SAE > ‘Scientific Audio Electronics’ ตำนานแห่งยุค’60 ที่หวนกลับคืนสู่ชีวิต

0

…ย้อนไปในช่วงชีวิตวัยรุ่นของผมนั้น ผ่านพบกับแบรนด์เครื่องเสียงมากมาย และเรียกได้ว่า หลากหลายจากทุกมุมโลกก็ว่าได้ แต่ที่โด่งดังและโดดเด่นกันจริงๆ ก็คงยังต้องเป็นแบรนด์เครื่องเสียงจากทางฟากฝั่งแอเมริกา เพราะว่า ที่นี่เต็มไปด้วยนักออกแบบเครื่องเสียงฝีมือดี ที่สืบทอดแนวทางกันมาเนิ่นนานตั้งแต่ยุค’60 ซึ่งถือเป็นช่วงคาบเกี่ยวกันระหว่างเครื่องหลอดกับโซลิด-สเตท ทำให้แวดวงเครื่องเสียงในช่วงเวลานั้นมีสีสันอันหลายหลากผลิตภัณฑ์ที่แข่งกันสร้างสรรค์ออกจำหน่าย

 SAE ซึ่งย่อมาจาก Scientific Audio Electronics ก็เป็นหนึ่งแบรนด์ของทางแอเมริกาที่นับว่า มีแนวทางอันทันสมัยในการออกแบบ โดยเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1968 ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง Ted Winchester, Morris Kessler และ Beth Winchester ซึ่งแรกเริ่มทีเดียวนั้น Morris Kessler ได้ออกแบบวงจรแอมปลิฟายเออร์ขึ้นมา และเป็นที่น่าประทับใจต่อ Ted Winchester เป็นอย่างมาก กระทั่งเขามีความคิดที่จะนำมาพัฒนาต่อยอด แล้วนำออกมาจำหน่ายที่ร้านเครื่องเสียงชื่อว่า Hi Fi Corner โดยที่ Morris Kessler เป็นผู้ลงมือออกแบบ-ประกอบและส่งมอบต่อ Ted Winchester ได้นำไปจัดจำหน่าย ในขณะที่ตอนนั้น Morris Kessler ก็ยังเป็นพนักงานของ Sound Center

จริงๆ แล้ว Morris Kessler นับว่า ได้แรงบันดาลใจจากแอมปลิฟายเออร์รุ่น Model 9 ของ Marantz ที่นับเป็น The amplifier of the day ในช่วงเวลานั้น และแล้ว Ted Winchester ก็ได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ตรวจวัด และเครื่องมือต่างๆ สนับสนุนแก่ Morris Kessler ให้ทำการสรรค์สร้าง the “world’s best” audio amplifier ขึ้นมา ด้วยค่าความผิดเพี้ยนทางเสียงที่เรียกได้ว่า ต่ำที่สุดในโลก ทั้งยังต้องสามารถผ่านการทดสอบในแบบฉบับสุดโหดของ Ted Winchester ที่เรียกขานกันว่า “screw driver death test” นั่นคือ การที่ขับเคลื่อนแอมปลิฟายเออร์ด้วยความถี่บริสุทธิ์ sine wave จากความถี่ใดก็ได้ที่ 20Hz ถึง 20KHz จนเต็มกำลังขับ จากนั้นจึง “ชอร์ต” ขั้วต่อเอาต์พุตด้วยไขควง หรือ screw driver …ซึ่งด้วยบทพิสูจน์สุดโหดแบบฉบับของ Ted นี้เอง ที่ทำให้ทรานซิสเตอร์ 2N3055 ต้องตายไปจำนวนมาก แต่มันก็ได้สร้างผลงานเชิงประจักษ์ของพวกเขาด้วยเช่นกัน นั่นคือ ความเป็น Mark Two

“Mark Two” นั้นไม่สวยงามเอาซะเลย แต่ทว่ามันก็ไม่มีความเป็น “เสียงทรานซิสเตอร์” หรือ “transistor sound” เหมือนแอมปลิฟายเออร์อื่นๆ ในยุคสมัยนั้น “orphan” คือ ชื่อรุ่นเพาเวอร์แอมป์ของ SAE ทว่านับเป็นความยากยิ่งที่จะขาย “orphan” ให้กับผู้ค้าเครื่องเสียงในช่วงเวลานั้น ที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเจาะจงเลือกแต่ Marantz และ Macintosh

แต่แล้วหลังจากที่ J. Gordon Holt ได้ฟังทดสอบและเขียนบทวิจารณ์ตีพิมพ์ใน Stereophile ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้แก่ SAE …ซึ่งหากจะว่าไป ตอนแรก J. Gordon Holt ไม่เต็มใจด้วยซ้ำที่จะฟังทดสอบเจ้า “orphan” ที่ยังคงไม่มีการวางจำหน่ายทั่วประเทศ Gordon Holt พูดทางโทรศัพท์กับ Ted ว่า “คุณและเพื่อนๆ ทำให้ผมรู้สึกยอมรับว่า พวกคุณได้สร้างแอมปลิฟายเออร์ที่ทำได้ดีเทียบเท่า Marantz: Model 9 ซึ่งเป็นแอมปลิฟายเออร์หลอดแบบโมโนที่มีกำลังขับ 70 วัตต์ และพวกคุณยังได้สร้างแอมป์โซลิด-สเตทที่ควรคุ้มค่าที่จะซื้ออย่างมากๆ อีกด้วย

ซึ่งจากการยกย่อง “Mark Two” ที่เป็นแอมป์โซลิด-สเตทที่มีกำลังขับ 60 วัตต์ว่า เป็นคู่แข่ง Model 9 ที่แท้จริงของ Gordon Holt ใน Stereophile นี่แหละที่ทำให้ยอดขาย SAE พุ่งสูงขึ้น จนนับเป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน SAE