Test Report: อินทีเกรทแอมป์ / DAC HEGEL H160
“ทายาทซูเปอร์ไฮเอนด์”
“bluebird u11”
HEGEL จาก Oslo Norway เสริมทัพอินทีเกรทแอมป์ออกมาอีกรุ่น หลังจากรุ่นเรือธงได้สร้างความประทับใจและได้รับคำชื่นชมในระดับ 5 ดาว ไปก่อนหน้านี้
หลังจากทดสอบอินทีเกรทแอมป์รุ่นใหญ่สุดไปไม่นาน ผมมีข้อสงสัยกับอินทีเกรทแอมป์รุ่นอื่นๆ ของ HEGEL ว่าสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีเช่นเครื่องรุ่นใหญ่หรือไม่ อินทีเกรทแอมป์รุ่นเล็กกว่าอย่าง H200 จึงเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ในการสงสัย จะว่าไปแล้ว อินทีเกรทแอมป์ที่ออกมาช่วงเดียวกันกับ H300 เป็นเครื่องที่ผมสงสัยทุกเครื่องว่าสามารถถ่ายทอดความเป็นดนตรีในแบบฉบับเดียวกับ H300 ได้หรือไม่ ประเด็นดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการขอยืมเครื่องในรุ่นรองลงมา
HEGEL เป็นเครื่องเสียงจากนอร์เวย์แท้ๆ ที่ผลิตและออกแบบในประเทศ แน่นอนว่าการออกแบบและผลิตในนอร์เวย์เป็นจุดเด่นของเครื่องแน่นอน แม้ในช่วงเปิดตัวเครื่องออกมาจำหน่ายอาจไม่ใช่บริษัทฯ ยักษ์ใหญ่ระดับโลก แต่ HEGEL เองได้สร้างชื่อเสียงให้นักฟังทั่วโลกรู้จักกับแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้ ผมมั่นใจว่าในระยะยาว HEGEL ต้องมีเครื่องเสียงระดับใหญ่ระดับซูเปอร์ไฮเอนด์สุดขั้วออกมาได้ไม่ยากเย็นนัก อีกทั้งการพัฒนาการใช้งานให้รองรับรูปแบบดิจิตอลที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ ทำให้อินทีเกรทแอมป์ของ HEGEL เข้าไปอยู่ในกลุ่มฟังเพลงหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฟังเพลงแบบดั้งเดิมและกลุ่มฟังเพลงแบบมิวสิคเซอรฟเวอร์ทั้งหลาย
อินทีเกรทแอมป์ HEGEL จะฝังชุด DAC เข้ามาในเครื่อง เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น นี่อาจเป็นจุดเด่นที่ผู้ออกแบบตั้งใจออกแบบให้เป็นเช่นนี้ หรือไม่อาจเป็นเพราะ HEGEL มีความเชี่ยวชาญเรื่อง DAC เป็นเอกอยู่แล้ว จึงนำเข้ามาผนวกรวมกันในเครื่องและยังคงจำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย สำหรับอินทีเกรทแอมป์เครื่องล่าสุดที่ได้ขอยืมจากผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เปลี่ยนเป้าหมายจากรุ่นเดิม H200 เป็นอินทีเกรทแอมป์รุ่นล่าสุด H160 โดยทางกายภาพแล้วมีความละม้ายคล้ายกัน แตกต่างกันในรายละเอียดของกำลังขับบ้าง ด้วย H160 เป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด และครอบคลุมตลาดการใช้งานอยู่กว้างขวางมาก แต่อาจไม่เป็นการง่ายนักของตลาดอินทีเกรทแอมป์ในพิกัดนี้ เพราะคู่แข่งในตลาดมีให้เลือกอยู่ไม่น้อย คงต้องรอผลการใช้งานในลำดับต่อไปว่า H160 สามารถให้ความคุ้มค่าในตัวเองได้ถึงระดับใด
รูปลักษณ์และการใช้งาน
HEGEL H160 เป็นอินทีเกรทแอมป์รุ่นกลางที่ออกมาแบ่งระหว่างรุ่นระดับเริ่มต้นและรุ่นระดับสูงสุด หากมองอีกมุมหนึ่ง H160 เป็นรุ่นที่มีกำลังขับสอดคล้องกับลำโพงจำนวนมากในตลาดกลุ่มใหญ่ แบบว่าไม่ล้นมากเกินและไม่น้อยจนมีข้อจำกัดการใช้งาน HEGEL H160 ถอดแบบตัวเครื่องจากรุ่นใหญ่กว่า ทั้งเส้นสายและมุมโค้งมน ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องจากเกาะอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด ตัวที่ได้รับมานี้สีดำสนิทเช่นเดียวกับรุ่น H300 ออกแบบให้ใช้งานแนวทางยุคใหม่โดยติดตั้งภาค DAC มาในตัวเครื่องด้วย เรียกว่ารับสัญญาณดิจิตอลภายนอกได้หลายรูปแบบ ส่วนการใช้งานโดยปล่อยสัญญาณดิจิตอลให้ผ่านตัวเครื่องไปยังเครื่องต่อๆ ไปได้ พร้อมทั้งฟังก์ชั่นบายพาสสำหรับร่วมใช้งานกับระบบโฮมเธียเตอร์ที่ติดตั้งมาในรุ่น H300 สำหรับ H160 ไม่ได้ติดตั้งเข้ามาด้วย หน้าตาของตัวเครื่องมีเอกลักษณ์เหมือนกันในทุกๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็ยังใช้แพลทฟอร์มเดียวกัน
ด้านหน้าเครื่องของ HEGEL H160 มาในรูปแบบเดียวกันกับ H300 โดยวางปุ่มหมุนสองปุ่มไว้ทางซ้ายและขวาของหน้าปัทม์ ออกแบบด้วยระยะการวางเท่ากัน จึงทำให้ตัวแผงหน้าปัทม์ดูสมมาตรกลมกลืนกัน ส่งผลเรื่องความสมดุลทางสายตา พร้อมทั้งวางจอแสดงผลไว้กึ่งกลางแผงหน้าปัทม์ จอแสดงผลออกแบบตัวอักษรภายในด้วยสีน้ำเงินขนาดใหญ่ โดดเด่นและมองเห็นจากระยะไกล จอแสดงผลนี้แสดงสถานะอินพุทต่างๆ และระดับของวอลลุ่มในการเพิ่มและลดระดับเสียง ปุ่มหมุนด้านซ้ายของเครื่องเป็นปุ่มวอลลุ่มใช้งานเหมาะมือ แม้ขณะทำการหมุนจะไม่มีไฟแสดงผลที่ตัวปุ่ม แต่ที่หน้าจอมีตัวเลขบอกระดับควบคู่กันไป ใกล้ๆ กับปุ่มหมุนนี้มีช่องเสียบหูฟังแจ๊คขนาด 6.3 มิลลิเมตรไว้ให้ใช้งาน ส่วนปุ่มหมุนด้านขวาของตัวเครื่องที่มีขนาดเท่ากัน เป็นปุ่มเลือกอินพุทสัญญาณเข้าเครื่อง สามารถหมุนได้รอบตัวเอง ทั้งหมดของการสั่งงานนอกเหนือจากการสั่งที่หน้าปัทม์ ยังมีรีโมทคอนโทรลในการสั่งงานได้เกือบทุกฟังก์ชั่น
