DAWN NATHONG
ลำโพงยักษ์เล็กจาก Polk Audio
ลำโพงอนุกรมใหม่ล่าสุดจาก Polk Audio ที่แฟน ๆ หลายคนตั้งตารอคอยตั้งแต่มีข่าวการเปิดตัวในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว จนในที่สุดทางผู้นำเข้าบริษัทเพาเวอร์บาย ก็ได้นำลำโพงอนุกรมนี้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเสียที และทางนิตยสาร What Hi-Fi? ก็ได้รับลำโพง Polkอนุกรม Legend มาแบบครบเซ็ต ประกอบไปด้วย ลำโพงวางหิ้งสองรุ่น L100 และ L200, ลำโพงเซ็นเตอร์ L400, ลำโพงตั้งพื้น L600 และลำโพงรุ่นเรือธง L800 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี SDA-Pro ที่นำเอาเทคโนโลยี SDA ในอดีตมาปัดฝุ่นพัฒนาใหม่ใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ซึ่งรีวิวจะตามมาเร็ว ๆ นี้เช่นกัน กระซิบเอาไว้ก่อนว่าพี่ใหญ่นั้นไม่ธรรมดา
สิ่งที่ทำให้ Polk อนุกรม Legend มีความน่าสนใจนั้นส่วนนึงมาจากทางบริษัทห่างหายจากการเปิดตัวลำโพงระดับกลาง-สูงไปนานพอสมควรเลยทีเดียว จนแฟน ๆ ในบ้านเราแทบจะลืมไปแล้วว่าลำโพงซีรียส์สูงของ Polk นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร หากย้อนกลับไปก็จะมีอนุกรม LSi นั่นก็เกือบยี่สิบปีแล้ว ปัจจุบันเป็นอนุกรม LSiM (ไม่มีจำหน่ายในบ้านเรา) และค่ายนี้นั้น “เก๋าเกมส์” แค่ไหนในยุทธจักรผู้ผลิตลำโพง อย่าลืมว่า Polk นั้นโลดแล่นในอุตสาหกรรมเครื่องเสียงมาตั้งแต่ปี 1972 หรือกว่า 45 ปี ในเรื่ององค์ความรู้นั้นถ้าไม่เรียกว่า “ตกผลึก” ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร
รายละเอียดที่น่าสนใจ
ทางบริษัทผู้ผลิตจั่วหัวบนหน้าเวปไซต์ไว้ว่า Legend นั่นคืออนุกรมลำโพงที่ดีที่สุดเท่าที่บริษัทเคยสร้างมาเลยทีเดียว เทคโนโลยีหลายภาคส่วนนั้นมีการคิดใหม่ทำใหม่หลายส่วน เพื่อให้เหมาะกับระบบเสียงไฮเรสในปัจจุบันรวมถึงการนำไปใช้งานในระบบโฮมเธียเตอร์
อันดับแรกคือทวีตเตอร์ Pinnacle Ring Radiator เป็นซอฟท์โดม (เส้นใยโพลีเอสเตอร์) และมีเฟสปลั๊กตรงกลางยึดเป็นแกน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทวีตเตอร์ทรงนี้ ดูเผิน ๆ จะคล้ายกับทวีตเตอร์บางรุ่นของ Scan-speak ข้อดีคือตอบสนองความถี่สูงถึง 40kHz แบบสบาย ๆ โดยไม่มีอาการเบรคอัพเมื่อเทียบกับทวีตเตอร์ซอฟท์โดมทั่วไป ย่านเสียงสูงจึงมีความสะอาดชัดเจน มีการจูนเวฟไกด์รอบตัวโดมทวีตเตอร์ช่วยเรื่องมุมกระจายเสียงให้มี Sweet Spot กว้าง รวมถึงมีห้องหลังโดมทวีตเตอร์ที่แดมป์ภายในเพื่อขจัดเรโซแนนท์ส่วนเกิน
ส่วนของไดร์เวอร์เบส / มิดเรนจ์ขนาด 5.25 นิ้วก็มีการพัฒนาใหม่เช่นกันใช้ชื่อว่า Turbine Cone ตามลักษณะของกรวยที่ทำจากวัสดุ Foam-core โพลิเมอร์หล่อขึ้นรูปมีสันนูนเป็นครีบคล้ายกังหัน (Turbine) จุดประสงค์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวกรวยลำโพงโดยไม่เพิ่มมวล และมีคุณสมบัติในการแดมปิ้งที่ดี ขอบทำจากยางไนไตรล์ (Nitrile-Butadiene Rubber) ซึ่งมีคุณสมบัติความทนทานสูง และที่ขาดไม่ได้เลยคือเทคโนโลยี Enhaced Powerport ท่อระบายเสียงเบสอันเป็นเอกลักษณ์ของ Polk มาช้านาน ซึ่งสำหรับอนุกรม Legend ก็มีการไฟน์จูนรูปทรงใหม่ใหม่ให้รีดลมได้ราบรื่นและปลอดเสียงรบกวนยิ่งขึ้นไปอีกระดับ
งานตู้หายห่วงจากประสบการณ์ของ Polk ในการทำตู้ลำโพงมายาวนาน ใช้ไม้ MDF ที่มีความหนาแตกต่างกันตั้งแต่ 1 นิ้วถึง 1.5 นิ้วและคาดโครงคร่าวภายในทั่วทั้งตู้ลำโพง ทำให้ตู้มีความแข็งแรงสูงตัดเสียงรบกวนจากตู้ได้ดี รวมถึงน้ำหนักตัวที่มากเป็นพิเศษ มีการวัดเรโซแนนท์ของผนังตู้ด้วยเลเซอร์ไวโบรมิเตอร์ ปิดด้วยวิเนียร์ลายไม้จริง แผงหน้าลำโพงมีการขัดเคลือบสีดำกึ่งด้านแบบผิวเปียโนถึงห้าชั้น ขั้วต่อสายลำโพงซิงเกิ้ลไวร์แบบไบดิ้งโพสต์ หน้ากากลำโพงแบบใช้แม่เหล็กยึด
การแม็ตชิ่งและเซ็ตอัพ
ในคู่มือแนะนำให้ใช้กับแอมป์ที่มีกำลังขับอย่างน้อย 70 วัตต์ขึ้นไป บวกกับเมื่อดูตัวเลขสเปคความไวที่ 85.5 ดีบีและค่าความต้านทานอยู่ในช่วง 3-4 โอห์ม บอกได้เลยว่าลำโพงคู่นี้จัดอยู่ในประเภทกินวัตต์ ต้องการแอมป์ที่มีกำลังสำรองถึง ๆ หน่อยจึงจะขับออกมาได้ดี หรือถ้าเป็นแอมป์หลอดก็แนะนำว่าควรเป็นแบบ Push-Pull กำลังขับสัก 30-40 วัตต์ขึ้นไป ส่วนโทนเสียงด้วยพื้นฐานของลำโพงให้เนื้อเสียงทุ้มที่ค่อนข้างอิ่มหนาเป็นทุนเดิม ดังนั้นควรพิจารณาแอมป์ที่ย่านกลางแหลมสะอาด โปร่งใสก็จะยิ่งส่งเสริมกันได้ดี ยกตัวอย่างเช่น NAD (รุ่นใหมที่เป็นคลาสดี) หรือ Cambridge Audio เป็นต้น
เนื่องจากตัวลำโพงมีน้ำหนักมากกว่าลำโพงปกติดังนั้นควรเลือกวางขนขาตั้งลำโพงที่มีความแข็งแรงสูงประมาณ 24 นิ้ว ที่ใต้ลำโพงจะมีปุ่มยางติดมาให้เสร็จสรรพดังนั้นไม่จำเป็นต้องหาอะไรมารองใต้ลำโพงอีก แต่ควรเลือกขาตั้งที่มีเพลตด้านบนกว้างลึกใกล้เคียงกับสัดส่วนของลำโพงเป็นสำคัญ วางลำโพงห่างจากกันประมาณ 180 เซนติเมตรเอียงหน้าเข้าหากันเล็กน้อยไม่เกิน 5 องศา
แรกเริ่มทดลองขับด้วยอินทิเกรตแอมป์ Bryston กำลังขับ 60 วัตต์กลางแหลมไม่มีปัญหาแต่ย่านทุ้มยังอ่อนการควบคุมอยู่จึงทดลองเพิ่มเพาเวอร์แอมป์ NAD216THX (120 วัตต์) เข้ามก็ได้ทุ้มที่มีทั้งโฟกัสและน้ำหนักมากขึ้นชัดเจน ช่วงท้ายทดลองขับด้วยอินทิเกรตแอมป์ Marantz PM KI Ruby (100 วัตต์) ก็ได้น้ำเสียงที่มีความนุ่มนวลลื่นไหลมากขึ้นพร้อมทั้งการควบคุมย่านทุ้มได้มีคุณภาพแบบเนื้อ ๆ อย่างน่าพอใจ
เสียง
Legend L100 เป็นลำโพงที่ให้วรรณะเสียงค่อนไปทางอบอุ่น แต่มีย่านแหลมที่สะอาดเปิดโปร่ง ทำให้เกิดเป็นความลงตัวในลักษณะของน้ำเสียงที่เจือความอบอุ่นนุ่มนวลติดปลายนวมแต่ไม่อับทึบ ช่วงยังไม่พ้นเบิร์นอินอาจรู้สึกว่าเนื้อเสียงติดหนา แต่หลังใช้งานเลย 50-100 ชั่วโมงขึ้นไปจะได้ความโปร่งกระชับ โปร่งใสของเสียงที่ดีขึ้นตามลำดับต่างจากชั่วโมงแรก ๆ ชัดเจน
อานิสงค์ของตู้ที่มีทั้งความแกร่งและมีปัญหาเรโซแนนท์ส่วนเกินต่ำ ได้ยินเสียงของตัวไดร์เวอร์จริง ๆ ไม่ใช่เสียงที่เจือปนด้วยสีสันจากตัวตู้ มีค่าความผิดเพี้ยนของเสียงน้อยลงทั้งจากตัวดอกลำโพงและตัวตู้ ทำให้เกิดความสงัดระหว่างชิ้นดนตรี ได้ยินรายละเอียดหยุมหยิมที่พรั่งพรูออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ มีผลทำให้มิติเวทีเสียงของลำโพงคู่นี้หลุดลอยออกมาจากตู้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว
ซึ่งก่อนฟังไม่ได้ความหวังว่ามิติเวทีเสียงจะโดดเด่นจนดึงความสนใจได้ขนาดนี้ คือมีความชัดเจนของตำแหน่งชิ้นดนตรี ทั้งด้านกว้าง-ลึก สูงต่ำ อย่างเสียงดีดดับเบิ้ลเบสนี่จะให้โฟกัสที่ขึ้นรูปทรงชัดแทบจะมองเห็นเป็นเส้นสาย ที่มีความสูงจากฐานขาตั้งเลยขึ้นไปเหนือลำโพงกันเลย รวมถึงแยกระนาบชิ้นดนตรีออกมาได้ดีมาก ในลักษณะที่เน้นความเข้มข้นชัดเจนภายในเวทีเสียงมากกว่าที่จะขยายกว้างเลยลำโพงออกไปมาก ๆ แต่ขาดความชัดเจน
ข้อดีอย่างนึงของทวีตเตอร์ Ring Radiator คือเสียงแหลมจะมีความนิ่ง และเล่นได้ดังโดยไม่เกิดอาการสะบัดจัดจ้านให้ระคายหู ย่านแหลมสะอาดเปิดโปร่ง ทอดหางเสียงออกไปได้ไกลและควบคุมหางเสียงเอาไว้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม มีมวลบรรยากาศรอบตัวเสียงที่ชัดเจนไม่แห้ง หางเสียงมีความพลิ้วกังวาน มีความนุ่มนวลผสานอยู่อย่างพอเหมาะ ไม่ถึงกับสดชัดเป็นประกายระยิบระยับเท่าทวีตเตอร์โดมโลหะแต่ก็ยังคงความสดใสที่ดี
ย่านเสียงกลางของลำโพงคู่นี้ผสมระหว่างความอิ่มเอิบเป็นตัวตนและความสดได้อย่างน่าสนใจ ตรงนี้จะแตกต่างจากลำโพงระดับเริ่มต้นและกลางของ Polk อย่างเช่น RTi และ Signature ซีรียค่อนข้างชัดเจนที่ดุลเสียงจะค่อนไปทางย่านกลางแหลมมากกว่า แต่กับ Legend L100 จะเพิ่มเติมความสมบูรณ์ของย่านกลางต่ำขึ้นไปอีกระดับ มีโทนัลบาล้านซ์ที่สมดุลขึ้นทำให้ฟังแนวเพลงได้หลากหลายกว่าเมื่อเทียบกับลำโพงที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เสียงคนร้องมีทั้งความอิ่มเอิบ สะอาด ชัดถ้อยชัดคำ เสียงพวกเครื่องเป่าทองเหลืองมีมวลเสียงที่อิ่ม สด ไม่ผอมบาง มีความอบอุ่นเจืออยู่เล็กน้อยพองาม ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เวลาฟังในขณะที่บางเพลงต้องการความสดจริงจังก็ทำได้ไม่เสียอรรถรรส ยิ่งเปิดดังยิ่งฟังสนุก
ย่านทุ้มคือไฮไลท์ของลำโพงคู่นี้ที่ให้ทั้งมวลเสียงหนักแน่นเข้มข้น มีน้ำหนักทิ้งตัวทรงพลัง ได้เกินหน้าเกินตาลำโพงสองทางวูฟเฟอร์ 5.25 นิ้วทั่วไปพอสมควร แถมยังรองรับไดนามิกหนักเบาของเสียงได้น่าประทับใจฟังแล้วไม่รู้สึกอั้นตื้อ แม้จะรู้สึกว่ามีความนุ่มนวลติดปลายนวมอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นทุ้มคุณภาพ เพราะควบคุมจังหวะได้กระชับแม่นยำ เก็บตัวดี สะอาด นิ่งไม่วูบวาบ ปริมาณเสียงทุ้มถือว่าเกินพอสำหรับห้องขนาดกลาง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยซับวูฟเฟอร์มาช่วยเลย
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จำเป็นต้องอาศัยแอมป์คุณภาพดี จ่ายกระแสได้ถึง เพื่อดึงศักยภาพของลำโพงออกมาได้อย่างหมดจด การลงทุนกับแอมปลิฟายเออร์เพื่อมาขับกับลำโพงคู่นี้เป็นเรื่องที่ควรทำ หากท่านใดวางงบประมาณสำหรับแอมป์เอาไว้ไม่สูง แนะนำให้มองไปทางแอมป์ภาคขยายคลาสดีก่อน เพราะผลตอบแทนที่ได้รับนั้นยกระดับคุณภาพเสียงขึ้นอย่างชัดเจน จะเรียกว่าไปหายใจรดต้นคอลำโพงวางหิ้งชั้นอ๋องในหลายภาคส่วนเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเรื่องมิติเวทีเสียง ความนิ่งของชิ้นดนตรี การถ่ายทอดไดนามิกเรนจ์ และรายละเอียด
สรุป
Polk Legend L100 เป็นลำโพงยุคใหม่ที่นำเอาเทคโนโลยีทั้งด้านวัสดุและการออกแบบมาใช้ได้อย่างลงตัว โดยที่ไม่สูญเสียอัตลักษณ์ดั้งเดิมของลำโพงไป น้ำเสียงอิ่มแน่น ฟังง่าย เสียงย่านต่ำเกินพอ ไม่เกี่ยงแนวเพลง เหมาะสมทั้งการนำไปใช้ฟังเพลงแบบสองแชนแนล รองรับระบบเสียงไฮเรสออดิโอ รวมถึงในระบบโฮมเธียเตอร์ ขอเพียงเลือกแอมป์ที่เหมาะสม รับรองว่าผลตอบแทนกลับมานั้นคุ้มค่าแน่นอน
Specification
Height | 13.64″ (34.65 cm) |
Width | 7.78″ (19.76 cm) |
Depth | 11.29″ (28.68 cm) |
Weight | 16.9 lbs (7.67 kg) |
Driver Enclosure Type | Power Port Bass Vented |
Driver Complement | • (1) 1″ (2.54 cm) d (Round) Pinnacle Ring Radiator – Tweeter • (1) 5.25″ (13.34 cm) d (Round) Turbine Cone – Mid/Woofer |
Recommended Amplifier Power Setting | 70W |
Total Frequency Response | 43 Hz → 50,000 Hz |
Nominal Impedance Range | 3 ohms → 4 ohms |
Sensitivity (1 watt @ 1 meter) | 85.5 dB |
Lower and Upper -3dB Limits | 57 Hz → 38,000 Hz |
Type | 2-Way Orth Crossover |
Peak Power Handling | 160 watts |
Tweeter/Midrange Crossover Frequency | 2900 Hz |
Power Handling (per channel) | 30 watts → 160 watts |
ขอขอบคุณบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด โทร. 02-904-2000 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการทดสอบในครั้งนี้