What HI-FI? Thailand

TEST REPORT : Davis Acoustics KRYPTON 6

บริษัท Davis Acoustics ก่อตั้งขึ้นในปี 1986 โดย Michel VISAN และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งแบรนด์สำคัญในวงการ Hifi ของฝรั่งเศส รวมทั้งในระดับสากล ในปัจจุบันจะพบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหลากหลายประเภทที่ Davis Acoustics นำเสนอออกสู่ตลาดโลก ซึ่งระบบลำโพงเหล่านี้เป็นผลจากการวิจัยและความหลงใหลในเทคนิคการสร้างเสียงมากว่า 30 ปี

ซึ่งมักจะได้รับรางวัลจากสื่อเฉพาะทาง ระบบลำโพงของ Davis จะทำให้คุณพึงพอใจไม่เพียงแต่ในคุณภาพทางเสียงดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเลือกการตกแต่งและสีสันที่หลากหลายอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้มีคุณลักษณ์ทางเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ กล่าวคือ อัตราส่วนคุณภาพ/ราคา/อารมณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างความถี่กลางที่มีความสวยงามอย่างยิ่งยวด และสมจริงจนน่าตกใจ

ณ ปัจจุบัน Davis Acoustics มี Olivier VISAN ทำหน้าที่ผู้บริหารสูงสุด ทั้งนี้ Olivier นับเป็นวิศวกรที่ผ่านการฝึกอบรม แต่งงานกับนักเปียโน และหลงใหลในการผจญภัยของ Davis Acoustics (ในฐานะลูกชายของ Michel VISAN ผู้ก่อตั้ง) ได้กลายเป็นมืออาชีพในด้านเทคนิคการสร้างเสียง เขาผู้นี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังลำโพง DAVIS ทุกรุ่นมาเป็นเวลาเกือบ 15 ปี (ภูมิใจเป็นพิเศษกับรุ่น MV One ที่สร้างขึ้นควบคู่กับพ่อของเขา พิสูจน์การถ่ายทอดความรู้อันยิ่งใหญ่) รสนิยมทางดนตรีของเขามีมากมาย เพราะเขาฟังฮาร์ดร็อค (อย่างเช่น AC/DC), วาไรตี้ และคลาสสิก

Davis Acoustics ได้รับการออกแบบและผลิตลำโพงในฝรั่งเศสมานานกว่า 30 ปีและจำหน่ายไปทั่วโลก ปัจจุบัน Davis ยังคงทำการผลิตในไซต์การผลิตอันเป็นเอกลักษณ์ในเมือง Troyes (ทรัว หรือ Aube) สัญลักษณ์การผลิต “Made in France” นี้เป็นการรับประกันคุณภาพ ซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะ

ทีมงานของ Davis Acoustics ซึ่งมีความเชี่ยวชาญสูงสามารถผลิตทรานสดิวเซอร์ที่มีข้อกำหนดทางเทคนิคที่สูงมากได้ สร้างความภาคภูมิใจให้แก่จัดหาผู้ผลิตลำโพงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกที่กำลังมองหาการปรับแต่งทรานสดิวเซอร์ที่สมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ในความเป็นจริง DAVIS ยังไพด้ทำการผลิตลำโพงรถยนต์รุ่นต่างๆ เกือบ 300 รุ่น โดยได้รับคำปรึกษาจากบริษัทต่างประเทศเป็นประจำ สำหรับการออกแบบโมเดลตามข้อกำหนดเฉพาะของบริษัท บริษัทเหล่านี้เรียกร้องให้ DAVIS ทำการสร้างโมเดลที่ซับซ้อนเป็นพิเศษ ซึ่งต้องใช้ความรู้ความชำนาญอย่างแท้จริง

ดังนั้น เวิร์กช็อปของ DAVIS ใน Troyes จึงสามารถผลิตระบบมอเตอร์สำหรับ compression chamber, ตัวขับเสียง (transducers) ที่มีแกนวงแหวนทองแดง (copper ring core), รวมถึงลำโพงที่ต้องมีมอเตอร์กำลังสูง เช่น AlNiCo หรือ TiCoNAl สำหรับวอยซ์ คอยล์เดี่ยว หรือ คู่…

