What HI-FI? Thailand

Test Report: สายลำโพงไบ-ไวร์ JPS Lab Superconductor Q Bi-Wire

Test Report: สายลำโพงไบ-ไวร์ JPS Lab Superconductor Q Bi-Wire

ละเอียด ร้องหวาน เพลิดเพลิน

“bluebird u11”

 

JPS Labs ผู้ผลิตเส้นสายในระบบโฮมยูสจากอเมริกา กลับมาเขย่าวงการเครื่องเสียงในประเทศ ตั้งแต่ราคาถูกจับต้องได้จนถึงขั้นซุปเปอร์ไฮเอนด์สุดขั้ว

ในประเทศไทยชื่อเสียงของ JPS Labs โด่งดังด้วยสายไฟฟ้ากระแสสลับสำหรับเดินเป็นสายเมน ด้วยความเหมาะสมทั้งด้านราคาและคุณภาพ สายไฟเอซีรุ่นโด่งดังนี้จึงสร้างชื่อเสียงให้เหล่าออดิโอไฟล์มักคุ้นกับ JPS Labs จนบางท่านเข้าใจว่าสาย JPS Labs มีเพียงสายไฟเอซีเท่านั้น ที่จริงแล้ว JPS Labs มีมากครอบคลุมการใช้งานทุกระดับราคาและอุดช่องว่างตลาดได้ครบถ้วนทีเดียว

เมื่อกล่าวถึงอดีต JPS Labs ในบ้านเรามิได้กล่าวขานสายประเภทอื่นๆ ของ JPS Labs เลย ทั้งที่มีสายเชื่อมต่อต่างๆ ที่มีคุณภาพต่อราคาเคียงคู่กัน จวบจนปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีด้านตัวนำและการวิจัยเพื่อให้ได้ผลเลิศตามเป้าหมายของ JPS Labs นั้นเข้มข้นจนถึงที่สุด ล่าสุดสายในไลน์อัพเวอร์ชั่นปัจจุบันก้าวกระโดดไปไกลจนเทียบเคียงสายยอดนิยมหลายยี่ห้อ อีกทั้งตัวแทนจำหน่ายปัจจุบันมีการทำตลาดเชิงรุก มีหน้าร้านจำหน่ายมากมายหลายสาขาอาจจะเรียกว่าเป็นผู้จำหน่ายเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยก็เป็นได้ ที่สำคัญผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงจนขายตัวเองได้ ราคาจับต้องได้ JPS Labs ในช่วงเวลานี้คงติดลมบนได้ไม่ยากนัก

ผลิตภัณฑ์ของ JPS Labs มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่สายไฟเอซีทั้งแบบสายเมน, สายไฟเอซีแบบสำเร็จรูป, สายเชื่อมต่อสัญญาณอะนาลอกทั้งแบบบาลานซ์และอันบาลานซ์, สายลำโพงทั้งแบบไบ-ไวร์และซิงเกิ้ลไวร์, สายเชื่อมต่อสัญญาณดิจิตอลหลายรูปแบบ ฯลฯ นี่เป็นตัวอย่างของ JPS Labs ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายอันแข่งแกร่ง

สำหรับอนุกรมสายใหญ่สุด ไฮเอนด์สุดขั้ว JPS Labs วางชื่อรุ่นไว้ด้วย Aluminata ผมมีโอกาสได้ฟังสายอนุกรมนี้หลายครั้งหลายครา หลากหลายห้องฟัง ทั้งสายไฟเอซี, สายลำโพง, สายเชื่อมต่อสัญญาณอะนาลอก น้ำเสียงยังคงติดหูอยู่ทุกวัน ส่วนสายรุ่นรองลงมาแบ่งระดับไว้อีกหลายรุ่นซึ่งจำได้ไม่ง่ายนักเพราะชื่อรุ่นแต่ละรุ่นใกล้เคียงกัน ครั้งนี้ผมได้หยิบยืมสายลำโพงอนุกรมรองลงมาเป็นสายลำโพงสำเร็จรูปแบบไบ-ไวร์ กำหนดรุ่นไว้ว่า JPS Labs The Superconductor Q Speaker Cables มาลองใช้งานอยู่หนึ่งชุดเพื่อหาบุคลิกของ JPS Labs รุ่นรองลงมาว่าเข้าใกล้สายรุ่นเรือธงมากน้อยแค่ไหน

รูปลักษณ์และการใช้งาน

สายลำโพง JPS Labs The Superconductor Q เป็นสายลำโพงรุ่นใหม่ สำหรับเส้นที่ได้รับมานี้มีความยาวตลอดเส้น 8 ฟุต หรือ 2.4 เมตร แบบไบ-ไวร์ เข้าขั้วต่อมาจากโรงงานเป็นสายสำเร็จรูป ขั้วต่อสายทั้งหมดเป็นขั้วต่อแบบบานานาชุบทองของ JPS Labs เอง ส่วนความยาวขนาดอื่นๆ อาจต้องสั่งพิเศษ เช่นเดียวกับขั้วต่อสายลำโพงและแอมป์ หากต้องการแบบหางปลา (Spades) ต้องสั่งพิเศษเช่นกัน ขนาดฉนวนภายนอกของตัวสายไม่ใหญ่โตมากนัก ตัวสายให้ความโค้งงอตัวได้ดี

ฉนวนภายนอกสุดให้สีน้ำเงินเข้มตลอดทั้งเส้น เมื่อสัมผัสฉนวนภายนอกพบว่าไม่เรียบเป็นทรงกระบอกเช่นสายลำโพงเส้นใหญ่ทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายคลื่นแบบเกลียว จึงสันนิษฐานได้ว่าสายทั้งซีกบวกและซีกลบถักไขว้ด้านในมาตลอดทั้งเส้น เมื่อนำฉนวนมาห่อหุ้มจึงมีลักษณะดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ด้านนอกของฉนวนตัวนำสีน้ำเงินเข้มนี้สกรีนตัวอักษรสีขาวไว้ด้วยรายละเอียด JPS Labs THE SUPERCONDUCTOR Q ALUMILOY Conductors Made in USA. ตลอดทั้งเส้น เป็นการบ่งบอกว่าสายลำโพงรุ่นนี้ใช้ตัวนำ Alumiloy (อ่านรายละเอียดตัวนำได้จากเว็บไซต์ของ JPS Labs) ซึ่งหากคาดเดาวัสดุตัวนำคงผลิตมาจากส่วนผสมของอะลูมินั่มและอัลลอยด์ ข้อมูลตัวนำนี้ไม่มีรายละเอียดเชิงลึกมากนัก

