ReVox back to Thailand
Wikipedia, the free encyclopedia ระบุไว้ว่า “ReVox” นั้น (ปรับเปลี่ยนชื่อมาจาก Dynavox) เป็น Brand Name ของ Swiss Audio Equipment ที่ได้จดทะเบียนไว้โดย Studer เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปีค.ศ. 1948 นั่นแสดงว่า ณ ปัจจุบัน “ReVox” ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 64 ปีแล้ว ผู้ก่อตั้งบริษัท คือ Willi Studer (ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปีค.ศ. 1996). ทั้งนี้ทั้งนั้น Willi Studer ได้วางเป้าประสงค์ของการดำเนินงานของ “ReVox” ไว้สำหรับกลุ่มลูกค้า ในระดับ Amateur หรือถือเป็น Consumer Products (เฉพาะอย่างยิ่งประเภท Tape Recorder) ในขณะที่ “Studer” นั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ในลักษณะของ Professional โดยเฉพาะ
Willi Studer ขายกิจการ Studer Revox Group (รวมทั้งบริษัทในเครือ) ให้แก่ Motor-Columbus AG ในปีค.ศ.1990 และในปีถัดมา Motor-Columbus AG ก็ได้ “กระจาย” Studer Revox Group ออกมาเป็น Studer (Professional), Revox (HiFi) และ Manufacturing-Division ทว่าต่อมา Motor-Columbus AG ก็ได้ทยอยขายโรงงานผลิตและกิจการบางส่วนออกไป กระทั่งในปีค.ศ.1994 ก็ได้ขาย ‘Studer Revox Group’ ให้แก่ Harman International Inc. อย่างเต็มตัว
ReVox นั้นถือเป็น Swiss Brand อย่างเต็มตัว โดยมีโรงงานผลิตอยู่ในเยอรมนี “A77” นับเป็นผลิตภัณฑ์ทางด้าน Open-Reel Tape Recoder ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Studer-ReVox ด้วยยอดจำหน่ายทั่วโลกที่สูงถึงกว่า 400,000 เครื่อง (แรกวางจำหน่ายในปีค.ศ.1967) ทั้งนี้ “ReVox” ยังเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ของโลกที่ทำการผลิต Plasma TV อีกด้วย (รุ่น E542 ในปีค.ศ.1999)
ReVox ห่างหายไปจากตลาดเครื่องเสียงบ้านเรานานนับสิบปี… ซึ่งเมื่อวันพุธที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา Mr.Steve Croft / Sales Director Export ของ Revox GmbH ได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อ “เปิดตัว” ตัวแทนจำหน่าย (ใหม่) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย และ ‘What Hi-Fi?’ เป็นนิตยสารเพียงฉบับเดียวที่มีโอกาสได้เข้าพบและพูดคุย จึงขอถือโอกาสนำการสนทนาดังกล่าวมานำเสนอ-อย่างไม่มีตัดทอนครับ
What Hi-Fi? : สวัสดีครับ – การเดินทางมายังประเทศไทยในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?
Steve Croft : จริงๆ แล้ว…จุดประสงค์ของการเดินทางมาที่ประเทศไทยในครั้งนี้ ก็เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ อย่าง “ReVox Joy” เป็นจุดมุ่งหมายหลัก ซึ่งจะประกอบไปด้วย ReVox Joy CD Player, ReVox Joy Audio Server และ ReVox Joy Symphony นอกจากนี้ผลพวงที่เราคาดหวังเพิ่มเติมก็คือ ย่อมเป็นการสำรวจตลาดเครื่องเสียง พร้อมย้ำเตือนว่า ReVox ยังคงยืนหยัดสู้ในตลาดเครื่องเสียงต่อไป แม้ว่าจะห่างหายจากการมาเยี่ยมเยือนเมืองไทยมานานหลายปีแล้วก็ตาม
What Hi-Fi? : ปรัชญาในการดำเนินงานของ “ReVox” คืออะไรครับ?
Steve Croft : เราต้องการสร้างคุณภาพเสียงที่มีความใกล้เคียงกับการบันทึกในสตูดิโอ หรือแม้แต่การเล่นสดของศิลปิน เปรียบเสมือนการจับภาพและอารมณ์นั้นเก็บไว้เพื่อนำมาผลิตซ้ำออกมาให้มีความเหมือนมากที่สุด ซึ่งกุญแจสำคัญของการทำงานของเราเพื่อจะเข้าถึงจุดนั้นได้ ก็คือการคำนึงถึงเรื่องของ Sound Performance, Ease to use, Individuality, Modular Expandable สรุปรวมๆ ได้ว่า สร้างสินค้าที่มีคุณภาพเสียงที่สุดยอด ที่ง่ายต่อการใช้งานเพียงแค่คลิ๊กปุ่มเดียวก็เพียงพอ ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนั้นยังสามารถอัพเกรดไปได้เรื่อยๆ ไม่ตกยุค เพราะเราต้องการสร้างผลงานที่สามารถเป็นที่จดจำไปได้จนถึงอนาคตข้างหน้า ไม่ใช่แค่ว่าวันนี้ก็เพียงพอ
What Hi-Fi? : อะไรคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ReVox” ยังคงยืนหยัดอยู่ในวงการเครื่องเสียงมาได้อย่างเหนียวแน่นและยาวนานขนาดนี้ครับ?
Steve Croft : สิ่งที่ทำให้ ReVox มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่น่าเชื่อถือตราบจนถึงทุกวันนี้ ย่อมเป็นเรื่องของ การออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะเราต้องการทำผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานไปได้อย่างยาวนานเทียบเท่า Lifetime Quarantine สังเกตได้จาก ‘A77’ ในอดีตที่โด่งดังมากๆ…ทางเราเองก็เป็นผู้ออกแบบและผลิตในทุกชิ้นส่วนด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากจ้างให้บริษัทอื่นๆ ดูแลสินค้าให้ เพราะกลัวว่าจะลดทอนคุณภาพให้ลดน้อยถอยลงไป ด้วยการใช้เทคโนโลยีของทั้งสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมันผสมกันจนออกมาได้สิ่งที่ดีที่สุด สรุปสั้นๆ เป็นคอนเซ็ปต์ได้ว่า Outstanding Design/ Built Quality/ Sound Performance
What Hi-Fi? : อยากรบกวนให้ช่วยบอกเล่าความเป็นมาของแบรนด์ “ReVox” สักเล็กน้อยครับ?
Steve Croft: ชื่อของ “ReVox” นั้นมีที่มาจากคำว่า Reproduction Of The Voice โดยเป็นบริษัทเครื่องเสียงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนมากจะผลิตในตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะส่งกลับมาที่สำนักงานใหญ่ ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันมีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 70 คน ส่วนประวัติคร่าวๆ นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า Willi Studer เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาในปีค.ศ.1948 โดยที่เขาเป็นวิศวกรชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ความหลงใหล และคลั่งไคล้ในเสียงเพลง
ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกๆ ที่ออกมาสู่ตลาดเครื่องเสียงจาก “ReVox” ก็คือ “Reel to Reel Tape Machine” ภายหลังต่อมาก็ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ ขึ้นอีก เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของอุปกรณ์ที่ใช้ในสตูดิโอทำเพลง และก็มีสตูดิโอชื่อดังในอดีตเลือกใช้สินค้าจาก ReVox อย่างเช่น Abbey Road Records ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราอัดเพลงให้ศิลปินระดับโลก อาทิ เช่น The Beatles และ The Sandpipers เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเราในยุคนั้น ก็คือเจ้า “A77” ที่ออกมาในปีค.ศ.1967 ส่งผลให้บริษัทของเรามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีพนักงานรวมทั้งสิ้นกว่า 2,500 คน หลังจากนั้นทาง ReVox ก็มีการออกสินค้าอื่นออกมาอีกหลายประเภท ทั้ง Turntable, Amplifier และ Loudspeaker เป็นต้น ต่อมาในช่วงปี 2000 เริ่มมีการดำเนินธุรกิจในตลาด “Multi-Room Solution” ซึ่งเป็นการขยายอาณาเขตการฟังเพลงที่ไม่ใช่จำกัดอยู่เพียงแค่ห้องเดียว แต่เพิ่มอาณาเขตเป็นบ้านทั้งหลัง เราจึงออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Home Theatre 5.1, In wall Speaker, in Ceiling Speaker , Audio Server และ Multi-Room Amplifier ออกมา
What Hi-Fi? : แล้วสินค้าในกลุ่ม “Multi-Room Solution” ที่โดดเด่นที่สุดของ ReVox ในตอนนี้คือตัวไหนครับ?
Steve Croft : ณ ตอนนี้สินค้าที่โดดเด่นที่สุดของเรา คือ ReVox Joy ซึ่งเป็น Integrated Network Music Player ที่ส่งลงสู่ตลาดมาประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว มี Input ถึง 6 แบบ รวมไปถึงพอร์ท USB และการเชื่อมต่อไร้สายในระบบ WiFi นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วย Remote เพียงตัวเดียว ที่นอกเหนือจากจะควบคุมตัว ReVox Joy ได้แล้ว ยังสามารถใช้ควบคุม TV หรือ Blu-ray Player ในระบบ IF และ RF ได้ด้วย และยิ่งไปกว่านั้นเพื่อความสะดวกสบายในยุคปัจจุบันทาง ReVox เองก็มี Apllication ทั้งระบบ iOS และ Android ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมาเพื่อควบคุมระบบผ่านทาง Smartphone หรือ Tablet ได้อีกด้วย
อย่างที่บอกในตอนแรกว่าเราเป็นบริษัทที่ทำสินค้าออกมาแบบ End to End ดังนั้นจึงมีความพิเศษในสินค้าอื่นๆ ที่เราทำออกมาเพื่อเชื่อมโยงกันในระบบ ยกตัวอย่าง เช่น ลำโพงของเรามีการใช้ระบบ DSP (Digital Signal Processing) ที่ตอบสนองต่อฟังชั่นก์ Equalization Curve ซึ่งสามารถปรับ Equalization ที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละพื้นที่ได้ ผลที่ได้คือ Perfect Linear Respond ที่ผู้ใช้จะได้
What Hi-Fi? : ความน่าสนใจของตัว Joy Audio Server มีจุดเด่นที่อะไรบ้างครับ?
Steve Croft : ความน่าสนใจของ Joy Audio Server นั้นอยู่ที่ ความเป็นสินค้าที่ครบเครื่องมากกว่าที่เห็นจากรูปลักษณ์ เรียกว่า 3 in 1 ก็ว่าได้ เนื่องจากมันสามารถเป็น ทั้ง Server High End 2 Channels, Audio Source และ CD Player ในตัวเดียว ส่วนหลักการทำงานที่น่าทึ่งของมัน ก็คือ เมื่อคุณใส่ CD เข้าไป ณ ตอนที่มีการเชื่อมต่อ Internet อยู่…มันจะทำการ Record Data ของแผ่นนั้นๆ ประมาณ 4 นาทีต่อหนึ่งแผ่น จากนั้นก็เข้าสู่เว็บไซต์ Gracenote เพื่อหาข้อมูลของศิลปิน รายชื่อเพลง ปกอัลบั้ม มาทำเป็นแค็ตตาล็อกให้คุณแบบอัตโนมัติ ยิ่งเมื่อเครื่องมีการต่อสาย HDMI เข้าจอทีวีของคุณก็จะเห็นอัลบั้มเรียงรายอย่างสวยงามอยู่บนหน้าจอภาพ ซึ่งภายหลังสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องใช้แผ่น เนื่องจากข้อมูลเพลงจะถูกเก็บไว้บน Server ที่มีความจุกว่า…ครึ่งเทราไบต์ (ประมาณ 500 GB) นั่นหมายความว่า คุณจะสามารถเก็บไฟล์เพลงที่มีคุณภาพเสียงในระดับเทียบเท่ากับ CD ไว้ได้มากถึง 600 แผ่นเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถต่อ Amplifier เพิ่มเติมเข้ากับเครื่องนี้ได้เพราะรองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ
What Hi-Fi?: แล้วในส่วนของ Joy Symphony กับ Joy CD Player มีความน่าสนใจอย่างไรบ้างครับ?
Steve Croft : Joy Symphony เป็น Table top all in one high quality streamer integrated amplifier ที่รองรับการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ สามารถใช้ร่วมกับ Blu-ray Player, TV หรือ Gaming Station ก็ได้ แถมยังเชื่อมต่อในระบบ WiFi ได้ เนื่องด้วยมีการออกแบบที่สวยงามจึงสามารถตั้งประดับไว้ที่ห้องใดๆ ก็ได้ในบ้านของคุณ …ส่วน Joy CD Player เป็นเครื่องเล่น CD คุณภาพสูง ที่ภายในมีการใช้ DAC ของ BurrBrown ที่ไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพเสียง ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจสาวกที่ขอบฟัง CD จากแผ่นโดยตรง …ไม่ชอบที่จะ Ripped ข้อมูล (จากแผ่นซีดี) เก็บไว้ใน Store โดยสามารถควบคุมการใช้งานผ่าน Application ได้หากคุณเชื่อมต่อเข้ากับ Joy Server
What Hi-Fi? : เหตุผลใดที่ทำให้ ReVox Joy ได้รับความนิยมเป็นพิเศษครับ ในฐานะที่เป็นสินค้าตัวชูโรง?
Steve Croft : เหตุผลหลักๆ ก็คือ ลักษณะนิสัยในการฟังเพลงของคนในยุคปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายในการใช้งานได้มากขึ้น แถม Source ต่างๆ คุณก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ตาม Internet หรือแม้แต่ Store Online ต่างๆ ซึ่ง ReVox Joy สามารถตอบโจทย์การใช้งานตามรสนิยมนั้นได้อย่างไร้ที่ติ
What Hi-Fi? : แล้วสินค้าในประเภทลำโพงจากแบรนด์ ReVox มีตัวไหนที่น่าสนใจเป็นพิเศษบ้างครับ?
Steve Croft : สินค้าประเภทลำโพงของ ReVox จะจำแนกตัวตู้ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามวัสดุ ก็คือ หนัง (leather), อะลูมิเนียม และกระจก (Glass) มุ่งเน้นความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบและคุณภาพเสียง ที่ดูหรูหราและทันสมัย ทว่าขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก ซึ่งได้มีการนำไปโชว์ในงาน Munich 2015 ด้วย ในส่วนของ Home Theatre ก็มี Cube Subwoofer รวมไปถึงลำโพงประเภท In Wall, On Wall และ In Ceiling ด้วย
โดยลำโพงประเภทนี้จะโดดเด่นในเรื่องของความสวยงามและง่ายต่อการตกแต่ง มากกว่าในเรื่องของคุณภาพเสียง และท้ายที่สุด ReVox ก็มีการทำเทคโนโลยี “Invisible Speaker” ให้กับโรงแรมในยุโรปมากมายหลายที่ด้วย ยกตัวอย่างเช่น Hotel “Gabriel” ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ติดตั้งระบบนี้กว่า 80 ห้องทั่วโรงแรม ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจจะใหม่มากในประเทศไทย เพราะผู้ฟังจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ตัวลำโพงนั้นอยู่ที่ไหน…แต่ความจริงแล้วสินค้าตัวนี้มียอดขายสูงสุดในยุโรปในประเภทของ In Wall Speaker
หลักการทำงานของมันก็คือ ขยายการสั่นเพื่อให้เกิดคลื่นเสียงด้วยพื้นผิวทั้งพื้นผิว เพื่อให้เกิดเสียงต่างๆ ขึ้นมา ดังนั้นจึงสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น เพดาน ผนัง หรือแม้แต่ในท่อของสระว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม คนฟังก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เสียงนั้นมาจากที่ไหน อะไร-อย่างไร เหมาะกับผู้ที่ชอบตกแต่งบ้าน ที่ชื่นชอบการฟังเพลง แต่ไม่ต้องการเห็นลำโพงมาตั้งตระหง่านอยู่ในระยะสายตา ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกบริษัทเครื่องเสียงจะทำเทคโนโลยีนี้ได้
What Hi-Fi? : การตอบรับของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ มีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง?
Steve Croft : ความจริงตลาดหลักของเรา คือประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่นของเราแล้ว ทั้ง เยอรมัน, ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ก็ยังคงทำยอดขายได้เป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันเรามองว่าควรเปิดตลาดไปทั่วโลกมากกว่านี้และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็เป็นตลาดที่น่าสนใจเอามากๆ ซึ่งปัจจุบัน ReVox เอง ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจาก ประเทศจีน, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่เรามีตัวแทนจำหน่ายอยู่ ซึ่งเราก็มั่นใจว่า “ReVox Joy” จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในแถบนี้ เพราะเป็นสินค้าที่น่าสนใจและตอบโจทย์ Lifestyle ของคนที่ชอบฟังเพลงในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
What Hi-Fi? : แล้วแนวโน้มตลาดในเมืองไทยล่ะครับ?
Steve Croft : ต้องยอมรับตามตรงว่า ReVox ห่างหายจากตลาดเมืองไทยมานานมาก ซึ่งในอดีตเราก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่เมืองไทยเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าการกลับมาครั้งนี้กับ “ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่” จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีและประสบความสำเร็จอีกครั้ง
What Hi-Fi? : คิดจะกลับไปทำผลิตภัณฑ์ในตลาดเครื่องเสียง Analog อีกครั้งไหมครับ? หรือจะมุ่งแต่สินค้าที่เป็น Digital อย่างเดียว?
Steve Croft : อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ReVox โด่งดังมาจากเครื่อง Reel to Reel ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีทาง Studio ร้องขอให้เรากลับไปทำสินค้าในกลุ่มนั้นอีกครั้ง แต่ต้องขอเรียนตามตรงว่า ในขณะนี้เรายังไม่มีแผนการที่จะทำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Analog ออกมาสู่ตลาดเครื่องเสียงในเร็วๆ นี้…แต่ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ ดังนั้นเราจึงยังไม่ปิดตายโอกาสนั้นซะทีเดียว “Never say never.”
What Hi-Fi? : สุดท้ายแล้ว อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ReVox ในเมืองไทยบ้างครับ?
Steve Croft : อยากให้ทุกๆ คนในเมืองไทยที่ชื่นชอบในการฟังเพลง มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกของ High Resolution Music ผ่านทางผลิตภัณฑ์ของ ReVox อย่าง ReVox Joy เพราะทุกวันนี้หลายๆ คนมักจะฟังไฟล์เพลงที่ถูกบีบอัดมาจนลดทอนคุณภาพของเพลงนั้นๆ ลงไปอย่างมาก แต่ถ้าคุณได้ลองมาสัมผัสกับ ReVox Joy แล้วคุณเองจะรู้ว่า โลกของการฟังเพลงระดับ 24-bit นั้นให้อะไรคุณได้มากกว่า อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่างแน่นอน
What Hi-Fi? : ขอบคุณมากครับ สวัสดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
