อุปกรณ์เครื่องเคียงสำหรับรองชั้นวางเครื่องเสียงชั้นดีจากหลายผู้ผลิตทั่วโลกมีให้เลือกซื้อหามากมาย ตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยบาทไปจรดระดับหลายหมื่นบาท
Solid Tech ผู้ผลิตชั้นวางเครื่องเสียงและอุปกรณ์รองเครื่อง รองสาย เพื่อหวังผลในเรื่องคุณภาพเสียงที่มาพร้อมกับความสวยงาม ออกแบบและสร้างผลงานมาในตลาดเครื่องเสียงไฮเอนด์มายาวนานแบรนด์หนึ่ง ทุกรุ่นทุกประเภทของการใช้งาน Solid Tech ไม่เคยทำให้ผิดหวังแม้แต่รายการเดียว เรียกว่าทุกชิ้นที่ได้ส่งขายสู่ตลาดโลกนั้น สร้างคุณค่าในตัวของสินค้าเอง ทั้งในแง่ศาสตร์และศิลป์ของการออกแบบ
Solid Tech ผู้ผลิตจากประเทศสวีเดน นับว่ามีความเชี่ยวชาญด้านศาสตร์ของวัสดุจำพวกอะลูมิเนียมและสปริงอันโดดเด่น ยิ่งเป็นเรื่องชั้นวางเครื่องเสียง รุ่นต่อรุ่น คุณภาพคับแก้ว ในบางรุ่นผมยังต้องนำเข้ามาร่วมชุดอ้างอิง อุปกรณ์บางประเภทที่คุณภาพสูง แต่ด้วยการออกแบบที่มีวัสดุจำพวกยางลักษณะตัวโอหรือโอริง หากใช้งานในเมืองร้อนและใช้มาหลายปี อาจเกิดความเสื่อมตัวของยางโอริงดังกล่าวได้ แต่มิต้องกังวล ด้วยบริษัทฯ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศเป็นบริษัทฯ ดั้งเดิมเก่าแก่ อีกทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ถือครอง Solid Tech ไว้แต่เพียงผู้เดียว จึงยังมีอะไหล่รองรับได้ยาวนานไม่น้อย
ความเก่งกาจของ Solid Tech นอกเหนือจากอะลูมิเนียมด้วยแล้ว สปริงขดที่ออกแบบร่วมกับอุปกรณ์หลายประเภทก็เป็นอีกแนวทางการพัฒนาการใช้โลหะจำพวกสปริงขดมาทดแทนยางโอริงในรุ่นใหม่ การเล่นกับสปริงไม่ใช่เรื่องง่าย นับว่า Solid Tech ใส่ความพิถีพิถันในการเลือกใช้สปริงมาออกแบบและทดสอบจนเป็นผลสำเร็จในการผลิตมาแบบเชิงพานิชย์ ด้วยสปริงขดนั้น มีความยากทั้งเรื่องค่า K ของสปริง และอัตราการยืดของสปริงแต่ละตัว ในเชิงวิศวกรรมทั้งเรื่องแรงดึงและระยะความยาวที่เพิ่มขึ้นมีความเปลี่ยนแปลงไปตลอด ดังนั้นสปริงทุกตัวต้องผลิตออกมาในค่าที่เท่ากันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ครั้งนี้ Solid Tech อุปกรณ์รองเครื่องประเภทรับน้ำหนักด้วยสปริง เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายประเภท และปรับได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเครื่องที่จะนำตัวรองนี้ไปใช้ด้วย อุปกรณ์รองเครื่องส่วนใหญ่มักจะเป็นการวางรองอยู่กับลักษณะคล้ายขารองรับเครื่องและก็มีบางยี่ห้อเช่นกัน ที่ใช้ระบบสปริงหรือยางรองรับเครื่อง หากพูดถึงการใช้สปริงรองรับ Solid Tech Disc Of Silence เป็นอุปกรณ์รุ่นหนึ่งที่ทำงานโดยใช้สปริงรองรับเครื่อง ซึ่ง Solid Tech เองได้ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ออกมาให้นักเล่นฯ ได้ใช้งานมายาวนาน ล่าสุดอุปกรณ์รองเครื่อง Solid Tech Disc Of Silence รุ่น Light ได้วางจำหน่ายในประเทศและผมขอยืมมาร่วมใช้งาน 1 ชุด ซึ่งมีรายละเอียดของการใช้งานได้หลากหลายและต้องทำความเข้าใจในการปรับตั้ง
รูปลักษณ์และการใช้งาน
Solid Tech Disc Of Silence ออกแบบด้วยวัสดุสามประเภทหลักๆ และใช้กระบวนการกรรมวิธีการผลิตที่ดูเหมือนไม่ซับซ้อน แต่ถ้าพินิจเข้าไปอย่างละเอียด จะพบว่าการออกแบบแต่ละส่วนนั้น มีความละเอียดอ่อนอยู่มาก ไม่ใช่ว่าหยิบจับมาใส่แล้วจะให้ผลดีเลิศอย่างที่อยากให้เป็น ขั้นตอนการผลิตต่างๆ กว่าจะมาเป็นอุปกรณ์รองเครื่องที่ให้คุณภาพเชิงบวกมากกว่าคุณภาพเชิงลบนั้น เรียนตามตรงว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ได้อย่างเสียอย่าง จึงเป็นการยากไม่น้อยที่จะออกแบบและผลิตอุปกรณ์ประเภทนี้ให้สมบูรณ์ลงตัวได้ทุกๆ ประเด็นที่ต้องการ แต่มิใช่ว่าทำไม่ได้ ทำได้ครับ แต่อาจต้องลองแล้วลองอีก จนกว่าจะได้สิ่งที่ผู้ผลิตมั่นใจว่าดีที่สุด
ว่าด้วยอุปกรณ์ประเภทนี้ นักเล่นฯ บางท่านไม่ได้ให้ความสำคัญ คิดว่าเป็นการรองรับเครื่องไม่ให้สั่นเท่านั้น หรือไม่ก็วางลงบนพื้นของชั้นวางโดยตรงเลยดีกว่า จริงครับ ที่ผ่านนั้นผมลองเทียบอุปกรณ์เหล่านี้หลากหลายมาก เทียบกับชั้นวางคุณภาพสูงที่นำเครื่องวางโดยตรงลงไปที่ชั้นวาง ผลที่ได้ดีกว่าการใช้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ชัดเจน แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีอุปกรณ์แบบนี้หลายยี่ห้อ ที่ผลิตออกมาแล้วถือว่าเข้าขั้น ดีขึ้น ดีกว่า ฯลฯ ถึงแม้บททดสอบจะให้ผลในเชิงดีหรือเด่นอย่างไร การจูนใช้งานนั้น ส่งผลโดยตรงกับการเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ มากไปก็ใช่ว่าดี ไม่มีเลยก็ได้ มีแล้วโดยรวมพอใจในหลายประเด็นก็แล้วแต่การเลือกหามาใช้งาน
Solid Tech Disc Of Silence มีขนาดตัวทรงกลมเท่ากับเสาของชั้นวาง Solid Tech รุ่น Hybridge สามารถวางครอบทับที่ด้านสุดของเสาชั้นวางได้ เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกประมาณ 80 ซม. ซึ่งด้านล่างของตัวรอง มีการกลึงบ่าให้รองรับกับเสาชั้นวางเพื่อเพิ่มความมั่นคง ตัวเสื้อทำจากอะลูมิเนียมชุบสีผิวภายนอกสีดำ แปะโลโก้สีเงินตัวอักษรสีดำไว้ ด้านบนเจาะรูที่เสื้ออะลูมิเนียมหลักไว้ทั้งหมด 12 รู สำหรับรองรับการเกี่ยวสปริง พร้อมทั้งออกแบบโลหะรูปทรงจานบินที่กึ่งกลางของวัสดุทำเกลียวใน รองรับเกลียวตัวผู้ของขารองรับเครื่องอีกชั้นหนึ่ง ตัววัสดุชั้นกลางนี้ นอกจากมีรูเกลียวในแล้ว ที่ปีกของวัสดุทรงจานบิน เจาะรูไว้ทั้ง 12 รูเช่นกัน เพื่อรองรับการเกี่ยวสปริงจากเสื้ออะลูมิเนียมตัวใหญ่กับวัสดุกึ่งกลางนี้ เมื่อพิจารณาแล้ว แสดงว่าสามารถใช้สปริงได้ถึง 12 ตัว แต่เมื่อดูในคู่มือแนะนำการใช้งาน ใช้งานเพียงสปริง 6 ตัว ก็สามารถรองรับน้ำหนักเครื่องได้เพียงพอแล้ว การเจาะรูจึงเป็นการเผื่อมุมและรองรับการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
วัสดุชิ้นต่อมา เป็นโลหะทำเกลียวตัวผู้ตลอดทั้งตัวและมีนอตล็อกตัวเมียในแกนกลางหนึ่งตัว เพื่อล็อกแกนเข้ากับวัสดุชิ้นกลางที่สปริงเกี่ยวโยงไว้ ด้านบนของวัสดุชิ้นนี้ออกแบบวัสดุประเภท PE สีดำไว้หนึ่งชิ้น ติดกับแกนโลหะเกลียวและมีวัสดุจำพวก EVA เอทีลีนไวนิลโฟมสีดำทรงกลมแปะรอง PE อีกที วัสดุชิ้นนี้จะสัมผัสรองรับกับขารองรับเครื่องหรือตัวถังเครื่องโดยตรง มีกายภาพที่หยุ่นตัวไม่แข็งกระด้าง จากนั้นวัสดุตัวชี้ชัดการรับน้ำหนักคือสปริงขดที่ออกแบบมาใช้เกี่ยวระหว่างรูเสื้ออะลูมิเนียมสีดำกับเสื้อแกนกลางที่มี 12 รูเท่ากัน การใส่สปริงแต่ละตัวจะเป็นการรองรับน้ำหนักของตัวเครื่อง และเมื่อเพิ่มสปริงเข้าไป จะรองรับน้ำหนักเพิ่มมากยิ่งขึ้น (ตามตารางที่แนบมา) เพื่อให้เหมาะสมกับน้ำหนักของเครื่องที่นำมาใช้ และผู้ผลิตแนะนำให้ใช้รองได้ตั้งแต่ 3 หรือ 4 ตัว ใต้เครื่อง
เมื่อดูรายละเอียดการออกแบบและการผลิตแล้ว เป็นงานออกแบบที่ต้องใช้ความสมดุลเข้ามาเกี่ยวข้อง และต้องจูนแต่ละระดับน้ำหนัก ซึ่งผลออกมาในเรื่องการสลายแรงสั่นสะเทือน เพื่อให้เสียงที่ได้ตามการจูนของผู้ผลิตนั้นยากทีเดียว แต่ในระยะยาวเรื่องความคงทน อุปกรณ์ชิ้นนี้คงทนยาวนาน มีเพียงสปริงเท่านั้นที่ควรตรวจสอบการล้าตัว หากผู้ใช้งานพอมีความเข้าใจในเรื่องวัสดุจำพวกสปริงก็สามารถเล่นได้จูนได้สนุก การออกแบบที่ใช้วัสดุอุปกรณ์หลายชนิดในการผลิตออกมา แตกต่างจากการออกแบบด้วยวัสดุประเภทเดียว ถ้าผลลัพธ์ออกมาดี ก็ยากที่จะเลียนแบบให้เหมือน
Solid Tech Disc Of Silence หวังผลในเรื่องการซับแรงสั่นสะเทือนและสลายแรงกระทบจากการทำงานของเครื่อง และคลื่นพลังงานที่มากระทบที่ตัวเครื่อง ทำให้เกิดความนิ่งที่สุดของตัวเครื่อง ข้อแนะนำการใช้งาน อย่างที่เรียนให้ทราบว่า Solid Tech Feet Disc Of Silence ต้องจูนให้สอดคล้องกับน้ำหนักเครื่องที่นำมาใช้ จึงเหมาะกับการใช้กับเครื่องเล่นซีดี, ทรานสปอร์ต, DAC, Music Player, ปรีแอมป์, เพาเวอร์แอมป์ ฯลฯ ด้วยการออกแบบที่มีสปริงเข้าร่วมใช้งาน การใช้งานรองเครื่องเพียง 3 ตัว ต้องกระจายน้ำหนักให้เครื่องอยู่ในแนวระนาบที่สุด แต่หากใช้งานรองขารองรับ 4 ตัว จะสะดวกและใช้งานได้ง่ายกว่า
Solid Tech Disc Of Silence บรรจุมาในบรรจุภัณฑ์ทรงกระบอกสีดำ ระบุรายละเอียดมาครบถ้วน ใส่มาครบทั้ง 4 ตัว รวมถึงอุปกรณ์ใช้งานร่วม มีสปริง, เสื้ออะลูมิเนียมชุบสีดำ, ชุดโลหะแกนกลาง, แกนกลางเกลียวตัวผู้พร้อมแป้นรองรับ คู่มือในการจูนน้ำหนัก บรรจุมาในกล่องกระดาษอาบน้ำยาสีดำตัวอักษรยี่ห้อสีขาวล้อมรอบไว้ พร้อมฝาปิดพลาสติกสีดำทั้งด้านบนและด้านล่าง นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด โทร.062-551-2410, 0-2-102-1168
ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง
Solid Tech Disc Of Silence เป็นอุปกรณ์ใหม่ขอยืมผู้จำหน่ายมาลองใช้งาน ซึ่งได้ทดลองใช้งานมายาวนาน ลองใช้งานรองรับเครื่องที่น้ำหนักแตกต่างกัน ปรับจูนสปริงใช้กับหลายเครื่องหลายประเภท อีกทั้งผู้จำหน่ายอนุเคราะห์ให้ลองฟังได้ยาวนานมาก จึงชี้ชัดประเด็นได้ครบทุกระบวนการทีเดียว ชุดเครื่องเสียงที่ร่วมใช้งานมีทั้งหมด 2 ชุด หลักๆ ดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี Arcam : FMJ CD23 dCS Ring DAC Plus HDCD รองใต้เครื่องด้วยเป้าหมาย Solid Tech Disc Of Silence, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, อินทิเกรตแอมป์ Krell Audio : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc Respond : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL), จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน
สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Golden Reference (RCA) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 ม., สายลำโพง Cardas Cross รุ่นเก่าสีเขียว Bi-wire ขั้วต่อจากโรงงาน ยาว 3 ม., สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug)
ชุดที่ 2 ประกอบด้วย MacBook Pro/Auralic : Aeries Mini, MacBook Pro เล่นด้วยโปรแกรม Amarra Symphony+ไฟล์เพลงทั้ง DSF, DSD และ อื่นๆ, DAC Chip ESS Sabre ES9038Q2M DSD 512 ปรับฟิลเตอร์ระดับ 2, เครื่องเล่นแผ่นเสียง Roksan : Radius 5 พร้อมหัวเข็มและอาร์มของ Roksan NIMA, โฟโน Project : The Phono Box, เครื่องเล่นซีดี Ayre Acoustic : CX-7 Evolution รองใต้เครื่องด้วยเป้าหมาย Solid Tech Disc Of Silence, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, ปรีแอมป์ Audio Research : LS 3B, เพาเวอร์แอมป์ Classe Audio : CA 201, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก ตอกโลโก้โลหะทองเหลือง, ลำโพง PSB : Synchrony One B, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวาง Dyna Foot ทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น
สายสัญญาณดิจิทัล USB Cardas Audio Clear Hi-Speed Topline 1 เมตร, สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Clear (XLR) ยาว 1.5 ม., สายลำโพง Cardas Clear Beyond Single-Wire ขั้วต่อก้ามปูใหญ่จากโรงงาน ยาว 2 ม. พร้อมจั๊มเพอร์ Cardas Clear, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord เข้าขั้ว Wattgate ทองรุ่นเก่าทั้งด้านขั้วตัวผู้และขั้วตัวเมียยาว 2.1 ม., สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Shunyata Research Anaconda Helix Alpha VX 15 Amp รุ่นท็อปในอดีตท่อหดสีแดงยาว 2 ม. เข้าปลั๊กผนัง Wattgate Audio : 381 Classic รุ่นเก่า อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวนด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทิเกรตแอมป์
เครื่องเล่นแผ่นเสียงจัดวางบนชั้นวาง Target Audio B1+แผ่นไม้แท้ รองใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยไดนาฟุตสามลูก โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น, MacBook Pro วางบนก้อนอิฐ อิทธิเจ 4 ก้อน, เครื่องเล่นซีดี จัดวางบนชั้นวาง Target Audio : B1+แผ่นไม้แท้ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 4 ตัว รองรับสไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, อินทิเกรตแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of Silence Regular 1+แผ่นไม้ Solid Tech แท้รุ่นมีระดับน้ำ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 5 ตัว รองรับสไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานส์ฟอร์มเมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้ 1 ก้อน และบริเวณโวลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้ 1 ก้อน
พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณและสายลำโพงด้วย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละ 2 ตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วย Solid Tech Bridge of Silence ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรตแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR-8 ทั้งหมด 8 จุด 8 ตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมด 4 แผง และปรับแต่งอะคูสติกเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมด 4 คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพง 2 คู่ ด้านข้างลำโพง 2 คู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ Hifi Club 1 คู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีก 1 คู่ วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ.จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้ง 3 ตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย, ขวาและกึ่งกลางอย่างละ 1 ตัว เอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนท์วางไว้กึ่งกลางแผงหลัง
แผงด้านข้างทั้งสองแผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (Byเดอะหั่ง แห่ง Hifi House) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-888 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้ และติดตั้ง ASC PCAD Panel ประกบไว้ข้างแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพงข้างซ้ายและข้างขวา โดยวางกับพื้นและยกลอยให้ความสูงด้านบนสูงจากพื้น 120 ซม. ASC Matrix Panel วางหลังเก้าอี้จุดนั่งฟังทั้ง 2 แผ่น ลองสลับด้านบนและด้านล่างเน้นตำแหน่งที่ฟังได้ดีที่สุด ASC BastoniPanel วางไว้ผนังห้องด้านซ้ายและด้านขวา ผนังละ 2 แผ่น โดยมีแผ่นสีเทาวางอยู่บนชั้นวาง Target Audio B2 ไว้ข้างละ 1 แผ่น ส่วนแผ่นสีน้ำตาลครีมวางไว้ที่พื้นผนังข้างละ 1 แผ่น เช่นกัน
ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 ม. ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 ม. โทอินลำโพงไม่เกิน 20◦ โดยประมาณ(เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน สลับกับไดน่าฟุตช่วงลองใช้งาน
ผลการลองใช้งาน
Solid Tech Disc Of Silence เป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ออกแบบและสร้างออกมาด้วยการทดสอบและทดลองมามากทีเดียว มีการใช้วัสดุหลายชนิดมาประกอบร่างเข้าด้วยกัน ผมเชื่อว่าระหว่างทางของการวิจัยและทดลองนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้คงทำทิ้งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าจะได้ตามความต้องการและนำมาขายสู่ตลาดโลก เป็นอุปกรณ์อีกหนึ่งชิ้นที่มีอายุยืนยาวแน่นอน เพราะดูจากองค์ประกอบร่วม มีเพียงตัวสปริงเท่านั้นที่อาจมีการล้าได้เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน แต่มิใช่ปัญหาใหญ่ เพราะสปริงมาตรฐานมีจำหน่ายและมีให้เปลี่ยน ซึ่งวิธีการเปลี่ยนก็ง่ายดายทีเดียว นอกเหนือจากนั้นวัสดุอื่นเสื่อมสลายได้ยากมาก
การนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จำหน่ายครั้งละ 1 ชุด มีทั้งหมด 1 อัน เพื่อใช้รองรับเครื่องเป็นหลัก ครั้งนี้ผมได้ใช้ Solid Tech Disc Of Silence หรือจะเรียกว่าตัวรองเครื่องก็แล้วแต่นักเล่นฯ แต่ละคณะแต่ละกลุ่มจะนิยมนิยามตามความเข้าใจกันคงไม่ผิดนัก อย่างที่เรียนให้ทราบไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ตัวรองเครื่องนี้ ช่วยรองรับตัวเครื่องไม่ให้ขารองเครื่องสัมผัสกับชั้นวางโดยตรง และสลายแรงสั่นสะเทือนที่อาจมากับตัวเครื่องและแรงกระทำภายนอกต่างๆ ต้องการให้เครื่องนิ่งที่สุด ต้องขอบคุณผู้จำหน่าย Solid Tech Disc Of Silence ที่อนุเคราะห์ให้ยืมอุปกรณ์ชุดนี้ในระยะเวลาที่ยาวนาน จนพบว่า เมื่อใส่ไปแล้ว เอาออกไม่ได้เชียว
การใช้งานจริงมีการลองสลับสับเปลี่ยนหลากหลายรูปแบบ ข้อดีของการใช้งานอย่างยาวนานของอุปกรณ์หรือเครื่องเสียงตัวใดตัวหนึ่งนั้น จะทำให้บ่งบอกบุคลิกของอุปกรณ์นั้นๆ ได้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ การฟังแบบชั่วข้ามคืนหรือสองสามสัปดาห์ เป็นการฟังเบื้องต้นที่สัมผัสได้ในเรื่องน้ำเสียงและความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น อุปกรณ์และเครื่องเสียงบางตัว ต้องใช้เวลาพอควรในการแสดงตัวตนอันแท้จริงออกมา เพราะส่วนใหญ่มักจะมี 2 ด้านเสมอ ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี
การใช้งานหลากหลายเครื่องเล่นผ่านไปมากทีเดียว สุดท้ายนำมาใช้งานแบบยาวๆ หลายเดือนและใส่เข้า ถอดออก อยู่หลายครั้ง จนถึงสูตรสำเร็จในชุดอ้างอิงประจำ โดยนำตัวรองเครื่องนี้ รองรับเครื่องเล่นซีดี Arcam : FMJ CD23 เป็นตัวหลักแนะนำให้จูนด้วยการยกตัวเครื่อง ให้ขารองรับเครื่องทิ้งแรงกดโดยตรงลงที่แป้นตัวรองรับ ไม่ให้เยื้องศูนย์กลาง จะทำให้สปริงทั้ง 3 ตัวรองรับแรงดึงเท่ากัน รายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ หากใช้งานจริง ขอให้พิถีพิถัน ตั้งใจจูนอย่างละเอียด ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันแน่นอน
ช่วงนาทีแรกของการใช้งาน สัมผัสความเปลี่ยนแปลงได้ทันที ชุดเครื่องเสียงชุดเดิมที่ใช้งานอยู่ทุกวันมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมในทางที่ดีขึ้น ในอดีตอุปกรณ์รองเครื่องส่วนใหญ่จะใช้วัสดุประเภทเดียวมาออกแบบ จึงคาดเดาน้ำเสียงได้อย่างง่ายดาย สำหรับ Solid Tech Disc Of Silence ชุดนี้ ยากจะคาดเดาแน่นอน ต้องฟังเองเล่นเองถึงจะถึงบางอ้อ เสียงแผ่วเบาและน้ำหนักเสียงดียิ่งขึ้นผิดหูผิดตา พื้นเสียงสงัดมาก สะอาด เร่งระดับความดังจากแผ่นเดิมขึ้นได้อีกพอควรโดยยังให้ความสงัดและเด่นชัดด้วยความสะอาดของพื้นเสียงที่ไม่ต้องเพ่งพินิจใดๆ อันที่จริง ถ้าคาดเดาว่า การใช้สปริงในการผลิต น่าจะให้ความกระด้างของเสียง ต้องบอกว่าคิดผิดถนัดครับ กลับกันคือช่องว่างช่องไฟเด่นชัดมากขึ้นและไม่ลดทอนรายละเอียดต่างๆ ที่เคยมี น้ำหนักเสียงเด่นชัด เสียงทุ้มสะอาดกลมกลึงไม่ไปรบกวนเสียงย่านอื่น ตามมาด้วยคอนทราสต์ที่ดีเยี่ยม
การใช้งานจึงดำเนินต่อเนื่องไป แม้ในทางทฤษฎีต่างๆ ของการเบิร์นอินอาจไม่เกี่ยวข้องเท่าใดนักกับ Solid Tech Disc Of Silence แต่หากเป็นนักเล่นฯ นักฟังฯ ที่คุ้นเคยกัน มักจะพูดกันแบบสนุกๆ ว่า อุปกรณ์มันยังต้องเบิร์นให้นิ่งสักระยะ สำหรับผมแล้ว ผมเห็นด้วยในเรื่องทิ้งตัวสักระยะ เพราะทั้งสปริง, แป้นรองรับต่างๆ ต้องรอให้ยืดและยุบตัวเข้าที่ทั้งหมด นั่นถึงจะเริ่มมาชี้ประเด็นในแง่ของซีเรียสออดิโอ
เริ่มจากรูปวงของชุดเครื่องเสียงที่สมดุลเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ย้ำให้เห็นเด่นชัดขึ้น มีขอบแยกแยะอิสระ ตัวเสียงและรูปวงย้ำเน้นความเป็นสามมิติในแต่ละชิ้นดนตรีได้ดี ในแต่ละแทร็กของ [Now The Green Blade Riseth/Proprius PRCD 9093] ให้รายละเอียดปลีกย่อยจากการบันทึกเด่นชัดดีเยี่ยมแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทั้งๆ ที่ใช้ทุกอย่างเหมือนดิม เช่นเดียวกับเสียงของแซกโซโฟนสะอาดเกลี้ยงเกลาแยกแยะระหว่างบรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงได้เด่นชัดมากขึ้น หางเสียงทอดตัวไปได้ไกลบนพื้นเสียงสะอาด อัลบั้ม [Antiphone Blues/Arne Domneus Proprius PRCD 7744] ย้ำประเด็นนี้ได้สอดคล้องกับอัลบั้มแรกจากค่ายเดียวกัน ยิ่งเป็นเสียงลมแผดเสียงออกมาชัดเจนรุกเร้าลากเสียงด้วยความต่อเนื่อง พร้อมหางเสียงค่อยๆ จางหายไปอย่างแผ่วเบาดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้นจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
มิติตำแหน่งชิ้นดนตรีของวงกำหนดไว้เด็ดขาดแม่นยำชัดเจน แต่ละแถวแต่ละชิ้นดนตรีกำหนดให้เว้นระยะห่างเด่นชัดดีขึ้นสัมผัสได้ง่ายมาก ทีเด็ดคือบรรยากาศไม่ซ้อนทับหรือเบียดกัน ให้ความสงัดเพิ่มเติมจากเดิม ช่องว่างช่องไฟโดดเด่นเป็นสิ่งเดียวของจุดเริ่มต้นใช้งาน ให้ตัวเสียงเกลี้ยงเกลาที่มาพร้อมกับความชัดใสในแต่ละชั้นดนตรี กำหนดระยะห่างระหว่างแถวโดยมีช่องมีแนวแยกแยะอิสระ ชิ้นดนตรีทั้งหมดสะอาด ย้ำเน้นน้ำหนักเสียงได้โดดเด่นบนพื้นฐานความสะอาด อัลบั้ม [Postcards : The Turtle Creek Chorale/RR-61CD] บ่งบอกแนวทางเรื่องการจัดระเบียบระหว่างแถวที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
การจำแนกแยกแยะแต่ละสรรพเสียงของอัลบั้มเดิม [Now The Green Blade Riseth/Proprius PRCD 9093] จำแนกแยกแยะเสียงขับร้องได้ชัดเจนกระจ่างใสไม่มีม่านหมอกใดๆ จับต้องได้ทุกท่วงทำนอง เสียงขับร้องสัมผัสการออกอักขระได้ดีกว่าเดิมมาก ตั้งแต่การเริ่มออกเสียง ตัวเสียงและหางเสียง ทั้งเสียงของนักร้องชาย นักร้องหญิงและเสียงของเด็ก เสียงขับร้องนอกจากชัดขึ้นแล้วยังแสดงลีลาการขับร้องพร้อมคอนทราสต์ของเสียงดีขึ้นมาก แยกแยะช่องว่างช่องไฟของเสียงดนตรีให้อิสระหลุดลอยออกจากกัน ไม่มีการซ้อนทับกัน เมื่อเทียบกับที่ไม่ใช้ตัวรองเครื่องนี้ ยังมีความคลุมเครือในเรื่องการบดบังกันบ้าง
เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ถ่ายทอดออกมาด้วยความสะอาดเกลี้ยงเกลา ให้ความกังวานควบคู่กันไป โดดเด่นในย่านเสียงกลางและแหลมทั้งหมดสะอาดนวลเนียน จำแนกแยกแยะคอนทราสต์ได้ดีเยี่ยม หางเสียงทอดตัวไปไกลและจางหายไปอย่างราบรื่น อัลบั้ม [Livinton Tyler : Ink/Chesky Record JD162] ให้รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงชัดใส เกรนเสียงละเอียด ความแผ่วเบาในแต่ละช่วงทำนองเด่นชัด การตวัดนิ้วลงไปของจังหวะกีตาร์สะท้อนกลับมาโดยหางเสียงในแต่ละจังหวะแยกออกจากกันไม่ซ้อนทับกัน ถ่ายทอดเสียงระดับเบาๆ ให้สัมผัสได้ดีเยี่ยม ไล่เพดานเสียงขึ้นไปจนสุดหางเสียงได้ราบรื่นต่อเนื่อง [The Fi/Analogue Production Sampler] ทำให้ชุดฟังเพลงน่าฟังขึ้นไปอีก นับว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มากับราคาที่ต้องลงทุน
เสียงเปียโนและเครื่องเคาะโลหะกังวานเด่นชัด เกรนเสียงละเอียดละออมากยิ่งขึ้น ย้ำเน้นหนักเบาอ่อนแก่ยอดเยี่ยม นำเสนอออกมาด้วยความชัดใสเกลี้ยงเกลาและสุภาพ ให้เนื้อเสียงที่สมดุลเช่นเดิม ตัวเสียงหลุดลอยออกมาจากฉากหลังได้โดดเด่น อาการขึ้นขอบคมแข็งลดหายแทบจะไม่ได้ยิน ให้ความสะอาดนวลเนียลมาก เสียงแผ่วเบาในแถวหลังลอยโดดเด่นออกมา แบล๊คกราวด์ด้านหลังสงัด ส่งถ่ายความกังวานได้โดดเด่น [Test CD5/Opus 3 CD20000] บรรยากาศรอบตัวเสียงเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นและกลมกลืนในทุกระดับความดัง แรงปะทะยังโดดเด่นสัมผัสได้ดีควบคู่กันไป
เสียงกลางและเสียงกลางแหลมทั้งหมดของอัลบั้ม [Art For The Ear/Burmester CD III] เกรนเสียงละเอียดมาก เพิ่มความชัดเจนย้ำเน้นรายละเอียดหนักเบาอ่อนแก่ หางเสียงทอดตัวไปไกลและจางหายไปอย่างราบรื่น รายละเอียดของนักดนตรีได้ยินจับคำพูดอักขระเด่นชัดทั้งเสียงหลักและเสียงรอง บรรยากาศรอบตัวเสียงสัมผัสได้ง่าย ยิ่งการจำแนกแยกแยะแต่ละชิ้นดนตรีเด็ดขาด ให้ความกลมกลืนต่อเนื่อง ฟังได้ชัดถ้อยชัดคำบนพื้นฐานความสะอาด ยิ่งช่วงเวลาของดนตรีสลับซับซ้อนยังคงจำแนกแยกแยะออกจากกันและปลดปล่อยแต่ละเสียงให้อิสระหลุดลอย ความสากเสี้ยนมลายหายไป ความสะอาดเกลี้ยงเกลาเข้ามานำเสนอทดแทนได้เยี่ยมยอดทีเดียวเชียว
เสียงขับร้องยิ่งดีขึ้นมาก น้ำเสียงสะอาด เสียงขับร้องหวานใสบนพื้นฐานเสียงอันดีเยี่ยม จำแนกออกมาครบถ้วนกับทุกอักขระรายละเอียดการออกเสียง เสียงริมฝีปากเสียงลมหายใจสัมผัสได้ครบครันและดีกว่าเดิมมาก เสียงขับร้องสมดุลกลมกลืนกันลดความกร้าวแข็งของหางเสียง ตัวเสียงชัดเจนเกลี้ยงเกลา [Snow Rose Ax-SN04.01] ให้ความกังวานและพื้นเสียงสะอาด เสียงขับร้องจากอัลบั้ม [Clair Marlo : Let It Go Sheffield Lab CD29] เปล่งเสียงออกมาเมื่อใดก็ให้ความกังวานของเสียงก้องเสียงสะท้อนเด่นชัด เน้นเสียงหลักให้สะอาดเกลี้ยงเกลา ให้ความหวานประปรายเจือปนออกมา จำแนกแยกแยะหางเสียงแต่ละเสียงออกจากกันได้เด็ดขาด รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชั้นดนตรีแถวหลังโดดเด่นและสัมผัสได้ดีมาก
เสียงขับร้องของดนตรีคันทรี่และเพลงมาร์ช [The Sound of Quality/Opus 3 Proprius Sweden] การร้องประสานเสียงแยกแยะอิสระ ย้ำเน้นทั้งเสียงหลักและเสียงรอง หางเสียงจางหายไปด้วยความราบรื่นให้ลีลาดีเยี่ยมตามท่วงทำนอง เสียงกีตาร์โปร่งฟังในสไตล์คันทรี่ได้กลิ่นอายบรรยากาศเข้ามาปะปน ความชัดใสของมวลเสียงในแต่ละโน้ตของดนตรีนำเสนอรายละเอียดออกมาต่อเนื่อง น้ำหนักเสียงหนัก-เบา อ่อน-แก่ของการเล่นกีตาร์เด่นชัด เช่นเดียวกับความเพลิดเพลินของจังหวะผ่อนหนักผ่อนเบา รายละเอียดของแต่ละเสียงในแถวถัดไปชัดใสสัมผัสได้ดีเยี่ยม
เสียงขับร้องของนักร้องชายอัลบั้ม [Art For The/Ear Burmester CD III] ย้ำเน้นหัวโน้ตชัด การร้องประสานเสียงต่อเนื่องสอดคล้อง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการดึงสายกีตาร์และเครื่องเคาะโลหะรวมถึงความนวลเนียลของเสียงขลุ่ยจำแนกออกมาด้วยความสุภาพ ละเมียดละมัย เสียงสไลด์กีตาร์ย้ำเน้นจังหวะแรกเด่นชัด หางเสียงทอดตัวไปไกลแล้วค่อยๆ จางหายไปอย่างราบรื่น เช่นเดียวกับเสียงขับร้องที่เน้นความถี่ต่ำจากอัลบั้ม [Livington Taylor/Ink Chesky Record JD162] ให้ความกังวานของย่านเสียงต่ำโดยย้ำเน้นน้ำหนักได้ดีเยี่ยม ย่านเสียงแหลมทั้งหมดสะอาดหลุดลอยออกจากพื้นเสียง เน้นความกระจ่างและจำแนกแยกแยะ ตัวเสียงเผยบรรยากาศรายล้อมออกมาดีมาก เสียงขับร้องสุภาพ พื้นเสียงสงัดมากขึ้นสัมผัสลมหายใจเข้าออกได้เด่นชัด ช่วงกระแทกเสียงต่อเนื่องรวดเร็วไม่อืดอาดแม้แต่น้อย
ย่านเสียงทุ้มของกลองนั้น นับว่าเป็นจุดที่ตัวรองชั้นวางนี้สร้างผลงานได้ดีเยี่ยมไม่น้อยหน้าก็คอนทราสต์ก็ว่าได้ ด้วยการซับแรงสั่นสะเทือนไม่ให้สะท้อนกลับไปยังตัวเครื่องที่วางอยู่และพื้นของห้องฟัง เบสและย่านทุ้มต่ำจึงสะอาดมาก อัลบั้มมาตรฐานของเสียงแรกกระทบจากกลองใบใหญ่ [Rain Forest Dream/Saydisc CD-SDL384] เสียงกลองกระชับ หัวเสียงเด็ดขาด คมชัดควบแน่นกลมกลึง อิมแพกต์แรกกระทบเด็ดขาดจะแจ้ง ย้ำเน้นเสียงหัวไม้ให้เฉียบและหางเสียงกลองอิสระแยกแยะบรรดาสรรพเสียงออกจากกันเด็ดขาด ย้ำเน้นหนักเบาพร้อมไปกับลีลานำเสนอ ไม้กลองถูกฟาดลงไปด้วยความรุนแรงและรวดเร็วพร้อมทั้งให้เสียงที่ตอบสนองออกมาจากหนังกลองรวดเร็วทันควัน มีมิติและตำแหน่งแม่นยำแน่นสนิท สิ่งเหล่านี้เองส่งผลให้เสียงเบสและความถี่ต่ำไม่ไปรบกวนย่านเสียงกลางและเสียงแหลม จึงเป็นผลที่ส่งเสริมให้ภาพรวมทุกย่านเสียงฟังได้ดีเยี่ยมและเร่งระดับความดังได้เพิ่มมากขึ้น
เสียงกระแทกกระทั้นของหลากหลายเครื่องดนตรีอัลบั้ม [Dafos/RR-12CD AAD 1985 USA] มวลเสียงทุ้มกลมกลึงควบแน่น ให้ความอิสระของตัวเสียง พื้นเสียงสงัด ยิ่งในจังหวะแรกก่อนเสียงทุ้มจะปลดปล่อยออกมา ให้ความสงัดมาก เสียงทุ้มมาทั้งเนื้อเสียงและความเฉียบคม ยิ่งเป็นเสียงทุ้มต้นของกลองอัลบั้ม [Take ‘Dake’ with Neptune/Aisian Roots Denon USA] ให้ความชัดเจนเกลี้ยงเกลา หนังกลองตึงกำลังดีไม่ดุดันเกินจริง เสียงสะท้อนกลับจากการหวดลงไปชัดเจน ถ่ายทอดความกังวานรอบตัวเสียงออกมาคลอเคลีย หางเสียงจางหายไปด้วยความราบรื่นตามจังหวะจะโคนโดยไม่ตัดหางเสียงทิ้งให้ห้วนสั้น
เสียงกลองใบใหญ่จาก [Ultimate Reference CD/Wilson Audio WA8008] กระชับควบแน่นกลมกลึง จางหายไปด้วยความราบรื่นตามท่วงทำนอง ไม่มีการปนกันระหว่างหางเสียงย่านอื่นกับเสียงกลองนี้ โดดเด่นในด้านของเสียงแรกกระทบที่สะอาดชัดเจน ตอบสนองไทมิ่งและจังหวะเวลานำเสนอออกมาได้เช่นเดิม ไม่ลดหรือเร่งสปิดใดๆ ช่องว่างช่องไฟเด่นชัดสอดคล้องกับความสะอาดและความสงัดของพื้นเสียง จังหวะตัวโน๊ตเงียบก็เงียบสนิทมากไร้เสียงรบกวนใดๆ ให้ความสงัดอย่างเหนือชั้น กำหนดเสียงแต่ละเสียงให้เสนอออกมาด้วยความต่อเนื่องย้ำเน้นหนักเบา จังหวะโหมโรงขึ้นไปตอบสนองได้ฉับพลันรวดเร็วต่อเนื่อง
จังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้ของอัลบั้ม [Take ‘Dake’ with Neptune/Aisian Roots Denon USA] ส่งถ่ายสัญญาณการเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้มีจังหวะที่รวดเร็วตอบสนองได้ดีเช่นเดิม เน้นคอนทราสต์ผสมอยู่ตามจังหวะตามทำนองอยู่ตลอดและยังจำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาได้ครบครัน ตัวเสียงกระชับ หัวเสียงเน้นให้มีน้ำหนัก มีเสียงสะท้อนกลับจากการเคาะ การเป่า ยิ่งเป็นเสียงหนังกลองที่สะท้อนกลับมาเสริมเติมความชัดเจนตามจังหวะนั้นๆ ถ่ายทอดลีลาของเสียงอ่อนแก่หนักเบาไปพร้อมเพรียงกัน เสียงที่ปลดปล่อยออกมาล้วนเป็นเสียงที่สะอาดเกลี้ยงเกลาอยู่ตลอด พร้อมช่องว่างช่องไฟอันงดงาม
บทเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง แทร็กที่ 7 ของอัลบั้ม [Art For The/Ear Burmester CD III] กำหนดตำแหน่งชัดเจน แยกแยะแต่ละเครื่องดนตรีออกจากกันอย่างอิสระ ตัวเสียงชัดเจนพร้อมบรรยากาศรายล้อม ทุกช่วงในการกำหนดลมหายใจเข้าออกของนักดนตรีเด่นชัด บรรยากาศปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวเสียงชัดใสเกลี้ยงเกลา อีกหนึ่งแนวทางของเพลงคลาสสิกวงใหญ่อัลบั้ม [Hovland/Hp 100 Preamp Top Music 8012] กำหนดตำแหน่งได้แน่นสนิท ชัดใสทุกแถว แถวหลังถอยไปจนสุดกำแพง เครื่องดนตรีนับร้อยชิ้นมีตัวตนที่อยู่ของตนเองชัดเจนไม่มีอาการปนทับกันระหว่างแถว ตำแหน่งของชิ้นดนตรีในวงออร์เคสตร้าตรึงไว้แน่นสนิท เช่นเดียวกับแทร็ก 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik Wie Von Einem Anderen Stern/Manger] ตัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงไม่ปะปนกัน ชิ้นดนตรีถูกแยกแยะมิติและตำแหน่งให้เป็นอิสระต่อกันและจางหายไปด้วยความราบรื่น พร้อมไดนามิกคอนทราสต์ต่อเนื่องและมีบรรยากาศรายล้อมตัวเสียงให้สัมผัสอยู่เสมอ
สุดท้ายกับบทเพลงไทยหลากหลายศิลปิน ซึ่งแต่เดิมฟังได้ดี สมดุลเสียง เสียงขับร้องดีมาก เมื่อใช้ตัวรองเครื่องแล้ว ใส่อัลบั้มไหนเข้าไปก็ฟังได้ครบอัลบั้มอย่างไพเราะ รายละเอียดปลีกย่อยดีมาก หากเป็นเพลงร้องก็ออดอ้อนพิรี้พิไร หวานใสไพเราะ สะอาด หากเป็นแนวเพลงที่เครื่องดนตรีมากชิ้นหน่อย แยกแยะออกมาอิสระ บรรเลงด้วยความหวานกังวานใสไพเราะเพลิดเพลิน ให้ความอ่อน แก่ หนัก เบา ได้ดีเยี่ยม เน้นเรื่องบรรยากาศและความต่อเนื่องและการถ่ายทอดทางด้านอารมณ์ เสียงที่ได้รับ สร้างความประทับใจและคงต้องใช้งานต่อเนื่อง อย่างแน่นอน
บทสรุปหลังการใช้งาน
Solid Tech Disc Of Silence เป็นอุปกรณ์ที่กำเนิดจากประเทศสวีเดนและเป็นผู้ผลิตชั้นวางและเครื่องเคียงในการปรับจูน การซับแรงสั่นสะเทือนหลายๆ ประเภท ชื่อเสียงของ Solid Tech เป็นการรับประกันตัวเองในตลาดโลกของนักเล่นฯ ระดับไฮเอนด์ได้เป็นอย่างดี เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์และชั้นวางคุณภาพดีในระดับที่พอซื้อหาได้ การผลิตอุปกรณ์รองเครื่องเหล่านี้ ต้องมีศาสตร์และศิลป์ในการผลิตพร้อมจูนเสียง มิฉะนั้นจะเข้าทำนองที่ว่า “เสียมากกว่าได้”
สำหรับ Solid Tech Disc Of Silence นี้ ออกแบบให้ใช้งานรองรับเครื่องเสียง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่นซีดี, อินทิเกรตแอมป์ ฯลฯ การใช้งานเริ่มแรกเรียกว่า “ฟังออก ง่ายมาก” เป็นอุปกรณ์เครื่องเคียงที่เกิดมาเฉพาะเจาะจงกับเครื่องเสียงโดยตรง ซึ่งเล่นได้กับเครื่องหลากหลายประเภท ขอให้จูนสปริงรองรับน้ำหนักสอดคล้องกับเครื่องที่ร่วมใช้เป็นอันใช้ได้ ทำงานในระบบสลายแรงสั่นสะเทือนและป้องกันพลังงานอื่นๆ เข้าไปสู่ตัวเครื่อง จึงค่อยๆ สลายออกไปให้เครื่องนิ่งที่สุด และทิ้งท้ายไว้ด้วยฝีมือของผู้ผลิตในการจูนให้ลงตัวที่ได้ทั้งความสวยและคุณภาพควบคู่กันไป
Solid Tech Disc Of Silence ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งานในระบบไม่น้อย มันเป็นการต่อยอดการใช้งานให้ระบบเครื่องเสียงโดดเด่นขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องความชัดเจน สุภาพ มวลเสียงที่กลมกลึงกัน ช่องว่างช่องไฟ ความสงัด รายละเอียด เกรนเสียงละเมียดละมัย คอนทราสต์ดีเยี่ยม รวมไปถึงหางเสียงที่ราบรื่นดียิ่งขึ้น เป็นการต่อยอดชุดที่เซตอัพมาดีพอประมาณให้อัศจรรย์ยิ่งขึ้น ทำให้ชุดเครื่องเสียงที่มีพื้นฐานดีระดับนึงมีความโดดเด่นน่าฟังมากยิ่งขึ้น เร่งระดับโวลุ่มสูงขึ้นหรือฟังได้ดังมากขึ้น ชิ้นดนตรีแยกแยะกันอิสระสัมผัสได้โด่ดเด่นดีเยี่ยม นี่อาจเป็นผลผลิตแห่งความภาคภูมิของ Solid Tech ในอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์
ไม่ว่าท่านจะใช้ชุดเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์ระดับไหนก็ตาม Solid Tech Disc Of Silence สร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มใช้งานอย่างง่ายดาย และองค์ประกอบของอุปกรณ์ชุดนี้ไม่มีสิ่งใดบุบสลายหรือเสื่อมคุณภาพในเวลาอันสั้น เรียกว่าซื้อครั้งเดียวใช้งานยันเลิกเล่นก็ยังไม่เสียหายใดๆ Solid Tech ได้สร้างอุปกรณ์รองเครื่องเหล่านี้ได้ยอดเยี่ยม และกับอุปกรณ์บางประเภทของ Solid Tech ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้อ้างอิงในระบบ ซึ่งช่วยในเรื่องซับแรงสั่นสะเทือนให้นิ่งที่สุด และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จาก Solid Tech ที่อาจถูกบรรจุเพิ่มในชุดอ้างอิงของผม หรืออาจใช้คำว่า “ควรมี” ในชุดอ้างอิง
หากท่านต้องการต่อยอดเสียงที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว มีแนวทางที่ชอบจูนละเอียดขึ้นไปอีก อีกทั้งอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นไปตามบุคลิกอีกชั้นในแบบทีเอามาชี้วัดเป็นเปอร์เซนต์ได้ยาก แต่มีความเป็นศาสตร์และศิลป์อยู่เต็มเปี่ยม การทำงานของ Solid Tech Disc Of Silence ตอบสนองท่านได้ หากมีงบประมาณในการเล่นฯ ต้องการจูนเพื่อต่อยอดส่วนดีๆ ออกมาอีก Solid Tech Disc Of Silence นี่แหละ ที่ต้องแนะนำให้มีใช้รองรับเครื่อง ฯลฯ แล้วท่านจะได้สัมผัสชุดเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์ของท่านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในทุกแง่มุม ต้องขอขอบคุณ ร้านไฮเอนด์ออดิโอ ผู้จำหน่ายในประเทศไทยอีกครั้ง ที่ให้ยืมมาลองใช้งานได้อย่างยาวนาน แนะนำให้ลองครับ !!
“bluebird u11” “Recommend”
• รูปลักษณ์
• ความสะดวก
• คุณภาพเสียง
• ความคุ้มค่า
• คะแนนโดยรวม
ขอขอบคุณ : บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด | โทร.062-551-2410, 0-2-102-1168
ได้อนุเคราะห์ Solid Tech Disc Of Silence สำหรับการในทดสอบครั้งนี้