ด้านปลายสายที่ต่อเข้ากับด้านหลังแอมป์เป็นแบบซิงเกิ้ล์ไวร์ ช่วงสุดฉนวนตัวนำด้านนอกสุด ออกแบบให้มีท่อหดรัดสีฟ้าอ่อนล้อมรัดระหว่างฉนวนนอกกับสายระหว่างซีกบวกกับซีกลบ ท่อหดรัดดังกล่าวสกรีนอักษร JPS Labs สีดำไว้ทุกท่อ จากท่อหดรัดจึงเป็นฉนวนชั้นในของตัวนำสีแดงและสีขาว ความยาวระหว่างท่อหดรัดชั้นนอกกับขั้วต่อสายด้านแอมป์มีระยะประมาณ 140 มิลลิเมตร ระหว่างขั้วต่อกับฉนวนสายสีดำและสีขาวนี้มีท่อหดรัดสีฟ้าอ่อนเช่นกันและสกรีนอักษรไว้เหมือนกัน ปลายสุดจึงเป็นขั้วต่อด้านแอมป์แบบเดือยเสียบชุบทอง สำหรับด้านแอมป์นี้ ฉนวนสีแดงและขาวมีลักษณะถักไขว้ตัวนำภายในเช่นกัน

ขั้วต่อสายทั้งด้านแอมป์และด้านลำโพงมีลักษณะเดียวกัน ชุบทองเหมือนกัน มีท่อหดรัดสีฟ้าเช่นกัน ตัวขั้วต่อนี้ออกแบบเป็นทรงกระบอกตลอดแนว ทรงกระบอกที่ว่านี้ถูกผ่าโลหะออกเป็นรูปฟันปลา เป็นการออกแบบให้มีระยะบีบตัวเข้าหากันเมื่อเสียบขั้วต่อนี้ใช้งานกับแอมป์หรือลำโพง ด้านโคนของขั้วยกระดับขึ้นออกเป็นสองชั้น สำหรับด้านใช้งานกับลำโพงมีลักษณะเหมือนกันหมด แตกต่างตรงด้านลำโพงมีสายออกมาทั้งหมดสี่เส้น แน่นอนว่าคู่ที่สั้นกว่าเป็นตัวนำด้านความถี่ต่ำ ด้านยาวเป็นตัวนำด้านความถี่สูง มีสัญลักษณ์บอกทิศทางการใช้งานด้วยลูกศรไว้ชัดเจนมาก

JPS Labs Superconductor Q ดูภายนอกเรียบง่าย ไม่มีอะไรหวือหวาให้ตื่นเต้น แต่สายลักษณะเรียบง่ายเช่นนี้วาดลวดลายความโดดเด่นกว่าสายฉนวนใหญ่ๆ มาแล้วก็หลายรุ่นหลายยี่ห้อ ตัวสายใส่รวมกันมาทั้งคู่ในถุงใสและบรรจุลงในกล่องกระดาษแข็งพิมพ์สี สกรีนตัวอักษรและรายละเอียดไว้ครบถ้วน มีตัวอักษรสีทองสกรีนไว้ด้วย ส่วนด้านหลังกล่องสกรีนรุ่นสายและประเภทสายที่ JPS Labs จำหน่ายไว้ครบถ้วนเช่นกัน ส่วนรายละเอียดเชิงลึกด้านขนาดของตัวนำ วัสดุฉนวน และค่าความต้านทานของสายรวมไปถึงกรรมวิธีการผลิตแบบถักไขว้หรือเดินคู่ขนานคงต้องสอบถามจากผู้จำหน่ายอีกครั้ง

สายลำโพง JPS Labs The Superconductor Q บรรจุมาในแพ็กเกจกล่องกระดาษมาตรฐาน ไม่มีเอกสารจาก JPS Labs เส้นที่ได้รับมาลองใช้งานนี้มีขนาดความยาว 2.4 เมตร แบบไบ-ไวร์ ขั้วต่อสัญญาณแบบเดือยเสียบ (Bananas) ชุบทอง นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย หจก. ปิยะนัสอิเล็คทริคส์ โทร 0-2746-4302-4, ราคาโดยประมาณ 31,000 บาท (พฤษภาคม 2555)

ชุดและอุปกรณ์อ้างอิง

JPS Labs The Superconductor Q พิจารณาจากกายภาพภายนอกพร้อมกล่องบรรจุ น่าจะผ่านการใช้งานมาพอควร ตัวสายอาจผ่านพ้นระยะการเบิร์นอินไปแล้วก็เป็นได้ ชุดเครื่องเสียงที่ทำหน้าที่เบิร์นอินและร่วมใช้งานมีด้วยกันสองชุดหลักดังนี้

ชุดแรกประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี ARCAM : FMJ CD 23 dCS Ring DAC plus HDCD, อินทีเกรทแอมป์ Krell : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพงวางขาตั้ง USHER Audio : Be S-520 Beryllium, ลำโพงวางขาตั้ง Totem Acoustic : Model 1 Signature, ลำโพงวางขาตั้ง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott prototype (Tweeter TDL) จัดวางบนขาตั้ง Focus Audio สูงจากพื้นรวมเดือยแหลม 24 นิ้ว, ขาตั้ง Partington Super Dreadnought สูง 24 นิ้ว สีแกรไฟต์ ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน

สายสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Golden Reference RCA ท่อหดเทาตัวหนังสือสีทองยาว 1 เมตร, สายลำโพงเป้าหมาย JPS Labs The Superconductor Q ไบ-ไวร์ยาว 2.4 เมตร, สายไฟเอซีของเครื่องเล่นซีดี JPS INWALL Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี JPS INWALL Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเช่นกันเสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยอมฤตรุ่นพิเศษ Wattgate แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate 381 ช่องไม่มีดาว อีกช่องมีดาวปล่อยว่างไว้

ชุดที่สองประกอบด้วยเครื่องเล่นซีดี AACUSTIC ARTS : CDP 1 MK 3, อินทีเกรทแอมป์ Krell : KAV 400 xi Signature Special Limited Edition, ลำโพงวางขาตั้ง USHER Audio : Be S-520 Beryllium, สลับกับลำโพง Totem Acoustic : Model 1 Signature สีเชอรี่ป้ายสีเงินโลโก้สีแดง, ลำโพง Monitor Audio : Studio 2, ลำโพงวางขาตั้ง XAV : Patiott prototype (Tweeter TDL) วางบนขาตั้ง Totem Acoustic T4S ขนาด 24 นิ้ว ไม่ได้กรอกทรายทุกชนิด ด้านบนตู้ลำโพงวางก้อนอิทธิเจทับไว้ตู้ละหนึ่งก้อน

สายสัญญาณจากเครื่องเล่นซีดีไปอินทีเกรทแอมป์ Cardas Audio CLEAR CG (XLR) รุ่นใหม่ล่าสุดขั้วโรเดียมผสมทองไม่มีท่อหดรัดขั้วยาว 1 เมตร สลับกับสาย X-Wire Rhythm ยาว 1 เมตร (XLR), สายลำโพงเป้าหมาย JPS Labs The Superconductor Q ไบ-ไวร์ยาว 2.4 เมตร, สายไฟเอซีของเครื่องเล่นซีดี JPS INWALL Power Cord สีแดง เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่า, สายไฟเอซี Hovland Main Line Power Cord เข้าขั้วตัวผู้ Wattgate 330 ขั้วท้าย Wattgate 350 รุ่นเก่าเสียบเข้าที่อินทีเกรทแอมป์ โดยสายไฟของเครื่องเล่นซีดีและอินทีเกรทแอมป์ต่อเข้าปลั๊กลอยหิมพานต์ แบบหกช่องเสียบ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com เจ.เจ. ปลั๊ก) จากปลั๊กลอยต่อด้วยสายไฟ Cardas Golden Reference Power Cord รุ่นดั้งเดิมท่อหดเทายาว 2 เมตร เข้าปลั๊กผนัง Wattgate 381 ช่องไม่มีดาว อีกช่องมีดาวปล่อยโล่ง

เครื่องเล่นซีดีจัดวางบนชั้นวางของ Target Audio : B1, อินทีเกรทแอมป์วางไว้บนชั้นวาง Solid Tech : Rack of silence regular 1 + แผ่นไม้ Solid Tech แท้, ด้านบนของเครื่องบริเวณทรานสฟอร์เมอร์วางก้อนอิทธิเจรุ่นลายเซ็นต์หิมพานต์ทับไว้หนึ่งก้อน และบริเวณโวลลุ่มวางก้อนอิทธิเจรุ่นดั้งเดิมไว้หนึ่งก้อน พยายามแยกสายต่างๆ ให้ห่างออกจากกัน และยกสายสัญญาณและสายลำโพงด้วยก้อนอิทธิเจ (ที่ระลึกครบรอบ ๙ ปี www.audio-teams.com) ส่วนสายไฟเอซีทั้งหมดยกให้ลอยจากพื้นห้องด้วยบล็อคไม้ Cardas ในระบบไฟเอซีและขั้วต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องรวมถึงขั้วด้านท้ายของอินทีเกรทแอมป์ จูนไว้ด้วย Acoustic REVIVE : QR8 ทั้งหมดแปดจุดแปดตัว

ภายในห้องฟังใช้อุปกรณ์สะท้อนเสียง (แผงดิฟฟิวเซอร์) ของ Handcraft Acoustic 1 ชุด มีทั้งหมดสี่แผงและปรับแต่งอะคูสติกเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ปรับแต่ง ASC Sound Panel ทั้งหมดสี่คู่ โดยวางไว้ด้านหลังลำโพงสองคู่ ด้านข้างลำโพงสองคู่ ด้านหลังลำโพงปรับแต่งด้วยจิกซอว์ของ HIFI Club หนึ่งคู่ ใกล้กันจูนด้วยรูมจูนของ Michel Green 1 คู่ (สีเทา) รูมจูน Michel Green อีกหนึ่งคู่วางจูนไว้ด้านหลังห้อง (สีขาว) จูนเสียงโดยวาง Dyna Foot 3 ลูก ไว้ตรงกึ่งกลางของแผงดิฟฟิวเซอร์แผงกลางด้านหลังลำโพง 1 ลูก และวางไว้ข้างซ้ายและข้างขวาอย่างละ 1 ลูก แผงหลังจุดนั่งฟังวางทิปโท เจ.เจ. จูนเสียงด้านบนแผงดิฟฟิวเซอร์ทั้งสามตัว โดยวางไว้ข้างซ้าย,ขวาและกึ่งกลางอย่างละหนึ่งตัวเอาด้านปลายแหลมชี้ขึ้นฟ้า มีอุปกรณ์ปรับความถี่ ABC ของออดิโอคอนซัลแตนท์วางไว้กึ่งกลางแผงหลังอีกที ส่วนแผงด้านข้างทั้งสองแผงจูนเสียงด้วย Dragon Foot (By เดอะหั่ง แห่ง HIFI HOUSE) ลูกใหญ่ตรงกึ่งกลางแผงละ 1 ลูก

ขนาดของห้องฟังโดยประมาณ กว้าง 3.8 ยาว 6.5 และสูง 2.4 เมตร ผนังด้านข้างเป็นอิฐมอญฉาบเรียบด้วยปูนฉาบทาปิดผิวหน้าด้วยสีน้ำ พื้นไม้เข้าลิ้นวางทับหน้าด้วยพรมบริเวณจากหน้าลำโพงถึงจุดนั่งฟัง นั่งฟังด้วยเก้าอี้ผ้าที่มีความสูงพอดีกับหัวไหล่ โครงเก้าอี้เป็นไม้และใช้วัสดุเป็นผ้ารองนั่งกับแผงพนักพิงหลัง นั่งฟังห่างจากลำโพง 2.4 เมตร โทอินลำโพงไม่เกิน 20 องศา โดยประมาณ (เกือบทุกคู่) พร้อมทั้งวางก้อนอิทธิเจรุ่นฉลองครบรอบ 9 ปี เว็บไซต์ออดิโอทีมดอทคอมทับด้านบนของตู้ลำโพงไว้ตู้ละ 1 ก้อน

 

ผลการใช้งาน

JPS Labs The Superconductor Q ใช้งานสะดวกมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาขั้วเชื่อมต่อมาร่วมใช้งาน ด้วยการออกแบบในยุคใหม่ หากเป็นเครื่องยุคใหม่ทั้งหมดส่วนใหญ่ใช้การเชื่อมต่อแบบเสียบเข้าด้านท้ายขั้วเกือบทั้งนั้น Superconductor Q ในครั้งนี้จึงร่วมใช้งานกับชุดเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์อยู่หลายเครื่อง ในช่วงแรกของการรับฟังต้องยอมรับว่าน้ำเสียงเริ่มแรกน่าฟังกันเลย ถ้าเลือกซื้อหาแบบทดลอเสียบเข้าและปลดออก สายลำโพงเส้นนี้ผ่านฉลุยโดยง่ายดาย

