Purist Audio Design: Aqueous Aureus Speaker Cables

0

DAWN NATHONG

สายธารแห่งดนตรี

Purist Audio Design หรือขอเรียกสั้น ๆ ว่า PAD บริษัทผู้ผลิตสายชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่ตอนนี้มีอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 30 เป็นที่เรียบร้อย ถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตสายสำหรับเหล่าออดิโอไฟล์ที่มีประวัติยาวนานและมีความเชี่ยวชาญเจ้าหนึ่งของวงการ รวมทั้งมีเทคโนโลยีอันโดดเด่นเฉพาะตัว

หนึ่งในนั้นคือการวิจัยค้นคว้าเทคโนโลยีวัสดุที่ใช้แดมป์ (Dampening Material) มาใช้ในการออกแบบสายเพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือน และป้องกันการรบกวนจากสัญญาณจำพวกแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ EMI (Electro Magnetic Field) อันเกิดจากการทำงานของอุปกรณ์จำพวกคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือถือ, อุปกรณ์ไร้สายรวมถึงบลูทูธ ที่อยู่รอบตัวเรา

EMI เป็นตัวการสำคัญที่บั่นทอนคุณภาพเสียงของสาย โดยการแพร่กระจายและแทรกซึมเข้าสู่ตัวนำ รวมถึงช่วยลดการรบกวนของคลื่น RF และแรงสั่นสะเทือนที่กระทำต่อตัวสายทั้งภายนอกและภายใน PAD ถือเป็นเจ้าแรกที่วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีมาเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างได้ผลต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าสามสิบปี

        ประเภทของวัสดุแดมป์ที่ทางบริษัทได้นำมาใช้คร่าว ๆ มีสามประเภท คือ ประเภทของเหลว (Fluid), ประเภทของแข็งอย่าง Ferox และล่าสุดคือ Contego ซึ่งเมื่อผสานกับการใช้ตัวนำต่างชนิดกันไปในสายแต่ละซีรียส์ ก็ส่งผลให้สายมีบุคลิกเสียงที่แตกต่างกันไป “Aqueous” เป็นชื่อสายรุ่นแรกของบริษัทที่มีการใช้วัสดุแดมป์ด้วยของเหลว (Fluid) ลักษณะคล้ายเจล มีชื่อเล่นว่า “Texas Water Cable” โดยรวมช่วยให้ย่านเสียงกลางมีความลื่นไหลและมีย่านเสียงแหลมที่นุ่มนวล มีความลึกของเสียงและแดมป์แรงสั่นสะเทือนได้ดี 

ต่อมาจึงเริ่มมีการนำวัสดุประเภทของแข็ง มีลักษณะเป็นผงละเอียด ผลิตจากส่วนผสมของสารกึ่งตัวนำซิลิคอนเรียกว่า Ferox เข้ามาใช้ ทำให้ย่านเสียงกลางมีความเป็นธรรมชาติ ย่านเสียงแหลมทอดตัวออกไปได้ไกลขึ้น และให้เสียงต่ำที่ลงลึกกว่าเดิม รวมถึงป้องกันสัญญาณรบกวนทั้ง EMI และ RF ได้อย่างยอดเยี่ยม (รุ่นปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้ Ferox)

จนมาถึงสายเจเนอเรชั่นล่าสุดที่นำมาทดสอบนี้ มีการพัฒนาวัสดุที่เรียกว่า Contego ขึ้นมา เป็นสารละลายซิลิคอนกึ่งเหลว จึงเปรียบเหมือนกับเป็นการผสานเอาข้อดีของทั้งวัสดุแดมป์ที่เป็นของเหลวและของแข็งเข้าด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยีการชิลด์สายด้วยวัสดุแดมป์เหล่านี้ ทำให้สายของ PAD มีขนาดใหญ่โตกว่าสายแบรนด์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ในท้องตลาดที่มีขนาดหน้าตัดของตัวนำเท่า ๆ กัน

รายละเอียดที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้สายของ PAD ที่นำวัสดุ Contego มาใช้ จะมีเฉพาะกลุ่มของสายไฟเอซี ได้แก่ รุ่น 30th Anniversary Power Cord, รุ่น Limited Edition-LR Power Cord และรุ่น Diamond Revision Dominus Power Cord ซึ่งเป็นสินค้ารุ่นเรือธงหรือรุ่นพิเศษของบริษัทเท่านั้น สายลำโพงในซีรียส์ Aqueous Aureus ที่นำมาทดสอบในครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งแรกของ PAD ที่นำเอาเทคโนโลยีวัสดุ Conteco เข้ามาใช้กับสายในตระกูล Aqueous แบบครบโปรดัคท์ไลน์ ทั้งสายสัญญาณอนาล็อค, สายโพง, สายดิจิทัล, สายโฟโน, และสายไฟเอซี

