Theva Series นับเป็นน้องใหม่ล่าสุด จัดอยู่ในกลุ่ม Entry Level ของ Focal ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะของ Focal ถูกผสมผสานไว้ในไลน์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ส่งผลให้ Theva Series มีราคาไม่แพง และมอบความคุ้มค่าต่อราคา “Theva Series” ผลิตขึ้นในเวิร์กช็อปของ Focal ในประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เทคโนโลยี ‘Slatefiber’ ซึ่งช่วยให้ได้เสียงที่ไดนามิก เอิบอิ่ม และให้ความสมดุลเสียง นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ลำโพง Theva Series ยังโดดเด่นด้วยสไตล์ที่ทันสมัยและเรียบง่าย พื้นผิวที่ผ่านการตกแต่งอย่างประณีตหลากหลายแบบ ผสมผสานกับแผงด้านหน้าที่ออกแบบมาให้ลำโพงดูสง่างาม โดดเด่น
โดยแบ่งย่อยออกเป็น 6 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Theva No.1, Theva No.2, Theva No.3, Theva No.3-D, Theva Center และ Theva Surround รวมถึงซับวูฟเฟอร์ Sub 600P อีกหนึ่งรุ่น อีกทั้งก็จะมี “ขาตั้ง” ที่ออกแบบมาสำหรับบางรุ่นที่เป็นลำโพงวางหิ้ง (Bookshelf) โดยที่ Theva No.1 เป็นลำโพงวางหิ้ง หรือวางบนชั้นวางหนังสือขนาดกะทัดรัด Theva No.2 เป็นลำโพงตั้งพื้น 3-ทาง ที่มีรูปทรงเพรียวบาง ด้วยวูฟเฟอร์ขนาด 5 นิ้ว Theva No.3 เป็นลำโพงตั้งพื้น 3-ทาง ที่ออกแบบเหนือกาลเวลา (Timeless) Theva No.3 D เป็นลำโพงตั้งวางพื้น 3-ทาง พร้อมลำโพงเสริมยิงเสียงด้านบน เพื่อเอฟเฟกต์เสียง Dolby Atmos® ที่น่าตื่นตาตื่นใจ Theva Center เป็นลำโพงตรงกลางแบบ 2-ทาง สำหรับรองรับบทสนทนาในภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ ส่วน Theva Surround สำหรับใช้เป็นลำโพงด้านหลังที่ทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น
คุณลักษณ์
Theva No.3 เป็นรุ่นสูงสุดของซีรีส์ มีระบบการทำงานแบบ 3-Way Floor-Standing Speaker โดยมีทวีตเตอร์อะลูมิเนียม-แมกนีเซียม แบบโดมคว่ำ (Inverted-Dome Aluminum-Magnesium Tweeter) ขนาด 1 นิ้ว ไดรเวอร์เสียงกลางแบบ Slatefiber® ขนาด 6.5 นิ้ว 1 ตัว และวูฟเฟอร์แบบ Slatefiber® ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 2 ตัว ด้วยโดมคว่ำ คอยล์เสียงจึงมีขนาดเล็กลงได้ ส่งผลให้มวลลดลง ทำให้โดมเริ่มและหยุดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดการบิดเบือนเสียง
Theva No.3 เป็นรุ่นสูงสุดระดับเรือธงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Theva Series ที่ผลิตในฝรั่งเศส ซึ่งผสมผสานนวัตกรรมเฉพาะของ Focal หลายอย่างเข้าด้วยกัน มีระบบการทำงานแบบ 3-Way Floor-Standing Speaker โดยมีทวีตเตอร์ TNF สำหรับเสียงแหลมที่แม่นยำสูง โดยเป็นแบบ โดมคว่ำ วัสดุตัวโดมเป็นอะลูมิเนียม-แมกนีเซียม (Inverted-Dome Aluminum-Magnesium Tweeter) ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งด้วยโดมคว่ำนี่เอง วอยซ์คอยล์จึงมีขนาดเล็กลงได้ ส่งผลให้มวลลดลง ทำให้โดมเริ่มและหยุดได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดการบิดเบือนเสียง ทำงานร่วมกับไดรเวอร์เสียงกลางแบบ Slatefiber® ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 1 ตัว และวูฟเฟอร์แบบ Slatefiber® ขนาด 6.5 นิ้ว จำนวน 2 ตัว
ทั้งนี้ไดรเวอร์ขนาด 6.5 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี Slatefiber® ซึ่งช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแรง และยังเพิ่มการหน่วงหนึด (Damped) โดยที่ไดอะเฟรมแบบ Slatefiber นั้นขึ้นรูปจากเส้นใยคาร์บอนรีไซเคิลแบบไม่ทักทอ เพื่อเสียงกลางและเบสที่หนักแน่น-ทรงพลัง
ในส่วนของทวีตเตอร์แบบ TNF เป็นทวีตเตอร์โดมกลับหัว (Inverted Dome Tweeter) อันเป็นเอกลักษณ์ของ Focal ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ข้อได้เปรียบหลักนอกเหนือจากทิศทางกระจายเสียงที่แผ่กว้าง ก็คือการใช้คอยล์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็ก (และจึงเบามาก) ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับโดมที่มีความแข็งแกร่งสูง ซึ่งขึ้นรูปจากอะลูมิเนียม/แมกนีเซียม พร้อมกับส่วนขอบรอบ (Surround) ที่ใช้วัสดุ Poron ซึ่งเป็นวัสดุที่จดจำรูปร่างได้ (Shape-Memory Material)
ส่วนขอบรอบนี้นำมาจากทวีตเตอร์ Utopia Beryllium ที่มีชื่อเสียงสุดๆ ของ Focal ซึ่งส่งผลช่วยลดการบิดเบือนได้ถึง 3 เท่าระหว่างความถี่ 2,000 ถึง 3,000 เฮิรตซ์ ซึ่งเป็นความถี่ที่หูรับความรู้สึกได้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบในเชิงพื้นที่และปรับปรุงทิศทางกระจายเสียงที่แผ่กว้างของโดมกลับหัว (Inverted Dome Tweeter) นี้ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเหนือกว่าโดมแบบปกติทั่วไปของคู่แข่งอย่างมาก Focal จึงได้พัฒนาท่อนำคลื่นขึ้น (Waveguide) ในระนาบแนวนอน (Horizontal Plane) การตอบสนองความถี่จะอยู่ภายใน +/-0.5 dB
ประสิทธิภาพนี้รับประกันเวทีเสียงที่เสถียรอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งไม่สำคัญต่อตำแหน่งการรับฟังที่ต้องเป๊ะๆ และตั้งตัวตรงอีกต่อไป การบรรลุสู่สิ่งดังกล่าว ขึ้นอยู่บนความแม่นยำของส่วนประกอบที่ละเอียดอ่อนอย่างทวีตเตอร์ ที่เป็นไปได้ก็ด้วยความพยายามอย่างหนักกว่ายี่สิบปีในการปรับปรุงกระบวนการอุตสาหกรรมของ Focal การควบคุมการผลิตเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ต่อไปในสาขาลำโพงให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ภายใต้ระบบตัวตู้แบบ เปิด (Bass Reflex) ที่ช่องระบายอากาศติดตั้งอยู่ด้านหลังของ “Theva No.3” โดดเด่นด้วยความเรียบง่าย สง่างาม พร้อมทั้งความละเอียดอ่อนที่ซ่อนรูปอยู่หลายประการที่สร้างความแตกต่าง ได้แก่ แผงด้านหน้า สีดำ สีไม้เข้ม และสีไม้อ่อน วงแหวนโลหะ และสกรีนลายผ้าไหม ที่ยึดจับแผงหน้าแบบแม่เหล็ก
เมื่อใช้งาน Theva No.3 ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Theva (Theva No.1, Theva No.2, Theva No.3-D, Theva Center, Theva Surround) และซับวูฟเฟอร์ SUB 600P แล้ว Theva No.3 จะให้ประสบการณ์ Home Cinema ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่เมื่อใช้งานเป็นลำโพงคู่หลักในการรับฟังเพลง Theva No.3 ก็สามารถสร้างความประทับใจในการรรับฟังอย่างสมฐานะความเป็นรุ่นเรือธงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Theva Series
ทั้งนี้ Theva No.3 มีสัดส่วนตัวตู้ 98.9×21.2×38.8 ซม. (สูง×กว้าง×ลึก) และพิกัดน้ำหนัก 20 กก. ทั้งนี้ Theva No.3 จะมีช่วงย่านของการตอบสนองความถี่เสียงครอบคลุมตั้งแต่ 48 Hz ขึ้นไปได้จนถึง 28,000 Hz โดยสามารถตอบสนองช่วงความถี่ต่ำลงมาได้ถึง 39 Hz ที่ -6 dB ด้วยอัตราค่าความไวเสียง (Sensitivity) ประมาณ 91dB และมีค่าความต้านทานปกติอยู่ที่ 8 โอห์ม (ต่ำสุด 2.9 โอห์ม) อัตรารองรับกำลังขับ 40-250 วัตต์
ผลการรับฟัง
ขอชี้แจงสักนิดครับว่า เป็นอีกครั้งที่การรับฟัง “Theva No.3” ของผมนั้น เป็นการรับฟังที่ได้รับความอนุเคราะห์จากทางโชว์รูม Focal Powered By Naim ที่ Siam Paragon ซึ่งบอกได้เลยครับว่า “Theva No.3” ให้เสียงที่สมดุล กลมกล่อม ควบคู่ความโปร่งกระจ่าง สดใสดีมากๆ ทว่าไร้ซึ่งความจัดจ้า บ่งบอกถึงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างจะแจ้ง-จริงจังอย่างชนิดไม่มีความกังขาใดๆ รวมถึงเสียงเบสที่น่าประหลาดใจสำหรับขนาดของตัวลำโพง อันน่าจะมาจากบทบาทสำคัญในการออกแบบด้วยแนวคิดและเทคโนโลยีทันสมัยของ Focal
ทั้งนี้จำเป็นต้องยึดฐานตั้งวาง (Base) ของลำโพงเข้ากับด้านล่างของตัวตู้ลำโพง โดยมีสกรู แหวนรอง และประแจหกเหลี่ยมมาให้พร้อม ซึ่งจะทำให้ตัวตู้ลำโพงเอียงเชิดหน้าขึ้นนิดหน่อย กลายเป็นความเท่เล็กๆ ของลำโพงรุ่นนี้ที่ทำให้ดูดีกว่าธรรมดา โดยรวมแล้ว Focal : Theva No.3 ให้เสียงที่ดีและคุ้มค่าเงินมากทีเดียว ด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงสูงที่สดใส นั่นคือ เอกลักษณ์ของเสียงที่ได้รับรู้จาก Theva No.3 ทั้งนี้ “Theva No.3” ยืมเทคโนโลยีจากลำโพงระดับไฮ-เอนด์ของ Focal เพื่อมอบเสียงที่ไพเราะ ในราคาที่ต่ำกว่า ง่ายต่อการเอื้อมถึง ซึ่งการมีท่อเปิด (Port) ติดตั้งอยู่ด้านหลังตัวตู้ ส่งผลให้ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่รับฟังได้จาก “Theva No.3” นั้น ทรงพลัง หนักแน่น ไม่อวบอ้วน อุ้ยอ้าย และยืดขยายลงไปได้ลึกล้ำ
ทั้งยังให้ความฉับไวและแม่นยำในจังหวะจะโคน หนังหน้ากลองกระเดื่องตึงแน่น ให้แรงปะทะเป็นระลอกที่รับรู้ได้ บ่งบอก “ระลอก” ของคลื่นเสียงหนังหน้ากลองใหญ่ที่กำลังสั่นกระพือ แยกแยะออกมาจากเสียงทุ้มที่ระรัวเป็นจังหวะของกลองไฟฟ้าออกมาได้แจ่มชัด พร้อมด้วยความหนักแน่นของเสียงที่ไม่อัดอั้น เปี่ยมในน้ำหนักของเสียงเบสอันรุกเร้าใจ ในแง่ของความถี่ต่ำที่ “Theva No.3” ส่งมอบออกมานั้น ต้องขอบอกว่า-เกินตัว-โดยเป็นเสียงเบสที่ใหญ่ หนักหน่วง แน่นปึ๊ก และกระชับกระฉับกระเฉง
“Theva No.3” ส่งมอบลักษณะเสียงที่ปลดปล่อย และเปิดโปร่งได้อย่างสมจริงสมจัง ให้ความครบถ้วนทั้งพลัง (Power), ไดนามิกอันฉับพลัน และความไหลลื่น เฉียบคม (Crispy) โดยไร้ซึ่งอาการขึ้นขอบแข็งกร้าว หรือว่าหยาบกร้านระคายหู แต่ให้ความแจ่มชัด และความสดสะอาดของเสียงที่ทำให้สามารถจับเสียงดนตรีชิ้นนั้นชิ้นนี้ได้ถนัดหูราวกับมองเห็นเป็นตัวเป็นตนเลยทีเดียว จากการทดลองปรับเปลี่ยนแอมป์ที่ใช้ขับขาน ผสานกับการลองใช้สายลำโพงรุ่นต่างๆ หลายระดับราคา พบว่า สมรรถนะทางเสียงของ “Theva No.3 ยังไปได้อีกไกล ถ้ามีการจับคู่-แมตชิ่งที่ดีระหว่างอุปกรณ์ใช้งาน และสายลำโพง
อีกทั้ง “Theva No.3” ยังให้คุณลักษณ์ในน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความฉับไว สดใส โปร่งกระจ่าง และบ่งบอกสภาพบรรยากาศการแสดงในสถานที่ที่บันทึกเสียงนั้น (Atmosphere) ที่นับว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจเลยทีเดียว เฉกเช่นเดียวกับการส่งมอบสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจที่สามารถสำแดงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเสียงกีตาร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว แม้ในยามที่คุณมันส์ในอารมณ์ไปปรับเร่งระดับความดังเสียงให้มากขึ้น…มากขึ้น…มากขึ้น “Theva No.3” ก็จะยังสามารถสนองความสะใจในขณะรับฟังได้อย่างน่าทึ่ง และตื่นเต้น…ไร้ความมั่ว/ตีรวนกันของเสียง เสียงทุกเสียงจะยังคงปรากฏเป็นแถวเป็นชั้นถอยลึกเข้าไปหลังแนวตั้งวางระบบลำโพง ไม่มีเสียงใดที่โผล่เลยล้ำหน้าตำแหน่งตั้งวางลำโพงออกมา
จากแนวเพลงคลาสสิคโหมกระหน่ำ “Theva No.3” ได้ถ่ายทอดความอลังการทางเสียงของวงออร์เคสตราที่กำลังแผดสนั่น ประโคมคำรนอย่างยิ่งใหญ่ ทรงพลัง ไม่ปรากฏอาการอัดอั้น เครียดเค้น เสียงเบสลึกๆ ตอบสนองออกมาได้อย่างไร้ปัญหา การรับฟังออร์เคสตราได้เสียงกระหึ่ม กึกก้อง อย่างไม่มีที่ติ ความกว้างใหญ่ของวงออร์เคสตราถูกถ่ายทอดออกมาจนเต็มห้อง แผ่เลยตำแหน่งตั้งวางลำโพงซ้าย-ขวา และถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังออกไปเลยเชียวละท่าน
อันน่าจะเป็นผลมาจากการใช้มิดเรนจ์ และวูฟเฟอร์แบบ Slatefiber ที่มีศักยภาพระดับสูงมาก ควบคู่กับขนาดอันเหมาะสมของไดรเวอร์ที่มีขนาด 6.5 นิ้ว เท่ากันทั้งมิดเรนจ์และวูฟเฟอร์จึงประสานสัมพันธ์กัน ซึ่งสอดรับกับภาระช่วงการทำงานของทวีตเตอร์อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จึงนำมาซึ่งช่วงย่านเสียงกลางที่ให้การจำแนก-แยกแยะรายละเอียดได้ดี มีความกระจ่างสดใสในช่วงย่านเสียงสูง พร้อมด้วยหางเสียงที่มีประกายทอดตัวยาวไกลอย่างสมจริง
“Theva No.3” ยังส่งมอบสภาพเสียงแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นละอองอณูกระจายตัว (การบันทึกเสียงดีๆ นั้นจะจัดเก็บมา บ่งบอกออกมาให้เรา-ท่านได้รับรู้) ทั้งยังให้ความพละพลิ้ว อิ่มเอิบ เปล่งปลั่งของเสียงดนตรีต่างๆ ได้อย่างน่าฟัง โดยมิใช่เป็นเสียงในลักษณะเจิดจ้า หรือจัดจ้าน…ช่วงย่านปลายเสียงสูงๆ ที่รับฟังจาก “Theva No.3” ให้ความรู้สึกว่า ทอดยาวไกลไปสุดกู่ เป็นเสียงช่วงความถี่สูง ที่เรา-ท่านรับฟังได้อย่างสมจริง เป็นเสียงที่เปี่ยมในความเป็นธรรมชาติ มิได้มีการปรุงแต่ง หรือ เน้นขึ้นมาให้ฟังดูใสกระจ่างอย่างผิดไปจากความเป็นจริง
Specifications
Sound-Acoustic
• Product Type : Bass-reflex 3-Way Column
• Membrane : Slatefiber
• Woofer : 2 × 6.5″ (16.5 cm) Slatefiber® Bass
• Medium : 6.5″ (16.5 cm) Slatefiber® Midrange
• Tweeter : 1″ (25 mm) Al/Mg Inverted Dome TNF Tweeter
• Response at -6dB (Low Frequency Point) : 39 Hz
• Frequency Response (+/- 3dB) : 48 Hz-28 kHz
• Minimum Impedance : 2.9 Ω
• Nominal Impedance : 8 Ω
• Recommended Amplifier Power : 40-250 W
• Sensitivity : 91 dB
Design
• Height : 98.9 cm/39 in
• Width : 21.2 cm/8.37 in
• Depth : 38.8 cm/15.25 in
• Weight : 20 kg
Included Accssories
• Counter Points : Bumpers × 4
• Grilles : Magnetic Grille
• Points : Spikes × 4
ขอขอบคุณ : CH Home Media Co.,Ltd. | โทร.085 559 9225 ที่อนุเคราะห์ ผลิตภัณฑ์ในการรับฟังครั้งนี้