แต่หากพินิจให้ลึกลงไปอีกหน่อย The Superconductor Q ยังต้องการระยะเวลาฟื้นตัวให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและเผยความเป็นตัวของสายออกมา ด้วยการเริ่มใช้งานในทุกครั้ง น้ำหนักเสียงยังไม่เข้มข้นมากนัก เสียงแรกกระทบทั้งหลายผ่อนปรนยั้งมืออยู่ เสมือนสายลำโพงเส้นนี้รอการชาร์จพลังให้เต็มที่ก่อน น้ำเสียงทั้งหมดของทุกครั้งในการเปิดฟังเริ่มแรกอ่อนพลัง ขาดเรี่ยวแรงอยู่ การใช้งานจึงดำเนินต่อไปเป็นการเปิดเพลงฟังสลับกับการเบิร์นอินด้วยแผ่นเบิร์นอินระดับโลกของ Purist Audio Design Rev-B ดำเนินไปด้วยความต่อเนื่องและเบิร์นอินอยู่หลายรอบ นับรวมเวลาการใช้งานพร้อมการเบิร์นอินรวมเวลาได้ราวสองร้อยชั่วโมงเศษ ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางไม่มีการแปรเปลี่ยนจากการเริ่มฟังไปตลอดการฟังอย่างยาวนาน เรียกว่าสายลำโพงคู่นี้พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานในครั้งนี้

น้ำเสียงจากสายลำโพง JPS Labs The Superconductor Q ไม่เน้นไปทางย่านเสียงใดเป็นพิเศษ ให้น้ำเสียงถ่ายทอดด้วยความเป็นกลางในเกณฑ์ที่สูง ความละเอียดในย่านเสียงแหลมตอนบนละเอียดเด่นชัด เกรนเสียงทั้งหมดละเอียดสุภาพไม่มีความแข็งกร้าวและคมบาดหู ฟังได้ยาวนานพร้อมจำแนกแยกแยะเสียงของชิ้นดนตรีต่างขนาดและต่างความดังออกจากกันได้ดี กับย่านเสียงกลางเด่นชัด อบอุ่นไม่เน้นให้ใหญ่บวม เสียงทุ้มต้นมีน้ำหนักพอประมาณ ส่วนทุ้มลึกไม่ย้ำเน้นให้มีปริมาณมากนัก แต่คงถ่ายทอดออกมาให้สัมผัสได้บ้าง เก็บตัวหางเสียงได้ดี แรงปะทะต้นโน้ตผ่อนลงเล็กน้อย ยังควบคุมจังหวะเวลาได้ต่อเนื่อง พร้อมกับจุดเด่นของคอนทราสต์และความสะอาดของพื้นเสียง

ตำแหน่งชิ้นดนตรีในรูปวงถูกกำหนดไว้แน่นสนิท แถวหน้าสุดถอยหลังกับแนวระนาบของลำโพงไปเล็กน้อย แถวลำดับต่อไปถอยร่นลงไปด้านหลังในระยะสมดุลกับด้านข้าง ด้านกว้างขยายออกไปเข้าใกล้ผนังห้องฟัง แถวดนตรีแถวสองและสามลดหลั่นลงไปด้วยความสมดุลไม่ซ้อนทับกันระหว่างชิ้นดนตรี ให้ระยะห่างระหว่างแถวโดยเว้นช่องไฟให้มีแนวแยกแยะเด็ดขาด ขนาดวงกะทัดรัดแต่ไม่เล็กเกินพอดี ด้วยรูปวงนี้มีความสมดุลกลมกลืนกันระหว่างด้านกว้างและด้านลึก จึงสร้างความสวยงามของรูปวงได้โดดเด่นเช่นกัน [POSTCARDS : The Turtle Creek Chorale/RR-61CD] พร้อมทั้งตรึงชิ้นดนตรีไว้แนบแน่น รูปวงที่ได้ให้รูปทรงคล้ายครึ่งวงกลมสวยงามในพื้นที่ห้องฟัอง

ความสมดุลของรูปวงถูกกำหนดไว้สมดุลกันทั้งสองด้านแล้ว ด้านความสูงนำมาพิจารณาร่วมจึงเป็นผลให้เกิดสามมิติของรูปวงเด่นชัดอีกครั้ง ตำแหน่งความสูงของเสียงตรงกึ่งกลางวงให้ตำแหน่งเหมาะสมสอดคล้องกับการบันทึกมา [Now the Green Blade Riseth/proprius PRCD 9093] เสียงขับร้องจากการบันทึกในโบสถ์กำหนดรูปวงกว้างและลึกสอดคล้องบนความเหมาะสมในทุกด้าน พิจารณาจากเครื่องเป่าจำพวกทองเหลืองกับการตรึงตำแหน่งความสูงได้ตามตำแหน่งการเป่า [ANTIPHONE BLUES/Arne Domneus proprius PRCD 7744] เสียงลมจากเครื่องดนตรีประเภทแซกโซโฟนแผดเสียงออกมาชัดเจนบนพื้นฐานความอบอุ่นและสะอาดของตัวเสียง มีจังหวะรุกเร้าพอประมาณและไปย้ำเน้นลีลาในช่วงของการลากเสียง ปลายเสียงทอดตัวไปไกลและทิ้งระยะเวลาไว้จนค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบเรียบ

กลับมาพิจารณากับอัลบั้ม [Now the Green Blade Riseth/proprius PRCD 9093] อีกครั้ง JPS Labs The Superconductor Q จำแนกแยกแยะเสียงขับร้องได้ขาดมาก กระจ่าง ไม่มีม่านหมอกใดๆ เข้ามาบดบังตัวเสียง ออกทางชัดแบบสุภาพสะอาด จำแนกเสียงขับร้องได้ว่าเป็นเสียงของนักร้องชาย นักร้องหญิง หรือเสียงของเด็ก เสียงขับร้องที่สะอาดนี้ให้ลีลาการขับร้อง แก้วเสียงใสมีมวลมีเนื้อเสียงขับร้อง ตัวเสียงเสมอสมานต่อเนื่องกันตลอด แบ่งแยกคอนทราสต์ได้ดี กำหนดตำแหน่งความสูงต่ำในแต่ละแถวแน่นสนิท แยกแยะช่องว่างช่องไฟของเสียงดนตรีให้เป็นอิสระหลุดลอยออกจากกันและไม่ซ้อนทับกัน ให้ตำแหน่งแม่นยำและตอบสนองมวลเสียงให้มีขนาดสมดุลไม่ใหญ่โตเกินสัดส่วนของรูปวง เป็นมวลเสียงตามสเกลตามขนาดพอดิบพอดีสมดุลกับรูปวง ด้วยรูปวงที่ไม่ใหญ่โตมากนักแต่สเกลของชิ้นดนตรีให้ขนาดสมดุลกับรูปวงเป็นเหตุเป็นผลให้รูปวงสมดุลกัน