        สายลำโพง Aqueous Aureus ที่นำมาทดสอบเป็นเวอร์ชั่นซิงเกิ้ลไวร์ ติดตั้งขั้วต่อสายลำโพงแบบก้ามปูมาให้ ซึ่งขั้วต่อนี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ PAD ทำมาจากทองแดงเบอริเลียมเคลือบผิวด้วยเงินและเคลือบทองคำทับอีกชั้น ตรงปลายออกแบบให้สามารถหมุนหัวก้ามปูออกเพื่อเปลี่ยนเป็นหัวแบบบานาน่าแทนได้

ความยาวของสาย 2.5 เมตร ตัวนำสายฝอยเป็นโลหะอัลลอยด์ที่ผสมระหว่างเงิน (Ag) และทองแดง (Cu) มีขนาดหน้าตัดรวม 10 AWG ผ่านการทำขั้นตอนทรีตเนื้อตัวนำด้วยกรรมวิธีไครโอจีนิก Triple (3x) Cryomag ตามสูตรของบริษัท เพื่อทำให้โมเลกุลของตัวนำเรียงตัวเป็นระเบียบมากที่สุดจนอิเล็กตรอนวิ่งผ่านได้อย่างสะดวก ซึ่งดูจากสเปคแล้ว Aqueous Aureus มีค่าความต้านทานไฟฟ้า (Resistance) ของตัวนำที่ต่ำเพียง 0.000999 โอห์มต่อความยาวหนึ่งฟุตเท่านั้น ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของสายลำโพงที่ดี

ตัวนำและฉนวนชั้นแรกจะถูกหุ้มทับด้วยวัสดุแดมป์ Contego และมีฉนวนที่เป็น F.E.P (Fluorinated Ethylene Propylene) ลักษณะเหมือนท่อพลาสติกใสสวมทับอีกชั้น ผิวชั้นนอกสุดหุ้มด้วยตาข่ายถักสีดำ ปลายสายทั้งสองด้านและช่วงกลางหุ้มท่อหดระบุแชนแนลของสายด้วยอักษร L และ R มีการระบุซีเรียลนัมเบอร์ที่ตรงกันทั้งสองข้าง พร้อมลูกศรกำหนดทิศทางของสายเรียงตามตัวอักษร

ตัวสายมีความอ่อนไม่แข็งกระด้างสามารถดัดตัวได้ดี ในคู่มือระบุว่าสายต้องการเวลาเบิร์นอินโดยประมาณอยู่ที่ 250 ชั่วโมง โชคดีที่สายผ่านการใช้งานมาก่อนแล้ว แต่เพื่อความแน่ใจจึงเบิร์นอินด้วยการฟังเพลงแบบปกติไปเรื่อย ๆ จนครบ 100 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าดุลเสียงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว รวมถึงให้สายได้ทิ้งตัวนิ่งสนิทจึงเริ่มทำการทดสอบ

ผลการลองฟัง

ช่วงแรกของการฟังรู้สึกว่าสายเส้นนี้ให้ระดับความดังของเสียงมากขึ้นกว่าเดิมสักสองถึงสามเดซิเบล เพราะต้องปรับความดังโวลุ่มที่ปรีแอมป์ลดลงจึงจะใกล้เคียงระดับเสียงปกติที่เคยฟัง คล้ายกับเพาเวอร์แอมป์ที่ใช้มีพละกำลังสำรองอัดฉีดเพิ่มขึ้นสักเท่าตัว แต่การนำเสนอนั้นไม่ใช่ในลักษณะของการการเน้นย่านความถี่ใดความถี่หนึ่งหนึ่งให้โดดเด่นออกมา สายลำโพง Aqueous Aureus เลือกที่จะนำเสนอพื้นเสียงหรือแบ็คกราวด์น้อยส์ที่มีความเงียบสงัดสูงมากเป็นพิเศษ

ด้วยระดับของน้อยส์ฟลอร์ที่ต่ำขนาดนี้ ทำให้รายละเอียดเสียงเล็กน้อยผุดขึ้นมาให้ได้ยินอย่างครบถ้วนเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำป็นต้องเร่งระดับโวลุ่มให้สูงมากเกินความจำเป็น ก็ได้ยินรายละเอียดของเสียงทุ้ม-กลาง-แหลมออกมาในระดับที่สมดุลเท่าเทียมกัน และมีความต่อเนื่องกลมกลืนของโทนเสียงที่ราบรื่นเป็นเนื้อเดียวกัน เวลาทีเสียงดนตรีไล่ระดับสูง-ต่ำฟังแล้วลื่นไหลต่อเนื่อง เนื้อเสียงอิ่มแน่นเป็นตัวตนดีมาก ไร้อาการขึ้นขอบคมแข็งหรือสากหยาบกร้านให้รำคาญใจ ทำให้เวลาฟังจะรู้สึกกลมกล่อมสบายหูและแฝงความผ่อนคลายอยู่ในที ราวกับการใช้เพาเวอร์แอมป์คุณภาพสูงที่ควบคุมลำโพงได้อย่างเด็ดขาดและมั่นคง

        หลายคนอาจจะรู้สึกว่าสายที่หุ้มชิลด์หนารวมถึงมีตาข่ายถักหุ้มด้านนอกสุดอีกชั้นจะทำให้ปลายแหลมลาดตัวหรือโรล-ออฟเร็วเกินไปไหม หรือแม้แต่นักเล่นที่คุ้นเคยกับสายที่ให้สีสันของเสียงแบบเปิดสว่าง รุกเร้า อาจเข้าใจผิดว่าสายของ PAD นั้นให้เสียงทึบขาดประกาย ขอบอกว่าสำหรับ Aqueous Aureus ไม่เป็นเช่นนั้น ตรงกันข้ามสายลำโพงรุ่นนี้ กลับสามารถถ่ายทอดย่านเสียงสูงออกมาได้สุดปลายเสียงเท่าที่อุปกรณ์จะให้ได้ โดยไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าปลายแหลมถูกโรล-ออฟเร็วเกินไป ปลายเสียงแหลมสะอาดพลิ้ว ทอดหางเสียงและจางหายไปในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ แถมให้โฟกัสที่ชัดคม นิ่งสนิท ไม่ฟุ้ง ให้บรรยากาศที่เป็นภวังค์อ่อน ๆ ห้อมล้อมตัวเสียงออกมาได้ดีมาก เสียงแหลมที่ได้จากสายรุ่นนี้จึงออกไปทางสุกใส มีชีวิตชีวา มีเนื้อหนังไม่แห้งแล้ง โดดเด่นกว่ารุ่น Museus ซึ่งเป็นรุ่นน้องขึ้นมาอีกหลายช่วงตัว

        ย่านเสียงกลางอ่อนหวานนุ่มนวล แต่แฝงพลังและไดนามิกอัดฉีดไว้ พร้อมจะสำแดงออกมาในเวลาที่ต้องการความดุดัน ยามที่นักร้องโชว์เสียงออดอ้อนก็ถ่ายทอดความหวานฉอเลาะและลีลาออกมาได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ ในขณะเดียวกันเมื่อ ต้องการพละกำลังของเสียงดนตรีหรือเสียงร้องก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง เนื้อเสียงละเมียดดีทีเดียว

สำหรับย่านเสียงกลางของ Aqueous Aureus ดูจะมีสีสันหรือบุคลิกเฉพาะตัวลดน้อยลงกว่ารุ่นเก่าที่เคยฟัง มีความเป็นมอนิเตอร์สูงขึ้น เฉลี่ยน้ำหนักระหว่างความนุ่มนวลและความสดในน้ำเสียงได้อย่างพอเหมาะ ไม่รู้สึกว่าฟังเพลงไหนก็นุ่มนวลแบบร้อยเนื้อหนึ่งทำนองไปเสียหมด ทำให้ปราศจากข้อจำกัดของแนวดนตรีและไม่มีปัญหาในการนำเอาไปจับคู่กับแอมป์หรือลำโพงใด ๆ ยิ่งใช้เวลาอยู่กับสายเส้นนี้นานเท่าไหร่ ก็จะเริ่มรับรู้ถึงเสน่ห์ของรายละเอียดและน้ำเสียงที่ค่อย ๆ เผยตัวออกมาให้รับรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเปิดเผยศักยภาพของแอมป์และลำโพงที่ใช้ร่วมกันออกมาได้เต็มพิกัด

