Test Report: ลำโพงวางขาตั้ง Dynaudio EMIT M10
“ตำนานอันยิ่งใหญ่”
“bluebird u11”
Dynaudio กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากฝากชื่อเสียงไว้ในอดีตมายาวนาน
หากจะบอกกล่าวถึงตำนานของลำโพง Dynaudio จากเดนมาร์ก คงจะเล่ากล่าวขานกันเป็นครึ่งค่อนวัน บ้างก็คุยกันไม่จบเป็นวันเป็นคืน ยิ่งเจอสาวกของ Dynaudio ด้วยแล้ว นับรุ่นต่อรุ่นกันมายาวนานและขุดคุ้ยคุยกันถูกอกถูกคอกันเลยทีเดียว
ด้านประวัติของลำโพงยี่ห้อนี้ ไม่ต้องอรรถาธิบายให้ยืดยาว เพราะสามารถค้นหาในเว็บฯ ของ Dynaudio เอง ด้วยการสร้างลำโพงทั้งยี่ห้อตัวเองในการจำหน่ายสู่ตลาดโลก อีกทั้งเป็นผู้ผลิตไดรเวอร์อันเลื่องชื่อที่ OEM ให้หลายแบรนด์ลำโพงชั้นนำมาประกอบลงตู้ของตนเองแล้วทำชื่อเสียงโด่งดังไปแล้วทั่วโลก
ยิ่งตลาดทั่วโลกยิ่งได้รับความนิยมสูงมาก ในภาคพื้นภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ดูเหมือนว่าตลาดจากเมืองจีนและฮ่องกงได้รับความนิยมล้นหลามไม่เป็นรองลำโพงยี่ห้อใดๆ ในโลก ทำให้ราคา Dynaudio ในตลาดฮ่องกงถือว่าแข็งมาทีเดียว ในตลาดบ้านเราอาจได้ราคาที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แตกต่างตรงที่ตลาดฮ่องกงจะมีนักเล่นฯ ส่วนใหญ่นิยมชมชอบ Dynaudio รุ่นใหญ่ๆ จะว่าไปแล้ว ผมเองก็หลงใหลในน้ำเสียงจากการสัมผัสในงานแสดงเครื่องเสียงของฮ่องกงมาสองสามปีก่อน เป็นรุ่นเรืองธงของ Dynaudio ที่เน้นทรงสูงและหน้าแคบ แต่ให้ทุกสิ่งอย่างในแบบฉบับที่ยากจะลืมเลือน
หากย้อนกลับมาในตลาดของประเทศไทย Dynaudio มีภาวะล้มลุกคลุกคลานมากกว่าต่างประเทศ ยิ่งเป็นลำโพงในรูปแบบสองทางวางขาตั้งดูเหมือนว่าจะเสียตลาดโดยรวมให้กับลำโพงแบรนด์แคนาดาที่จ้างผลิตไดรเวอร์จาก Dynaudio มาผลิตเป็นลำโพงของตนเอง ทำให้ Dynaudio ดูเหมือนว่าจะถูกลืมเลือนไปจากลำโพงวางขาตั้งยอดนิยมที่นักเล่นฯ บ้านเราพูดถึง อีกประเด็นน่าจะเป็นจากการเปลี่ยนมือบ่อยครั้งของตัวแทนจำหน่ายในประเทศ ทำให้ขาดการทำตลาดอย่างต่อเนื่องและราคาที่ผันผวนหลังเปลี่ยนตัวแทนจำหน่าย
ล่าสุด Dynaudio ถูกปลุกปั้นอีกครั้งกับตัวแทนจำหน่ายรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์กับเครื่องเสียงและลำโพงไฮเอนด์มาหลายทศวรรษ การเข้ามาอยู่ในมือของตัวแทนจำหน่ายใหม่ที่พร้อมทำตลาดและประจวบเหมาะกับ Dynaudio เริ่มส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นคุณภาพให้เข้าสู่ยุคสมัยปัจจุบัน ผมเชื่อว่านี่คือฟ้าหลังฝนของ Dynaudio อีกครั้ง
รูปลักษณ์และการใช้งาน
ในครั้งนี้ Dynaudio ส่งลำโพงวางขาตั้งเข้าสู่ตลาดเมืองไทยอยู่หลายรุ่น โดยรุ่น EMIT M10 เป็นรุ่นเป้าหมายที่ผมขอยืมจากผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในปัจจุบันมาใช้งาน จริงอยู่ว่าลำโพงในรุ่นเรือธงเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมากที่สุด แต่ข้อจำกัดของการใช้งานหรือครอบครองลำโพงในชุดอภิมหึมานั้น องค์รวมจะต้องมีความพร้อมในเรื่องห้องฟังและห้องที่จะใช้งานเป็นสิ่งแรก หากเป็นนักเล่นทั่วไปในบ้านเรา ลำโพงวางขาตั้งเหมาะสมทั้งขนาดที่พักอาศัยและอุปกรณ์ร่วมใช้งาน ผมเองก็มีความชื่นชอบลำโพงวางขาตั้งเป็นทุนเดิมด้วยปัจจัยดังกล่าว ครั้งนี้จึงถือว่าเป็นครั้งแรกของ Dynaudio ในห้องฟังห้องนี้ หลังจากที่ใช้ลำโพง OEM ไดรเวอร์ของ Dynauido ไว้อ้างอิงมาอย่างยาวนาน
Dynaudio EMIT M10 ในตระกูล Line up นี้ได้จัดชุดลำโพงให้สามารถใช้งานในระบบมัลติแชนแนลได้ด้วย วางตัวไว้เป็นลำโพงวางขาตั้ง 2 รุ่น ลำโพงตั้งพี้น 1 รุ่น ลำโพงเซ็นเตอร์ 1 รุ่น โดยรุ่นวางขาตั้งกำหนดรุ่น EMIT M10 และ EMIT M20 ซึ่งแตกต่างเรื่องขนาดตัวตู้และไดรเวอร์ ครั้งนี้รุ่น EMIT M10 เป็นลำโพงเป้าหมายที่หยิบยืมมาใช้งานในรูปแบบสเตอริโอสองแชนแนล หากคุณภาพลำโพงดีเยี่ยมจริงๆ ในบางครั้งผมจะจัดชุดมัลติแชนแนลด้วยลำโพงวางขาตั้งรุ่นเริ่มต้นทั้งหมดและเสริมด้วยซับวูฟเฟอร์ก็ถือว่าคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
Dynaudio EMIT M10 เป็นลำโพงรุ่นเล็กสุดของประเภทวางขาตั้ง ออกแบบเป็นลำโพงสองทางสองตัวขับวางขาตั้งหรือวางหิ้ง รูปร่างกะทัดรัดเหมาะสม สามารถยกได้อย่างง่ายดาย จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ลำโพงพิกัดเดียวกันนี้มีเจ้าตลาดขาใหญ่ในบ้านเราที่ครอบครองหัวใจของนักเล่นฯ ชาวไทยอยู่แล้วสองสามตัว ขนาดโดยรวมไม่เล็กเหมือนลำโพงเซอราวด์แบบประเภทแขวนผนัง หากจะใช้ทำเซอราวด์จริงก็จำเป็นต้องวางขาตั้งใช้งานแน่นอน ผนังทุกด้านของตัวตู้ออกแบบขนานกันทรงสี่เหลี่ยมปกติ ทำงานแบบตู้เปิด กำหนดพอร์ทระบายลมอยู่ด้านหลังของตัวตู้หนึ่งพอร์ท และมีโฟมสำหรับอุดพอร์ทลำโพงมาให้ตู้ละหนึ่งตัว ตัวลำโพงมีความสวยงามดูเรียบแบบคลาสสิก ในความคลาสสิกนี้ดูเหมือนมีอะไรพิเศษซ่อนเร้นอยู่ในตัวตู้ที่น่าค้นหาไม่น้อย
Dynaudio EMIT M10 วางไดรเวอร์เสียงทุ้มอยู่กึ่งกลางระหว่างความกว้างของตัวตู้ ส่วนไดรเวอร์เสียงแหลมวางในแนวเซ็นเตอร์เช่นกัน เป็นการวางลำโพงตามแนวดิ่งทั้งเสียงแหลมและเสียงทุ้ม ไดรเวอร์ทั้งสองตัวนี้วางเสื้อของทั้งสองตัวทับเกยกันเล็กน้อย เป็นการออกแบบที่คาดหวังให้เสียงทุกย่านเสียงออกมาจากกึ่งกลางของตัวลำโพงแบบลำโพงฟลูเร้จน์ ทำให้การออกแบบวงจรพาสซีฟเน็ตเวิร์กภายในอาจไม่ยุ่งยากมากเกินจำเป็นเมื่อเทียบกับลำโพงประเภทวางไดรเวอร์ห่างกันมากๆ งานประกอบลงตู้ทั้งไดรเวอร์เสียงทุ้มและไดรเวอร์เสียงแหลมแนบสนิทเข้ากับโครงหน้าของผนังตู้ ตัวงานประกอบเรียบร้อยตามแบบฉบับผู้ผลิตจากเดนมาร์ก
ไดรเวอร์เสียงแหลมออกแบบให้เสื้อของไดรเวอร์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างพอสมควร ทำให้ตัวโดมของไดรเวอร์มีขนาดใหญ่และส่งผลให้มุมกระจายเสียงของเสียงแหลมกว้างขวางยิ่งขึ้น เสื้อไดรเวอร์ทำจากวัสดุจำพวกโพลีโพรไพลีนสีเงินมิลเลนเนียม ตัวโดมไดรเวอร์เป็นโดมอ่อนจำพวกผ้าไหมอาบน้ำยามีขนาด 28 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้าของโดมเปิดโล่งอิสระ ไม่มีตะแกรงหรือตัวกระจายเสียงใดๆ มาบดบังทิศทางเสียง ระหว่างเสื้อไดรเวอร์กับโดมยึดเข้าด้วยกันด้วยสกรูหัวหกเหลี่ยมทั้งหมดสามตัว ไดรเวอร์เสียงแหลมติดตั้งลงในตัวตู้ด้วยสกรูหัวสี่แฉกสีดำทั้งหมดสามตัวเช่นกัน งานประกอบลงตู้เรียบร้อยมาก
ไดรเวอร์เสียงทุ้มขนาด 140 มิลลิเมตร หรือ 5.5 นิ้ว ออกแบบตัวกรวยไดรเวอร์ด้วยวัสดุพิเศษของ Dynaudio ใช้ชื่อเรียกว่า MSP (Magnesium Silicate Polymer) ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทานกว่า PE ทั่วไปและมีความนิยมสูงกว่ากรวยจำพวกกระดาษอาบน้ำยา ตัวกรวยชิ้นนี้ยึดติดกับขอบเซอราวด์แบบเว้าออกปกติที่ทำจากวัสดุประเภทยางดิบสีดำ กึ่งกลางด้านในของตัววูฟเฟอร์ออกแบบดัสแคปทรงโดมแบบเอกลักษณ์ของ Dynaudio ที่มีร่องแบ่งเป็นช่วงๆ ก่อนยึดติดเข้ากับกรวย MSP เมื่อมองเข้าไปด้านหน้าของตัวตู้ลำโพง จึงมองเห็นกรวยลำโพงดำสนิททั้งสองตัว วูฟเฟอร์นี้ยึดไว้ด้วยสกรูหัวหกเหลี่ยมสีดำทั้งหมดสี่ตัว ซึ่งหัวสกรูนี้ร้อยอยู่บนขอบของโครงไดรเวอร์ชิ้นนอกสีเงินมิลเลนเนียม ขอบเสื้อของไดรเวอร์เสียงทุ้มนี้มีสีเงินมิลเลนเนียมเช่นกัน ด้านล่างไดรเวอร์นี้ติดตั้งโลโก้ Dynaudio ตัวนูนสีเงินไว้ชัดเจน งานประกอบลงตู้แนบสนิทสวยงาม
ผนังด้านหน้าลำโพงทั้งสี่มุมเจาะรูและใส่พุกพลาสติกไว้ภายใน เพื่อรองรับหน้ากากลำโพงที่ออกแบบผ้าปิดหน้าลำโพงให้มีเดือยเสียบลงบนพุกรูนี้ หน้ากากลำโพงหุ้มไว้ด้วยผ้าสีดำพร้อมติดตั้งโลโก้ Dynaudio ไว้บนหน้ากากนี้เช่นกัน ส่วนผนังตู้ด้านบนและด้านล่างเรียบสนิทเช่นเดียวกับผนังด้านข้างของตัวตู้ ผนังทุกด้านนี้ทำสีผิวชั้นนอกสีดำสนิทระบุว่าเป็นสี Satin Black งานผิวตู้ชิ้นนอกนี้เรียบร้อยมากๆ เป็นผิวสีดำไม่เน้นสะท้อนแสง ส่วนด้านล่างของตัวตู้เรียบสนิท สามารถวางไว้บนขาตั้งที่รองรับได้เลย
ผนังด้านหลังลำโพงออกแบบให้ขนานกับผนังชิ้นด้านหน้า กำหนดตำแหน่งติดตั้งขั้วลำโพงไว้ด้านล่างของตัวตู้ ช่วงด้านบนติดตั้งพอร์ทระบายลมขนาดใหญ่ ตัวพอร์ทระบายลมนี้วางตำแหน่งไว้ส่วนบนของผนังด้านหลัง ตัวพอร์ททำจากวัสดุประเภท HD PE สวมอัดเข้าไปในตัวตู้ลำโพงและต่อลึกเข้าไปในตัวตู้จนเกือบถึงแม่เหล็กของทวีตเตอร์ ด้านล่างของผนังหลังตัวตู้ติดตั้งขั้วลำโพงไว้หนึ่งคู่แบบซิงเกิลไวร์ ตัวขั้วชุบทองดูดีและแน่นหนาวางอยู่บนเพลทรองรับอีกชิ้นหนึ่ง เพลทนี้เป็นตัวยึดติดเข้ากับผนังตู้ ด้านบนขั้วลำโพงติดตั้งเพลทสติกเกอร์ระบุรุ่น, เบอร์ลำโพง และค่าความต้านทาน ส่วนประเทศผู้ผลิตระบุว่า Made in Denmark ไว้ขอบมุมด้านล่างของลำโพง
Dynaudio EMIT M10 บรรจุมาในกล่องกระดาษสีน้ำตาล ด้านนอกตัวกล่องแปะกระดาษขาวสกรีนรายละเอียดบ่งบอกไว้ชัดเจน ทั้งรุ่นและค่าจำเพาะของลำโพง รวมไปถึงระบุประเทศผู้ผลิต เมื่อเปิดกล่องด้านในให้โฟมอัดขึ้นรูปประกบตัวลำโพงทั้งสองตู้ไว้แน่นหนามาก มีคู่มือเล่มขนาดกลางหนึ่งเล่มและฟองน้ำอุดพอร์ทระบายลมหลังตู้ อีกทั้งห่อหุ้มตัวลำโพงไว้อีกชั้นหนึ่ง มีใบรับประกันที่ระบุมาว่าเป็นตัว DEMO ส่วนการรับประกันในประเทศไทยลองสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง
Dynaudio EMIT M10 เป็นลำโพงแบบสองทางสองตัวขับวางขาตั้ง ไดรเวอร์วูฟเฟอร์มีขนาดเท่ากับ 140 มิลลิเมตร ไดรเวอร์เสียงแหลมโดมผ้าขนาด 28 มิลลิเมตร ความต้านทานปกติ 6 โอห์ม ค่าความไวของลำโพง 86 เดซิเบล (1 watt at 1 m) ตอบสนองความถี่ที่ 50 เฮิรตช์ถึง 23 กิโลเฮิรตช์ (+-3 dB) รับกำลังขับของแอมป์ได้ >150 วัตต์ ขนาดและสัดส่วน กว้าง 170 สูง 292 ลึก 240 มิลลิเมตร น้ำหนัก 5.6 กิโลกรัมต่อตู้ มีสีผิวของตัวตู้ให้เลือก
ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง
Dynaudio EMIT M10 คู่นี้มีสภาพใหม่ทีเดียว สังเกตได้จากการที่ไม่มีร่องรอยการกรีดเทปกาวที่ผนึกมาจากเดนมาร์ก หรือว่าการเปิดกล่องในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของตัวลำโพงคู่นี้ที่เข้ามาถึงประเทศไทย ชุดเครื่องเสียงในการลองฟังและเบิร์นอินไปพร้อมกับลำโพงคู่นี้มีอยู่หลากหลายชุด เน้นการลองฟังชุดหลักๆสองชุดด้วยกันดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี ARCAM : FMJ CD23 dCS Ring DAC plus HDCD, อินทีเกรทแอมป์ MBL : CORONA C51, ลำโพงเป้าหมาย Dynaudio : EMIT M10, สลับกับลำโพง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง XAV : Pratiott prototype (Tweeter TDL) จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว, ขาตั้ง Partington Super Dreadnought สูง 24 นิ้ว สีแกรไฟต์ ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Cross (RCA) สีเขียวท่อหดเทาตัวหนังสือสีขาวยาว 2 เมตร, สายลำโพง Cardas Cross รุ่นเก่าสีเขียว Single-wire ขั้วต่อจากโรงงาน ยาว 2 เมตร, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS INWALL Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug) อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3
ชุดที่สองประกอบด้วย เครื่องเล่นแผ่นเสียง Roksan : Radius 5 พร้อมหัวเข็มและอาร์มของ Roksan, โฟโน Project : THE Phono BOX, เครื่องเล่นซีดี Ayre Acoustic : CX 7 Evolution, อินทีเกรทแอมป์ Krell : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition ลำโพงเป้าหมาย Dynaudio : EMIT M10, สลับกับลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott prototype (Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Golden Reference (XLR) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร, สายลำโพง Cardas Cross รุ่นเก่าสีเขียว Single-wire ขั้วต่อจากโรงงาน ยาว 2 เมตร, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord เข้าขั้ว Wattgate ทองรุ่นเก่าทั้งด้านขั้วตัวผู้และขั้วตัวเมียยาว 2.1 เมตร, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate Audio : 381 Classic รุ่นใหม่ อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทีเกรทแอมป์
เครื่องเล่นแผ่นเสียงจัดวางบนชั้นวาง Solid Tech : Rack of silence regular 1 + แผ่นไม้ TARGET AUDIO B1 รองใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยไดนาฟุตสามลูก โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น เครื่องเล่นซีดี จัดวางบนชั้นวาง Target Audio : B1 + แผ่นไม้แท้, อินทีเกรทแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of silence regular 1 + แผ่นไม้ Solid Tech แท้, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานสฟอร์เมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้หนึ่งก้อน และบริเวณโวลลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้หนึ่งก้อน พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณด้วยก้อนอิทธิเจ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com) สายลำโพงรองไว้ด้วยตัวรองสาย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละสองตัวและ Solid Techข้างละ 2 ตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วยบล็อกไม้ Cardas ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรทแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR8 ทั้งหมดแปดจุดแปดตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมดสี่แผงและปรับแต่งอะคูสติกเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมดสี่คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพงสองคู่ ด้านข้างลำโพงสองคู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ HIFI Club หนึ่งคู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีกหนึ่งคู่วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ. จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้งสามตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย,ขวา และกึ่งกลางอย่างละหนึ่งตัวเอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนซ์วางไว้กึ่งกลางแผงหลังอีกที ส่วนแผงด้านข้างทั้งสองแผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง HIFI HOUSE) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-777 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้
ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 เมตร ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 เมตร โทอินลำโพงไม่เกิน 20 องศา โดยประมาณ (เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน
ข้อสังเกตการณ์ใช้งาน
– หากเน้นคุณภาพจากการฟังให้มากที่สุด จำเป็นต้องเปิดหน้ากากลำโพงออกขณะใช้งาน
– การนำปุ่มยางรองใต้ตัวตู้มาติดตั้งเอง อาจส่งผลเบี่ยงเบนจากการทดสอบ
ผลการลองฟัง
