Test Report: สายสัญญาณอะนาลอก Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

Test Report: สายสัญญาณอะนาลอก Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

การุณชาติ พุกกะเวส

             เมื่อเอ่ยชื่อภาษาไทยว่า แวน แดม…คุณจะนึกถึงอะไร?

สำหรับคอนักเล่นโฮมเธียเตอร์แล้ว คงต้องนึกถึง พระเอกหุ่นปึ๊กที่ชื่อเดียวกันเลย…

แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการทดสอบพระเอกคนนี้นะครับ แต่ “แวน แดม” ในครั้งนี้เป็นชื่อผลิตภัณฑ์สายต่างๆ ครับ เขียนภาษาอังกฤษว่า Van Damme…

หลายคนเริ่มคิ้วติดกัน ส่วนตัวผมเองนั้นคิ้วขมวดมาก่อนคุณๆ แล้วละครับ เล่นเครื่องเสียงมามากแต่ยังไม่เคยได้ยินชื่อ Van Damme เลย…ไม่เป็นไรครับ เรามาทำความรู้จักกันสักนิด

Van Damme เป็นบริษัทเก่าแก่ของอังกฤษที่ผลิตสายแทบทุกชนิด ซึ่งไม่ได้ผลิตมา 3-4 ปี แต่ผลิตมากว่า 20 ปีแล้ว!! สายรุ่นดั้งเดิมส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อใช้ในวงการสตูดิโอ ตอนหลังจึงมีไลน์อัพในส่วนระบบไฮไฟ / โฮมยูส

โอ้ ไม่ทราบหลงหูหลงตาไปได้อย่างไร?

ปัจจุบัน Van Damme มีไลน์อัพดังนี้ Marine, Street, Musician, Industrial, Medical, Home ซึ่งแต่ละซีรีส์เองมีหลายรุ่นให้เลือก ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.van-damme.com

นอกจากนี้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมีหน่วยงาน / สถานที่ / เครื่องเสียงชั้นนำหลายยี่ห้อต่างเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Van Damme (**ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะอยู่ในส่วนการฟังนะครับ**)

ส่วนรุ่นที่ทดสอบคราวนี้อยู่ในไลน์อัพ Home เป็นตระกูล shotgun ซึ่งตระกูลนี้มีสายสัญญาณเพียงรุ่นเดียว ส่วนสายลำโพงมี 5 รุ่น จุดเด่นคือ สายสัญญาณเป็นแบบคู่ แยกซ้าย / ขวา ได้ทันที ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่าตัว และเน้นใช้งานสตูดิโอสำหรับการฟังเป็นมอนิเตอร์

บางทีราคาสายสัญญาณในปัจจุบันดูจะพุ่งทวีความรุนแรงไปมาก สายชุดละหมื่นจนเป็นแสนๆ หาซื้อกันง่ายๆ หลายยี่ห้อ แต่ถ้าคุณต้องการสายที่คุ้มค่าเงินในงบไม่เกินสามพันบาท ลองพิจารณา Van Damme เส้นนี้ดู ส่วนจะดีมากขนาดไหน ติดตามอ่านกันดูครับ

คุณสมบัติพิเศษ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

– โครงสร้างสายแบบคู่ (มีซ้าย และขวา) ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเท่าตัว

– แบ่งตัดเป็นเมตร

– สายทั้งหมดผ่านมาตรฐาน RoHS

– โครงสร้างซีรีส์ Shotgun เน้นให้ติดตั้งง่าย ดัดโค้งได้ดี

– ตัวนำทองแดง (Ultra Pure Linear Crystal Oxygen Free Copper (UP LC-OFC) ความบริสุทธิ์สูง

– ตัวนำด้านใจเป็นโพลีเอไทลีน

– ชีลด์กันคลื่นรบกวนด้วยตาข่ายทองแดงถัก

– ฉนวนเป็น PVC/Neoprene

– ใช้หัว RCA ยี่ห้อ REAN ซึ่งเป็นไลน์อัพใหม่ของ Neutrik

ลักษณะทั่วไป Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA) ตัวสายมาแบบตัดแบ่งเป็นเมตร แต่ครั้งนี้ผู้แทนฯ ได้เข้าหัวมาเรียบร้อยพร้อมทดสอบ โดยต้นทางใช้หัวปลั๊ก RCA ทรงยาว ยี่ห้อ REAN ซึ่งเป็นไลน์อัพใหม่ของ Neutrik ผู้ผลิตหัวต่อชื่อดัง เป็นรุ่น NYS373 ทำจากพลาสติก พ่นสีดำ ขั้วต่อชุบทอง ด้านปลายติดกับสายสัญญาณเป็นยาง

