What HI-FI? Thailand

Test Report: Accuphase DP-410 เครื่องเล่นซีดี / DAC Input

Test Report: Accuphase DP-410 เครื่องเล่นซีดี / DAC Input

“ทุกรายละเอียดไฮเอนด์”

“bluebird u11”

เครื่องเล่นซีดีในแบบฉบับไฮเอนด์รุ่นเล็กสุดของผู้ผลิตรายนี้ ส่งลงตลาดเครื่องเสียงในแวดวงไฮเอนด์อีกหนึ่งรุ่น
Accuphase นับว่าเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นชั้นนำในปัจจุบัน ด้วยการผลิตจากประสบการณ์ยาวนานและบริหารด้วยจุดยืนอันแน่วแน่ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานได้ทั่วโลก อีกทั้ง Accuphase ไม่เคยหยุดพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจำหน่าย พร้อมทั้งรับฟังคำแนะนำจากผู้ขายและผู้ใช้งานเพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Accuphase ยืนหยัดมาด้วยคุณภาพ จะสังเกตุเห็นว่า ดั้งเดิมของเครื่องเสียงจากประเทศญี่ปุ่น มักจะมีวงจรการออกแบบและคู่มืออย่างละเอียด ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกหรือแพงก็ตาม
Accuphase ยังคงรวมจุดดีของผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นดั้งเดิมผสมผสานกับแนวทางตะวันตกเพื่อเปิดสู่ตลาดโลกให้แกร่งยิ่งขึ้น แน่นอนว่า ด้วยแนวคิดของสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น การพัฒนาหรือแก้ไขจุดบกพร่องอาจต้องใช้เวลาวิเคราะห์ทดสอบตามขั้นตอน ทำให้บางครั้งต้องใช้เวลาพัฒนามากกว่าฝรั่งไปบ้าง แต่ด้วยการใช้เวลานี้เอง ทำให้แต่ละรุ่นของผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นคงที่และปรับปรุงจุดไม่ดีออกไป Accuphase จึงมีการพัฒนาเป็นลำดับๆ ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างบางผู้ผลิตบางราย
ปัจจุบัน Accuphase ในเวอร์ชั่นใหม่เกือบครบรุ่น เปิดตัวออกมาทั้งไลน์ของอินทีเกรทแอมป์, ปรีแอมป์ + เพาเวอร์แอมป์, เครื่องเล่นซีดี / ซูเปอร์ออดิโอซีดี ฯลฯ ได้ก้าวข้ามขั้นช่วงลองผิดลองถูกจนผลิตภัณฑ์นิ่งมาก ที่เหลือเป็นการต่อยอดพัฒนาไปจากหลักพื้นฐานดั้งเดิมอันโดดเด่นอยู่แล้ว ในหมวดอินทีเกรทแอมป์รุ่นใหม่ ผมได้สัมผัสมาแล้วเกือบครบรุ่น สร้างความประทับใจไม่น้อย ส่วนเครื่องเล่นซีดีในเวอร์ชั่นใหม่รหัสลงท้าย 10 ของรุ่น DP-510 ได้ผ่านการใช้งานมาก่อนหน้านี้ราวสองปีเศษ ในครั้งนี้น้องเล็กสุดของเครื่องเล่นซีดี Accuphase ส่งรุ่นล่าสุดในรหัสรุ่น DP-410 ลงตลาดอีกครั้ง เพื่อเป็นทางเลือกของนักเล่นฯ นักฟังฯ ที่อยากสัมผัสไฮเอนด์ในราคาที่เป็นเจ้าของได้
เครื่องเล่นซีดีรุ่น DP-410 ถอดแบบและเทคโนโลยีจากรุ่น DP-510 มาหลายส่วน ตัวอย่าง เช่น บรรจุสวิตช์เลื่อน Phase ของวงจรบาลานซ์เอาท์พุท มาให้ใช้งานได้ทั้งแบบ American Type และเฟสสัญญาณแบบ Europe Type เพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน และยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่จะกล่าวในลำดับต่อไป