เมื่อมองจากด้านบนของตัวเครื่องลงไป จะเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของแผงหน้าปัทม์ ซึ่งกึ่งกลางแผงหน้าปัทม์จะโค้งออกให้สัมผัสได้ชัดเจน ด้านบนของตัวเครื่องออกแบบโดยใช้โลหะชุบสีดำนำมาพับปีกทั้งสองด้านให้เป็นด้านข้างของตัวเครื่อง พร้อมทั้งเจาะร่องระบายอากาศสามช่องกลางและอย่างละช่องทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ด้านข้างของตัวเครื่องทั้งสองข้างเรียบสนิท ยึดไว้ด้วยสกรูข้างละสองตัว ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องติดตั้งขารองรับเครื่องไว้ทั้งหมดสามขาแบบด้านหน้าเครื่องสองขาและด้านหลังเครื่องหนึ่งขาแตกต่างจากรุ่นใหญ่อย่าง H300 ที่ให้มาทั้งหมดสี่ขา รายละเอียดของตัวเครื่องทั้งด้านบน, ด้านข้างไม่มีอะไรพิเศษ ด้านล่างเจาะรูระบายความร้อนเป็นแถวแนวยาวและมองเห็นตำแหน่งยึดหม้อแปลง พร้อมติดตั้งสวิทช์เมนสำหรับเปิดไฟเข้าเครื่องไว้ด้านขวาบริเวณหน้าขายางรองรับเครื่อง
ด้านหลังของเครื่อง วางรายละเอียดไว้สองชุดใช้งานหลัก ชุดแรกเป็นการทำงานของอินทีเกรทแอมป์สามัญปกติทั่วไป อีกหนึ่งชุดเป็นชุดดิจิตอลอินพุท ซึ่งอินทีเกรทแอมป์รุ่นใหม่ในปัจจุบันนิยมใส่ภาค DAC เข้าไปในตัวเครื่อง H160 ก็มีเช่นกัน ชุดดิจิตอลอินพุทติดตั้งไว้ด้านล่างสุดของแผงหลังเครื่องด้านขวา มีให้เลือกอินพุทใช้งาน 3 ประเภท 5 ช่อง เริ่มจากอินพุทแบบ USB Type B, อินพุทแบบ Coax 1, อินพุทแบบลำแสง Optical 1,2,3 และมีช่อง Network ethernet แบบสาย LAN (RJ45) อีกหนึ่งช่อง สามารถใช้งานร่วมกับ Router รับส่งสัญญาณไปยัง iPad ในกรณีใช้งานแบบ Air play ใกล้ๆ กับชุดดิจิตอลอินพุทนี้ ติดตั้งขั้ว IEC แบบสามขาถอดออกได้ ด้านบนของปลั๊กดังกล่าวแปะสติกเกอร์ระบุเบอร์และรุ่นเครื่องไว้ชัดเจน เช่นเดียวกับด้านบนของช่องเสียบทั้งหมด สกรีนตัวอักษรไว้ชัดเจนเช่นกัน
ส่วนภาคอะนาลอก ออกแบบขั้วสัญญาณทั้งอินพุทและเอาท์พุทตามแนวตั้ง โดยกำหนดกึ่งกลางของเครื่องเป็นตำแหน่งติดตั้งขั้วต่อลำโพงไล่ไปทางด้านซ้ายของเครื่องจึงเป็นขั้วอินพุทสัญญาณอะนาลอก ขั้วต่อสายลำโพงติดตั้งมาหนึ่งชุดสองแชนแนล เป็นขั้วชุบทองเงาแวววาวและมีฉนวนใสห่อหุ้มด้านนอกไว้ กำหนดขั้วด้านบวกไว้ด้านบนและขั้วด้านลบไว้ด้านล่างตามแนวดิ่ง ถัดไปทางซ้ายของเครื่องเป็นตำแหน่งติดตั้งขั้วอินพุทแบบบาลานซ์ในแนวนอน ด้านบนของขั้วอินพุทอะนาลอกบาลานซ์นี้สกรีนตัวอักษรยี่ห้อและประเทศผู้ผลิตไว้ชัดเจน ส่วนสุดท้ายจึงเป็นขั้วอินพุทและเอาท์พุทอะนาลอกแบบอันบาลานซ์วางไว้ ซึ่งแบ่งเป็นสัญญาณอินพุท 2 อินพุทและเอาท์พุท 2 เอาท์พุท โดยอินพุทแรกเป็นไลน์อินพุทปกติส่วนอินพุทที่สองเป็นอินพุทของการใช้งานแบบโฮมเธียเตอร์ ส่วนช่องเอาท์พุทมีมาให้สองชุดเช่นกัน ชุดแรกเป็นเอาท์พุทแบบปรับระดับสัญญาณได้ อีกหนึ่งชุดเป็นเอาท์พุทแบบสัญญาณคงที่ เมื่อพิจารณาเรื่องสัญญาณอินพุททั้งหมด เสมือนว่า Hegel H160 มุ่งเน้นสัญญาณอะนาลอกไว้ราวๆ 40 % ของสัญญาณอินพุทแบบดิจิตอล
เมื่อพิจารณาด้านในของเครื่อง HEGEL H160 วางหม้อแปลงแบบวงแหวนขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวาของเครื่องและวางคาปาซิสเตอร์ทั้งหมดหกตัวทางด้านท้ายเครื่องแบ่งออกเป็นซีกซ้ายละซีกขวาข้างละสามตัว ส่วนชุดภาคขยายที่ติดตั้งไว้พร้อมครีบระบายความร้อนหันหน้าตัวครีบออกไปทางด้านหน้าของเครื่อง ภาค DAC จะวางไว้ด้านหลังหม้อแปลงชิดกับแผงเครื่องด้านท้ายสุด มีการไวริ่งสายไว้เรียบร้อยดี ซึ่งเลย์เอาท์ภายในของเครื่องมีการวางตำแหน่งแตกต่างจากรุ่น H300 คุณลักษณะพิเศษของอินทีเกรทแอมป์ HEGEL จากนอร์เวย์ เป็นการออกแบบวงจรพิเศษกว่าแอมป์ทั่วไปด้วยการใช้เทคโนโลยที่เรียกว่า Sound Engine เพื่อลดความเพี้ยนซึ่งได้ใช้เทคโนโลยีมาจากระบบโทรคมนาคม ซึ่ง Sound Engine นี้เป็นการป้อนกระแสล่วงหน้าเพื่อแก้ไขความผิดเพี้ยนแทนที่จะใช้ระบบป้อนกลับแบบลบทั่วๆ ไป และยังส่งผลให้ค่า Damping factor สูงมากถึง 1000
ส่วนพละกำลังขับและกำลังสำรอง HEGEL H160 ให้กำลังขับได้สูงและกำลังสำรองป้อนกระแสไปได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังผนวกภาค DAC เข้าไว้ในตัวเครื่อง เลือกใช้ทรานซิสเตอร์ความเร็วสูงทั้งหมด อีกทั้งใช้หม้อแปลงขนาดใหญ่ และคาปาซิสเตอร์ที่มีความจุสูง รองรับโหลดได้ต่ำถึง 2 โอห์มทีเดียว HEGEL H160 มาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลไร้สายที่ทำมาจากโลหะ จับถนัดมือและสั่งงานได้แม่นยำ บรรจุมาในกล่องกระดาษหนาสองชั้น ตัวเครื่องห่อพลาสติกหนาใสมาพร้อมกับการรองรับด้วย PE ฉีดขึ้นรูปทั้งบนและล่าง แยกกล่องเล็กด้านในใส่รีโมทคอนโทรลและสายไว้ มีคู่มือมาให้หนึ่งเล่ม นับว่าเป็นการบรรจุมาตามมาตรฐานเครื่องจากยุโรป
