What HI-FI? Thailand

Test Report: DENON PMA-2020AE

Test Report: DENON PMA-2020AE

(ไฮเอนด์ ในราคาที่คุณเอื้อมถึง)

ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

            เป็นที่ตระหนักกันในปัจจุบันว่า เครื่องเสียงไฮเอนด์มีราคาพุ่งโด่งจนต้องใช้คำว่า “เกินเลย (Over)” อาจจะด้วยระบบการตลาดของสินค้าไฮเอนด์ ที่ต้อง “สร้างภาพ” เพื่อ “สร้างความมั่นใจ” และ “ความภูมิใจในการเป็นเจ้าของ” ให้แก่ผู้ซื้อ แน่นอนว่า เงินที่คุณจ่ายไปกับสินค้าไฮเอนด์กว่าครึ่งเป็นค่าการตลาดล้วนๆ มูลค่าแท้จริงอาจแค่ 30 – 40% ของราคาที่ขายก็ได้!

สำหรับสินค้าเครื่องเสียงยี่ห้อระดับนานาชาติ (inter) และอยู่ได้โดยอาศัยยอดจำหน่ายโดยรวมจากรุ่นระดับกลางหรือล่าง การทำสินค้าระดับไฮเอนด์ออกมาอาจไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงโด่งอย่างบริษัททำเครื่องเสียงไฮเอนด์เล็กๆ โดยเฉพาะอย่างเดียว เช่นของไฮเอนด์ราคา 5,900 เหรียญ US บริษัทใหญ่นานาชาติดังกล่าว (เช่น DENON) อาจขายได้ที่ราคาแค่ 900 เหรียญ US เท่านั้น

นี่คือเหตุผลที่ผมเล็งที่จะนำ DENON PMA-2020AE มาทดสอบดูความไฮเอนด์ในราคาไม่สุดโหดของมัน (ราคาตั้งประมาณ 135,000 บาท ช่วงโปรโมชั่นอยู่ที่ประมาณ 94,500 บาท) และเมื่อพิจารณาจากแนวการออกแบบ เครื่องเครา การผลิต/ประกอบ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันก็คือเครื่องเสียงไฮเอนด์ดีๆ นี่เอง

 

 

คุณลักษณะพิเศษ

 

 

สเปค

กำลังขับ                                              80 W + 80 W

(8 โอห์ม/20 Hz – 20 kHz)

ความเพี้ยน THD 0.07%

160 W + 160 W

(4 โอห์ม/1 kHz/THD 0.7%)

ความเพี้ยนคู่ควบ THD                       0.01% (ที่ 80 W + 80 W) 8 โอห์ม, 1 kHz

อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงกวน         ขาเข้า MM      89 dB

MC      74 dB

ขาเข้าอื่นๆ       108 dB

ปรับทุ้ม, แหลม                                    100 Hz (±8 dB)

10 kHz (±8 dB)

กินไฟ                                                   300 W

ผลการทดสอบ

จากเครื่องเล่น CD T+A 1260R ต่อออกสายเสียง Madrigal CZ-GEL 2 (หัว RCA) เข้าช่อง INPUT NETWORK ของ PMA-2020AE (แต่ละช่องสุ้มเสียง, มิติต่างกันเล็กน้อย ลองไล่ฟังทีละช่อง พบว่า ช่อง NETWORK เสียง, มิติดีที่สุด รองลงไปคือ RECORDER 2 และ CD ตามลำดับ จาก PMA-2020AE ออกสายลำโพง FURUKAWA S-2 (เรียงตามทิศอ่านยี่ห้อไล่จากแอมป์ไปลำโพง) แยก 2 ชุด แหลมกับทุ้ม หัว WBT บานาน่าล็อคได้ทั้งด้านแอมป์และด้านลำโพง ไปเข้าลำโพง MONITOR AUDIO BR-5 (3 ทางวางพื้น) เอาหน้ากากออก เอียงจูนจนได้ทั้งสุ้มเสียงครบ และมิติมีทรวดทรงดีที่สุด ระวังมิให้สาย S-2 ทั้ง 2 ชุดแตะต้องกัน โดยยกสูง หนีพื้นห้อง (ปูน/พรม) ด้วยตั้งกระดาษพิมพ์ดีด (ใหม่) 2 ตั้ง (รีม) อีก 1 ตั้ง คั่นสาย S-2 ทั้ง 2 ชุด ไม่ให้แตะต้องกัน และอีก 4 ตั้งทับบนสุดบนสาย ไม่มีกระดาษสีแดงที่ห่อตั้งกระดาษ ที่ T+A มีการทำระบบระบายกระแส EDDY ลงกระทะพัก (สายพ่วง FURUKAWA S-10 (ตามทิศ), ระวังมิให้สายเสียง CZ-GEL 2 ซ้าย, ขวาแตะต้องกัน)

สายไฟ AC ของ PMA-2020AE ไม่ได้ใช้ ขี้เกียจเบิร์นอิน และต้องการเปรียบเทียบกับเครื่องอื่นๆ โดยใช้สาย AC เดียวกันที่ไว้ใจได้ (CHORD) สายไฟ AC CHORD นี้ต่อผ่าน “กล่องกรองไฟ (POWER STATION) ของ PHD” (น่าใช้มาก เราสามารถเลือกเฟสไฟ AC ขาเข้ากล่อง และออกจากกล่องได้เป็นยี่ห้อเดียวในโลกที่ทำและคำนึงจุดนี้ และไม่อั้นกระแสด้วย) สายไฟ AC จากกล่องนี้ไปเข้าเต้าเสียบตัวเมียฮับเบลสีส้มที่กำแพง นอกห้องฟังก็มีหัวปลั๊กกรองไฟของ PHD 2 อีก 3 หัว (ดีมาก, น่าใช้ราคาถูกแค่ 2,900 บาท) สายไฟ AC ของ T+A ย้ายมาจากของอินทีเกรทแอมป์ Mark Levinson No.383

มีกล่องผลึก CRYSTAL HEALING POWER PACK 4 กล่อง (กลางห้อง 1 กล่อง ด้านซ้าย, ขวา, หลังที่นั่งฟังอีก 3 กล่อง) ทุกกล่องหมุนฟังจูนหาทิศทาง (ไว้ดูดซับคลื่นขยะ RF ที่จะมารบกวนสมอง) (กล่องหนึ่ง 890 บาท)

นอกจากนั้นยังมีผลึกอะมิทิศขนาด 4 ฝ่ามือ อยู่ด้านขวาของ T+A ห่างไป 1 ศอก, อีก 1 ก้อน (ฝ่ามือ) อยู่ด้านขวาที่พื้นใกล้ที่นั่งฟัง

ไม่มีจอ LCD/PLASMA ใดๆ ในห้อง, ไม่มี LAN/WIFI ไม่มี PC หรือ โน้ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, โทรศัพท์ไร้สาย, รีโมท, นาฬิการไฟฟ้า (ทั้งแขวน, ตั้งโต๊ะ, ข้อมือ), ไม่มี iPad หรือ Tablet ใดๆ มีคลื่น WiFi จากภายนอกรั่วเข้ามา 6 Spot (คงแก้ไม่ได้)

ลำโพงซ้าย, ขวาห่างกันประมาณ 2 เมตร ห่างจากจุดนั่งฟังประมาณ 3.6 เมตร ห้องฟังประมาณ 3.85 x 9 x 2.5 เมตร ฝาทั้ง 4 ด้านมีฟองน้ำเก็บเสียง SONEX (ของเยอรมัน, สีขาว) พื้นพรม มีของอื่นๆ เยอะพอควรในห้อง แทบไม่ก้องเลย เปิดแอร์ 25 องศา C, ลม LOW ปัดลงหลังลำโพง

ก่อนลงมือฟัง ได้ลองเปิดฝาบนของเครื่องออกมาดูภายใน ปรากฏว่าสายลำโพงด้านซ้าย ที่ออกมาจากแผงวงจรไปขั้วลำโพง (ภายใน) เขาพันอยู่กับสายไฟที่เดินไปเข้าหม้อแปลงไฟทั้งสองซึ่งไม่ดีแน่ กวนกันแน่ จึงตัดสายรัดแยกไม่ให้แตะต้องกัน

ได้ฟังทดสอบเฟสไฟ AC ก่อน (โชคดีที่กล่องกรองไฟ PHD POWER STATION มีรูไฟออกตัวเมียให้เราเลือกเฟสไฟได้ เพราะการกลับเฟสด้วยการเสียบหัวต่อเพิ่ม คุณภาพเสียงจะตกลง 10% ขึ้นไป (หัว WONPRO ดีสุด 10% บางตัวเสียบ 30%) จากนั้นฟังทดสอบทิศทางเส้นฟิวส์ 1 ตัวที่มีอยู่ (ขณะฟังเปิดแผ่นปิดบนไว้ตลอด)

ได้ลองกดปุ่ม SOURE DIRECT ไม่ผ่านวงจรทุ้ม, แหลม, บาลานท์ ปรากฏว่า เสียง/มิติดีกว่ามาก จึงกดใช้ DIRECT ไว้ตลอดการฟัง

กว่าจะฟังทดสอบโน่นนี่ก็เหมือนเบิร์นอินเครื่องไปร่วม 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว เสียงที่ออกมาจะออกไปทางอวบนิดๆ อุ่นๆ พลังขับดีทีเดียว ยังกับเครื่องที่สเปค 150 W RMS/ข้าง (ที่ 8 โอห์ม) มากกว่าที่ระบุแค่ 80 W RMS/CH (8 โอห์ม) มากกว่าที่ระบุแค่ 80 W RMS/CH (8 โอห์ม) ให้อาการเสียงร้องจีบปากจีบคอดีทีเดียว เวทีเสียงกว้าง โอ่อ่า หนักแน่น คล้ายๆ เครื่องหลอด ซึ่งหลายคนอาจชอบตรงนี้

อย่างไรก็ตาม ผมยังอยากให้เสียงเปิดโปร่งกว่านี้ (TRANSPARENT) เพราะมันออกคลุมเครือ, อมๆ ไปหน่อย อยากให้คมชัดกว่านี้ หลุดกระเด็นออกมาอย่างอิสระกว่านี้ เวทีเสียงโปร่ง, สะอาด ปราศจากม่านหมอก ช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรีในวงสะอาดเกลี้ยง เสียงเงียบสงัดกว่านี้ บุคลิกโดยรวมเป็นกลางกว่านี้

ในที่สุด ผมตัดสินใจ ตัดสายรัด (2 – 3 จุด) ที่มันสายเข้าด้วยกัน ผมพยายามคลี่กระจายแยกๆ ออกเท่าที่ทำได้ ทั้งสายไฟสีเหลือง/ขาว กับน้ำเงิน/ดำ อยู่ระหว่าง หม้อแปลงทั้งสอง และสายส่วนอื่นๆ ไม่ให้สายไฟแตะตัวเก็บประจุกลมใหญ่ในภาคจ่ายไฟซีกซ้ายมีสาย (?) มัดกับสายลำโพง (แม้มีปลอกหุ้มอยู่) จัดการแยกออก พยายามเขี่ยสายไม่ให้แตะตัวถังเครื่อง ซึ่งก็คงทำอะไรไม่ได้เต็มที่มากนัก เนื่องจากสายเยอะมาก และที่ทางจำกัดอย่างมาก

แม้แต่หัวเสียบที่เขามีมาให้ ที่เสียบที่ช่อง PHONO INPUT ก็มีผลถ้าเอาออก เสียงฟุ้งกระจายเลย ต้องเสียบแช่ไว้ แต่ท้ายสุดผมเอาหัว WBT อย่างดี ที่ผมซีอตแกนกลางลงดินด้วยสายลำโพง PC OCC ของ FURUKAWA ไว้ (ทิศทางถูกต้อง) ซึ่งรวมๆ เกรดดีกว่าหัวเสียบพลาสติกธรรมดาๆ ที่เขาให้มามาก ปรากฏว่า มิติเสียงยิ่งโฟกัสคมชัดยิ่งขึ้น ความสงัดดีขึ้น ความเปิดโปร่งของเสียงดีกว่ามาก รายละเอียดดีกว่า เวทีกว้างกว่า, หลุดลอยกว่า การสวิงเสียงดีกว่า หลุดลอยออกมามากกว่า บอกได้เลยว่าหัวเสียบนี่มีผลมากทีเดียว (ที่เสียบซ๊อตแล้วเสียงดีขึ้น เพราะมันบล็อกคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) และ WiFi จากภายนอกไม่ให้รั่วเล็ดลอดเข้าไปป่วนทางช่อง PHONO ที่ไวต่อสัญญาณต่ำๆ พวกนี้)

ผลที่ได้ ทุกอย่างดีขึ้นหมด น่าจะไม่ต่ำกว่า 30% เสียงทะลุ เปิดโปร่งขึ้น พลิ้วขึ้น อาการขุ่นมัวหายไป ความเงียบสงัดดีขึ้น เสียงกระเด็นหลุดลอยออกมาจะแจ้งขึ้น สด, เป็นประกายขึ้น รายละเอียดหยุดหยิมดีขึ้น แม้ค่อยมากก็ยังได้ยิน อาการสอดใส่อารมณ์ยังดีน่าฟังเหมือนเดิม การตอกย้ำเสียง, ลีลาชัดแจ้งขึ้น การสวิงเสียงเต็มที่ ควบแน่น คม, หนักขึ้น ความกังวานชัดขึ้น สูง-ต่ำดีขึ้น เวทีเสียงกว้างโอบ หลุดลอยมากขึ้น ด้านลึกดีขึ้น เสียงโดยรวมเป็นกลางขึ้นขณะเดียวกัน ก็ยังมีกลิ่นอายอบอุ่นนิดๆ ผ่อนคลายหน่อยๆ เหมือนเดิม

แผ่นระนาดเอก (ไทลำภู) เพลง 3 เสียงตีระนาดเป็นเม็ดๆ ใช้ได้ เสียงฉิ่ง มีรายละเอียด มีหัวโน้ตดี เสียงเป็นกลางแต่อบอุ่นนิดๆ ผ่อนคลายแต่ก็ตื่นตัวดี เสียงทั้งหมดก็มีน้ำหนักดี หลุดลอยออกมาไม่จมติดจอ เพลง 4 ขึ้นต้นสงัดพอใช้ เสียงระนาดเป็นตัวๆ เม็ดๆ ใช้ได้ เสียงฉิ่งพลิ้วสะบัดดี เสียงฉับไม่แบนหรือกร้าวแข็ง (มีรายละเอียดว่ามีรูปลักษณ์ที่ไม่เป็นแผ่นแบน) เพลง 5 ขึ้นต้นสงัดใช้ได้ดี เสียงระนาดโฟกัสดี หัวโน้ต, หางโน้ตชัดดี ให้ความกังวานของเสียงระนาดได้ดี ทุกเสียงมีน้ำหนักดีหมด จังหวะจะดคนสอดรับกันได้ดี เพลง 6 เสียงตีระนาดอยู่ลึกไปหลังเวทีได้ดี และเสียงเป็นตัวๆ โน้ตๆ ดีตลอดไม่วอกแวกเดี๋ยวเป็นตัวเดี๋ยวแบน แสดงว่าทำงานได้เสถียรดีตลอด เสียงกังวานของเวทีใช้ได้ โดยรวมเสียงเพลงนี้จะค่อยลงกว่าเพลงก่อนๆ อย่างชัดเจน ขณะที่ปกติจะดังพอๆ กัน แสดงว่า PMA-2020AE อัดฉีดกำลัง (กระแส) ได้เต็มที่ไม่อั้น จึงจำแนกความแตกต่างนี้ได้ เพลง 8 เสียงกลองตะโพนให้ทุ้มที่ลึกกังวาน มีน้ำหนักพองาม มีทรวดทรงใช้ได้ เสียงตบหน้ากลองไล่จากขวาไปซ้ายให้ภาพพจน์ที่ดี และติดตามตำแหน่งได้ตลอด เวทีกว้างใช้ได้ เพลง 9 ขึ้นต้นสงัดดีมาก เสียงตีระนาดไล่จากซ้ายไปขวา มีรายละเอียดดี ให้เสียงตีฆ้องที่ร่วมผสมได้ดี หัวโน้ตกับตัวโน้ต (ระนาด) เป็นเนื้อเดียวกันได้ค่อนข้างดี เพลง 10 ขึ้นต้นสงัดใช้ได้ เสียงตีระนาดเอกกับระนาดทุ้มจะออกอิ่มคล้ายๆ กันไปนิด อย่างไรก็ตาม ก็ให้เสียงผิวของการตีกระทบที่ใช้ได้มาก

แผ่น RHYTHM BASKET, A Tasket, A Tisket, A Child’s ของ Brent Lewis เสียงตีกลองท่อเป็นพระเอก เพลง 2 เสียงตีกลองท่อมีทรวดทรงดีใช้ได้เลย เสียงกังวานดีวิ่งลึกไปหลังเวทีได้ดี กับแผ่นนี้ PMA-2020AE ให้เวทีด้านลึกได้น่าประทับใจมาก ความกังวานก็ดี แยกความกังวานของแต่ละชิ้นดนตรี ออกจากความกังวานของทั้งวง ตอกย้ำแต่ละเสียงได้ดี ทุกเสียงขึงขัง ควบแน่น มีน้ำหนักพอควร เพลง 3 เสียงตีกลองซ้ายที, ขวาที สมมาตรกันได้ดี เพลง 4 เสียงพายวักน้ำชัดเจนใช้ได้ เสียงคลื่นกระฉอกน้อยใหญ่บนผิวน้ำเยอะดี ให้การวิ่งหายลับไปหลังเวทีของชิ้นดนตรีบางชิ้นได้ดี เสียงปลายแหลมมีรายละเอียดเหลือกิน ตอบสนองฉับไว แต่ไม่เกินไป เพลง 5 เสียงรถจักรไอน้ำเปิดหวูดวิ่งมาแต่ไกล เสียงตีรัวระฆังชัดแจ้งดี ตามด้วยเสียงตีกลองท่อซ้ายที, ขวาทีมีทรวดทรงดี กังวานในตัวได้ดี เพลง 6 เสียงไก่ขันอยู่ลึกไปหลังเวที แต่เอียงไปทางขวามากไปหน่อย เสียงสัตว์ต่างๆ จีบปากจีคอ มีพลังแบบตั้งใจร้องเต็มที่รายละเอียดลึกๆ ของเสียงทำได้ดี นาทีที่ 4 ของเพลงนี้ เสียงสัตว์ต่างๆ แห่แหนกันออกมาอยู่รอบตัวเรา ทำได้ไม่เลว สัตว์ออกมาเยอะมากจริงๆ เพลง 7 เสียงม้าวิ่งหอบมาแต่ไกล เสียงหอบครบ 6 ครั้ง ตามด้วยเสียงตีกลองท่อฉวัดเฉวียนรอบๆ ลำโพงซ้ายที ขวาที อยู่สูงเหนือลำโพงแต่ยังไม่สูงถึงเพดานห้องได้ เพลง 10 เสียงต่างๆ ในฟาร์มตอนเช้า ซึ่ง PMA-2020AE แจกแจงสิ่งต่างๆ ได้จะแจ้งดีมาก สด ตื่นตัว โดดเด่นทุกเสียง เพลงนี้ฟังๆ ไป เสียงจะลอยสูงขึ้นจนถึงเพดานห้อง ซึ่ง PMA-2020AE ก็ทำได้อย่างน่าทึ่ง เสียงวิ่งไปมาที่เพดานห้อง บางครั้งเกือบจะมาอยู่เหนือศรีษะเราได้

