Talk about …
KARP AUDIO for who absolutely passion in music. !!
มงคล อ่วมเรืองศรี
ในภาษารัสเซียนั้น คำว่า KARP มีความหมายว่า ผลไม้ หรือกำไร …แต่กับที่มาของชื่อ KARP AUDIO นั้น แท้จริงแล้วเป็น ตัวย่อ มาจากชื่อและนามสกุลของคุณ การุณต์ เปรมโอชา นั่นเองแหละครับ ซึ่งแนวทางก่อตั้งกิจการก็เนื่องเพราะ ความรักและลุ่มหลง ในการฟังเพลงและดนตรีเป็นที่ตั้งจริงๆ ครับ ..จากการบอกเล่าของคุณการุณต์ต่อนิตยสาร What Hi-Fi? ของเรา ทำให้ทราบว่า ตั้งแต่วัยเด็กแล้วที่คุณการุณต์ได้คลุกคลีกับการฟังเพลงหลากหลายแนวของคุณพ่อจากชุดเครื่องเสียงสุดโด่งดังของอเมริกาในยุคสมัยนั้น อย่าง SAE, JBL เป็นการบ่มเพาะนิสัยรัก-ชอบการฟังเพลงให้แก่คุณการุณต์ได้ซึมซับโดยไม่รู้ตัว จนเมื่อถึงคราได้เวลาเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ คุณการุณต์ก็ได้ซื้อชุดเครื่องเสียงด้วยแนวทางของตนเอง ประกอบด้วย McIntosh, BOSE และ Yamaha ที่โด่งดังมากๆ ในช่วงนั้น กระทั่งสำเร็จการศึกษา-เดินทางกลับมาประเทศไทยก็ยังใช้เครื่องเสียงชุดนี้อยู่ต่อมา และได้อยู่ช่วยทางบ้านดำเนินกิจการธุรกิจทางด้านขนส่ง (Logistics) ต่อเนื่องมาราวๆ 20 ปีเข้านี่แล้ว
ความเป็นมา
ก่อนหน้าที่ KARP AUDIO จะเข้ามาเป็น น้องใหม่ ในแวดวงผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงไฮเอนด์รายล่าสุดในเมืองไทยเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วนั้น คุณการุณต์ได้ท้าวความว่า …วันหนึ่งหลังจากที่ได้พบปะพูดคุยกับ Mr.Simon Hung – Marketing Director ของ MS HD POWER ภายในงานแสดงเครื่องเสียงเมื่อช่วงต้นปี 2556 ก็ได้เกิดความประทับใจในแง่คิด, กรรมวิธีการผลิต และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยได้รู้ รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ Power Distributor ภายใต้แบรนด์ MS HD POWER ทว่าในตอนนั้นผลิตภัณฑ์ MS HD POWER ขายดีหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือสักชิ้น…! ทั้งๆ ที่เพิ่งเป็นการมาเปิดตัวครั้งแรกในบ้านเรา จนในอีก 2 อาทิตย์ถัดมา Mr.Simon ก็ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้คุณการุณต์ได้ลองใช้ เป็นสายไฟฟ้าเข้าเครื่อง (Power cord) รุ่นใหม่เอี่ยมที่เป็นหัวชุบเคลือบโรเดี่ยม (Rhodium) ยังไม่ได้วางจำหน่ายที่ไหน ซึ่งก็ได้สร้างความประทับใจใน ความเปลี่ยนแปลง ที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก และได้สร้างความแปลกใจขึ้นไว้ในใจของคุณการุณต์
ด้วยว่า เมื่อเทียบกับสายไฟฟ้าเข้าเครื่องที่ราคาแพงมากๆ ซึ่งคุณการุณต์ใช้อยู่เดิมแล้วนั้น MS HD POWER ให้ ความต่าง ที่เหนือชั้นกว่า ทั้งๆ ที่ ระดับราคานั้นย่อมเยากว่ามากทีเดียว ซึ่งนั่นนับเป็นการ จุดประกาย ความคิดที่จะติดต่อขอเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MS HD POWER อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จากการพูดคุยกับ Mr.Simon ก็ยอมรับว่า รู้สึกถูกคอกับคุณการุณต์เป็นพิเศษ และได้เชื้อเชิญให้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ในฮ่องกงของ MS HD POWER เพื่อตกลงเรื่องนี้ร่วมกัน – ทั้งๆ ที่ในเวลานั้นก็ได้มีผู้ติดต่อขอเป็นผู้จัดจำหน่าย MS HD POWER ในประเทศไทยอยู่หลายเจ้าด้วยกัน
จากการเดินทางไปสำนักงานใหญ่ในฮ่องกงของคุณการุณต์ในครั้งนั้น ทั้งได้พบเห็นและได้ ลองของ หลายสิ่งหลายอย่างในความเป็น MS HD POWER ที่ได้ตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ MS HD POWER มากยิ่งขึ้น จนตอบตกลงเซ็นสัญญาการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MS HD POWER ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งในตอนนั้นก็คิดว่า ถ้าจะเริ่มต้นกิจการกับสิ่งที่ตัวเองรัก-ชอบ ก็น่าจะเริ่มต้นกับธุรกิจที่ใช้เงินไม่มากนักก่อน ทำให้เต็มที่ ทุ่มเทกับมัน แล้วค่อยมาดูกันต่อไป คุณการุณต์ได้เล่าให้เราฟังอีกว่า …ในตอนนั้นบังเอิญว่า ผมเองก็เป็นนักเล่น-นักฟังเครื่องเสียงตัวยงคนหนึ่งเหมือนกัน ผมใช้ Super Tweeter ของ Townshend มาเกือบจะ 10 ปีแล้ว ชั้นวางเครื่องเสียงที่ผมใช้เป็นของ Townshend ซึ่งมีหลักการไม่เหมือนใครในยุคนั้น นั่นทำให้ผมรู้สึกประทับใจในแนวคิดของ Max Townshend มาตั้งแต่นั้นแล้ว ซึ่งโดยเนื้อแท้ Max Townshend ผู้นี้เขาเป็นเอนจิเนียร์เต็มตัว เมื่อมีโอกาสเริ่มต้นกิจการในสิ่งที่ผมรัก-ชอบ แน่นอน Townshend จึงเป็นแบรนด์ลำดับที่ 2 ที่ผมติดต่อขอเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์ของ Townshend สั่งนำเข้ามาจำหน่ายครบทุกไลน์ครับ นับตั้งแต่ชั้นวางเครื่องเสียง, Seismic Isolation, Allegri Passive Pre-amp, Maximum Supertweeter รวมถึง The Rock 7 Turntable ที่ลือลั่นเป็นอย่างมาก แม้แต่ในอเมริกาเองก็ยังยอมรับ กวาดรางวัลมาแล้วมากต่อมากจากทั่วโลก และทาง Townshend ก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมากถือเป็นหนึ่งในตองอูทางด้านของผลิตภัณฑ์เครื่องเล่นแผ่นเสียง เพราะได้พิสูจน์แล้วถึงคุณภาพที่สามารถยืนยงผันผ่านพัฒนาการต่อเนื่องมาแล้วหลายเจนเนอเรชั่น ณ ปัจจุบันนี้ (ถึงกับใช้ชื่อรุ่นว่า Rock 7 เชียวละครับ – คิดดูละกัน)
สำหรับ GamuT จริงๆ แล้วบ้านเราได้เคยมีการนำเข้ามาจำหน่ายนานปีมาแล้วและก็เงียบหายไป ทาง Mr.Simon เอ่ยชื่อแบรนด์นี้กับผม (คุณการุณต์) บอกในลักษณะว่า ถ้าจะ ทำตลาด อุปกรณ์เครื่องเสียง ขอให้จับแบรนด์นี้ได้เลย ผมก็เลยติดต่อไป ทำให้ได้ทราบว่า GamuT ปัจจุบันนี้ก้าวหน้ากว่าเดิมมาก มีการขยายไลน์การผลิตไปสู่ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพง (Speakers) ด้วยเมื่อสักประมาณสิบปีที่แล้ว นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่ GamuT ขึ้นชื่อลือลั่นอยู่แล้ว
ทุกวันนี้ GamuT Audio จึงมีผลิตภัณฑ์ครบถ้วนในทุกเซกเม้นต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของ Electronics, Speakers, Connections รวมทั้ง Cables ด้วย คุณการุณต์ได้เล่าให้เราฟังต่อว่า ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio นั้น ได้รับแนวคิดพื้นฐานการออกแบบที่แปลก-แตกต่างไปจากทฤษฎีการออกแบบของลำโพงแบรนด์อื่น โดยได้คิดคำนึงถึงเรื่องของ ขาตั้ง หรือ ฐานตั้งวางลำโพง ไว้ตั้งแต่เริ่มแรกการออกแบบ คือว่าให้ความสำคัญไล่ขึ้นไปตั้งแต่ ขาตั้ง ก่อนเลย ในลักษณะของ Ground-up มิใช่แบบว่าดีไซน์ตัวตู้และเลือกสรรตัวลำโพงให้ลงตัวไว้แล้ว จึงค่อยมาออกแบบ-ขาตั้ง-กันทีหลังอย่างที่มักนิยมกันอะไรอย่างนั้น
ขาตั้ง ลำโพงของ GamuT Audio จึงเป็นเสมือน integration ของระบบลำโพงโดยรวม แม้แต่ลำโพงวางขาตั้งรุ่นเล็กๆ ก็ตามที ขาตั้ง ที่ว่านี้มีน้ำหนักมากเชียวละครับ – คุณการุณต์บอกกับเรา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเสถียรอย่างที่สุดต่อระบบลำโพง ทั้งในขณะตั้งวางและในขณะกำลังใช้งาน ขาตั้ง ที่มีน้ำหนักมากๆ จะช่วยสร้างสภาพ ถ่วงดุล ให้แก่ระบบลำโพงโดยรวมในลักษณะที่เอื้ออำนวยต่อกัน ส่งผลให้ระบบลำโพงนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่นรุ่นเรือธง RS9 ของ The Superior Series ที่มีน้ำหนักมากถึง 185 กก./ข้าง เฉพาะส่วนของฐานตั้งวางลำโพงนั้นมีน้ำหนักมากถึง 40-50 กก./ข้าง เลยทีเดียว
ตู้ลำโพงที่มีน้ำหนักมาก ทว่าฐานตั้งวางลำโพงกลับมีน้ำหนักเบา จะส่งผลในแง่แรงสั่นสะเทือนที่ถ่ายเทตรงลงสู่ขาตั้ง เมื่อขาตั้งไม่เสถียรพอ หรือ มีน้ำหนักไม่มากพอก็ย่อมไม่สามารถหยุดยั้งแรงสั่นสะเทือนได้ ตู้ลำโพงก็จะยังคงสั่นไหวอยู่ และยังอาจจะได้รับแรงสั่นสะเทือน-สะท้อนย้อนกลับมาจากขาตั้งลำโพงที่ไม่เสถียรพอนั้นอีกด้วย ส่งผลร้ายต่อทั้งสมรรถนะและคุณภาพเสียงของลำโพง ผลิตภัณฑ์ลำโพงของ GamuT Audio แต่ละรุ่นจึงมี ขาตั้ง หรือ ฐานตั้งวางลำโพง เป็นของตัวเองในแต่ละรุ่นสับเปลี่ยน หรือทดแทนกันไม่ได้ และหากมองลึกลงไปถึงรูปลักษณ์จะพบว่า ลำโพงของ GamuT Audio แต่ละรุ่นนั้น