โดยที่ในด้านของการผลิตตัวขับเสียง (speaker driver) นั้น DAVIS ได้จัดแยกกลุ่มไว้เป็น :-20 DE8 – GRAPHITE Series – KEVLAR Series และ CARBON Series  

…โดยที่ 20 DE8 นับเป็นลำโพงตัวขับเสียงที่ยอดเยี่ยม ออกแบบโดย Michel VISAN ผู้ก่อตั้ง DAVIS ACOUSTICS ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ 45 ปีในด้านลำโพงอย่างภาคภูมิใจ โครงการบรอดแบนด์ “ขั้นสูงสุด” นี้แสดงถึงจุดสุดยอดของอาชีพที่อุทิศตนเพื่อความเที่ยงตรงสูง ใช้เวลาหนึ่งปีในการพัฒนา HP นี้!

‘20 DE8’ ทำหน้าที่เช่นเดียวกับฟูลเรนจ์ดีๆ ‘20 DE8’ สามารถติดตั้งในแผ่นกั้นระนาบได้ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ประโยชน์จากการฟังที่ไม่มีวงจรการกรองเท่านั้น แต่ผู้ฟังยังจะไม่มีเสียงรบกวนจากตัวตู้ลำโพงอีกด้วย ผู้ฟังจึงได้อิสระเต็มที่ ซึ่งนำไปสู่การฟังที่โปร่งใสอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม DAVIS ได้ทำงานบนโหลดที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้ลำโพงนี้ทำงานได้ดีอย่างที่สุด และตอนนี้ DAVIS กับ Olivier ก็พร้อมนำเสนอโซลูชันที่กะทัดรัดมากขึ้น โดยมีชื่อเรียกว่า MV One มันจะทำให้คุณประหลาดใจด้วยความโปร่งใส และรายละเอียดมากมายที่ช่วยให้คุณได้ยินได้ฟังในความสมจริง

ในขณะที่ ด้านของผลิตภัณฑ์ระบบลำโพง (Speaker System) นั้น DAVIS จัดแบ่งขอบเขตผลิตภัณฑ์ (range) เอาไว้เป็น :- STELLAR – Ultimate range, DREAM – Supreme range, COURBET – Design & Performance, KRYPTON – Elegant & Modern, ARIANE – Emotion & Modernity, BALTHUS – Aesthetics & Know-how, DMAX – Cinéma, DISCOVERY – Pleasure & Sensation และ INWALL – Enceintes encastrables

โรงงานของ DAVIS ACOUSTICS ตั้งอยู่ในฝรั่งเศส ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 30 ปี โดยมุ่งเน้นที่การออกแบบที่สวยงาม ไดรเวอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ และโซลูชั่นด้านเสียงที่ชาญฉลาด แต่สิ่งสำคัญสำหรับหลายๆ คน คือ DAVIS ACOUSTICS เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ใช้เคฟล่าร์ คาร์บอน และไฟเบอร์กลาสในลำโพง ไดอะแฟรมเคฟลาร์ (Kevlar diaphragms) ได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทในฝรั่งเศส ดังนั้นโลโก้ของบริษัทจึงมีวงกลมสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของไดรเวอร์เคฟลาร์ Davis Acoustics ต่างจากผู้ผลิตในฝรั่งเศสหลายรายตรงที่ไม่ชอบทวีตเตอร์แบบฮอร์น (horn tweeters) โดยเลือกใช้ทวีตเตอร์แบบ ซอฟต์โดมสุดคลาสสิก ‘MV One Master’ ซึ่งเป็นรุ่นเรือธง ใช้ไดรเวอร์ย่านความถี่เสียงกว้าง (wideband driver) ขนาด 21 ซม. 

อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็น KRYPTON Series ดูจะมีความน่าสนใจ ในแนวทางการออกแบบที่มีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เฉพาะอย่างยิ่งกับ Krypton 6 ซึ่งเป็นระบบลำโพงตั้งวางพื้น ที่มีขนาดกะทัดรัดมากๆ ซึ่งมาพร้อมกับไดรเวอร์จำนวน 3 ตัว ได้แก่ Silk Dome ขนาด 28 มม. ตัวขับเสียงกลาง 13 ซม. ที่เป็นไดอะแฟรมเคฟล่าร์ (Kevlar diaphragm) และ วูฟเฟอร์กรวยกระดาษ (เส้นใยไฟเบอร์) ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากัน ความถี่เสียงต่ำจะถูกเสริมด้วย ‘ลามินาร์พอร์ต’ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า (rectangular laminar port) ที่ส่วนล่างของแผงหน้าตัวตู้ ซึ่ง Davis Acoustics ระบุว่า Krypton 6 ได้รับการกำหนดค่าไว้ให้เหมาะสำหรับห้องขนาด 15 ถึง 30 ตร.ม.

KRYPTON Series 

ลำโพงซีรี่ส์ KRYPTON ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกลุ่ม ARIANE และ COURBET โดยได้สร้างมาตรฐานใหม่ในเรนจ์นี้ การออกแบบ, การผลิต, ความกะทัดรัด, เทคนิคขั้นสูง… รวมถึงส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมดได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและมีอัตราส่วนราคา/ประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้

คำว่า KRYPTON เป็นการยกย่องโมเดลลำโพงที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 80 ตอนเริ่มต้นของการผจญภัยของ DAVIS ที่ตัวสินค้ากระจายออกไปน้อยมาก แต่กระนั้นก็ยังคงทำเครื่องหมายแห่งจิตวิญญาณ (marked the spirits) ด้วยเทคนิคที่ลงมือเองทั้งหมด และโดยการฟังที่เป็นธรรมชาติซึ่งส่งมอบออกจากมัน …นั่นคือ เอกลักษณ์ของเสียง DAVIS ได้ถือกำเนิดขึ้น!

เช่นเดียวกับรุ่นต่างๆ ของซีรี่ส์ Courbet รุ่นตั้งพื้น แต่ละรุ่นของซีรี่ส์ KRYPTON วางอยู่บนฐานตั้งที่มั่นคง (solid base) ซึ่งเอียงลำโพงไปทางด้านหลังเล็กน้อย นอกจากจะประสบความสำเร็จเป็นพิเศษในด้านสุนทรียภาพแล้ว มุมนี้ยังช่วยให้สามารถจัดตำแหน่งทวีตเตอร์ และวอยซ์คอยล์ตัวขับเสียงกลางในแนวแกนตั้ง (vertical axis) การจัดตำแหน่งนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการวางเฟสในอุดมคติของตัวขับเสียงทั้งสองนี้ ทั้งนี้ในการฟัง เรารู้สึกว่า ได้ยินแหล่งกำเนิดเสียงเพียงแหล่งเดียวเท่านั้น การทำงานร่วมกันที่สมบูรณ์แบบของแบนด์วิธนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพจากซีรี่ส์ KRYPTON 

สูตรนี้ซึ่งเป็นสโลแกนแรกของ DAVIS ACOUSTICS ในปี 1986 และไม่เคยละทิ้งความตั้งใจของห้องปฏิบัติการ มีความเกี่ยวข้องมากกว่าที่เคย จากการอ้างอิงในการผลิตลำโพงระดับไฮ-เอนด์ตั้งแต่เริ่มต้น DAVIS ได้พัฒนาตัวขับเสียงแต่ละตัวที่ประกอบเป็นลำโพงเหล่านี้ เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมเพื่อลดความผิดเพี้ยนลงอย่างมาก และเป็นผลให้ปรับปรุงความถูกต้องของการส่งมอบสรรพเสียง

Every shine!

ตัวอย่างเช่น ทวีตเตอร์มีห้องด้านหลังที่เรียว (tapered rear chamber) เพื่อจับคลื่นด้านหลัง (back wave) ของตัวโดมทวีตเตอร์ ความถี่สูงจึงดูอิสระกว่า และถูกบีบอัดน้อยกว่า ทวีตเตอร์นี้เติมเต็มห้องได้ง่ายขึ้น โดยไม่มีอาการก้าวร้าวใดๆ (aggressiveness) ขอย้ำอีกครั้งว่า เทคโนโลยีที่ใช้นี้ได้มาจากการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์ในเรนจ์ Courbet

วัสดุที่ใช้ทำโดมนั้นเป็นผ้าที่ชุบเนื้อละเอียดเป็นพิเศษ (fine impregnated fabric) เช่น โดมผ้าไหม ซึ่งช่วยให้ได้เสียงที่ละเอียดอ่อน และมีรายละเอียด เกินกว่าความถี่ที่มนุษย์ได้ยิน โดยไม่เคย “ปะทะ-ตีรวนกัน” (clashing)

Every voice!

DAVIS ได้รับการยกย่องจากหลายๆ คนว่า เป็นปรมาจารย์แห่งเสียงกลาง (master in midrange) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ KRYPTON โดยใช้เมมเบรนแบบ ทักทอ (woven membrane) อันโด่งดัง ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 ซม. ซึ่งด้วยวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ซึ่งสัมพันธ์กับโปรไฟล์ทรงกรวยที่เบาเป็นพิเศษ ผู้ฟังจะรู้สึกเหมือนได้ต้อนรับนักร้องอยู่กลางห้องนั่งฟังของคุณ ทุกรายละเอียดของเสียงจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแม่นยำ

Every roar!

กรวยเยื่อเซลลูโลส (cellulose cones) ที่ผ่านการ treated & damped ได้ถูกเลือกสำหรับติดตั้ง “ทาวเวอร์” ของ KRYPTON เยื่อเมมเบรนจะเบาและแข็งเพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง (celerity) อย่างฉับไวในการตอบสนองเสียงเบสแต่ละครั้ง ส่วนด้านหลังของลำโพงได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกในการไหลเวียนของอากาศในปริมาณต่างๆ ของลำโพง และมอเตอร์ขับเคลื่อนแม่เหล็กสุดพิเศษนั้นทรงพลังเพียงพอที่จะควบคุมการเคลื่อนที่ของวอยซ์คอยล์ที่กำลังเคลื่อนที่

Attention to detail, every detail!

เพราะคุณจะเห็นลำโพงในห้องนั่งฟังของคุณตลอดทั้งปี… DAVIS เลือกใช้สีที่ “อินเทรนด์” 3 แบบในโทนสีอบอุ่นและผ่อนคลาย:- สีผิวเคลือบ (finish) แบบ นอร์ดิก (NORDIK) ประกอบด้วยไม้สีอ่อน ด้านหน้าสีขาว และออกด้าน! (matte) และผ้าหุ้มหน้ากากลำโพงเป็นผ้าลายจุดสีเทา เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในแบบสมัยใหม่ และเข้าคู่กับเฟอร์นิเจอร์สแกนดิเนเวีย ในขณะที่สีผิวพื้น (finish) ของรุ่น TECHNIK สีดำทั้งหมด พร้อมแผงหน้าตัวตู้ที่ออกด้าน (matte) และฝาครอบที่มีจุดสีเข้ม การออกแบบที่สุขุมโดยมีเพียงตัวลำโพงสีเหลืองเท่านั้นที่โดดเด่น เป็นการยกย่องโลโก้ DAVIS และแบบสุดท้ายคือรุ่น คลาสสิค (CLASSIK) ที่เป็นสีวอลนัท แผงหน้าสีเทา และผ้าลายจุดสีน้ำตาล เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นยิ่งขึ้น

แน่นอนว่า ด้านหลังลำโพงมีแผงขั้วเสียบต่อสายลำโพงขนาดใหญ่ที่สามารถรับปลั๊กเสียบแบบ banana, forks (หางปลา) รวมถึงแบบ สายเปลือยตีเกลียว (stripped cables) หน้าตัดใหญ่

ทั้งนี้ KRYPTON range จัดแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ดังนี้ :- KRYPTON 9, KRYPTON 6, KRYPTON และ KRYPTON C โดยที่ KRYPTON C นั้นทำหน้าที่เป็นลำโพงเซนเตอร์ แชนแนล

คุณลักษณ์

KRYPTON 6 เป็นลำโพงตั้งวางพื้น (floor standing speaker) ที่เล็กที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ KRYPTON ขนาดค่อนข้างกะทัดรัด 89 x 16 x 26 ซม. น้ำหนักรวม(สองข้าง) 16 กก. แม้ว่า รูปทรงจะดูกะทัดรัด แต่คุณภาพเสียงก็น่าเกรงขามเช่นกัน ด้วยรูปทรงสูงเพรียว ระบบการทำงาน 3 ทิศทาง พร้อมตัวตู้แบบ ทุ้มสะท้อน (bass reflex) ที่ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับห้องขนาด 15 ถึง 30 ตร.ม. ตามที่ DAVIS ACOUSTICS ได้ระบุไว้

ทีมวิศวกรของ DAVIS ACOUSTICS ได้ทำงานกับการออกแบบไดรเวอร์แต่ละตัว เพื่อให้การส่งมอบคุณลักษณ์เสียงมีความโปร่งใส และมีความสมจริง เฉพาะอย่างยิ่งทวีตเตอร์ ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับช่วงภาระการทำงาน จึงประกอบด้วย “ห้องด้านหลัง” (rear chamber) เพื่อจับคลื่นด้านหลังของตัวโดมทวีตเตอร์ ทั้งยังส่งผลช่วยลดการบิดเบือนทางเสียง ในขณะที่ตัวขับเสียงกลางทำจากกรวยเคฟล่าร์ เจนเนอเรชั่นลำดับที่ 7 ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำ และการนำเสนอรายละเอียดที่น่าทึ่ง ส่วนตัววูฟเฟอร์ขนาด 13 ซม. (5 นิ้ว) นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ ตอบสนองเสียงเบสที่รวดเร็ว และหนักแน่น ติดตั้งอยู่ในปริมาตรตัวตู้ที่เหมาะสม โดยมีท่อเปิดแบบ laminar port อยู่บริเวณส่วนล่างบนแผงหน้าตัวตู้ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดตำแหน่งตั้งวางในห้องฟัง

Krypton 6 มีให้เลือก 3 แบบ สุดอินเทรนด์ โดยมีหน้ากากครอบแบบแม่เหล็ก พร้อมผ้า heathered fabric ที่มีเอฟเฟกต์สวยงามมาก สามารถวางตำแหน่ง Krypton 6 ได้อย่างง่ายดาย โดยการเพิ่มขาตั้งเตี้ยๆ ซึ่งให้รวมมาด้วย ที่จะทำให้ลำโพงเชิดหน้าขึ้นเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย ซึ่ง “ขาตั้ง” นี้มาพร้อมกับโฟมที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นจะเป็นรอย (แต่มีเดือยแหลม หรือ spikes เตรียมไว้ให้ด้วยเช่นกัน) การจัดวางลำโพงลักษณะนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการวางเฟสในอุดมคติของตัวขับเสียงทั้งสอง การรับฟังจะรู้สึกเหมือนได้ยินแหล่งเสียงที่เปล่งออกมาเพียงแห่งเดียว การทำงานร่วมกันที่สมบูรณ์แบบของแบนด์วิธเยี่ยงนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้เสียงที่รับฟังมีคุณภาพ

จากข้อมูลของ Davis Acoustics “Krypton 6” ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัย พร้อมขอบโค้งมนโดยรอบ ทำให้ตัวตู้ดูหรูหรา และมีลวดลายมากยิ่งขึ้น Davis Acoustics ระบุว่า ช่องระบายอากาศด้านหน้า (laminar port) ช่วยให้ตำแหน่งวางลำโพงนั้นทำได้ง่าย โดยไม่ต้องตั้งวางให้ห่างจากผนังด้านหลัง และด้านข้าง “Krypton 6” มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Classik (American Walnut), Technik (Black Ash) และ Nordik (Light Oak) โดยที่รุ่น Technik ติดตั้งไดรเวอร์เสียงกลาง ที่เป็นไดอะแฟรมสีเหลือง และตัวแก้เฟส (phase plug) สีดำ ในขณะที่อีก 2 สีนั้น ไดรเวอร์เสียงกลางจะมี “phase plug ” รูปทรงหัวกระสุนสีเงิน (silver bullet) อยู่ตรงกลาง ประสิทธิภาพของ Krypton 6 ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 91 dB ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแอมป์หลอดฯ 

Davis Acoustics นั้นได้รับการยกย่องจากหลายๆ คนว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเสียงกลาง ซึ่งด้วยวัสดุเคฟล่าร์ ที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ผสมผสานกับรูปทรงกรวยที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกำลังมีนักร้องมายืนร้องเพลงอยู่กลางห้องนั่งเล่น หรือ ห้องฟังของคุณ ทุกรายละเอียดของเสียงจะถูกถ่ายทอดออกมาอย่างแม่นยำ “Krypton 6” เป็นลำโพงที่เปิดตัวในปี 1994 พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อผสมผสานความกะทัดรัด ประสิทธิภาพ และการออกแบบอย่างลงตัว ให้เป็นลำโพงตั้งวางพื้น 3 ทางที่รองรับกำลังขับ 100 วัตต์ RMS 

ทั้งนี้ Krypton 6 สามารถคว้ารางวัล The KRYPTON 6, Diapason d’Or on September 2021 ! และ Award “Recommandation Audio Vidéo”- Award “Diamant Le Beau Son”, Award “StereoLife” รวมทั้ง Award “HIFI Test” มาครอง

ผลการรับฟัง

…บอกได้ ชัดเจนครับ เสียงของ Krypton 6 มีความไพเราะในแบบเฉพาะตัว พร้อมด้วยความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นความชัดเจน (clarity) ของเสียงเบส ความสม่ำเสมอ (consistency) ของแบนด์วิธทั้งหมด ความรวดเร็ว (quickness) ความจับต้องได้ (tangibility) ของช่วงย่านเสียงกลางถึงสูง และแม้แต่การสร้างภาพสเตอริโอ (stereo imaging) ที่แม่นยำ อีกทั้งการผสมผสานระหว่างตู้ขนาดกะทัดรัดเข้ากับระบบ 3-ทาง ซึ่งวูฟเฟอร์แตกต่างจากตัวขับเสียงกลางโดยสิ้นเชิง รวมถึงวูฟเฟอร์เส้นใยไฟเบอร์ขนาดเท่ากันที่สามารถให้เสียงต่ำแบบไดนามิก และหนักแน่นจนถึง 45Hz ทั้งยังได้รับการเสริมต่อช่วงความถี่ทุ้มลึก ด้วยพอร์ตระบายอากาศแบบ laminar port ที่ออกแบบไว้อย่างชาญฉลาด เพื่อขยายการตอบสนองความถี่ต่ำของ Krypton 6 ให้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ได้เสียงที่ทั้งล้ำลึก และเปี่ยมในไดนามิก…เสมือนรู้สึกกำลังฟังลำโพงมอนิเตอร์ชั้นยอด ที่ได้รับการช่วยเสริมความถี่เสียงทุ้มลึกจากซับวูฟเฟอร์ขนาดเล็กในระบบตู้แบบปิด

Krypton 6 ให้ความมีชีวิตชีวา ฟังแล้วให้ความสมจริงในทุกสรรพเสียง ทั้งยังทำให้มีทางเลือกมากขึ้น ในแง่ของการจัดวางที่สามารถตั้งวางลำโพงนี้ไว้ใกล้กับผนังด้านหลังมากเท่าที่จำเป็น มีเพียงสภาพเวทีเสียงเท่านั้นที่จะรับรู้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร …แน่นอนครับ ช่วงความถี่เสียงต่ำจะมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อขยับลำโพงถอยไปข้างหลังมากขึ้นๆ ซึ่งสำหรับผมบอกตามตรงว่า ยอมรับกับตำแหน่งตั้งวางที่ขอบด้านหลังของตัวฐานยึดสำหรับการตั้งวางอยู่ห่างจากผนังด้านหลังประมาณ 10 ซม. (ไม่วางชิดผนังด้านหลังมากไปกว่านี้)

อย่างที่บอกว่า Davis Acoustics มีแนวคิดที่แตกต่างจากนักออกแบบชาวฝรั่งเศส ที่มักชื่นชอบที่จะใช้ทวีตเตอร์แบบ ริบบอน (ribbon tweeter) หรือว่า ฮอร์น (horn) ซึ่งทำให้เสียงแหลมที่รับฟังจาก Krypton 6 มีความราบรื่นมากที่สุด จากทวีตเตอร์โดมผ้าแบบนุ่ม (soft frabric dome) ขนาด 1.1 นิ้ว ซึ่งนับว่า มีขนาดตัวโดมที่ใหญ่กว่าลำโพงตั้งพื้นส่วนใหญ่ของคู่แข่งในท้องตลาด (โดยทั่วไปมีขนาด 1 นิ้ว) ซึ่งจะทำหน้าที่รับภาระตั้งแต่ 4,000 Hz ขึ้นไป ส่งผลให้พื้นที่การกระจายเสียงของตัวโดมแผ่กว้างใหญ่ขึ้นมาก โดยมีความผิดเพี้ยน-บิดเบือนน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควบคู่ความสดสะอาด และแม่นยำ ในขณะที่ช่วงย่านเสียงกลางนั้นมีความเป็นธรรมชาติ รวดเร็ว-ฉับไว แม้ว่า บางครั้งอาจจะฟังดู ‘harsh’ เล็กน้อย ทว่าก็ให้ความสดสว่าง แจ่มชัด และตอบรับได้ทันทีทันใด อย่างไรก็ตามความหยาบ-กร้าน (harsh) เล็กน้อยของไดอะแฟรมเคฟล่าร์นี้จะดีขึ้นและหายไป หลังจากการเบรกอัพอย่างเข้มข้นเป็นเวลาสักหนึ่งร้อยชั่วโมงขึ้นไป

ทั้งนี้วัสดุเคฟล่าร์ (Kevlar) มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และมีความแข็งแกร่งที่สูงมาก จึงรับประกันการสร้างสรรพเสียงที่แม่นยำมาก ดังนั้น Krypton 6 จึงได้รับประโยชน์จากตัวขับเสียงเคฟล่าร์เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว สำหรับการสร้างเสียงกลาง นอกจากนี้ บริเวณศูนย์กลางของตัวกรวยเคฟล่าร์ยังมี phase plug โลหะเพื่อจำกัดความปั่นป่วน (turbulence) และลดการบิดเบือน (distortion) ส่งผลให้ Krypton 6 ส่งมอบเสียงกลางที่เข้มข้น เปี่ยมในความเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยรายละเอียด ระดับยิบย่อย ซึ่งเป็นผลจากความเป็นระบบลำโพงที่ Davis Acoustics ควบคุมอย่างเยี่ยมยอด

โดยทั่วไปแล้ว ลำโพงแผงหน้าแคบ ขนาดเล็กจะง่ายกว่าในการสร้างเวทีเสียงสามมิติที่ให้ความรู้สึกสมจริง และ Krypton 6 ก็ดูจะง่ายในการหาตำแหน่งวางที่จะสามารถส่งมอบเวทีเสียงสามมิติให้คุณได้รับรู้ …ยิ่งถ้าได้ยกระดับอุปกรณ์ที่ใช้งานควบคู่กัน Krypton 6 ก็จะยิ่งทำให้คุณได้รับรู้ถึงสมรรถนะและคุณภาพเสียงอันแท้จริงที่ซ่อนอยู่ในตัวมัน ภายใต้ขนาดตัวตู้ที่มิได้ใหญ่โต และดูเกะกะสายตาในยามที่มองมัน

สรุปส่งท้าย

Krypton 6 วางอยู่บนขาตั้งพื้นที่มีความลาดเอียงเล็กน้อย ซึ่งเพียงขันสกรูเข้ากับฐานของตัวลำโพง ที่มีโฟมกันกระแทกแปะติดไว้ที่ด้านล่างของลำโพง เพื่อจำกัดการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนระหว่างตู้และขาตั้ง นอกเหนือจากความสวยงามลงตัวที่ปฏิเสธไม่ได้แล้ว ขาตั้งนี้ยังเอียงลำโพงไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อปรับการจัดตำแหน่งวอยซ์คอยล์ของไดรเวอร์ต่างๆ ให้เหมาะสมต่อกันและกัน ผลที่ได้คือ เฟสเสียงที่ได้รับการปรับปรุง โดยมีการรับรู้ถึงความถี่ต่างๆ ได้ดีขึ้น และสภาพเวทีเสียงที่แจ่มชัด และแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังของฐานขาตั้งนี้วางอยู่บนแผ่นยางที่ด้านหน้า โดยที่ Davis Acoustics ได้เสนอทางเลือกระหว่างแผ่นยาง หรือ เดือยแหลม สำหรับแยกลอย (decoupling spikes) ซึ่งการขันเดือยแหลมนั้นเหมาะสำหรับห้องที่ปูพรมหนา ขึ้นอยู่กับประเภทของพื้นที่ตั้งวางลำโพง

Specification:-

Bass reflex : laminar port
Nom. power : 100 W
Max. power : 150 W
Number of ways : 3
Number of speakers  : 3
Sensitivity : 91 dB
Frequency range  (+/- 3 dB) : 45 -24000 Hz

Tweeter : 28mm. soft dome
Midrange : Kevlar 13 cm
Woofer : 13cm pulpe de cellulose
Dimensions (cm) : 89 (h) x 16 (l) x 26 (depht)
Weight (kg) : 16 (two box)
Impedance : 4…8 ohms
Cut of frequency  : 400-4000Hz

Davis Acoustics คือ แบรนด์เครื่องเสียงไฮ-ไฟสัญชาติฝรั่งเศสที่ก่อตั้งโดย Michel Visan ด้วยความหลงใหลในดนตรีแจ๊ส เขาหลงใหลในการสร้างเสียง และเริ่มฝึกฝนเป็นวิศวกรเครื่องกลไฟฟ้าในช่วงทศวรรษ 1950 Michel Visan เริ่มต้นอาชีพของเขาในปี 1960 กับบริษัท Vega โดยทำหน้าที่พัฒนาลำโพงและไดรเวอร์ หลังจากดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ Siare Acoustique แบรนด์ฝรั่งเศสมาเป็นเวลา 7 ปี Michel Visan ก็ตัดสินใจใช้ความรู้ความชำนาญในการออกแบบลำโพงของตัวเอง สิ่งนี้นำไปสู่การกำเนิดของ Davis Acoustics ในปี 1986

จากจุดเริ่มต้น Michel Visan ทำให้แน่ใจได้ว่า ไดรเวอร์ของ Davis Acoustics มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ Davis Acoustics นับเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่ใช้เคฟล่าร์, คาร์บอน และไฟเบอร์กลาส ซึ่งวัสดุเหล่านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนในขณะนั้น เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความแข็งแกร่ง และความเบา ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญ 2 ประการของความเป็นตัวขับเสียงที่ดี มีความเป็นอุดมคติ ‘Davis Acoustics’ กลายเป็นแบรนด์ยอดนิยม และผลิตไดรเวอร์ส่งให้กับผู้ผลิตลำโพงหลายราย เช่น Quellis, JMF, Louvet, WLM, JCT Acoustics, Klinger Garde และ Avant Garde …ครั้งหนึ่ง Davis Acoustics ยังได้ทำการผลิตทรานสดิวเซอร์สำหรับแบรนด์อื่นๆ เช่น Goldmund, Kinoshita, Apertura และ Elipson ทั้งนี้ปัจจุบัน เคฟล่าร์ยังคงเป็นวัสดุที่ใช้มากที่สุดโดยผู้ผลิตในฝรั่งเศส รวมถึงสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์มอบให้กับตัวขับเสียงถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์

เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจการออกแบบไดรเวอร์และชุดอุปกรณ์ Davis Acoustics จึงได้เปิดตัวลำโพงตัวแรกในปี 1993 นั่นคือ Davis Acoustics “DK200” ซึ่งนับเป็นลำโพงรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากนั้นบริษัทได้ย้ายไปยังสถานที่ขนาดใหญ่ในเมือง Troyes เพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีเดียวกันนั้น Davis Acoustics ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ariane และรุ่น Krypton ซึ่ง Krypton 6 นับเป็นทายาทอันทรงคุณค่าตั้งแต่ปี 2014 ‘Davis Acoustics’ ได้รับการกำกับโดย Olivier Visan ซึ่งสานต่อวิสัยทัศน์ต่อจากพ่อของเขา ด้วยลำโพงวางขาตั้ง (bookshelf speakers), ลำโพงติดผนัง (in-wall speakers), ลำโพงแชนแนลกลาง (center speakers), และลำโพงตั้งพื้น (floorstanding speakers) หลายต่อหลายรุ่น Davis Acoustics มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และสามารถอวดอ้างได้เกี่ยวกับ Michel Sardou – นักร้องชาวฝรั่งเศส และ Philippe Starck – ดีไซเนอร์

Exit mobile version