Dynaudio EMIT M10 คู่นี้เป็นลำโพงใหม่เอี่ยมแกะกล่อง ไม่น่าผ่านการใช้งานใดๆ มาจากผู้จัดจำหน่าย เมื่อเปิดกล่องจึงรีบตรวจสอบรายละเอียดทุกๆ ชิ้นส่วนของลำโพง ผมจึงรีบจัดวางลำโพงให้เข้าที่เข้าทางทันที น้ำเสียงเริ่มแรกติดหูมาก นำเสนอออกมาด้วยความละเอียดและเปิดโปร่งเล็กน้อย อีกทั้งเนื้อเสียงของย่านเสียงกลางและทุ้มนี้มีปริมาณเหมาะสมกลมกลืนกันไปต่อเนื่อง ให้เสียงทุ้มต้นๆ ออกมาต่อเนื่องไปกับเสียงแหลม กลมกลึงกันมาก นับว่าน้ำเสียงเริ่มแรกนี้สามารถถ่ายทอดออกมาให้ชวนหลงใหลมาก ลำโพงลักษณะนี้เรียกว่าเปิดปุ๊บติดปั๊บกันเลยเชียว ไม่เสียแรงที่เป็นลำโพงชื่อชั้นดีเยี่ยมจากอดีต
เมื่อพิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว ช่วงแรกนี้ยังมีหลายๆ ประเด็นที่ต้องให้ลำโพงเบิร์นอินไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนสรุปว่าลำโพงคู่นี้มีบุคลิกเป็นอย่างไร ผมนึกถึงน้ำเสียงของลำโพงจากแคนาดาในนามว่า TOTEM ที่นำเอาไดรเวอร์ของ Dynaudio มา OEM เป็นลำโพงของตนเองและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก น้ำเสียงของลำโพงดังกล่าวมีความละม้ายคล้ายคลึงกับลำโพง Dynaudio EMIT M10 แต่แตกต่างกันในด้านราคาและความดุดันของน้ำเสียง ถึงแม้ว่าความสดจะแจ้งในช่วงแรกนี้อาจดูย่นย่อกว่าลำโพงที่กล่าวอ้าง แต่ความละเมียดและความนวลเนียนของเส้นเสียงนั้นยังถือว่าติดหูอย่างปฏิเสธได้ยากยิ่ง แต่นี่คือช่วงแรกของการใช้งานเท่านั้น คงต้องรอระยะเวลาเพื่อชี้ชัดลงไป หลังจากการใช้งานจนจบกระบวนการมาตรฐานของการฟังนั้น ว่า Dynaudio EMIT M10 จะควรค่าแก่การครอบครองเพียงใด
อันที่จริงแล้ว หากฟังแบบขอผ่านทั่วไปแล้วนำมาเขียนบทความให้อ่านกันหรือโพสต์สั้นๆ เพื่อบ่งบอกบุคลิก มันไม่ใช่แนวทางนักวิจารณ์ของทีมงานออดิโอทีม หากเป็นเช่นนั้นจริง ลำโพงคู่นี้ผมแนะนำให้ติดมือกลับบ้านไปอย่างไม่ลังเลและไม่มีความกังวลว่าจะมีใครมาสรรเสริญลับหลังแน่นอน ผมเพียงอยากสื่อสารให้รับทราบว่าน้ำเสียงเริ่มแรกที่ได้เมื่อเทียบกับราคาวางจำหน่าย Dynaudio EMIT M10 เป็นลำโพงในระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจมากในพอศอนี้กันเลยทีเดียว และคงถูกหิ้วกลับบ้านได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยมาตรฐานการทำงานและขั้นตอนการใช้งานที่ผมยึดถือในฐานะสื่อกลางตามเจตจำนงค์ของท่านอาจารย์ธนกฤต เสรีรักษ์ (มรณะภาพ) เสมอมา ทำให้ลำโพงคู่นี้ต้องเดินทางไปอีกไกลกว่าจะสรุปว่าบุคลิกของลำโพงเป็นอย่างไร
เมื่ออ้างถึงมาตรฐานการทำงานและขั้นตอนการใช้งาน เหล่าบรรดาลำโพงทั้งหลายที่ผ่านการใช้งานจริงจากห้องฟังห้องนี้ จะมีช่วงชั่วโมงการใช้งานเกินสองร้อยชั่วโมงเป็นต้นไปทุกคู่ก็ว่าได้ เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่และเข้าถึงแก่นแท้ของลำโพงคู่นั้นๆ นี่คือมาตรฐานและขั้นตอนการใช้งานจากนักวิจารณ์ในสำนัก www.audio-teams.com เดียวกันจากรุ่นสู่รุ่นเสมอมา
Dynaudio EMIT M10 จึงฟังเพลงไปต่อเนื่อง ด้วยน้ำเสียงเอาใจหูตั้งแต่เริ่มแรก การฟังเพลงในแนวทางการเบิร์นอินจึงล่วงเลยมาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสลับเบิร์นอินด้วยแผ่นเบิร์นอินระดับโลกของ Purist Audio Design Rev-B ถูกนำมาร่วมใช้งานเบิร์นอินสลับไปพร้อมกับการฟังเพลง เมื่อผ่านการใช้งานมาราวหนึ่งร้อยห้าสิบชั่วโมงเศษ ความเปลี่ยนแปลงจากเดิมสัมผัสได้เด่นชัดมากขึ้น เป็นความเปลี่ยนแปลงในแนวทางต่อยอดความโดดเด่นดั้งเดิมในช่วงแรกและร้อยเรียงให้เกิดความสุภาพมากยิ่งขึ้น เรียบเรียงนานาสรรพเสียงให้ละเอียด ลดความเป็นชิ้นเป็นเส้น ให้ละเอียดดังเม็ดทรายและพัฒนาไปถึงความละเอียดที่เข้าใกล้คำว่าผงแป้ง เสียงเล็กเสียงน้อยจำแนกออกมาได้ดียิ่งขึ้น จัดเรียงสเกลระหว่างเครื่องดนตรีในแต่ละประเภทให้สมดุลกัน ไล่เรียงลำดับสูงต่ำได้ตามชั้นตามระดับความสูง ทุกครั้งในการเริ่มฟังเพลง น้ำเสียงคงเดิมไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ คงเป็นช่วงเวลาที่พร้อมสุดสำหรับลำโพงคู่นี้
ตำแหน่งการจัดวางลำโพง Dynaudio EMIT M10 คู่นี้ในห้องฟังนี้ ผมจัดวางลำโพงห่างกันระหว่างข้างซ้ายและข้างขวาโดยวัดจากกึ่งกลางของตัวตู้ตำแหน่งโทอินแล้วเท่ากับ 182 เซนติเมตร ด้านหลังตู้ลำโพงห่างจากผนังหลัง 160 เซนติเมตร บิดหน้าลำโพงทำมุมประมาณ 20 องศา ห่างจากผนังข้างจนถึงตัวตู้ประมาณ 70 เซนติเมตร เป็นจุดเหมาะสมที่สุดของลำโพง Dynaudio EMIT M10 สำหรับห้องฟังห้องนี้ ระยะนั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 เมตร โดยลำโพงวางใช้งานทั้งขาตั้งมวลหนักและขาตั้งมวลปานกลาง ความสูงระดับ 24 นิ้วและนำก้อนอิทธิเจทับไว้บนตู้ลำโพงตู้ละหนึ่งก้อน
เริ่มจากอัลบั้มดั้งเดิมของการขับร้องประสานเสียงในโบสถ์ของ [Now the Green Blade Riseth / proprius PRCD 9093] กำหนดความใหญ่โตของรูปวงให้ด้านกว้างยืดออกไปเกือบชิดขอบผนังห้องทั้งสอง วางแถวดนตรีตั้งแต่แถวแรกๆไปยันแถวสุดท้ายตามลำดับการจัดเรียงของคนขับร้อง โดยนำเสนอให้แยกแยะอิสระต่อกันไม่ซ้อนทับบดบังกัน ส่วนด้านลึกวางตำแหน่งสุดท้ายไปเกือบชิดผนังดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง รูปวงใหญ่โตเหมาะสมและแผ่ขยายไปเต็มโถงห้องฟังตามตำแหน่งของการยืนขับร้องประสานเสียง รักษาความสมดุลให้กลมกลืนกันในวงได้ดีด้วยการกำหนดความสูงต่ำในแต่ละแถว พื้นเสียงเข้าข่ายสะอาดพอประมาณ เป็นการกำหนดรูปวงที่ไม่เป็นรองลำโพงในระดับสูงกว่าและลำโพงที่มีขนาดใหญ่กว่า