ตัวสายสีน้ำเงินเข้ม พร้อมสกรีนเป็นระยะว่า Van Damme : LC-OFC Twin Audio Interconnect 268-500-000 Total Definition Directional Hi-Fi ด้วยตัวอักษรสีขาวอ่อน

ด้านปลายตัวสายหล่อปิดเพื่อป้องกันอากาศเข้าอีกที ก่อนการประกอบสายมีการใช้น้ำยา   ทาสายเพื่อเพิ่มคุณภาพเข้าไปด้วย ตัวสายมีความอ่อนนุ่ม ดัดโค้งมุมแคบได้ดีมาก

สเปค Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

– Conductor 0.63mm bare ultra pure linear crystal oxygen free copper
– Capacitance <97 pF/m
– Screen 93% optical coverage LC-OFC braid
– Overall diameter 16.00 x 6.00mm
– Weight 120 Kg/Km

อุปกรณ์ที่ใช้ทดลอง Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

ห้องโฮมเธียเตอร์

เครื่อง Blu-ray : Panasonic : DMP-BD60 เจาะท้ายใส่ IEC ของ FIM สายไฟภายในเป็น Black Rhodium : Super mains ฟิวส์ 3.15A และขาฟิวส์ของ Bussmann ใส่ Wood Block : Versalab คั่นไว้ใช้สายไฟเอซี JPS : In Wall (หัว / ท้าย Wattgate กลมดำ) รองสายไฟด้วย Shunyata : Dark Field และ Shunyata : Dark Field mini อย่างละ 1 อัน เหนือลิ้นชักใส่แผ่นจูนด้วยทิปโท JJ : Screw Cone ตัวเครื่องวางบนแผ่นไม้จากชั้นวาง Target Audio : TT5 ด้านใต้รองด้วย Symposium : Rollerblock Series 2 แบบประกบเป็นแซนวิช ชุดหนึ่งกลับหัว ทั้งหมดวางบนแท่นรอง Brightstar Audio : Big Rock I (มีทรายภูเขาไฟ Lovan ผสมด้วย) จัดวางกลางห้อง

สาย HDMI จากเครื่องเล่นไปเข้าแอมป์เป็น Monster Cable : M2000HDMI รองสายด้วย Cardas : Notched Myrtlewood Blocks 1 อัน ช่วงแอมป์ไปโปรเจ็คเตอร์เป็น Monster Cable : MC1000 (HDMI) ยาว 10 เมตร รองสายด้วย Cable Tower 3 อัน

โปรเจ็คเตอร์ JVC : DLA-RS10 อุดช่อง Composite / Component ด้วยปลั๊กอุด Cardas ติดตั้งแบบแขวนผนังด้วยขา Omni Mount : PMD2 รุ่นใหญ่สุด ใช้สายไฟเอซี Acoustic Zen : CL-3 (หัว / ท้าย Marinco แบบ Hospital Grade) มาเข้าปลั๊กลอย FIM : 886 จากนั้นใช้สายไฟเอซี Halu Cable (หัว Pass & Semour / ท้าย Shurter : 4781) ยาว 10 เมตรลากมาเข้าปลั๊กกรองไฟ

จอฟิกส์ Stewart : Grayhawk RS (Reference Screen) กรอบใหญ่+VeLux ขนาด 92 นิ้ว

เอ/วี รีซีฟเวอร์ Pioneer : VSX-LX70 เปลี่ยนฟิวส์เป็น Furutech : TF-15A วางบนชั้น XAV #111 ทับหลังเครื่องด้วยอิฐมหัศจรรย์ VPI : HW dB-5 และ XAV : EMX-9 (มุมขวา) ใช้สายไฟเอซี Kimber Kable : PK10 (หัว / ท้าย Wattgate : 330i / 350i) รองสายไฟด้วย Cardas : Notched Myrtlewood Blocks 1 อัน

เพาเวอร์แอมป์ Audiolab : 8200P เปลี่ยนฟิวส์เป็น Furutech : TF-15A (ตัวที่ 2) วางบนชั้น Finite Element : Spider ที่ชั้น 2 ตั้งอยู่เป็นอันสุดท้าย สายไฟเอซี Hovland : Main Line (หัว Hubbel : 8215 CT / ท้าย Furutech) รองสายไฟด้วย Shunyata : DarkField 2 อัน

สายสัญญาณ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

ลำโพงโฮมเธียเตอร์ Sonus Faber คู่หน้ารุ่น Concerto Home วางบนขาตั้ง Totem Stand : T4s สูง 24 นิ้ว เซ็นเตอร์รุ่น Solo Home วางบนชั้น Finite Element : Spider ชั้นบนสุด (สูง 3 ชั้น) เซอราวด์รุ่น Concertino Home วางบนขาตั้ง JM Labs : Utopia สูง 24 นิ้ว วางบนแท่นไม้สัก, รองด้านล่างสุดด้วย Michael Tender Feet รุ่นจานบิน รวมสูง 26 นิ้ว

สายลำโพง Kimber Kable : 8TC ทั้งซิสเต็ม คู่หน้าคั่นด้วยบานาน่าปลั๊ก Monster Cable : Power Connect 2 รองสายลำโพงด้วยที่ยกลอยของ Cable Elevator ข้างละ 2 ตัว ส่วนเซ็นเตอร์ และเซอราวด์เข้าหัวบานาน่าของ Kimber Kable ตัวเซ็นเตอร์พาดสายบนชั้น Finite Element : Spider ส่วนเซอราวด์ยกลอยด้วยบล๊อกไม้ Cardas : Multi Blocks ยาวเกือบถึงตัวลำโพง

แอคทีฟซับวูฟเฟอร์ Velodyne : CT-150 วางบน Master Stand Base : 2217 ทับด้านบนด้วยอิฐมหัศจรรย์ VPI : HW dB-5 สายไฟเอซี Monster Cable : Power Line 300 ใช้สายสัญญาณซับวูฟเฟอร์ของ Monster Cable : M1000SW รองสายด้วย Cable Tower 3 อัน

สายไฟเอซีของเครื่องเล่นทั้งหมด (Blu-ray, โปรเจ็คเตอร์, เอ / วี รีซีฟเวอร์, เพาเวอร์แอมป์ และแอคทีฟซับวูฟเฟอร์เสียบต่อเข้าปลั๊กกรองไฟ PAC : Super Idos วางบนแผ่น Hi-Fi Block (เดอะหั่ง) รองสายไฟด้วย Shunyata : DarkField 2 อัน และ Shunyata : Dark Field mini 1 อัน ขาออกใช้สายไฟเอซีของเครื่องกรองไฟ Sine : Cassio เสียบเข้าที่ตัวกรองกระแส DC ของ Perfect Power : Super DC Filter (ปรับปรุงภายในใหม่ และเปลี่ยนฟิวส์เป็น Marsh 10A ชุบทอง) ภาคขาออกใช้สายไฟเอซี Supra : LoRad Double Run (หัว / ท้าย Wattgate กลมดำ) เสียบเข้าที่กำแพงใช้เต้ารับ Wattgate : 381 (ตัวแรก-ช่องมีดาว) ใช้ฝาครอบเต้ารับ FIM : 308-1 สายไวริ่งระหว่าง Wattgate : 381 ทั้ง 2 ตัวเป็น Supra : LoRad

ห้องฟังขนาด 4 x 5 x 2.2 เมตร มีพรมปูเกือบเต็มพื้นที่ เพดาน 2 ชั้น บริเวณผนังข้างด้านหน้าปะด้วยผ้าดำหุ้มฟองน้ำสูงเกือบเต็มห้อง ที่กลางห้องมีแผ่นซับเสียงสูตร RPG (DIY) ปะไว้ มีจิ๊กซอว์ PRS จำนวน 1 คู่ ติดตั้งแนวดิ่งที่ด้านหลังจุดนั่งฟัง

ควบคุมสภาพอคูสติกห้องด้วย แผ่น XAV : G-Sap เบอร์ 1 จำนวน 1 คู่ ติดตั้งไว้ที่ผนังหลังลำโพงเมน, เบอร์ 2 จำนวน 1 คู่ ติดตั้งไว้ที่ผนังหลังลำโพงเซอราวด์ มี XAV : Trap พร้อมฐาน 1 คู่ XAV : Base Trap ตั้งมุมห้องด้านหน้า ใช้ Room Tune : Michael Green Audio 4 แท่งที่มุมทั้ง 4 ด้าน / Echo Tune 4 อัน

การติดตั้ง และการเซ็ทอัพ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA) เส้นที่ได้รับมา ยาวเพียง 75 เซนติเมตร (สั้นไปหน่อย) เข้าหัวมาเรียบร้อย ตัวสายค่อนข้างอ่อนนุ่ม เดินมุมโค้งแบบตัว U ได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องเสียงขาดหายใดๆ ทั้งสิ้น ขั้วบวก / ลบ อาจต้องไขว้กันสำหรับบางเครื่อง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่ดูไม่สวยงามเหมือนสายที่แยกซ้ายขวาอิสระ

ผลการลองฟัง Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

ขอย้อนความเป็นมาของการรีวิวสายเส้นนี้ให้ทราบนะครับ ในบ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง ผมแวะไปย่านโชคชัย 4 เพื่อพูดคุยกับบรรดาร้านเครื่องเสียงในละแวกนี้ เมื่อผมเข้าไปที่ร้าน Sound Box และทักทายกับคุณโจ้ ซึ่งตอนนี้เองคุณโจ้ได้หยิบสายสัญญาณเส้นนึงมาให้ พร้อมกับบอกว่าให้ลองไปฟังเล่นๆ ไม่จำเป็นต้องทดสอบเป็นทางการ เป็นสายยี่ห้อใหม่ ราคาไม่แพง เพราะโครงสร้างสายซ้าย / ขวาติดกัน ชื่อไม่คุ้นหู มีแบ่งขายเป็นเมตร แต่ทางร้านมีบริการประกอบให้ เบ็ดเสร็จไม่ถึง 3 พันบาท จากนั้นก็คุยกันพักใหญ่ ก่อนกลับยัดสายลำโพงมาอีกคู่…

ผมไม่ได้คาดหวัง เพราะต้องบอกก่อนว่า รูปลักษณ์นั้นหน้าตาดูไม่สู้ดีนัก จากปกติเรามักจะคุ้นเคยกับสายสัญญาณที่แยกอิสระจากกัน ชุดนึงจึงมี 2 เส้น คุณต้องจ่ายเงินรวม 2 เมตร แต่กับ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect นี้ สายซ้าย และขวายึดติดกันด้วยฉนวน มองคล้ายเป็น 1 เส้น ทำให้คุณจ่ายเงินเพียงแค่ 1 เมตรก็สามารถใช้ทำสายสัญญาณได้ชุดนึงแล้ว ประหยัดเป็นเท่าตัว

แต่ไม่ว่ารูปลักษณ์จะเป็นอย่างไร ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม ผมก็ทำหน้าที่ตามปกติ ในเมื่อ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect เป็นสายเส้นใหม่ ผมต่อเข้าระบบเพื่อเบิร์นอินทันที โดยก่อนหน้าเป็นสายสัญญาณแบรนด์ดัง คู่ละเป็นหมื่น ผมก็ไม่คาดหวังว่าจะเกิดอาการ “ว้าว..” เพราะสายใหม่เอี่ยมยังไม่ได้เบิร์นจะไปสู้สายที่เล่นประจำได้อย่างไร

ลองแอบฟังนิดหน่อย โดยใส่แผ่นชินหูอย่าง ไซ่ฉิน Golden Voice Vol.1 (BM-206003) พอได้ยินเสียงเท่านั้นละครับ ต้องร้อง “ว้าว…” เลย แหลมสะอาด ไม่จัดจ้าน แข็งกร้าว แต่ก็ไม่อับทึบจนสั้นห้วน (มีเล็กน้อย) เสียงกลางลื่นไหลที่ดี เบสแน่นใช้ได้เลย…ขนาดยังไม่เบิร์นเลย!!

แล้ว…ประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม คือ การที่ผมทราบราคาของสายเส้นนี้ก่อนฟังแล้วซิครับ ปกติผมมักจะฟังทดสอบก่อนแล้วค่อยมาถามราคาตอนหลังก่อนส่งต้นฉบับ กลายเป็นวาระ “ซ่อนเร้น”

ด้วยราคาไม่แพง ผมเลยไม่คาดหวังอะไรมากในตอนแรก จนเมื่อได้ฟังเสียงแล้วนั่นละครับ..ที่เป็นเรื่อง ขนาดยังไม่เบิร์นเลย!! คุณภาพเสียงใกล้เคียงเดิมที่เราฟังเลย แต่เราจ่ายน้อยกว่ามากกกกกก…..

เรียกว่า คุณภาพเสียงช่างสวนทางกับรูปลักษณ์เหลือเกิน ตอนแรกที่เห็น ผมบอกว่านี่มันสายบ้านๆ เลยนะเนี่ย

ผมหายข้องใจเลยว่า ทำไมกลุ่มลูกค้าบางส่วนดังตัวอย่างนี้ ต่างวางใจเลือกใช้สาย Van Damme วงดนตรี (Oasis, Robbie Williams, Radiohead, AC/DC, Take That) Studios (Abbey Road, Sony Computer Centre, BBC Maida Vale, Yamaha Audio Support Centre) Installations (Sheikh Zayed Bridge in Abu Dhabi, Moscow Concert Hall, Wimbledon, Bank of America, National Theatre, Heathrow Terminal 5, Mercedes World) Marine (Octopus, Amels, Harris Grant Associates) Film & Broadcast (BBC OB, ITN, CNN, Bloomberg, Fox, Sky) Presentation & Shows (X-Factor, Glastonbury Festival, Royal Tournament, Edinburgh Tattoo, Olympic & Commonwealth Games, The Lion King, Latitude Festival, ‘Old Blue Eyes’ London Palladium, Big Brother, The Golden Jubilee, Goodwood Festival of Speed) Education & Government (SSR Manchester, Charles Darwin School, Thames Valley University, Metropolitan Police, Imperial War Museum, City of London Boys School, Queen Margaret University, Academy Of Contemporary Music, Royal Northern College of Music, Academy of Music) OEM/Corporate (Aston Martin, Pentax, PRS Guitars, Yamaha, Pfizer, Ford UK, McLaren, Marshall Amplification, Session Amplifiers) Stadiums (Wembley, The Emirates, Reebok, Stamford Bridge, Old Trafford)
คุณเห็นกลุ่มลูกค้าไหมครับ? เยอะมาก แถมมีหลายประเภท เช่น วงดนตรี, คอนเสิร์ตฮอลล์, สนามกีฬา, สนามบิน, เรือ, สถานีโทรทัศน์, สถานีตำรวจ, พิพิธภัณฑ์, มหาวิทยาลัย, เครื่องดนตรี, รถยนต์, สนามฟุตบอล ฯลฯ การันตีว่าความชำนาญของ Van Damme นั้นไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว

นอกจากนี้ เมื่อเจาะลึกเข้าไปจะพบว่า ใช้ในลำโพงไฮเอนด์หลายยี่ห้อ เช่น B&W, Harberth รวมทั้งติดตั้งในสตูดิโอของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยด้วย

            หลังจากเบิร์นอินเข้าที่แล้ว Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

จะไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ว่าเป็นหมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อมหรือเปล่า? โดยส่วนตัว คาดว่าต้องดีกว่าเดิม…

ลองดูหนังกันเลย Initial D (Blu-ray แผ่นฮ่องกง, LPCM 5.1) ให้ปลายแหลมสะอาด ไม่มีเม็ดทราย, สากเสี้ยน หรือสะบัดค้างใดๆ เสียงกลางชัดเจน ย้ำหนักเบาดี โฟกัสดี เบสอิ่มแน่นมีทรวดทรงที่ดี เวทีเสียงแผ่กว้างออกไปได้ ด้านลึกเลยจอภาพเข้าไปได้ง่ายขึ้น

Cars (Blu-ray แผ่นญี่ปุ่น, Dolby True HD 6.1) ชิ้นดนตรีมีโฟกัสที่ชัดเจน โทนัลบาลานซ์ดี เสียงแหลมไม่มีการรุกเร้า เสียงกลางลื่นไหล ย้ำหนักเบาดีมาก ความถี่ต่ำอิ่มแน่น สวิงเสียงกว้างขวางถึงพร้อมด้วยพละกำลังที่ดี ไม่ตื้ออั้น

Fast and Furious : Tokyo Drift (Blu-ray แผ่นอังกฤษ, dts MSTR 5.1) ให้การแยกแยะทิศทางที่ชัดเจน แม่นยำ โฟกัสดี สนามเสียงเชื่อมต่อกันดี เสียงสนทนามีน้ำหนัก ไม่อู้ก้อง ปลายแหลมสะอาดชัดเจน เบสอิ่มแน่นเด้งตัวดีมาก ไดนามิครุนแรงไม่ตื้ออั้น

Green Lantern (Blu-ray แผ่นอังกฤษ, dts MSTR 5.1) ให้การแพนทิศทางที่ชัดเจน แม่นยำ ไม่พร่ามัว ติดตามได้ตลอดไม่ว่าจะแพนจากไหนไปไหน สนามเสียงทั้งหมดถูกต้อง มิติชิ้นดนตรีถูกต้อง น่าประทับใจมาก

Alice in Wonderland (Blu-ray แผ่นบ้านเรา, dts MSTR 5.1) ถ่ายทอดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างดี ไม่ตกหล่นเก็บมาครบ ขณะที่ช่วงสวิงเสียงให้ความรุนแรงดี ไม่ตื้ออั้นหรือกดเสียงไว้ ปล่อยมาเต็มพลัง

King Kong 100^th Aniversary Limited Edition (Blu-ray แผ่นอังกฤษ, dts MSTR 5.1) แพนทิศทางดีมาก ชัดเจน ไม่คลุมเครือ ไม่สดจัดจ้านใดๆ

หันเล่นกับแผ่นดีวีดีกันบ้าง Pixar Short Films Collection : Volume 2 (ดีวีดีโซน 3 Dolby Digital 5.1) โดยภาพรวมแต่ละเรื่อง ให้การแพนทิศทางที่ดี มีบรรยากาศโอบล้อมชัดเจน เสียงเซอราวด์ค่อนข้างพรั่งพรู ไดนามิครุนแรง สวิงเสียงได้กว้าง น้ำหนักเสียงดี ชิ้นดนตรีชัดเจน

ช่วงท้ายลองฟังเพลงดู ด้วยแผ่นเดิม ไซ่ฉิน Golden Voice Vol.1 (BM-206003) ถ่ายทอดปลายแหลมที่สะอาด ไม่มีสากเสี้ยน อาจไม่เปิดจนทะลุทะลวง หัวโน๊ตเน้นความนุ่มนวลในวินาทีแรก ก่อนจะปล่อยออกมาเต็มสตรีม ทำให้ไม่แข็งกระด้าง ชัดไปทั้งหมด ช่วยให้ฟังได้นาน ย่านเสียงกลางน่าฟัง มีการย้ำหนักเบาดี ไทมิ่งดีไม่เร่งรีบหรือยืดยาวกว่าปกติ เบสอิ่มแน่นได้เนื้อดี ไม่บาง

ตามด้วย Rewind Remind บรรเลงโดยวง Leelawadee Quartet ค่าย Baicha Song เสียงนักร้องนักร้องหญิงลื่นไหล ออดอ้อน มีเสน่ห์ดี พื้นเสียงสะอาด มีความกังวานดี กลุ่มเครื่องดนตรีมีความชัดเจนมาก

หรือค่าย Classy Records อัลบั้ม ๙ แต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก..พ่อ ถ่ายทอดเสียงร้องสะอาด ลื่นไหล เต็มไปด้วยความอบอุ่น ฟังสบายไม่ล้าหู มีความกังวานดี

บทสรุป Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA)

สายสัญญาณหลักหมื่นที่ดีมีมากมาย แต่สายสัญญาณหลักพันที่ดี มี “น้อยมาก” และ Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA) เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ที่สำคัญเป็นสายสัญญาณที่ถูกที่สุด และมีคุณภาพน่าทึ่งที่ผมได้ฟังในรอบ “หลายปี” มานี้ รวมกับราคาขายที่ไม่สูงอะไรเลย ทำให้ผมต้องตัดสินใจทำเป็นบททดสอบอย่างเป็นทางการ

ถ้าคุณกำลังอยากได้สายสัญญาณคุณภาพดี แต่ไม่กล้าสู้ราคาถึงหลักหมื่น เพราะมีงบเพียงหลักพันต้นๆ เชื่อเหลือเกินว่า Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA) คือสายที่ผมอยากให้คุณฟัง โดยที่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องราคา, รูปลักษณ์ใดๆ หรือแม้แต่แบรนด์ของตัวสายใดๆ ขอเพียงแค่เสียบเข้าระบบแล้วนั่งฟัง นั่นคือ คำตอบที่คุณจะค้นพบเองโดยไม่ต้องให้ใครบังคับ

ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วครับ…

Van Damme : Shotgun Twin Audio Interconnect (RCA) ราคาเมตรละ 500 บาท แบบประกอบสำเร็จราคา 1,500 บาท

 ขอขอบคุณ ร้าน Sound Box โทร. 0-2539-0090 ผู้แทนจำหน่ายที่ได้อนุเคราะห์ให้ยืมสายมาทด