พิจารณาอีกประเด็นเกี่ยวกับเสียงเปียโนและเครื่องเคาะโลหะ มีความกังวานและฐานเสียงสนับสนุนต่อเนื่อง เกรนเสียงละเอียด ย้ำเน้นหนักเบาอ่อนแก่ได้สมดุล นำเสนอออกมาด้วยความสุภาพต่อเนื่องของจังหวะเครื่องดนตรี จำแนกแยกแยะแต่ละชิ้นออกมาเด่นชัดในทิศทางความนวลเนียลไม่เน้นให้บาดหู พร้อมปลดปล่อยตัวเสียงให้หลุดลอยออกมาจากพื้นฉากหลังโดดเด่น ไม่มีอาการขึ้นขอบคมแข็งใดๆ ถึงแม้ใช้กับลำโพงประเภทโดมโลหะทั้งหลายก็ไม่มีอาการขึ้นขอบใดๆ เสียงแผ่วเบาในแถวหลังเด่นชัดจับต้องได้ง่ายและรักษาความกังวานไว้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ [TEST CD5/OPUS 3 CD20000] บรรยากาศรอบตัวเสียงถ่ายทอดออกมาสมดุลเสมอสมานกันทุกย่านเสียง จังหวะแรกของเครื่องดนตรีประเภทนี้เปล่งเสียงออกมาผ่อนแรงปะทะแรกเล็กน้อยเพื่อให้เสียงต่อเนื่องกับย่านเสียงกลาง แนวเพลงประเภทเคาะตีทั้งหลายแจกแจงรายละเอียดออกมาด้วยความสุภาพและสะอาดมาก

เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ถ่ายทอดออกมาด้วยความสุภาพสะอาดเกลี้ยงเกลา ให้ความกังวานต่อเนื่อง เป็นความกังวานในย่านกลางและแหลมทั้งหมด ระหว่างแต่ละเสียงจำแนกแยกแยะคอนทราสต์เด่นชัด หางเสียงทอดตัวไปพร้อมทิ้งระยะเวลาไว้ตามท่วงทำนองจึงค่อยๆ จางหายไป หางเสียงทั้งหมดมีความอบอุ่นและสุภาพอยู่ตลอดพร้อมความกังวานสัมผัสได้อย่างต่อเนื่อง [Livinton Tyler : ink/Chesky Record JD162] รายละเอียดในตัวเสียงแต่ละเสียงชัดพอประมาณ ความแผ่วเบาของท่วงทำนองและเสียงกีต้าร์ในจังหวะที่ตวัดนิ้วลงไปสะท้อนกลับมาฉับพลันต่อเนื่องย้ำเน้นน้ำหนักเล็กน้อย ถ่ายทอดเสียงระดับเบาๆ ให้สัมผัสได้ง่ายบนพื้นฐานความสะอาดเกลี้ยงเกลา จำแนกแยกแยะเสียงการบันทึกให้หลุดลอยออกมาง่ายดาย ไต่เพดานเสียงขึ้นไปจนสุดปลายเสียงด้วยความต่อเนื่อง [The Fi/Analogue Production SAMPLER] อัลบั้มดังกล่าวตอกย้ำประเด็นเหล่านี้ได้ดี

กับย่านเสียงกลางไปจรดกลางแหลมทั้งหมดของอัลบั้ม [ART FOR THE EAR/Burmester CD III] ชัดเจนสุภาพย้ำเน้นรายละเอียดหนักเบาเหมาะสม ปลายเสียงทอดตัวไปไกลและจางหายไปด้วยความราบรื่นมีหางเสียง รายละเอียดของนักดนตรีที่เล่นไปพูดไปสัมผัสได้แต่ไม่ชัดเจนว่าพูดอะไรออกมา บรรยากาศรอบตัวเสียงสัมผัสอยู่ต่อเนื่อง แม้จะมีรูปวงกะทัดรัดก็ตามแต่ละชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นไม่ซ้อนทับกัน ย่านเสียงนี้ทำให้ฟังได้ละเอียดบนพื้นฐานความสุภาพนวลเนียล แม้ในบางแทร็คที่มีดนตรีสลับซับซ้อนออกไปทางฟุ้งและพุ่งสาดใส่ ยังคงถ่ายทอดออกมาละเอียดต่อเนื่องตามท่วงทำนองและไม่มีความสากเสี้ยนปะปนออกมา มีเพียงความสะอาดและเกลี้ยงเกลาสม่ำเสมอ

พิจารณาเสียงกลางขับร้องของ [AMANDA McBROOM : DREMING/Gecko Record] ให้ความชัดบนความสุภาพมีมวล แก้วเสียงใสอบอุ่นกังวานละเอียด คอนทราสต์เด่นชัด จังหวะเสียงลมจากช่องท้องผ่อนหนักเบาจำแนกออกมาเด่นชัด ช่วงขับร้องพร้อมจังหวะรุกเร้าตอบสนองได้รวดเร็ว บรรยากาศรอบตัวเสียงโดดเด่นมากกว่าความชัดใสเล็กน้อย เป็นเสียงกลางที่อมหวานมีเสน่ห์มาก รายละเอียดปลีกย่อยพร้อมความคึกคักของจังหวะจะโคนย่านเสียงแหลมตอนกลางไปยันเสียงแหลมสูงสุดนำเสนอด้วยความละเอียดและยังมีมวลมีฐานเสียง แนวเพลงขับร้องอัลบั้มนี้โดดเด่นย่านเสียงขับร้องเป็นลำดับต้นกันเลย ยิ่งใช้งานร่วมกับ JPS Labs The Superconductor Q ส่งเสริมเสียงขับร้องนี้ให้ชวนพิศไม่น้อย

ความโดดเด่นของเสียงกลางขับร้องในอัลบั้มแรกยังไม่เพียงพอ อัลบั้มของ [CLAIR MARLO : LET IT GO Sheffield Lab CD29] ตอบสนองความกังวานของเสียงก้องเสียงสะท้อนตามการบันทึกมา เน้นเสียงหลักให้ชัดเจนแบบสุภาพและมีความต่อเนื่องตามท่วงทำนองพร้อมเคล้าคลอมาด้วยบรรยากาศรายล้อม ตอบสนองจังหวะดนตรีและการขับร้องออกมาละเอียด อบอุ่นอมหวานเสมอ สอดคล้องกับจังหวะและลีลาพร้อมน้ำหนักเสียงในแต่ละย่านเสียงควบคู่กันไป บรรยากาศรายล้อมตัวเสียงขับร้องให้มาพร้อมกับความอบอุ่น ทั้งยังตอบสนองสัญญาณฉับพลันได้รวดเร็วเช่นเดิม รายละเอียดเสียงลมหายใจ เสียงริมฝีปากสัมผัสได้ง่าย รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชั้นดนตรีแถวหลังจำแนกแจกแจงออกมาได้ดี

เพลงขับร้องหลากหลายอัลบั้ม JPS Labs The Superconductor Q ตอบสนองได้ดีมาก สุภาพสะอาดเกลี้ยงเกลา เกรนเสียงละเอียด นำเสนอให้สอดคล้องกับมวลเสียงที่มีฐานเสียงและไม่มีอาการบวมหนาและใหญ่เบลอออกมา นักร้องขับร้องออกมาด้วยความชัดเจนอบอุ่น จำแนกออกมาครบถ้วนทุกคำทุกอักขระ รายละเอียดการออกเสียง เสียงริมฝีปากเสียงลมหายใจสัมผัสได้ง่าย เสียงขับร้องที่ชัดใสนี้มีมวลเสียงอบอุ่นอยู่ตลอด ตัวเสียงสะอาดเกลี้ยงเกลา [SNOW ROSE Ax-SN04.01] บุคลิกในสายรุ่นนี้ส่งเสริมเสียงขับร้องให้ฟังด้วยความต่อเนื่อง ผ่อนคลาย สัมผัสความเป็นดนตรีจากเสียงขับร้องนี้โดดเด่นมากขึ้น บนพื้นเสียงสะอาดเกลี้ยงเกลา

ในด้านเสียงขับร้องของนักร้องชายแทร็คที่หกอัลบั้ม [ART FOR THE/EAR Burmester CD III] ชัดเจนมีพละกำลัง การร้องประสานเสียงจำแนกออกมาพอดิบพอดีและไม่ล้ำหน้าเกินเสียงหลัก รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการดึงสายกีต้าร์และเครื่องเคาะโลหะรวมถึงความนวลเนียลของเสียงขลุ่ยนำเสนอด้วยความละเมียดละไม เสียงสไลด์กีตาร์ย้ำเน้นจังหวะแรกให้ชัดเจนสุภาพมาก ระดับเสียงขับร้องให้สัดส่วนสเกลสมดุลกลมกลืนกัน ปลายเสียงการขับร้องทอดตัวไปไกลและทิ้งระยะไว้จึงค่อยๆ จางหายไปด้วยทำนองและลีลา ควบคุมจังหวะให้ผ่อนหนักเบาในทุกท่วงทำนองสอดคล้องกับน้ำหนักเสียงในการเติมฐานเสียงอยู่เสมอ

แนวเพลงร้องดนตรีคันทรี่และแนวเพลงมาร์ช [The Sound of Quality/Opus 3 Proprius Sweden] เสียงขับร้องมีมวลสมดุลกับย่านเสียงอื่น การร้องประสานเสียงแยกแยะอิสระได้เด็ดขาดพร้อมทั้งย้ำเน้นทั้งเสียงหลักและถ่ายทอดระดับเสียงรองออกมาเหมาะสมกลมกลืน ระดับเสียงของนักร้องทั้งหมดกำหนดไว้สมดุลกับตำแหน่ง ปลายเสียงนักร้องจางหายไปด้วยความราบรื่นให้ลีลาต่อเนื่องตามท่วงทำนอง เสียงกีตาร์โปร่งฟังในสไตล์คันทรี่ได้กลิ่นอายบรรยากาศเข้ามาปะปนผสมกับความสุภาพอยู่สม่ำเสมอ สัมผัสความเป็นดนตรีได้ดี รายละเอียดของแต่ละเสียงในแถวถัดไปตรึงความชัดเจนไว้แนบแน่น จำแนกออกมาจากพื้นเสียงได้ดี

เสียงขับร้องความถี่ย่านกลางต่ำจากอัลบั้มอ้างอิงของ [Livington Taylor/ink Chesky Record JD162] ให้ความกังวานของเสียงร้องได้ดี เน้นความอิ่มเอิบและอบอุ่นมากกว่าความดุดัน แม้จะอบอุ่นก็ตามความกระจ่างใสนำเสนอออกมาควบคู่กัน ไม่มีม่านหมอกมาบดบังตัวเสียง รักษาปลายเสียงได้ดีจึงค่อยๆ จางหายไปด้วยความราบรื่น ตัวเสียงขับร้องแฝงบรรยากาศรายล้อมอยู่ตลอด ให้บรรยากาศผสมผสานกับรายละเอียด สเกลเสียงร้องเหมาะสมไม่เล็กกะทัดรัด เกรนเสียงสุภาพละเอียด กำหนดลมหายใจเข้าออกให้สัมผัสได้เสมอ ได้ยินทุกช่วงจังหวะพร้อมย้ำเน้นหนักเบา โดยรักษาจังหวะเวลาให้สอดคล้องกับทุกทำนอง ในช่วงขับร้องพร้อมการเล่นกีต้าร์ฟังแล้วคึกคักเสมือนเล่นอยู่ตรงเบื้องหน้าในการขับร้องนั้นเชียว

หากว่ากันด้วยเสียงทุ้มต้นของกลองจากอัลบั้ม [Take’Dake’/Denon Master Sonic] ให้ความชัดพอเหมาะ หนังกลองขึงมาไม่ตึงมากนัก จังหวะแรกผ่อนน้ำหนักเล็กน้อยแต่ยังให้เสียงสะท้อนกลับจากการหวดไม้กลองลงไปเด่นชัด ถ่ายทอดความกังวานรอบตัวเสียงออกมาคลอเคลีย หางเสียงจางหายไปด้วยความราบรื่นตามจังหวะจะโคนโดยไม่ตัดหางเสียงทิ้งให้ห้วนสั้น ตัวเสียงที่ได้กลมแน่นเป็นตัวตนไม่ใหญ่โตมากนัก ใจกลางของตัวเสียงควบแน่นเล็กน้อยจากนั้นค่อยๆ ขยายออกไปตามสเกล พื้นเสียงสะอาด เสียงทุ้มไม่โด่งล้ำหน้าย่านเสียงอื่น เมื่อทำการเร่งโวลลุ่มให้ดังเพิ่มมากขึ้นกลับให้น้ำหนักเสียงได้แน่นมากขึ้นเล็กน้อย

อัลบั้มหลากหลายเครื่องดนตรีของ [DAFOS/RR-12CD AAD 1985 USA] ตอบสนองเสียงทุ้มกระแทกกระทั้นตามจังหวะเวลา น้ำหนักเสียงในจังหวะแรกกระทบไม่เน้นมากนัก ฐานเสียงมีมวลมีขนาดพอประมาณไม่เติมฐานเสียงและน้ำหนักเสียงเท่าใดนัก เสียงทุ้มที่นำเสนอออกมาจากอัลบั้มนี้ผ่อนลงเล็กน้อย ในแทร็คที่เจ็ด เมื่อความสงัดเข้าปกคลุมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เสียงกระแทกนำเสนอออกมาอย่างรวดเร็วแต่ผ่อนน้ำหนักเล็กน้อย ไม่นิยมความดุดันของย่านเสียงนี้เท่าใดนัก

