Polk Audio แบรนด์ผู้ผลิตลำโพงชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ถือกำเนิดขึ้นโดย Matthew Polk, George Klopfer และ Sandy Gross ในปี 1972 ซึ่งพบกันครั้งแรกขณะเข้าเรียนที่ Johns Hopkins University ในเมือง Baltimore หลังจากสำเร็จการศึกษาในปี 1971 ทั้งสามงานได้ร่วมมือกันผลิตระบบเสียงสำหรับงานประชุมดนตรีบลูแกรสในท้องถิ่น โดย Matthew Polk เป็นผู้ออกแบบระบบลำโพง และ George Klopfer เป็นผู้ประกอบตู้ลำโพง หลังจากพบว่า ผู้ผลิตของงานประชุมไม่สามารถจ่ายเงินซื้อระบบดังกล่าวได้ Klopfer จึงได้ออกแบบโลโก้ให้กับ Polk Audio และติดโลโก้นั้นเข้ากับลำโพง ส่วน Sandy Gross เป็นผู้วางแผนการตลาดของ Polk Audio และช่วยสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของ Polk Audio ทั่วโลก
Reserve Series นับเป็นลำโพงซีรีส์ใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวในต่างประเทศไปเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่า Reserve Series มีอะไรน่าสนใจหลายอย่างซ่อนอยู่ เฉพาะอย่างยิ่งการใช้ไดรเวอร์ที่เป็นเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดมาจาก DNA เดียวกันกับไดรเวอร์ที่ใช้อยู่ในลำโพงระดับเรือธง อย่าง ‘Legend Series’ ของ Polk Audio ทว่าสิ่งที่แตกต่างอย่างมากก็คือ การที่ Polk Audio ตั้งราคาจำหน่าย Reserve Series เอาไว้ย่อมเยามาก แตกต่างจาก ‘Legend Series’ ถึงกว่าสองเท่าก็ว่าได้ ช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบในความเป็น Polk Audio เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ Polk Audio “Reserve Series” ประกอบด้วยลำโพงทั้งหมด 9 รุ่น แบ่งเป็นลำโพงวางขาตั้ง หรือ Bookshelf-2 รุ่น ได้แก่ R100 และ R200 ; ลำโพงเซ็นเตอร์-3 รุ่น ได้แก่ R300, R350 และ R400 ; ลำโพงตั้งพื้น หรือ Floor Stander-3 รุ่น ได้แก่ R500, R600 และ R700 รวมถึงลำโพงที่เซ็ตอัพเป็นระบบเสียง Dolby Atmos สำหรับใช้งานในโฮมเธียเตอร์โดยเฉพาะ ชื่อรุ่นว่า ‘Height Module’
ทั้งนี้ Reserve Series ทุกรุ่นมาพร้อมกับตัวขับเสียงที่ได้รับการถ่ายโอนเทคโนโลยีมาจาก Legend Series ไม่ว่าจะเป็นทวีตเตอร์แบบ ‘Pinnacle Ring Radiator Tweeter’ ขนาด 1 นิ้ว (ที่เรา-ท่านอาจจะเรียกขานกันว่า ทวีตเตอร์แบบ ‘จู๋แมว’) ทั้งนี้ Polk Audio ระบุว่า สามารถตอบสนองความถี่สูงได้ไกลถึง 50kHz โดยที่ทวีตเตอร์นี้ทำงานร่วมกับตัวขับเสียงกลาง/ทุ้ม หรือ เบส/มิดเรนจ์ ที่ตัวกรวยมีดีไซน์โดดเด่นเป็นแบบ ‘Turbine Cone’ ซึ่งได้รับการขึ้นรูปพื้นผิวภายนอกให้มีลักษณะเป็นสัน คล้ายกับรูปลักษณ์กังหัน แทนที่จะเป็นเนื้อกรวยผิวเรียบๆ เช่นธรรมดาทั่วไป โดยที่ตัวกรวยลำโพงนั้นเป็นวัสดุพิเศษที่มีแกนกลางเป็นเนื้อโฟมพิเศษของ Polk Audio เอง
การออกแบบเยี่ยงนี้ทาง Polk Audio ระบุว่า เป็นการช่วยเพิ่มความแกร่งให้สูงขึ้น โดยไม่ไปเพิ่มมวลให้กับตัวกรวย ส่งผลให้ตัวไดรเวอร์สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ เนื่องจากตัวกรวย หรือ ไดอะแฟรมไม่เกิดอาการบิดตัว หรือ เสียรูปทรง (Break Up) อย่างรุนแรงในระหว่างขับเคลื่อนตัวกรวยที่ต้องตอบสนองช่วงความถี่เสียงเป็นย่านกว้างมาก นี่จึงทำให้ลำโพงทุกรุ่นใน Reserve Series ได้รับการรับรองมาตรฐาน Hi-Res Audio อย่างเป็นทางการ พร้อมส่งมอบ-ถ่ายทอดรายละเอียดเสียงจากระบบดิจิทัลความละเอียดสูงได้อย่างลงตัว
นอกจากนั้น Reserve Series ยังมีจุดเด่นในรุ่นที่เป็นระบบ ตู้เปิด (Bass Reflex) ซึ่งมีท่อเปิดดีไซน์พิเศษที่มีชื่อว่า ‘X-Port’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบลำโพงของทาง Polk Audio เอง ‘X-Port’ นี้ติดตั้งอยู่ด้านหลังตัวตู้ลำโพง มีรูปลักษณ์ที่ดูแปลกไปจากท่อเปิดในลำโพงตู้เปิดทั่วไป โดยมีส่วนที่คล้ายเป็นเดือยแหลมขนาดใหญ่พอประมาณ ติดตั้งซ้อนอยู่ตรงกลางในท่อเปิดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 ซม.
ส่วนที่คล้ายเป็นเดือยแหลมขนาดใหญ่ที่ว่านี้ มีโครงสร้างแบบ Eigentone Filter (ETF) ซึ่งทาง Polk Audio ระบุว่า ทำหน้าที่ช่วยลดความเพี้ยนที่เกิดจากการไหลวนของมวลอากาศในท่อเปิด ‘X-Port’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้เสียงทุ้มที่มีความหนักแน่น ตอบสนองความถี่ต่ำลงได้ลึกมากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาตรตัวตู้ และยังสามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างไม่คลุมเครือไปพร้อมกัน
คุณลักษณ์
สำหรับรุ่นที่ได้รับมาเข้ารีวิวของ What Hi-Fi? Thailand นั้น เป็นรุ่น Reserve R100 ลำโพงวางขาตั้งขนาดกะทัดรัดรุ่นเล็กสุดของซีรีส์ที่เป็นระบบ 2-ทาง ตู้เปิด ‘X-Port’ ด้านหลังตัวตู้ ทวีตเตอร์แบบ ‘Pinnacle Ring Radiator Tweeter’ ขนาด 1 นิ้ว ทำงานควบคู่กับเบส/มิดเรนจ์ ‘Turbine Cone’ ขนาด 5.25 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีชั้นยอดที่สืบทอดจากลำโพงระดับเรือธง “Legend Series” ของ Polk Audio ส่งผลให้รุ่น Reserve R100 เป็นลำโพงขนาดเล็กอเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับใช้งานเป็นลำโพงสเตอริโอขนาดกะทัดรัด หรือเป็นลำโพงเซอร์ราวด์ในระบบโฮมซินีม่าได้อย่างลงตัว
ซึ่งด้วยทวีตเตอร์แบบ ‘Pinnacle Ring Radiator Tweeter’ อันโดดเด่นในการกระจายเสียงความถี่สูงไปได้ไกลถึง 50kHz และยังกระจายเสียงได้ทั่วถึงภายในห้อง นวัตกรรมนี้ช่วยขยายตำแหน่งนั่งฟังที่เหมาะสมเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้ผู้ชม/ผู้ฟังเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและภาพยนตร์ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะนั่งที่ใดก็ตาม
อีกทั้งเบส/มิดเรนจ์ที่เป็น ‘Turbine Cone’ อันล้ำสมัยของ Polk Audio ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวกรวยได้อย่างมากโดยไม่เพิ่มมวล ทำให้เบส/มิดเรนจ์สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลต่อรายละเอียดของเสียงโดยรวมที่ดีขึ้น ผู้ชม/ผู้ฟังจึงรับรู้และสัมผัสกับรายละเอียดที่แจ่มชัดขึ้นอย่างน่าทึ่ง
นอกจากนี้ ในเรื่องของตัวตู้ลำโพง Polk Audio ยังออกแบบให้เป็นแบบมีแผงหน้าแคบ มีความลึกไล่เลี่ยกับความสูง ขอบโดยรอบตัวตู้ลำโพงมีลักษณะลบมุมโค้งมนตามแบบอย่างตัวตู้ลำโพงยุคใหม่ และยังระบุไว้ว่า เป็นตู้ลำโพงที่ล้ำสมัยด้วยการใช้วัสดุ New CRC ควบคู่กับการเสริมโครงไขว้ (Cross-Bracing) อย่างระมัดระวัง เพื่อขจัดเสียงเรสโซแนนซ์ภายในที่ไม่ต้องการ รวมถึงการลบมุมภายนอกให้มีลักษณะโค้งมน ช่วยลดอาการเลี้ยวเบนของเสียง (Diffraction) ให้น้อยที่สุด จึงมั่นใจได้ว่า Reserve R100 ให้ความแม่นยำในการสร้างและส่งมอบเสียงที่สมจริงเป็นธรรมชาติ
Reserve R100 นับเป็นลำโพงอเนกประสงค์ที่มีคุณภาพสูง ภายใต้ปัจจัยราคาที่ย่อมเยาอย่างมาก ขนาดเล็กกะทัดรัดสามารถวางบนชั้นวางหนังสือ หรือ บนขาตั้งได้อย่างพอดี เหมาะสำหรับใช้งานเป็นลำโพงสเตอริโอขนาดกะทัดรัดในห้องขนาดไม่ใหญ่นัก หรือใช้เป็นลำโพงเซอร์ราวด์ในระบบโฮมซินีม่าได้อย่างพอเหมาะ ภายใต้ขนาดมิติตัวตู้ (กว้าง×สูง×ลึก) 166×324×259.5 มม. น้ำหนัก 5.5 กก. สามารถครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองโดยรวม (Overall Frequency Response) ตั้งแต่ 44Hz-50kHz <Frequency Response (-3dB Limits) 58Hz-39kHz> ค่าความไวเสียง 86dB ค่าอิมพีแดนซ์ต่ำสุด 3.6 โอห์ม รองรับอัตรากำลังขับ 30-150วัตต์ ขั้วสายลำโพงแบบ Binding Posts : Nickel-plated 5-Way
คุณภาพการรับฟัง
นับแต่แรกเห็น ยืนยันได้เลยว่า งานประกอบตัวตู้ลำโพงนั้น ประณีตเรียบร้อยดีมาก ดูแข็งแรงทนทาน วัสดุที่ใช้ดูดีมีเกรด ผิวลายไม้วอลนัทที่เป็นวัสดุวีเนียร์นั้นดูสวยงาม ลวดลายคล้ายผิวไม้จริง นับเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ Reserve R100 มีราคาจำหน่ายอันย่อมเยา สร้างความคุ้มค่าต่อราคาอย่างชนิดเกินคาด เมื่อเทียบกับ Legend Series ที่มีราคาจำหน่ายสูงกว่าสองเท่า
ในด้านเสียง Reserve R100 ถ่ายทอดเสียงได้ตรงใจนักฟังที่พิถีพิถัน เข้าถึงแก่นของดนตรี โดยสำเนียงเสียงที่ได้ฟัง เปี่ยมด้วยความแม่นยำ ความมีชีวิตชีวา และความฉับไว เป็นน้ำเสียงที่ผสมผสานกลืนกัน มิได้โดดเด่น หรือ ล้ำหน้าในช่วงย่านเสียงใด ความมีชีวิตชีวานั้นให้ความชุ่มฉ่ำ มีเนื้อมีหนังในสรรพเสียง และยังแยกแยะรายละเอียดออกจากเสียงพื้นหลัง (Background) ทั้งยังสร้างความรู้สึกถึงความลึกของเวทีเสียงที่น่าประทับใจในระดับราคาค่าตัวอันย่อมเยาอย่างยิ่ง
แน่นอนว่า Reserve R100 มิได้ให้ลักษณะเสียงในแบบมอนิเตอร์ ด้วยบุคลิกเสียงที่ให้ความอบอุ่น ละเมียดละไมในช่วงย่านเสียงกลาง แฝงความทรงพลัง และรวดเร็วฉับไว เสียงฉาบที่รับรู้ได้ถึงความแวววาวส่องประกายมีชีวิตชีวา รับรู้ได้ว่า Reserve R100 ไม่ได้มีอาการบีบเค้นในช่วงย่านเสียงกลาง ความที่ Reserve R100 ได้รับการรับรองมาตรฐาน Hi-Res Audio ส่งผลให้การรับฟังเพลงรับรู้ได้ถึงความละเอียดสูงที่มีอยู่ เปิดเผยออกมาราวกับจับต้องได้ ทั้งยังให้ความกระชับ ควบคุมได้ดี และมีระดับเสียงที่ชัดเจน-แม่นยำ และมีความกลมกลืนกันเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ Reserve R100 ยังมีความสอดคล้องต้องกันของไดรเวอร์ 2-ทางที่ทำงานร่วมกันได้ดีมาก เป็นการทำงานร่วมกันอย่างแท้จริงระหว่างทวีตเตอร์และตัวเบส/มิดเรนจ์ ซึ่งรับรู้ได้จากความสอดคล้องกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน มีโฟกัสแจ่มชัด ไม่แบ่งแยกว่าเป็นเสียงสูง-เสียงกลาง-เสียงต่ำ ทุกสรรพเสียงผสานรวมกันเปล่งออกมาจากแหล่งเสียงเดียวกัน ตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลัน (transient) ได้น่าประทับใจยิ่งนัก Reserve R100 ให้เสียงเบสและกีตาร์อะคูสติกที่ราบรื่น ไพเราะ และทรงพลังอย่างน่าพอใจ ในช่วงอ็อกเทฟต่ำๆ ก็ให้ความเข้มข้นของเสียงเบสอันหนักแน่น กระแทกกระทั้นมีมวลอันสมจริง
สรุปส่งท้าย
Reserve R100 ให้บุคลิกเสียงกลางที่นุ่มนวล ฉ่ำชุ่ม มีเนื้อมีหนังน่าฟัง และเปี่ยมรายละเอียด พร้อมด้วยเสียงเบสที่นุ่มนวล ลงลึกและมีน้ำหนัก เป็นลำโพงราคาย่อมเยาที่คุ้มค่ามาก…ในความเป็นจริง อาจจะรู้สึกว่า เสียงจากทวีตเตอร์ ‘Ring Radiator’ ของ Reserve R100 นั้น ออกอาการเกือบจะแห้ง (Dry) เล็กน้อย แต่ฟังแล้ว เสียงก็เปิดโปร่ง (Open) ได้ดี มีความปลอดโปร่ง ฟังสบายหูในระดับหนึ่ง ซึ่งยอมรับได้ ทั้งยังผสมผสานเข้ากันกับเบส/มิดเรนจ์ได้อย่างลงตัว จนติติงกันไม่ลงเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว และยังเป็นลำโพงที่โชว์จินตภาพและสภาพเวทีเสียงได้ชนิดเทียบชั้นได้กับลำโพงราคาแพงกว่าเท่าตัว หรือสองเท่าตัวก็ว่าได้
Reserve R100 นับเป็นตัวเลือกที่ดี ในระดับกลางค่อนมาทางสูง ซึ่งหากต้องการให้ Reserve R100 บรรลุศักยภาพอย่างเต็มที่ในทุกด้าน สมควรใช้กำลังขับของแอมปลิฟายเออร์ที่จ่ายพลังสะอาดได้สัก 100 วัตต์ต่อแชนแนล เป็นอย่างน้อยในการใช้งานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การตอบสนองเสียงเบสในช่วงความถี่ 50Hz นั้นให้พลัง ความหนักแน่นของโทนเสียงนั้นได้ดีมาก รวมถึงความฉับพลัน-ไหลลื่นในไดนามิกที่น่าประทับใจในระดับเยี่ยงนี้จริง ๆ ครับ
ขอขอบคุณ : บริษัท อินเวนทีฟ เอวี จำกัด (IAV) โทร. 0-2238-4078-9 ที่ได้อนุเคราะห์ผลิตภัณฑ์ให้ได้มาทดสอบกันในครั้งนี้
___________________