HEGEL H160 มีขนาดและสัดส่วน กว้าง 430 สูง 120 ลึก 410 มิลลิเมตร น้ำหนัก 19 กิโลกรัม นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท Discovery Hifi โทร 0-2102-2610, 0-2747-6710, ราคาโดยประมาณ บาท (มกราคม 2558)
ข้อมูลจำเพาะอินทีเกรทแอมป์ HEGEL H160
ช่องสัญญาณอะนาลอกขาเข้า 3 ช่อง RCA 1 ,BAL1, Home theatre 1
ช่องสัญญาณขาเข้าดิจิตอล 6 ช่อง Optic 3, Coax 1, USB 1, Ethernet
ช่องสัญญาณอะนาลอกขาออก 2 ช่อง Fix 1, Variable 1 (RCA)
สัญญาณเสียงต่อสัญญาณรบกวน มากกว่า 100 เดซิเบล
ตอบสนองความถี่ 5 Hz – 100 kHz
ความเพี้ยน @ 50 วัตต์ 8 โอห์ม 0.005 %
กำลังขับต่อเนื่องที่ 8 โอห์ม power output into 8 ohms 150 วัตต์/ข้าง
กำลังขับต่อเนื่องที่ 4 โอห์ม power output into 4 ohms 200 วัตต์/ข้าง
รองรับโหลดต่ำสุด 2 โอห์ม
หยุดการสั่งค้างกรวยลำโพง Damping factor มากกว่า 1000 @ 8 โอห์ม
กำลังไฟฟ้า Power Source AC 220 โวลต์ / 50-60 เฮิรตซ์
ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง
HEGEL H160 เครื่องนี้มีสภาพใหม่ไม่แพ้เครื่องรุ่น H300 ที่เคยได้รับมา หากมีการใช้งานมาบ้างแล้วคงใช้งานไม่มากนัก เมื่อใช้งานเครื่องในครั้งแรกยังไม่สามารถระบุได้ว่าเครื่องผ่านระยะเบิร์นอินไปหรือยัง ชุดเครื่องเสียงร่วมใช้งานในครั้งนี้มีอยู่สองชุดหลักด้วยกันดังนี้
ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี ARCAM : FMJ CD23 dCS Ring DAC plus HDCD, อินทีเกรทแอมป์เป้าหมาย HEGEL : H160, ลำโพง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง XAV : Pratiott prototype(Tweeter TDL) จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว, ขาตั้ง Partington Super Dreadnought สูง 24 นิ้ว สีแกรไฟต์ ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณดิจิตอลจากเครื่องเล่นซีดีไป DAC Optical Sony & Coaxial Furukawa Mu-p, สลับกับการใช้สายสัญญาณอะนาลอกจาก CD ไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Golden Reference (RCA) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร, สายลำโพง Cardas Cross Bi-wire สีเขียวท่อหดเทายาว 3 เมตร ต่อด้วยขั้วบานาน่า Monster X-Terminator, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Labs Katovator Lite เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 Evo Au ขั้วท้าย Wattgate 350 Evo Au ยาว 2.0 เมตร, สายไฟเอซี Cardas Audio : Clear Beyond Power Cord ยาว 2 เมตร เสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug) อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3
ชุดที่สองประกอบด้วยเครื่องเล่น SACD Accuphase : DP 550, อินทีเกรทแอมป์เป้าหมาย HEGEL : H160, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model One Signature ป้ายสีเงินโลโก้สีแดงรุ่นแรก, ลำโพง Wharfedale : Denton 80th Anniversary Limited Edition, ลำโพง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott prototype(Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน
สายสัญญาณอะนาลอกจาก SACD ไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Golden Reference (XLR) ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร, สายลำโพง Cardas Cross Bi-wire สีเขียวท่อหดเทายาว 3 เมตร ต่อด้วยขั้วบานาน่า Monster X-Terminator, สายไฟเอซีเครื่องเล่นซีดี JPS Labs Katovator Lite เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 Evo Au ขั้วท้าย Wattgate 350 Evo Au ยาว 2.0 เมตร, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) รองใต้ปลั๊กด้วย Acoustic Revive TB-38H จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Acoustic Revive Plug (Special Plug) อีกช่องเสียบสายไฟใช้งานเครื่อง Acoustic Revive RD-3 ด้านท้ายสายไฟเอซีทั้งหมดรองไว้ด้วยอุปกรณ์รองสาย Acoustic Revive PSA-100 ทุกจุดทุกเครื่อง พร้อมทั้งต่ออุปกรณ์จัดการระบบกราวด์ Acoustic Revive RGC-24 ไว้ที่อินทีเกรทแอมป์
เครื่องเล่น SACD จัดวางบนชั้นวางของ Target Audio : B1, อินทีเกรทแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Target Audio : PSF-1, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานฟอร์เมอร์วางก้อนอิทธิเจทับไว้หนึ่งก้อน และบริเวณโวลลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้หนึ่งก้อน พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณด้วยก้อนอิทธิเจ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com) สายลำโพงรองไว้ด้วยตัวรองสาย Cable Insulater Acoustic Revive RCI-3H ข้างละสองตัว ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วยบล็อคไม้ Cardas ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรทแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic Revive : QR8 ทั้งหมดแปดจุดแปดตัว
ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์ซับสะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมดสี่แผงและปรับแต่งอคูสติคเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมดสี่คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพงสองคู่ ด้านข้างลำโพงสองคู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ HIFI Club หนึ่งคู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่(สีเทา) รูมจูน Michel Green อีกหนึ่งคู่วางจูนไว้ด้านหลังห้อง(สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ. จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้งสามตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย,ขวาและกึ่งกลางอย่างละหนึ่งตัวเอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนซ์วางไว้กึ่งกลางแผงหลังอีกที ส่วนแผงด้านข้างทั้งสองแผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง HIFI HOUSE) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก และวางเครื่องกำจัดคลื่นรบกวน Acoustic Revive RR-777 ไว้ด้านบนกึ่งกลางแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังลำโพง เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับห้องฟังห้องนี้
ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 เมตร ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 เมตร โทอินลำโพงไม่เกิน 20 องศา โดยประมาณ(เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซด์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน
ข้อสังเกตการณ์ใช้งาน
– แม้จะเป็นเครื่องจากยุโรป แต่การออกแบบขั้วอินพุท XLR กำหนด Pin 2 เป็น + เช่นเดียวกับการออกแบบเครื่องจากอเมริกา ขอให้เช็กเฟสสัญญาณของการเชื่อมต่อระหว่างขั้ว Pin 2 และ Pin 3 หากไม่ตรงเฟสสัญญาณอาจต้องลองกลับเฟสจากสายลำโพงและทดลองฟัง
ผลการลองฟัง
HEGEL H160 เข้าประจำที่และต่อร่วมใช้งานกับเครื่องเล่น SACD ระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ น้ำเสียงช่วงแรกกระจ่างใสและนำเสนอความชัดเจนออกมาให้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง จนบางครั้งสัมผัสถึงความคมชัดและเสียดแทงหูอยู่บ้าง ด้านมิติและตำแหน่งต้องถือว่ายอดเยี่ยมตรึงไว้แน่นสนิท อีกทั้งดึงชิ้นดนตรีตามรูปวงให้เข้าไปสุดโถงอย่างง่ายดาย ด้านเนื้อเสียงทุ้มสัมผัสถึงความบอบบาง ไม่มีเนื้อเสียงและฐานเสียงเติมเข้ามา นี่เป็นช่วงแรกของการตั้งเครื่องเข้ากับชุดอ้างอิงประจำ ทำให้ทั้งน้ำเสียงเริ่มแรกและการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์กระทบถึงการนำเสนอนี้ก็เป็นได้
ดังที่เรียนให้ทราบ H160 ให้รายละเอียดเสียงออกมามากพอควร เน้นไปทางโปร่งและไม่มีเนื้อเสียงเท่าใดนัก แต่ไม่ถึงกับไม่ส่ออาการเสียงดิจิตอลจ๋าออกมา ยังคงนำเสนอให้ฟังได้โดยไม่สร้างความรำคาญ ในบางครั้งยังขาดพละกำลังและเนื้อเสียงที่ควรจะเป็น สัดส่วนของรูปวงกว้างขวาง รักษาระดับของวงตั้งแต่แถวแรกหน้าลำโพงถอยร่นลงไปเรื่อยๆ จนสุดแนวโถงของห้องฟัง เสียงกลางชัดเจนในแนวทางปราดเปรียว ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวมา สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่า HEGEL H160 ยังคงต้องการระยะเวลาในการใช้งานอีกนานพอควร หากรีบด่วนตัดสินใจ ณ.ตอนนี้ คงไม่ใช้เนื้อแท้ของบุคลิกอินทีเกรทแอมป์เครื่องนี้เช่นเดียวกับเครื่องรุ่นพี่อย่าง H300
การใช้งานจึงดำเนินต่อเนื่องไปตามปกติ ทั้งการใช้งานด้วยการฟังเพลง สลับช่องอินพุททั้งแบบบาลานซ์บ้าง อันบาลานซ์บ้าง นอกเหนือจากการฟังเพลงใช้งานตามปกติแล้ว การเบิร์นอินด้วยแผ่นเบิร์นอินของ PURIST AUDIO REV-B สลับเบิร์นอินหลังการใช้งานอยู่ตลอด ทำเช่นนี้ไประยะเวลาหนึ่ง จวบจนเวลาผ่านพ้นหนึ่งร้อยชั่วโมงเศษ ความเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานครั้งแรกเริ่มมีความแตกต่างจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายละเอียดของเสียงขับร้อง เสียงเครื่องเคาะโลหะ เสียงแหลมจากการเขย่าเครื่องดนตรี เสียงทุ้มที่ปลดปล่อยมวลมีเนื้อเสียงให้ออกมาสัมผัสได้ดีขึ้น หลายประเด็นเหล่านี้ สามารถหลอมรวมให้ HEGEL H160 ถอดแบบความประทับใจจากรุ่นพี่ได้มากทีเดียว
เมื่อใช้งานเสียบไฟเข้าเครื่องแต่ยังไม่เปิดสวิทช์เมน ตัวเครื่องปกติทุกอย่าง ไม่มีความร้อนหรือความอุ่นออกมาจากเครื่อง เสมือนเครื่องไม่ได้ทำการเปิดใช้งานแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากเครื่องบางยี่ห้อที่เสียบไฟเข้าเครื่องแล้วจะมีการอุ่นเครื่องอยู่ตลอดเวลา เมื่อตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะนี้ การใช้งานเริ่มต้น ของการเปิดเครื่องในครั้งแรกอาจต้องให้เวลาเครื่องถึงอุณภูมิการทำงานเสียก่อนเสมือนการทำงานของวงจรไฟฟ้าเกือบทุกๆ ชนิดที่จะพร้อมเมื่ออุณภูมิของตัวนำและกระแสเข้าชาร์จเต็มที่
ว่ากันด้วยรูปวงในการนำเสนอ ให้สัดส่วนความสูงต่ำได้ดี พร้อมทั้งกำหนดชิ้นดนตรีไว้แม่นยำ ช่วงที่ใช้กระแสสูงสามารถตอบสนองให้กำลังขับ ขับดันลำโพงอย่างรวดเร็ว บ่งบอกขุมพลังที่มีมากในการขับดันลำโพง ช่วงที่ต้องการกระแสสูงตอบสนองด้วยความรวดเร็วต่อเนื่อง ความสูงเครื่องเป่าจำพวกแซกโซโฟนม้วนเสียงลงจนเกือบจรดพื้นแล้วล่องลอยไปจรดเพดาน ตัวเสียงชัดใสเป็นประกายประกอบกับความกระฉับกระเฉงตลอดทำนอง พร้อมบรรยากาศรอบตัวเสียง [Arne Domnerus : Antiphone Blues / proprius PRCD 7744] ในแนวทางโปร่งใส
ด้านกว้างของรูปวงขยายตัวออกไปจรดผนังทั้งสองข้างเป็นสัดส่วนสมดุลกับด้านลึก โดยด้านลึกให้แถวแรกตรึงตำแหน่งไว้หน้าลำโพง จึงจัดระเบียบแถวที่สองและสามและแถวต่อๆ ไปด้วยระยะสมดุล เมื่อเทียบเคียงกับรูปวงด้านกว้างและด้านลึกสมดุลสอดคล้องกัน ช่องไฟในแต่ละแถวแต่ละชั้นดนตรีแยกแยะจำแนกชิ้นดนตรีออกจากกันได้ดี เป็นการแยกแยะชิ้นดนตรีและเสียงขับร้องโดยรักษาสเกลของชิ้นดนตรีกับเสียงขับร้องให้มีขนาดสมดุลกับรูปวงทั้งสองด้าน อัลบั้ม [Now the Green Blade Riseth / proprius PRCD 9093] บ่งบอกประเด็นเหล่านี้ได้ดี รูปวงที่ได้ใหญ่โตโอ่โถง ฉายความเป็นสามมิติของเสียงด้วยความโดดเด่น
แนวขับร้องประสานเสียงประเภทเพลงสวด [Now the Green Blade Riseth / proprius PRCD 9093] ให้มวลเสียงสมดุลกลมกลืนกันมาก ตัวเสียงให้ความกระจ่างสดใส ไม่มีสีสรรของบุคลิกเครื่องมากเกินไป หากจะมีก็เพียงความสดใสและหางเสียงที่เป็นประกายเล็กน้อยเท่านั้น เติมบรรยากาศแนวทางโปร่งละเอียดเข้าร่วมทุกช่วงในการนำเสนอ จำแนกแยกแยะรายละเอียดทั้งหมดจากกัน เสียงขับร้องของนักร้องชาย นักร้องหญิง และเด็ก เด่นชัดสดใสมาก HEGEL H160 ให้เกรนเสียงเข้าข่ายละเอียด ฟังด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลินยาวนาน มีความเป็นอะนาลอกอยู่ในแนวทางดิจิตอล พร้อมความสดใสและรายละเอียดที่ระยิบระยับ
เครื่องเคาะโลหะของอัลบั้มดั้งเดิม [DAFOS / REFERENCE RECORDINGS RR-12CD USA] แทร็คเจ็ดตรึงตำแหน่งและมิติเครื่องเคาะทั้งหมดไว้แน่นสนิท จำแนกแต่ละชิ้นดนตรีออกมาเด็ดขาด ย้ำเน้นหัวโน้ตให้ฉับไวชัดคม หางเสียงไม่ห้วนสั้น แทร็คนี้แสดงผลทั้งมิติ ตำแหน่ง ช่องไฟ รวมไปถึงพละกำลังในการอัดฉีดได้รวดเร็วครบครัน เมื่อพิจารณาในแทร็คเดียวกันเรื่องกำลังขับ ไม่มีการอั้นและอ่อนแรงจากการอัดฉีดกระแส เสียงทั้งหมดในการถ่ายทอดออกมา ออกแนวไปทางคึกคักแต่ไม่ถึงกับเครื่องสไตล์ดุดันบ้าระห่ำ ให้ความกระจ่างโปร่งใสเฉกเช่นเครื่องจากยุโรป โดยไม่ละทิ้งบุคลิกดั้งเดิมของเครื่องเสียงจากนอร์เวย์
ความกังวานของเสียงเปียโนและเครื่องเคาะโลหะต่างๆ ให้ความกังวานพร้อมรายละเอียดในตัวเสียงใสดุจคริสตัลโปร่งแสง บรรยากาศรายรอบตัวเสียงเคล้าคลอในแนวโปร่งใสสะอาด นำเสนอออกมาให้ฟังได้เพลิดเพลินเสมือนเป็นเสียงการเคาะเปียโนแบบฉบับเสียงดนตรีจริง เน้นความชัดใสและมีฐานเสียงเพิ่มเติมมาเล็กน้อย ตัวเสียงสะอาดเกลี้ยงเกลา [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] จังหวะแรกของเครื่องดนตรีให้แรงปะทะออกมาชัดเจนและหางเสียงทอดตัวไปไกลตามจังหวะเวลา ย้ำเน้นจังหวะแรกกระทบด้วยความเด็ดขาด หลังจากจังหวะแรกกระทบแล้ว มวลเสียงทั้งหมดควบแน่นกลมกลึงเหมาะสม ทอดหางเสียงไว้ตามท่วงทำนอง จึงค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบรื่น
ย่านเสียงแหลมของบรรดาเครื่องสายและเครื่องสีนับว่าเป็นจุดเด่นไม่น้อย อัลบั้ม [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] ถ่ายทอดออกมาด้วยความกังวานบนพื้นฐานความสุภาพพอประมาณ หางเสียงสดใสทอดตัวไปไกลและยาวนานตามจังหวะพร้อมเติมเนื้อเสียงให้เข้มข้นเล็กน้อย จึงเป็นสมดุลเสียงที่เริ่มลงตัว ความกังวานนี้ยังกำหนดและควบคุมลีลาไว้ตลอดทำนอง เสียงการบดขยี้ไวโอลินเข้มข้นดุดัน หางเสียงทอดยาวเป็นอิสระต่อกันและมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ถ่ายทอดออกมาสม่ำเสมอ รายละเอียดของเสียงจำแนกแยกแยะออกมาด้วยความอิสระ ให้จังหวะจะโคนแม่นยำ เครื่องดนตรีประเภทไวโอลิน วิโอล่า และเครื่องสายอื่นๆ ถ่ายทอดออกมาด้วยความชัดใสละเอียดแตไม่ถึงกับละเมียดละมัยและละเอียดราวผงแป้ง
เครื่องสายในวงออเคสตร้าโดดเด่นมาก น้ำเสียงหวานใสตลอดทำนอง หางเสียงทอดตัวไปไกลและทิ้งระยะไว้จึงค่อยๆ จางหายไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการขึ้นขอบคมแข็งของปลายเสียง ให้ความกังวานบนความชัดใส [THE SYMPHONIC SOUND STAGE D/CD3502] รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงเด่นชัด เสียงกีตาร์ในจังหวะตวัดนิ้วลงไปสะท้อนกลับมาด้วยความรวดเร็วน้ำหนักในการตวัดลงไปรุนแรง ช่วงจังหวะช้าและเร็วแบ่งแยกไดนามิกคอนทราสต์ได้ดี [Livinton Tyler : ink / Chesky Record JD162] นำเสนอเสียงแผ่วเบาให้ไล่น้ำหนักเสียงต่อเนื่องขึ้นไปตามจังหวะเวลา เด่นมากกับมวลเสียงที่มีขนาดเหมาะสมพร้อมความชัดเจนของตัวเสียงโดยไม่มีอาการขึ้นขอบ อีกทั้งไต่เพดานเสียงไล่ระดับขึ้นไปจนสุดปลายเสียงด้วยความรวดเร็ว
แนวเพลงขับร้องอัลบั้ม [SNOW ROSE Ax-SN04.01] ขับร้องด้วยน้ำเสียงสดใส ชัดเจน ไม่แหบแห้ง ให้ความจริงจังในการร้องเพลงเสมือนใส่ชีวิตจิตใจในการขับร้องเข้าไปด้วย มีความต่อเนื่องของเสียงขับร้อง หางเสียงในการนำเสนอยังพอมีความคมแข็งออกมาบ้าง จัดระเบียบของหางเสียงซิบๆ ให้ราบรื่นฟังได้เพลิดเพลินตามแนวดนตรี น้ำเสียงสะอาดเกลี้ยงเกลาพร้อมแฝงความหวานใสอยู่เสมอแม้จะไม่หวานหยดย้อยเท่ากับเครื่องคลาสเอ แต่ความหวานใสของ HEGEL H160 เหนือชั้นกว่าเครื่องคลาส AB ทั่วไปแน่นอน แจกแจงรายละเอียดคำว่าหวานใสได้ดีไม่เป็นรองกันอย่างเทียบกันไม่ได้ ความหวานประปรายนี้มากพอในการรับฟังเพลงขับร้องที่ให้ความเป็นดนตรีที่มีอักขระชัดเจน จึงฟังได้ยาวนานและตอบสนองกับแนวเพลงขับร้องได้ดี
กับเสียงขับร้อง อัลบั้ม [FAMOUS BLUE RAINCOAT / JENNIFER WARNES Private Music] เสียงขับร้องชัดใสพร้อมอมหวานใสประปรายอยู่เสมอ ให้บรรยากาศรายล้อมตัวเสียงบนพื้นฐานเสียงขับร้องในแนวสดใส เป็นอินทีเกรทแอมป์อีกหนึ่งเครื่องที่สร้างความชัดใสผสมปนกับบรรยากาศรายล้อมแนวทางเปิดโปร่งได้ดีเช่นนี้ รายละเอียดชิ้นดนตรีเคล้าคลอกับเสียงขับร้องด้วยความโดดเด่น เสียงขับร้องให้ไดนามิกคอนทราสต์เด่นชัดในตัวเสียง ยังนำเสนอการผ่อนหนักผ่อนเบาของเสียงขับร้องรวมไปถึงเสียงลมหายใจไล่ลำดับเสียงทั้งช่วงหายใจเข้าและหายใจออกชัดเจน
ยิ่งเป็นอัลบั้มขับร้องของ [AMANDA McBROOM : DREMING/Gecko Record] ให้บรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงโดดเด่นพร้อมปล่อยให้หางเสียงจางหายไปด้วยความราบรื่น มวลเสียงให้ขนาดพอเหมาะสมดุลกัน จังหวะแรกของเครื่องดนตรีประเภทนี้เปล่งเสียงออกมาส่งถ่ายแรงปะทะแรกย้ำเน้นเด็ดขาดชัดเจน จากนั้นจึงทอดตัวเสียงและปล่อยหางเสียงให้หลุดลอยเป็นอิสระต่อกัน เช่นเดียวกับเสียงขับร้องของ [CLAIR MARLO : LET IT GO Sheffield Lab CD29] ที่อมหวานใสอยู่เสมอ บรรยากาศรอบตัวเสียงขับร้องสัมผัสได้ต่อเนื่อง ให้ชีวิตชีวาในการขับร้อง ตอบสนองการขับร้องสอดคล้องกับชิ้นดนตรีอย่างมีลีลาและเน้นความชัดใสของเสียงร้อง ควบคุมน้ำหนักเสียงด้วยน้ำเสียงที่ต่อเนื่องของแต่ละย่านเสียงได้ดี ตอบสนองสัญญาณฉับพลันด้วยความรวดเร็ว โดยยังวางตำแหน่งไว้แม่นยำ ไล่เรียงลำดับเสียงตั้งแต่หัวเสียง ตัวเสียง และหางเสียงให้สอดคล้องตามเวลาและท่วงทำนอง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่ละแถวเด่นชัดให้รายละเอียดแบบจับต้องได้ดี
นักร้องชายยอดนิยมจากอัลบั้ม [Livinton Tyler : ink / Chesky Record JD162] ตัวเสียงขับร้องออกไปทางชัดใสและเข้มข้นพอเหมาะ สเกลเสียงดนตรีสมดุลกลมกลืนกัน ตัวเสียงเด่นชัดและทอดหางเสียงให้อิสระหลุดลอยออกไป หางเสียงเก็บตัวตามจังหวะเวลาสอดคล้องต่อเนื่องกัน ตัวเสียงขับร้องมีบรรยากาศห้อมล้อมในแนวสดใสอยู่เสมอ กำหนดลมหายใจเข้าออกชัดเจนพร้อมชีวิตชีวาและให้รายละเอียดปลีกย่อยออกมาในเชิงปริมาณ โดยนำเสนอด้วยการจำแนกแยกแยะคอนทราสต์ของเสียงขับร้องในทุกๆ คำร้องได้ดี เสียงแผ่วเบาและเสียงสวิงดังขึ้นทำได้รวดเร็วต่อเนื่องเด็ดขาด จำแนกทั้งทั้งไดนามิกและคอนทราสต์ของจังหวะเสียงขับร้อง และน่าจะเป็นจุดเด่นของเครื่อง H160 ที่ถ่ายทอดมาจากรุ่น H300 โดยดุษฏี