พิจารณากับอิมแพ็กต์แรกกระทบอีกครั้งจากเสียงกลองใบใหญ่อัลบั้ม [Rain Forest Dream/SAYDISC CD-SDL384] เสียงกลองมีตัวตนและตำแหน่งแห่งหนชัดเจน เสียงกลองนำเสนอออกมาให้ความเหมาะสม สมดุลกับย่านเสียงอื่น กลมกลึงควบแน่นพอประมาณไม่ลำหักลำโค่นมากนัก อิมแพกต์แรกกระทบยั้งมือลงเล็กน้อย เป็นเสียงกลองที่ผ่อนปรนมากกว่าคึกคักดุดัน เสียงกลองในแต่ละจังหวะย้ำเน้นหนักเบาพอเหมาะ ในทุกจังหวะของการหวดไม้กลองลงไปเสมือนว่ายั้งมือเล็กน้อย ไม้กลองถูกฟาดลงไปด้วยความรุนแรงและรวดเร็วก็จริงแต่เสมือนไม้กลองนี้ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยผ้าบางๆ อีกสองสามชั้น แต่ยังตอบสนองเสียงจากหนังกลองให้สัมผัสได้ดีและมีบรรยากาศรอบๆ ตัวเสียงนี้ เสมือนเสียงหนังกลองขึงมาหย่อนเล็กน้อย

เสียงออร์แกนท่อจากอัลบั้ม [POMP&PIPES!/REFERENCE RECORD/RR-58 HDCD USA] ความถี่ต่ำจากออร์แกนท่อสัมผัสได้ไม่มากนัก เสียงทุ้มต่ำนำเสนอออกมาในปริมาณเล็กน้อยไม่มากนัก เน้นความสมดุลสอดคล้องต่อเนื่องกับเสียงทุ้มต้น ความถี่ต่ำลงได้พอประมาณ ขนาดมวลเสียงสมดุลกลมกลืนมากกว่าย้ำเน้นน้ำหนัก หางเสียงแต่ละตัวแยกแยะเป็นอิสระต่อกันพร้อมเติมลีลาอยู่เสมอ ฟังได้เพลิดเพลินบนพื้นฐานความสุภาพ ส่งถ่ายสัญญาณจากแอมป์ไปลำโพงได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ย่านเสียงทุ้มลึกนี้แม้ให้ปริมาณไม่มากแต่ยังคงกลมกลืนสะอาดเกลี้ยงเกลาเช่นเดียวกับย่านเสียงแหลม

เสียงกลองจาก [Ultimate Reference CD/WILSON AUDIO WA8008] เสียงกลองกลมกลึงพอประมาณพร้อมจางหายไปตามเวลาและท่วงทำนอง ไม่มีการปนกันระหว่างหางเสียงกลองกับดนตรีอื่น แม้ไม่โดดเด่นในด้านของเสียงแรกกระทบแต่พื้นเสียงสงัดและนำเสนอด้วยความสะอาด การตอบสนองไทมิ่งและจังหวะเวลานำเสนอออกมาได้สอดคล้อง ในทุกจังหวะเวลาไม่มีความรู้สึกว่าเชื่องช้าใดๆ ช่องว่างช่องไฟเด่นชัด จังหวะตัวโน้ตเงียบก็เงียบสนิท กำหนดเสียงแต่ละเสียงให้เสนอออกมาด้วยความต่อเนื่อง เพลิดเพลินจากการฟังและฟังได้ผ่อนคลายต่อเนื่องยาวนาน ครั้นจังหวะโหมโรงขึ้นไปก็ดำเนินตามสปีดตอบสนองได้รวดเร็วต่อเนื่องไร้การสะดุด

กับบทเพลงคลาสสิกวงใหญ่หลายท่วงทำนอง แทร็คที่เจ็ดของอัลบั้ม [ART FOR THE/EAR Burmester CD III] ขับขานออกมาได้ทั้งจังหวะที่เหมาะสม ตำแหน่งที่ชัดตรึงแน่น ขนาดเสียงแต่ละตำแหน่งสมดุลสอดคล้องกัน แยกแยะแต่ละเครื่องดนตรีออกจากกันได้อิสระ ตัวเสียงชัดพร้อมบรรยากาศรายล้อม ทุกช่วงในการกำหนดลมหายใจเข้าออกของนักดนตรีให้บรรยากาศปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวเสียงอยู่เสมอ ฟังในแนวทางเพลิดเพลินไม่เน้นให้จริงจัง เน้นการถ่ายทอดที่สุภาพและละเอียดเป็นจุดเด่นต่อเนื่อง

อีกแนวทางของเพลงคลาสสิกวงใหญ่อัลบั้ม [THE SYMPHONIC SOUND STAGE D/CD3502] นำเสนอชิ้นดนตรีออกมาได้เต็มรูปวง วางวงวางตำแหน่งไว้แน่นสนิท แถวหลังถอยไปเกือบจรดกำแพงมีระยะเหลือเล็กน้อยก่อนจะถึงกำแพงด้านหลัง เครื่องดนตรีนับร้อยชิ้นยังคงมีตัวตนที่อยู่ของตนเอง ไม่มีอาการปะปนทับกันระหว่างแถวอาจใกล้ชิดกันนิด ตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงออร์เคสตร้าตรึงไว้แน่นสนิทจากอัลบั้ม [HOVLAND/HP 100 Preamp TopMusic 8012] เสมือนกับแทร็ค 1, 11, 12, 13 และ 15 [Musik wie von einem anderen Stern/MANGER] ตัวเสียงและหางเสียงในแต่ละเสียงไม่ปะปนกัน แยกแยะมิติและตำแหน่งให้เป็นอิสระต่อกันและจางหายไปด้วยความราบรื่น สัมผัสไดนามิกส์คอนทราสต์ต่อเนื่องพร้อมบรรยากาศรายล้อมตัวเสียงให้สัมผัสอยู่สม่ำเสมอ

