Apollo ของ Michell Audio ได้รับการผลิต, ออกแบบ และสร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งทาง Michell ได้รับประกันว่า Apollo จะมอบประสิทธิภาพที่สมจริงอย่างจับต้องได้ ให้กับนักเล่นเครื่องเสียง และผู้ชื่นชอบแผ่นเสียงไวนิล โดยอาศัยปรัชญาการออกแบบพื้นฐานของ Michell นั่นก็คือ “เพื่อความรักในเสียงเพลง” (For The Love Of Music)
Apollo เป็นโซลูชันแบบ Two-Box Solution ตัวถังแยกสองกล่องที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดสัญญาณรบกวน RF ที่ไม่ต้องการให้เหลือน้อยที่สุด Jonathan Nye กรรมการผู้จัดการของ Michell กล่าวกับ StereoNET ว่า :- ‘สัญญาณรบกวนเป็นศัตรูของภาคขยายสัญญาณหัวเข็ม (Phono Stages) ดังนั้นเราจึงใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อขจัดสัญญาณรบกวน เช่น ภาคจ่ายไฟและปรีแอมป์ที่แยกจากกัน ตัวเครื่องที่กลึงจากอะลูมิเนียมตัน และสายเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ’
Michell ระบุว่า องค์ประกอบทุกอย่างของ Apollo และ Muse ได้รับการสร้างขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่มากกว่าแค่รักษาความเที่ยงตรงของดนตรีเพียงเท่านั้น แต่ยัง “ทำให้การแสดงนั้นมีชีวิตชีวามากขึ้น” (They Bring The Performance To Life) อีกด้วย โดยระบุชัดว่า แหล่งจ่ายไฟ Muse ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าแบบ วงแหวนคุณภาพสูงที่มีสัญญาณรบกวนต่ำ เทคโนโลยี Capacitance Multiplier Technology ขั้นแอดวานซ์ และตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้าคุณภาพสูง เพื่อลดทั้งริปเปิล (Ripple) และสัญญาณรบกวน (Noise) โดยส่งเอาต์พุตไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่มีการกรองและการควบคุมอย่างเข้มงวดจำนวน 2 เอาต์พุต
ในขณะเดียวกัน Apollo Phono Stage ยังรวมถึงวงจรจ่ายไฟเพิ่มเติม (Additional Power Supply Circuit) ในตัว ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยปรับปรุงและควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงขาเข้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ภาคขยายสัญญาณได้รับพลังงานที่บริสุทธิ์ และเสถียรภาพที่สุด แหล่งจ่ายไฟ DC ที่ราบเรียบจะป้อนไปยัง Apollo ผ่านสายเชื่อมต่อที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อการแยกทางกายภาพระหว่างตัวเครื่องทั้งสอง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อปฏิเสธเสียงรบกวนจากภายนอก ตัวนำทองแดง OFC ชุบเงินคุณภาพสูง, ฉนวน FEP และแผ่น AL-Foil Mylar Separators ล้วนมีส่วนทำให้สามารถจ่ายไฟที่บริสุทธิ์เป็นพิเศษผ่านสายเชื่อมต่อโดยเฉพาะนี้ได้
ทั้งนี้ดูเหมือนว่า ปรีแอมป์คลาส A จะยืมเทคโนโลยีมาจากเครื่องขยายสัญญาณไมโครโฟนระดับมืออาชีพ ซึ่งเป็นอีกแอปพลิเคชันหนึ่งที่ต้องใช้การขยายเสียงที่สะอาดมาก เมื่อรวมเครื่องขยายเสียงที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้เข้าด้วยกัน วงจร RIAA แบบพาสซีฟที่ปรับแต่งอย่างละเอียด รวมถึงวงจรควบคุมและป้อนกลับ (Feedback Circuits) จะสามารถรับประกันประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ของ Apollo และเพื่อความเข้ากันได้สูงสุดกับทั้งหัวเข็ม MM และ MC “Apollo” จึงสามารถทำการตั้งค่าโหลดและอัตราขยายที่ผู้ใช้กำหนดเองได้ โดยเลือกผ่านชุดสวิตช์ DIP ที่ด้านใต้ของตัวเครื่อง ซึ่งซ่อนไว้อย่างเรียบร้อยภายใต้ฝาปิดแม่เหล็ก
Michell Audio แห่งสหราชอาณาจักรใช้อะลูมิเนียมเนื้อตันในการผลิตกล่องตัวเครื่องแต่ละเครื่อง เพื่อให้ได้กล่องแบบฝาพับที่พอดีกัน กล่องหุ้มนี้ทำหน้าที่เป็นกรงฟาราเดย์ (Faraday Cage) ซึ่งป้องกันไม่ให้สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าที่ไม่ต้องการภายใน PSU ของ Muse หลุดออกไป และยังป้องกันไม่ให้สัญญาณรบกวนจากภายนอกเข้ามาสู่ Apollo ด้วยในขณะเดียวกัน ชุด Apollo และ Muse จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2025 ที่ร้านค้าปลีก Michell Audio ทั่วสหราชอาณาจักร โดยชุด Apollo และ Muse พร้อมสายเชื่อมต่อ ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 3,500 ปอนด์
_________________________