แผ่น The Greatest Alto Female Vol.1 (Top Music) เสียงร้องเพลงจีนของสุภาพสตรี เพลง 1 เสียงไวโอล่าขึ้นต้นหวานดี ตามด้วยเสียงร้องของเธอที่อ้อยสร้อยแต่ตื่นตัวจีบปากจีบคอ ถ่ายทอดอากัปกิริยาออกมาได้ครบเครื่องดี (แบบเน้นๆ ไม่ใช่แบบแค่ฟังผ่านๆ) เพลง 2 (อารีรัง) เสียงร้องประสานหมู่ชาย หญิงที่แยกแยะได้ดีตามด้วยเสียงตีกลองใหญ่ที่หน้ากลองตึงดี โฟกัสชัด ลงลึก แต่น้ำหนักอ่อนไปหน่อย เพลง 3 ขึ้นต้น เสียงกีตาร์โปร่งเป็นเส้นสายดี เสียงเปียโนสดสมจริงดี เสียงร้องสอดใส่อารมณ์ได้ดีมาก รายละเอียดทุกเสียง (เปียโน, กีตาร์, เสียงร้อง) ดีมาก (Transient Response ดี) หัวโน้ต, หัวคำร้อง ชัดเจนดี เพลง 4 ทุกอย่างยิ่งดีขึ้น ฟังเพลิน เสียงหีบเพลง, เสียงเขย่าลูกกระพรวนเป็นเม็ดๆ เสียงกีตาร์โปร่งเป็นเส้นสายดี ทุกเสียงมีน้ำหนักเบสควบแน่น เสียงร้องสนุกขึ้น เพลง 5 ขึ้นต้นเสียงปลายแหลมกรุ้งกริ้งให้อณูอากาศแตกตัวได้ดี (AIRY) มีรูปลักษณ์ดี น้ำหนักดี เครื่องสายดัด, สีของจีนเป็นเส้นสายดีดพลิ้วดี หวาน ช่วงดนตรีโหมก็นิ่ง ไม่วอกแวกแกว่ง (ฟุ้ง) กลบกันเอง ดับเบิ้ลเบสก็หนักทิ้งตัวลงพื้นได้ดีแบบพองาม ไม่มากล้นหลามเกินไป

แผ่น WOOD ของ Brian Bromberg เพลง 1 เสียงดีดดับเบิ้ลเบสให้เส้นสายไม่เลว แต่น้ำหนักเสียงอิ่มแน่นมาก กระชับ ลงลึกเป็นธรรมชาติ ตามด้วยเสียงเปียโน (สดเป็นธรรมชาติดี), กลองชุด (ได้ยินเสียงกลองชัดดี) เสียงฉาบชัดเจน แสดงเส้นสายของ (หางม้า) ได้ดี เวทีเสียงแผ่ลอยออกมาได้ดี ดับเบิ้ลเบสลงลึกมีน้ำหนักดี บรรยากาศใช้ได้มากเลย เหมือนไปนั่งฟังของจริง

แผ่น AYA, Authentic Audio Check (Stock Fisch) (แผ่น DVD) เพลง 1 PMA-2020AE ให้เสียงพูดที่ชัดถ้อยชัดคำดีมาก เพลง 3 เสียงร้องชัด เสียงฆ้องลงลึกหนัก (แต่ไม่อวบเกิน) จนห้องสะท้านได้ (อย่าลืมว่า PMA-2020AE แค่ 80 W + 80 W) เพลง 4 ให้เสียงต่างๆ ชัดโจ่งแจ้งดีมาก ทั้งเสียงตีฆ้องใหญ่ (หนัก, สะท้าน), เสียงระฆัง, กลองใหญ่ (หน้ากลองตึง, สั่นกระพือสะท้าน), ลูกกระพรวน (เขย่าวิ่งข้ามศรีษะไปด้านหลังซ้าย) เพลง 5 เสียงร้องผู้ชายชัดมากจริงๆ ทำให้ฟังเข้าใจง่ายขึ้นเยอะ แถมสอดใส่อารมณ์ได้ดีมาก เพลง 6 ดนตรีแจ๊สแบบเก่าๆ ปกติถ้าแอมป์ไม่ถึงจะฟังจืดๆ แค่นี่ฟังได้แบบ “การแสดงสด” เลย ดับเบิ้ลเบสที่อิ่มอวบ เป็นเส้นสาย เปียโนที่มีชีวิตชีวา กลองชุด/ฉาบที่เป็นธรรมชาติ ชัดแต่ผ่อนคลาย ฟังเพลินที่สุดเท่าที่เคยฟังเพลงนี้มา เพลง 8 นี่เป็นอีกเพลงที่ถ้าแอมป์แห้ง, จืด ไม่มีอะไรในกอไผ่จะไม่น่าฟังไม่สนใจเอาเลย แต่ PMA-2020AE กลับใส่ความมีชีวิตชีวา น้ำหนักความจริงจัง ได้อย่างน่าฟัง ชวนติดตามมาก เพลง 11 คล้ายเพลง 4 ที่มีทั้งฆ้องใหญ่, ระฆัง, ระฆังราว, ฉาบ, ลูกกระพรวน (ไม้) เขย่า PMA-2020AE ให้เสียงเหล่านี้ได้แบบ “สด” เก้บกันทุกเม็ด ทั้งสุ้มเสียง, น้ำเสียง, รายละเอียด, มิติเสียง (สูง-ต่ำ/ตื้น-ลึก-กว้าง/แคบ) ฟังแล้วยังกับเราไปนั่งอยู่ในสตูดิโออัดเสียงกับวงเลย

 

 

สรุป

เรียนตรงๆ ว่าเป็นความหนักใจพอสมควรในการทดสอบ PMA-2020AE เพราะพบทางเลือก 2 อย่าง คือ

  1. จะรายงานตามสภาพเดิมๆ ที่เขาทำมา หรือ
  2. รายงานหลังจากผมแยกสายอะไรต่างๆ ภานในแล้ว

จริงๆ นักทดสอบทั่วไปเขาคงไม่เสียเวลา (มาก) และเหนื่อยมาก (ฟัง, จูน, สมาธิ) ในการจับประเด็น สังเกตการณ์ปรับปรุงต่างๆ เขาคงรายงานไปตามสภาพเดิม ซึ่งถ้าตามข้อ 1 ก็ต้องขอบอกว่า อย่างน้อยควรแยกสายไฟเหลืองขาวจากสายลำโพงของ CH ซ้าย ซึ่งเสียงก็จะออกมาอิ่มๆ คลุมเครือ ทุ้มหนัก ฟังระรื่นหูดี แต่จะเอาแบบขุดคุ้ย เข้าถึงทุกอากัปกิริยา รายละเอียดไม่ได้มากนัก แต่ก้มีความเป็นดนตรีใช้ได้ในสไตล์ตระกูลสูงสุดพวก S หรือ X Series ของ DENON

แต่เมื่อทำตามข้อ 2 แยกสาย, ฟังทิศฟิวส์, เอาฝาบนออก PMA-2020AE ก็ได้แปลงร่างจากอินทีเกรทแอมป์ระดับ 94,500 บาท ไปเป็นระดับไฮเอนด์ 2 – 3 แสนบาทกันเลย ฟังได้อารมณ์อย่างยิ่ง อุดมสมบูรณ์ด้วยรายละเอียดทุกแสนบาทกันเลย ฟังได้อารมณ์อย่างยิ่ง, อุดมสมบูรณ์ด้วยรายละเอียดทุกรูปแบบ, พลังขับที่ควบแน่นดุจระดับ 200 W + 200 W (ควรเร่งโวลลุ่มสัก 8.50 นาฬิกาขึ้นไป) การสวิงเสียงที่ไม่อั้น ความสดเป็นธรรมชาติ เป็นกลาง ความกังวานที่เหลือเฟือ เวทีเสียงบที่กว้าง, ลึก, สูง/ต่ำ บรรยากาศที่ห่อหุ้ม (ติอยู่นิดเรื่องทรวดทรงมิติเสียงที่โอเคล่ะ แต่ถ้าได้ 3D และชัดอีกนิดละก็ สวรรค์มีจริงเลย)

ใครกำลังหาอินทีเกรทแอมป์แบรนด์เนมคุณภาพไฮเอนด์แท้ ราคาไม่เกิน 100,000 บาทละก็ คว้า PMA-2020AE ไว้ได้เลย (โดยเฉพาะตัวที่ผมทดสอบนี้ เพราะฟัง, จูนหมดแล้ว!)

 

ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด โทร. 0-2610-9671-2 ที่เอื้อเฟื้อให้เครื่องมาทดสอบในครั้งนี้

Exit mobile version