เอ๊ะ เอ๊ะ ล็อคเก็ตรึเปล่านะ! …ไม่ใช่นะครับ แต่สิ่งประดิษฐ์นี้ได้ชื่อเป็นอุปกรณ์เครื่องพกพาชิ้นแรกสุดของโลกด้านเครื่องเสียงกันเลยทีเดียวเชียวละ …จากหลักฐานที่สืบค้นได้นั้น ระบุยืนยันได้ว่า เป็นผลงานสิ่งประดิษฐ์ของพี่น้องชาวฮังการี มีชื่อว่า Miklós และ Étienne Vadász ในฐานะของเครื่องเล่นแผ่นเสียงพกพาที่มีขนาดเล็กพอที่จะใส่ในกระเป๋าได้ เรียกขานว่า Mikiphone
นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งอดีตที่ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1920 ยุคสมัยก่อนที่อุปกรณ์ไฮเทคสมัยใหม่จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรา สิ่งประดิษฐ์เล็กๆ เครื่องนี้มีประโยชน์ที่จะนำเสียงเพลงไปได้ทุกที่ ถ้าหากว่า พกพาไว้ในกระเป๋าของผู้คนในยุคนั้น ผลงานวิศวกรรมอันน่าทึ่งและแม่นยำนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากงานนิทรรศการดนตรีระดับนานาชาติที่เจนีวาในปี ค.ศ. 1927
ใช่แล้วครับ “Mikiphone” เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง (ความจริงต้องพูดว่า ใช้เล่นกับแผ่นครั่ง หรือ Phonograph) ขนาดพกพาที่ช่วยให้ผู้คนในยุคนั้น ใช้รับฟังเพลงโปรดของใครต่อใครได้ในทุกที่ …ที่บอกชัดเจนว่า “ได้ทุกที่” ก็เพราะว่า “Mikiphone” ทำงานได้โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ แต่ใช้มือหมุนเป็นพลังงาน !! แล้วส่งผ่านแรงสั่นสะเทือนจากร่องเสียง (Groove) ของแผ่นครั่งที่กำลังเล่นนั้น ขยายผ่านส่วนที่เป็นเรโซเนเตอร์ (Resonator) ของ Mikiphone ออกมาเป็นพลังงานเสียง เปรียบเทียบกับอุปกรณ์เล่นเสียงสมัยใหม่ในปัจจุบันที่ล้วนทำงานด้วยพลังงานไฟฟ้า
หากมองแวบแรก “Mikiphone” ที่ปิดอยู่นั้น จะดูค่อนข้างกะทัดรัด ใส่ในกระเป๋าได้พอดี อย่างไรก็ตาม ต้องมีการประกอบบางส่วน โดยเก็บส่วนประกอบต่างๆ ไว้ในเคส (Case) ซึ่งเมื่อปิดแล้ว จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 11.5 ซม. และหนา 4.7 ซม. โดยเมื่อประกอบเสร็จ “Mikiphone” จะกินพื้นที่ตั้งวางค่อนข้างมาก และออกแบบมาเพื่อเล่นแผ่นครั่งขนาด 10 นิ้วโดยเฉพาะ และก็ต้องเชื่อมต่อหัวเข็ม และเรโซเนเตอร์ที่ทำจากวัสดุเบกาไลต์ (Bakelite) สองชิ้นเข้ากับโทนอาร์มแบบพับ-ยืดได้ ก่อนจึงจะวางแผ่นครั่ง บนแกนกลางแท่นหมุนของเครื่องเล่นนี้ นี่ทำให้ “Mikiphone” กลายเป็นอุปกรณ์ความบันเทิงที่เหมาะกับการสังสรรค์มากกว่าที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางแบบพกพาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน !!
กระนั้น “Mikiphone” ก็ได้รับการผลิตจำนวนมาก ภายใต้ข้อตกลงอนุญาตสิทธิ์กับ Maison Paillard ซึ่งตั้งอยู่ใน Saint Croix ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ Maison Paillard ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากกลุ่มช่างทำนาฬิกาในท้องถิ่นที่รวมตัวกันในปี ค.ศ. 1814 และได้เริ่มต้นจากการผลิตกล่องดนตรี (Music Boxes) ตั้งแต่เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1860 ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ใกล้จะสิ้นสุดลง บริษัทได้ขยายผลิตภัณฑ์ของตนให้ครอบคลุมถึงเครื่องเล่นแผ่นเสียงทรงกระบอก อย่างที่เรียกว่า Cylinder Phonographs และเปลี่ยนมาใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบแผ่นเต็มตัว อย่างที่เรียกว่า Disc Gramophones ในปี ค.ศ. 1905 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี ค.ศ. 1913 ทาง Paillard ได้แนะนำมอเตอร์เครื่องเล่นแผ่นเสียงไฟฟ้ากระแสสลับ (Electric AC Gramophone Motor) ออกสู่ตลาด จากนั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927 เป็นต้นมา บริษัทได้ขยายผลิตภัณฑ์ของตนให้รวมถึงเครื่องขยายเสียงไฟฟ้าสำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียง และต่อมาได้เสี่ยงโชคในการผลิตอุปกรณ์วิทยุอีกด้วย
…ท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ Maison Paillard สามารถผลิต “Mikiphone” ของพี่น้อง Vadász ได้มากถึง 180,000 เครื่อง เลยทีเดียว
_________________________