แต่เป็นสายที่ต้องให้เวลากับมันสักพัก จึงไม่เหมาะกับการฟังแบบฉาบฉวย เมื่อฟังจนคุ้นเคยแล้วเวลาเปลี่ยนสายลำโพงเส้นนี้ออก ท่านจะแปลกหูและรู้สึกว่าอะไรหลายอย่างขาดหายไปมากทีเดียว ลำพังเพียงแค่การใช้ตัวนำที่สามารถนำสัญญาณได้ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว หากไม่มีการป้องกันสัญญาณรบกวนและแรงสั่นสะเทือนที่มีประสิทธิภาพจริง ๆ ควบคู่ไปด้วย ก็ยากที่จะถ่ายทอดชั้นเชิงความเป็นดนตรีออกมาได้น่าฟังแบบนี้ กรณีสายทั่วไปอาจจะต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เข้ามาช่วย (ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียงต่อน้ำเสียง) แต่ Aqueous Aureus นั้นมีตัวช่วยชั้นดีอย่างวัสดุแดมป์ Contego ซึ่งถูกออกแบบเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในจุดนี้ได้อย่างสมบูรณ์และลงตัวตั้งแต่แรกเริ่ม

        ย่านทุ้มก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้น ให้สปีดของเสียงทุ้มที่ฉับไวไม่รุ่มร่าม สามารถถ่ายทอดเสียงทุ้มต่ำจนถึงทุ้มลึกได้อย่างอิ่มแน่นทรงพลัง และควบคุมหางเสียงทุ้มได้ดีมาก มีรายละเอียดของโน้ตเสียงย่านต่ำที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ ได้ยินรายละเอียดของเสียงคลื่นความถี่ต่ำที่แผ่ขยายตัวออกมาเป็นระลอกอย่างชัดเจน เนื้อเสียงกระชับ อิ่มแน่น แฝงความนุ่มนวล อิมแพ็คหรือแรงปะทะหัวเสียงที่กลมกล่อม ชวนให้นึกถึงเสียงทุ้มคุณภาพสไตล์อนาล็อคซึ่งได้ยินจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงชั้นดี แถมมีความสะอาดใสของพื้นเสียงมารองรับตลอดย่านความถี่

ยิ่งใครใช้ลำโพงวางหิ้ง และอยากได้เสียงทุ้มคุณภาพเต็มพิกัดของลำโพงจริง ๆ ต้องลองฟังกับ Aqueous Aureus ดูสักครั้ง ช่วงหนึ่งของการทดสอบได้ลองจับคู่กับลำโพงโทเทม ซิกเนเจอร์ วัน นั้นช่วยส่งเสริมพละพลังย่านความถี่ต่ำที่แท้จริงของลำโพงออกมาได้เต็มพิกัด ทุ้มเป็นลูก กระชับหนักแน่นและหนักหน่วงดีแท้ เต็มไปด้วยรายละเอียดราวกับเอาเพาเวอร์แอมป์สักสามร้อยวัตต์มาขับ ย่านทุ้มที่เอาดีได้ทั้งบู้และบุ๋นแบบนี้ก็ต้องขอยกป้ายให้คะแนนเต็มสิบ

        ด้วยความที่มีแบ็คกราวด์น้อยส์ต่ำ ปลอดจากแรงสั่นสะเทือนที่มากระทำต่อสาย จึงทำให้ถ่ายทอดรายละเอียดลึก ๆ ของเสียงที่ซ้อนทับกันอยู่ออกมาได้อย่างวิเศษ ให้ความใสที่ทะลุเข้าไปหาตัวเสียงได้ดีโดยที่ยังคงทรวดทรงของอิมเมจชิ้นดนตรีเอาไว้ครบถ้วน มีช่องว่างช่องไฟที่เป็นอิสระต่อกันและให้เวทีเสียงที่โอ่อ่าทั้งด้านกว้างด้านลึก ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของ PAD ที่สายยี่ห้ออื่นยากจะลอกเลียน

Aqueous Aureus เหมาะสมมากเป็นพิเศษสำหรับคนที่ชอบเสพอรรถรสแบบดื่มด่ำกับบทเพลงที่มีทั้งความละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อนอย่างเพลงคลาสสิค เสียงเครื่องดนตรีที่บรรเลงขึ้นพร้อมกันหลายชิ้น จะฉายความเป็นสามมิติของรูปวงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง หรือแม้แต่ช่วงที่เครื่องดนตรีโซโลก็ยังระบุตำแหน่งและความลึกของเสียงได้อย่างจับวาง ซึ่งอันที่จริงมันก็คือศักยภาพที่แท้จริงของทั้งแอมป์และลำโพง ที่ไม่ถูกบั่นทอนไปจากตัวกลางคือสายลำโพงนั่นเอง

