DAWN NATHONG
คลาส A + D อินทิเกรตแอมปลิฟายเออร์
ยุคนี้ใครก็พูดถึงแอมป์คลาสดีกันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าจะเจาะจงลงไปว่าผู้ผลิตแบรนด์ใด้บ้างที่ทำแอมป์คลาสดีออกมาให้สุ้มเสียงที่น่าฟังสูสีกับแอมป์คลาสเอบีที่เราคุ้นหูกัน หนึ่งในนั่นก็ต้องมี NuPrime Audio รวมอยู่ด้วย
ความน่าสนใจของแบรนด์นี้คือเขาเก่งในเรื่องการทำของดีราคาไม่แรง เดิมทีเริ่มจากการรับผลิตเครื่องเสียงคุณภาพสูงแบบ OEM ภายใต้ชื่อของ NuForce ก่อนที่จะแยกบริษัทมาทำแบรนด์ไฮเอ็นด์ในชื่อของ NuPrime ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ ถึงขั้นได้รางวัล Product of the Year ของนิตสารเครื่องเสียงเสียงชื่อดัง The Absolute Sound และ SoundStage! Netwotk พร้อมกันในปีเดียว
สำหรับ NuPrime IDA-8 เป็นอินทิเกรตแอมป์แบบไฮบริดที่มีภาคดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ในตัว ถ้ามองภายนอกนี่จะมีขนาดตัวที่เรียกได้ว่ากะทัดรัดเหมือนกับพวกแอมป์หูฟังแบบตั้งโต๊ะ แต่ภายในอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ชั้นดีมากมาย
รายละเอียดที่น่าสนใจ
หัวใจการทำงานของ NuPrime IDA-8 คือการใช้ภาคขยายแบบไฮบริดระหว่างคลาสเอกับคลาสดีโดยภาคปรีใช้ ULCAM (Ultra-Linear Class A Module) ซึ่งเป็นโมดูลวงจรแบบอัลตร้าลิเนียร์คลาสเอ ภาคอินพุตสเตจ Ultra-low-noise JFET ส่วนภาคเพาเวอร์จะเป็นสวิตชิ่งแอมป์คลาสดี ทำงานที่ความถี่ 600kHz ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแอมป์คลาสดีทั่วไปสองเท่า
วิธีนี้เป็นการเอาข้อดีของวงจรทั้งสองแบบมารวมกัน คือมีความผิดเพี้ยนต่ำและมีประสิทธิภาพในการขับลำโพงที่สูง แถมยังเลือกใช้ภาคจ่ายไฟแบบลิเนียร์ มีหม้อแปลงเทอรอยด์ขนาดใหญ่อยู่ภายใน แทนการใช้ภาคจ่ายไฟแบบสวิตชิ่ง (อินทิเกรตแอมป์รุ่นเก่า IDA-6 ใช้ภาคจ่ายไฟสวิตชิ่ง) เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่มีกำลังขับสูงถึง 100W x 2 ที่ 8 และ 4 โอห์ม และสามารถสวิงชั่วครู่ได้ถึง 280 วัตต์
ภาคดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ที่ให้มาก็มีคุณภาพสูงไม่แพ้กัน ตัวชิปแด็คเป็น ES9010K2M Sabre รองรับข้อมูลความละเอียดสูงสุด PCM 32bit / 384kHz และ DSD 11.2MHz (DoP) นอกจากนี้ยังมีออพชั่นเสริมเป็นบลูทูธดองเกิลแบบ aptX มาให้ในกล่อง
สาเหตุที่ NuPrime สามารถทำราคาได้น่าสนใจ เพราะเป็นโรงงานที่รับ OEM ตั้งแต่แรก มีการ R&D และผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบ In-house การกำหนดราคาของผลิตภัณฑ์ก็จะคิดตามต้นทุนเป็นหลัก เมื่อเวลาผ่านไปต้นทุนก็จะลดลงเนื่องจากนวัตกรรมและความก้าวหน้าของประสิทธิภาพการผลิต ยกตัวอย่างเช่น การใช้ตัวต้านทานหลายตัวในโวลุ่มของปรีแอมป์นั้นมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง ทางวิศวกรก็จะเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างโลจิกชิป FPGA เข้ามาทดแทน หรือในส่วนของภาคขยายคลาสดีก็จะใช้วงจร Self-oscillating เพื่อสร้างสัญญาณ PWM (Pulse Width Modulation) ที่ทำเอง แทนการซื้อโมดูลสวิตชิ่งแอมป์สำเร็จรูปมาใช้ซึ่งมีต้นทุนแพงกว่า