ได้รับการออกแบบไว้ในลักษณะที่ยึดหลักการ Time-Alignment ขนานแท้ตั้งแต่รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็ก ด้วยการจัดวางแต่ละไดรเวอร์ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งผ่านการคิดคำนึงเรื่องของ จุดกำเนิดเสียง ให้อยู่ตรงแนวกัน เพื่อให้ เสียง ที่แผ่ออกมาจากไดรเวอร์แต่ละตัวมีความ สมานเสมอ กัน ไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางค่าเวลาของเสียงในแต่ละช่วงย่านที่ไดรเวอร์แต่ละตัวทำการขับขานออกมา
ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อว่ากันถึง เบื้องลึก ผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio ตอนนี้ทาง Mr.Lars Goller ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ยอมรับกันอย่างมาก กับการเป็นผู้ออกแบบสุดยอดทวีตเตอร์รุ่น Revelator (D2905/9900) ขนาดโดม 28 มม.ของ ScanSpeak (ได้ชื่อว่าเป็นทวีตเตอร์ดีที่สุดเท่าที่พึงจะหาได้บนโลกใบนี้นั่นเลยเชียวละ) ได้ก้าวเข้ามาเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อน GamuT Audio ณ ปัจจุบัน ทำให้ในยุโรปนั้นลำโพงของ GamuT Audio โด่งดังมาก แม้ว่าจริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ระบบลำโพงของ GamuT Audio นั้นได้เคยมีการออกแบบไว้เดิมอยู่แล้ว แต่พอ Mr.Lars เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ก็ได้ทำการรี-ดีไซน์ใหม่หมด เป็นซีรี่ส์ล่าสุดใหม่เอี่ยมอ่อง อันประกอบด้วย The Superior Series เป็นซีรี่ส์ระดับท็อป-คลาส ที่นิตยสารเครื่องเสียงออนไลน์อย่าง Tone Audio ได้ยกย่องให้ RS9 รุ่นเรือธงของซีรี่ส์นี้เป็น Product of The Year 2010 มาแล้ว ในขณะที่ MinenT Series เป็นซีรี่ส์ระดับรองลงมา และ Phi Series ที่ถือว่าเป็นระดับคุ้มค่าน่าใช้ (อย่างที่มักเรียกกันว่า Entry-Level)
เหตุเกิดที่ The Nine Neighborhood Center
…แล้วทำไมคุณการุณต์จึงตัดสินใจเลือกสถานที่ตั้งโชว์รูมของ KARP AUDIO เป็น The Nine Neighborhood Center ละแวกถนนพระราม 9 นี่ล่ะครับ – คำตอบนั้นเป็นเพราะที่นี่อยู่ใกล้บ้านผมครับ การเดินทางไป-มาก็สะดวกเพราะออกมานอกเมือง ที่จอดรถก็มีมากไม่ต้องแย่งกันวุ่นวาย อีกอย่างเป็นเหตุ-ผลด้านบรรยากาศ ซึ่งที่นี่ต้องยอมรับว่าให้ความรู้สึกถึงสภาพบรรยากาศในแบบบ้านๆ ลงตัวกับคอนเซ็ปต์ที่ผมคิดไว้ แต่ที่สำคัญนั้นเป็นเรื่องของโครงสร้างครับ ทีแรกเลยผมก็มีไปดูๆ อยู่ที่ฟอร์จูนเหมือนกัน แต่ครั้นมาจับเรื่องโครงสร้างนี่-ผมจบที่ตัวเลือก The Nine Neighborhood Center …ก็เลยทำให้เมื่อรวมกับเหตุ-ผลต่างๆ เข้าด้วยกันแล้ว ผมจึงตัดสินใจเลือก The Nine Neighborhood Center เป็นสถานที่ตั้งโชว์รูมของ KARP AUDIO ครับ
คุณการุณต์เล่าต่อว่า บังเอิญผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านห้องบันทึกเสียง ซึ่งสถานที่ที่เพื่อนผมคนนี้ทำงานอยู่นั้นรับงานจากจากสตูดิโอชื่อดังของโลกหลายที่ทีเดียวครับ (คุณการุณต์ขออนุญาตที่จะไม่เอ่ยชื่อครับ) ผมจึงนำเรื่องห้องฟังของโชว์รูม KARP AUDIO ไปพูดคุย-ปรึกษากับเพื่อนผมคนนี้ ทีนี้เพื่อนผมก็รู้จักกับคนๆ หนึ่งซึ่งนับว่า มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านอะคูสติกนี้โดยตรง และได้พามาให้ผมได้รู้จักด้วย ซึ่งเขาเองก็ได้ช่วยในเรื่องของห้องฟังนี้อย่างเต็มที่ นับตั้งแต่เรื่องของการคิดคำนวณ-การออกแบบ-การเลือกสรรวัสดุ จนกระทั่งเรื่องของการควบคุมงานให้เป็นไปตามแบบอย่างใกล้ชิด น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่เขาคนนี้ได้ขอผมไว้ว่า กรุณาอย่าได้เอ่ยชื่อของเขา ทั้งๆ ที่เขานั้นเก่งกาจมากในด้านนี้
โจทย์สำคัญที่ผมมอบให้เขาไปนั่งคิด ก็คือ ความต้องการของผมที่อยากให้ห้องฟังนี้เป็นแบบอย่างของโชว์รูมชั้นดีที่มีความพร้อมต่อการสำแดงสมรรถนะและศักยภาพของชุดเครื่องเสียงและลำโพงได้อย่างถ่องแท้และเที่ยงตรง …เป็นที่ที่ผมปรารถนาให้ได้ชื่อเป็นหนึ่งใน-ห้องฟัง-หรือ-โชว์รูม-ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ในใจของผมนั้น คาดหวัง อย่างแรงกล้าที่จะให้ห้องฟังห้องนี้สามารถใช้เพื่อการอ้างอิงในการรับฟังได้อย่างจริงจัง มิใช่สร้างขึ้นมาเพียงแค่ให้ดูสวยงามเท่านั้น
ผมจึงลงทุนกับห้องฟังห้องนี้อย่างไม่อั้นจริงๆ ครับ ด้วยมุ่งหวังให้ได้มาซึ่งประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ จากความที่ผมเองเป็นนักเล่น-นักฟังมาก่อนจึงทราบดีถึงความต้องการของลูกค้า หรือผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์ที่ทางเราจัดจำหน่ายอยู่ ย่อมปรารถนาที่จะให้ห้องฟังของโชว์รูมนั้นสามารถที่จะช่วยให้ชุดเครื่องเสียงที่รับฟังนั้น สำแดงสมรรถนะการทำงานและศักยภาพทางด้านคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มที่และถ่องแท้-เที่ยงตรง ทั้งยังต้องให้ความรู้สึกน่าประทับใจเมื่อได้เข้ามาฟัง
คำแนะนำอะไรที่จะช่วยให้มีผลลัพธ์ในทางที่ดีต่อคุณภาพเสียง-ผมเองได้นำมาใช้เกือบหมด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของระบบปรับอากาศ ที่ใช้ทั้งอุปกรณ์ Silencer เพื่อช่วยเก็บเสียงลมแอร์ และยังใช้ระบบท่อวกวนเข้ามาเสริมเพิ่มประสิทธิภาพความเงียบอีกชั้นหนึ่งด้วย ห้องฟังห้องนี้จึงไม่มีเสียงลมพ่น ผมเคยวัดค่าสัมประสิทธิ์ความดังได้ออกมาไม่ถึง 30 เดซิเบลเลยนะครับ !!!
โครงสร้างทั้งหมดของห้องฟังนี้ จัดทำเป็น 2 ชั้น คั่นกลางไว้ด้วย Air Gap ทั่วทั้งห้อง แม้แต่พื้นห้องก็เทพื้นเป็น 2 ชั้น เพื่อให้เกิดความแกร่งสูงสุด ทั้งยังใช้สกรูขันยึดโครงสร้างไม้ ไม่ได้ใช้การยิงตะปูนะครับ โครงสร้างจึงยึดโยงกันแข็งแรงมาก ไม่เกิดสภาพการสั่นคลอนเป็นเสียงครางออกมาอย่างแน่นอนครับ กระเบื้องที่ใช้ทั้งพื้นและผนังล้วนเป็น แกรนิโต้ ทั้งนั้น เนื่องเพราะค่าความแกร่งเป็นเนื้อเดียวกัน (Rigid) นั่นแหละครับ – คุณการุณต์ชี้แจงให้เราฟัง
อีกทั้งคนที่เขารับหน้าที่ออกแบบห้องฟังนี้ให้แก่ผมนั้น ระบุไว้ตั้งแต่แรกเลยนะครับว่า ผนังทุกด้านของห้องฟังนี้ต้อง ไร้ด้านขนาน รูปลักษณ์ของห้องฟังนี้จึงเป็นอย่างที่เห็น – ผนังด้านหน้ามีลักษณะราบเรียบ มีการใช้วัสดุเก็บซับเสียงในบางส่วนเท่าที่จำเป็น เพื่อให้มีสภาพการสะท้อนเป็นส่วนใหญ่ อะคูสติกเสียงจะได้ไม่อับทึบ หรือ Dead จนเกินไป – ผนังด้านข้างมีลักษณะหักมุม-ผายออก คล้ายปากแตรน้อยๆ เพื่อมิให้ผนังด้านข้างทั้ง 2 ด้านนั้นขนานกัน ซึ่งก็จะมีการใช้ Diffusor เข้าไปผสมผสานกับวัสดุเก็บซับเสียงอย่างพอเหมาะพอสมกัน
.ในขณะที่ผนังด้านหลังนั้นใช้ไม้ระแนงขนาดราวๆ นิ้วครึ่งคูณนิ้วครึ่งจัดทำเป็นลอนโค้งนูนออกมา เว้นช่วงห่างระหว่างกันและกั้นช่องว่างไว้ด้วยผ้าเนื้อหนาสีเทาเข้ม ซ่อนวัสดุเก็บซับเสียงไว้ภายใน เพื่อให้แผงไม้ระแนงนั้นทำหน้าที่ละม้ายกับ diffusor กลายๆ นั่นเองครับ ส่วนเพดานนั้นเรื่องของโครงคร่าวที่แข็งแกร่งถือเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งยวด ทั้งยังจัดทำเป็นแบบ ยกระดับ ไม่เท่ากันเหมือนกับลักษณะเพดานของฮอลล์แสดงดนตรี (concert Hall) เพดานของห้องนี้ก็สูงมากปล่อยเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้เกิดสภาพสะท้อนกลับที่เร็วนัก ช่วยให้เกิดการจางหายของเสียง โดยมิได้ใช้วัสดุเก็บซับเสียงเข้าช่วย ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติของสภาพอะคูสติกตามสัดส่วนที่กำหนดอย่างที่ได้ออกแบบ-คิดคำนวณไว้
คนที่เขาออกแบบห้องฟังนี้บอกกับผม (คุณการุณต์) ว่า เมื่อเสียงเปล่งออกมาจากลำโพง ส่วนหนึ่งจะพุ่งตรงเข้าหาผู้ฟัง และจะถูกผนังด้านหลังเก็บซับไว้บางส่วน (เป็นลูปแรก) ในขณะที่บางส่วนก็จะสะท้อนขึ้นไปยังเพดาน ก่อนที่จะถูกกระจายตัวออกไป (เป็นลูปที่สอง) บนพื้นห้องจึงต้องมีผืนพรมหนาเพื่อเก็บเสียงจางๆ ที่กระจายตัวออกมาจากเพดาน (เป็นลูปที่สาม) – เพดานที่สูงจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์ทางเสียง ผนังด้านหน้าก็นับว่า มีส่วนสำคัญเช่นกัน จะต้องมิให้มีวัสดุเก็บซับเสียงที่มากเกินไป จนรายละเอียดเสียงไม่พุ่งออกมาอย่างที่ควรจะเป็น กลายเป็นสภาพเสียงจมตัวมากไป ฟังแล้วอึดอัด-บีบรัดเพราะขาดรายละเอียดต่างๆ ในขณะรับฟัง รวมทั้งความกระจ่างชัดก็สูญเสียไปด้วยโดยปริยาย
ปัจจัยอีกข้อที่ผมขอเน้นคนที่ออกแบบให้นี่ ก็คือว่า ผมไม่ได้ต้องการห้องฟังที่หวือหวามากนัก แต่ต้องการห้องฟังที่ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นห้องฟังที่อยู่ในบ้าน เป็นห้องฟังของเราๆ ท่านๆ มิใช่ห้องฟังที่วิลิศมาหราอะไรนัก สามารถใช้เป็นแบบอย่าง-แนะนำให้แก่ผู้สนใจ …ห้องฟังของโชว์รูม KARP AUDIO จึงให้ความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง สบายๆ ให้ความมีชีวิตชีวา (live) ไม่อับทึบ-อึดอัด (Dead) และปราศจากเสียงลมแอร์พ่นจนแย่งสมาธิไปในขณะรับฟัง เพดานที่สูงมาก บวกกับผนังที่ไร้ด้านขนานทำให้ได้มาซึ่งสภาพเวทีเสียงที่เป็นธรรมชาติ จนสามารถใช้เป็นห้องฟังอ้างอิงได้สมดังเจตน์จำนงค์ของคุณการุณต์ …ที่เรา What Hi-Fi ? ขอแนะนำให้ทุกท่านต้องหาโอกาสเข้าไปรับฟัง – แล้วคุณจะติดใจ
– สนใจเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทั้ง MS HD POWER, Townshend และ GamuT ได้ที่เว็บไซต์ www.karp.co.th หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2261-2788, 080-080-4858 (e-mail : [email protected])
หมายเหตุ :
*** MS HD POWER มีจุดเด่นในการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุดมาใช้ ร่วมกับเทคโนโลยีอันแตกต่างจากใครๆ โดยทำทุกอย่างในทุกขั้นตอนภายในโรงงานของตนเองแบบ In-House Manufacturing มิได้มีการจ้างผลิตจากภายนอก – ตรงกันข้าม MS HD POWER กลับได้รับความเชื่อถือจากภายนอก ว่าจ้างให้ทำการผลิตจำหน่ายแบบ OEM ภายใต้เนมแบรนด์อื่นๆ มากมายในปัจจุบัน
MS HD POWER นั้นก่อตั้งขึ้นในปีคศ. 1967 มีผลิตภัณฑ์หลายหลากนับตั้งแต่ตัวปลั๊กเสียบ ทั้งแบบตัวผู้-ตัวเมีย, เต้าเสียบต่างๆ (Receptacles & Wall Outlets) รวมทั้งอุปกรณ์ประเภทปลั๊กพ่วง-ปลั๊กราง (Power Distributor) กระทั่งสายไฟเข้าเครื่อง (Power Cord) ที่มุ่งเน้นคุณภาพการนำพากระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านได้อย่างราบเรียบที่สุด โดยไม่มีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนใดๆ เข้าไปยุ่งเกี่ยวต่อการ กลั่นกรอง กระแสไฟฟ้าให้ผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น เพื่อให้สมรรถนะการทำงานของภาคจ่ายไฟ (Power Supply) ในชุดเครื่องเสียงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ Power Distributor รุ่น MS-E01 mk II ซึ่งนับเป็นรุ่นสูงสุดนั้น นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากระดับราคาที่นำเสนอจะไม่สูงมากแล้ว สมรรถนะที่ได้รับเทียบกับเงินตราที่จ่ายไป ยังนับว่า คุ้มค่ามากทีเดียว และมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น แบบชุบเคลือบทอง 24 เคแท้ๆ (Gold-Plated 24K) ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในชุดโฮม เธียเตอร์ กับแบบ Rhodium-Plated ที่เหมาะเจาะโดยเฉพาะกับชุดเครื่องเสียง
*** Townshend – ได้ก่อตั้งขึ้นมาจะ 50 ปีเข้านี่แล้ว ที่อาจพูดได้ว่า ในอเมริกานั้นชื่อเสียงของ Townshend เป็นที่รู้จัก และกล่าวขานกันมากในฐานะแบรนด์เนมเครื่องเสียงชั้นนำของเครือจักรภพอังกฤษที่อเมริกันชนให้การยอมรับมากจริงๆ แม้จะมีผลิตภัณฑ์ไม่หลายหลากมากนัก ทว่าแต่ละชิ้นแต่ละรุ่นล้วนสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากโดยถ้วนหน้ามาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น The Rock 7 Turntable, Allegri Passive Pre-amp, Maximum Supertweeter รวมถึง Seismic Isolation และ Cables
*** GamuT – ย้อนหลังไปในช่วงต้นปีค.ศ.1980, ชื่อของ GamuT Audio ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับสูงของเดนมาร์ก (Danish Company) ด้วยฝีมือของ Ole Lund Kristensen โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ทางด้านแอมปลิไฟเออร์ ทว่า ณ ปัจจุบัน Mr.Lars Goller ได้ก้าวเข้ามาเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อน Gamut Audio นับเนื่องตั้งแต่ปีค.ศ.2005 เป็นต้นมา ภายใต้แนวคิด No System is Better Than The Weakest part
ทุกวันนี้ GamuT Audio จึงมีผลิตภัณฑ์ครบถ้วนในทุกเซกเม้นต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านของ Electronics, Speakers, Connections รวมทั้ง cables ซึ่งทุกๆ ผลิตภัณฑ์ล้วนมีจุดเด่นสำคัญในความเป็น Hand-Made ล้วนๆ ด้วยมาตรฐานระดับสูงสุดภายในโรงงานของตนเอง (In-House Manufacturer) เพื่อให้ GamuT Audio นั้นได้ชื่อว่า ไม่มีจุดอ่อน ใดๆ ในทุกห่วงโซ่ของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังจะได้สำแดงความเป็น GamuT อย่างสมบูรณ์เต็มที่เมื่อใช้งานร่วมกันเป็นซิสเต็ม
ชื่อเสียงของ Lars Goller เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง และยอมรับกับฝีมือขั้นเทพในฐานะ R&D manager ให้กับทั้ง Vifa และ ScanSpeak อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Director of Engineering ให้กับ Danish Sound Technology (DST) ในช่วงแรกเริ่มกิจการอีกด้วย ที่สำคัญ Lars Goller ยังเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์การประดิษฐ์ทวีตเตอร์แบบ Symmetric Drive (SD) อันโด่งดังของ ScanSpeak รวมถึงการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบทวีตเตอร์แบบใหม่ล่าสุดที่รู้จักกันแพร่หลายภายใต้ชื่อ Ring Radiator อีกด้วย (แม้แต่ Sonus Faber ก็ยังเลือกใช้) และ Lars Goller นี่แหละที่เป็นผู้ออกแบบ Revelator (D2905/9900) สุดยอดทวีตเตอร์ขนาด 28 มม.ของ ScanSpeak ซึ่งได้ชื่อว่าดีที่สุดบนผืนปฐพีนี้เลยทีเดียว
Mr.Lars ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ GamuT Audio เต็มที่ทั้ง 100 % เมื่อช่วงประมาณปีค.ศ.2006 จากนั้นในปีค.ศ.2008 ก็ได้ขายกิจการให้กับทาง KVIST INDUSTRIES A/S ซึ่งนับเป็นบริษัทเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก ด้วยเหตุผลที่ว่า Mr.Lars จะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานทางด้านบริหาร จะได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานด้านการออกแบบอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีข้อกังวลใจใดๆ ในเรื่องการดำเนินกิจการ นี่จึงมิใช่เรื่องน่าแปลกแต่อย่างใด ในแง่ที่ว่า ทำไม สมรรถนะและคุณภาพเสียงจากลำโพงของ GamuT Audio ถึงได้โด่งดังเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น The Absolute Sound, Stereophile รวมทั้ง Tone Audio และ Hi-Fi News แม้กระทั่ง www.positive-feedback.com