พิจารณาจังหวะเวลาของเครื่องดนตรีประเภทไม้อัลบั้ม [Take’Dake’ with Neptune/AISIAN ROOTS DENON USA] ส่งถ่ายเสียงการเคาะระนาดไม้ผสมกับจังหวะกลองและเครื่องเป่าให้มีจังหวะจะโคน ตอบสนองได้ต่อเนื่อง ให้คอนทราสต์ผสมอยู่ทุกจังหวะการดำเนินท่วงทำนองพร้อมจำแนกแต่ละประเภทของเครื่องดนตรีออกมาได้เหมาะสม ตัวเสียงกระชับพอประมาณ ไม่ย้ำเน้นหัวเสียงมากนักแต่ให้เสียงสะท้อนกลับจากการเคาะ การเป่าได้ดี เสียงหนังกลองสะท้อนกลับมาเสมือนการเคาะตีลงไปในจังหวะแรก ถ่ายทอดลีลาของเสียงอ่อนแก่หนักเบาไปพร้อมเพรียงกัน จังหวะตัวโน้ตเงียบถือว่าทำได้ดี เป็นสายที่นิยมความต่อเนื่องของท่วงทำนองมากกว่าความดุดัน และให้ทุกรายละเอียดสะอาดเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ

บทเพลงจากนักร้องคุณภาพในการรวบรวมเพลงของอัลบั้มพิเศษครบรอบ 12 ปี บจก.โมนาร์ชครีเอชั่น เป็นการรวมเพลงไพเราะจากค่ายแกรมมี่ เสียงขับร้องทั้งของคุณเจนนิเฟอร์คิ้ม, ซุปเปอร์สตาร์เบิร์ด ธงชัย, และอีกหลากหลายนักร้อง ขับร้องออกมาด้วยความไพเราะ เสียงขับร้องอบอุ่นต่อเนื่องโดดเด่น ฟังได้ยาวนาน เกรนเสียงละเอียดเสียงแหลมและปลายเสียงรวมไปถึงรายละเอียดการบันทึกคงความชัดไว้ด้วย เสียงลมลอดไรฟันและบรรยากาศของแซ็กโซโฟนในการร่วมบรรเลงกับการขับร้องของเจนนิเฟอร์ คิ้ม ให้บรรยากาศอบอวล เกรนเสียงละเอียดและสุภาพต่อเนื่อง ฟังด้วยความหวานอิ่มเอิบเพลิดเพลินบนพื้นฐานความต่อเนื่อง

บทสรุปหลังการใช้งาน

ด้วยสายลำโพงในพิกัดเดียวกันวางจำหน่ายอยู่ในตลาดค่อนข้างมากมายหลายยี่ห้อ นับว่าเป็นตลาดของสายลำโพงที่มีตัวเลือกค่อนข้างมากในเรทราคาหนึ่ง สำหรับ JPS Labs ในช่วงเวลานี้มีความน่าสนใจในกลุ่มผู้ใช้งานไม่น้อย กับเทคโนโลยีการผลิตซึ่งค้นคว้าและวิจัยมาเป็นระยะเวลาหลายปี อีกทั้งปัจจุบันสายรุ่นเรือธงของ JPS Labs ที่วางราคาจำหน่ายในเวอร์ชั่นซุปเปอร์ไฮเอนด์สร้างความฮือฮาระหว่างคุณภาพกับราคาโดยไม่น้อยหน้าสายเจ้าตลาดดั้งเดิม จึงเป็นอานิสงส์ร่วมทำให้สายรุ่นรองลงมาเรียกว่าราคาย่อมเยากว่า ผู้ใช้งานในวงเงินจำกัดสามารถเลือกหาซื้อใช้งานได้ เพราะเทคโนโลยีด้านตัวนำและการผลิตต่างๆ ถูกถ่ายทอดลงมาสู่สายรุ่นรองเช่นกัน

JPS Labs The Superconductor Q โดดเด่นมากกับเสียงกลางขับร้องให้ความต่อเนื่องและมีลีลาในการนำเสนอ เกรนเสียงละเอียดมีมวลมีฐานเสียงขับร้องพอดิบพอดี เสียงกลางขับร้องอมหวานประปรายอยู่ตลอด พื้นเสียงทั้งหมดสะอาดเน้นการนำเสนอด้วยความสุภาพเป็นลำดับแรกเสมอ ไม่นิยมการบู๊แบบกระแทกกระทั้นดุดัน แต่ทั้งหมดทั้งปวงยังคงนำเสนอสมดุลเสียงให้สอดคล้องกันอยู่เสมอ แม้มวลเสียงจะมีฐานเสียงเพิ่มเติมอยู่ตลอดแต่ตัวเสียงไม่อ้วนหรือบวมเบลอใดๆ ยังคงรักษาความกลมกลึงของตัวเสียงในสัดส่วนพอดิบพอดีให้กลมกลืนกับย่านเสียงอื่นอยู่สม่ำเสมอ

หากท่านนิยมชมชอบการฟังเพลงแนวขับร้องเป็นประจำและฟังเพื่อถวิลหาความเป็นดนตรีในพื้นฐานความไพเราะ ต่อเนื่อง ฟังได้ยาวนาน ไม่ย้ำเน้นจังหวะจะโคนให้ห้วนสั้น ที่สำคัญเสียงขับร้องนี้โดดเด่นพร้อมให้ลีลาความอ่อนแก่หนักเบาอยู่ตลอด พื้นเสียงสะอาดมาก ให้ความสงัดเพื่อเรียกช่องว่างช่องไฟให้เด่นมากยิ่งขึ้น นี่เป็นสายลำโพงในบุคลิกที่เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยเชียว และไม่ใช่ว่าแนวทางการฟังประเภทมากชิ้นดนตรีไม่สามารถใช้งานได้ การใช้งานกับแนวทางดังกล่าวยังนำเสนอได้สมดุลสอดคล้องต่อเนื่องเช่นกัน เพียงแต่ไม่โดดเด่นเท่าประเด็นแรก

JPS Labs The Superconductor Q คงไม่ใช่สายลำโพงที่ดีที่สุดในโลก แต่เมื่อใส่เงื่อนไขทุกอย่างเข้าไปเทียบเคียงกับสายลำโพงอื่นๆ ที่มีเรทราคาจำหน่ายพอฟัดพอเหวี่ยงกัน สายลำโพง JPS Labs The Superconductor Q เป็นสายลำโพงที่คุณควรหาโอกาสไปลองฟังสักครั้งเพื่อเป็นแนวทางเลือกหนึ่งก่อนตัดสินใจเลือกสายลำโพงอื่นใดมาร่วมใช้งาน !!

 

หมายเหตุ : ขอขอบคุณ หจก. ปิยะนัสอิเล็คทริคส์ โทร 0-2746-4302-4 ที่เอื้อเฟื้อสายลำโพงไบ-ไวร์ JPS Labs The Superconductor Q 2.4 เมตร สำหรับการลองใช้งานในครั้งนี้ครับ

Exit mobile version