รูปลักษณ์และการใช้งาน
NuPrime IDA-8 เป็นแอมป์ที่มีสัดส่วนแบบ Half-size คือมีหน้ากว้างประมาณครึ่งนึงของเครื่องเสียงขนาดปกติ รวมถึงความสูงของตัวเครื่องด้วยเช่นกันแม้ว่าภายในจะติดตั้งหม้อแปลงเทอรอยด์ขนาดเขื่องเอาไว้ก็ตาม เนื่องจากใช้ภาคขยายแบบคลาสดีที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้ไม่จำเป็นต้องเผื่อพื้นที่สำหรับฮีทซิงค์ระบายความร้อนขนาดใหญ่ ตัวถังไม่มีการเจาะช่องระบายความร้อน แต่อาศัยการระบายความร้อนผ่านตัวถังเครื่องแทน (หมดปัญหาฝุ่นเข้าเครื่อง)
หากลองเอามือนาบบริเวณฝาหลังจะรู้สึกร้อนพอประมาณ แนะนำให้จัดวางเครื่องในจุดที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกสักหน่อย อย่าถึงกับเอาไปซุกไว้ในที่แคบ ๆ ในส่วนของขารองก็ถูกออกแบบมาอย่างดี หน้าตาคล้ายกับทิปโทและตรงปลายเป็นปุ่มยางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อตัดแรงสั่นสะเทือน (อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร)
แผงหน้าปัดเครื่องออกแบบเรียบง่ายมีสวิตช์เพาเวอร์ / ซีเล็กเตอร์อยู่ฝั่งซ้าย และสวิตช์โวลุ่มคอนโทรล / ปิดเสียง อยู่ฝั่งขวา ตรงกลางเจาะรูเล็ก ๆ เพื่อแสดงผลแบบ Dot Matrix สีน้ำเงิน (สามารถเลือกปิด-เปิดจากรีโมทได้) ซึ่งตอนแรกอาจจะงงกับการอ่านหน้าจอแสดงผลนิดหน่อยเพราะใช้อักษรย่อ ได้แก่ C1 = Coaxcial, O2 = Optical, U3 = USB, E4 = Extension port, และ A5 = Analog ส่วนตัวเลขสองหลักถัดมาคือระดับความดัง ซึ่งเครื่องจะจำค่าระดับความดังที่ปรับของแต่ละอินพุตไว้แยกกัน
ส่วนท้ายเครื่องฝั่งซ้ายเป็นขั้วต่อ IEC และเมนสวิตช์ ตรงกลางเป็นขั้วต่อสายลำโพงแบบไบดิ้งโพส ขนาดจะเล็กกะทัดรัดกว่าปกติสักหน่อยแต่แข็งแรง ด้วยความที่ขั้วต่อค่อนข้างวางชิดกันแนะนำให้ใช้หัวแจ็คบานาน่าจะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัย ถัดมาอีกเล็กน้อยเป็นช่อง Analog line-out (Sub Out) และฝั่งขวาของเครื่องจะเป็นชุดของช่องอินพุตทั้งดิจิตอลและอนาล็อก โดยจะมีช่องอนาล็อกอินพุตแบบอันบาล้านซ์มา RCA มาให้ 1 ชุด
หลังจากเสียบปลั๊กไฟเอซีเข้าเครื่องแล้วเมื่อเปิดเมนสวิตช์ด้านหลัง เครื่องจะเข้าสู่สภาวะสแตนด์บาย ให้เปิดการทำงานของเครื่องด้วยการกดสวิตช์เพาเวอร์ / ซีเล็กเตอร์ฝั่งซ้ายค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะเห็นจุดสีฟ้าเล็ก ๆ ตรงกลางหน้าปัดกระพริบสักครู่แล้วเครื่องก็จะเปิดขึ้น เวลาปิดเครื่องก็กดสวิตช์เพาเวอร์ / ซีเล็กเตอร์ค้างไว้ 3 วินาทีเช่นเดียวกัน หากใช้งานเป็นประจำแนะนำให้เปิดเมนสวิตช์หลังเครื่องทิ้งไว้เลยเสียงจะดีกว่า (ปิด-เปิดที่สวิตช์เพาเวอร์ / ซีเล็กเตอร์อย่างเดียว)
