Mongkol Oumroengsri
“Perlisten Audio” อาจเป็นน้องใหม่แต่ไฟแรงในแวดวงโฮม เธียเตอร์ แต่ด้วยความถึงพร้อมในเทคโนโลยีอันรุดล้ำนำหน้า ได้ส่งผลให้ลำโพงของ Perlisten Audio เป็นที่กล่าวขวัญถึงในวงการนับตั้งปี 2016 เป็นต้นมา (ปีก่อตั้ง) และยิ่งกว่านั้น ในทุกวันนี้ลำโพงของ Perlisten Audioทุกรุ่นยังได้รับการสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน THX Certified Dominus อย่างแท้จริง ทั้งนี้ลำโพงโฮม เธียเตอร์ที่สอบผ่าน THX Certified Dominus Speaker นั้น จะต้องมีค่าความไวเสียง (sensitivity) ซึ่งมากพอที่จะไปได้ถึง THX Reference Level สำหรับโรงภาพยนตร์ด้วย
เฉพาะอย่างยิ่งรุ่น S7t ที่เป็นระดับเรือธง (flagship) ของ Perlisten Audio นี่คือ ลำโพงโฮม เธียเตอร์ที่หาญกล้าท้าทายความเป็นลำโพงฟังเพลงซึ่งได้ชื่อว่า ‘ดีที่สุดในโลก’ ด้วยการสรรค์สร้างลำโพง audibly invisible ให้ผู้ฟังรับรู้ได้ราวมองเห็นจากการรับฟังเสียง ทั้งด้วยทรานส์เชี้ยนอันปรู๊ดปร๊าด-ฉับไว และไดนามิกอันรุนแรง-เฉียบคม ให้คุณได้ค้นพบในทุกๆ รายละเอียดที่คุณใส่ใจไม่ต่างจากกำลังรับฟังระบบ 2-แชนแนล ด้วยค่าความเพี้ยน THD ซึ่งต่ำกว่า 0.5% ที่ระดับความดังการรับฟัง (listening levels) 90 dB และสามารถพุ่งทะยานขึ้นไปทะลุระดับ 120 dB SPL เลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้ใครๆ ที่ได้ฟังรู้สึกน่าประทับใจอย่างที่สุด
“Perlisten Audio” มุ่งสู่เป้าหมายหลักในการบรรลุ “Perceptual Listening experience” (ประสบการณ์การฟังอันรับรู้ได้) ขั้นสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้าล่าสุด อันเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ Perceptual Listening experience ทั้งนี้ “Perlisten Audio”นั้นเคี่ยวเข้มกับ R&D อันแข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมายการสอบผ่าน THX Certification นับตั้งแต่แรกก่อตั้ง (เมษายน ปี2016) ทั้งยังร่วมลงทุนกับกลุ่มผู้ผลิตระดับไฮ-เอนด์ ทำให้ Perlisten Audioบรรลุสู่ประสบการณ์และวิทยาการระดับสูง ซึ่งคุณจะพบกับเทคโนโลยีล้ำสมัยได้ในลำโพงของ Perlisten Audioทุกรุ่น
พูดได้ว่า ทีมวิศวกรของ Perlisten Audio ล้วนเป็นมือเก่ามากประสบการณ์ในแวดวง แต่ด้วยความสนใจในเทคโนโลยีอันก้าวหน้า พวกเขาจึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบ ทดสอบ และสร้างระบบลำโพงที่รุดล้ำนำหน้าด้านเทคโนโลยีมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกในปัจจุบัน ควบคู่การสอบผ่านมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับระดับโลก ทีมวิศวกรของ Perlisten Audio ให้สำคัญที่สุดกับความเที่ยงตรงสูงสุดอย่างแท้จริง ซึ่งทีมวิศวกรนี่แหละที่ได้ร่วมกันออกแบบ-สร้าง Audio DSP systems เพื่อการใช้งานอันแสนเข้มงวดที่สุดในโลกมาตั้งแต่ยุคปี 80’s
“Perlisten Audio” โดดเด่นเกินใครด้วยการคว้า THX Certified Dominus Speaker มาครองเป็นบริษัทแรกในโลก เป็นที่ทราบกันดีว่า “Dominus” เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดจาก THX Certification ซึ่งมีความแตกต่างค่อนข้างมากจากมาตรฐาน THX ที่มีมาก่อนหน้า ทั้งด้วยความเงียบที่สงัดกว่า ความดังของเสียงที่ดังยิ่งขึ้น ค่าความผิดเพี้ยนที่ต้องต่ำสุดๆ รวมถึงอีกสารพัดที่ต้องสอบผ่านการตรวจวัดด้วยสมรรถนะในระยะที่ไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังต้องมีค่าความไวเสียง (sensitivity) ซึ่งมากพอที่จะไปได้ถึง THX Reference Level สำหรับโรงภาพยนตร์อีกด้วย “THX Certified Dominus” จึงเป็นมาตรฐานก้าวหน้าล่าสุด และทรงประสิทธิภาพสูงสุดของ THX Certification ณ ปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างลำโพงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก เข้ากับลำโพงเพื่อโฮม เธียเตอร์ขนาดใหญ่ …ท่านใดมีห้องโฮม เธียเตอร์ที่ปริมาตรมากถึง 184 ลูกบาศก์เมตร (6500 ลูกบาศก์ฟุต) และให้ระยะการรับชมไกลถึง 6 เมตร (20 ฟุต) จะสามารถอ้างอิงได้จากผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง THX Certification ใหม่ล่าสุดนี้ ด้วยคุณภาพเสียงอันเหนือชั้นยิ่งกว่าที่เคย
คุณลักษณ์
Perlisten Audio ตั้งเป้าเป็นลำโพงเพื่อสร้างเสียงระดับโลกที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านโฮม เธียเตอร์และการรับฟังเพลง ทุกอย่างที่เลือกใช้จึงต้อง SUPERIOR QUALITY เท่าที่จะหาได้ ซึ่งการันตีความไม่ผิดหวังให้แก่ผู้ใช้งานในทุกขณะการรับฟัง ไม่ว่าคุณจะกำลังดูหนัง หรือว่าฟังเพลง ไม่ว่าไดนามิกนั้นจะรุนแรงขนาดไหน ไม่ว่าเสียงจะดังเพียงใด ไม่ว่าคุณจะใช้งานติดต่อกันนานเพียงไรก็ตาม “Perlisten Audio” จะทำให้คุณพึงพอใจไปตราบนานเท่านาน…
Perlisten Audio แม้จะมีลำโพงมากมายหลายรุ่น ครอบคลุมทั้งลำโพงตั้งวางพื้น – ลำโพงวางขาตั้ง – ลำโพงเซนเตอร์ – ลำโพงเซอร์ราวด์ – ลำโพงซับวูฟเฟอร์ รวมไปถึงลำโพงมอนิเตอร์ กระนั้น Perlisten Audio ก็มีผลิตภัณฑ์ลำโพงอยู่เพียงแค่ 2 ซีรี่ส์หลักเท่านั้น ได้แก่ S-series ซึ่งก็คือ Signature series ที่เป็นระดับเรือธงสูงสุด กับ R-series ซึ่งก็คือ Reference series หรือ reference class ระดับอ้างอิงที่แท้จริง ซึ่งมีเทคโนโลยีสำคัญๆ อันก้าวล้ำของ Perlisten Audio บรรจุอยู่ แต่สำหรับความเป็นระดับเรือธงของ S-series ก็จักได้รับการยกระดับให้ “เหนือชั้น” ยิ่งขึ้นไปกว่า R-series จนถึงพิกัดสูงสุด …ล่าสุด Perlisten Audio: S7t ได้รับรางวัล Class A Stereophile Recommended Component มาครองนะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น R-series และ S-Series ล้วนโดดเด่นด้วยการใช้ DPC-Array (Directivity Pattern Control) ที่ Perlisten Audio เรียกขานเป็นการเฉพาะว่า full-range tweeter อันประกอบด้วยโดมทวีตเตอร์ตัวหลักที่ติดตั้งอยู่ตรงกลาง และมีโดมมิดเรนจ์อีก 2 ตัวติดตั้งขนาบบนและล่างของทวีตเตอร์ตัวหลัก โดยที่โดมมิดเรนจ์ทั้งสองตัวนี้จะมีขนาดเท่ากับโดมทวีตเตอร์ตัวหลัก ตัวขับเสียงทั้ง 3 ตัวนี้จะได้รับการติดตั้งอยู่บนแผงหน้า (faceplate) ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับขนาดของวูฟเฟอร์/มิดเรนจ์ พร้อมด้วยการมี wave-guide ทำหน้าที่เป็นเลนส์เสียงพิเศษในการกำหนดทิศทางและมุมองศาในการยิงเสียงของทั้งช่วงความถี่เสียงกลางและช่วงความถี่เสียงสูงได้อย่างกลมกลืนและสมมาตรกัน ตามการคิดคำนวณของ Perlisten Audio
สำหรับ Perlisten Audio: S7t ในส่วนของ “DPC-Array” ที่นับเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Perlisten Audio มีหัวใจ หรือ แกนหลักอยู่ที่ตัวขับเสียงสูงแบบ Beryllium dome ขนาด 28 มม. และ dual 28mm TPCD (thin-ply carbon diaphragm) ultra-lightweight domes ซึ่งค้นคว้าและพัฒนายาวนานนับสิบปีโดยทีมวิศวกรของ Perlisten Audio ติดตั้งขนาบส่วนบนและล่างของตัวขับเสียงสูง ทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวขับเสียงกลางอันทรงประสิทธิภาพ นำไปสู่การออกแบบลำโพงทุกรุ่นใน S Series ที่ใช้ DPC-Array แบบเดียวกัน ผสานร่วมกับการใช้ตัวขับเสียงเบส/มิดเรนจ์แบบ Carbon Fiber ขั้นสูง ผ่านการออกแบบตัวตู้ระบบ bass reflex หรือ acoustic suspension (ผู้ใช้สามารถใช้ฟองน้ำอะคูสติกที่ Perlisten Audio จัดให้พร้อมกับลำโพง) เพื่อตอบสนองสู่ความต้องการประสิทธิภาพสูงสุดของห้องฟังใดๆ ก็ตามได้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านไดนามิกและรายละเอียดเสียงที่ไม่มีใครเทียบได้ …นี่จะทำให้คุณสัมผัสได้ในคุณภาพเสียงอันน่าทึ่ง
DPC-Array ซึ่งประกอบด้วยตัวขับเสียงทั้ง 3 ตัวของ S Series นี้จะเริ่มช่วงการทำงานที่ความถี่ประมาณ 1.1kHz โดยที่โดมมิดเรนจ์ทั้ง 2 ตัวจะทำหน้าที่ขับขานความถี่เสียงกลางในช่วง 1KHz ~ 4KHz และเริ่มโรยตัว (roll off) ที่ช่วงความถี่ประมาณ 4.4kHz ทั้งนี้ทวีตเตอร์โดมเบอริลเลียมตรงกลางนั้นจะทำหน้าที่ขับขานช่วงความถี่สูงตั้งแต่ 4KHz ขึ้นไป และสามารถยึดขยายช่วงความถี่เสียงสูงออกไปได้จนปลายสุดของแถบช่วงความถี่เสียงนั่นคือ 37kHz / -10dB ทั้งนี้ตัวขับเสียงเบสทั้ง 4 ตัวของ Perlisten Audio เป็นแบบ Long Excursion ที่ใช้วัสดุตัวกรวยแบบ TexTreme Carbon Fiber เทคโนโลยีขั้นสูงนี้ได้มาซึ่งเส้นใยคาร์บอนสุดพิเศษที่เบากว่าเส้นใยคาร์บอนมาตรฐาน 30% ที่มีความหนาเท่ากัน และยังส่งผลต่อค่าการบิดเบือนที่ต่ำมาก
โดยมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นจากการใช้กระบวนการซ้อนหลายชั้น รวมทั้งลายทอประสานเส้นใยอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร ไร้ซึ่งข้อผิดพลาดใดๆ ส่งผลให้คุณรับรู้ได้ในไดนามิกที่เบากว่าอากาศ (lighter-than-air dynamics) และแรงกระทบ-ปะทะ (impact) อันสุดเร้าใจ และยังกระจาย break-up modes โดยไม่มีการตอบสนองปลายสุดที่คมชัดกัดหู (without sharp response peaks) ในขณะที่ช่วยยืดขยายช่วงกว้างย่านความถี่เสียง (bandwidth) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้วิศวกรของ Perlisten Audio ได้ทำการปรับจูนการทำงานของ DPC-Array ร่วมกับวูฟเฟอร์ TexTreme Carbon Fiber ทั้ง 4 ตัวให้มีการควบคุมทิศทางยิงเสียงที่พุ่งเป็นลำเสียง (beam forming controlled) ในลักษณะของ single coherent wavefront เพื่อให้การรับรู้ของผู้ฟังประหนึ่งว่า ได้ยินเสียงสอดประสานสัมพันธ์กันที่มาจากแหล่งกำเนิดเสียงเพียงหนึ่งเดียว
“S7t” นี่คือ ระบบลำโพง 4-ทางสมบูรณ์แบบ / 7-ตัวขับเสียง ระบบตัวตู้สามารถเป็น bass reflex หรือ acoustic suspension ก็ได้ สามารถครอบคลุมช่วงความถี่ตอบสนองได้ตั้งแต่ 22Hz – 37kHz (-10dB) เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ bass reflex และ 32Hz – 37kHz (-10dB) เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ acoustic suspension ซึ่งจะให้ค่า bass extension ลงไปได้ลึกล้ำถึง 16Hz เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ bass reflex และ 23Hz เมื่อปรับระบบการทำงานตัวตู้เป็นแบบ acoustic suspension โดยมีค่าความไวเสียง 92.2dB ให้ค่าความดังเสียงสูงสุด (peak) 117dB ค่าอิมพีแดนซ์ปกติ 4 โอห์ม / ต่ำสุด 3.0 โอห์ม รองรับกำลังขับ 100 – 600 วัตต์ RMS ขนาดมิติตัวตู้ (สูงxกว้างxลึก) 1295 x 240 x 400 มม. น้ำหนัก 55.7 กก.ต่อข้าง สอบผ่านการรองรับมาตรฐาน THX Dominus และ THX Ultra
ผลการรับฟัง
“S7t” นับเป็นระบบลำโพงแบบ “Slim-Tower” Floor-standing Speakers เนื่องเพราะนอกจากจะมีรูปทรงที่สูงฉลูดในแบบ Towerแล้ว ยังมีแผงหน้าตัวตู้ที่แคบแทบจะพอดีกับขนาดของวูฟเฟอร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการออกแบบให้มีลักษณะตัวตู้แบบ Slim-Tower style เยี่ยงนี้ก็เพื่อให้สอดรับสัมพันธ์กับการติดตั้ง-ใช้งานวูฟเฟอร์ขนาด 180 มม. ทั้ง 4 ตัว ทำให้สามารถออกแบบแผงหน้าตัวตู้ลำโพงเป็นแบบ แผงหน้าแคบ – แทบจะพอดีกับขนาดวูฟเฟอร์นั่นเอง
ด้วยว่า แผงหน้าตัวตู้ที่แคบ – แทบจะพอดีกับขนาดวูฟเฟอร์นั้น ย่อมจะส่งผลต่อการลดทอนพื้นที่ตกกระทบ-สะท้อน-หักเหของเสียงบนแผงหน้าตัวตู้โดยตรง เสียงที่รับฟังจึงถึงได้ว่า แทบจะไร้ซึ่งอาการ early diffraction กันเลยทีเดียว เมื่อมาผสานร่วม “ขนาด” ของวูฟเฟอร์ที่พอเหมาะพอสม (180 มม.)ก็จะสามารถทำหน้าที่ขับขานเสียงได้ “ดีที่สุด” ในช่วงความถี่ที่ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงย่านความถี่เสียงต่ำขึ้นไปจนถึงช่วงย่านความถี่เสียงกลาง นอกจากนี้ ขนาดที่พอเหมาะพอสมของวูฟเฟอร์ /มิดเรนจ์นี้ ก็จะส่งผลไปยังการ “สอดประสาน” สัมพันธ์การทำงานที่ดี ร่วมกับทวีตเตอร์/มิดเรนจ์แบบ DPC-Array ที่ Perlisten Audio เรียกขานว่า full range tweeter มารับภาระหน้าที่ในการขับขานช่วงย่านความถี่เสียงกลาง-สูง และความถี่เสียงสูงขึ้นไปได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน
อีกทั้งจากการศึกษาอย่างลึกซึ้งตลอดระยะเวลายาวนานนับทศวรรษ ทำให้พบว่า การออกแบบตัวตู้ลำโพงให้มีแผงหน้าที่แคบ แต่ลึกเข้าไป (narrow-and-deep enclosure) แทบจะพอดีกับขนาดของไดรเวอร์ (มิดเรนจ์/วูฟเฟอร์) นั้นเป็นการลดพื้นที่แผงหน้าตัวตู้ให้มีส่วนที่ส่งผลต่อการเกิด early diffraction ให้น้อยที่สุด อันจักส่งผลดีต่อการส่งมอบ “อิมเมจเสียง” ที่โดดเด่นกว่าธรรมดา ระบบลำโพงยุคใหม่อย่าง Perlisten Audio ก็เลยออกแบบให้มี “ขนาดตัวตู้” ที่ไม่สูญเสียพื้นที่ตั้งวางมากนัก ด้วยการมีรูปทรงตัวตู้ที่สูงฉลูด และเพรียวบางพร้อมด้วยแผงหน้าแคบ แต่ลึก-ยาว ทำให้ไม่ต้องสูญเสียพื้นที่ตั้งวางมากนัก จึงลงตัวได้กับห้องฟังในบ้านที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย หรือไม่ต้องการใช้ลำโพงที่มีขนาดใหญ่โตอะไรนัก ทว่าเน้นหนักที่ประเด็นเรื่องคุณภาพเสียงอันดีเยี่ยมเป็นสำคัญ
“S7t” ให้ลักษณะเสียงโดยรวม ที่เปี่ยมในความอิ่มฉ่ำ มีมวลมีน้ำหนัก ไม่แห้งผาก เพียบพร้อมด้วยมวลบรรยากาศห้อมล้อม และกระจ่างชัดในทุกสรรพเสียง ทั้งนี้ต้องขอบอกว่า ลักษณะน้ำเสียงของ “S7t” เป็นความโดดเด่นที่สำคัญ โดยเป็นเสียงที่มีความกลมกลืนต่อเนื่องนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน สดใส สะอาด มีมวลมีน้ำหนัก (แรงกระทบ-ปะทะ) ให้ความมีตัวตน มีลมหายใจ พร้อมด้วยความคึกคัก กระฉับกระเฉง ไม่โช่งฉ่าง ฟังแล้วรู้สึกรุกเร้าใจ สามารถให้การจำแนก-แยกแยะเสียงดนตรีที่ซ้อนทับกันนั้นได้กระจ่าง แจ่มชัดมาก
ขอยืนยันว่า “S7t”นั้น “ชอบ” ที่จะถูกตั้งวางให้ “หนีห่างจากผนัง” ทุกด้าน (พื้น-ผนัง) เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงสะท้อนจากบริเวณรอบข้าง พร้อมด้วยการตั้งวางแบบหน้าตรงหรือขนานกับผนังห้องด้านข้าง มากกว่าที่จะโท-อิน (toe-in) หรือวางเฉียงเอียงหน้าตัวลำโพงเข้าหากัน อันจะทำให้ได้มาซึ่งลักษณะ “สนามเสียง” ที่กว้างขวาง แผ่ใหญ่ กระจายตัว (spacious) มีการโอบล้อมของบรรยากาศรายรอบ (ambience) พร้อมด้วยความลึกของเวทีเสียงที่เด่นชัดและนิ่งสนิท ไม่ไหวตัววูบวาบแกว่งไปมา สามารถส่งมอบการรับรู้ได้ถึงสภาพเสียงที่มีหน้า-มีหลัง ให้ความรู้สึกถึงความถอยลึกเข้าไปในเวทีเสียงอย่างเด่นชัด สามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งแห่งที่-การวางตัวของเสียงแต่ละเสียง และมีระดับสูง/ต่ำได้อย่างชัดแจ้งครบถ้วนส่งมอบสภาพ-ลักษณะเวทีเสียงที่ทั้งแผ่กว้างและลึก (อย่างน่าทึ่ง) ทั้งยังรับรู้ได้ถึงสภาพการโอบล้อมทางเสียงอย่างโดดเด่นอีกด้วย
ซึ่งในระดับการรับฟังที่ความดังปกติ (ไม่เร่งเสียงดังจนเกินไปนัก) คุณจะสัมผัสได้ในสภาพความแผ่กว้างของเสียงเต็มพื้นที่ห้อง ถอยลึกเลยผนังหลังห้องฟังเข้าไป แยกเป็นแถว/ชั้นของเสียงชัดเจน บ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของเสียงที่เกิดขึ้นได้แน่นอน โดยไร้ซึ่งอาการเสียงเดินหน้า (forward) หรือว่า จัดจ้า หรือแม้กระทั่งอาการที่มักเรียกกันว่า –ขึ้นขอบ– อันสืบเนื่องจากอานิสงส์ “ความเบา” ของตัวไดรเวอร์เสียงกลางและสูงที่ Perlisten Audio เลือกใช้ ควบคู่การเลือกใช้วูฟเฟอร์ขนาด 180 มม. จำนวน 4 ตัวทำงานร่วมกัน
ผลลัพธ์ที่ได้จึงโดดเด่นอย่างมากในด้าน “ความเปิดโล่ง-โปร่งกระจ่าง-ฉับไว” – “R7t”จึงตอบรับกับสัญญาณฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด รับฟังแล้วสะใจมากเรื่องของไดนามิก-ความไหลลื่น และเรี่ยวแรงปะทะ (impact) รวมทั้งรายละเอียดเสียง (detail) พร้อมด้วยเวทีเสียงที่แผ่กว้าง ไล่ระดับความลึก ให้ตำแหน่งแห่งที่อันแจ่มชัดในจินตภาพเสียง (image) สุ้มเสียงโดยรวมไปในทาง-สดใส-กระชับ น้ำหนักเบสที่พอดีๆ ไม่มีล้น หรือ บวม จับจังหวะจะโคน-ท่วงทีลีลาได้ถนัด ที่สำคัญนอกจากจะไม่ปรากฏอาการคลุมเครือ ตีรวน แบ่งแยกช่วงเสียงต่างๆแล้ว ‘เนื้อเสียง’ ทั้งแหลม-กลางและต่ำยังกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน
ว่ากันตามจริงแล้วไซร้ ประโยชน์สำคัญในการเลือกใช้วูฟเฟอร์ขนาด 180 มม. จำนวน 4 ตัวทำงานร่วมกัน (แทนที่การใช้วูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ราวๆ 12 นิ้วเพียงตัวเดียว) ของ “S7t” นี่แหละที่ส่งผลดีอย่างมากต่อความฉับไวในการตอบสนองต่อสัญญาณเสียง ช่วยให้การเปิดเผยต่อรายละเอียดต่างๆ ทั้งในช่วงย่านความถี่เสียงต่ำและช่วงย่านความถี่เสียงกลางที่คาบเกี่ยวต่อเนื่องกันนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น เพราะตัวลำโพงขนาดเล็กก็ย่อมที่จะมีความฉับไวในการตอบสนองได้ดีกว่าวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ที่ย่อมมีความเฉื่อยมากกว่า ทำให้ได้มาซึ่งรายละเอียดเสียงช่วงย่านความถี่เสียงต่ำ-กลางที่ดีขึ้น ครบถ้วนตามต้นฉบับสัญญาณมากขึ้น โดยไม่มีปัญหาข้อด้อยในด้าน “ความถี่ตอบสนอง” และ “น้ำหนัก” ของเสียงในช่วงย่านความถี่ต่ำ
“S7t” จักส่งมอบรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ออกมาให้ได้รับฟัง เฉพาะอย่างยิ่งกับความรู้สึก-รับรู้ถึงมวลอากาศรายรอบ และความมีชีวิตชีวาของชิ้นดนตรีอะคูสติกชนิดต่างๆ ชนิดที่ว่า มีความรู้สึกอันสมจริงยิ่งนัก นอกจากนี้สมรรถนะการถ่ายทอด-บ่งบอกจินตภาพและสภาพเวทีเสียงดูจะมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ สามารถให้การรับรู้ถึงสภาพเสียงที่นอกจากจะแผ่กว้าง – จนสามารถสร้างความรู้สึกโอบล้อมของบรรยากาศเสียงแล้ว ยังถอยลึกเข้าไปหลังตำแหน่งตั้งวางระบบลำโพงเป็นปริมณฑลเสียงอยู่หลังตำแหน่งตั้งวางลำโพง
“S7t” สามารถจำแนกแยกแยะแถวชั้นของตำแหน่งชิ้นดนตรีได้อย่างมีอาณาบริเวณเป็นอิสระ อิมเมจ-ซาวด์สเตจถูกแยกแยะเป็นชั้นๆ อย่างมีเลเยอร์กระนั้น ปราศจาการเบียดบัง กลบซ้อนทับกัน ทั้งยังไล่ระดับความสูง/ต่ำในตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงได้อย่างสมจริง เป็นสภาพไดเมนชั่นของเสียง – ราวเป็น 3 มิติ พร้อมด้วยมวลอากาศรายรอบของสภาพบรรยากาศเสียง
“S7t” ส่งมอบเสียงของชิ้นดนตรีชนิดต่างๆ เสมือนลอยล่องออกมา ผลุดโผล่จากตรงโน้นตรงนี้ มีตำแหน่งแห่งที่ พร้อมอาณาบริเวณชี้ชัด ทั้งเครื่องดีดสีตีเป่าเขย่าเคาะ ล้วนให้บุคลิกจำเพาะ (timbre) ของแต่ละอย่างออกมาได้ถนัดหู ฟังแล้วได้อรรถรสมากๆ สรรพเสียงต่างๆ แทบไม่ต่างจากเสียงจริงที่เราได้ฟังจากชิ้นดนตรีนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์-เสียงเปียโน-เสียงไวโอลิน-เสียงเครื่องสายทั้งหลายเรียกได้ว่า แทบจะมองเห็นเป็นเส้นสายที่สั่นไหวกันเลยทีเดียว ทั้งยังสามารถส่งมอบการผุดโผล่ของรายละเอียดเสียงระยิบระยับ ตอบรับสัญญาณเสียงฉับพลันได้อย่างทันทีทันใด เรียกว่าให้ทั้งความจะแจ้ง-แจ่มชัด-สดใส พร้อมการเปิดโปร่ง-โล่งกระจ่าง ไร้สภาพ “หมอกควัน” ปกคลุม
รวมถึงปลายย่านเสียงสูงที่พละพลิ้วเป็นละอองอณู บ่งบอกถึงสภาพบรรยากาศอันอบอวล …น่าฉงนใจมากครับกับทวีตเตอร์แบบโดมโลหะ (Beryllium dome) ของ “S7t” ที่สามารถส่งมอบบุคลิกเสียงที่สดใส ฉับไว เปล่งประกาย ให้ความกังวานของหางเสียงสูงที่แจ่มชัด พร้อมๆ กับความฉ่ำชุ่มนุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไร้ซึ่งอาการคมชัด จัดจ้า กร้าน กัดหู รายละเอียดต่างๆ ที่พรั่งพรูออกมาจูงใจให้อยากหยิบจับซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่เคยฟังผ่านหูมาก่อนหน้า เพื่อรับรู้ว่ามีอะไรต่อมิอะไรที่เคยหลุดรอดไป ยิ่งหยิบจับโน่นนี่นั่นมารับฟัง ผมรับรอง คุณจะจมดิ่งในภวังค์ไปกับเสียงเพลงที่กำลังรับฟังอย่างไม่รู้ตัว
“S7t” ส่งมอบเสียงร้องเพลงทั้งหญิงและชายได้อย่างชนิด “สมจริง” อย่างน่าประทับใจ ราวกับเป็นน้ำเสียงของมนุษย์จริงๆ มีตัวมีตน มีวิญญาณ มีลมหายใจราวกับกำลังยืนร้องให้เราฟังกันสดๆ อยู่ต่อหน้าเลยจริงๆ “S7t” บ่งบอก-จำแนก ความอ่อนแก่ของเสียง มีผ่อนหนักผ่อนเบาชัดแจ้งมาก การออกเสียงอักขระต่างๆ แทบจะมองเห็นลักษณะการห่อปาก จีบปากจีบคอว่าเข้าไปนั้น แต่มันให้ความรู้สึกได้เยี่ยงนี้จริงๆ ครับ …ต้องยกนิ้วให้กับ DPC-Array ของ Perlisten Audio ที่ทำหน้าที่ในการขับขานช่วงย่านความถี่เสียงกลางตอนบน จนสุดปลายช่วงย่านความถี่เสียงสูงที่ทอดตัวยาวไกลได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน
อย่างไรก็ตามจากการรับฟังนั้นรู้สึกได้ว่า “S7t” ดูจะมิได้ถูกมุ่งเน้นไปที่เรื่องของ “ความหนักหน่วง-เข้มข้น” ในพลังเสียงเบสนัก หากแต่ถ้าเป็นในด้าน “ความกระชับ-ฉับไว-แจ่มชัด-สดใส” กันแล้วละก้อ รับรองได้เลยว่า คุณจะถึงกับทึ่งในสมรรถนะของเจ้า “S7t” ระบบลำโพงรุ่นเรือธงของ Perlisten Audio
สรุปส่งท้าย
ลักษณะน้ำเสียงของ “S7t” นั้น ต้องขอบอกว่า เป็นความโดดเด่นที่สำคัญ โดยเป็นเสียงที่มีความกลมกลืนต่อเนื่องนวลเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน สดใส สะอาด มีมวลมีน้ำหนัก (แรงกระทบ-ปะทะ) ให้ความมีตัวตน มีลมหายใจ พร้อมด้วยความคึกคัก กระฉับกระเฉง ไม่โฉ่งฉ่าง ฟังแล้วรู้สึกคึกคัก รุกเร้าใจ สามารถให้การจำแนก-แยกแยะเสียงดนตรีที่ซ้อนทับกันนั้นได้แจ่มชัดมาก
“S7t” นับเป็นระบบลำโพงที่สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างง่ายๆ เมื่อได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นในด้านน้ำหนัก – ความฉับไว – พลังกระแทกกระทั้น และการตอบสนองความถี่เสียงต่ำที่ทำได้อย่างลึกล้ำ รวมไปถึงความยิ่งใหญ่-อลังการของสุุ้มเสียงที่ส่งมอบออกมา ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความเอิบอิ่มของน้ำเสียงโดยรวม และรายละเอียดเสียงสอดแทรกต่างๆ ทั้งในช่วงย่านเสียงต่ำ, กลางและสูง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างพรั่งพรูบวกกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง ในการบ่งบอกตำแหน่งแห่งที่ของสรรพเสียงอันแจ่มชัด รวมถึงการมีตัวตนของเสียงนั้นๆ ในสภาพอิมเมจและซาวด์สเตจอย่างสมจริง
…ยิ่งฟังยิ่งเพลินอารมณ์ครับ สำหรับ “S7t” ที่ทำให้รับรู้ได้ถึงสารพัดเสียงสอดแทรกต่างๆ ที่ถูกบ่งบอกออกมาจะแจ้งมากๆ สดสะอาดและแจ่มชัดให้ทิศทางที่มาของเสียงนั้นๆ รายละเอียดต่างๆ มีความครบชัด ระบุตำแหน่งแห่งที่ของเสียงได้อย่างมีตัวตน สามารถรับรู้การแยกแยะแถว-ชั้นของเสียง พร้อมด้วยความโปร่งโล่งในมวลบรรยากาศ (airy) รวมถึงสมรรถนะการถ่ายทอด-บ่งบอกจินตภาพและสภาพเวทีเสียงที่ดูจะมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ
ขอขอบคุณ Theater House ที่กรุณาเอื้อเฟือลำโพง Perlisten Audio: S7t ในการรับฟังครั้งนี้
*** ตัวขับเสียงเบส/มิดเรนจ์แบบ TexTreme TPCD นั้นอาจเป็นที่คุ้นตากันสำหรับคอลำโพงไฮ-เอ็นด์ ด้วยว่า เป็นไดรเวอร์ที่ถูกเลือกใช้อยู่ในแบรนด์ดังหลายแบรนด์ (Rockport Technologies, Magico , Kharma) ซึ่ง “TexTreme TPCD” ของ Perlisten Audio นั้นได้ถูกระบุว่าเป็นแบบ Custom made bass drivers และทาง Perlisten Audio ยังได้ระบุเพิ่มเติมไว้ดังนี้ “ตัวขับเสียงทั้งหมดของ Perlisten Audio ได้รับการพัฒนาโดยวิศวกรของเราเอง – ผ่านการวิจัยมาหลายทศวรรษ ส่งผลให้มีการออกแบบระดับโลก ซึ่งเราร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาและสวีเดน เพื่อนำวัสดุศาสตร์สมัยใหม่มาสู่ระบบไฮ-ไฟ”
*** ตัวตู้ที่ออกแบบไว้ให้ผู้ใช้เลือกได้ระหว่าง bass reflex หรือ acoustic suspension นั้น “S7t” จะมีท่อเปิด หรือ port ติดตั้งอยู่ด้านล่างตัวตู้ ซึ่งหากผู้ใช้ต้องการปรับเปลี่ยนจากระบบ bass reflex ไปเป็น acoustic suspension นั้น ก็ให้นำฟองน้ำอะคูสติกที่ Perlisten Audio จัดเตรียมไว้ให้มาสอดใส่เข้าไปในท่อเปิด ซึ่งก็จะส่งผลต่อการตอบสนองความถี่ช่วงเสียงต่ำให้ปรับเปลี่ยนจาก 30Hz (ระบบตู้เปิด)ไปอยู่ที่ 41Hz (ระบบตู้ปิด)
*** THX Dominus เป็นระบบก้าวหน้าล่าสุดและทรงประสิทธิภาพสูงสุดของ THX Certification ณ ปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างลำโพงที่ใช้ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก เข้ากับลำโพงเพื่อโฮม เธียเตอร์ขนาดใหญ่ …ท่านใดมีห้องโฮม เธียเตอร์ที่ปริมาตรมากถึง 184 ลูกบาศก์เมตร (6500 ลูกบาศก์ฟุต) และให้ระยะการรับชมไกลถึง 6 เมตร (20 ฟุต) จะสามารถอ้างอิงได้จากผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง THX Certification ใหม่ล่าสุดนี้ ด้วยคุณภาพเสียงอันเหนือชั้นยิ่งกว่าที่เคย จึงมีความแตกต่างค่อนข้างมากจากมาตรฐาน THX ใดๆ ที่มีมาก่อนหน้า ด้วยความเงียบที่สงัดกว่า ความดังของเสียงที่ดังยิ่งขึ้น ค่าความผิดเพี้ยนที่ต้องต่ำสุดๆ รวมถึงอีกสารพัดที่ต้องสอบผ่านการตรวจวัดด้วยสมรรถนะในระยะที่ไกลยิ่งขึ้นกว่าเดิม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..