แนวทางเสียงขับร้องของนักร้องชายแทร็คที่หก [ART FOR THE EAR / Burmester CD III] เสียงขับร้องให้มวลเสียงและน้ำหนักเสียงยอดเยี่ยม หัวเสียงมีพลัง สเกลของปากนักร้องสมดุลกับชิ้นดนตรี การร้องประสานเสียงแยกแยะกันอิสระและไม่ล้ำหน้าเกินเสียงหลัก ระดับเสียงของนักร้องทั้งหมดอยู่ในรูปเวทีพร้อมตรึงตำแหน่งไว้แน่นสนิท หางเสียงนักร้องจางหายไปด้วยความราบรื่น การสไลด์สายกีตาร์และการรูดสายกีตาร์นำเสนอด้วยความเด่นชัดย้ำเน้นความหนักเบา อ่อน แก่ ของการเล่นกีตาร์ทุกๆ ท่วงทำนอง ให้ความเพลิดเพลินและไม่มีอาการเร่งรีบใดๆ รายละเอียดของแต่ละเสียงในแถวถัดไปไล่ลำดับและความชัดใสเด่นชัดในแนวทางชัดลึกไปสุดโถง ส่วนที่ลึกเข้าไปจนสุดโถงจำแนกรายละเอียดออกมาให้สัมผัสได้ดีเยี่ยม
เสียงดับเบิ้ลเบสจากอัลบั้ม [THE RAVEN / Rebecca Pidgeon Chesky Records JD115] ให้เนื้อเสียงไม่ใหญ่มากนัก ไม่ขยายสเกลและไม่นำเสนอให้เนื้อเสียงใหญ่โต การเล่นดับเบิ้ลเบสสอดคล้องกับเสียงขับร้องต่อเนื่อง ย่านความถี่เสียงต่างๆ สมดุลกลมกลืนกัน ขนาดทรวดทรงเสียงเหมาะสมยังคงความกลมกลึงของตัวเสียงนี้กับเสียงย่านอื่น การเดินเบสในแต่ละเส้นให้จังหวะสอดคล้องกับเสียงเครื่องเคาะ หางเสียงแต่ละตัวแยกแยะเป็นอิสระต่อกัน ช่องว่างช่องไฟเด่นชัดไม่มีการซ้อนทับบดบังกัน จังหวะตัวโน้ตเงียบก็ถือว่าเงียบพอประมาณ พื้นเสียงทั้งหมดเข้าข่ายสะอาด มวลเสียงทุ้มกลมกลึงแผ่ขยายให้สัมผัสได้
ว่าด้วยพละกำลังจากอัลบั้ม [Rain Forest Dream / SAYDISC CD-SDL384] เสียงแรกกระทบทุกจังหวะของการหวดกลองลงไปกระชับ ควบคุมกรวยลำโพงให้เคลื่อนที่ได้ตามจังหวะของเพลง ไม่มีการกระเพื่อมของกรวยลำโพงผิดแปลกจากจังหวะของเสียงกลอง ทุกครั้งที่หวดกลองลงไปยังคงรักษาสเกลและสัดส่วนไว้เช่นเดิม แสดงให้เห็นถึงการอัดฉีดกระแสจากตัวเก็บประจุและกำลังสำรองที่ออกแบบมาดี การหวดไม้กลองในจังหวะแรกเฉียบขาดรุนแรงมีแรงปะทะเด็ดขาด ไม่ยั้งมือในการหวด เสียงทุ้มย้ำเน้นหัวโน้ตได้ดีเยี่ยม เมื่อสิ้นสุดการหวดไม้กลองลงไปตัวเสียงควบแน่นกลมกลึงแบ่งแยกตัวเสียงตั้งแต่หัวเสียง ตัวเสียงหลัก หางเสียง สัมผัสได้ดีเยี่ยม ในทุกจังหวะของการหวดกลองลงไปแอมป์ยังอัดฉีดกระแสป้อนได้ดีอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าจ่ายกระแสกับลำโพงกินวัตต์ได้โดยไม่เกรงกลัว เป็นอินทีเกรทแอมป์รุ่นย่อมเยาว์ที่ขับดันลำโพงวางขาตั้งได้อย่างเมามันมากเครื่องหนึ่ง
เมื่อพิจารณาเสียงกลองใบใหญ่จากอัลบั้ม [Ultimate Reference CD/WILSON AUDIO WA8008] เสียงหนังกลองขึงมาตึงมาก ให้เสียงสะท้อนจากเสียงแรกกระทบด้วยความชัดเจน เสียงทุ้มไม่โด่งล้ำหน้าเสียงอื่นๆ ยังคงความสมดุลของย่านเสียงทุ้มนี้กับเสียงย่านอื่นๆ ได้เหมาะสม ขนาดของตัวเสียงทุ้มไม่ใหญ่โตและก็ไม่ถึงกับผอมบางจนไร้เนื้อเสียง ย้ำเน้นหัวโน้ตให้ฉับไวพอประมาณ แผ่ตัวเสียงออกไปครอบคลุมโถงของวงได้เต็มสเกลเต็มพื้นที่ ให้ความเป็นดนตรีสูงและฟังได้เพลิดเพลินพร้อมจังหวะจะโคนในนแนวทางกระฉับกระเฉง ด้วยกำลังขับและกำลังสำรองที่มากพอ การขับดันลำโพงวางขาตั้งกินวัตต์จึงเรียกว่าเอาอยู่ การถ่ายทอดเสียงทุ้มจากเหล่าเครื่องดนตรีไม้ มีทั้งเสียงแรกกระทบและเสียงสะท้อน นำเสนอออกมาจนครบถ้วน ทั้งหัวโน้ต ตำแหน่ง น้ำหนัก อัลบั้ม [TakeDake With Neptune : ASIAN ROOTS/Denon LC8723] เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่กล่าวอ้างประเด็นนี้ได้ดี HEGEL H160 เสมือนรถสปอร์ตรุ่นเล็กที่จัดจ้านกว่าซูเปอร์คาร์รุ่นใหญ่อย่าง H300
กับแนวเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง แทร็คเจ็ดอัลบั้ม [ART FOR THE / EAR Burmester CD III] ตอบสนองทั้งจังหวะรวดเร็ว ตำแหน่งชัดเจน ขนาดของเสียงแต่ละตำแหน่งให้ความสมดุลเสมอสมานกัน ช่วงโหมโรงขึ้นไปควบคุมตำแหน่งให้แน่นสนิท ทุกช่วงในการกำหนดลมหายใจนำเสนอออกมาให้ได้ยินด้วยความชัดใสบนพื้นฐานความสุภาพ แนวเพลงดนตรีมากชิ้นสลับซับซ้อนแยกแยะตอบสนองเด่นชัด เกรนเสียงละเอียดทำให้ฟังได้ยาวนานและรังสรรค์ความเป็นดนตรีในแนวทางอะนาลอกได้ดี จำแนกแยกแยะแต่ละแถวดนตรีได้เด็ดขาด กำหนดชิ้นดนตรีนับร้อยให้มีตำแหน่งและตรึงไว้แน่นสนิท
นับว่า HEGEL ผลิตและจูนเสียงในแต่ละรุ่นออกมาในแนวทางเดียวกัน แตกต่างกันตรงกำลังขับและออฟชั่นอินพุทที่แตกต่างตามวัตถุประสงค์ใช้งานบ้าง เป็นอินทีเกรทแอมป์ที่มีทั้งแนวเพลงขับร้องรวมไปถึงการอัดฉีดกระแสที่ตอบสนองเสียงกลองได้ดี กับจังหวะเวลาของเครื่องดนตรีอัลบั้ม [Take’Dake’ with Neptune / AISIAN ROOTS DENON USA] นำเสนอออกมาได้ดีไม่เป็นรองกัน การเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่ามีจังหวะรวดเร็วตอบสนองได้รวดเร็วพร้อมจำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาด้วยความเด่นชัด ให้เสียงสะท้อนจากการเคาะ การเป่า ยิ่งเป็นเสียงหนังกลองสะท้อนกลับมาชัดเจนรวดเร็ว สปีดพอดิบพอดีไม่ส่ออาการเรียบๆ เรื่อยๆ กับแทร็คที่ 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik wie von einem anderen Stern/MANGER] หัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงไม่ปะปนกัน แยกแยะมิติตำแหน่งของแต่ละเสียงให้เด่นชัดออกมาเป็นอิสระต่อกันและจางหายไปด้วยความราบรื่น ฟังได้ยาวนานด้วยความคึกคักและมีจังหวะจะโคนต่อเนื่อง ยิ่งฟังนานๆ ยิ่งเกิดความเพลิดเพลิน เป็นอินทีเกรทแอมป์ที่น่าจับตามองไม่น้อย
บทเพลงคุณภาพจากการรวบรวมเพลงของอัลบั้มพิเศษครบรอบ 12 ปี บจก.โมนาร์ชครีเอชั่น เป็นการรวมเพลงไพเราะจากค่ายแกรมมี่ เสียงขับร้องของคุณเจนนิเฟอร์คิ้ม, ซุปเปอร์สตาร์เบิร์ด ธงชัย, และอีกหลากหลายนักร้อง ขับร้องด้วยความไพเราะ ชัดกระจ่างใส ให้ความกังวานเปล่งความสดใสอยู่ตลอดการนำเสนอ เกรนเสียงร้อยเรียงให้ละเอียดพอประมาณหางเสียงรวมไปถึงรายละเอียดการบันทึกจำแนกออกมาเด่นชัด เสียงลมลอดไรฟันและบรรยากาศของแซ็กโซโฟนในการร่วมบรรเลงกับการขับร้องของเจนนิเฟอร์ คิ้ม แจกแจงทุกรายละเอียดออกมามาก นำเสนอคอนทราสต์ด้วยความเด่นชัดอยู่เสมอ
บทสรุป
HEGEL H160 เป็นอินทีเกรทแอมป์ที่ออกแบบและส่งลงสู่ตลาดโลกในกลุ่มใช้งานที่มีปริมาณมากเมื่อเทียบกับระดับเริ่มต้นและระดับไฮเอนด์สุดขั้ว เป็นรุ่นที่ออกมาเสริมและเติมเต็มไลน์อัพของอินทีเกรทแอมป์ของ HEGEL เอง และยังใส่ลูกเล่นของการร่วมใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น หากใช้งานประเภท Hi-Res โดยฟังผ่านไฟล์รายละเอียดสูง ผ่านจากเครื่องไอแพดและสมาร์ทโฟนทั้งหลาย ส่งสัญญาณให้ H160 โดยเพิ่ม Router แปลงสัญญาณเข้าไป เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานในรูปแบบดังกล่าวได้โดยง่าย ในครั้งนี้ผมเน้นเรื่องบุคลิกของเครื่องเป็นหลัก ฟีเจอร์นี้จึงไม่ได้อธิบายรายละเอียดการใช้งานและผลที่ได้มากนัก
อินทีเกรทแอมป์ HEGEL H160 ได้รับการถ่ายทอดหลายส่วนมาจากรุ่นเรือธงและรุ่นใหญ่กว่า โดยยังคงจุดเด่นเช่นเดียวกันในเรื่องเทคโนโลยีของการออกแบบวงจร ซึ่งใช้ Know How จากการจัดการเรื่องความถี่ของระบบโทรคมนาคม อีกทั้งปรับปรุงวงจรการทำงานให้ได้สิ่งพิเศษคือ Damping Factor สูงมากกว่าแอมป์ในระดับเดียวกันหลายเครื่อง และยังสามารถรองรับโหลดการใช้งานได้ต่ำถึง 2 โอห์ม พร้อมความเสถียรของตัวเครื่อง
HEGEL H160 โดดเด่นในหลายแง่มุมไม่ต่างจากรุ่นใหญอย่าง H300 ไม่ว่าจะเป็นเสียงขับร้องที่ชัดใส เสียงทุ้มจากมิดเบสที่มีระดับความดังและเนื้อเสียงที่โดดเด่น ดีฟเบสที่พอจะส่งถ่ายออกมาให้ต่อเนื่องกับเสียงทุ้มต้น นำเสนอออกมาได้ดีโดยไม่เน้นให้เสียงกระแทกจนห้วนสั้นเหมือนกับแอมป์ที่เน้น Damping Factor สูงๆ จนเสียงเข้าไปละม้ายกับเครื่องกลางแจ้ง เสียงแหลมจรดเสียงแหลมสูงสุดปลดปล่อยรายละเอียดออกมามาก แต่ยังไม่ละเอียดมากนัก หากเติมเต็มเรื่องรายละเอียดที่โดดเด่นนี้และจูนให้นวลเนียลขึ้นอีกหน่อย H160 ตัวนี้ยืนอยู่หัวแถวและยึดหัวหาดอินทีเกรทแอมป์ในราคานี้อย่างสบายๆ ประเมินผลในภาพรวม ถือว่าทำได้ดีในทุกๆ แง่มุมและตอบสนองแนวทางการใช้งานได้ทุกประเภทของแนวเพลง
ยิ่งแนวเพลงคลาสสิกวงใหญ่ สามารถจำแนกเครื่องดนตรีนับร้อยชิ้นให้ส่งถ่ายออกมาเด่นชัด ตรึงตำแหน่งแม่นยำ ด้านกว้างและลึกรวมถึงแนวสูงล๊อคตำแหน่งตามสัดส่วนได้ดี เรียกว่าเข้าไปใกล้เคียงแอมป์วงจรคลาสเอหลายเครื่อง ส่วนภาคดิจิตอลทูอะนาลอกที่ให้มาด้วย ไม่ถือว่าเป็นของแถมธรรมดาเท่านั้น ยังให้คุณภาพในการแปลงสัญญาณได้ดีไม่น้อยหน้าเครื่องเล่นซีดีระดับเริ่มต้น ยิ่งผู้ใช้งานนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นซีดีรุ่นเก่ายังสามารถเพิ่มคุณภาพเสียงและประหยัดการลงทุนเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ไปได้หลายบาทกันเลยเชียว
HEGEL H160 มีชื่อเสียงในประเทศไทยกับนักเล่นฯ ในแนวทางมิวสิคเซอฟเวอร์และ Hi-Res ทั้งหลาย ด้วยตัวแทนจำหน่ายเน้นการใช้งานในแนวทางคอมพิวเตอร์ออดิโอไฟล์ มาสเตอร์ดิจิตอลความละเอียดสูง แต่ผมเชื่อว่า อินทีเกรทแอมป์ HEGEL หลายๆ รุ่นมีอนาคตสดใสในประเทศไทย อีกทั้งราคาจำหน่ายเมื่อเทียบเคียงกับคุณภาพที่ได้รับ นับว่าถูกมาก ยิ่งเทียบกับเครื่องในพิกัดเดียวกันที่มีฟีเจอร์พอๆ กัน ท่านต้องควักเม็ดเงินจ่ายออกไปอีกไม่น้อย HEGEL H160 รุ่นนี้ เป็นเงาเสียงของรุ่น H300 อย่างกับฝาแฝด เพียงแค่จ่ายเงินน้อยกว่าเท่านั้นเอง !!
– รูปลักษณ์ 4½ ดาว
– สมรรถนะ 4 ½ ดาว
– คุณภาพเสียง 4 ดาว
– ความคุ้มค่า 4 ดาว
– คะแนนโดยรวม 4 ดาว
———————————————————————————————–
หมายเหตุ : ขอขอบคุณ บริษัท Discovery Hifi โทร 0-2102-2610, 0-2747-6710 ที่เอื้อเฟื้อ HEGEL H160 สำหรับการใช้งานในครั้งนี้