ในกล่องจะแถมตัวบลูทูธดองเกิลรุ่น BTR-8 ซึ่งเป็นแบบ aptX กับตัวสายเพิ่มความยาวมาให้ แนะนำว่าให้เสียบตัวดองเกิลต่อตรงที่ช่อง USB อินพุต E4 โดยตรงเลยเสียงดีกว่า ทดลองฟังแล้วคุณภาพเสียงของภาครับบลูทูธอยู่ในเกณฑ์ดีมากชัดใส เคลียร์ ไม่แพ้เครื่องที่มีบลูทูธ aptX HD
ผู้เขียนทดสอบโดยการเชื่อมต่อ NuPrime IDA-8 เข้ากับ Volumio Music Server ผ่านช่องต่อ U3 เพื่อใช้งานภาคดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ในตัวอินทิเกรตแอมป์ สลับกับการเชื่อมต่อกับ DAC / AMP อย่าง Chord Mojo ผ่านทางช่องอนาล็อกไลน์เอาท์ไปยังช่องอนาล็อกอินพุต A5 ของอินทิเกรตแอมป์เพื่อเปรียบเทียบกัน
เสียง
NuPrime IDA-8 นั้นสร้างความประทับใจให้ผู้เขียนมากที่สุดสองประการ อันดับแรกนั้นต้องสารภาพว่าดูจากขนาดตัวที่กะทัดรัดแบบนี้แถมยังเป็นแอมป์คลาสดีด้วยแล้วทำให้คาดเดาน้ำเสียงก่อนจะได้ฟังไปตามประสพการณ์ที่เคยฟังแอมป์คลาสดีทั่วไป แต่หลังจากได้ฟังเสียงจริงแล้วต้องถือว่าผิดคาดไปพอสมควร
สำหรับใครที่เคยปรามาสว่าแอมป์คลาสดีนั้นเสียงสะอาดแต่ขาดความพลิ้วไหวละก็ อยากให้ลองฟัง NuPrime IDA-8 ดูสักครั้ง เพราะหลังจากอุ่นเครื่องไปสักเล็กน้อยแล้ว พบว่าน้ำเสียงนั้นนอกจะสะอาดชัดเจนตามแบบฉบับแอมป์คลาสดีแล้วยังเจือความชุ่มฉ่ำของเสียงที่คล้ายกับเครื่องหลอดติดปลายนวมเข้าไปด้วยในทุกย่านความถี่ แม้ความพริ้วจะไม่ได้มากเท่ากับแอมป์หลอดเสียทีเดียว แต่เนื้อหาสาระที่อินทิเกรตแอมป์ตัวนี้นำเสนอ มันก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบไปทางนั้น
อานิสงค์น่าจะมาจากการที่ NuPrime เลือกใช้ภาคปรีแอมป์แบบคลาสเอเข้ามาผสมผสาน ย่านเสียงกลางจึงมีทั้งความอบอุ่น สะอาด ชัดเจน มีรายละเอียดหยุมหยิมที่เป็นธรรมชาติและไม่มีความแข็งกระด้างของเสียงหลงเหลืออยู่ น้ำเสียงที่ออดอ้อน ฉอเลาะ มีลีลา เป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ ให้ความต่อเนื่องลื่นไหล ไล่ระดับไปยังด้านแหลมและทุ้มอย่างราบรื่น ปลายแหลมมีการจางหายของเสียงที่ถูกควบคุมเอาไว้อย่างพอเหมาะ ไม่ฟุ้ง มีประกายความกังวานไม่อับทึบ และให้ปริมาณที่สมดุลกันตลอดทั้งย่านทุ้ม กลาง แหลม
พื้นหลังนั้นมีความสงัดสูงมาก ๆ (ค่า S/N Ratio 95 ดีบี) เพราะ IDA-8 ออกแบบให้ทางเดินสัญญานสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเทคนิคการออกแบบโวลุ่มโดยใช้ตัวต้านทานเพียงตัวเดียวในทางเดินสัญญาน ทำให้รายละเอียดของเสียงต่าง ๆ ผุดลอยออกมาจากฉากหลังอย่างชัดเจน มีมีติตื้นลึก และสามารถระบุตำแหน่งที่มาที่ไปของเสียงต่าง ๆ ได้อย่างไม่สับสนตีรวนกัน เวลาฟังจึงรู้สึกว่าเวทีเสียงนั้นให้ทั้งความกว้าง ลึก เกินตัวไปมากทีเดียวสำหรับแอมป์ในพิกัดราคานี้
นอกจากนี้จุดแข็งอีกอย่างที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจคือการควบคุมย่านทุ้มที่เด็ดขาด ให้ความรู้สึกเหมือนเราฟังลำโพงที่ถูกขับด้วยแอมป์ไฮเอ็นด์คุณภาพสูง ๆ ไม่ใช่ในแง่ของปริมาณ แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ ถูกที่ถูกทาง ทุ้มที่ดีดตัวฉับไวออกมาจากลำโพงนั้นมีรูปทรงสัณฐานที่สมบูรณ์ทั้งหัวโน้ต ปริมาณเนื้อเสียงและหางเสียงที่ถูกควบคุมเอาไว้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่มากจนบวมล้นหรือเบาบางขาดน้ำหนัก แต่แปรเปลี่ยนไปตามการบันทึกได้อย่างน่าชื่นชม จะเรียกว่าทุ้มแบบมอนิเตอร์ก็ว่าได้ ถ้าจะเปรียบเทียบกับแอมป์คลาสเอบี ทุ้มลักษณะนี้ก็น่าจะเหมือนการใช้เพาเวอร์แอมป์คุณภาพดีสักสองร้อยวัตต์มาขับ
ช่วงท้ายทดลองภาคอนาล็อกอินพุตของอินทิเกรตแอมป์ โดยอาศัยภาคดีทูเอคอนเวอร์เตอร์ภายนอกอย่าง Chord Mojo แทน ปรากฏทั้งรายละเอียดและน้ำเสียงส่งเสริมกันดีมาก บุคลิกเสียงของ Mojo นั้นจะมีความอบอุ่นของเสียงเป็นทุนเดิม เมื่อจับคู่กับ NuPrime IDA-8 แล้ว ยิ่งเพิ่มพูนความเป็นดนตรีน่าฟังเข้าไปอีก โทนเสียงจะมีความอิ่ม และอบอุ่นเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยังคงข้อดีอื่น ๆ เอาไว้
เรียกว่าหากใครที่เป็นนักฟังเพลงจากไฟล์ดิจิตอลตัวยงแล้วละก็ห้ามพลาด เพราะมันทำให้การฟังไฟล์เพลงดิจิตอลนั้นไม่มีสากเสี้ยนให้รำคาญหู (นอกเสียจากอัลบั้มบันทึกมาแบบนั้น) ในขณะที่ยังคงรายละเอียดของเสียงที่สมบูรณ์เอาไว้ได้อย่างน่าฟัง ซึ่งการถ่ายทอดบุคลิกเสียงของอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกัน Mojo ออกมาได้ชัดเจนแบบนี้ สะท้อนความเป็นกลางในน้ำเสียงจากตัวอินทิเกรตแอมป์ได้เป็นอย่างดี
สรุป
อินทิเกรตแอมป์ไฮบริดคลาสเอ + ดี ของ NuPrime IDA-8 ให้น้ำเสียงเจือความอบอุ่น ลื่นไหล พื้นหลังเงียบสงัด มีความเป็นกลางแม็ตชิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ง่าย กำลังสำรองดีไม่ค่อยเกี่ยงลำโพง เมื่อเทียบราคาค่าตัวกับน้ำเสียงที่ได้แล้วถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสูง ซึ่งนาน ๆ จะมีของดีราคาไม่แรงหลุดออกมาให้ทดลองฟังกัน เอาเป็นว่าสำหรับใครที่วางงบประมาณสำหรับอินทิเกรตแอมป์แจ่ม ๆ สักตัวเอาไว้ไม่เกินห้าหมื่นบาท ลองไปฟัง NuPrime IDA-8 ดูก่อน ท่านอาจประหยัดไปได้หลายสตางค์เลยทีเดียว
ขอขอบคุณ Home Entertainment Expert โทร. 080 987 9999 ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการทดสอบ