ASC หรือ Acoustic Sciences Corporation เป็นอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกอันเลื่องชื่อจากอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายทศวรรษ
ASC PCAD และ ASC Matrix Panel ผ่านการใช้งานในห้องฟังมาร่วมหนึ่งปี และได้ลงรายละเอียดในบทความก่อนหน้านี้ หากนับอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกในตลาด ทั้งของในประเทศและของต่างประเทศ ซึ่งมีให้เลือกหามาใช้มากมาย ตั้งแต่ราคาไม่กี่พันบาทไปราคาหลักหมื่นหลักแสนบาทต่อชิ้นก็มีให้เห็น อุปกรณ์ปรับจูนอะคูสติกของห้องฟังเพลงเหล่านี้ หากเข้าใจถึงวิธีการใช้งาน วิธีการเล่น ส่วนใหญ่ผลออกมาในเชิงบวกที่ดี หากใช้ผิดที่ผิดทางหรือไม่เข้าใจวิธีการเล่น อาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดีก็มีให้เห็นไม่น้อย
บางห้องของนักเล่นฯ ตัดปัญหาในการลองผิดลองถูก โดยการเลือกที่จะทำห้องฟังเพลงมาตรฐาน จ้างบริษัทฯ มืออาชีพมาออกแบบและตกแต่งห้องให้สวยงาม พร้อมใส่อะคูสติกเข้าไปและทำการจูนเสียงก้องเสียงสะท้อน ฯลฯ ด้วยเครื่องมือวัดระยะระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผล พร้อมทั้งจูนเสียงด้วยหูจากนักฟังที่เซตอัพระดับมืออาชีพควบคู่กันไป สิ่งที่ได้ก็มีทั้งดีและเสียแตกต่างกันออกไป โดยการปรับอะคูสติกแบบบิ้วอินนั้น เมื่อเปลี่ยนลำโพงหรืออุปกรณ์ในชุด มักจะต้องปรับจูนอะคูสติกใหม่เข้าไปให้เหมาะสมกัน จึงมิใช่เรื่องง่ายในการปรับแต่งอะคูสติกเพียงครั้งเดียวและยืนใช้งานไปตลอด
ว่าด้วยอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกของ ASC นั้น มีผลิตภัณฑ์มากมายหลายประเภท ส่วนใหญ่จะนำมาปรับแต่งอะคูสติกในรูปแบบเคลื่อนย้ายได้ หากนำไปทำบิวอินก็ยังสามารถทำได้เช่นกัน แต่ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในการใช้งาน อุปกรณ์ยอดฮิตในห้องนักเล่นฯ ของ ASC นั้น ประเภทท่อกลม TubeTrap ยังคงเป็นอุปกรณ์ชิ้นหลักที่นิยมใช้ และ Sound Panel เป็นอุปกรณ์ชิ้นรองที่ห้องนักเล่นในยุค 20-30 ปี รู้จักมักคุ้นและมีใช้ประจำห้อง ทั้งสองอุปกรณ์ดังกล่าว มีการกล่าวขานมายาวนาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ปรับอะคูสติกชั้นดีที่ใช้แล้วยกออกจากห้องไม่ได้เลย (ลองหาข้อมูลในเว็บ ASC) ซึ่งในห้องผมเองไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นห้องฟังเฉพาะ เป็นห้องฟังเพลงจากห้องที่อยู่อาศัย อุปกรณ์สองประเภทข้างต้นจึงอยู่ร่วมใช้งานมายาวนานและไม่คิดจะยกออกไปไหน
สำหรับวันนี้ ASC ยังมีอุปกรณ์ปรับแต่งอีกหลายประเภท สามารถนำไปใช้ปรับแต่งจูนห้องแบบผสมผสานข้ามยี่ห้อก็ยังได้ ผมได้ขอยืมอุปกรณ์ปรับอะคูสติกของ ASC แบบ Bastoni Panel มาทั้งหมด 4 ชิ้น ซึ่งได้ร่วมใช้งานมาหลายจุดหลายตำแหน่ง และฟังผลโดยการเชตอัพพื้นฐานและใช้หูในการฟังพร้อมปรับจูน โดยมิได้นำไมโครโฟนจากเครื่องวัดเสียงใดๆ มาอ่านค่า เพราะนี่คือการใช้งานจริงในห้องปกติที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องฟังเพลง
ต้องขอขอบคุณผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด ที่อนุเคราะห์ให้ยืมอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติก ASC ทั้ง 3 ประเภท (PACD, Matrix, Bastoni) เป็นเวลานาน เพื่อให้ได้ลองเล่นลองใช้งานจริง และนำบทความมาเล่าสู่กันฟัง
รูปลักษณ์และการใช้งาน
ASC Bastoni Panel เป็นอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีขนาดครึ่งหนึ่งของ Matrix Panel ซึ่งอุปกรณ์ปรับแต่งที่มีขนาดประมาณนี้ สร้างความเปลี่ยนแปลงอะคูสติกในห้องฟังได้อย่างชัดเจน เพราะจุดสะท้อนเสียงมีพื้นที่และปริมาณ อีกทั้งยังจัดหาวัสดุภายในประเภทโพลิเมอร์ ซึ่งมีแนวโน้มในการสะท้อนเสียงอยู่พอสมควร หากออกแบบและทดสอบมาไม่ดีพอ เรียกว่าตีรวนมากกว่าได้ดี หรือเสียมากกว่าได้ Bastoni Panel ออกแบบแนะนำให้แขวนฝ้าเพดานเป็นลำดับต้นๆ หรือ ปรับเปลี่ยนหาตำแหน่งจูนจากผนังในจุดต่างๆ ตามที่ลองใช้ปรับสภาพแล้วดีขึ้น
Bastoni Panel ออกแบบเป็นแผ่นบอร์ดรองรับวัสดุอื่นที่นำมาติดตั้งเข้ากับแผ่นบอร์ดนี้แผ่นบอร์ดมีรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสด้านเท่า มีขนาดกว้าง 24 ยาว 24 นิ้ว ติดตั้งแท่งซับเสียง Absorptive Insert 3 ชิ้น ที่มีความสูงของแท่งซับเสียงในระดับ 3 นิ้ว โดยแท่งซับเสียงนี้มีการติดตั้งไว้บนแผงบอร์ดหลัก แบ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งด้านบนสุดหนึ่งชิ้น กึ่งกลาง 1 ชิ้น และ ด้านล่าง 1 ชิ้น ระหว่างแท่งซับเสียงนี้ ออกแบบและติดตั้งวัสดุจำพวกโพลีทรงโค้ง ทำหน้าที่สะท้อนเสียงแหลมตามหลักการออกแบบถึง 85% และเก็บกักเสียงแหลม 15% รวมถึงคุณสมบัติเก็บเสียงทุ้มไว้ด้วยเช่นกัน
วัสดุอีกหนึ่งชิ้น ออกแบบเป็นเสมือนหน้ากาก เพื่อนำมาครอบชุดบอร์ดซับและสะท้อนเสียง ซึ่งกรอบหน้ากากชิ้นนี้ สามารถถอดออกเพื่อดูอุปกรณ์ภายในได้ ตัวกรอบของหน้ากาก เฟรมทำมาจากไม้ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเช่นกัน ที่เฟรมไม้ ออกแบบให้ใช้ผ้า Guilford 701 หุ้มไว้ เป็นการจูนเสียงและปิดอุปกรณ์ภายในบอร์ด ตัวสีของผ้ามีให้เลือกใช้งาน ซึ่งแผ่นที่ยืมมาใช้งานนั้น 2 ชิ้นแรกมีสีเทา อีก 2 ชิ้นเป็นสีครีมน้ำตาล สีเหมือนกับอุปกรณ์ Tubetrap และ Sound Panel เช่นกัน สำหรับผ้า Guilford 701 นั้น เป็นที่นิยมแพร่หลายมากในการออกแบบชุดอะคูสติกห้องฟัง หน้ากากลำโพง ฯลฯ เมื่อครอบหน้ากากเข้ากับตัวโครงบอร์ดแล้ว จะเห็นขอบบอร์ดสีดำเท่านั้น
ASC Bastoni Panel มีขนาดให้เลือกใช้ขนาดเดียว เลือกใช้ตามพื้นที่ในการสะท้อนเสียงและเก็บเสียงทุ้ม ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งสตูดิโอ, ห้องชมภาพยนตร์, ห้องฟังเพลง ฯลฯ ในกล่องให้อุปกรณ์สำหรับติดตั้งเข้ากับผนังพร้อมคู่มือมาครบถ้วน การใช้งานจริง โดยการลองวางหาตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ด้านข้างลำโพง, ด้านหลังจุดนั่งฟัง สำหรับห้องฟังห้องนี้มีระยะที่สั้น ลองปรับจูนผนังด้านข้างของลำโพงทั้งสองข้างแล้วเป็นตำแหน่งที่ลงตัวในเรื่องน้ำเสียงและสมดุลเสียงที่ดี รวมไปถึงน้ำหนักเสียงทุ้มที่พบปริมาณมากขึ้น เสียงแหลมสะอาด เมื่อได้ตำแหน่งแล้ว ให้ลองยกสูงจากพื้นทีละ 10 ซม. จะถึงความสูงในระดับเวทีที่เหมาะสม และมีจุดสังเกตในการวางว่าต้องนำด้านไหนขึ้นข้างบนด้านไหนลงพื้น (แตกต่างกันบ้าง) สำหรับคู่มือที่ ASC ให้มานั้น แนะนำการจูนที่ฝ้าเพดานเป็นลำดับแรก ด้วยความสะดวกของการติดตั้งในห้องฟังห้องนี้ จึงไม่ได้ใช้งานบนฝ้าเหดาน การปรับจูนจริงในแต่ละห้องฟังมีความแตกต่างกันออกไป
อุปกรณ์สำหรับติดตั้งเข้ากับผนัง มีวัสดุสำหรับติดตั้งบนฝ้าเพดานชนิดฝ้าทีบาร์ก็สามารถติดตั้งได้ ผู้ผลิตหวังผลให้ Bastoni Panel ทำงานในรูปแบบสะท้อนเสียงแหลมและกักเก็บเสียงทุ้มเป็นหลัก ASC Bastoni Panel มีขนาดกว้างและยาว 24×24 นิ้ว มีสีผ้าภายนอกแบบสีน้ำตาลครีมทั้งหมด 2 ชิ้นและสีเทาทั้งหมด 2 ชิ้น นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด โทร. 062-551-2410, 0-2102-1168
ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง
ASC Bastoni Panel ทั้ง 4 ชิ้นนี้ เป็นอุปกรณ์ใหม่อยู่ในกล่องแพ็กมาอย่างดี สีของผ้าเป็นสีครีมน้ำตาลและสีเทา ผมได้นำมาร่วมใช้งานกับชุดเครื่องเสียงประจำทีมีการปรับอะคูสติกมาบ้างแล้ว อีกทั้งใช้ร่วมกับ ASC PCAD Panel และ Matrix Panel อย่างละ 2 แผ่น ชุดเครื่องเสียงที่ร่วมใช้งานพร้อมเบิร์นอินในครั้งนี้มีอยู่ 2 ชุด 2 ห้องหลักๆ ดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี Arcam : FMJ CD23 dCS Ring DAC Plus HDCD, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, อินทิเกรตแอมป์ Krell Audio : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc Respond : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL), จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน
สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Golden Reference (RCA) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 ม., สายลำโพง Cardas Cross รุ่นเก่าสีเขียว Bi-wire ขั้วต่อจากโรงงาน ยาว 3 ม., สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug)
ชุดที่ 2 ประกอบด้วย MacBook Pro/Auralic : Aeries Mini, MacBook Pro เล่นด้วยโปรแกรม Amarra Symphony+ไฟล์เพลงทั้ง DSF, DSD และ อื่นๆ, DAC Chip ESS Sabre ES9038Q2M DSD 512 ปรับฟิลเตอร์ระดับ 2, เครื่องเล่นแผ่นเสียง Roksan : Radius 5 พร้อมหัวเข็มและอาร์มของ Roksan NIMA, โฟโน Project : The Phono Box, เครื่องเล่นซีดี Ayre Acoustic : CX-7 Evolution, เครื่องถอดรหัสดิจิทัล DAC Audio GD : 7.32, ปรีแอมป์ Audio Research : LS 3B, เพาเวอร์แอมป์ Classe Audio : CA 201, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก ตอกโลโก้โลหะทองเหลือง, ลำโพง PSB : Synchrony One B, ลำโพงวางขาตั้ง ProAc : D2R (Ebony), ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott Prototype (Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวาง Dyna Foot ทับไว้ตู้ละ 1 ก้อน โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น
สายสัญญาณดิจิทัล USB Cardas Audio Clear Hi-Speed Topline 1 เมตร, สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทิเกรตแอมป์ Cardas Clear (XLR) ยาว 1.5 ม., สายลำโพง Cardas Clear Beyond Single-Wire ขั้วต่อก้ามปูใหญ่จากโรงงาน ยาว 2 ม. พร้อมจั๊มเพอร์ Cardas Clear, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Inwall Power Cord เข้าขั้ว Wattgate ทองรุ่นเก่าทั้งด้านขั้วตัวผู้และขั้วตัวเมียยาว 2.1 ม., สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทิเกรตแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทิเกรตแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบ 6 ช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ.ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Shunyata Research Anaconda Helix Alpha VX 15 Amp รุ่นท็อปในอดีตท่อหดสีแดงยาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate Audio : 381 Classic รุ่นเก่า อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวนด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทิเกรตแอมป์
เครื่องเล่นแผ่นเสียงจัดวางบนชั้นวาง Target Audio B1+แผ่นไม้แท้ รองใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยไดนาฟุตสามลูก โดยเอาด้านสีขาวหงายขึ้น, MacBook Pro วางบนก้อนอิฐ อิทธิเจ 4 ก้อน, เครื่องเล่นซีดี จัดวางบนชั้นวาง Target Audio : B1+แผ่นไม้แท้ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 4 ตัวรองรับสไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, อินทิเกรตแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of Silence Regular 1+แผ่นไม้ Solid Tech แท้รุ่นมีระดับน้ำ รองรับชั้นวางด้วย Solid Tech Feet of Concrete Black (สลับกับ Acoustic Revive SPU-8) ทั้งหมด 5 ตัว รองรับสไปค์ชั้นวางกับพื้นอีกที, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานฟอร์มเมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้ 1 ก้อน และบริเวณโวลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้ 1 ก้อน
พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณและสายลำโพงด้วย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละ 2 ตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วย Solid Tech Bridge of Silence ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทิเกรตแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR-8 ทั้งหมด 8 จุด 8 ตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมด 4 แผง และปรับแต่งอะคูสติกเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมด 4 คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพง 2 คู่ ด้านข้างลำโพง 2 คู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ Hifi Club 1 คู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีก 1 คู่ วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ.จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้ง 3 ตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย, ขวาและกึ่งกลางอย่างละ 1 ตัวเอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนท์วางไว้กึ่งกลางแผงหลัง ส่วนแผงด้านข้างทั้ง 2 แผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง Hifi House) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-888 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้ และ ติดตั้ง ASC PCAD Panel ประกบไว้ข้างแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพงข้างซ้ายและข้างขวา โดยวางกับพื้นและยกลอยให้ความสูงด้านบนสูงจากพื้น 120 ซม. ASC Matrix Panel วางหลังเก้าอี้จุดนั่งฟังทั้ง 2 แผ่น ลองสลับด้านบนและด้านล่างเน้นตำแหน่งที่ฟังได้ดีที่สุด ASC Bastoni Panel เป้าหมาย วางไว้ผนังห้องด้านซ้ายและด้านขวา ผนังละ 2 แผ่น โดยมีแผ่นสีเทาวางอยู่บนชั้นวาง Target Audio B2 ไว้ข้างละ 1 แผ่น ส่วนแผ่นสีน้ำตาลครีมวางไว้ที่พื้นผนังข้างละ 1 แผ่นเช่นกัน
ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 ม. ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 ม. โทอินลำโพงไม่เกิน 20◦ โดยประมาณ (เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน สลับกับไดน่าฟุตช่วงลองใช้งาน
ผลการใช้งาน
ช่วงที่เขียนบทความฉบับนี้ ผมได้รับแจ้งจากต้นสังกัดของนิตยสารว่า ฉบับเดือนธันวาคม 2567 เป็นหนังสือนิตยสารฉบับสุดท้ายที่ What Hi-Fi? Thailand จะทำเป็นสื่อกลางในรูปแบบหนังสือฉบับสุดท้าย เหลือเพียงการเป็นสื่อในรูปแบบปัจจุบันตามยุคตามสมัย ใจนึงก็เข้าใจมายาวนานแล้วว่า สักวันต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน แต่อีกใจนึงก็อดใจหายไม่ได้ ที่นิตยสารเครื่องเสียงที่เหลือเพียงฉบับเดียวในประเทศไทย จะยุติบทบาทการทำนิตยสารและเปลี่ยนรูปแบบเป็นการไลฟ์หรือบันทึกรายการผ่านสื่อสารทางมัลติมีเดีย นับเวลาการเป็นหนังสือนิตยสารสื่อสารด้านเครื่องเสียงอย่างเป็นกลาง 40 ปีเต็ม เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกือบ 500 ฉบับ ที่คณะผู้จัดทำหลายรุ่นได้ก่อสร้างและให้บริการมา “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” ผมคงส่งบทความเรื่องนี้ในหนังสือฉบับสุดท้ายฝากไว้ และขอบคุณผู้อ่านที่ติดตามและแนะนำเสมอมา
จากบทความเรื่องแรกของผมในนิตยสาร What Hi-Fi? Thailand ปี พ.ศ.2542 นับเวลาได้รวม 25 ปี ราว 300 บทความ ในนามปากกา “bluebird u11” ผมขอขอบคุณผู้อ่าน ผู้สนับสนุน ผู้ติดตาม ฯลฯ ที่ได้อ่านและนำสรรพสาระอันเป็นประโยชน์ เพื่อเป็นไกด์ในการเลือกและเล่นเครื่องเสียงที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหายในวงการ ทั้งนักเขียนรุ่นระดับอาจารย์และเพื่อนนักเขียนรุ่นราวคราวเดียวกัน อีกทั้งสมาชิกในกลุ่มฯ ในชมรมออดิโอทีมฯ ที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ทั้งทดลองเซตอัพ ลองเล่น ปรับเปลี่ยน จัดงาน ฯลฯ ทุกรูปแบบ เพื่อผลที่มั่นใจว่านี่คือเสียงที่ฟังได้ไพเราะตามสากลนิยม ทำให้การเล่นฯ เครื่องเสียงมีความเพลิดเพลินและมีมิตรสหายมากมายหลายอาชีพ อย่างไรก็ดี สื่อในด้านเครื่องเสียงในนาม What Hi-Fi? Thailand ยังคงดำเนินต่อไป ทุกท่านยังสามารถติดตามได้ทางสื่อสารมัลติมีเดียแทนนิตยสารครับ
ว่ากันต่อด้วยเรื่องอุปกรณ์ปรับแต่งอะคูสติกชิ้นสุดท้ายของผู้จำหน่ายรายนี้ที่ก่อนหน้าผมได้ลองใช้งานมาแล้ว 2 ประเภท ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้คือ ASC PCAD Panel และ ASC Matrix Panel ยังคงประจำการอยู่ในห้องฟังห้องเดิม เพิ่มเติมคืออุปกรณ์ประเภทสุดท้ายคือ ASC Bastoni Panel เข้ามาร่วมจูนเสียงเพื่อปรับปรุงเพิ่มเติมส่วนก้องส่วนสะท้อนต่างให้สมดุลเสียงดีที่สุด อันที่จริงนั้น ASC Bastoni Panel มีการลองใช้งานเดี่ยวๆ โดยไม่มีอุปกรณ์ประเภทอื่นมาร่วมใช้ด้วยเช่นกัน ผลออกมาดีไม่น้อย ส่วนการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สองสามประเภทที่กล่าว ยิ่งส่งผลที่ดีแบบแทบไม่อยากยกชิ้นไหนๆ ออกเลยทีเดียว
ด้วยหลักการทำงานแบบสะท้อนเสียงเป็นส่วนมากและซับเสียงไว้ในปริมาณหนึ่ง การใช้งานในผนังด้านข้างจุดนั่งฟังที่มีระยะพอสมควร อีกทั้งเป็นผนังฉาบปูนเปลือยโดยไม่มีการวางแผงไม้ดิฟฟิวเซอร์ไว้ ทำให้ Bastoni Panel ทำหน้าที่ทดแทนและซับสะท้อนเสียงไปในตัว การใช้งานครั้งนี้ ผมได้ปรับจูนโดยไม่มีการติดตั้งให้ล็อคสกรูเข้าผนัง เป็นการวางบนชั้นวาง 1 แผงและวางบนพื้น 1 แผง ทั้งสองข้างผนังทั้งด้านซ้ายและด้านขวา วางในตำแหน่งใกล้เคียงกันแต่ไม่ถึงกับวัดระยะให้เท่ากันที่สุด มีทั้งการปรับแนวซับเสียงที่เปลี่ยนไปตามแนวขวางและแนวนอน ใช้วิธีการฟังจากแผ่นอ้างอิงทั้งหลายด้วยหูและความคุ้นเคยกับห้องฟังประจำ เมื่อได้จุดหลักที่ลงตัว จึงทำการวางไว้และปรับจูนอย่างละเอียดต่อเนื่องจนพบจุดที่สมดุลเสียงดีที่สุด ไม่พุ่งใส่หรือทึบ น้ำเสียงทั้งทุ้มกลางแหลมต่อเนื่องกลมกลืนกันที่สุด เป็นตำแหน่งที่หยุดการจูนแล้วฟังเพลงเป็นหลัก
ด้วยคุณลักษณะของการทำงานของ Bastoni Panel ซึ่งมุ่งหวังให้มีการเก็บกักเสียงทุ้มในปริมาณหนึ่ง ผมยังคิดว่าเสียงเบสน่าจะหดหายจากเดิม แต่ผมคิดผิด!!! เพราะเมื่อใช้งานจริง เสียงทุ้มที่ถูกกักเก็บไว้นั้น มีการปล่อยออกมามีปริมาณที่สัมผัสได้เพิ่มขึ้น เวลาในการปล่อยเสียงสอดคล้องกลมกลืนกับความถี่ในแต่ละย่าน การกักเก็บเสียงทุ้มที่มี เป็นการกักเก็บเพื่อไม่ให้เสียงทุ้มไปรบกวนเสียงกลางและเสียงแหลม ส่งผลให้เสียงกลางและแหลมสะอาดสดใสยิ่งขึ้น และมีปริมาณทุ้มลึกที่เด่นขึ้นอย่างจับต้องได้ด้วยการฟังจากหูทั้งสอง หากเป็นห้องฟังประจำ การจำแนกสิ่งเหล่านี้สัมผัสได้ง่ายดาย
น้ำเสียงเริ่มแรก สัมผัสได้ทันที รายละเอียดเสียงย่านเสียงกลางและเสียงแหลมชัดเจน แจกแจงเสียงเล็กเสียงน้อยออกมาได้ดีมาก เสียงที่ไม่เคยสัมผัสหรือไม่เคยได้ยิน รับรู้ได้ถึงเสียงแผ่วเบา ตั้งแต่ตัวเสียงจรดหางเสียงไม่มีความกร้าวแข็งของเสียง เสียงไม่แยงหู ให้ความเด่นชัดของตัวเสียงในแต่ละโน้ตดนตรีอย่างราบรื่นดีเยี่ยม ตำแหน่งของชิ้นดนตรีแม่นยำ ตัวเสียงเกลี้ยงเกลาและฟังได้ดังขึ้น หากปรับจูนแผงพาแนลในระดับความสูงที่ลงตัวของห้องฟังนั้นๆ เสียงจะราบรื่นและต่อเนื่องฟังได้ดี ไม่ล้าหูและไม่แยงหู ในการปรับจูน ควรวางพาแนล Bastoni ให้ตั้งที่พื้นก่อน จึงค่อยๆ ยกระดับความสูง ทดลองฟังเสียง หาตำแหน่งที่ดี ที่วัดจากสมดุลเสียงทั้ง ย่านเสียงทุ้ม กลาง แหลม ให้ต่อเนื่องเสมอสมานกัน จากแผ่นอ้างอิงที่ใช้เซตอัพ เมื่อได้สมดุลเสียงดีที่สุดแล้ว จึงค่อยๆ ปรับจูนละเอียดอีกขั้น
พิจารณาด้านน้ำเสียงอีกครั้ง เสียงร้องชัดใสและมีปริมาณของขนาดตัวเสียงที่พอดิบพอดี ให้ความสดเล็กน้อย จังหวะจะโคนดีมาก ความต่อเนื่องของเสียงยอดเยี่ยม แจกแจงเสียงเล็กเสียงน้อยที่ไม่ค่อยได้ยินให้สัมผัสออกมาได้เด่นขึ้น คอนทรานสต์เด่นชัดมาก เสียงโดยรวมสัมผัสการแยกแยะได้ดีมากยิ่งขึ้น การใช้งานในช่วงชั่วโมงแรกนั้น หางเสียงที่มีเสียงแตกซิบๆ ยังพอมีให้สัมผัส เสมือนตัวพาแนลยังไม่นิ่ง ยังฟุ้งบ้างเล็กน้อย ผมเชื่อว่า เมื่อ Bastoni เข้าที่เข้าทางแล้วนั้น น่าจะส่งผลต่อยอดได้อีกไกลแน่นอน
ด้านการสะท้อนและซับเสียง แผ่ออกให้รูปวงโอ่โถง ขยายออกในแนวกว้างและลึกเด่นชัดขึ้น (อยู่ที่ตำแหน่งและมุมการจัดวางด้วย) เสมือนได้นั่งฟังที่ชุดและห้องที่ใหญ่กว่า รูปวงสวยงามโอ่อ่าเด่นชัดเมื่อเทียบเคียงจากเดิมที่ไม่ได้ใช้ Bastoni Panel รูปวงและชิ้นดนตรีภายในวงตรึงไว้แน่นสนิทแม่นยำ ส่งผลในด้านความสูงของเครื่องเป่าจำพวกแซกโซโฟน ให้ตำแหน่งแน่นสนิท เสียงแซกโซโฟนสุภาพ นวลเนียน ละเอียด สะอาด และยังมีความกังวานของตัวเสียง หางเสียงทอดตัวไปไกลและจางหายไปอย่างแผ่วเบา เสียงไม่เสียดแทงหู มาพร้อมกับบรรยากาศรอบตัวเสียงดีเยี่ยม [Arne Domnerus : Antiphone Blues/Proprius PRCD 7744]
องค์ประกอบด้านกว้างขยายตัวออกไปจนสุดผนังทั้งสองข้างเป็นสัดส่วนสมดุลกับด้านลึก เมื่อเทียบเคียงจากเดิม เราสามารถปรับให้กว้างหรือแคบหรือตรึงไว้ตรงกลาง โดยจุดที่สมดุลสุด จะเน้นทั้งสามด้านให้เป็นสามมิติที่สัมพันธ์กัน เสียงตรงกึ่งกลางไม่กระจุกตัว ไม่จมหรือเสมือนโดนกดเสียงไว้ เมื่อลงตัวที่สุดแล้ว ส่งผลให้ด้านลึกถอยหลังจากหน้าลำโพงลงไปประมาณหนึ่งแถว จากนั้นจัดระเบียบแถวที่สองและสามและแถวต่อๆ ไปด้วยระยะที่สมดุล เรียกว่าเล่นง่าย ปรับง่ายกว่าเดิมมาก อัลบั้ม [Postcards : The Turtle Creek Chorale/RR-61CD] ชี้ชัดประเด็นนี้ได้ดี สัมผัสความเป็นสามมิติของเสียงได้ต่อเนื่อง หากห้องฟังไหนได้เคยใช้งานชุดปรับปรุงอะคูติกยี่ห้อใดก็ตาม ท่านจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า อุปกรณ์แผ่นไม่ใหญ่ ทำไมสร้างสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ จะเรียกว่าอุปกรณ์ปรับอะคูสติกระดับไฮเอนด์ก็สามารถพูดได้เต็มปากทีเดียว
อัลบั้มประจำกับเพลงขับร้องประสานเสียงประเภทเพลงสวด [Now The Green Blade Riseth/Proprius PRCD 9093] มวลเสียงมีปริมาณที่ดีพร้อมทั้งคุณภาพของตัวเสียงที่สะอาด เคลียร์ ให้ความละเอียดและความกระจ่างใสของตัวเสียงดีได้ยอดเยี่ยม ไม่มีการแต่งเติมสีสันและบุคลิกให้เบี่ยงเบนไปจากเดิม ให้น้ำหนักของจังหวะเริ่มแรกในการออกเสียง แบ่งแยกคอนทราสต์ได้หลายระดับยิ่งขึ้น ประเด็นนี้จับต้องได้แบบไม่ต้องเอียงหูฟัง พร้อมให้บรรยากาศอันสดใสเข้าร่วมในการนำเสนอ อีกทั้งจำแนกแยกแยะรายละเอียดทั้งหมดออกจากกันอย่างดีเยี่ยม ไล่ลำดับเสียงแผ่วเบาไปจรดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เบี่ยงเบนเสียงต่างๆ ให้เสียงดนตรีที่ฟังผิดประเภทไป
พิจารณาความกังวานของเสียงเปียโนและเครื่องเคาะโลหะ ให้ความกังวาน ละเอียด เด่นชัด สะอาด พร้อมรายละเอียดในตัวเสียงแบ่งแยกออกมาครบครัน ตัวเสียงเคลียร์ชัดใส บรรยากาศรายล้อมตัวเสียงดีเยี่ยม นำเสนอออกมาให้ฟังได้เพลิดเพลิน ไร้สากเสี้ยนและไม่มีความแหลมคมสาดใส่ เสมือนเป็นเสียงการเคาะเปียโนอันกังวาลใหญ่ตรงเบื้องหน้า สะอาดเกลี้ยงเกลามาก [Art For The Ear/ Burmester CD III] จังหวะแรกของเครื่องดนตรี ให้แรงปะทะของเสียงชัดเจน หางเสียงทอดตัวไปไกล ย้ำเน้นจังหวะแรกกระทบได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมสัมผัสได้นอกเหนือจากการสะท้อนเสียง มันมีคุณสมบัติในแง่เสียงกลางทุ้มที่ต้องเอามาพูดถึงในช่วงต่อไปแน่นอน
เรื่องมิติและเสียงเครื่องเคาะโลหะ [Dafos/Reference Recordings RR-12CD USA] แทร็กที่ 7 ที่ใช้งานประจำ ปกติยังมีเสียงพุ่งสาดใส่บ้าง หางเสียงยังไม่ละเอียด มีเสียงแตกในช่วงหางเสียงที่จะจางหายไป ครั้งนี้จำแนกแต่ละชิ้นดนตรีออกมาเด่นชัด ย้ำเน้นหัวโน้ตเด่นชัด สะอาด เสียงรอบตัวโน้ต ช่องไฟได้โดดเด่น ไม่ห้วนสั้น นำเสนอทั้งมิติ ตำแหน่ง ช่องไฟ ความสงัด ครบถ้วน เช่นเดียวกับเครื่องสายเครื่องสีต่างๆ [Art For The Ear/Burmester CD III] ถ่ายทอดออกมาด้วยความกังวานสดใส หางเสียงทอดตัวไปไกลและยาวนานตามจังหวะพร้อมเติมความอวบอิ่มขึ้น เสียงการบดขยี้ไวโอลินยังคงดุดัน หางเสียงเป็นอิสระต่อกัน ถ่ายทอดด้วยความต่อเนื่อง และมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แจกแจงออกมาให้สัมผัสได้ดี เครื่องดนตรีประเภทไวโอลิน วิโอล่า และเครื่องสายอื่นๆ ถ่ายทอดออกมาละเอียดละเมียดละมัย
เครื่องสายในวงออเคสตรา ตัวเสียงมีความชัดเจน กระจ่าง ต่อเนื่อง หางเสียงทอดตัวยาวนานและทิ้งระยะไว้ตามจังหวะเวลาจึงค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบรื่น ไม่มีอาการขึ้นขอบคมแข็งของหางเสียง ให้ความกังวานแต่ไม่มีเสียงก้องสะท้อนแบบแอคโค่ [The Symphonic Sound Stage D/CD3502] รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงเด่นชัด เสียงกีตาร์ในจังหวะตวัดนิ้วลงไปสะท้อนกลับมารวดเร็วพร้อมให้น้ำหนักในการตวัดมือส่งเสียงออกมาต่อเนื่อง จังหวะช้าและเร็วสามารถแบ่งแยกออกจากกันได้ดีเยี่ยม จำแนกไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่น [Livinton Tyler : Ink/Chesky Record JD162] ปลดปล่อยเสียงแผ่วเบาโดยไล่น้ำหนักเสียงให้ราบรื่น เด่นมากกับความต่อเนื่องของเสียงและหางเสียงค่อยๆ จางหาย
เสียงขับร้องอัลบั้มยอดนิยม [Famous Blue Raincoat/Jennifer Warnes Private Music] เสียงขับร้องสะอาด แก้วเสียงใสอุดมไปด้วยความหวานอยู่ตลอด ให้บรรยากาศดีเยี่ยม บรรยากาศนำเสนอมาพร้อมกับรายละเอียดของชิ้นดนตรี ฟังได้ไพเราะเพลิดเพลิน ไดนามิกคอนทราสต์โดดเด่นมากขึ้น การผ่อนหนักผ่อนเบาของเสียงขับร้องรวมไปถึงเสียงลมหายใจ สัมผัสได้ดี โดยให้ความสมดุลกลมกลืนกัน เช่นเดียวกับอัลบั้มขับร้องของ [Amanda Mcbroom : Dreming/Gecko Record] ให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงได้โดดเด่น หางเสียงทอดตัวได้ยาวจึงค่อยๆ จางหาย ให้น้ำหนัก ผ่อนหนักผ่อนเบาได้ดี เนื้อเสียงย่านกลางทุ้มไปจรดทุ้มลึกเด่นขึ้น? มายังไงกัน?
เพลงขับร้องจาก [Clair Marlo : Let It Go Sheffield Lab CD29] เสียงขับร้องไพเราะ ออดอ้อนมีลีลา สเกลเสียงตามขนาดตามสัดส่วนสมดุลกัน บรรยากาศรอบตัวเสียงสัมผัสได้ดีเยี่ยม ให้ชีวิตชีวาในการขับร้อง ขับร้องออกมาด้วยลีลาและเน้นความต่อเนื่องของเสียง ให้รายละเอียดของการขับร้องเด่นชัดและสะอาดเกลี้ยงเกลา เป็นเสียงต่อเนื่องที่ให้ความเพลิดเพลินในการฟัง ไล่เรียงลำดับเสียงตั้งแต่หัวเสียง ตัวเสียงและหางเสียง ตามท่วงทำนองให้สอดคล้องกัน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ละแถวเด่นชัด อัลบั้ม [Snow Rose Ax-SN04.01] ถ่ายทอดอารมณ์ในการนำเสนอออกมาดีมาก หางเสียงที่มีอาการซิบๆ ลดน้อยและกลมกลืน สัมผัสได้ตามการบันทึกมาของแผ่น ตัวเสียงชัดเจนสะอาดเกลี้ยงเกลาพร้อมความเข้มข้นของฐานเสียงอยู่เสมอ
เสียงขับร้อง [Livinton Tyler : Ink/Chesky Record JD162] ตัวเสียงขับร้องกังวานและชัดเจน สเกลเสียงเครื่องดนตรีสมดุลกลมกลืนกัน ตัวเสียงเด่นชัดหลุดลอยแยกออกจากพื้นเสียง ให้บรรยากาศห้อมล้อมอยู่ต่อเนื่อง การกำหนดลมหายใจเข้าออกสัมผัสได้ดี เสียงแผ่วเบาและเสียงสวิงดังขึ้นนำเสนอมาต่อเนื่อง ชี้ชัดไดนามิกคอนทราสต์ได้ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับเสียงขับร้องในแทร็ก 6 อัลบั้ม [Art For The Ear/Burmester CD III] เสียงขับร้องให้มวลเสียงดีขึ้น น้ำหนักเสียงเด่นชัด การร้องประสานเสียงแยกแยะอิสระ ระดับเสียงของนักร้องทั้งหมดแจกแจงได้ดี หางเสียงจากการขับร้องจางหายไปอย่างราบรื่น การสไลด์สายกีตาร์และการรูดสายกีตาร์แบ่งแยกคอนทราสต์ได้โดดเด่น เปิดเผยลีลาโดยย้ำเน้นความหนักเบา ความอ่อนแก่ของการเล่นกีตาร์ได้ยอดเยี่ยม
มาถึงคุณสมบัติโดยตรงอีกเรื่องหนึ่งของ Bastoni Panel เสียงดับเบิลเบสของอัลบั้ม [The Raven/Rebecca Pidgeon Chesky Records JD115] ให้มวลเสียงสมดุลมากขึ้น ไม่ใช่เป็นการดูดเสียงเบส แต่เป็นการกักเก็บเสียงไว้แล้วจึงส่งถ่ายเสียงเบสออกมาในแนวทุ้มลึกและขนาดที่ใหญ่กลมกลึงกัน ทำหน้าที่เก็บเนื้อเสียงไว้แล้วปล่อยออกมาตามเวลาที่ Bastoni จูนไว้ เนื้อเสียงใหญ่พอเหมาะและกลมกลึงควบแน่นพอประมาน การเล่นดับเบิลเบสสอดคล้องกับเสียงขับร้อง เบสสะอาด เสียงเดินเบสในแต่ละเส้นให้จังหวะสอดคล้องกับเปียโนและเครื่องเคาะ ตัวเสียงเคลียร์มาก หางเสียงแต่ละตัวหลุดลอยไม่ปะปนกัน ช่องว่างช่องไฟยิ่งโดดเด่น ไม่มีการซ้อนทับบดบังกัน ในจังหวะที่ตัวโน้ตเงียบก็เงียบสนิทจนสามารถแสดงความสะอาดของพื้นเสียงได้อย่างเด่นชัด เป็นไปตามหลายๆ ทฤษฎีที่กล่าวไว้ว่า ถ้าควบคุมเบสได้ดี รายละเอียดเสียงกลางและแหลมจะยิ่งเด่นชัดและสะอาดมาก
เสียงทุ้มจากเหล่าเครื่องดนตรีไม้ ทั้งเสียงแรกกระทบและเสียงสะท้อน สัมผัสได้เด่นชัด ยังคงนำเสนอเสียงให้เสมือนเสียงเคาะไม้เช่นเดิม เพิ่มเติมด้วยรายละเอียดของตัวเสียง เนื้อเสียงและหางเสียงที่ถูกเรียบเรียงให้เป็นระเบียบเป็นระบบและสุภาพ เนื้อเสียงเกลี้ยงเกลา พื้นเสียงสะอาด มีความสงัดเพิ่มขึ้น จึงสัมผัสรายละเอียดทั้งเล็กและใหญ่ได้ดีเยี่ยม เมื่อพิจารณาด้านคุณภาพที่อุปกรณ์ Bastoni Panel สามารถปรับจูนเสียงได้มากเท่านี้ เสียงต่างๆ ถูกขับดันออกมามากมายและละเอียด ทั้งหัวโน้ต ตำแหน่ง น้ำหนัก มันสามารถสร้างเสียงดนตรีให้เข้าถึงเบื้องลึกของการฟังได้เพลิดเพลิน แม้ราคาค่างวดชุดที่ใช้งานจะมีราคาไม่สูงเกินไป เมื่อได้ปรับแต่งอะคูสติกบ้าง ชุดเหล่านี้จะแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้อีกมากทีเดียว
อัลบั้มอ้างอิง [Rain Forest Dream/Saydisc CD-SDL384] เสียงแรกกระทบทุกจังหวะของการหวดไม้กลองลงไปกระชับกลมกลึงควบแน่นเด็ดขาด การหวดไม้กลองในจังหวะแรกเฉียบขาดรุนแรง ให้แรงปะทะแรกดีเยี่ยม เสียงกลองใบใหญ่จาก [Ultimate Reference CD/Wilson Audio WA8008] เสียงหนังกลองตึงกำลังดี มีเสียงสะท้อนจากเสียงแรกกระทบออกมาให้สัมผัสได้ดีและไม่ก้องสะท้อนหรือห้วนสั้น ส่งถ่ายความถี่เสียงที่ต่ำลงลึกให้สัมผัสได้ดีมาก ให้ความเป็นดนตรี การสะท้อนและการซับเสียงที่ถูกออกแบบมาให้ลงตัว ทำให้การปรับแต่งตำแหน่งต่างๆ มีผลโดยรวมต่อเสียงที่กำลังฟังจับประเด็นได้โดยง่าย แต่นั่นก็ต้องพึ่งพา การฟังให้เป็นระดับหนึ่งเพื่อที่จะสามารถหาตำแหน่งที่ลงตัว ทั้งความสูงและตำแหน่งการติดตั้งแผ่น Bastoni Panel ของห้องฟังนั้นๆ
Bastoni Panel มีผลโดยตรงกับเรื่องการดักเสียงทุ้มไปเก็บและสะท้อนเสียงแหลมออกมา เน้นความต่อเนื่องโดยจัดระเบียนเวลาของแต่ละเสียงให้วิ่งไปพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลของเสียง อีกทั้งลดการสะท้อนของหางเสียงที่ไม่เป็นระเบียบ เมื่อเป็นเช่นนี้ การพิจารณาจังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้อัลบั้มเดิม [Take’Dake’ With Neptune/Aisian Roots Denon USA] ยังคงแจกแจงการเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้มีจังหวะต่อเนื่อง ไม่ปะปนกันของเสียง จำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาด้วยความรวดเร็ว ให้เสียงสะท้อนจากการเคาะ การเป่า แทร็กที่ 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik Wie Von Einem Anderen Stern/Manger] ตัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงไม่ปะปนกัน แยกแยะมิติตำแหน่งของแต่ละเสียงให้เด่นชัดออกมาเป็นอิสระต่อกันพร้อมจางหายไปอย่างราบรื่น ฟังได้ยาวนานด้วยความเพลิดเพลินพร้อมจังหวะจะโคนต่อเนื่อง ยิ่งฟังนานๆ ยิ่งเกิดความสนุกสนานไปพร้อมกับจังหวะของการนำเสนอ
แนวเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง แทร็ก 7 อัลบั้ม [Art For The/Ear Burmester CD III] ให้จังหวะที่ดี ตำแหน่งชัดเจน ขนาดของเสียงแต่ละตำแหน่งให้ความสมดุลกันมาก เต็มวงเต็มพื้นที่ ช่วงโหมโรงขึ้นไปไม่มีเสียงฟุ้งปะปนกัน ทุกช่วงของการกำหนดลมหายใจนำเสนอออกมาให้ได้ยินด้วยความละเอียดสุภาพและชัดใส แนวเพลงดนตรีมากชิ้นสลับซับซ้อนตอบสนองจำแนกได้ต่อเนื่องยอดเยี่ยม เกรนเสียงละเอียดทำให้ฟังได้ยาวนานและสร้างความเป็นดนตรีได้ดี จำแนกแยกแยะแต่ละแถวได้เด็ดขาด วางชิ้นดนตรีนับร้อยให้มีตำแหน่งและตรึงไว้แน่นสนิทมาก
สุดท้ายกับบทเพลงไทยอัลบั้มหลากหลายศิลปิน ซึ่งแต่เดิมฟังได้ดีพอประมาณ เมื่อปรับจูนด้วย Bastoni Panel แล้ว ใส่อัลบั้มไหนเข้าไปก็ฟังได้ครบอัลบั้มอย่างไพเราะมาก หากเป็นเพลงร้องก็ออดอ้อนพิรี้พิไร หวานใสไพเราะ สะอาด หากเป็นแนวเพลงที่เครื่องดนตรีมากชิ้นหน่อย แยกแยะออกมาอิสระ บรรเลงด้วยความหวานกังวานใสไพเราะเพลิดเพลิน ให้รายละเอียดได้ดี เน้นเรื่องบรรยากาศและความต่อเนื่องของการถ่ายทอดทางด้านอารมณ์ของดนตรี เสียงที่ได้รับสร้างความประทับใจและคงต้องใช้งานต่อเนื่อง แบบที่เรียกว่า “อยู่ยาว” ยิ่งเมื่อห้าสหายของ ASC (Tubetrap, Sound Panel, PCAD Panel, Matrix Panel, Bastoni Panel) มาร่วมใช้งานด้วยกันอยู่แล้ว ยิ่งยากที่จะยกชิ้นใดชิ้นหนึ่งออกแน่นอน!!!
บทสรุปหลังการใช้งาน
ผมยังยืนยันคำเดิมเกี่ยวกับการเล่นเครื่องเสียง ซึ่งชุดเครื่องเสียง ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเครื่องเล่นหลัก บ้างก็ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์เสริม ทั้งสายไฟฟ้า สายเชื่อมต่อและอุปกรณ์วางทับ ฯลฯ ทุกอย่างในชุด ล้วนเป็นองค์ประกอบรวม หากทุกอย่างปรับปรุง แมตชิ่งกันลงตัวแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการปรับแต่งอะคูสติกของชุดฟังเพลง ซึ่งปัจจุบันการฟังเพลงในห้องทั่วไป ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเป็นห้องฟังเพลงโดยเฉพาะ ใช้ที่อยู่อาศัยจริงในการฟังเพลง อุปกรณ์ปรับอะคูสติกจึงจำเป็นมาก หากต้องการยกระดับการฟังเพลงหรือรีดประสิทธิภาพของชุดฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น อุปกรณ์จูนห้องเหล่านี้ จึงมีบทบาทในการยกระดับและเติมเต็มชุดฟังเพลง ซึ่งมีราคาตั้งแต่ไม่กี่หมื่นบาทไปยันชุดฟังเพลงระดับอัลตร้าไฮเอนด์หลักล้านบาทกันเลยทีเดียว
อีกทั้งห้องฟังที่ดัดแปลงจากบ้านพักอาศัยในปัจจุบันนั้น มีขนาดไม่ใหญ่และมีการก้องการสะท้อนของเสียงอยู่มาก มีผนังที่ใช้วัสดุแตกต่างกัน มีปัจจัยในแง่การซับเสียงและสะท้อนเสียงแตกต่างกัน ครั้นจะออกแบบห้องใหม่ ขนาดและสัดส่วนของตัวบ้านก็ไม่ลงตัวตามสเปกตามแบบที่จะได้ห้องฟังดีๆ สักห้อง การใช้อุปกรณ์ปรับจูนเสียงสะท้อนและซับเสียงจากห้องฟังนั้น จึงเป็นการลงทุนที่สะดวกและใช้งบประมาณสมเหตุสมผล แต่หากใช้ผิดแบบ เลือกผิดประเภท วางไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ควร อาจกลายเป็นเสียมากกว่าได้ก็เป็นได้เช่นกัน
สำหรับ ASC Bastoni Panel นั้น ช่วยปรับปรุงสภาพอะคูสติกของห้องฟัง ทำหน้าที่ทั้งซับและสะท้อนเสียง เน้นการสะท้อนในระดับ 85% และกักเก็บพลังงานเสียงทุ้มไม่ให้รบกวนเสียงแหลมที่สะท้อนออกไป มันคืออุปกรณ์ชั้นดีอีกหนึ่งประเภท ยิ่งห้องที่ควบคุมเสียงกลางต่ำและเสียงทุ้มได้ยาก และห้องที่ประเภทเสียงทุ้มหลุดลอยหนีไปตามช่องตามพื้น ตามฝ้าเพดาน ฯลฯ Bastoni Panel มีบทบาทในเชิงพระเอกของห้องกันเลยทีเดียว ส่งผลให้ทุ้มลึกมีขนาดใหญ่โตในรูปแบบสมดุลกับเสียงอื่น และยังให้เสียงกลางและเสียงแหลมสดใส ชัดเคลียร์ ละเอียด จึงสัมผัสคอนทราสต์ได้ต่อเนื่องพร้อมเสียงเล็กเสียงน้อยสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น น่าเสียดายมที่งานเลี้ยงต้องเลิกรา มิฉะนั้น ผมจะนำเสนอบทความที่ 5 สหายของ ASC ที่ผมใช้งานอ้างอิง เมื่อรวมกันปรับจูนทั้งหมดแล้วจะเป็นอย่างไร
หากชุดเครื่องเสียงหลักของท่าน จัดชุดได้ค่อนข้างลงตัวหรือยังชอบลองเล่น ขยับปรับเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ อีกทั้งห้องในบ้านได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นห้องฟังเพลง ระยะนั่งฟังห่างผนังหลังไม่มากนัก ห้องมีชิ้นส่วนผนังแข็งที่สะท้อนเสียงหลายด้าน การจัดหาอุปกรณ์ปรับปรุงอะคูสติกมาร่วมใช้งานในชุด จากชุดที่เคยสัมผัสได้ดีอยู่แล้ว ท่านจะยิ่งสัมผัสความต่อเนื่องของเสียง เนื้อเสียง หางเสียงอันราบรื่น รูปวง คอนทราสต์ ที่โดดเด่นอย่างไม่เคยสัมผัสมาก่อน หรือจะนำมาออกแบบร่วมกับห้องฟังที่ออกแบบโดยเฉพาะก็ยังได้ ถ้าตัดสินใจเลือกใช้งานจริง ASC Bastoni Panel เป็นอุปกรณ์ปรับอะคูสติกชิ้นเล็กที่ทรงอิทธิพลในการควบคุมเสียงต่ำในระดับหัวแถว อาจมีราคาตึงมือไปบ้าง แต่เมื่อนำมาใช้ในห้องแล้ว ยากยิ่งนักที่จะยกออกไป และถ้ามีงบเรื่องนี้มากพอ แนะนำให้หา 5 สหายของ ASC มาร่วมจูนใช้งานครับ !!!!
“bluebird u11” “Recommend“
• รูปลักษณ์ : : ★★★★
• ความสะดวก : ★★★★
• คุณภาพเสียง : ★★★★★
• ความคุ้มค่า : ★★★★★
• คะแนนโดยรวม : ★★★★★
ขอขอบคุณ : บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ (1979) จำกัด | โทร. 062-551-2410, 0-2102-11-68 อนุเคราะห์ ASC Bastoni Panel สำหรับการในทดสอบครั้งนี้
_______________