รูปลักษณ์และการใช้งาน

Accuphase DP-410 เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ทดแทน DP-400 หากพิจารณาจากรูปร่างภายนอกของตัวเครื่องแล้ว แทบไม่มีความแตกต่างจากเดิมมากนัก ยิ่งเทียบเคียงกับรุ่น DP-510 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ด้วยแล้วยิ่งเหมือนกันไม่น้อย ด้วยการออกแบบและผลิตตามเอกลักษณ์จำเพาะของ Accuphase ยังคงความสวยงามสไตล์คลาสสิกดั้งเดิมของเครื่องเล่นซีดี Accuphase ด้วยแผงด้านหน้าวางเลย์เอาท์และปุ่มสั่งงานทั้งหมดไว้คล้ายคลึงกับรุ่นใหญ่กว่า เสมือนใช้แพลทฟอร์มเดียวกันจากรุ่นใหญ่สู่รุ่นเล็ก มีเพียงรายละเอียดเชิงลึกแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ต้องพินิจพิเคราะห์ลงไปในแต่ละรุ่นจึงจะพบจุดแตกต่าง
เริ่มต้นจากแผงหน้าปัดอะลูมิเนียมสีทองแชมเปญใหญ่โตและดูเรียบหรู ออกแบบกัดเสี้ยนเป็นริ้วตามแนวนอนของแผงหน้าปัดตลอดทั้งแผง เมื่อมองกระทบกับแสงจะเห็นเด่นชัดมาก แผงหน้าปัดชิ้นนี้เมื่อพิเคราะห์ลงลึกเข้าไปเป็นแผงหน้าปัดชิ้นนอกสุดที่นำมาประกบเข้ากับตัวเครื่องอีกครั้งหนึ่ง ให้ความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเล่นซีดี Accuphase เกือบทุกรุ่นก็ว่าได้ แผงหน้าชิ้นนี้บริเวณด้านล้างเว้าเข้าด้านในให้มีระดับลึกลงไปมากกว่าชิ้นใหญ่ ดูจากผิวงานแล้วน่าจะผลิตด้วยด้วยเครื่องจักรกลที่ทันสมัย เพราะงานที่ได้เนี๊ยบจนหาจุดตำหนิไม่ได้เลย นี่คือเอกลักษณ์ของแผงหน้าปัดเครื่องเล่น Accuphase รุ่น DP-410 ที่เป็นสมือนฝาแฝดของ DP-510
อีกหนึ่งจุดดั้งเดิมของเครื่องคือจอแสดงผลวางไว้กึ่งกลางแผงหน้าปัดด้านบนของถาดรับแผ่นซีดี ตัวจอออกแบบเป็นจอดำสนิทยาวเท่ากับปุ่มด้านข้างถาดรับแผ่น เน้นระยะช่องว่างช่องไฟให้สมดุลทางสายตามากที่สุด ด้านในตัวจอออกแบบเป็นลักษณะจอแว่นมองแล้วเสมือนมีเลนส์ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา รายละเอียดด้านในจอข้างขวาของตัวเครื่องเป็นการบอกสถานะการทำงาน, ความถี่ของซอฟท์แวร์ที่นำมาใช้และสถานะอินพุทดิจิตอลจากภายนอก ส่วนด้านซ้ายเป็นสถานะเวลาและระดับเกนขยาย แสดงไว้ด้วยตัวเลขสีส้มอำพัน ส่วนกึ่งกลางของจอเป็นสัญลักษณ์ยี่ห้อ Accuphase สีเขียวมรกต สามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อเครื่องเปิดใช้งาน ถ้าเครื่องปิดอยู่จะมองเห็นเพียงลายน้ำในหน้าจอเท่านั้น เมื่อมองไปที่ด้านขวาของแผงหน้าปัด ตำแหน่งนี้ติดตั้งปุ่มเปิด-ปิดเครื่องสีทองแบบป๊อบอัพมีกลไกแบบสปริงในตัวปุ่ม พร้อมสกรีนชื่อปุ่มไว้ชัดเจน ด้านใต้ปุ่มนี้สกรีนประเภทของแผ่นใช้งานไว้ด้วยเช่นกัน
ส่วนด้านล่างของจอแสดงผลปุ่มด้านขวาสำหรับเลือกอินพุทดิจิตอล ปุ่มด้านซ้ายของถาดรับแผ่นเป็นปุ่มสำหรับกดนำถาดรองรับแผ่นเข้าและออก การทำงานช่วงเวลาที่เลื่อนแผ่นเข้าและออกนี้เป็นจุดเด่นมากที่สุดกับเครื่องเล่นซีดีที่มีจำหน่ายในโลกนี้ ด้วยการทำงานที่ราบเรียบมากไร้อาการสะดุดและกระตุกใดๆ ขนาดลองนำระดับน้ำแบบตลับวางด้านบนของเครื่องแล้วสั่งให้ถาดรองรับแผ่นเลื่อนเข้าออก ระดับน้ำด้านบนเครื่องนี้ไม่มีการกระเพื่อมใดๆ เลยเมื่อมองด้วยตาเปล่า เป็นสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับเครื่องเล่นซีดีของ Accuphase รุ่นต่อรุ่น
แผงหน้าปัดด้านซ้ายของเครื่องวางปุ่มสั่งงานไว้ทั้งหมดห้าปุ่มมีจำนวนปุ่มเท่ากับรุ่น DP-510 แตกต่างกันตรงรูปทรงปุ่ม ปุ่มของ DP-410 สี่ปุ่มแรกออกแบบเป็นปุ่มกดทรงกระดุมเล็ก ส่วนปุ่มกดเล่นเป็นทรงกระดุมเช่นกันแต่มีขนาดใหญ่กว่า มีรายละเอียดของปุ่ม โดยเริ่มจากปุ่มเล่น, ปุ่มหยุดชั่วขณะ, ปุ่มเลือกแทร็คถอยหลัง, ปุ่มเลือกแทร็คถัดไป, ปุ่มหยุดเล่น (Play, Pause, Back, Next, Stop) ทุกปุ่มทำงานด้วยความรวดเร็วกระชับ มีตัวอักษรสีดำสกรีนไว้ครบถ้วน ที่พิเศษจาก DP-510 คือ ด้านบนปุ่มสั่งเล่นและหยุดชั่วขณะจะฝังไฟแสดงสถานะสีแดงไว้ชัดเจน เมื่อใช้งานฟังก์ชั่นนั้นๆ จะสว่างขึ้นมา ส่วนด้านใต้ปุ่มนี้ในตำแหน่งเว้าเข้าของแผงหน้าปัดสกรีนตัวอักษร MDS Compact disc player DP-410 บ่งบอกรุ่นไว้ชัดเจน
สำหรับด้านบนของตัวเครื่องเป็นแผ่นโลหะชุบสีในสไตล์สีด้าน ยึดไว้ด้วยสกรูท้ายเครื่อง ตัวแผ่นด้านบนเครื่องนี้วางไว้บนขอบด้านข้างของตัวถังเครื่องอีกที ส่วนด้านข้างของเครื่องทำจากอะลูมิเนียมมีความหนา นำมาขึ้นรูปให้มีทรวดทรงโค้งด้านบนและด้านล่างพร้อมทั้งเซาะเป็นร่องเพื่อรองรับแผงครอบเครื่องด้านบน แผงด้านข้างทั้งสองข้างนี้ชุบสีน้ำตาลเข้มเงาแวววาวโทนเดียวกับแผงเครื่องด้านบน ขอบด้านล่างของแผงข้างทั้งสองข้างเซาะร่องลึกไว้ด้านละห้าร่อง เป็นงานสร้างที่แข็งแรงและสวยงามมาก หากมองเพียงงานด้านวิศวกรรม นับว่าตัวเครื่องมาตรฐานสากลในรูปแบบงานเชิงพาณิชย์ได้อย่างงดงาม
ด้านใต้ของเครื่องติดตั้งขารองรับเครื่องมาทั้งหมดสี่ขา และมีวัสดุประเภทผ้าสักหลาดแปะไว้ด้านล่างสุดของขารองรับเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนระหว่างชั้นวางกับตัวเครื่อง บริเวณแผงด้านล่างชิ้นนี้ปั๊มนูนลึกลงตั้งแต่กึ่งกลางเครื่องไปจรดขอบแผงด้านหน้าเครื่อง แผงเครื่องด้านล่างชิ้นนี้เป็นโลหะชุบสีดำเช่นกัน แผงด้านหลังของเครื่องมีรายละเอียดการวางตำแหน่งเชื่อมต่อไว้ครบครัน ซึ่งทุกอย่างของรุ่น DP-510 มี รุ่น DP-410 มีครบทุกอย่างแต่มีการเพิ่มเติมด้านอินพุทดิจิตอลและย้ายตำแหน่งติดตั้งขั้วอะนาลอกบ้างเล็กน้อย เริ่มจากอินพุทดิจิตอลวางไว้ด้านซ้ายของเครื่องทั้งหมดหนึ่งชุดเรียงตามแนวนอน เพิ่มอินพุทดิจิตอลแบบ USB Type B เป็นอินพุทแรก ถัดมาจึงเป็นอินพุท Coaxial, Optical ตามลำดับ จากนั้นตำแหน่งเดียวกันสัญญาณขาออกดิจิตอลแบบ Optical และ Coaxial ตามลำดับ วางตามแนวระนาบเหมือนกัน ทำให้ตัวเครื่อสามารถทำงานเป็นเครื่องทรานสปอร์ตและดีทูเอได้อย่างอิสระ
สำหรับช่อง USB 2.0 Type-B Hi-Speed 480 Mbps มีความสามารถรับสัญญาณดิจิตอลขาเข้าได้ตั้งแต่ 32 kHz/16 bit จนถึงระดับ 192 kHz/24 bit Coaxial Input มีความสามารถรับสัญญาณดิจิตอลขาเข้าได้ตั้งแต่ 32 kHz/16 bit จนถึงระดับ 192 kHz/24 bit ส่วนช่องอินพุทดิจิตอลแบบ Optical มีความสามารถรับสัญญาณดิจิตอลขาเข้าได้ตั้งแต่ 32 kHz/16 bit จนถึงระดับ 96 kHz/24 bit ทำให้เครื่องเล่นซีดีเครื่องนี้ใช้งานในอนาคตร่วมกับฟอร์แมทช์ไฟล์เพลงจากมิวสิคเซอฟเวอร์และใช้งานร่วมกับทิศทางการเล่นแบบ Hi-Res ได้อีกด้วย นับว่า Accuphase เติมอ็อฟชั่นมาให้เป็นมาตรฐานการใช้งานได้ครอบคลุมจากรุ่น DP-510 ด้วยช่องอินพุทแบบ USB DP-410 จึงตอบสนองการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
ด้านขวาของหลังเครื่องเริ่มจากด้านล่างเป็น IEC แบบสามขาตัวนำติดตั้งไว้ ด้านบนของ IEC นี้สกรีนสัญลักษณ์ไฟฟ้า AC ไว้ ด้านบนของขั้ว IEC นี้ วางแผงขั้วอะนาลอกเป็นชุดไว้ตามแนวนอนทั้งแผง ซึ่งรายละเอียดในขั้วอะนาลอกเอาท์นี้มีครบถ้วนเช่นเดียวกับรุ่น DP-510 แตกต่างตรง DP-410 นี้ขยับแผงขั้วชุดนี้มาชิดขอบด้านขวาของตัวเครื่องแล้วเว้นช่องกลางเครื่องเป็นตำแหน่งสกรีนรุ่นเครื่องพร้อมประเทศผู้ผลิตไว้ตำแหน่งกลางเครื่องเครื่องนี้ ขั้วสัญญาณอะนาลอกเอาท์พุทวางรายละเอียดจากขั้วอันบาลานซ์ชุบทองหนึ่งคู่ ถัดมาเป็นขั้วอะนาลอกเอาท์พุทแบบบาลานซ์หนึ่งคู่ ใกล้ๆ กับขั้วบาลานซ์วางปุ่มแบบเดียวกันกับ DP-510 โดยใส่สวิทช์สำหรับปรับเฟสให้ตรงกับเครื่องที่จะใช้งานร่วม โดยปกติสวิทช์นี้ตั้งค่าแบบ Europe Type มาให้จากผู้ผลิต หากใช้งานร่วมกับเครื่องทางฝั่งอเมริกาต้องปรับสวิทช์นี้ไปตำแหน่ง 2 +(HOT) เพื่อให้เฟสสัญญาณตรงกัน ทำให้ไม่ยุ่งยากในการสลับขั้วบวกและขั้วลบที่สายลำโพงอีกต่อไป สำหรับเพลทเบอร์ของเครื่อง ตัวเพลทตอกตัวอักษรและตัวเลขเอาไว้ พร้อมยึดไว้ด้วยหมุดย้ำบริเวณด้านล่างของกึ่งกลางเครื่อง
จุดเด่นนอกเหนือจากภาคกลไกขับหมุนอ่านแผ่นข้อมูลแล้ว ภาคถอดรหัสข้อมูลดิจิตอลไปเป็นอะนาลอกใช้หลักการอันเลื่องชื่อ MDS++ (Multiple Delta Sigma) และเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Accuphase โดย DP-410 ใช้ DAC Chip คัดพิเศษเบอร์ PCM 1796 ผลิตโดย Texas Instruments จำนวนแชนแนลละ 4 ตัว ทำงานแบบ Delta Sigma ในลักษณะคู่ขนานทำให้สัญญาณรบกวนและความเพี้ยนถูกหักล้างไป เป็นผลให้ค่าสัญญาณต่อเสียงรบกวนมีค่าสูงขึ้น พร้อมทั้งออกแบบวงจรกรองสัญญาณอะนาลอกแยกการจ่ายสัญญาณขาออกของเอาท์พุททั้งอันบาลานซ์และบาลานซ์ออกจากกันเป็นอิสระ นอกจากนี้ตัวเครื่องสามารถควบคุมระดับความแรงสัญญาณขาออกของขั้นตอนดิจิตอลได้ถึง 60 ระดับโดยไม่มีผลข้างเคียงต่อเสียงแม้แต่น้อย
DP-410 มาพร้อมกับรีโมทรุ่น RC-110 ควบคุมการทำงานได้แม่นยำทุกฟังก์ชั่น มาพร้อมกับสายนำสัญญาณอะนาลอกแบบอันบาลานซ์ของ Accuphase หนึ่งคู่ สายไฟเอซีเข้าเครื่องมาพร้อมกันหนึ่งเล้น การบรรจุตัวเครื่องใส่มาในกล่องแน่นหนาสกรีนตัวอักษรระบุไว้ที่กล่องด้านนอกชัดเจน ส่วนด้านในกล่องมีกล่องใส่สายเชื่อมต่อและรีโมทรองรับกับโฟมออกแบบไว้อย่างดี ตัวเครื่องมีโฟมแบบนิ่มยืดหยุ่นตัวได้ล้อมรัดไว้อีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีคู่มือการใช้งานพิมพ์สี่สีและวงจรอยู่ในคู่มือชัดเจนมาก เป็นมาตรฐานเครื่องไฮเอนด์ชั้นดีจากญี่ปุ่น
Accuphase DP-410 มีขนาดและสัดส่วน กว้าง 465 สูง 151 ลึก 393 มิลลิเมตร น้ำหนัก 14 กิโลกรัม รวมแพ็คเกจ 20 กิโลกรัม นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไฮเอนด์ออดิโอ จำกัด โทร 0-2611-4809

 

ข้อมูลจำเพาะเครื่องเล่นซีดี Accuphase DP-410

สัญญาณขาออก Analog output (RCA) 1 ชุด (XLR) 1 ชุด
ตอบสนองความถี่ Frequency response 0.7 Hz-50 kHz +0, -3 dB
ไดนามิกเร้นจ์ Dynamic range 110 dB or better (24-bit input)
อัตราเสียงต่อสัญญาณรบกวน S/N 114 dB or better
ความเพี้ยนโดยรวม THD 0.001% (24 bit input)
ดิจิตอลอินพุท Optical, Coaxial, USB 2.0 Type B Hi-Speed
D/A Converter 24 bit, 4 MDS++ type
การแบ่งแยกแชนแนล Channel separation 110 dB or better
สัญญาณและความต้านทานขาออก Unbalance RCA, Balance XLR 2.5 โวลต์, 50 โอห์ม
โวลลุ่มดิจิตอล 0 – 60 เดลซิเบล 1 dB / Step Digital
กำลังไฟฟ้า Power Consumption AC 220 V @ 50/60Hz 10 W

ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง

Accuphase DP-410 มาในสภาพเครื่องใหม่เอี่ยม หากใช้งานคงใช้งานมาเล็กน้อยเท่านั้น เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างยังไม่มีร่องรอยใดๆ ด้วยเครื่องรุ่นนี้เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดและสนนราคาจำหน่ายอยู่ในพิกัดเอื้อมถึงได้โดยง่าย ทำให้เครื่องเล่นซีดีรุ่นนี้น่าจะจำหน่ายได้รวดเร็ว ชุดเครื่องเสียงที่ร่วมใช้งานในครั้งนี้มีอยู่สองชุดหลักๆ ดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดีเป้าหมาย Accuphase : DP-410, อินทีเกรทแอมป์ Krell : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง XAV : Pratiott prototype(Tweeter TDL) จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว, สลับกับขาตั้ง Partington Super Dreadnought สูง 24 นิ้ว สีแกรไฟต์ ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีไปปรีแอมป์ Cardas Golden Reference (XLR) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร, สายลำโพง Cardas Cross Bi-wire สีเขียวท่อหดเทายาว 2 เมตร ต่อด้วยขั้วบานาน่า Monster X-Terminator, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS INWALL Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่ายาว 2.1 เมตร, สายไฟเอซี Cardas Audio : Clear Beyond Power Cord ยาว 2 เมตร เสียบเข้าที่เพาเวอร์แอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate 381 ช่องไม่มีดาว อีกช่องมีดาวเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3
ชุดที่สองประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดีเป้าหมาย Accuphase : DP-410, อินทีเกรทแอมป์ Vitus Audio : RI-100, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : The One Limited Edition, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott prototype(Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Golden Reference ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร (XLR), สายลำโพง Cardas Golden Reference ท่อหดเทารุ่นท๊อปในอดีตไบ-ไวร์ยาว 2.4 เมตร ต่อด้วยขั้วบานาน่า Monster X-Terminator, สายไฟเอซีที่เครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord เข้าขั้ว Wattgate ทองรุ่นเก่าทั้งด้านขั้วตัวผู้และขั้วตัวเมียยาว 2.1 เมตร, สายไฟเอซี Cardas Audio : Clear Beyond Power Cord ยาว 2 เมตร เสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate 381 ช่องไม่มีดาว อีกช่องมีดาวเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทีเกรทแอมป์
เครื่องเล่นซีดีจัดวางบนชั้นวางของ Target Audio : B1, อินทีเกรทแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of silence regular 1 + แผ่นไม้ Solid Tech แท้, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานสฟอร์เมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้หนึ่งก้อน และบริเวณโวลลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้หนึ่งก้อน พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณด้วยก้อนอิทธิเจ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com) สายลำโพงรองไว้ด้วยตัวรองสาย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละสองตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วยบล็อคไม้ Cardas ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรทแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR8 ทั้งหมดแปดจุดแปดตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมดสี่แผงและปรับแต่งอะคูสติคเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมดสี่คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพงสองคู่ ด้านข้างลำโพงสองคู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ HIFI Club หนึ่งคู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีกหนึ่งคู่วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ. จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้งสามตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย, ขวา และกึ่งกลางอย่างละหนึ่งตัวเอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนซ์วางไว้กึ่งกลางแผงหลังอีกที ส่วนแผงด้านข้างทั้งสองแผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง HIFI HOUSE) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-777 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้
ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 เมตร ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 เมตร โทอินลำโพงไม่เกิน 20 องศา โดยประมาณ (เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน

ผลการลองฟัง

Accuphase DP-410 เครื่องนี้ ดูจากสภาพภายนอกแล้วตัวเครื่องใหม่เอี่ยม อาจไม่ผ่านการใช้งานมาเท่าใดนัก ผมคาดการณ์ว่าเครื่องเล่นซีดีรุ่น DP-410 คงเป็นการถ่ายทอดแบบมาจากรุ่นใหญ่อย่าง DP-510 การคาดการณ์นี้อาจผิดแปลกจากจริงหรือไม่ก็ตรงตามที่คาดไว้ แต่โดยปกติของเครื่องเสียงไฮเอนด์ มักจะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากรุ่นสูงกว่าลงสู่รุ่นเล็กกว่า ผลที่ได้ไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป เพราะหลายยี่ห้อไม่ใช่ว่าเครื่องเล่นจะประสบผลสำเร็จทุกรุ่น รุ่นเล็กอาจโดดเด่นกว่ารุ่นใหญ่หรือรุ่นใหญ่อาจโดดเด่นกว่ารุ่นเล็กก็เป็นไปได้
เมื่อเครื่องเล่นซีดี DP-410 เข้ามาถึงห้องฟัง จึงเริ่มดำเนินการตั้งเครื่องพร้อมใช้งานในทันที แต่ก่อนที่จะเริ่มใช้งานในครั้งนี้ อินทีเกรทแอมป์ร่วมใช้งานมีทั้งสองเฟสสัญญาณบาลานซ์ด้วยกัน หากใช้งานร่วมกับอินทีเกรทแอมป์ VITUS Audio RI 100 ได้ปรับเฟสสัญญาณแบบ Euro Type คือตั้งค่าให้ขั้วหมายเลขสองเป็นลบ ส่วนการใช้งานกับอินทีเกรทแอมป์ Krell KAV 400 xi Signature Spacial limited edition ต้องเลื่อนขั้วหมายเลขสองของบาลานซ์เอาท์ไว้ในตำแหน่งบวกแบบ American Type ให้สอดคล้องกับอินทีเกรทแอมป์ร่วมใช้งานว่าเป็นแบบอเมริกันหรือแบบยุโรป เสร็จสรรพจึงดำเนินการใช้งานอย่างต่อเนื่องและดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ทั้งการใช้งานด้วยการฟังเพลงปกติ และเบิร์นอินด้วยแผ่นเบิร์นอินของ PURIST AUDIO Design REV-B จวบจนสองร้อยชั่วโมงเศษ ตำแหน่งโวลลุ่มของซีดีปรับเกนขยายไว้สูงสุดตลอดการใช้งาน ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานครั้งแรกมีความแตกต่างกันกับชั่วโมงที่สองร้อยเศษมีความแตกต่างเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างลงตัวถึงที่สุดแล้ว ไม่มีการปรับเปลี่ยนอีกต่อไป รูปวงนำเสนอออกมาให้สัดส่วนความสูงต่ำในรูปวงตามสเกลลำดับของการยืนตามตำแหน่ง พร้อมตรึงตำแหน่งชิ้นดนตรีทั้งหมดไว้แนบแน่นและกำหนดความสูงของเครื่องเป่าแซกโซโฟนม้วนเสียงลงด้วยความต่อเนื่องอวบอวลตามท่วงทำนองจนเกือบจรดพื้นแล้วล่องลอยไปจางหายจรดเพดานด้านบนของห้องฟัง ให้เสียงกระจ่างละเอียดใสบนความสุภาพของเกรนเสียงและไม่ทิ้งจังหวะรุกเร้าเมื่อกระแทกลมหายใจเป่าเข้าไป บรรยากาศรอบตัวเสียงอบอวลเคล้าคลออยู่เสมอ [Arne Domnerus : Antiphone Blues / proprius PRCD 7744] ระดับความสูงต่ำของการบันทึกในโบสถ์ที่สวีเดนจำลองสัดส่วนสเกลออกมาสมดุลกัน
รูปวงทางด้านกว้าง ขยายตัวออกไปจนชิดผนังทั้งสองข้างให้สัดส่วนสมดุลกับด้านลึก โดยด้านลึกกำหนดแถวแรกถอยหลังจากหน้าลำโพงลงไปเล็กน้อย จึงลำดับแถวสองและสามและแถวต่อๆ ไปให้สมดุล รูปวงด้านกว้างและด้านลึกเสมอสมานสมดุลกลมกลืนกัน ช่องไฟในแต่ละแถวแต่ละชั้นดนตรีแยกแยะจำแนกออกมาอย่างอิสระ เป็นการแยกแยะชิ้นดนตรีโดยรักษาสเกลของชิ้นดนตรีให้มีขนาดสมดุลกับรูปวงทั้งสองด้าน อัลบั้ม [POSTCARDS : The Turtle Creek Chorale / RR-61CD] ชี้ชัดประเด็นเหล่านี้ ฉายความสวยงามของรูปวงทรงครึ่งวงกลม เมื่อนำทั้งสามด้านเข้ามารวมกัน นำเสนอภาพสามมิติของเสียงได้โดดเด่นชัดเจนในตำแหน่งของจุดนั่งฟัง เป็นการนำเสนอเกินความคาดหมายไปมาก เสมือนไม่ใช่เครื่องเล่นซีดีรุ่นเริ่มต้อนไฮเอนด์ เพราะประเด็นเหล่านี้อยู่ในระดับเครื่องเล่นซีดีไฮเอนด์รุ่นใหญ่อย่างนั้นเชียว
แนวทางการขับร้องประสานเสียงของอัลบั้ม [Now the Green Blade Riseth / proprius PRCD 9093] ให้สมดุลเสียงโดดเด่นมาก ตัวเสียงมีความกระจ่างและสุภาพผสมกับบรรยากาศห้อมล้อม ฟังได้เพลิดเพลินต่อเนื่อง เติมบรรยากาศเข้าร่วมทุกช่วงในการนำเสนอพร้อมน้ำหนักเสียงและมวลเสียงพอดิบพอดี จำแนกแยกแยะรายละเอียดทั้งหมดออกจากกันเด่นชัดต้องเรียนย้ำว่า ให้ไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่นไปจรดแถวหลังของวง เสียงขับร้องของนักร้องชายนักร้องหญิงและเด็กแยกออกจากกันอิสระ มีความสดใสอยู่ในตัวเสียง เกรนเสียงละเอียดบนพื้นเสียงสุภาพ ถ่ายทอดอคูสติคแนวทางอะนาลอกด้วยความเด่นชัด
พิจารณามิติและตำแหน่งของเหล่าบรรดาเครื่องเคาะโลหะจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมของอัลบั้ม [DAFOS / REFERENCE RECORDINGS RR-12CD USA] ในแทร็คเจ็ดตรึงตำแหน่ง มิติเครื่องเคาะทั้งหมดไว้แนบแน่นและแม่นยำ จำแนกแต่ละชิ้นดนตรีออกมาด้วยน้ำหนักจะโคน ย้ำเน้นหัวโน้ตให้ฉับไวเด่นชัดขึ้นจากเดิม แสดงผลทั้งมิติ ตำแหน่ง ช่องไฟ ความสงัด รวมไปถึงความสะอาดของพื้นเสียงได้ครบทุกประเด็น ถ่ายทอดออกมาเทียบเคียงกับรุ่นใหญ่กว่า ด้วยความชัดเจนที่สัมผัสได้โดดเด่นมากขึ้น ยังคงไว้ซึ่งจุดเด่นเรื่องความสงัดและความสะอาดของพื้นเสียงอย่างยอดเยี่ยม เป็นเครื่องเล่นซีดีรุ่นเล็กเวอร์ชั่นใหม่ที่คุณภาพไม่เล็กตามรุ่น ซึ่งในบางครั้งยังคิดว่าเครื่องเล่นรุ่นนี้เป็นเครื่องเล่นซีดีรุ่นที่พัฒนาจาก DP-510 ก้าวไปอีกหนึ่งขั้น โดยแท้ที่จริงแล้ว มันคือรุ่น DP-410 นั่นเอง
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะโลหะต่างๆ รวมไปถึงเปียโน ให้ความกังวานพร้อมรายละเอียดในตัวเสียงตั้งแต่การเริ่มออกเสียง ตัวเสียงและหางเสียงโดดเด่นมาก ให้บรรยากาศรายรอบตัวเสียงสอดคล้องกับท่วงทำนอง นำเสนอออกมาให้ฟังได้เพลิดเพลินจำลองเสียงการเคาะเปียโนจริงๆ ตัวเสียงเกลี้ยงเกลา [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] กับจังหวะแรกของเครื่องดนตรี ให้แรงปะทะของเสียงชัดเจนมีน้ำหนักเสียงและหางเสียงไม่ห้วนสั้น ย้ำเน้นจังหวะแรกกระทบได้เด็ดขาดหมาะสม หลังจากจังหวะแรกกระทบแล้ว มวลเสียงทั้งหมดกลมกลึงให้ต่อเนื่องกลมกลืนและทอดหางเสียงจนสุดปลายเสียงด้วยความแผ่วเบา จึงค่อยๆจางหายไปด้วยความราบรื่น
เหล่าบรรดาเครื่องสีและเครื่องสายในวงออร์เคสตร้า ย้ำเน้นน้ำหนักในการบดขยี้ตามจังหวะรุกเร้า ช่วงทำนองผ่อนปรนก็บรรจงสีด้วยความราบรื่น ตัวเสียงมีลีลาและความสุภาพอยู่ตลอดเวลา หางเสียงทอดตัวได้ไกลและทิ้งระยะไว้ตามจังหวะเวลาของแนวเพลงจึงค่อยๆ จางหายไปตามธรรมชาติ ไม่มีอาการขึ้นขอบคมแข็งของปลายเสียงเลย ให้ความกังวานบนพื้นฐานความชัดเจนของทุกอักขระ [THE SYMPHONIC SOUND STAGE D/CD3502] รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงเด่นชัด เสียงกีตาร์ในจังหวะตวัดนิ้วลงไปสะท้อนกลับมารวดเร็ว ย้ำเน้นให้รุนแรงตามการเล่นดนตรี ช่วงจังหวะช้าและเร็วสามารถแบ่งแยกออกจากกันด้วยลีลาเหนือชั้น นำเสนอไดนามิกคอนทราสต์ได้ดีเยี่ยม [Livinton Tyler : ink / Chesky Record JD162] เสียงแผ่วเบาค่อยๆ ไล่น้ำหนักเสียงต่อเนื่องขึ้นไป กับมวลเสียงมีขนาดเหมาะสมพร้อมกับความชัดเจนของตัวเสียงโดยไม่มีอาการขึ้นขอบและไต่เพดานเสียงไล่เรียงระดับขึ้นไปจนสุดปลายเสียอย่างต่อเนื่อง
แนวทางดนตรีอีกหนึ่งอัลบั้มของ [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] ถ่ายทอดออกมาด้วยความเด่นชัดกังวาน หางเสียงทอดตัวไปไกลและยาวนานตามจังหวะเวลาพร้อมเติมน้ำหนักเสียงเล็กน้อยเสมือนมีฐานเสียงเพิ่มขึ้นให้ฉ่ำเล็กน้อย ในความกังวานกำหนดและควบคุมลีลาตามท่วงทำนองด้วยความต่อเนื่อง เสียงการบดขยี้ไวโอลินละเอียดพลิ้วไหว หางเสียงแยกแยะอิสระต่อกันและมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆถ่ายทอดสอดแทรกออกมาเสมอ รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงเด่นชัดมากจำแนกออกมาได้ดี มีจังหวะจะโคน เครื่องดนตรีประเภทไวโอลิน วิโอล่า และเครื่องสายอื่นๆ ถ่ายทอดออกมาด้วยความชัดเจนหลุดลอยออกมาจากฉากหลังพร้อมความละเอียดและให้ความเป็นดนตรีมากเช่นกัน
แนวทางการขับร้องของนักร้องหญิงอัลบั้ม [FAMOUS BLUE RAINCOAT / JENNIFER WARNES Private Music] เสียงขับร้องละเอียด ให้บรรยากาศรอบเสียงขับร้องได้ดีเยี่ยม แยกระหว่างจุดเริ่มของเสียง ตัวเสียง หางเสียง ต่อเนื่องอย่างมีลีลา รายละเอียดของชิ้นดนตรีเคล้าคลอกับเสียงขับร้องสอดคล้องกัน เสียงขับร้องแยกออกจากกันได้ดีและถ่ายทอดไดนามิกคอนทรานส์ถึงขนาดดีเยี่ยม ผ่อนหนักผ่อนเบาของเสียงขับร้องรวมไปถึงเสียงลมหายใจไล่ลำดับเสียงด้วยความต่อเนื่อง อีกหนึ่งอัลบั้มขับร้องของ [AMANDA McBROOM : DREMING/Gecko Record] ให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงได้เคล้าคลออยู่สม่ำเสมอพร้อมปล่อยให้หางเสียงจางหายไปด้วยความราบรื่นเป็นธรรมชาติ มวลเสียงสมดุล จังหวะแรกของเครื่องดนตรีเปล่งเสียงออกมา ส่งถ่ายแรงปะทะแรกย้ำเน้นน้ำหนักเสียง จากนั้นจึงส่งถ่ายมวลเสียงและปลดปล่อยหางเสียงให้หลุดลอยไปอย่างอิสระตามจังหวะและท่วงทำนอง
เสียงขับร้องในแนวคมชัดสดใสของอัลบั้ม [SNOW ROSE Ax-SN04.01] น้ำเสียงสดใส ชัดเจน นำเสนอลีลาในการขับร้องเสมือนมีชีวิตจิตใจในการขับร้องเข้าไปด้วย ให้ความต่อเนื่องของเสียงขับร้อง หางเสียงจากการบันทึกมีเสียงซิบๆเล็กน้อย ฟังได้เพลิดเพลินตามแนวความไพเราะของดนตรี ปลายเสียงที่เคยมีอาการซิบๆ ปลดปล่อยออกมาให้ฟังได้เพลิดเพลินและไม่เสียดแทงหู ตัวเสียงสะอาดเกลี้ยงเกลาอมหวานประปรายสอดคล้องกับเกรนเสียงที่ส่งถ่ายความละเอียดออกมาเสมอ ให้ความไพเราะและความเป็นดนตรี บนพื้นฐานความสุภาพ ความสงัด จึงฟังได้ยาวนานและมีจังหวะจะโคนอยู่สม่ำเสมอ
เสียงขับร้องจาก [CLAIR MARLO : LET IT GO Sheffield Lab CD29] สะอาดสดใส บรรยากาศรอบตัวเสียงขับร้องสัมผัสได้ดี ตอบสนองจังหวะดนตรีด้วยลีลาและเน้นความชัดใสแบบธรรมชาติของเสียงขับร้อง ควบคุมน้ำหนักเสียงในแต่ละย่านราบรื่นต่อเนื่อง ตอบสนองสัญญาณฉับพลันด้วยความรวดเร็ว พร้อมไล่เรียงลำดับเสียงตั้งแต่หัวเสียงตัวเสียงและหางเสียงให้มีความต่อเนื่องตามขนาดเสมอสมานกัน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่ละแถวเด่นชัดจำแนกแยกแยะออกมาได้ดี เสียงขับร้องและบรรยากาศรอบตัวเสียงขับร้องสมดุลกลมกลืนกัน และยังส่งถ่ายเรื่องไดนามิกคอนทราสต์ออกมาทุกช่วงของการนำเสนอ
ข้ามมากับเสียงขับร้องเน้นพละกำลังและความอิ่มใหญ่ของอัลบั้ม [Livinton Tyler : ink / Chesky Record JD162] จังหวะกระแทกเสียงขับร้องลงไปเด็ดขาดเข้มข้น น้ำเสียงขับร้องชัดเจนกระจ่างใส สเกลเสียงเครื่องดนตรีสมดุลกลมกลืนกันกับเสียงขับร้อง ตัวเสียงเด่นชัดและทอดหางเสียงไปอย่างอิสระจึงค่อยๆเก็บตัวไว้ตามจังหวะเวลา ตัวเสียงขับร้องให้บรรยากาศห้อมล้อมเป็นจุดเด่นทีเดียว การกำหนดลมหายใจเข้าออกชัดเจนพร้อมรายละเอียดปลีกย่อยนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง เสียงแผ่วเบาและเสียงสวิงดังขึ้นให้เร้นจ์ความกว้างสวิงได้กว้างขวางและรวดเร็ว ในหลายแทร็คของอัลบั้มนี้บ่งบอกประเด็นด้านคอนทราสต์ได้เด่นชัดและโดดเด่นไม่น้อยหน้าเครื่องเล่นรุ่นใหญ่กว่าแน่นอน
ต่อเนื่องกับเสียงขับร้องของนักร้องชายในแทร็คที่หกอัลบั้ม [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] เสียงขับร้องออกมามีมวลพอดิบพอดี ย้ำเน้นน้ำหนักเสียงให้หนักแน่น การร้องประสานเสียงแยกแยะกันอิสระและไม่ล้ำหน้าเกินเสียงหลัก ระดับเสียงของนักร้องทั้งหมดตรึงไว้แน่นสนิท ปลายเสียงนักร้องจางหายไปด้วยความราบรื่น การสไลด์สายกีตาร์และการรูดสายกีตาร์นำเสนอให้มีลีลาโดยย้ำเน้นความหนักเบา ความอ่อนแก่ของการเล่นกีตาร์ให้สัมผัสได้ง่าย ให้ความเพลิดเพลินและไม่มีอาการเร่งสปีดใดๆ รายละเอียดของแต่ละเสียงในแถวถัดไปคงไว้กับการไล่ลำดับและความชัดใสให้สัมผัสได้ดี ส่วนที่ลึกเข้าไปจนสุดโถงพร้อมจำแนกรายละเอียดออกมาโดดเด่นถึงขนาดชำแหละกันเลยเชียว
พิจารณาจังหวะแรกกระทบจากอัลบั้ม [Rain Forest Dream / SAYDISC CD-SDL384] เสียงแรกกระทบทุกครั้งของการหวดไม้กลองลงไปกระชับกลมกลึง ตัวเสียงเกลี้ยงเกลา เสียงกลองมีขนาดสมดุลไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป การหวดไม้กลองในจังหวะแรกเฉียบขาดรุนแรงให้แรงปะทะแรกได้ดี เสมือนเสียงไม้กระทบกับหนังกลองหวดกันสดๆ และจางหายไปโดยไม่ทิ้งหางเสียงให้ยืดยาวออกไป ย้ำเน้นหัวโน้ตได้เด็ดขาด เมื่อสิ้นสุดการหวดไม้กลองลงไปตัวเสียงควบแน่นกลมกลึงเป็นลูกเป็นตัวด้วยความเด่นชัดมาก พร้อมรักษาทรวดทรงเสียงที่กลมกลึงนี้ส่งถ่ายตามจังหวะตามท่วงทำนอง ให้น้ำหนักและขนาดไปต่อเนื่องจนสุดหางเสียง เป็นเรื่องที่ Accuphase เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมในแนวทางโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
กับเสียงกลองใบใหญ่จาก [Ultimate Reference CD/WILSON AUDIO WA8008] จังหวะแรกกระทบ เสียงหนังกลองตึงและกลมกลึงมาก มีเสียงสะท้อนเสียงแรกกระทบออกมาเด่นชัด เสียงทุ้มกลมกลืนกับย่านเสียงกลางและเสียงแหลม ยังคงให้ความสมดุลของย่านเสียงทุ้มนี้เหมาะสม เน้นหัวโน้ตให้ฉับไวเหมาะสม ให้ความเป็นดนตรีสูงและฟังได้สนุกสนานเพลิดเพลินสอดคล้องกับจังหวะจะโคน การถ่ายทอดเสียงทุ้มจากเหล่าเครื่องดนตรีไม้ให้หัวเสียงเด่นชัด กระชับ ฉับไว ทั้งเสียงแรกกระทบและเสียงสะท้อน ทั้งหัวโน้ต ตำแหน่ง น้ำหนัก อัลบั้ม [TakeDake With Neptune : ASIAN ROOTS/Denon LC8723] เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มชี้วัดประเด็นเหล่านี้ได้ดี ถือว่าเป็นเครื่องเล่นระดับไฮเอนด์ได้อย่างสง่าผ่าเผย
อีกแนวเพลงของทุ้ม จากเสียงดับเบิ้ลเบสอัลบั้ม [THE RAVEN / Rebecca Pidgeon Chesky Records JD115] ให้มวลเสียงสมดุลกับย่านเสียงอื่น การเล่นดับเบิ้ลเบสสอดคล้องกับเสียงขับร้องกลมกลืนกันไร้รอยต่อย่านความถี่เสียงต่างๆ ขนาดทรวดทรงพอเหมาะ เสียงเดินเบสในแต่ละเส้นให้น้ำหนักและจังหวะสอดคล้องกับเปียโนและเสียงเครื่องเคาะทั้งหลาย หางเสียงแต่ละตัวแยกแยะเป็นอิสระต่อกัน ช่องว่างช่องไฟเด่นชัดไม่มีการซ้อนทับบดบังกัน จังหวะที่ตัวโน้ตเงียบก็เงียบสนิท พื้นเสียงทั้งหมดสงัด สุภาพและสะอาดมาก
กับจังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้อัลบั้มเดิม [Take’Dake’ with Neptune / AISIAN ROOTS DENON USA] นำเสนอออกมาได้ดีเป็นคำรบสอง การเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้จังหวะรวดเร็วตอบสนองตามท่วงทำนองได้ราบรื่นและจำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาให้สัมผัสอิมเมจเป็นตัวตน ให้เสียงสะท้อนกลับจากการเคาะ การเป่า ยิ่งเป็นเสียงหนังกลองสะท้อนกลับมามีความชัดเจนสัมผัสได้ดี สปีดพอดิบพอดีในช่วงที่ฟังเพลงขับร้องก็ตอบสนองได้เอื้อนเอ่ยตามลีลาของการขับร้อง เมื่อลองใช้งานกับแนวเพลงคลาสสิคโหมโรงทั้งหลาย ก็ตอบสนองได้รวดเร็วอย่างกับว่าใช้เครื่องเล่นคนละตัวกันเชียว
หากกล่าวถึงจังหวะเวลาในแนวทางดนตรีมากชิ้น แทร็คที่ 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik wie von einem anderen Stern/MANGER] ตอบสนองความรวดเร็วตัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงได้ดีเช่นกัน พร้อมจำแนกแยกแยะให้ไม่ปะปนกัน แสดงมิติตำแหน่งของแต่ละเสียงให้เด่นชัดออกมาเป็นอิสระต่อกันและจางหายไปด้วยความราบรื่นไม่มีอาการสะดุดของเสียงในแต่ละระดับความดัง ฟังได้ยาวนานด้วยความคึกคักและมีจังหวะจะโคนด้วยความต่อเนื่อง ยิ่งฟังนานๆ ยิ่งเกิดความคึกคักและสดใส ไม่มีบุคลิกในแนวทางร้อยเนื้อหนึ่งทำนองออกมาให้สัมผัส เป็นเครื่องเล่นซีดีน้องเล็กไฮเอนด์ที่สามารถทำงานเป็นโปรเซสเซอร์ระดับอ้างอิงที่ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกันกับระบบเสียงดั้งเดิมไปจวบจนแนวการใช้งานยุคใหม่ประเภทคอมพิวเตอร์ออดิโอไฟล์ทั้งหลายให้ส่งถ่ายความเป็นอะนาลอกดั้งเดิมใกล้เคียงต้นฉบับไว้ให้มากที่สุด
ผ่านการใช้งานมากจนเกือบถึงช่วงสุดท้ายของแนวเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง ในแทร็คที่เจ็ดอัลบั้ม [ART FOR THE / EAR Burmester CD III] สามารถขับขานออกมาได้ทั้งจังหวะรวดเร็ว ตำแหน่งชัดเจน ขนาดของเสียงแต่ละตำแหน่งให้ความสมดุลเสมอสมานกัน ช่วงโหมโรงขึ้นไปตอบสนองด้วยความต่อเนื่องราบรื่นพร้อมควบคุมตำแหน่งให้แน่นสนิทไม่แกว่งไกว ทุกช่วงในการกำหนดลมหายใจนำเสนอออกมาให้ได้ยินด้วยความชัดเจนและสุภาพ แนวเพลงดนตรีมากชิ้นสลับซับซ้อนตอบสนองได้เด่นชัดดังจับวาง เกรนเสียงที่ละเอียดของย่านเสียงแหลมทั้งหมดทำให้ฟังได้ยาวนานและสร้างความเป็นดนตรีได้ดี จำแนกแยกแยะแต่ละแถวได้เด็ดขาด วางชิ้นดนตรีนับร้อยให้มีตำแหน่งและตรึงไว้แนบสนิทมาก
ลองใช้งานกับแผ่นเพลงไทยหลายอัลบั้ม รวมไปถึงแผ่นเพลง [เมื่อดอกซากุระบาน / สุภัทรา อินทรภักดี สองสมิต] เสียงขับร้องมีความชัดเจนและสุภาพในทุกอักขระ รายละเอียดแผ่วเบาจากเสียงริมฝีปากหลุดลอยออกมาจากปากเป็นรูปธรรมมาก ให้บรรยากาศรายล้อมอยู่ต่อเนื่อง มวลเสียงขับร้องต่อเนื่องพร้อมจำแนกรายละเอียดปลีกย่อยและปลดปล่อยออกมาด้วยความสะอาด เกรนเสียงนำเสนอออกมาละเอียดละเมียดละมัยมาก เพลิดเพลินกับดนตรีในแนวทางผ่อนคลายไปในทุกลีลาของการนำเสนอ แม้จะเป็นแผ่นเพลงไทยก็ตาม การรับฟังผ่านเครื่องเล่นซีดี DP-410 ยังสามารถฟังความเป็นดนตรีได้ดีไม่น้อยเช่นกัน

บทสรุป

Accuphase DP-410 เป็นเครื่องเล่นซีดีไฮเอนด์ในยุคนี้และสามารถยืนใช้งานในอนาคตได้อีกยาวนานแน่นอน ยังคงมีจุดยืนด้วยการรังสรรค์ความเป็นดนตรีและความละเอียดของเส้นสายลายเสียง ตั้งแต่เริ่มรับฟังในช่วงใช้งานแรก สร้างความประทับใจอย่างง่ายดาย รายละเอียดและลีลาของเสียงขับร้องปล่อยออกมาสอดคล้องกับทุกท่วงทำนองได้สมดุลมาก ยังเพิ่มจุดเด่นเรื่องไดนามิกคอนทราสต์ได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นจังหวะเริ่มออกเสียง ตัวเสียง ปลายเสียงและหางเสียง สัมผัสได้ง่ายดายและชัดเจนมาก พื้นเสียงทั้งหมดสะอาด เกรนเสียงละเอียดละเมียดละมัย หางเสียงไร้ซึ่งความเป็นดิจิตอลอย่างเครื่องเล่นซีดียุคใหม่นิยมให้เป็น อีกทั้งถ่ายทอดออกมาตามสปีดของแต่ละบทเพลงโดยไม่มีอาการหน่วงหรือช้าใดๆ
ทั้งประเภทเครื่องดนตรีโลหะหรือเครื่องดนตรีประเภทไม้ รวมถึงเครื่องดนตรีแบบเคาะหรือเครื่องสายแบบสี นำเสนอออกมาให้ความเป็นดนตรีมากจนน่าทึ่ง หัวโน้ตในการเคาะชัดคมเฉกเช่นน้ำหนักเสียงเริ่มแรกของการสีเครื่องสายหลากหลายประเภท ในตัวเสียงเดียวกันนี้สามารถกำหนดน้ำหนักให้เข้มข้นและเบาบางได้ตามโน้ตตามทำนองของเพลง เป็นการตอกย้ำเรื่องไดนามิกคอนทราสต์ในด้านดีเยี่ยมของ DP-410 อีกรอบ เสียงทั้งหมดในการถ่ายทอดออกมาเสมือนเป็นเสียงเครื่องดนตรีจริงที่เล่นออกมาหน้าจุดนั่งฟัง
ในบางช่วงได้นำเอาไฟล์เพลงดิจิตอลเข้ามาร่วมใช้งาน รูปแบบนามสกุลไฟล์ wma เพื่อลองใช้งานกับช่องไฮสปีดของ USB น้ำเสียงจากการถอดรหัสดิจิตอลผ่าน DP-410 ไม่แหบแห้งและขาดมวลเนื้อเสียงแต่อย่างใด ยังคงส่งถ่ายความฉ่ำหวานและหมู่มวลเสียงออกมาให้ฟังได้ดี หากมีไฟล์เพลงประเภทสัญญาณรบกวนต่ำและความละเอียดสูง DP-410 คงถ่ายทอดให้สอดคล้องเช่นเดียวกันนี้ ประเด็นนี้เองที่ทำให้รุ่น DP-410 มีทางเลือกเล่นได้มากกว่ารุ่นใหญ่กว่าอย่าง DP-510
ในด้านดนตรีมากชิ้น DP-410 เทียบชั้นกับเครื่องฝรั่งได้อย่างสบาย ด้วยแนวเพลงดนตรีคลาสสิกมากชิ้น ถูกกำหนดขอบเขตปริมณฑลของเสียงไว้แม่นยำ วางตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงไว้แน่นสนิททั้งยังจำแนกช่องว่างช่องไฟให้เป็นอิสระเด็ดขาดออกจากกัน ขอบเขตปริมณฑลของเสียงขยายด้านข้างไปจรดกำแพงทั้งสองฝั่ง ส่วนด้านลึกชิดเข้าแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง ให้ความกว้าง ความสูงและความลึกได้สมดุลกันทุกด้าน ไม่ว่าจะนำเสนอแนวเพลงสเกลขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม ความสมดุลของวงนี้ยังคงไว้เสมอ ให้ไดนามิกเร้นจ์กว้างขวาง ทั้งการสวิงเสียงเบาสุดไปยังดังสุด ชิ้นดนตรีในวงไม่มีการซ้อนทับปะปนกัน
ส่วนการออกแบบเฟสสัญญาณต่างๆ นั้น DP-410 ทำออกมาเหมือนกับเครื่องรุ่น DP-510 การใช้งานช่องเอาท์พุทแบบอะนาลอกเลือกใช้งานแบบบาลานซ์ XLR เป็นหลักใหญ่และปรับสวิทช์ให้ตรงเฟสของ อเมริกัน Type หรือ ยุโรป Type จะได้บุคลิกดังที่กล่าวไว้ หากท่านนิยมชมชอบการฟังเพลงเพื่อให้ได้ความเป็นดนตรีอย่างแท้จริงทั้งเสียงของเปียโนเป็นโน เสียงเชลโล่เป็นเชลโล่ เสียงขับร้องหวานใสออดอ้อน ฯลฯ อีกทั้งต้องการเพลิดเพลินในการรับฟังและเล่นได้ทุกแนว เครื่องเล่นซีดี Accuphase DP-410 รุ่นนี้ ครบเครื่องแน่นอนและยากที่จะหาเครื่องเล่นซีดีในบุคลิกลักษณะนี้ได้ยากยิ่ง
หลังจากผ่านวาระครบรอบสี่ทศวรรษของ Accuphase มาไม่นาน เครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ได้ถูกผ่าตัดปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งรักษาจุดเด่นของเครื่องดั้งเดิมไว้ นอกจากเครื่องเล่นซีดี / DAC รุ่น DP-510 ที่วางตลาดและโด่งดังมาก่อนหน้านี้แล้ว Accuphase DP-410 เสมือนเป็นฝาแฝดติดเทคโนโลยีออกมาร่วมทีมเสริมทัพความแข็งแกร่ง DP-410 นี้แหละ เป็นเครื่องเล่นซีดี/ DAC Input ในระดับราคาเริ่มต้นไฮเอนด์แต่ได้คุณภาพเทียบเคียงซูเปอร์ไฮเอนด์กันเลยทีเดียวเชียว ลองสัมผัสให้จงได้ !!!
———————————————————————————————–
หมายเหตุ : ขอขอบคุณ บริษัท ไฮเอนด์ออดิโอ จำกัด โทร 0-2611-4809 ที่เอื้อเฟื้อเครื่องเล่นซีดี Accuphase DP-410 สำหรับการลองใช้งานในครั้งนี้ครับ

Exit mobile version