สรุป

นักเล่นบางคนอาจรู้สึกว่าสายของ Purist Audio design นั้นมีบุคลิกที่ราบเรียบฟังสบายผ่อนคลายเป็นหลัก แต่ไม่ใช่กับสายลำโพง Aqueous Aureus แน่นอน เพราะนอกจากคุณสมบัติดังกล่าว ยังตอบสนองย่านความถี่ไปได้สุดทั้งย่านสูงและต่ำ แฝงความสดสมจริงในน้ำเสียง ในยามที่ต้องการไดนามิกความฉับพลัน สามารถให้อิมแพ็คและแรงปะทะได้เต็มที่ไม่แพ้สายที่โดดเด่นทางด้านนี้ แถมด้วยชั้นเชิงของการนำเสนอรายละเอียดเสียงดนตรีอย่างมีศิลปะ ไม่เกี่ยงบุคลิกของอุปกรณ์ที่ร่วมใช้งาน

สำหรับบางคน สายลำโพงอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะตัดสินใจเลือกซื้อเพื่ออัพเกรดให้กับซิสเต็ม หากแต่ถ้าท่านมั่นใจ ว่ามีซิสเต็มที่ถึงพร้อมและลงตัวในระดับหนึ่งแล้ว การทดลองเลือกสายลำโพง Aqueous Aureus เข้าไปใช้งาน อาจจะกลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ช่วยเติมเต็มความเป็นดนตรีส่วนที่ขาดหายไปจนท่านคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

รายละเอียดเชิงเทคนิค

  • Conductors: Alloy
  • Metals : Ag/Cu
  • Dielectric Material: F.E.P.
  • Gauge (effective): 10 AWG
  • Dampening Material: Contego
  • Current Capacity (DC): 55
  • Resistance: 0.000999Ω/FT
  • Estimated Break-In Time: 250 Hours
  • Cable Diameter (Speaker): 3/4 Inch
  • Cable Diameter (Bi-Wire): 7/8 Inch
  • Connector Type: Spade/Banana or Custom
  • Material Treatment: Triple (3x) Cryomag©

อุปกรณ์ร่วมทดสอบ

  • แหล่งโปรแกรม – PC เน็ตเวิร์คเพลเยอร์, แด็ค Chord: Mojo, เครื่องเล่นไฟล์พกพา iBasso: DX80, เครื่องเล่นซีดี Micromega Stage 2
  • ภาคขยายอินทิเกรทแอมป์ Bryston: B-60, เพาเวอร์แอมป์ NAD: 216THX
  • ลำโพงลำโพงวางหิ้ง Totem Signature One, ลำโพงวางหิ้ง NHT: 1.5, ลำโพงวางหิ้ง Mission: QX-2
  • สายเชื่อมต่อสายดิจิทัล USB Furutech: Formula 2, สายดิจิทัลโคแอ็คเชี่ยล QED: Qunex SR75, สายสัญญาณอนาล็อก Tchernov Special XS, สายสัญญาณอนาล็อกTaralabs: TL-101, สายไฟเอซี Shunyata: Python VX, Cardas: Crosslink 1s, Kimber: Powerkord, Audience AU 24 SX, สายลำโพงSupra: Ply 3.4, Eagle: Monitor Cobra silver 3 Mix
  • อุปกรณ์เสริมปลั๊กผนัง PS Audio: Power Port Premiere (Audiophile Grade), ปลั๊กกรองไฟ Clef: Power Bridge 8 (เปลี่ยนปลั๊กเป็น Wattgate 381), ตัวกรองไฟ X-filter, ตัวกรองน้อยส์ Audio Prism: Quite Line mkIII, ตัวกรองน้อยส์ Audio Quest: Jitter Bug, ผลึกควอตซ์ Acoustic Revive: QR-8, ตัวอุดปลั๊ก Isoclean, ขาตั้งลำโพง Atacama: HMS 1, ชั้นวางเครื่องเสียง Audio Arts

ขอขอบคุณ บริษัท ไฮเอ็นด์ ออดิโอ จำกัด โทร. 0-2101-1988 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการทดสอบ