What HI-FI? Thailand

Test Report: COPLAND CTA 405A

Test Report: COPLAND CTA 405A

Stereo Tube Integrated Amplifier

มงคล อ่วมเรืองศรี

Copland เป็นที่มักคุ้นอยู่พอสมควรในบ้านเรา เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเครื่องหลอดฯ แม้ว่าจะมีซีรี่ส์ที่เป็นเครื่องโซลิดสเตตผลิตออกมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีบางซีรี่ส์ที่จำเพาะเจาะจงสำหรับ Home Cinema Applications โดยตรง Copland นั้นเป็น Danish Audio Company เต็มขั้นที่ย้อนหลังไปได้ถึงช่วงกลางยุคปี’80 ก่อตั้งขึ้นมาโดย Olé Möller และยังทำหน้าที่เป็น Engineer เองด้วย โดยพุ่งเป้าไปที่ Serious Audiophile

ผลิตภัณฑ์แรกสุดของบริษัทได้แก่ CTA401 และ CTA501 ที่ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับดีมากๆ จากทั้งเซียนนักฟังและนักวิจารณ์ ด้วยแนวคิดแปลกใหม่ที่ Olé Möller นำมาใช้ในการออกแบบ ผสานร่วมกับการคัดสรรเกรดอุปกรณ์อย่างดีที่สุด ส่งผลให้แอมป์หลอดของเขาให้เสียงที่น่าหลงใหล ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้รายละเอียดต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อมาในปี ค.ศ.1992 Copland ก็ได้ออกจำหน่าย CTA301 และ CTA504 ปรีแอมป์หลอดฯ และเพาเวอร์แอมป์หลอดฯ คู่ขวัญกันและกัน ที่สามารถปรับเสือกการทำงานได้ทั้งแบบ Tetrode และ Triode ซึ่งก็ยิ่งได้รับเสียงแซ่ซ้อง-ตอบรับที่ดีมากๆ  แม้แต่กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบในแนวทางของทรานซิสเตอร์

ในปี ค.ศ.1993 Olé Möller ตัดสินใจขยายโรงงานเพื่อให้สามารถทำการผลิตได้ทันกับความต้องการจากทั่วโลก พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในสารบบการผลิตของ Copland นั่นคือ CSA14 ที่เป็นเสมือน Hybrid Integrated Amplifier ด้วยการใช้หลอดฯ เบอร์ E88CC ทำหน้าที่ Input Differential Pre-Driver Stage ในขณะที่ภาคจ่ายกำลังนั้นใช้เป็น Bipolar Output Devices ของ Toshiba โดยที่ “ตัวเอส” (S) ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง C กับ A นั้นหมายถึง Synergy ซึ่งก็เช่นเคย CSA14 ประสบความสำเร็จอย่างมาก กระทั่งมีการเทียบเคียงว่า ทัดเทียมกับอินทีเกรทแอมป์ที่แพงกว่าเป็นเท่าตัว จนต่อมาทาง Copland ก็ได้มีพัฒนาการไปสู่ CSA29 (Hybrid Integrated Amplifier) และ CSA303 (Hybrid Pre-Amplifier)

ปัจจุบันถ้าเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.copland.dk จะพบว่า Copland มีผลิตภัณฑ์อยู่ทั้งสิ้น 5 ตัวด้วยกัน อันประกอบไปด้วย CDA825 (Compact Disc Player); CTA305 (Stereo Pre-Amplifier); CVA306 (Multi-Channel Pre-Amplifier); CTA405 (Stereo Integrated Amplifier และ CTA506 (Stereo Power Amplifier) ซึ่งทั้งหมดเป็นเครื่องหลอดฯ ล้วนๆ โดยมิได้มีการอ้างไปถึงเครื่องที่เป็นโซลิดสเตต หรือ Hybrid เลย

 

คุณลักษณ์

CTA 405A เป็น Stereo Integrated Tube Amplifier เพียงแค่รุ่นเดียวของ Copland ที่พัฒนาต่อยอดจาก CTA401 รุ่นสุดดังในอดีตนั่นแหละครับ ทว่าได้รับการยกระดับด้วยการใช้อุปกรณ์เกรดสูงยิ่งขึ้น ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ รวมถึงการคัดสรรสิ่งต่างๆอย่างพิถีพิถันควบคู่กัน โดยใช้หลอดฯ เบอร์ KT120 จำนวน 2 หลอดต่อแชนแนล ทำงานในแบบ Push-Pull Ultra-Linear Configuration (Class AB Operation) ให้สมรรถนะกำลังขับข้างสูงถึงละ 60 วัตต์ ทั้งที่ค่าความต้านทาน 4 และ 8 โอห์ม

 

ส่วนภาคปรีแอมป์นั้นใช้เป็นหลอดฯ เบอร์ E83CC (12AX7) จำนวน 3 หลอด ทำงานควบคู่กับหลอดฯ เบอร์ 12BH7 จำนวน 2 หลอด และหลอดฯ เบอร์ 6922 (6DJ8) จำนวน 2 หลอด โดยทั้งหมดได้รับแหล่งพลังงานจากภาคจ่ายไฟ (Power Supply) ที่แยกออกเป็น 2 ชุด สำหรับภาคปรีแอมป์ และภาคเพาเวอร์แอมป์ จากการใช้หม้อแปลงไฟขนาดใหญ่อันหนักอึ้ง ซึ่งเป็นแบบ High Quality Silicon Ion Core Toroidal Transformer (Model NORATEL RTD 250-30144) ที่มีค่าสูงถึง 600 VA โดยที่ CTA 405A จะมีช่วงค่าตอบสนองความถี่เสียงที่กว้างขวางมากเป็นพิเศษ ครอบคลุมตั้งแต่ 5 Hz ~ 100 kHz ค่าความต้านทานขาเข้า 50 กิโลโอห์ม ความไวสัญญาณขาเข้า 280 มิลลิโวลต์ สัดส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนดีกว่า 95 ดีบี และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 250 วัตต์ ในขณะที่ Output Transformers นั้นเป็นของ NORATEL SU 120A-30187 ซึ่งสามารถรองรับอัตรากำลังขับได้สูงถึง 100 วัตต์ (อนึ่ง ทั้ง PSU Transformer และ Output Transformers ล้วนสั่งทำเป็นพิเศษ ตามสเปคฯ ที่กำหนดโดย Copland)

 

CTA 405A มีขนาดตัวเครื่อง (กว้าง x สูง x ลึก) : 430 x 185 x 390 มม. ทว่าน้ำหนักตัวนั้นมากถึง 25 กก.ทีเดียว ตัวเครื่องขึ้นรูปจากวัสดุโลหะไร้สนิม (Stainless Steel) เนื้อหนาให้ความแข็งแกร่งสูง บนแผงหน้าเครื่องติดตั้ง Volume Control ไว้ทางด้านขวา และ Input Selector อยู่ทางด้านซ้าย โดยจะมีปุ่มกดเล็กๆ ระหว่างปุ่มควบคุมทั้งสองจะเป็นปุ่ม Tape Monitor กับปุ่ม Standby/On ส่วนตรงกลางแผงหน้าเครื่องนั้นเปรียบเสมือนเป็น Display รูปทรงกลมที่จะบ่งบอกสถานะการทำงานผ่านทางดวงไฟ LED เล็กๆ สีเหลืองอมเขียว สำหรับแผงหลังเครื่องได้ติดตั้งช่องเสียบรับสัญญาณขาเข้าจาก Tuner, CDP, AUX 1, AUX 2, Tape In รวมทั้ง Tape Out ที่ผ่านการชุบเคลือบทองอย่างดี ส่วนขั้วเสียบต่อสายลำโพงนั้นเป็นแบบชุบเคลือบทองอย่างดีเช่นกันที่แยกสำหรับ 4 โอห์ม และ 8 โอห์ม

 

ผลการรับฟัง

ก่อนอื่นใดเป็นเรื่องที่ต้องขอเตือนกัน อย่าลืมว่า แอมป์หลอดฯ นั้น “จำเป็น” ต้องมีค่าโหลด (Load) รองรับอยู่ที่ขั้วลำโพงด้วยนะครับ จะเป็นโหลดจากลำโพงที่เสียบต่อใช้งานอยู่ หรือว่าโหลดเทียม (Dummy load) ก็ย่อมได้-แต่ต้องมี  ถือเป็นข้อพึงระวังสำคัญกันเลยทีเดียว ถ้าไม่อยากให้แอมป์หลอดฯ สุดรักจากไปก่อนเวลาอันควร

 

ขอให้ใช้เวลารันอินอย่างน้อย 20 นาทีผ่านไป จึงจะรับฟังได้เพลินใจ มิฉะนั้น หัวเสียง อาจจะรู้สึกทู่ไปสักนิด ฟังไม่ค่อยจะเข้าหู-สักเท่าไหร่ แต่หลัง 60 นาทีผ่านพ้นไป อะไรๆ จะวิเศษสุดจริงๆ ชนิดครบเครื่องเลยทีเดียว – ไม่อืดอาด ไม่เนิบนาบ ให้ความละเมียดละไม ไหลลื่นจนจมกลืนไปกับเสียงที่รับฟัง (Involving) อย่างเพลิดเพลินใจจริงๆ สุ้มเสียงอิ่มแน่น ให้ความกระชับ จับจังหวะท่วงทำนองได้แม่นยำ ให้ความรุกเร้าในจังหวะจะโคน ทั้งยังให้ความเปิดเผยในรายละเอียดเสียง ใกล้เคียงกับแอมป์โซลิดสเตตชั้นยอดนั่นเลยเชียวแหละ

 

CTA 405A จะทำให้คุณสามารถจับจังหวะจะโคนของการเดินเบสได้อย่างชัดแจ้ง กระฉับกระเฉง ควบคุมวรรค-ตอนได้อย่างรวดเร็ว-แม่นยำ ทั้งยังจำแนกแยกแยะลักษณะความต่างกันของเสียงเบสได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงความทรงพลัง-หนักหน่วงในแรงกระแทกกระทั้น มีเรี่ยวแรงปะทะ ทั้งยังตอบสนองช่วงย่านความถี่เสียงต่ำที่ลงไปได้ลึก และอิ่มใหญ่ เข้มข้นควบคู่กัน การบ่งบอกสภาพอิมเมจก็ดีมากๆ พร้อมด้วยวงเวทีเสียงที่สมจริง สเกลเสียงก็ไม่เกินจริง เล็กเป็นเล็ก ใหญ่เป็นใหญ่

 

ในขณะที่ช่วงย่านความถี่เสียงกลาง-แหลมนั้น ให้ความสดใส เปิดโปร่ง โล่งกระจ่าง สะอาดสะอ้านมากทีเดียว หางเสียงมีความกังวานและทอดตัวยาวไกลไม่หดสั้น ทั้งยังอบอุ่นมีมวลอากาศ ให้ความเป็นตัวเป็นตนของสรรพเสียง ยิ่งเมื่อรับฟังจากเพลงร้อง (Vocal) โอ้…ช่างเป็นเป็นเสียงร้องที่มีวิญญาณมีตัวมีตนของคนเราจริงๆ เสมือนเปล่งออกมาจากปากอย่างมีลมหายใจ (Breathing) เข้าได้ถึงห้วงอารมณ์ของการขับร้อง พร้อมด้วยการออกเสียงอักขระชัดเจนมาก บ่งบอกรายละเอียดความแตกต่างกันของแต่ละบุคลิกเสียงนักร้องได้ดี มีการแยกแยะอาณาบริเวณเสียงของกลุ่มนักร้อง กระทั่งเสียงนักร้องล้วนมีมวลมีน้ำหนักมีตัวตนของแต่ละคนๆ ไป ปราศจากความคลุมเครือ

 

ที่สำคัญช่วงย่านเสียงกลางตอนบนต่อเนื่องไปจนปลายสุดโต่งของเสียงสูงที่รับฟังได้นั้น ให้ความหวานใส นวลเนียน เปิดโปร่ง ลอยตัว หางเสียงกังวานทอดยาวไกลมีความไหลระรื่นเป็นละอองอณูเสียงอย่างน่าฟัง CTA 405A ให้เสียงที่สะท้อนย้อนกลับจากผนังห้องบันทึกเสียงกลายเป็นเสียงแอมเบียนส์ของบรรยากาศที่บ่งบอกสภาพอะคูสติกได้อย่างสมจริงสมจังน่าทึ่งมาก ให้แยกแยะรายละเอียดที่แทรกซ้อนออกมาได้แจ่มชัด สัมผัสได้ถึงตำแหน่งแห่งที่ของเสียงนั้นๆ พร้อมทั้งปริมณฑลของเสียงแต่ละเสียงที่มีมวลอากาศแผ่กระจายรายรอบ – เสียงเครื่องเคาะจังหวะสารพัดอย่างเป็นเสียงที่ผุดโผล่ขึ้นมาอย่างฉับไว กระทั่งเสียงแส้ที่กวาดไปบนผิวฉาบนั้น ทำเอาขนลุกเกรียวเลยทีเดียว

 

CTA 405A จะบ่งบอกสภาพเสียงที่มีมวลอากาศห้อมล้อม อบอวล ทำให้รับรู้ได้ถึงสภาพบรรยากาศของโถงแสดงดนตรีที่ถูกบันทึกเสียงมา ได้ราวกับเรา-ท่านกำลังนั่งฟัง-ดื่มด่ำในอรรถรส ท่ามกลางห้วงอารมณ์ดนตรี ณ โถงแสดงดนตรีนั้นๆ ได้อย่างสมจริงมาก สามารถรับรู้อิมเมจเสียงที่แยกแยะอยู่ตรงโน้น ตรงนี้ ตรงนั้น ตรงนู้น ราวเป็น 3 มิติที่แยกเข้าไปเป็นชั้นๆ (Layered) ในสภาพเวทีเสียงอันแผ่กว้าง ถอยลึก และสูงอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งความรู้สึกโอบล้อมทางเสียงอย่างเสมือนจริง ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี (หรือสรรพเสียงใดก็ตาม)

 

สืบเนื่องจากการที่ CTA 405A มีภาคขยายสัญญาณหัวเข็มแบบ MM ผนวกมาด้วยในตัว (Built In RIAA Phono Circuit) เอื้ออำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ชื่นชอบในการรับฟังจากแผ่นเสียง ผมจึงใช้ CTA 405A ทำการขยายสัญญาณจากหัวเข็ม MC ที่เสียบต่อผ่าน SUT (Step-Up Transformer) ของALTEC/PEERLESS 4722 (หม้อเขียว) เพื่อให้มีระดับความแรงสัญญาณที่เหมาะสมต่อการทำงานของภาคขยายสัญญาณหัวเข็มในตัวของ CTA 405A …ผลปรากฏว่า ไม่ธรรมดาครับ  Olé Möller ไม่ได้ใส่ภาคขยายสัญญาณหัวเข็มมาให้แบบส่งๆ หรือถือว่าเป็นของแถมไว้ใช้ฟังเล่นๆ แม้แต่น้อย

 

จากแผ่นเสียงชุด Orchestrations Astromantic โดยสังกัด RCA JAPAN (RDCE-6) ในระบบไดเร็กต์-คัทติ้ง บอกได้เลยว่า ช่างเป็นสุดยอดอลังการแห่งเสียงโดยแท้ครับ เพราะให้บรรยากาศเสียงที่โอฬารมากๆ ความกระหึ่มกึกก้องของบทเพลงที่คุ้นหูอย่าง Star Wars จากเครื่องดนตรีกว่าร้อยชิ้น กระจายแผ่กว้างเป็นสนามเสียงอยู่ต่อหน้า เสียงเครื่องดนตรีชิ้นนั้นชิ้นนี้ เรียงรายอยู่ตรงนั้นตรงนี้ในตำแหน่งเวทีเสียงที่ไล่ระดับความลึก-ตื้นอย่างจะแจ้งสมจริง

 

ตามต่อด้วยแผ่นเสียงชุด Pick up Test Record ในระบบไดเร็กต์-คัทติ้งอีกเช่นกันของ Ortofon ในช่วงเริ่มต้นของแทร็กแรกในหน้า 2 ซึ่งเป็นการบันทึกเสียงของวง The Tivoli Symphony Orchestra เจ้า CTA 405A ก็สามารถสำแดงสภาพบรรยากาศอันอบอวลของสถานที่แสดง The Concert Hall of Copenhagen ได้อย่างประทับใจ เหมือนตัวเรากำลังเดินผ่านประตูเข้าไปสู่สถานที่นั้นกระนั้น  ครั้นพอดนตรีเริ่มบรรเลง ไดนามิก-ความฉับพลันในเสียงดนตรีก็เริ่มพรั่งพรูออกมา พร้อมด้วยน้ำหนักเสียงของชิ้นดนตรีแต่ละตำแหน่งแห่งที่-ที่ให้ความมีตัวมีตนของเสียง เปล่งออกมาจากตำแหน่งตรงนั้นตรงนี้ กระทั่งเสียงเพอร์คัสชั่นอันแผ่วเบา ก็ปรากฏเข้าไปลึกอยู่ชั้นหลังสุดของวงเวทีเสียง-ฟังดูสมจริงมาก

 

ครั้นหยิบจับแผ่น Finesse ที่ตัดมาสเตอร์สดๆ แบบไดเร็กต์-คัท (Nautilus Records หมายเลขแผ่น NR 22) ฝีมือการเป่าแซกฯ ของ John Klemmer มาเปิดฟัง ให้เสียงมวลอากาศที่ถูกเป่าพ่นเป็นลมพุ่งออกมา ชัดเจนขนาดที่ว่าได้ยินเสียงน้ำลายน้อยๆ เข้าไปขังอยู่ในลิ้นเสียงของแซกโซโฟนอย่างสมจริง แม้กระทั่งเสียงหวดแซ่ลงไปบนฉาบอย่างฉับพลันก็เปล่งประกายไดนามิกเสียงออกมาฉับพลัน สะอาด สดใส ยิ่งฟังยิ่งเพลินใจครับสำหรับอัลบั้มนี้

พลันนึกไปถึง Boling Point แผ่นเสียงไดเร็กต์-คัทชั้นเลิศของ Toshiba Pro-Use Series (LF-95009) ที่รวมเอาศิลปินและนักร้องชั้นยอดของญี่ปุ่นมารวมไว้ เฉพาะอย่างยิ่งเสียงของ Mari Nakamoto ในเพลง My Funny Valentine และ Misty ที่สุดแสนซาบซึ้ง สำแดงไปถึงแหล่งเสียงจากลำคอของเธออย่างถนัดชัดเจน เสียงกลองชุดที่ให้ความตึงของหนังหน้ากล้อง เสียงฉาบที่ใสกังวาน กำลังแกว่งไกวสั่นระรัว เสียงแซกโซโฟนที่บ่งบอกถึงแรงลมที่เป่าพ่นออกมา เสียงเบสยืนที่ดื่มด่ำหนักแน่นราวมองเห็นการสั่นไหวของสายเบส ยามที่ถูกนิ้วจับดีดเป็นคอร์ดเสียง

 

จากแผ่นเสียงชุด จรัล มโนเพ็ชร โฟล์คซองคำเมือง (อัลบั้ม 2 แผ่น/ชุดของนิธิทัศน์ฯ) ได้ทำให้ผมเข้าถึงซึ่งความเป็นเสียง 3 มิติที่รับรู้ได้กระจ่างชัด ทั้งกว้าง-สูง-ลึก ‘ชนิดไม่ต้องหลับตาฟัง ในขณะที่สุ้มเสียงร้องของทั้งคุณจรัล มโนเพช็ร และคุณสุนทรี เวชานนท์ นั้นอวบอิ่ม ละเมียดละไม มีน้ำนวล ตำแหน่งเสียงร้องแยกออกจากแนวตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงเวทีเสียงชัดแจ้งมาก พร้อมด้วยความอบอุ่น มีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติ การออกอักขระเสียงชัดเจนทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมา เสียงกีตาร์ให้ความเป็นตัวเป็นตน  รวมทั้งเสียงซึ้งก็กังวานน่าฟัง ทั้งยังให้รับฟังได้ถึงความกังวานแว่วเป็นระลอกจากเสียงสะท้อนของสภาพอะคูสติคในห้องบันทึกเสียง อึ้งครับ ขอบอกจากใจ

 

สรุปส่งท้าย

CTA 405A นั้นให้บุคลิกเสียงที่มีความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ชื่นมื่นหัวใจ ได้ฟังแล้วติดหู ติดใจ อยากจะฟังเรื่อยไป ในขณะเดียวกันก็มีความฉับไว สดใส ไหลระรื่น และโปร่งกระจ่าง พร้อมกับความรู้สึกรุกเร้าใจ ทั้งยังให้ความเปิดเผยในรายละเอียดเสียง ใกล้เคียงกับแอมป์โซลิดสเตตชั้นยอดกันเลยเชียวแหละ…

 

ขอยืนยันว่า CTA 405A นั้นมิใช่แอมป์หลอดฯ ประเภท Vintage Sound ที่ได้รับอิทธิพลจากบุคลิกเสียงของแอมป์หลอดฯ ยุคเก่า แบบแว่วหวาน เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับจาก Copland นี้จะเป็นบุคลิกเสียงแอมป์หลอดฯ ที่อบอุ่น มีเนื้อมีหนัง สว่างสดใส สามารถตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลันได้อย่างฉับไว ไร้อาการเฉื่อย-เนือย ให้ความมีชีวิตชีวา พร้อมด้วยมวลอากาศห้อมล้อม และความมีตัวตนของทุกสรรพเสียง

 

CTA 405A สามารถทำให้เรา-ท่านได้เข้าถึงซึ่งความสมจริงแห่งเสียงเพลงและดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เรี่ยวแรงปะทะ ความฉับพลันทันใด รวมทั้งน้ำหนักเสียงได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งยังให้เสียงที่มีมิติ มีตัวตน มีห้วงอารมณ์ความรู้สึกของดนตรี รวมถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงแต่ละเสียงที่บังเกิดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา สามารถจับตำแหน่งการแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ สารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถือเป็นรายละเอียดก็สดใส กระจ่างมาก และให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ อย่างชัดแจ้ง ไม่ว่าจะฟังจากแหล่งสัญญาณซีดี หรือว่าไวนีล

 

 

* การเทสต์เครื่องและลำโพงของผม มุ่งเน้นการไม่ได้เปรียบ/เสียเปรียบกัน  และยึดหลักความตรงไปตรงมา-มาโดยตลอด พยายามตัดปัจจัยแห่งความเข้าใคร-ออกใครให้น้อยที่สุด จึงไม่มีการใช้ “อุปกรณ์ช่วย” หรือ “มวลสารพิเศษ” เสริมสมรรถนะอะไรต่อมิอะไรเข้ามาเป็นปัจจัยแปรผันแต่อย่างใด เพื่อมิให้สับสนว่า ซิสเต็มที่รับฟังนั้น-ดี-ด้วยพื้นฐานการออกแบบในตัวในตนของมันเอง หรือว่า -ดีขึ้น-  เนื่องเพราะ “อุปกรณ์ช่วย” หรือ “มวลสารพิเศษ” ส่งอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชแผ่ออกมาช่วยเสริมสมรรถนะให้แก่ซิสเต็มนั้นๆ กันแน่ *

* อีกทั้งสายไฟฟ้าเข้าเครื่องทุกเส้นของแต่ละเครื่อง ล้วนเป็นสายไฟฟ้าเข้าเครื่องที่ให้มาพร้อมกับเครื่องนั้นๆ มิได้มีการเปลี่ยนไปใช้สายไฟฟ้าพิเศษอื่นใด เข้ามาเป็นตัวช่วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลว่า เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ทางเสียงอันเป็นพื้นฐานที่ได้จากเครื่องนั้นๆ อย่างแท้จริง ซึ่งหากท่านใดได้เปลี่ยนไปใช้สายไฟฟ้าเข้าเครื่องที่เกรดสูงขึ้น ก็ย่อมที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไปกว่าการทดสอบ-ลองฟังอย่างปกติธรรมดาของผมครับ *

 

อุปกรณ์ร่วมใช้งาน : เครื่องเล่นแผ่นซีดี Marantz : CD/DA-12; เครื่องเล่นแผ่นเสียง Clear Audio : Emotion; หัวเข็ม MC DENON : DL-103M; สเตพ-อัพ ทรานสฟอร์เมอร์ (SUT) ของ ALTEC/PEERLESS 4722 (หม้อเขียว); ลำโพง TANNOY : System 10 DMT II; สายสัญญาณ HighDiamond 7 และสายลำโพง SPC-650 ของ SAEC

 

อุปกรณ์อ้างอิง : XAV : EMX -9 (วางทับบน Copland CTA405A Entreq : Ground Box รุ่น MinimUs Silver + Earth Cable รุ่น Silver; MagicBoxAudio : Lunar 1

รูปลักษณ์ – 4 ดาวครึ่ง

สมรรถนะ – 4 ดาว

คุณภาพเสียง – 5 ดาว

โดยรวม – 5 ดาว

 

ขอขอบคุณ บริษัท การ์ป ออดิโอ จำกัด โทร.0-2716-7852, 080-080-4858 ที่เอื้อเฟื้อ Copland CTA405 มาให้ได้ทดสอบกันในครั้งนี้

Exit mobile version