Garoonchart Bukkavesa
อย่างที่หลาย ๆ ท่านทราบสายแบรนด์ Life Audio มาแรงแซงโค้งเอามาก ๆ ซึ่งถือเป็นแบรนด์คนไทยรังสรรค์ขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม
ทาง Life Audio หลัก ๆ ผลิตสายชนิดต่าง ๆ หลัก ๆ เป็นสายไฟเอซี, สายสัญญาณ, สายลำโพง ซึ่งมีให้เลือกหลายซีรีส์ เริ่มต้นหลักพันจนหลักล้าน!! ให้เลือกตามงบประมาณครับ
ส่วนซีรีส์ที่ผมนำมาพรีวิวคราวนี้เป็นสายลำโพงระดับกลางสูงชื่อรุ่นว่า The Ant (Red) MK II หรือที่นักเล่นชาวไทยนิยมเรียกว่า “มดแดง” โดยเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว (แน่นอนว่าดีกว่ารุ่นแรก รวมถึงรุ่นสูงกว่าแต่ออกก่อน-คล้าย ๆ กับกล้องถ่ายรูปที่รุ่นใหม่ตัวกลางคุณภาพดีกว่าตัวสูงรุ่นออกมาก่อนหน้า)
The Ant (Red) MK II นี้มาพร้อมรายละเอียดงานสร้างที่ใส่ใจแทบทุกจุด แสดงถึงทีมงานที่ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมา ซึ่งมิอาจตำหนิได้เลย สายเป็นแสนยังไม่จัดให้ขนาดนี้ ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูเถิดครับ
ตามมาครับว่า Life Audio : The Ant (Red) MK II มดแดงเส้นนี้จะกัดเจ็บขนาดไหน
คุณสมบัติพิเศษ Life Audio : The Ant (Red) MK II
- ชนิดตัวนำ 3 ชนิด คือ ทองแดง OFC, ทองแดง OCC เคลือบเงิน, ทองแดง OFC เคลือบทอง
- ใช้ตัวนำแกนแข็ง และแกนฝอย
- ตัวนำมาจาก 4 แหล่ง
- ตัวนำแยกโครงสร้าง 3 ชุด (แหลม / กลาง / ทุ้ม)
- ตัวนำกลาง / แหลม หุ้มสัญญาณรบกวน 4 ชั้น
- ตัวฉนวนภายนอกหุ้มสัญญาณรบกวน 4 ชั้น
- หน้าสัมผัสด้านต้นทางเป็นทอง ส่วนปลายทางเป็นโรเดียม
ลักษณะทั่วไป Life Audio : The Ant (Red) MK II
สายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II บรรจุใส่มาในกล่องขนาดใหญ่ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ภายในบุกำมะหยี่ แค่เห็นแพคเกจสุดหรูนี้ถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน
เมื่อเปิดออกมาจะพบกับสายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II ที่มีความอลังการ ตัวสายมีขนาดใหญ่เกือบเท่าแขน มีความยาว 3 เมตร ขั้วต่อต้นทางใส่ปลอกอลูมิเนียมแยกสีแดง / ดำชัดเจน พร้อมยิงเลเซอร์โลโก้ Life Audio ไว้ด้วย หน้าสัมผัสขั้วต่อเป็นทอง ที่น่าสังเกตคือ การสกรีนนี้จะเรียงตามทิศทาง เพื่อบ่งบอกการเป็นต้นทาง จะได้ไม่ต่อผิดทิศนั่นเอง ซึ่งการสกรีนที่หัวจะมีความคงทนกว่าการใช้สติ๊กเกอร์ลูกศร / ปลอกยาง ฯลฯ ซึ่งอาจเสื่อมสภาพหลุดหายไปเมื่อใช้นาน ๆ ทำให้สับสนเวลาถอดแล้วจะเอากลับมาต่อไม่รู้ด้านไหนต้นทางด้านไหนปลายทาง
สายตัวนำเส้นบวก / ลบจะรวมอยู่ในเส้นเดียวกันมีขนาดใหญ่ หุ้มหนังงูตลอดเส้น ส่วนด้านต้นและปลายทางเมื่อจะแยกเพื่อต่อเข้าแอมป์ และลำโพงจะแยกเป็นเส้นใครเส้นมัน มีปลอกอลูมิเนียมสีแดงหุ้มไว้ ทำให้สวยงาม
ด้านปลายทางจะแยกสายเป็นบวก / ลบ เพื่อให้ต่อเข้าลำโพง มีปลอกอลูมิเนียมสีแดงทำเป็นตัวบอดี้ โดยหน้าสัมผัสด้านนี้จะเป็นโรเดียม ซึ่งเป็นการไฟน์จูนเสียงมานั่นเอง
อุปกรณ์ร่วมพรีวิว Life Audio : The Ant (Red) MK II
- แหล่งโปรแกรม ; Ayre : CX-7e, VPI : Scout
- โทนอาร์ม ; SME : M2-9
- หัวเข็ม ; Ortofon : MC20 (25th Anniversary)
- โฟโน ; Audia Flight : Phono
- หม้อ SUT ; Altec 4722
- ปรีแอมป์ ; Parasound : JC2 BP
- เพาเวอร์แอมป์ ; Parasound : JC1
- ลำโพง ; Sonus Faber : Concerto Home
- สายสัญญาณ ; Ikigai : Sugure (XLR), Cardas : Golden Reference (XLR), Cardas : Clear (XLR)
- สายลำโพง ; Kimber Kable : 8TC ขั้วต่อบานาน่าเป็น Monster : Power Connect 2
- สายไฟเอซี ; Shunyata Research : Anaconda Zitron, King Cobra CX, Cardas : Cross, Supra : Lorad, Coral 10 AWG (Pass & Semour / Shurter 4781)
- ระบบไฟ ; ปลั๊กผนัง Wattgate : 381 (2 ตัว), Oyaide : R1 (3 ตัว), ฝาครอบเต้ารับ FIM : 308-1
- อุปกรณ์เสริม ; ตัวดูดคลื่น Perfect Power : RFITrap RT-1 (4 ตัว) ชั้นวาง Audio Arts : Classic II, ขาตั้ง Target Audio : ST50, ที่รองสาย Acoustic Revive : RCI-3, Cable Elevator, Shunyata : Dark Field ที่ทับเครื่อง ก้อนอิทธิเจ (8 ก้อน), VPI : HW dB-5 (4 ก้อน), XAV : EMX-9 (2 อัน) อื่น ๆ Cardas : RCA Cap
- อุปกรณ์ควบคุมสภาพอคูสติก ; ASC ISO Thermal Tube Trap 13”x3”, ASC Tube Trap 9”x4”, แผ่นซับเสียงสูตร RPG, XAV : G-Sap เบอร์ 1 และ 2, XAV : Trap + XAV : Base Trap, จิ๊กซอว์ PRS, Room Tune : Michael Green Audio
การติดตั้ง และการเซ็ทอัพ Life Audio : The Ant (Red) MK II
สายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II มีขนาดสายเส้นใหญ่ทีเดียว แต่มีน้ำหนักเบา ฉนวนดัดโค้งได้ จึงไม่เป็นภาระกับลำโพงวางหิ้งแน่นอน เสียบแล้วไม่ต้องกังวล ควรมีตัวรองสายลำโพงซึ่งเมื่อจัดวางเข้าที่ สายลำโพงเส้นนี้จะสงบนิ่ง ไม่แกว่งไปมา อันหมายถึงตัวนำจะนิ่ง ส่งผลต่อคุณภาพเสียงโดยตรงละครับ
ส่วนการเซ็ทอัพ มีเพียงระวังอย่าต่อผิดทิศทาง ซึ่งสายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II ได้ทำเครื่องหมายไว้ที่ตัวขั้วต่อชัดเจนว่าด้านไหนเสียบที่แอมป์ ด้านไหนเสียบที่ลำโพง ซึ่งตัวหน้าสัมผัสทั้ง 2 ด้านไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งทาง Life Audio ได้ไฟน์จูนมาพิเศษนั่นเอง ถือเป็นทีเด็ดที่ถ้าเป็นสายลำโพงแบรนด์นอกต้องราคาเป็นแสนบาทขึ้นไป
ผลการลองฟัง Life Audio : The Ant (Red) MK II
สายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II เส้นที่ได้รับเป็นเส้นใหม่ แอบลองฟังมีแววเข้าท่า ไม่มีเจี๊ยวจ๊าวหรือกร้าวใด ๆ ซึ่งมักพบได้กับสายใหม่ ๆ ทุกเส้น ผมพยายามเบิร์นอินให้เร็วที่สุด
เมื่อพร้อมทดสอบ สายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II เป็นสายที่เร่งดังยิ่งสนุก ผมฟังดังกว่าปกติ 2-4 dB เสียงไม่มีพุ่งสาดหรือขึ้นขอบแข็งแม้แต่น้อย ทำให้สมจริงขึ้น
ลองฟัง Rain Forest Dream (Saydisc CD-SDL 384) เสียงตีกลองอิ่มใหญ่ คล้ายกับว่าเหมือนเปลี่ยนจากลำโพงดอก 6 นิ้ว เป็นดอก 8 นิ้ว เนื้อเสียงเข้มข้น นิ่งสนิทไม่วูบวาบ ปลายแหลมทอดตัวได้ดี มีความกังวาน
ฟังเสียงร้องของ Ayako Hosakawa นำเสนอได้อย่างลื่นไหล ย้ำเบาได้ดี อักขระ/ลูกคอชัดเจน เกิดเป็นความน่าฟังที่ดี แทรค Bridge Over Trouble Water อัลบั้ม The Wonderful Sound of Three Blind Mice (Golden String GSCD004)
ลองฟังแผ่นบ้าน ๆ ซีดีเพลงไทย Gift : The Finger Style (GMM : G 0554023) น้ำเสียงไพเราะ ฟังได้เพลิน ไม่มีความสากเสี้ยนใด ๆ ย้ำหนักเบาดี อักขระดี ปลายแหลมสะอาด ไม่ขึ้นขอบแข็ง เบสอิ่มกระชับ
ลองฟังแผ่นเสียงกันบ้าง จ้าวเผิง The Great Basso (ปั๊มแรก, มีหลายเลขกำกับแผ่น ปั๊มทองเค) เบสอิ่มแน่น แต่ไม่แข็งไม่ห้วน กังวานดี ทอดตัวก่อนจางหายไป เสียงร้องอิ่มใหญ่ มีมวลเข้มข้น ปลายแหลมสดใสชัดเจน ไทมิ่งดี ทำให้น่าฟังจริง ๆ
ซาวด์แทรค Notting Hill (MOVATM219 : Mov 1063/1500) แผ่นสีส้ม ปั๊มครั้งแรกบนแผ่นเสียง โดยรวมแหลมสดใส ไม่จัดจ้าน เสียงร้องลื่นไหล มีรายละเอียดี เบสอิ่มทีเดียว ฟังสบายหูไม่เจี๊ยวจาว นั่งดูแผ่นสีส้มสดก็เพลินไปด้วยเลยครับ
บทสรุป Life Audio : Life Audio : The Ant (Red) MK II
ปกติสายลำโพงจะเป็นจุดสุดท้ายที่ควรอัพเกรด (หลังจากที่จุดอื่นดีแล้ว) และเมื่อลองฟังสายลำโพง Life Audio : The Ant (Red) MK II ถือว่าให้ผลลัพธ์ที่น่าตื่นตะลึง เสียงนั้นดีขึ้นชัดเจน เมื่อรวมกับขนาดสายที่ใหญ่โต แลดูน่าเกรงขาม จะทำให้ซิสเต็มของคุณดูดีขึ้นครับ
อัพเส้นสายอื่น ๆ ไปแล้ว อย่าละเลยสายลำโพง สายเชื่อมต่อสุดท้ายให้เป็นตัวถ่วงของซิสเต็มนะครับ