่นแต่องศาความโปร่งใส มีช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรี และมวลบรรยากาศห้อมล้อมก็มิได้ลดลงเลย
ซึ่งนี่ย่อมสำแดงถึงสมรรถนะอันน่าทึ่งของ Gram Amp 2 ‘Communicator’ จึงสามารถทำให้เราจำแนกแยกแยะได้ในสรรพสิ่งต่างๆ ดังกล่าว ที่ล้วนรับฟังได้ถึงความมีชีวิตชีวา-มีวิญญาณในน้ำเสียงมนุษย์ อย่างที่เรียกว่า – เสียงที่มีลมหายใจ – ได้ฟังแล้วฉ่ำชุ่ม อิ่มเอมหัวใจ ไม่กร้านกระด้าง ให้ความฉ่ำชื่น สบายหู …ประการสำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือว่า Gram Amp 2 ‘Communicator’ มี surface noise ที่น้อยมาก เสียงเป๊าะๆ แป๊ะๆ จากประจุไฟฟ้าสถิตบนผิวแผ่นนั้น แทบจะไม่มีออกมาให้ได้ยินเลย ไม่ว่าจะเป็นในขณะรับฟังแผ่น super-cut / super-disk หรือว่าแผ่นตลาดทั่วไป
บอกตรงๆ ว่า ยิ่งฟังก็ยิ่งติดใจในสภาพบรรยากาศของความเป็นอะนาลอกที่ Gram Amp 2 ‘Communicator’ ส่งมอบออกมาจากแผ่นเสียงแผ่นแล้วแผ่นเล่าที่หยิบจับนำมาเปิดฟัง ให้ความอิ่มฉ่ำแตกต่างจากการรับฟังจากแผ่นซีดี มีความเป็นธรรมชาติของทุกสรรพเสียง รับรู้-สัมผัสได้ถึงความมีตัวตนของเสียงต่างๆ ได้ฟังแล้วชื่นมื่นหัวใจ Gram Amp 2 ‘Communicator’ มิได้ถูกเน้นให้มีความชัดแจ้ง อย่างโปร่งทะลุ จนเสียงแห้งผากเพราะขาดมวลอากาศรายรอบ ในขณะที่เสียงทุกเสียงล้วนมีอาณาบริเวณ ไม่ซ้อนทับบดบังกัน แม้ในช่วงดนตรีโหมประโคมสนั่น ทั้งยังแยกแยะเสียงสะท้อนที่ก้องกังวานย้อนกลับมาแผ่วๆ ของสภาพอะคูสติกภายในสถานที่แสดงดนตรีได้แจ่มชัดมาก ราวนำพาตัวเราเข้าไปนั่งอยู่ในสถานที่นั้นๆ เทียวล่ะ
Gram Amp 2 ‘Communicator’ จะให้สภาพซาวด์สเตจที่กว้างใหญ่ พร้อมด้วยลักษณะการโอบล้อมทางเสียงที่ดี ให้การผุดโผล่ของเสียงในลักษณะที่ “ลอยล่อง” แผ่ออกมาอย่างมีอาณาบริเวณของเสียงนั้นๆชัดเจน มิใช่เกิดขึ้นเป็นจุด…เป็นจุด…เฉพาะตรงโน่นตรงนี้แล้วก็จางหายไปในฉับพลัน เสียงทุกเสียงที่รับฟังให้ความอิ่มอุดมมีตัวตนของเสียงในทุกช่วงย่านความถี่ คุณจะยังคงรับฟังช่วงปลายสุดของเสียงแหลมที่ทอดยาวไกล (ไร้การกักกั้น) ได้อย่างพละพลิ้วและมีพลัง รวมทั้งความกังวานของปลายหางเสียง จนกระทั่งค่อยๆแผ่วจางไปอย่างเป็นธรรมชาติ
ช่วงย่านความถี่ต่ำนั้นนับได้ว่า “โดดเด่น” ให้ทั้งพลังความหนักแน่น และเรี่ยวแรงปะทะกระแทกกระทั้นควบคู่กัน รวมถึงความฉับพลันทันใดของจังหวะจะโคน ทั้งยังทิ้งทอดตัวลงไปได้ลึกมากๆด้วย จะฟังเบส-ฟังกลองก็ล้วนมันส์ในอารมณ์ ทางด้านน้ำหนักของเสียง เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงความถี่เสียงกลาง จะสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่เมื่อแรกฟัง ทำให้ไม่ว่าจะเป็นเสียงนก เสียงปรบมือ เสียงนักร้อง เสียงพลิกกระดาษโน้ต เสียงขยับเก้าอี้ เสียงเครื่องดนตรีต่างๆ มิได้เป็นเพียงแค่เสียงนั้นๆ หากยังมีความอิ่มเอิบอย่างสมจริงจากอณูเสียงของมวลอากาศรายรอบ
อีกทั้งความนวลเนียนของเสียงต่างๆ นั้นๆ จัดว่า “ดีมากๆ” ให้ความไหลลื่นต่อเนื่องกลมกลืนกัน มิได้เน้นความโดดเด่นที่ช่วงย่านความถี่ใดโดยเฉพาะ รับฟังแล้วเพลิดเพลินใจให้ความมีชีวิตชีวาในทุกสรรพเสียง ฟังได้นานติดต่อกันอย่างอิ่มเอมใจไม่รู้เบื่อ เสมือนถูกจูงเข้าไปอยู่ในท่ามกลางอารมณ์ดนตรีที่กำลังรับฟัง
สรุปส่งท้าย
น่าจะเรียกได้ว่าเป็น “The budget-price killer” อย่างเต็มภาคภูมิสำหรับ Gram Amp 2 ‘Communicator’ ด้วยราคาค่าตัวที่ย่อมเยามาก (Handmade in UK. !!) แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงที่ได้รับกลับมา นับว่า “คุ้มค่า” อย่างที่สุด Scott Faller แห่ง TNT Hi-Fi Magazine ถึงขนาดระบุไว้ว่า “ดี เกินหน้าระดับราคาไปมาก น่าจะอยู่ในระดับราคาสัก 750 ถึง 1,000 ดอลล่าร์ได้สบายๆ” หรือก่อนหน้านี้ Geoff Husband แห่ง TNT Hi-Fi Magazine ก็ยังให้ความชื่นชมไว้ “…เกินกว่าที่คาดไว้ ในด้านของซาวด์ สเตจที่เทียบเคียงได้กับโฟโนสเตจที่มีราคาระดับตัวเลข 4 หลักกระนั้น” อีกทั้งนิตยสาร What Hi-Fi? (UK) และ Hi-Fi Choice ก็ล้วนการันตีไว้ด้วยศักดิ์ศรี ‘Five Star Winner’ เช่นกัน
Gram Amp 2 ‘Communicator’ อาจมิได้ถึงกับส่งมอบความลึกของลักษณะเวทีเสียงที่ผนังหลังลำโพงเสมือนว่าล่องหนหายไป แต่คุณก็จะสามารถจำแนกแยกแยะ “แถวชั้น” และ “แห่งหน” ของตำแหน่งชิ้นดนตรีที่รับฟังอยู่ลดหลั่นเหลื่อมกัน-ลึกเข้าไปได้ชัดเจน ชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยราคาไม่ถึงหมื่นบาทของ Gram Amp 2 ‘Communicator’ จะสามารถสำแดงสมรรถนะให้ประจักษ์ได้ในระดับนี้ Gram Amp 2 ‘Communicator’ จึงมิได้มีศักดิ์ศรีเป็นเพียงแค่ MM Phono Preamp สำหรับผู้ที่คิดจะลองเล่นลองฟังแผ่นเสียงอย่างคุ้มค่าเท่านั้น แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดในฐานันดรศักดิ์ระดับจ้าวยุทธจักร ที่มองข้ามกันมิได้อีกด้วย
ขอขอบคุณ บริษัท อินเวนทีฟ เอวี จำกัด โทร 0-2238-4078-9 ที่เอื้อเฟือให้ Gram Amp 2 ‘Communicator’ มาทดสอบในครั้งนี้