Talk about …
KARP AUDIO for who absolutely passion in music. !!
มงคล อ่วมเรืองศรี
![KARP AUDIO](http://whathifi.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2014/11/15.jpg)
ในภาษารัสเซียนั้น คำว่า KARP มีความหมายว่า ผลไม้ หรือกำไร …แต่กับที่มาของชื่อ KARP AUDIO นั้น แท้จริงแล้วเป็น ตัวย่อ มาจากชื่อและนามสกุลของคุณ การุณต์ เปรมโอชา นั่นเองแหละครับ ซึ่งแนวทางก่อตั้งกิจการก็เนื่องเพราะ ความรักและลุ่มหลง ในการฟังเพลงและดนตรีเป็นที่ตั้งจริงๆ ครับ ..จากการบอกเล่าของคุณการุณต์ต่อนิตยสาร What Hi-Fi? ของเรา ทำให้ทราบว่า ตั้งแต่วัยเด็กแล้วที่คุณการุณต์ได้คลุกคลีกับการฟังเพลงหลากหลายแนวของคุณพ่อจากชุดเครื่องเสียงสุดโด่งดังของอเมริกาในยุคสมัยนั้น อย่าง SAE, JBL เป็นการบ่มเพาะนิสัยรัก-ชอบการฟังเพลงให้แก่คุณการุณต์ได้ซึมซับโดยไม่รู้ตัว จนเมื่อถึงคราได้เวลาเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ คุณการุณต์ก็ได้ซื้อชุดเครื่องเสียงด้วยแนวทางของตนเอง ประกอบด้วย McIntosh, BOSE และ Yamaha ที่โด่งดังมากๆ ในช่วงนั้น กระทั่งสำเร็จการศึกษา-เดินทางกลับมาประเทศไทยก็ยังใช้เครื่องเสียงชุดนี้อยู่ต่อมา และได้อยู่ช่วยทางบ้านดำเนินกิจการธุรกิจทางด้านขนส่ง (Logistics) ต่อเนื่องมาราวๆ 20 ปีเข้านี่แล้ว
ความเป็นมา
ก่อนหน้าที่ KARP AUDIO จะเข้ามาเป็น น้องใหม่ ในแวดวงผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงไฮเอนด์รายล่าสุดในเมืองไทยเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนั้น คุณการุณต์ได้ท้าวความว่า …วันหนึ่งหลังจากที่ได้พบปะพูดคุยกับ Mr.Simon Hung – Marketing Director ของ MS HD POWER ภายในงานแสดงเครื่องเสียงเมื่อช่วงต้นปี 2556 ก็ได้เกิดความประทับใจในแง่คิด, กรรมวิธีการผลิต และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยได้รู้ รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ Power Distributor ภายใต้แบรนด์ MS HD POWER ทว่าในตอนนั้นผลิตภัณฑ์ MS HD POWER ขายดีหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือสักชิ้น…! ทั้งๆ ที่เพิ่งเป็นการมาเปิดตัวครั้งแรกในบ้านเรา จนในอีก 2 อาทิตย์ถัดมา Mr.Simon ก็ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้คุณการุณต์ได้ลองใช้ เป็นสายไฟฟ้าเข้าเครื่อง (Power cord) รุ่นใหม่เอี่ยมที่เป็นหัวชุบเคลือบโรเดี่ยม (Rhodium) ยังไม่ได้วางจำหน่ายที่ไหน ซึ่งก็ได้สร้างความประทับใจใน ความเปลี่ยนแปลง ที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก และได้สร้างความแปลกใจขึ้นไว้ในใจของคุณการุณต์
ด้วยว่า เมื่อเทียบกับสายไฟฟ้าเข้าเครื่องที่ราคาแพงมากๆ ซึ่งคุณการุณต์ใช้อยู่เดิมแล้วนั้น MS HD POWER ให้ ความต่าง ที่เหนือชั้นกว่า ทั้งๆ ที่ ระดับราคานั้นย่อมเยากว่ามากทีเดียว ซึ่งนั่นนับเป็นการ จุดประกาย ความคิดที่จะติดต่อขอเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MS HD POWER อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จากการพูดคุยกับ Mr.Simon ก็ยอมรับว่า รู้สึกถูกคอกับคุณการุณต์เป็นพิเศษ และได้เชื้อเชิญให้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ในฮ่องกงของ MS HD POWER เพื่อตกลงเรื่องนี้ร่วมกัน – ทั้งๆ ที่ในเวลานั้นก็ได้มีผู้ติดต่อขอเป็นผู้จัดจำหน่าย MS HD POWER ในประเทศไทยอยู่หลายเจ้าด้วยกัน
จากการเดินทางไปสำนักงานใหญ่ในฮ่องกงของคุณการุณต์ในครั้งนั้น ทั้งได้พบเห็นและได้ ลองของ หลายสิ่งหลายอย่างในความเป็น MS HD POWER ที่ได้ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ MS HD POWER มากยิ่งขึ้น จนตอบตกลงเซ็นสัญญาการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MS HD POWER ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในตอนนั้นก็คิดว่า ถ้าจะเริ่มต้นกิจการกับสิ่งที่ตัวเองรัก-ชอบ ก็น่าจะเริ่มต้นกับธุรกิจที่ใช้เงินไม่มากนักก่อน ทำให้เต็มที่ ทุ่มเทกับมัน แล้วค่อยมาดูกันต่อไป คุณการุณต์ได้เล่าให้เราฟังอีกว่า …ในตอนนั้นบังเอิญว่า ผมเองก็เป็นนักเล่น-นักฟังเครื่องเสียงตัวยงคนหนึ่งเหมือนกัน ผมใช้ Super Tweeter ของ Townshend มาเกือบจะ 10 ปีแล้ว ชั้นวางเครื่องเสียงที่ผมใช้เป็นของ Townshend ซึ่งมีหลักการไม่เหมือนใครในยุคนั้น นั่นทำให้ผมรู้สึกประทับใจในแนวคิดของ Max Townshend มาตั้งแต่นั้นแล้ว ซึ่งโดยเนื้อแท้ Max Townshend ผู้นี้เขาเป็นเอนจิเนียร์เต็มตัว เมื่อมีโอกาสเริ่มต้นกิจการในสิ่งที่ผมรัก-ชอบ แน่นอน Townshend จึงเป็นแบรนด์ลำดับที่ 2 ที่ผมติดต่อขอเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์ของ Townshend สั่งนำเข้ามาจำหน่ายครบทุกไลน์ครับ นับตั้งแต่ชั้นวางเครื่องเสียง, Seismic Isolation, Allegri Passive Pre-amp, Maximum Supertweeter รวมถึง The Rock 7 Turntable ที่ลือลั่นเป็นอย่างมาก แม้แต่ในอเมริกาเองก็ยังยอมรับ กวาดรางวัลมาแล้วมากต่อมากจากทั่วโลก และทาง Townshend ก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมากถือเป็นหนึ่งในตองอูทางด้านของผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นแผ่นเสียง เพราะได้พิสูจน์แล้วถึงคุณภาพที่สามารถยืนยงผันผ่านพัฒนาการต่อเนื่องมาแล้วหลายเจนเนอเรชั่น ณ ปัจจุบันนี้ (ถึงกับใช้ชื่อรุ่นว่า Rock 7 เชียวละครับ – คิดดูละกัน)
สำหรับ GamuT จริงๆ แล้วบ้านเราได้เคยมีการนำเข้ามาจำหน่ายนานปีมาแล้วและก็เงียบหายไป ทาง Mr.Simon เอ่ยชื่อแบรนด์นี้กับผม (คุณการุณต์) บอกในลักษณะว่า ถ้าจะ ทำตลาด อุปกรณ์เครื่องเสียง ขอให้จับแบรนด์นี้ได้เลย ผมก็เลยติดต่อไป ทำให้ได้ทราบว่า GamuT ปัจจุบันนี้ก้าวหน้ากว่าเดิมมาก มีการขยายไลน์การผลิตไปสู่ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพง (Speakers) ด้วยเมื่อสักประมาณสิบปีที่แล้ว นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ GamuT ขึ้นชื่อลือลั่นอยู่แล้ว
ทุกวันนี้ GamuT Audio จึงมีผลิตภัณฑ์ครบถ้วนในทุกเซกเม้นต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของ Electronics, Speakers, Connections รวมทั้ง Cables ด้วย คุณการุณต์ได้เล่าให้เราฟังต่อว่า ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio นั้น ได้รับแนวคิดพื้นฐานการออกแบบที่แปลก-แตกต่างไปจากทฤษฎีการออกแบบของลำโพงแบรนด์อื่น โดยได้คิดคำนึงถึงเรื่องของ ขาตั้ง หรือ ฐานตั้งวางลำโพง ไว้ตั้งแต่เริ่มแรกการออกแบบ คือว่าให้ความสำคัญไล่ขึ้นไปตั้งแต่ ขาตั้ง ก่อนเลย ในลักษณะของ Ground-up มิใช่แบบว่าดีไซน์ตัวตู้และเลือกสรรตัวลำโพงให้ลงตัวไว้แล้ว จึงค่อยมาออกแบบ-ขาตั้ง-กันทีหลังอย่างที่มักนิยมกันอะไรอย่างนั้น
ขาตั้ง ลำโพงของ GamuT Audio จึงเป็นเสมือน integration ของระบบลำโพงโดยรวม แม้แต่ลำโพงวางขาตั้งรุ่นเล็กๆ ก็ตามที ขาตั้ง ที่ว่านี้มีน้ำหนักมากเชียวละครับ – คุณการุณต์บอกกับเรา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเสถียรอย่างที่สุดต่อระบบลำโพง ทั้งในขณะตั้งวางและในขณะกำลังใช้งาน ขาตั้ง ที่มีน้ำหนักมากๆ จะช่วยสร้างสภาพ ถ่วงดุล ให้แก่ระบบลำโพงโดยรวมในลักษณะที่เอื้ออำนวยต่อกัน ส่งผลให้ระบบลำโพงนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่นรุ่นเรือธง RS9 ของ The Superior Series ที่มีน้ำหนักมากถึง 185 กก./ข้าง เฉพาะส่วนของฐานตั้งวางลำโพงนั้นมีน้ำหนักมากถึง 40-50 กก./ข้าง เลยทีเดียว
ตู้ลำโพงที่มีน้ำหนักมาก ทว่าฐานตั้งวางลำโพงกลับมีน้ำหนักเบา จะส่งผลในแง่แรงสั่นสะเทือนที่ถ่ายเทตรงลงสู่ขาตั้ง เมื่อขาตั้งไม่เสถียรพอ หรือ มีน้ำหนักไม่มากพอก็ย่อมไม่สามารถหยุดยั้งแรงสั่นสะเทือนได้ ตู้ลำโพงก็จะยังคงสั่นไหวอยู่ และยังอาจจะได้รับแรงสั่นสะเทือน-สะท้อนย้อนกลับมาจากขาตั้งลำโพงที่ไม่เสถียรพอนั้นอีกด้วย ส่งผลร้ายต่อทั้งสมรรถนะและคุณภาพเสียงของลำโพง ผลิตภัณฑ์ลำโพงของ GamuT Audio แต่ละรุ่นจึงมี ขาตั้ง หรือ ฐานตั้งวางลำโพง เป็นของตัวเองในแต่ละรุ่นสับเปลี่ยน หรือทดแทนกันไม่ได้ และหากมองลึกลงไปถึงรูปลักษณ์จะพบว่า ลำโพงของ GamuT Audio แต่ละรุ่นนั้น ได้รับการออกแบบไว้ในลักษณะที่ยึดหลักการ Time-Alignment ขนานแท้ตั้งแต่รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็ก ด้วยการจัดวางแต่ละไดรเวอร์ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งผ่านการคิดคำนึงเรื่องของ จุดกำเนิดเสียง ให้อยู่ตรงแนวกัน เพื่อให้ เสียง ที่แผ่ออกมาจากไดรเวอร์แต่ละตัวมีความ สมานเสมอ กัน ไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางค่าเวลาของเสียงในแต่ละช่วงย่านที่ไดรเวอร์แต่ละตัวทำการขับขานออกมา
ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อว่ากันถึง เบื้องลึก ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio ตอนนี้ทาง Mr.Lars Goller ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ยอมรับกันอย่างมาก กับการเป็นผู้ออกแบบสุดยอดทวีตเตอร์รุ่น Revelator (D2905/9900) ขนาดโดม 28 มม.ของ ScanSpeak (ได้ชื่อว่าเป็นทวีตเตอร์ดีที่สุดเท่าที่พึงจะหาได้บนโลกใบนี้นั่นเลยเชียวละ) ได้ก้าวเข้ามาเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อน GamuT Audio ณ ปัจจุบัน ทำให้ในยุโรปนั้นลำโพงของ GamuT Audio โด่งดังมาก แม้ว่าจริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio นั้นได้เคยมีการออกแบบไว้เดิมอยู่แล้ว แต่พอ Mr.Lars เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ก็ได้ทำการรี-ดีไซน์ใหม่หมด เป็นซีรี่ส์ล่าสุดใหม่เอี่ยมอ่อง อันประกอบด้วย The Superior Series เป็นซีรี่ส์ระดับท็อป-คลาส ที่นิตยสารเครื่องเสียงออนไลน์อย่าง Tone Audio ได้ยกย่องให้ RS9 รุ่นเรือธงของซีรี่ส์นี้เป็น Product of The Year 2010 มาแล้ว ในขณะที่ MinenT Series เป็นซีรี่ส์ระดับรองลงมา และ Phi Series ที่ถือว่าเป็นระดับคุ้มค่าน่าใช้ (อย่างที่มักเรียกกันว่า Entry-Level)
เหตุเกิดที่ The Nine Neighborhood Center
…แล้วทำไมคุณการุณต์จึงตัดสินใจเลือกสถานที่ตั้งโชว์รูมของ KARP AUDIO เป็น The Nine Neighborhood Center ละแวกถนนพระราม 9 นี่ล่ะครับ – คำตอบนั้นเป็นเพราะที่นี่อยู่ใกล้บ้านผมครับ การเดินทางไป-มาก็สะดวกเพราะออกมานอกเมือง ที่จอดรถก็มีมากไม่ต้องแย่งกันวุ่นวาย อีกอย่างเป็นเหตุ-ผลด้านบรรยากาศ ซึ่งที่นี่ต้องยอมรับว่าให้ความรู้สึกถึงสภาพบรรยากาศในแบบบ้านๆ ลงตัวกับคอนเซ็ปต์ที่ผมคิดไว้ แต่ที่สำคัญนั้นเป็นเรื่องของโครงสร้างครับ ทีแรกเลยผมก็มีไปดูๆ อยู่ที่ฟอร์จูนเหมือนกัน แต่ครั้นมาจับเรื่องโครงสร้างนี่-ผมจบที่ตัวเลือก The Nine Neighborhood Center …ก็เลยทำให้เมื่อรวมกับเหตุ-ผลต่างๆ เข้าด้วยกันแล้ว ผมจึงตัดสินใจเลือก The Nine Neighborhood Center เป็นสถานที่ตั้งโชว์รูมของ KARP AUDIO ครับ
คุณการุณต์เล่าต่อว่า บังเอิญผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านห้องบันทึกเสียง ซึ่งสถานที่ที่เพื่อนผมคนนี้ทำงานอยู่นั้นรับงานจากจากสตูดิโอชื่อดังของโลกหลายที่ทีเดียวครับ (คุณการุณต์ขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยชื่อครับ) ผมจึงนำเรื่องห้องฟังของโชว์รูม KARP AUDIO ไปพูดคุย-ปรึกษากับเพื่อนผมคนนี้ ทีนี้เพื่อนผมก็รู้จักกับคนๆ หนึ่งซึ่งนับว่า มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านอะคูสติกนี้โดยตรง และได้พามาให้ผมได้รู้จักด้วย ซึ่งเขาเองก็ได้ช่วยในเรื่องของห้องฟังนี้อย่างเต็มที่ นับตั้งแต่เรื่องของการคิดคำนวณ-การออกแบบ-การเลือกสรรวัสดุ จนกระทั่งเรื่องของการควบคุมงานให้เป็นไปตามแบบอย่างใกล้ชิด น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่เขาคนนี้ได้ขอผมไว้ว่า กรุณาอย่าได้เอ่ยชื่อของเขา ทั้งๆ ที่เขานั้นเก่งกาจมากในด้านนี้
โจทย์สำคัญที่ผมมอบให้เขาไปนั่งคิด ก็คือ ความต้องการของผมที่อยากให้ห้องฟังนี้เป็นแบบอย่างของโชว์รูมชั้นดีที่มีความพร้อมต่อการสำแดงสมรรถนะและศักยภาพของชุดเครื่องเสียงและลำโพงได้อย่างถ่องแท้และเที่ยงตรง …เป็นที่ที่ผมปรารถนาให้ได้ชื่อเป็นหนึ่งใน-ห้องฟัง-หรือ-โชว์รูม-ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ในใจของผมนั้น คาดหวัง อย่างแรงกล้าที่จะให้ห้องฟังห้องนี้สามารถใช้เพื่อการอ้างอิงในการรับฟังได้อย่างจริงจัง มิใช่สร้างขึ้นมาเพียงแค่ให้ดูสวยงามเท่านั้น
ผมจึงลงทุนกับห้องฟังห้องนี้อย่างไม่อั้นจริงๆ ครับ ด้วยมุ่งหวังให้ได้มาซึ่งประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ จากความที่ผมเองเป็นนักเล่น-นักฟังมาก่อนจึงทราบดีถึงความต้องการของลูกค้า หรือผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ที่ทางเราจัดจำหน่ายอยู่ ย่อมปรารถนาที่จะให้ห้องฟังของโชว์รูมนั้นสามารถที่จะช่วยให้ชุดเครื่องเสียงที่รับฟังนั้น สำแดงสมรรถนะการทำงานและศักยภาพทางด้านคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มที่และถ่องแท้-เที่ยงตรง ทั้งยังต้องให้ความรู้สึกน่าประทับใจเมื่อได้เข้ามาฟัง
คำแนะนำอะไรที่จะช่วยให้มีผลลัพธ์ในทางที่ดีต่อคุณภาพเสียง-ผมเองได้นำมาใช้เกือบหมด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของระบบปรับอากาศ ที่ใช้ทั้งอุปกรณ์ Silencer เพื่อช่วยเก็บเสียงลมแอร์ และยังใช้ระบบท่อวกวนเข้ามาเสริมเพิ่มประสิทธิภาพความเงียบอีกชั้นหนึ่งด้วย ห้องฟังห้องนี้จึงไม่มีเสียงลมพ่น ผมเคยวัดค่าสัมประสิทธิ์ความดังได้ออกมาไม่ถึง 30 เดซิเบลเลยนะครับ !!!
โครงสร้างทั้งหมดของห้องฟังนี้ จัดทำเป็น 2 ชั้น คั่นกลางไว้ด้วย Air Gap ทั่วทั้งห้อง แม้แต่พื้นห้องก็เทพื้นเป็น 2 ชั้น เพื่อให้เกิดความแกร่งสูงสุด ทั้งยังใช้สกรูขันยึดโครงสร้างไม้ ไม่ได้ใช้การยิงตะปูนะครับ โครงสร้างจึงยึดโยงกันแข็งแรงมาก ไม่เกิดสภาพการสั่นคลอนเป็นเสียงครางออกมาอย่างแน่นอนครับ กระเบื้องที่ใช้ทั้งพื้นและผนังล้วนเป็น แกรนิโต้ ทั้งนั้น เนื่องเพราะค่าความแกร่งเป็นเนื้อเดียวกัน (Rigid) นั่นแหละครับ – คุณการุณต์ชี้แจงให้เราฟัง
อีกทั้งคนที่เขารับหน้าที่ออกแบบห้องฟังนี้ให้แก่ผมนั้น ระบุไว้ตั้งแต่แรกเลยนะครับว่า ผนังทุกด้านของห้องฟังนี้ต้อง ไร้ด้านขนาน รูปลักษณ์ของห้องฟังนี้จึงเป็นอย่างที่เห็น – ผนังด้านหน้ามีลักษณะราบเรียบ มีการใช้วัสดุเก็บซับเสียงในบางส่วนเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มีสภาพการสะท้อนเป็นส่วนใหญ่ อะคูสติกเสียงจะได้ไม่อับทึบ หรือ Dead จนเกินไป – ผนังด้านข้างมีลักษณะหักมุม-ผายออก คล้ายปากแตรน้อยๆ เพื่อมิให้ผนังด้านข้างทั้ง 2 ด้านนั้นขนานกัน ซึ่งก็จะมีการใช้ Diffusor เข้าไปผสมผสานกับวัสดุเก็บซับเสียงอย่างพอเหมาะพอสมกัน
.ในขณะที่ผนังด้านหลังนั้นใช้ไม้ระแนงขนาดราวๆ นิ้วครึ่งคูณนิ้วครึ่งจัดทำเป็นลอนโค้งนูนออกมา เว้นช่วงห่างระหว่างกันและกั้นช่องว่างไว้ด้วยผ้าเนื้อหนาสีเทาเข้ม ซ่อนวัสดุเก็บซับเสียงไว้ภายใน เพื่อให้แผงไม้ระแนงนั้นทำหน้าที่ละม้ายกับ diffusor กลายๆ นั่นเองครับ ส่วนเพดานนั้นเรื่องของโครงคร่าวที่แข็งแกร่งถือเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งยวด ทั้งยังจัดทำเป็นแบบ ยกระดับ ไม่เท่ากันเหมือนกับลักษณะเพดานของฮอลล์แสดงดนตรี (concert Hall) เพดานของห้องนี้ก็สูงมากปล่อยเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้เกิดสภาพสะท้อนกลับที่เร็วนัก ช่วยให้เกิดการจางหายของเสียง โดยมิได้ใช้วัสดุเก็บซับเสียงเข้าช่วย ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติของสภาพอะคูสติกตามสัดส่วนที่กำหนดอย่างที่ได้ออกแบบ-คิดคำนวณไว้
คนที่เขาออกแบบห้องฟังนี้บอกกับผม (คุณการุณต์) ว่า เมื่อเสียงเปล่งออกมาจากลำโพง ส่วนหนึ่งจะพุ่งตรงเข้าหาผู้ฟัง และจะถูกผนังด้านหลังเก็บซับไว้บางส่วน (เป็นลูปแรก) ในขณะที่บางส่วนก็จะสะท้อนขึ้นไปยังเพดาน ก่อนที่จะถูกกระจายตัวออกไป (เป็นลูปที่สอง) บนพื้นห้องจึงต้องมีผืนพรมหนาเพื่อเก็บเสียงจางๆ ที่กระจายตัวออกมาจากเพดาน (เป็นลูปที่สาม) – เพดานที่สูงจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ทางเสียง ผนังด้านหน้าก็นับว่า มีส่วนสำคัญเช่นกัน จะต้องมิให้มีวัสดุเก็บซับเสียงที่มากเกินไป จนรายละเอียดเสียงไม่พุ่งออกมาอย่างที่ควรจะเป็น กลายเป็นสภาพเสียงจมตัวมากไป ฟังแล้วอึดอัด-บีบรัดเพราะขาดรายละเอียดต่างๆ ในขณะรับฟัง รวมทั้งความกระจ่างชัดก็สูญเสียไปด้วยโดยปริยาย
![คุณ “วิ” ผู้ช่วยดูแลร้านคนสวย - มากน้ำใจไมตรี](http://whathifi.whatgroupmag.com/wp-content/uploads/2014/11/Z-6-704x1024.jpg)
ปัจจัยอีกข้อที่ผมขอเน้นคนที่ออกแบบให้นี่ ก็คือว่า ผมไม่ได้ต้องการห้องฟังที่หวือหวามากนัก แต่ต้องการห้องฟังที่ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นห้องฟังที่อยู่ในบ้าน เป็นห้องฟังของเราๆ ท่านๆ มิใช่ห้องฟังที่วิลิศมาหราอะไรนัก สามารถใช้เป็นแบบอย่าง-แนะนำให้แก่ผู้สนใจ …ห้องฟังของโชว์รูม KARP AUDIO จึงให้ความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง สบายๆ ให้ความมีชีวิตชีวา (live) ไม่อับทึบ-อึดอัด (Dead) และปราศจากเสียงลมแอร์พ่นจนแย่งสมาธิไปในขณะรับฟัง เพดานที่สูงมาก บวกกับผนังที่ไร้ด้านขนานทำให้ได้มาซึ่งสภาพเวทีเสียงที่เป็นธรรมชาติ จนสามารถใช้เป็นห้องฟังอ้างอิงได้สมดังเจตน์จำนงค์ของคุณการุณต์ …ที่เรา What Hi-Fi ? ขอแนะนำให้ทุกท่านต้องหาโอกาสเข้าไปรับฟัง – แล้วคุณจะติดใจ
– สนใจเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทั้ง MS HD POWER, Townshend และ GamuT ได้ที่เว็บไซต์ www.karp.co.th หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2261-2788, 080-080-4858 (e-mail : [email protected])
หมายเหตุ :
*** MS HD POWER มีจุดเด่นในการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุดมาใช้ ร่วมกับเทคโนโลยีอันแตกต่างจากใครๆ โดยทำทุกอย่างในทุกขั้นตอนภายในโรงงานของตนเองแบบ In-House Manufacturing มิได้มีการจ้างผลิตจากภายนอก – ตรงกันข้าม MS HD POWER กลับได้รับความเชื่อถือจากภายนอก ว่าจ้างให้ทำการผลิตจำหน่ายแบบ OEM ภายใต้เนมแบรนด์อื่นๆ มากมายในปัจจุบัน
MS HD POWER นั้นก่อตั้งขึ้นในปีคศ. 1967 มีผลิตภัณฑ์หลายหลากนับตั้งแต่ตัวปลั๊กเสียบ ทั้งแบบตัวผู้-ตัวเมีย, เต้าเสียบต่างๆ (Receptacles & Wall Outlets) รวมทั้งอุปกรณ์ประเภทปลั๊กพ่วง-ปลั๊กราง (Power Distributor) กระทั่งสายไฟเข้าเครื่อง (Power Cord) ที่มุ่งเน้นคุณภาพการนำพากระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านได้อย่างราบเรียบที่สุด โดยไม่มีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ เข้าไปยุ่งเกี่ยวต่อการ กลั่นกรอง กระแสไฟฟ้าให้ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น เพื่อให้สมรรถนะการทำงานของภาคจ่ายไฟ (Power Supply) ในชุดเครื่องเสียงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ Power Distributor รุ่น MS-E01 mk II ซึ่งนับเป็นรุ่นสูงสุดนั้น นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากระดับราคาที่นำเสนอจะไม่สูงมากแล้ว สมรรถนะที่ได้รับเทียบกับเงินตราที่จ่ายไป ยังนับว่า คุ้มค่ามากทีเดียว และมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น แบบชุบเคลือบทอง 24 เคแท้ๆ (Gold-Plated 24K) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในชุดโฮม เธียเตอร์ กับแบบ Rhodium-Plated ที่เหมาะเจาะโดยเฉพาะกับชุดเครื่องเสียง
*** Townshend – ได้ก่อตั้งขึ้นมาจะ 50 ปีเข้านี่แล้ว ที่อาจพูดได้ว่า ในอเมริกานั้นชื่อเสียงของ Townshend เป็นที่รู้จัก และกล่าวขานกันมากในฐานะแบรนด์เนมเครื่องเสียงชั้นนำของเครือจักรภพอังกฤษที่อเมริกันชนให้การยอมรับมากจริงๆ แม้จะมีผลิตภัณฑ์ไม่หลายหลากมากนัก ทว่าแต่ละชิ้นแต่ละรุ่นล้วนสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากโดยถ้วนหน้ามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น The Rock 7 Turntable, Allegri Passive Pre-amp, Maximum Supertweeter รวมถึง Seismic Isolation และ Cables
*** GamuT – ย้อนหลังไปในช่วงต้นปีค.ศ.1980, ชื่อของ GamuT Audio ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับสูงของเดนมาร์ก (Danish Company) ด้วยฝีมือของ Ole Lund Kristensen โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ทางด้านแอมปลิไฟเออร์ ทว่า ณ ปัจจุบัน Mr.Lars Goller ได้ก้าวเข้ามาเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อน Gamut Audio นับเนื่องตั้งแต่ปีค.ศ.2005 เป็นต้นมา ภายใต้แนวคิด No System is Better Than The Weakest part
ทุกวันนี้ GamuT Audio จึงมีผลิตภัณฑ์ครบถ้วนในทุกเซกเม้นต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของ Electronics, Speakers, Connections รวมทั้ง cables ซึ่งทุกๆ ผลิตภัณฑ์ล้วนมีจุดเด่นสำคัญในความเป็น Hand-Made ล้วนๆ ด้วยมาตรฐานระดับสูงสุดภายในโรงงานของตนเอง (In-House Manufacturer) เพื่อให้ GamuT Audio นั้นได้ชื่อว่า ไม่มีจุดอ่อน ใดๆ ในทุกห่วงโซ่ของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังจะได้สำแดงความเป็น GamuT อย่างสมบูรณ์เต็มที่เมื่อใช้งานร่วมกันเป็นซิสเต็ม
ชื่อเสียงของ Lars Goller เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง และยอมรับกับฝีมือขั้นเทพในฐานะ R&D manager ให้กับทั้ง Vifa และ ScanSpeak อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Director of Engineering ให้กับ Danish Sound Technology (DST) ในช่วงแรกเริ่มกิจการอีกด้วย ที่สำคัญ Lars Goller ยังเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์การประดิษฐ์ทวีตเตอร์แบบ Symmetric Drive (SD) อันโด่งดังของ ScanSpeak รวมถึงการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบทวีตเตอร์แบบใหม่ล่าสุดที่รู้จักกันแพร่หลายภายใต้ชื่อ Ring Radiator อีกด้วย (แม้แต่ Sonus Faber ก็ยังเลือกใช้) และ Lars Goller นี่แหละที่เป็นผู้ออกแบบ Revelator (D2905/9900) สุดยอดทวีตเตอร์ขนาด 28 มม.ของ ScanSpeak ซึ่งได้ชื่อว่าดีที่สุดบนผืนปฐพีนี้เลยทีเดียว
Mr.Lars ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ GamuT Audio เต็มที่ทั้ง 100 % เมื่อช่วงประมาณปีค.ศ.2006 จากนั้นในปีค.ศ.2008 ก็ได้ขายกิจการให้กับทาง KVIST INDUSTRIES A/S ซึ่งนับเป็นบริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก ด้วยเหตุผลที่ว่า Mr.Lars จะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานทางด้านบริหาร จะได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานด้านการออกแบบอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีข้อกังวลใจใดๆ ในเรื่องการดำเนินกิจการ นี่จึงมิใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด ในแง่ที่ว่า ทำไม สมรรถนะและคุณภาพเสียงจากลำโพงของ GamuT Audio ถึงได้โด่งดังเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น The Absolute Sound, Stereophile รวมทั้ง Tone Audio และ Hi-Fi News แม้กระทั่ง www.positive-feedback.com