ด้านกว้างและด้านลึกนำเสนอด้วยอัลบั้มที่เครื่องดนตรีมากชิ้น เล่นกันทั้งวง กำหนดแถวหน้าสุดถอยหลังจากหน้าลำโพงประมาณหนึ่งแถว แล้วแถวถัดไปจัดตำแหน่งเป็นชั้นเป็นลำดับ นำเสนอด้านลึกเข้าไปจนสุดโถง ยังคงมีความชัดลึกดีเยี่ยม สอดคล้องกับด้านกว้างขยายออกไปจนเกือบชนิดผนังด้านข้างของห้องฟัง ให้ความสมดุลกันระหว่างด้านกว้างและด้านลึก ความใหญ่โตและความโอ่อ่าของวงเฉกเช่นลำโพงวางขาตั้งที่มีขนาดใหญ่กว่าชัดเจน นำเสนอให้ควบแน่น หลายแทร็กของ [POSTCARDS : The Turtle Creek Chorale / RR-61CD] บ่งบอกประเด็นเหล่านี้ได้ดี เมื่อแถวแรกกับแถวท้ายสุดมีระยะห่างกันแบบสมดุล ทำให้ได้รูปวงใหญ่โตและแยกแยะแต่ละชิ้นดนตรีด้วยความอิสระต่อกันได้ดีมาก
เมื่อประกอบด้านสูงเข้าไปทั้งสามด้าน การฉายภาพสามมิติของเสียงยิ่งสร้างภาพออกมาได้โดดเด่น รูปวงที่ได้สมบูรณ์แบบและลงตัวมาก เครื่องดนตรีแบ่งชั้นแบ่งสเกลตามลำดับตั้งแต่แถวล่างสุดจนถึงแถวบนสุด ให้เสียงล่องลอยขึ้นไปสูงจรดเพดาน ตำแหน่งความสูงตรงกึ่งกลางวงตรึงตำแหน่งไว้แม่นยำ [POSTCARDS : The Turtle Creek Chorale / RR-61CD] เสียงเครื่องเป่าแผดเสียงลมออกมาดุดันรุกเร้า จำแนกรายละเอียดเล็กๆ น้อยในทุกจังหวะทุกท่วงทำนอง ให้พละกำลังและเนื้อเสียงสมดุลกลมกลืนกัน แรงปะทะในจังหวะแรกสมดุลและเหมาะสมมากไม่เน้นให้รุกเร้าและดุดันเกินพอดี เมื่อสิ้นสุดจังหวะแรก ตัวเสียงดำเนินต่อเนื่องไปพร้อมลีลาผนวกกับความกังวาน [ANTIPHONE BLUES / Arne Domneus proprius PRCD 7744] เสียงลมจากเครื่องดนตรีประเภทแซกโซโฟนม้วนเสียงลงเกือบจรดพื้นจึงค่อยๆ ล่องลอยขึ้นไปด้วยความสดใส ผสมรายละเอียดอย่างเด่นชัด
แนวทางของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะ ทั้งเสียงเปียโนรวมไปถึงระนาดเหล็กและเสียงเครื่องเคาะโลหะ ฯลฯ ให้น้ำหนักเสียงย้ำเน้นหัวโน้ตได้เด่นชัดพอดิบพอดี เกรนเสียงเข้าข่ายละเอียดพร้อมเติมฐานเสียงได้สมดุลมาก ตัวเสียงไม่ผอมบางหางเสียงทอดตัวไปไกล เสียงซิบๆ สัมผัสได้น้อยนัก [TEST CD 4.1 / Opus 3 Sweden] โดดเด่นด้วยการจำแนกแยกแยะรายละเอียดให้แบ่งประเภทและขนาดสอดคล้องกันทุกท่วงทำนอง เสียงเล็กเสียงน้อยปลดปล่อยออกมาให้สัมผัสได้ดีสอดคล้องกับจังหวะผ่อนหนักผ่อนเบาของการเคาะ หางเสียงทอดตัวไปไกลและจัดระเบียบเรียบร้อยดีมาก บรรยากาศรายรอบตัวเสียงที่ห้อมล้อมทุกท่วงทำนอง เสียงเครื่องเคาะเหล่านี้หลุดลอยออกมาจากพื้นเสียงด้วยความโดดเด่น เป็นลำโพงในระดับเริ่มต้นยุคใหม่ที่ยังรักษากลิ่นอายความเป็นดนตรีอย่างยิ่งยวดไว้ต่อเนื่อง
กับแนวทางเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย เด่นด้วยความชัดเจนกระจ่างใส ตัวเสียงสดใสและกระจ่างใสนี้ให้ความฉ่ำเพิ่มเติมเข้ามาต่อเนื่อง เรียกว่าเนื้อเสียงของเครื่องสายทั้งหลายมีมวลสอดคล้องกับย่านเสียงอื่น ส่งผลให้อมหวานประปรายและมีประกายโดยไม่ยากเย็นนักบนพื้นฐานความสุภาพ หางเสียงทอดตัวไปไกลและทิ้งระยะไว้เล็กน้อยจึงค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบรื่น อาการขึ้นขอบคมแข็งแทบไม่มีให้สัมผัส ให้ความกังวานในแนวทางเข้มข้นและแฝงความสดใสพร้อมน้ำหนักในทุกจังหวะของตัวเสียง [THE SYMPHONIC SOUND STAGE D/CD3502] รายละเอียดของตัวเสียงแต่ละเสียงจำแนกแยกแยะอย่างอิสระ เสียงกีตาร์ในจังหวะที่ตวัดนิ้วลงไปรวดเร็วและสะท้อนกลับมาด้วยความรวดเร็วเช่นกัน ทั้งจังหวะช้าและเร็วสลับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง [Livinton Tyler : ink / Chesky Record JD162] เปิดเผยเสียงในระดับเบาๆ ให้สัมผัสออกมาได้ดีและไต่เพดานเสียงขึ้นไปจนสุดหางเสียงโดยไม่มีอาการสะดุด
น้ำเสียงและรายละเอียดของเสียงแหลมทั้งหมด ให้ความกระจ่างสดใสในลักษณะแบ่งแยกคอนทราสต์เฉกเช่นลำโพงชั้นดีและนับว่าเป็นจุดเด่นข้อหนึ่งกันเลยทีเดียว ตอบสนองเครื่องดนตรีในย่านความถี่สูงๆ และเครื่องดนตรีประเภทโลหะได้ดีเกินคาดหมายไปมาก พิจารณาอีกครั้งจากอัลบั้ม [ART FOR THE EAR / Burmester CD II] กับย่านเสียงกลางและเสียงแหลมสูงสุด EMIT M10 ถ่ายทอดบทเพลงในอัลบั้มนี้ด้วยความชัดใส มีประกายเสียงแหลมและทอดหางเสียงให้ยาวต่อเนื่อง แยกแยะคอนทราสต์ของเสียงแหลมได้น่าติดตาม มีมวลมีขนาด หางเสียงทอดตัวไปไกลและทิ้งระยะเวลาไว้ตามท่วงทำนองก่อนจะจางหายไปด้วยความราบรื่น พื้นเสียงสะอาดให้ความสงัด บรรยากาศรอบตัวเสียงห้อมล้อมต่อเนื่อง สเกลเสียงขับร้องสมดุลกลมกลืนกันมาก ฟังได้เพลิดเพลินติดหูและชวนติดตาม ในความสดใสนี้ยังมีความผ่อนปรนของเสียงขับร้องอยู่บ้าง มีความอ้อนฉ้อยในบางเวลาและบางบทเพลง ไม่มีอาการล้าหูเข้ามาเสียดแทง ช่วงดนตรีสลับซับซ้อนและรวดเร็วตอบสนองได้ทันท่วงที พร้อมทั้งจัดระเบียบให้ฟังด้วยความเพลิดเพลินจำแนกแยกแยะเหล่าสรรพเสียงได้เหลือคณา
พิจารณาเสียงขับร้องจาก Dynaudio EMIT M10 อีกรอบ ส่วนใหญ่ลำโพงยุคนี้จะเน้นในเรื่องความคมชัดแบบจะแจ้งจนจำแนกทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ออกมามาก ลำโพงคู่นี้ก็เป็นลำโพงในยุคใหม่เช่นกัน แต่แตกต่างกันในหลายประเด็น ด้วยความชัดเจนของลำโพงคู่นี้เป็นความชัดเจนในแนวทางชัดใสและมีความเป็นอะนาลอกอย่างยิ่งยวดทีเดียว ไม่ใช่ว่าลำโพงคู่นี้จะตอบสนองเสียงดิจิตอลยุคใหม่ไม่ได้ ลำโพงคู่นี้ถ่ายทอดทุกสรรพเสียงที่เหล่งต้นทางมีมาให้โดยไม่มีข้อจำกัด แถมด้วยการถ่ายทอดนี้เหนือชั้นแบบลำโพงไฮเอนด์ชั้นดีที่น้อยคู่จะสามารถแสดงออกมาได้ เสน่ห์ย่านเสียงนี้ถือว่าได้คะแนนความดีเยี่ยมอย่างไรที่ติ
แนวเพลงขับร้องหวานใสและห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศ เกรนเสียงขับร้องละเอียด ให้ความชัดใสในแต่ละเสียงขับร้องต่อเนื่องในรูปแบบแจกแจงคอนทราสต์ได้ดีเยี่ยม อัลบั้ม [SNOW ROSE Ax-SN04.01] ให้เสียงขับร้องบนฐานเสียงพอดิบพอดีพร้อมลีลาในการขับร้องควบคู่เสมอ รับฟังด้วยความเพลิดเพลิน จำแนกรายละเอียดในแต่ละวรรคแต่ละตอนแยกแยะออกจากกันได้ดี รายละเอียดหยุมหยิมปลดปล่อยออกมาให้สอดคล้องกลมกลืนกับเสียงหลัก สัมผัสได้ต่อเนื่อง เสียงซิบๆ ของหางเสียงพวกตัวเอสทั้งหลายสัมผัสได้บ้างแต่ไม่ขึ้นขอบคมแข็งบาดหูใดๆ จัดการเสียงเหล่านี้ให้ฟังได้ด้วยความชัดใสและคงไว้กับทุกชิ้นดนตรีที่ให้รายละเอียดอยู่เสมอ
เสียงขับร้องของ [AMANDA McBROOM : DREMING/Gecko Record] สดใส ให้ความกระจ่างของเสียงขับร้อง เสียงลมจากช่องท้องปลดปล่อยออกมาสัมผัสได้ดี การขับร้องในจังหวะรุกเร้าตอบสนองได้รวดเร็ว อีกทั้งจำแนกแยกแยะคอนทราสต์ออกมาได้ดีมาก บรรยากาศรอบตัวเสียงเคล้าคลอสอดคล้องกับความสดใส ให้ความกระจ่างใสของย่านเสียงกลางขับร้องไปจรดเสียงกลางแหลมสูงสุดโดยไม่มีความคมแข็งและบาดหู ปลดปล่อยเสียงให้ต่อเนื่องกันระหว่างย่านเสียงกลางต่ำและกลางสูงกลมกลืนกันไปไร้รอยต่อ เสมือนเสียงออกมาจากไดรเวอร์ตัวเดียวกัน หากเป็นแนวเพลงขับร้องถ่ายทอดออกมาเน้นไดนามิกคอนทราสต์เป็นจุดเด่นเสมอ
กับเสียงขับร้องจากโทนเสียงใหญ่โตอิ่มเอิบของ [Carol Kidd : ALL MY TOMORROWS/ALOI Record] ให้มวลเสียงสมดุลกลมกลืนกันมาก ไม่ใหญ่โตหรือบวมหนา ควบแน่นตั้งแต่จุดเริ่มออกเสียง ตัวเสียง หางเสียงให้ต่อเนื่องกัน ให้มวลและเนื้อเสียงสอดคล้องกับย่านกลางต่ำไปจรดกลางสูงคลุกเคล้ากันไป พร้อมทั้งนำเสนอรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ออกมาเด่นชัดในแนวทางสดใสรวมเข้าไว้กับความกังวานและบรรยากาศรายล้อมเสียงขับร้องนี้ ช่วงขับร้องในจังหวะโหนเสียงสูงขึ้นไป ไต่ระดับเสียงด้วยความต่อเนื่องและยังนำเสนอความสมดุลระหว่างบรรยากาศกับความชัดใส เสียงแหลมตอนกลางไปยันเสียงแหลมสูงสุดบ่งบอกถึงความชัดใสในระดับความดังปกติและความดังในระดับแผ่วเบา แม้จะเปิดในระดับความดังมากขึ้น สมดุลเสียงดังกล่าวยังกลมกลืนเข้าร่วมกับเสียงขับร้องได้ดี ไม่มีอาการเด่นขึ้นมาในย่านใดย่านหนึ่ง
ข้ามมากับแนวทางเสียงขับร้องของนักร้องชายอันทรงพละกำลังในแทร็กที่หก [ART FOR THE / EAR Burmester CD III] ส่งถ่ายพลังเสียงร้อง ทั้งหัวเสียง ตัวเสียงและหางเสียงออกมาครบถ้วนตามลำดับ ให้ความกังวานและความเกลี้ยงเกลาของตัวเสียง การร้องประสานเสียงเด่นชัดหลุดลอยออกจากพื้นเสียงและเสียงหลักด้วยความโดดเด่น ไล่น้ำหนักเสียงรอบข้างไม่ให้ล้ำหน้าเกินเสียงหลัก รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆของการดึงสายกีตาร์ ทั้งการสั่นไหวและการหยุดของเส้นสายจำแนกได้ดี เสียงขลุ่ยให้น้ำหนักและลีลาต่อเนื่อง เกรนเสียงละเอียดเหมาะสม เสียงหยุมหยิมและรายละเอียดหลุดลอยอย่างอิสระ การสไลด์กีตาร์ย้ำเน้นหนักเบา ระดับเสียงนักร้องทั้งหมดตรึงตำแหน่งไว้แนบแน่น สเกลเสียงสมดุลกัน หางเสียงค่อยๆ จางหายไปอย่างราบรื่น
อีกหนึ่งอัลบั้มทดสอบเสียงขับร้องแทร็กที่เก้า [TEST CD5 / OPUS 3 CD20000] ให้ความกังวานพร้อมมวลและเนื้อเสียง จัดระเบียบและปลดปล่อยหางเสียงให้ทอดตัวไปไกล ตัวเสียงขับร้องให้บรรยากาศรายล้อมได้ดี เสียงก้องเสียงสะท้อนเด่นชัด สเกลเสียงให้ขนาดสมดุลกับย่านเสียงอื่น ในจังหวะของการกำหนดลมหายใจเข้าออกกำหนดความแผ่วเบาออกมาให้ได้ยินเด่นชัด ผ่อนหนักผ่อนเบาไล่เรียงน้ำหนักเสียงอยู่ต่อเนื่อง ช่วงขับร้องพร้อมการดึงสายกีตาร์ฟังแล้วได้อรรถรสมีน้ำหนักเสียงชัดใส ไม่ดุดันแบบกร้าวแข็งจนเกินพอดี ย้ำเน้นจังหวะการขับร้องและการเล่นดนตรีออกมาให้สมดุลกลมกลืนกันมากที่สุดโดยจำแนกตำแหน่งและน้ำหนักแต่ละเสียงด้วยความโดดเด่น
เสียงทุ้มต้นใหญ่โตพร้อมน้ำหนักและเก็บตัวตามจังหวะ แต่ไม่ถึงกับกระชับจนห้วนสั้น ตัวเสียงกลมกลึง มีการควบแน่นเพิ่มเติมขึ้น ให้น้ำหนักกระแทกกระทั้นเหมาะสมพร้อมทั้งหางเสียงเก็บตัวตามจังหวะเวลาได้ดี ตอบสนองได้ดีและสะอาดทีเดียว ไม่ทิ้งตัวให้ยืดยาวมากนัก ไม่มีอาการบวมบานออกมา เสียงกลองของเครื่องดนตรีไม้ประเภทเคาะอัลบั้ม [TakeDake With Neptune : ASIAN ROOTS/Denon LC8723] ให้น้ำหนักและเสียงสะท้อนจากเสียงแรกกระทบด้วยความเด่นชัด สมดุลของย่านเสียงทุ้มต้นกับเสียงย่านเสียงทุ้มลึกต่อเนื่องกัน เรียกว่ากลืนกันไปอย่างสมดุลทั้งย่านทุ้มลึกและย่านกลางทุ้ม มวลเสียงควบแน่นดีมาก ย้ำเน้นหัวโน้ตให้กระชับ ทุ้มที่ได้สะอาด ตอบสนองเบสต้นๆ นี้ตามจังหวะได้ทันท่วงที พร้อมรักษาความต่อเนื่องให้เกิดสมดุลเสียงอยู่เสมอ
เสียงกลองจากอัลบั้ม [Rain Forest Dream / SAYDISC CD-SDL384] ให้มวลเหมาะสมและตรึงตำแหน่งไว้แม่นยำ ตัววูฟเฟอร์ตอบสนองได้ตามจังหวะการอัดฉีดของแอมป์ด้วยความต่อเนื่อง ไม่มีอาการเต้นรัวกระเพื่อมจนเกิดความเพี้ยน เคลื่อนตัวได้รวดเร็วและเก็บตัวได้ดี ตอบสนองกับเครื่องในแนวโซลิดสเตตกำลังสูงไปกันได้ดีมาก จังหวะแรกกระทบไม่มีคำว่ายั้งมือ นิยมให้ลำหักลำโค่น ถ่ายทอดเสียงทุ้มให้ควบแน่นกลมกลึงและกลมกลืนกับย่านเสียงอื่นๆได้ต่อเนื่อง สเกลสมดุลกันพร้อมส่งถ่ายความต่อเนื่องลื่นไหลและตอบสนองอิมแพกต์แรกกระทบด้วยความต่อเนื่องพร้อมตำแหน่งแห่งหนชัดเจน ไม่เน้นให้แผ่ฐานเสียงขยายให้บวมบาน ช่วงเวลาสิ้นสุดจังหวะหางเสียงทุ้มนี้ค่อยๆ จางหายไปอย่างราบรื่นโดยไม่ทิ้งหางเสียงให้ไปกวนหรือปะปนกับย่านเสียงแหลม
กับเสียงดับเบิลเบสอัลบั้ม [THE RAVEN / Rebecca Pidgeon Chesky Records JD115] ตัวเสียงควบแน่นมีมวลพอดิบพอดี ขนาดทรวดทรงเสียงเหมาะสม การเดินเบสในแต่ละเส้นกังวานพร้อมน้ำหนัก หางเสียงแต่ละตัวแยกแยะเป็นอิสระต่อกัน กำหนดช่องว่างช่องไฟเว้นระยะไว้ไม่ซ้อนทับกันของแต่ละประเภทเสียงดนตรี ด้วยสเกลเสียงพอเหมาะและกลมกลึงนี้ ส่งผลให้ฟังแนวเพลงย่านนี้ได้จังหวะจะโคนตลอดท่วงทำนอง ประกอบกับรายละเอียดปลีกย่อยของตัวเสียงในย่านกลางแหลมละเอียดชัดใสเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงส่งถ่ายรายละเอียดดนตรีได้เพลิดเพลินและสนุกสนานในการรับฟัง
สำหรับด้านทุ้มลึกกับลำโพงวางขาตั้งที่นับว่าเป็นความลำบากจากการถ่ายทอดออกมานั้น ลำโพงคู่นี้พยายามนำเสนอออกมาในปริมาณที่รับฟังได้ดี เครื่องดนตรีประเภทออร์แกนท่อจากอัลบั้ม [POMP&PIPES! / REFERENCE RECORD/RR-58 HDCD USA] แผ่ความถี่ต่ำออกมา สัมผัสคลื่นความถี่ต่ำได้เหมาะสม และต่อเนื่องกับความถี่ย่านทุ้มต้น ยิ่งเพิ่มระดับความดังปริมาณความถี่ต่ำอาจสัมผัสได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่มีการกระพือจนเสียงบวมบานออกมา เป็นการถ่ายทอดได้ดีเกินตัวลำโพงไปมาก เน้นส่งถ่ายเสียงทุ้มลึกให้แผ่ขยายแบบลักษณะคลื่นเสียงด้านหลังโถงและส่งถ่ายมาถึงจุดนั่งฟัง ย่านเสียงทุ้มลึกนี้ค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบรื่น ไม่ทิ้งหางเสียงให้หย่อนยานและบวมบานออกมา หากห้องฟังรองรับกับความถี่ต่ำได้พอประมาณ การสัมผัสเสียงจากออร์แกนท่อเหล่านี้ได้ยินเด่นชัดแน่นอน
จังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้จากอัลบั้ม [Take’Dake’ with Neptune / AISIAN ROOTS DENON USA] ส่งถ่ายเสียงการเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้มีจังหวะจะโคนตอบสนองได้พอดิบพอดี ไม่เน้นให้รุกเร้ารวดเร็วเกินพอดี นำเสนอคอนทราสต์ให้สัมผัสได้ต่อเนื่องพร้อมจำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีอย่างเหนือชั้น หัวเสียงกระชับกลมมน หัวเสียงย้ำเน้นให้มีน้ำหนักแรกกระทบได้ดีเยี่ยม ให้เสียงสะท้อนจากการเคาะ การเป่า เสียงหนังกลองสะท้อนกลับมาด้วยความกังวาน ทุกท่วงทำนองให้ลีลาพร้อมเสียงอ่อนแก่หนักเบาอย่างต่อเนื่อง ช่วงจังหวะรวดเร็วตอบสนองได้ทันเวลา ช่วงจังหวะช้าก็สามารถถ่ายทอดเสมือนมีจังหวะผ่อนปรนตามทำนองนั้นๆ
ช่องว่างช่องไฟจากบทเพลงคลาสสิกวงใหญ่ แทร็กที่เจ็ดอัลบั้ม [ART FOR THE / EAR Burmester CD III] ส่งถ่ายความดีงามออกมาอีกรอบ ด้วยการขับขานออกมาตามจังหวะที่เหมาะสม แยกแยะช่องว่างช่องไฟให้หลุดลอยออกจากกัน ไม่มีการซ้อนทับปะปนกันระหว่างตัวเสียง ตรึงตำแหน่งไว้แม่นยำแน่นสนิท ขนาดของเสียงแต่ละเสียงสมดุลกัน ช่วงโหมโรงตอบสนองได้รวดเร็วและยังสัมผัสช่องว่างช่องไฟได้ดีเสมอ ทุกช่วงของการกำหนดลมหายใจนำเสนอออกมาได้ชัดเจนพร้อมอารมณ์บนพื้นฐานความสุภาพพอประมาณ
ย้ำอีกครั้งจากอัลบั้ม [POSTCARDS / REFERENCE RECORD/RR-61] หลายแทร็คถ่ายทอดช่องว่างช่องไฟได้ดี เสมอสมานกันในแต่ละตำแหน่ง ไม่ซ้อนทับบดบังกัน แบ่งชั้นแบ่งแถวไล่ลำดับตามสัดส่วนสเกล ยิ่งฟังให้ดังยิ่งขึ้นยิ่งตอบสนองจุดเด่นของการแยกแยะนี้ได้ชัด เร่งโวลลุ่มได้สูงโดยตัวลำโพงไม่เสียหายและไม่เลื่อนตัวออกจากขาตั้ง เสียงแบ็กกราวด์ด้านหลังให้ความชัดใสในแบบชัดลึกและลอยเด่นออกจากพื้นเสียงและฉากหลัง อาการขึ้นขอบคมแข็งสัมผัสได้ยากยิ่ง มีเพียงหางเสียงซิบๆเล็กน้อยในบางครั้งที่ติดตามมาแต่ถือว่าสมดุลกับการนำเสนอ [RACHMANINOFF DALLAS SYMPHONY / Analogue Productions/APCD-006] เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มในการบ่งบอกประเด็นเหล่านี้ได้ดี
สุดท้ายกับประเด็นการจำแนกแยกแยะช่องว่างช่องไฟกับอัลบั้มอ้างอิงชั้นครู [THE SYMPHONIC SOUND STAGE D/CD3502] กำหนดตำแหน่งได้แม่นยำทุกแถว แถวหลังถอยไปชิดกำแพง เครื่องดนตรีนับร้อยชิ้นกำหนดที่อยู่และไล่ลำดับความสูงต่ำพร้อมแยกแยะออกจากกันได้ดี ไม่มีการซ้อนปนทับกันระหว่างแถว ตำแหน่งของชิ้นดนตรีในวงออร์เคสตราตรึงไว้แม่นยำแน่นสนิท แทร็ก 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik wie von einem anderen Stern/MANGER] ตัวเสียงและหางเสียงแยกแยะหลุดลอยจากกัน ให้ช่องว่างเด่นชัดและชัดลึกมาก กำหนดมิติตำแหน่งของแต่ละเสียงในรูปแบบสามมิติ ตัวเสียงเป็นอิสระต่อกันและจางหายไปด้วยความราบรื่น ฟังได้ยาวนานเพลิดเพลินโดยไม่มีความรำคาญแยงหูเข้ามาปะปน
แถมท้ายกับอีกหนึ่งบทเพลงไทยอัลบั้มพิเศษ คุณสุนารี ราชสีมา เป็นแผ่นเพลงไทยธรรมดาๆ ชุดที่สุดของหัวใจ ปกติอัลบั้มนี้จะใช้ฟังเพลงเพื่อผ่อนคลาย เนื้อเพลงเมื่อได้ฟังแล้วสามารถกำหนดตำแหน่งและความนิ่งได้ดี เสียงคุณสุนารีออดอ้อนพิรี้พิไรในแนวทางไร้ความโดดเด่นของย่านเสียงใดเสียงหนึ่ง เนื้อเสียงมีมวล ทุกชิ้นดนตรีแยกแยะออกมาอิสระ เหล่าบรรดาเมาท์ออร์แกนบรรเลงด้วยความหวานไพเราะจับใจ ให้รายละเอียดได้ดี เน้นเรื่องบรรยากาศและความต่อเนื่องของการถ่ายทอดทางด้านอารมณ์ของดนตรี
บทสรุป
Dynaudio EMIT M10 เป็นลำโพงวางขาตั้งรุ่นประหยัดและรุ่นเล็กสุดในซีรีส์เริ่มต้น แม้จะเป็นรุ่นเล็กสุดก็ตาม มีการปรับเปลี่ยนการจูนเสียงโดยต่อยอดน้ำเสียงดั้งเดิมให้ดีเยี่ยมขึ้นในทุกๆ ด้าน เทคโนโลยีด้านอื่นๆ จากรุ่นสูงกว่าได้ถูกถ่ายทอดลงสู่ลำโพงคู่นี้อยู่เช่นกัน ทั้งการจูนเสียงและพาสซีฟครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์กทั้งหลาย ฯลฯ ล้วนมีทิศทางออกแบบเช่นเดียวกับรุ่นสูงกว่า โดยหลักใหญ่ของลำโพงคู่นี้ให้โทนัลบาลานซ์อันเยี่ยมยอดเป็นจุดเด่นสุด ทำให้ทุกย่านเสียงกลมกลืนสมดุลกันไปตลอด อาจฟังแล้วไม่รู้สึกสะดุดหูแบบลำโพงที่เด่นทางด้านกลางสูงหรือกลางต่ำทั้งหลาย แต่นี่คือลำโพงที่ให้สมดุลเสียงเยี่ยมยอดในเรทราคานี้ก็ว่าได้
เนื้อเสียงทุ้มเหมาะสม หัวเสียงเข้มข้น หลังจากเสียงแรกกระทบแล้วยังควบคุมตัวเสียงไม่ใหญ่โตแบบบวมบาน ควบแน่นเล็กน้อยและกลมกลึงเป็นตัวตนสอดคล้องไปกับเสียงกลางทุ้มต่อเนื่องกันไป แทบไม่มีการแบ่งแยกรอยต่อระหว่างเสียงให้สัมผัส ให้ความต่อเนื่องไปตลอดท่วงทำนอง คลอบคลุมทั้งรูปวงที่ขยายออกไปทางกว้างและลึก กำหนดเสียงด้านลึกเข้าไปสุดโถงโดยตัวเสียงหลุดลอยออกจากพื้นเสียงเด่นชัดและเป็นอิสระต่อเสียงอื่นๆ ยังแบ่งชั้นแบ่งระดับของการวางเครื่องดนตรีของวงออเคสตราทั้งหลาย แบ่งแยกระหว่างไวโอลินหนึ่งและไวโอลินสอง อีกทั้งจำแนกเสียงจากวิโอล่าและเชลโล่ให้แยกแยะออกจากกันดีเยี่ยม ยิ่งเป็นเสียงเครื่องเคาะโลหะทั้งหลายยิ่งโดดเด่นและกังวานชวนให้หลงใหลไม่น้อย
อย่างที่เรียนให้ทราบว่า เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Dynaudio ลงมาเล่นลำโพงรุ่นประหยัดราคาย่อมเยา จุดเด่นของรุ่นสูงกว่าได้ถูกถ่ายทอดออกมาใช้ ในทางกลับกัน หากชุดเครื่องเสียงของท่านอยู่ระดับใดก็ตาม ลำโพงคู่นี้ก็จะถ่ายทอดออกมาตามระดับชั้นของชุดและของเครื่องนั้นเชียว ไม่มีการอั้นจากลำโพงคู่นี้ เข้าข่ายเป็นลำโพงประเภทมอนิเตอร์เต็มตัว ทำให้ทุกต้นเสียงที่ป้อนเข้าไปส่งผลตอบกลับให้ฟังได้เพลิดเพลินตามธรรมชาติ ระดับความสูงของขาตั้งร่วมใช้งานที่ 24 นิ้วขึ้นไปถือว่ากำลังเหมาะและใช้ขาตั้งคุณภาพปานกลางไปถึงขาตั้งชั้นดี ลำโพงคู่นี้จะยิ่งแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เน้นการใช้งานกับขาตั้งมวลปานกลาง อีกทั้งการขับดันลำโพงคู่นี้ถือว่าขับไม่ยากนัก ใช้งานร่วมกับอินทีเกรทแอมป์กำลังสำรองดีๆก็สอดคล้องกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทีเดียว
Dynaudio EMIT M10 นับว่าเป็นลำโพงวางขาตั้งรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย อยู่ในข่ายลำโพงคุ้มราคา ฟังได้ยาวนานเล่นได้หลากหลาย ตอบสนองได้ทั้งแนวทางดั้งเดิมและแนวทางคอมพิวเตอร์ไฮไฟ การนำเสนอลำโพงในอนุกรมนี้ นับว่าเป็นการกลับมาของลำโพง Dynaudio อีกครั้งกับกลุ่มตลาดระดับเริ่มต้นและชุดโฮมยูส พัฒนาเสียงในแนวทางไฮเอนด์ได้ดีเยี่ยม หากสมดุลเสียงอันโดดเด่นของ Dynaudio EMIT M10 ถูกต้องตรงใจกับชุดร่วมใช้งาน อีกทั้งกำลังมองหาลำโพงประเภทนี้และงบประมาณมีจำกัด โดยจ่ายในราคาย่อมเยากว่ารุ่นใหญ่กว่า และได้แบรนด์ไฮเอนด์ Dynaudio EMIT M10 เป็นลำโพงวางขาตั้งรุ่นเล็กสุดอีกคู่ที่เกิดขึ้นมาใน พ.ศ. นี้และมั่นใจว่า เป็นลำโพงวางขาตั้งที่น่าครอบครองยังไร้ข้อกังขา !!!
– รูปลักษณ์ 4 ดาว
– สมรรถนะ 5 ดาว
– คุณภาพเสียง 5 ดาว
– ความคุ้มค่า 5 ดาว
– คะแนนโดยรวม 5 ดาว
———————————————————————————————–
หมายเหตุ : ขอขอบคุณ บริษัท เอลป้า ชอว์ จำกัด โทร. 0-2256-9683-5 ที่เอื้อเฟื้อลำโพงวางขาตั้ง Dynaudio EMIT M10 สำหรับการใช้งานในครั้งนี้